ความคิดเห็นที่ 1   สถานีรถไฟ Liverpool Street และรถไฟ Standsted http://www.stanstedexpress.com/ หลังจากนั่ง Taxi มาได้ ราว 20 นาที ฉันก็มาถึงสถานีรถไฟ Liverpool Street ฉันรู้สึกตัวตกใจตื่นอีกทีตอนต้องจ่ายตังค์ เกือบเผลอร้อง จ๊าก เป็นภาษาไทยใส่หน้าคนขับหลังจากเห็นราคามิเตอร์  และต้องร้องจ๊าก ในวินาทีต่อมาเมื่อเหลือบเห็นเวลาที่หน้ามิเตอร์ ตายละ ตีห้าตรงแล้วเหรอเนี่ย...รถเที่ยว ตีห้า สิบนาที กำลังจะออกแล้ว ว๊ายๆๆๆ ทำไงดี ทำไงดี ฉันร้อนรนลงจากรถและยื่นบัตรเครดิตให้กับคนขับเพี่อจ่ายเงินค่า TAXI จำนวน 15 ปอนด์ และบอกกับคนขับว่า รีบๆ หน่อย ฉันจะตกรถแล้ว คนขับมองหน้าฉันแล้วบอกว่า ซอรี่ ที่เขาทำเร็วๆ ไม่ได้ เพราะถ้าจะจ่ายบัตรเครดิตต้องบอกเขาตั้งแต่ขึ้นรถ เขาจะได้เปิดระบบ หรือเตรียมตัว (อะไรทำนองนั้น) นี่มาบอกตอนลงรถ เขายังไม่ได้เปิดระบบเลย.. จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:43:04

ความคิดเห็นที่ 2   ออกตั๋วจริงก่อนขึ้นรถไฟ การจ่ายค่า TAXI ด้วยบัตรเครดิตใช้เวลาในการส่งและรับข้อมูลราว 5 นาที ฉันกระชากใบเสร็จและบัตรเครดิตออกจากมือคนขับอย่างเสียมารยาท แล้วลากกระเป๋าอย่างเร่งรีบไปที่สถานี ตั๋วซื้อไว้แล้วทางออนไลน์ แต่ก่อนขึ้นรถต้องมารับตั๋วจริงที่เครื่องออกตัวอัตโนมัติที่สถานี มีเวลาแค่ห้านาที ฉันวิ่งขึ้น วิ่งลง ระหว่างชั้นหนึ่งและชั้นสอง อยู่นั่นแหละ เพราะไม่เคยมาที่นี่มาก่อน และหาเครื่องออกบัตรไม่เจอ ตายแล้วๆๆ นั่งรถไฟ 46 นาที และเครื่องบินฉันออกเวลา 7 โมง 50  เคาน์เตอร์ปิด 30 นาที จะต้องเช๊คอินก่อน 7. 20 น. เพราะนั่นจะเป็นนาทีสุดท้ายในการที่ได้มีโอกาสยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์...แต่ตอนนี้ปาไปตีห้าจะครึ่งแล้วแล้วฉันยังหาที่ออกตั๋วไม่เจอเลย... ทันใดนั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น จนท. ชายนายหนึ่งมีโลโก้ Standsted Express ที่เสื้อ ยืนวนเวียนอยู่แถวตู้เอทีเอม จึงพุ่งเข้าไปหา แล้วระล่ำรำลักบอกแกว่า ช่วยด้วยๆ ฉันต้องออกตั๋วรถไฟที่ไหน..แกมองมาที่เอกสารออนไลน์ในมือฉันแล้วบอกว่า ตรงนี้แหละ ว่าแล้วแกก็ใจดี จัดการกดๆๆ ใส่ข้อมูลที่เครื่องออกตั๋ว เครื่องนั้น (ไม่ใช่ตู้เอทีเอม)  ให้ฉันอย่างชำนาญ วิธีการออกตั๋วดูที่นี่ http://www.stanstedexpress.com/Tickets/TicketCollection.html จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:46:16

ความคิดเห็นที่ 3   รถไฟออกทุก 15 นาที รถไฟที่จะไปสนามบิน Stansted จาก สถานี Liverpool Street นั้รน จะออกทุก 15 นาที ตั้งแต่ ตีสี่ ถึงเที่ยงคืน ถ้ารอบดึกต้องเช๊คตารางเวลาก่อนนะจ้ะ ดูตารางเวลาที่ http://www.stanstedexpress.com/Timetable/index.html ฉันซื้อตั๋วผ่านหน้าเว็บ ระบบบอกว่าต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อ Activate และ Reference No. ในการป้อนข้อมูลเพื่อออกตั๋ว แต่พอเอาเข้าจริงตอน จนท. คนนั้นทำให้ ฉันได้ใช้เพียงเลข Reference แต่ไม่ได้ใช้บัตรเครดิตเลยและ ในที่สุดฉันก็ได้ตั๋วแต่ฉันไม่ทันรถเที่ยว ตีห้า สี่สิบ ต้องรออีก สิบห้านาทีสำหรับรถไฟขบวนต่อไป ซึ่งนั้นคือ ตี 5.55 และจะถึงสนามบิน STN ในเวลา 6.31 น. เอาวะ ยังพอมีเวลา จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:48:48

ความคิดเห็นที่ 4   สนามบิน Stansted (STN) กับ พายุหิมะ เมือคืนข่าวบอกว่าเมืองนี้หิมะตกหนักแต่สนามบินดูมีหิมะไม่มาก และในลอนดอนไม่ตกเลย..ฉันมาถึงสนามบิน STN ตามเวลาและเดินออกมาที่อาคารผู้โดยสารขาออก อย่างไม่เร่งรีบ เพราะยังมีเวลาเหลืออีกมาก สนามบิน STN ไม่ใหญ่มาก แต่คนเยอะ เพราะเป็นสนามบินสำหรับ Low-cost Airline หลายๆ สายมาลงที่นี่ อาทิ Ryan Air. Air Asia ที่บินมาจาก KL และ Germanwings ที่เรากำลังจะบินไป โคโลนญจ์ เยอรมนี เดินเข้าไปในอาคาร ลากกระเป๋าผ่านคนที่เข้าคิวรอเช๊คอิน Ryan Air คนรอคิวเยอะมาก เพราะมีไปหลายจุด ส่วน Germanwings ของเราคนรอคิวก็ใช่ย่อย ฉันเดินไปต่อหางแถวและยืนรอได้ซักสิบนาที แถวไม่ขยับ จึงเดินไปดูที่เคาน์เตอร์ พบว่า จนท. ยังไม่มาเลย -_-‘ หมายความว่าไงละเนี่ย นี่มัน จะเจ็ดโมงอยู่แล้ว ตามหลักเคาน์เตอร์ต้องเปิดก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง นั่นคือ ตี 5. 50 นี่ปาไปจะ 7 โมง ยังไม่เห็นเงาของ จนท. เลย เฮ้อ ดีเลย์แง๋มๆ ฉันเดินกลับมาที่แถวและยืนรอต่อไป 15 นาทีต่อมา แถวเริ่มขยับ ไหลไปอย่างรวดเร็ว มีเจ้าหน้าที่มาตะโกนถามว่า ใครที่จะไปโคโลนญจ์ ให้แซงคิวไปข้างหน้าได้เลยเพราะได้เวลาแล้ว นั่นไงล่ะ ทีนี้ล่ะมาเร่งพวกฉัน ฮ่วย หลังเช๊คอิน จึงรู้ว่า เครื่องดีเลย์ไปสองชั่วโมงคือ เลื่อนไปออกเวลา 10 โมง เฮ้อ เซ็งเป็นที่สุด จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:50:53

ความคิดเห็นที่ 5   น้ำยาคอนแทคส์เลนส์เจ้าปัญหา ได้ Boarding Pass ฉันก็เดินไปที่ประตูทางเข้า ต้องผ่านด่านตรวจอาวุธและของเหลวอย่างเข้มข้ม เสื้อโค๊ท รองเท้าบู๊ท อะไรก็ตามที่หนาๆ ต้องถอดออกให้หมด คิดในใจ มันคงอยากให้เราแก้ผ้าเดินผ่านเครื่องตรวจเลยมั้งเนี่ย คนต่อคิวเยอะมาก ฉันจัดการปลดสัมภาระและเสื้อโค๊ท รองเท้าบู๊ท ใส่ลงไปในตะกร้า และกระเป๋าสำหรับถือขึ้นเครื่อง 1 ใบ โหลดเข้าไปในเครื่อง X-ray เดินลอดเครื่องจับสัญญาณฉลุยมายืนรอรับสัมภาระ ซักพักมีเสียงดังเหืมอนไซเรนขึ้นจากเครื่อง X-Ray และ เจ้าหน้าที่ก็เชิญฉันไปที่จุดตรวจสัมภาระ.. เกิดไรขึ้นเหรอ สาวไทย งง กระเป๋าของฉันถูกรื้อและหยิบของออกทีละชิ้น ด้วยมือที่สวมถุงมือยางของ จนท. ชาย (แก่) มีหนวด จนท.ท่านนั้นหยิบกระเป๋าเครื่องสำอางที่บรรจุเครื่องประทินผิวหน้าขวดเล็ก ขวดน้อยทั้งหลายออกมาวางทีละชิ้นๆ และควานมือล้วงไปในกระเป๋าฉันจนหมด แล้วบอกกับฉันว่า ของพวกนี้ต้องใส่ในถุงใส่เท่านั้นนะ ว่าแล้วแกก็ใจดี หยิบใส่ถุงทีละชิ้นๆ และปิดซิบให้ด้วยอีกต่างหาก พอมาถึงขวดน้ำยาคอนแทคส์เลนส์ ฉันลืมไปว่ามัน 250 ml. จนท.บอกฉันว่า อันนี้ต้องทิ้งนะ เอาขึ้นไม่ได้ ได้ฟังดังนั้น หัวสมองซีกที่ต้องคำนวณเงินก็เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว แล้วโพล่งออกไปว่า "ไม่ได้นะ" ฉันจำเป็นต้องใช้ บนเครื่อง จนท. ก็บอกว่า ยังไงก็ไม่ได้ มันผิดกฎการบิน ต้องเอาออก เพราะขนาดมันใหญ่เกิน แล้วเขาก็จับของชิ้นอื่นใส่คืนในกระเป๋าฉันไปเรื่อยๆ ฉันมองหน้าเขาแล้วความรู้สึกเหมือนจะร้องไห้มันก็ดันขึ้นมาแสดงออกทางแววตา “ฉันไม่มีเงินซื้อใหม่หรอกนะ ที่นี่อะไรๆ ก็แพงไปหมด นี่ฉันอุตส่าห์ซื้อมาจากเมืองไทย เพราะว่ามันถูกกว่าที่นี่ และไซส์นี่ก็ไซส์เล็กสุดที่ประเทศฉันมีแล้ว” พูดจบฉันก็ยืนจังก้า จ้องหน้าเขา เอาสิเอา ถ้าเขาทิ้งมัน ฉันก็จะไม่ไปไหน จนท. มองหน้าที่มีแววตาเหมือนจะร้องไห้ของฉันแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ เก็บของลงในกระเป๋าต่อไป พอหมดทุกอย่างแล้ว เขาก็หยิบถุงซิปล๊อค มาสองใบ ใบหนึ่งเปิดอกแล้วใส่ขวดน้ำยาคอนแทคเลนส์ลงไปปิดปากถุงแล้วยัดเข้าไปในกระเป๋าแบบเนียนๆ ไม่ให้ผิดสังเกต พร้อมกับทำหน้าดุแล้วพูดว่า “ให้ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ คราวหน้าไม่ได้แล้วนะ แล้วเอานี่ไปอีก 1 ใบ สำรองไว้เผื่อ” ฉันแทบกระโดดขี่เอว กอดคอ หอมแก้ม ตาลุงคนนั้น แล้วบอกว่า เล็กๆ น้อยๆ ก็เงิน ฉันไม่อยากเสียมันโดยไร้ประโยชน์ใดๆ ถ้าไม่จำเป็น Tips: ตรงทางเข้าจะมีถุงใสซิปล๊อคแจกฟรี ให้หยิบมาตุนไว้เยอะๆ (ตามแบบฉบับคนไทย) เพราะไปถึงยุโรปแล้วหากจำเป็นต้องใช้ก่อนขึ้นเครื่อง เขาไม่มีแจกฟรี อยากได้ต้องหยอดเหรียญอย่างเดียว 1 ใบ ราคา 1 ยูโร นะจะบอกให้... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:55:15

ความคิดเห็นที่ 6   พื้นสนามบินมีหิมะแต่ไม่มาก จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:55:58

ความคิดเห็นที่ 7   เข้าคิวรอขึ้นบิน เช้านี้มีผู้โดยสารตกค้างเยอะมาก เมื่อเดินไปที่เกทจะพบผู้โดยสารนั่งๆ นอนๆ ที่พื้นบ้าง เก้าอี้บ้าง เต็มไปหมดฉันเดินผ่านเขาเหล่านั้นไปที่เกท และเมื่อได้เวลาก็เรียกขึ้นเครื่อง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:57:56

ความคิดเห็นที่ 8   ดูทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการอันใหม่ แต่ทว่าพอขึ้นเครื่องไป กลายเป็นว่าต้องรออีกเกือบชั่วโมงกว่าทางสนามบินจะเอาเครื่องขึ้นได้ เพราะต้องรอเคลียร์หิมะออกจาก Runway ให้เครื่องบินทีละลำ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:58:53

ความคิดเห็นที่ 9   กำลังจะไปไหน หรือเพิ่งมาถึง? จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 16:59:21

ความคิดเห็นที่ 10   ระหว่างนั่งในเครื่องเกือบชั่วโมงเพื่อรอคิวขึ้นบิน ก็ถ่ายรูปเครื่องบินลำอื่นๆ ไปเรื่อย จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:08:54

ความคิดเห็นที่ 11   เกิดมาเคยเห็นแต่รถติด แต่คราวนี้ เครื่องบินติดเพราะต้องต่อคิว Take off เกือบ 10 นเลยทีเดียว จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:15:15

ความคิดเห็นที่ 12   ในที่สุด เครื่องของพวกฉันก็ได้เวลา Take off ไม่กี่อึดใจต่อมาเราก็มาอยู่บนฟ้าแล้ว... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:16:38

ความคิดเห็นที่ 13   มองเห็นเมืองข้างล่างด้วย Bye Bye London ไว้เจอกันใหม่อีก 10 วัน ข้างหน้านะจ้ะ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 17:19:10 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:17:51

ความคิดเห็นที่ 14   มาเหนือเมฆจริงๆ เรา แดดส่อง ฟ้าใส สวย จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:18:31

ความคิดเห็นที่ 15   การเดินทางจากลอนดอน ไปโคโลญจน์ (London – Cologne) ขอแชร์ประสบการณ์การเดินทางด้วยเครื่องบินของตัวเองแล้วกัน นะ เพราะคิดว่าราคาพอรับได้จึงไม่เหาข้อมูลด้วยการเดินทางอย่างอื่น และเรื่องของเรื่องคือ ไม่อยากนั่งอยู่บนรถไฟ หรือ รถบัสนานๆ มันเมื่อย ปวดหลังด้วย จากตัวเมืองลอนดอน หากจะไป Cologne ด้วยเครื่องบิน สายการบินราคาถูกต้องนั่งรถบัสหรือรถไฟไปขึ้นที่ Stansted ซึ่งไกลออกไปเกือบ ชั่วโมง ราคาตั๋วเพื่อไปสนามบินนั้นเมื่อรวมกับตั๋วสายการบินราคาถูก ในบางครั้งอาจจะแพงกว่า การเดินทางไปกับสายการบินราคาแพงและขึ้นที่ Heathrow   ดังนั้นหากตั๋วแพงมาก ต้องคำนวณให้ดีว่า เมื่อรวมราคากับตั๋วรถที่พาเราไปส่งที่สนามบินอีกเท่าไหร่ เป็นไปได้ให้พยายามหลีกเลี่ยงไฟลท์เช้า เพราะทำให้หารถลำบากต้องนั่ง Taxi อย่างเดียว ซึ่งนั้นก็หมายถึงราคารวมของการเดินทาง ถ้าต้องการดูว่ามีสายการบินอะไรบ้างแบบรวมๆ ก็ไปค้นที่เว็บ http://www.bmibaby.com/bmibaby/flights/home.aspx   และสายการบินที่ราคาดีที่สุดในเวลานั้นคือ Germanwings เป็น Low cost Airline ของ Germany แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 20:46:40 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:22:46

ความคิดเห็นที่ 16   Germanwings Airlines http://www.germanwings.com/en/ ราคาตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียว จองล่วงหน้า 1 เดือน ทั้งหมด 49 ปอนด์ รวมทุกอย่าง ในราคานี้ได้ กระเปาถือขึ้นเครื่อง 8 กิโล และจ่ายเพิ่มอีก 6 ยูโร สำหรับกระเป๋าโหลด ใต้ท้องเครื่อง น้ำหนักไม่เกิน 20 โล (ถ้าไม่มีกระเป๋าต้องโหลด จะลดไปอีก 6 ยูโร  ส่วนกระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ฟรี 1 ใบอยู่แล้ว) คิดคำนวณแล้วสายการบินนี้ ให้อะไรมากกว่า Ryan air เพราะ Ryan air กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 7 โล และต้องจ่าย 15 ยูโร สำหรับ 1 ใบที่โหลด ไม่เกิน 15 โล แต่ Germanwings มีจำนวนไฟลท์ไปที่ต่างๆ ในยุโรป ไม่มากนักเมื่อเทียบกับ  Ryan air จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:24:26

ความคิดเห็นที่ 17   กลับมาจากเมกาละ รีบนั่งเครื่องมารอที่เมืองโคโลญจน์ เดี๋ยวไม่ทันเที่ยวยุโรปทวีปในฝัน (ที่ยังไม่เป็นจิงซักที) จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:25:04

ความคิดเห็นที่ 18   CGN  = Cologne Bonn Airport   http://www.airport-cgn.de/index.php เป็นสนามบินเล็ก ๆ ห่างจากตัวเมืองโคโลนญจ์ ราวๆ 20 นาที เป็นสนามบินสำหรับสายการบินเล็กๆ จากยุโรปมาลง เท่าที่เห็นไม่มีสายการบินจากทวีปอื่น ส่วนมากแล้วถ้านั่งเครื่องจากเมืองไทยมา Cologne  สายการบินต่างๆ จะไปลงที่ Dusseldorf แล้วนั่งรถไฟมาที่ Cologne อีก ราวครึ่งชั่วโมง แต่วันนี้ฉันโชคดี มีคนมารับ วู้ววววว ไม่ต้องเสียงเงินค่ารถไฟไปในเมือง เห็นเขาว่าราว 10 ยูโรแน่ะ ประหยัดไปเลยเรา ฮี่ๆๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:27:34

ความคิดเห็นที่ 19   หลังจากบินมาได้ราว 50 นาที เครื่องบินก็ลดระดับ และกางล้อเพื่อเตรียมร่อนลง ========================== ว๊าย มีมาปาดแล้วหนึ่ง คุณกาแฟปั่น  งั้นแบบนี้แสดงว่า อยากให้เราชอบใช่ม๊า ฮ่าๆ อย่าลืมกิฟด้วยนะ จะได้เพิ่มการพิสวาสควบสองเป็นการใช้หนี้ คริคริ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:30:24

ความคิดเห็นที่ 20   เมื่อกี้ตอนอยู่ข้างบน บินเหนือเมฆ เลยได้สัมผัสกับแสงแดดอย่างใกล้ชิด แต่พอบินลดระดับลอดเมฆลงมาภาคพื้นดินปรากฏว่า ฝนตกและฟ้าครึ้ม จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:31:28

ความคิดเห็นที่ 21   Khob Khun Krab ลงจากเครื่องเดินเข้าไปในอาคารผู้โดยสารที่ไม่ใหญ่มาก มีช่องให้ต่อแถวแค่สองแถว ฉันสำนึกในความเป็นสาวไทยดี จึงเลือกรอให้คนอื่นๆ ไปก่อน แล้วค่อยเดินไปต่อแถวที่ยาวที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องให้คนที่มาต่อคิวทีหลังฉันรอนาน เพราะ ตม. เยอรมัน กับสาวไทยน่าจะมีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่ๆ เมื่อถึงคิวฉัน ฉันเตรียมเอกสารต่างๆ ไว้ในมือ อาทิ ตั๋วเครื่องบินขากลับ เบอร์ลิน - ลอนดอน และลอนดอน - กรุงเทพฯ  ตั๋วรถไฟจาก Cologne – Munich – Vienna ตั๋วรถบัสจาก Vienna-Budapest-Prague และ รถไฟ Prague – Berlin ไว้เสร็จสรรพ คือถามอะไรก็โชว์ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลารื้อค้น ทำนองนั้น เมื่อฉันยืนอยู่ตรงหน้า  จนท. ก็กล่าวทักทายเป็นภาษาอังกฤษและถามหลายคำถาม เช่น มาจากไหน จะไปไหน  มาทำไม อยู่กี่วัน ฉันก็ตอบได้หมด เสร็จแล้วขอดูเอกสาร ฉันก็ยื่นที่เตรียมเอาไว้ให้ไป จนท. ดูเอกสารอยู่ราว 5 นาที ในความรู้สึกฉันมันนานมาก เริ่มหันไปมองคนข้างหลังอย่างเกรงใจ แล้วก็มีเสียงถามฉันว่า “ขอดูเงินสดและบัตรเครดิตหน่อย” อ่า....ฉันไม่ได้เตรียมเอาไว้แสดง เพราะตอนลงที่ลอนดอน จนท. ไม่ได้ขอดูอะไรเลย แต่ที่นี่ -_-‘ แต่ก็ไม่ขัดขืน ฉันหยิบกระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่ถือขึ้นเครื่องมาเปิดและรื้อหากระเป๋าสตางค์ เก็บไว้ดีเกิน...   พอหาเจอก็หยิบบัตรเครดิตให้ สองสามใบ และเงินสดอีกไม่ถึงร้อยยูโร (ฮ่าๆๆ มาสิบวันมีเงิน แค่นั้นแหละจ้ะ) เขาไม่ได้ดูจริงจังหรอก แค่เราหยิบออกมาโชว์ก็พยักหน้าหงึหงัก แล้วแสตมป์ตราประทับลงในพาสปอร์ตฉัน ตอนยื่นพาสปอร์ตคืนให้พร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณครับ” ชัดแจ๋ว  (สงสัยมีเมียไทยแง๋มๆ ) อิอิ แล้วฉันก็ไปยืนรอรับกระเป๋า ผ่านจุดตรวจกระเป๋าออกมาอย่างง่ายดายไม่มีใครมาดักตรวจอีกเลย เมื่อเดินออกไปข้างนอกก็เจอเพื่อนที่มารอรับอยู่แล้ว เพื่อนเป็นคนเยอรมัน เลยอุ่นใจว่าต่อจากนี้ไปฉันสบายแล้ว มีราชรถมาเกย เว้ยๆๆๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:35:25

ความคิดเห็นที่ 22   หิมะ... เพื่อนขับรถพาไปดูออฟฟิศที่อีกเมืองนึง ไม่ห่างจากโคโลญจน์นัก ชื่อ overath สองข้างทาง เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน ว๊าววว จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:37:31

ความคิดเห็นที่ 23   วันนี้อากาศไม่หนาวเท่าที่ลอนดอน ดูหิมะข้างนอกจิ ฉันตื่นตาตื่นใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ได้เห็น ทุ่งหิมะ ระยะใกล้ จนเพื่อนถามว่า จะให้จอดรถไหม จะได้ลงไปวิ่งเล่น เห็นเราเป็นเด็กไปล่าย คริคริ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:39:38

ความคิดเห็นที่ 24   มาถึงวันนี้ผ่านไปแล้ว เก้าเดือน ฉันไปยุโรปกลับมาสองรอบ ฉันรู้สึกเสียดายมากที่ปฏิเสธเพื่อนในวันนั้น  เพราะมัวแต่เกรงใจและหวังน้ำบ่อหน้ามากเกินไปจึงไม่ลงไป วิ่งเล่นอย่างที่เพื่อนแซว (ทริปนี้ฉันวางแผนจะไปเล่นสกีอยู่แล้ว) พอเอาเข้าจริง ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันที่ฉันมีโอกาสได้สัมผัสหิมะมากที่สุด แต่แล้วฉันก็พลาดมันไป จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:48:32

ความคิดเห็นที่ 25   เข้ามาถึงหมู่บ้านเล็กๆ ที่เป็นที่ตั้งออฟฟิศของเพื่อน  ฟ้ามืดครึ้ม ฝนนิดๆ ดูเงียบเหงา มาก จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:50:03

ความคิดเห็นที่ 26   ทริปอุปถัมภ์ ฉันคุยเรื่องธุรกิจกับเพลินเสียเพลินราว  1 ชั่วโมง จนลืมไปว่า นัดกับน้องไว้ที่โรงแรม น้องโทรเข้ามือถือฉัน เพื่อถามว่าตอนนี้อยู่ไหน ไปถึงโรงแรม แต่เช๊คอินไม่ได้เพราะไม่มีชื่อฉันที่จองไว้ ลืมบอกน้องไปว่า โรงแรมนี้ ฉันได้รับความช่วยเหลือจากพี่คนไทยที่อยู่ในโคโลญจน์ พี่เขาทำงานที่โรงแรมนี้และใจดีเอื้อเฟื้อจองที่พักในนามพนักงาน ให้ฟรี 1 คืน ดังนั้นชื่อที่จองจึงเป็นชื่อของพี่เขา แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ นามสกุลพี่เขาเป็นภาษาเยอรมัน สะกดผ่านทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่อยู่นาน ไม่เป็นผล เลยหันมาหาเพื่อนให้เพื่อนช่วยบอกให้ นั่นแหละน้องถึงได้เช๊คอิน ชอบเมืองนี้ ทริปนี้ เพราะมีคนคอยช่วยเหลือตลอดเวลา นับแต่ไปรับที่สนามบิน และที่พักฟรี ตกเย็นเพื่อนก็พาไปเลี้ยงข้าวอีก พี่สาวก็มารับพาไปเดินเที่ยว อิ่มเอมจริงๆ และหลังจากคุยเรื่องธุรกิจเสร็จ เพื่อนก็ขับรถไปส่งที่โรงแรม Ibis ที่สาขา Hauptbahnhof เพื่อเอากระเป๋าไปเก็บ และพาเดินชมเมืองนิดหน่อยละแวกโรงแรม และกินข้าว ====================== โรงแรม Ibis อยากจะบอกว่า พี่แจนใจดีมากๆ ทั้งๆ ที่พี่เขาทำงานอีกสาขาหนึ่ง แต่จองให้เราอีกสาขาหนึ่ง เพราะสาขาที่พี่เขาทำงานนั้นอยู่ไกลนอกเมืองออกไป ไม่สะดวก แต่สาขาที่เราพัก เป็นสาขาที่อยู่ในสถานีรถไฟใหญ่ของเมือง (ถ้าเทียบก็หัวลำโพงบ้านเรา) และพอเปิดประตูออกไปด้านหน้าโรงแรม ก็เจอ Dom ของเมืองเลย.....เจ๋งมากๆ สะดวกสบายสุดๆ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 17:54:16 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:52:55

ความคิดเห็นที่ 27   ถัดไปทางขวามือของภาพด้านบน จะเป็นทางเข้าสถานีรถไฟ Hauptbahnhof  แปลว่าสถานีรถไฟกลาง (Central Train Station) มั่วไหมเนี่ยเรา อิอิ ที่ Cologne เป็นสถานีใหญ่พอสมควร เพราะสามารถต่อไปหลายๆ เมืองได้ ในเวลาไม่นาน อาทิ กรุงอัมสเตอร์ดัม , ปารีส, บรัสเซล ราว 2 -4 ชั่วโมง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:57:25

ความคิดเห็นที่ 28   ที่ล๊อบบี้โรงแรม เจ้าหน้าที่ชายหนุ่ม พอเจอฉันก็ยื่นกุญแจห้องให้ทันที ยังไม่ได้แจ้งอะไรเลย เข้าใจว่า คงมีคนหัวดำๆ มาไม่กี่คน เขาเลยรู้ว่าฉันมาห้องที่น้องเพิ่งเช๊คอินเมื่อกี้ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:58:37

ความคิดเห็นที่ 29   Ibis โรงแรมเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่กำลังดีสำหรับเรา เพราะอยู่กลางเมืองเลย จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 17:59:27

ความคิดเห็นที่ 30   ภาพเตียงนอนที่ต้องถ่ายเอาไว้ เพราะหลังจากคืนนี้ เราจะไม่ได้นอนห้องที่เป็นส่วนตัวแบบนี้อีกต่อไป เป็นเวลา 9 คืน เต็ม ชอบ Ibis จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:00:41

ความคิดเห็นที่ 31   จากห้องนอนมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็น Dom ด้วย ชอบมากๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:01:20

ความคิดเห็นที่ 32   หลังจากเก็บข้าวของ ฉันกับน้องก็เดินลงไปเจอเพื่อนที่ยืนรออยู่ เพื่อพาเดินทัวร์ Dom และ Christmas Market ละแวกใกล้ๆ และชมเมืองไปในตัว รูปนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา ไม่ได้ขี่จักรยานไป แต่เห็นมันจอดอยู่อย่างเดียวดสยบนทางเข้า Dom เลยถ่ายมา จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:05:06

ความคิดเห็นที่ 33   เมืองโคโลญจน์ ประเทศเยอรมนี Cologne Germany ชาวเยอรมันเรียกโคโลญจน์ (Cologne) ว่าเคิล์น (Koeln) ในภาษาเยอรมัน เมืองเคิล์นเป็นเมืองใหญ่ที่สุดเมืองหนึ่งของเยอรมนี อยู่ทางตะวันตกของประเทศ มีมหาวิหารขนาดใหญ่อลังการที่สุดในยุโรปเรียกกันว่า เคิล์นโดม (Koeln Dom) เสน่ห์ของโคโลญจน์ที่พิเศษสุดกว่าเมืองใด ๆ ในเยอรมนีคือ เทศกาลคานิวาล เทศกาลนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 11 เดือน 11 เวลา 11 นาฬิกา 11 นาที และ 11 วินาที ของทุกปี แล้วจะดำเนินต่อไปจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงเวลาดังกล่าวทั้งเมืองจะมีการแสดงดนตรี วงโยธวาทิต การประกวดเต้นรำของชุมชนต่าง ๆ การแต่งกายแบบแฟนซี ขบวนแห่ การดื่มกินและสรวลเสเฮฮากันอย่างสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะวันแรกและวันสุดท้ายของงาน เทศกาลคานิวาลดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จากทุกสารทิศ โดยกล่าวกันว่าชาวเมืองบอนน์ซึ่งอยู่ใกล้กันเพียง 1 ชั่วโมง เกือบทั้งเมืองจะพากันมาเที่ยวงานคานิวาลที่โคโลญจน์ และมีการถ่ายทอดรายการประกวดเต้นรำและร้องเพลงทางโทรทัศน์ทุกวัน เคิล์นเป็นเมืองแรกในเยอรมนีที่มีสายการบินพาณิชย์บินมาถึงช่วงก่อนสงคราม โลกครั้งที่สอง ในปัจจุบันยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางทางรถไฟระหว่างเยอรมนีและปารีสของ ฝรั่งเศส รวมทั้งเป็นชุมทางเชื่อมภาคตะวันตกของประเทศเยอรมนีกับนครแฟรงค์เฟิร์ตและ เมืองหลวงคือเบอร์ลิน (ข้อความนี้ลอกมาจาก เว็บนี้ค่ะ)  http://www.tourismlogistics.com แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 18:08:27 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:07:34

ความคิดเห็นที่ 34   มหาวิหารโคโลญจน์ (Cologne Cathedral หรือ Kolner Dom) 14 สิงหาคม พ.ศ. 2423 มหาวิหารโคโลญจน์ สร้างสำเร็จพร้อมกับมีพีธีวางหลักหิน บันทึกข้อมูลการก่อสร้าง (foundation stone) โดยเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 1791 แต่มีปัญหาให้ต้องหยุดพักการก่อสร้างไปบ้าง ใช้เวลากว่า 600 ปีจึงสร้างเสร็จสมบูรณ์ มหาวิหารโคโลญจน์เป็นศาสนสถานสำคัญของคริสตศาสนาโรมันคาทอลิก นับเป็นวิหารที่ใหญ่และสูงที่สุดในโลกในสมัยนั้น (แม้ปัจจุบันก็ยังติดอันดับต้น ๆ) ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบ โกธิก (Gothic) ลักษณะพิเศษคือมียอดแหลมสองยอด เป็นหอคอยแฝดสูง 157 เมตร กว้าง 86 เมตร ยาว 144 เมตร และมีเพดานซึ่งมีความสูงมากกว่ามหาวิหารนอร์ทเธอดามที่ปารีสประมาณ 10 เมตร มหาวิหารนี้ได้รับความเสียหายอย่างหนักระหว่างการทิ้งระเบิดในสงครามโลก ครั้งที่สอง เพราะตั้งอยู่กลางเมืองและใกล้กับสะพานที่เป็นยุทธศาสตร์ทางการทหาร เมื่อสงครามยุติลงจึงได้ค่อย ๆ มีการบูรณะขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังบูรณะไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด ปัจจุบันมหาวิหารโคโลญจน์นับจุดหมายสำคัญของเมืองโคโลญจน์และประเทศเยอรมนี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 2536 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 18:15:02 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:09:55

ความคิดเห็นที่ 35   เที่ยวไหนดี ในโคโลญจน์ ไปเว็บนี้เลยจ้า http://www.koeln.de/cologne_tourist_information เพื่อนพาพวกฉันเดินวนไปรอบๆ และมาจบลงที่ร้านอาหาร เพราะเริ่มหิว เวลาราวๆ บ่ายสาม แต่ฟ้าเริ่มมืดแล้ว ภาพนี้เป็นขนมปังมากับซุบที่เพื่อนสั่ง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:12:17

ความคิดเห็นที่ 36   พันทิปอืด หรือเน็ตเราเต่าเนี่ย โพสต์ซ้ำอ่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 18:16:05 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:14:03

ความคิดเห็นที่ 37   ส่วนฉันเมื่อมาถึงก็ต้องนี่เลย ไส้กรอกเยอรมัน อร่อยดี มีรสเค็มๆ เปรี้ยวๆ จากผักดอง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:22:05

ความคิดเห็นที่ 38   มาเมืองเบียร์ทั้งทีก็ต้องลิ้มรสเบียร์ของเมืองนี้เสียหน่อย เรื่องราวเกี่ยวกับเบียร์ลองไปอ่านที่เว็บนี้นะคะ http://biolawcom.de/blog/308/Bier-and-Bierland-in-Germany จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:23:15

ความคิดเห็นที่ 39   อาหารของน้อง ผู้โชคดีได้รับอานิสงส์ กินฟรี พักฟรี ใน ครั้งนี้ด้วย จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:24:17

ความคิดเห็นที่ 40   ตามมาปาดก่อนครับ เดี๋ยวย้อนกลับไปดูครับ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:32:00

ความคิดเห็นที่ 41   ตลาดเทศกาลคริสตร์มาส (Christmas Market) เมืองโคโลญจน์ เสร็จจากอาหารมื้อนั้น เพื่อนพาเราเดินชมเมืองแบบเร็วๆ เพราะใกล้เวลาเลิกงานและต้องกลับบ้าน ฉันบอกลากับเพื่อนและกลับมาที่โรงแรม รู้สึกหนาวและเจ็บคอ ครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ เพราะอากาศที่นี่ไม่หนาวก็จริง แต่เย็นและลมมาก ฉันยังไม่ได้โทรหาพี่แจนเลย เพราะมัวแต่ยุ่ง คุยเรื่องงานกับเพื่อน กว่าจะได้โทรอีกทีก็เกือบหกโมงเย็น พี่แจนใจดีมาก รีบออกมาหาที่โรงแรมและพาเดินเที่ยวในเมือง ไปตามตลาดเทศกาลคริสตร์มาส เกือบทั่วทั้งเมืองในโคโลญจน์   Christkindlmarkt (คริสต์คิ้นเดิ้ลมาร์คท์) หรือ ในเยอรมนีตอนเหนือ เรียก Weihnachtsmarkt  (ไวห์นัคท์สมาร์คท์) หรือ ภาษาอังกฤษ เรียก Christmas Market  เป็นตลาดนัดช่วงเทศกาลก่อนวันคริสต์มาส เป็นเวลา 4 สัปดาห์  แรกเริ่มเดิมที มีที่ ประเทศเยอรมนี และ ออสเตรีย (Austria) พ่อค้า แม่ค้า นำสินค้าที่เกี่ยวกับวันคริสต์มาสมาจำหน่ายในงาน เช่น เครื่องประดับตกแต่งต้นคริสต์มาส  ของต่างๆที่ผู้คนนิยมซื้อให้กันเป็นของขวัญวันคริสต์มาส อาหาร  ผลไม้ และเครื่องดื่มที่นิยมกันในช่วงเทศกาลนี้  เช่น ส้ม  ผลไม้เปลือกแข็ง  อินทผาลัม  องุ่น  มาโรนี   ไวน์แดงร้อนใส่เครื่องเทศ ไส้กรอกย่างกับกะหล่ำปลีดอง ฯลฯ Christkind  (คริสต์คิ้นด์) คือ  ผู้นำของขวัญวันคริสต์มาสมาให้เด็กๆ   ใน เยอรมนี  ออสเตรีย  สวิสเซอร์แลนด์  คาทอลิกได้รับความคิดเรื่อง คริสต์คิ้นด์นี้ จาก Martin Luther ในช่วงศตวรรษที่ 19 เพื่อกลบภาพของ St. Nicholas  ในสมัยนั้น Weihnachtsmann (Christmas Father)  เริ่มเข้ามาแทนที่  St. Nicholas และ ไวห์นัคทส์มันน์   เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ของ ผู้นำของขวัญวันคริสต์มาสมาให้เด็กๆ แต่ไม่ใช่เรื่องทางศาสนาแล้ว คริสต์คิ้นด์   โดยทั่วไปจะมีผมสีทอง  มีปีกเหมือนนางฟ้า  Martin Luther  ตั้งใจจะให้ภาพของคริสต์คิ้นด์  เป็นการอ้างถึงการเกิดใหม่ของพระเยซูที่เป็นเด็กทารก  แล้วมีคริสต์คิ้นด์นำของขวัญมาให้ในวันคริสต์มาส เด็กๆ ไม่เคยเห็นคริสต์คิ้นด์   เมื่อเด็กๆ อยากได้ของขวัญอะไร จะเขียนรายการของขวัญที่ตนอยากได้ใส่ซองจดหมายวางไว้ที่ขอบหน้าต่าง พ่อแม่เล่าว่า คริสต์คิ้นด์จะมาหยิบไปอ่านในตอนที่เด็กๆ หลับ พอถึงคืนวันที่ 24 ธันวาคม   แม่จะพาลูกๆออกไปเดินเล่นนอกบ้านในยามเย็น พ่อจะจัดต้นคริสต์มาสไว้ในบ้าน  จัดเรียงของขวัญไว้ใต้ต้นคริสต์มาส แล้วออกไปเดินเล่นกับแม่และลูกๆ   พอกลับมาถึงบ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน ลูกๆจะเห็นของขวัญอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสในบ้าน   พ่อแม่จะบอกลูกๆว่า คริสต์คิ้นด์นำของขวัญมาให้ลูกๆ   และ  ได้จากไปแล้ว เด็กๆจึงไม่เคยเห็นหน้าคริสต์คิ้นด์  คนที่นำของขวัญวันคริสต์มาสมาให้ทุกปี แต่คริสต์คิ้นท์  จะอยู่ในใจเด็กเสมอ ตั้งแต่ช่วงปี 1990 เป็นต้นมา   ภาพของ ซันตาคลอส (Santa Claus) ในอเมริกา ได้ถูกนำมาใช้เป็นโฆษณา ส่งเสริมการขายสินค้าที่เป็นของขวัญวันคริสต์มาส ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=175150 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:37:47

ความคิดเห็นที่ 42   สวัสดีค่ะคุณ kriengchai ดิฉันโพสต์ยากมากเลยค่ะ อัพรูปตั้งหลายครั้งกว่าจะผ่าน --------------------------------------------------------------------------------- มาดูปบรรยากาศตลาดคริสต์มาสกันดีกว่า ขี้เกียจบรรยายแระ อะไรเป็นอะไร เดากันเองนะฮ้า อิอิ เพราะว่า อิฉันก็ไม่รู้และจำไม่ได้เหมือนกัน จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:40:53

ความคิดเห็นที่ 43   หน้าตาของที่ขายในงาน จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:42:51

ความคิดเห็นที่ 44   กำลังทำขนม อะไรไม่รู้ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:43:34

ความคิดเห็นที่ 45   อันนี้ก็ขายไรไม่รู้ จำไม่ได้ -_- จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:44:28

ความคิดเห็นที่ 46   คนขายชีส... หุ่นเข้ากับสินค้ามากๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:44:59

ความคิดเห็นที่ 47   ถ่ายไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้รายละเอียด จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:45:54

ความคิดเห็นที่ 48   เดินไปแล้วก็เพลินดี ถึงจะหนาวก็เถอะ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:46:44

ความคิดเห็นที่ 49   นี่ด้วย จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:47:49

ความคิดเห็นที่ 50   อันนี้ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นขนมที่มีเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น เพื่อนเราซื้อให้ฉันกับน้องด้วย เป็นถั่วอ่ะ ต้องกินตอนร้อนๆ นะถึงอร่อย แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 18:50:45 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:49:18

ความคิดเห็นที่ 51   ถ้าใครเห็นรูปแล้วรู้จัก อยากจะแชร์ก็ได้นะคะ ฮี่ๆๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:51:46

ความคิดเห็นที่ 52   ร้านค้าในเทศกาลคริสมาสตร์นี้ จะปิดลงในวันก่อนวันคริสมาสตร์ (23, 24) หรือวันคริสต์มาส (25) ยังพอมีให้เห็นบ้างประปรายถึงช่วงเที่ยง เพราะวันคริสต์มาส สำหรับชาวยุโรปแล้ว หมายถึง วันครอบครัว วันแห่งการพบปะ และกินอาหารร่วมกันตามประสาญาติพี่น้อง ดังนั้นคนก็จะไม่ออกไปไหน ร้านอาหาร ร้านค้าส่วนมากจะปิด เมืองจะเงียบมาก ยกเว้นบางร้านที่เปิดสำหรับนักท่องเที่ยว พี่แจนพาพวกเราเดินทั่วเมือง ท่ามกลางอากาศหนาว สามีพี่แจนเป็นคนเก่งมาก รู้เรื่องประวัติศาสตร์ดีสุดๆ พี่แจนน่ารักมาก เตรียมตัวมาอย่างดี ให้คุณสามีเล่าเรื่องของสถานที่แต่ละที่ ที่จะพาฉันไปให้ฟังและจดโน้ตสั้นๆ เอาไว้ พอไปถึงจุดไหน จำไม่ได้ พี่แจนก็จะงัดกระดาษโน้ตออกมา.. น่ารักจริงๆ แต่ขอโทษด้วยค่ะพี่ขา หนูจำอะไรไม่ได้เลย...... งือๆๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:52:47

ความคิดเห็นที่ 53   นี่ก็ร้านอีกตลาดนึง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:54:38

ความคิดเห็นที่ 54   ถ่ายมาเยอะ เพราะทั้งเมือง ทุกมุมเดินไปทางไหนก็จะเจอ ตลาดคริสต์มาส ร้านนี้ขายเครป อร่อยดี กินร้อนๆ ตอนอยู่ข้างนอกหนาวๆ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 18:56:44 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:55:55

ความคิดเห็นที่ 55   เทียนหอม ไว้จุดในบ้านหน้าหนาว ก็มีขาย แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 18:58:46 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 18:58:06

ความคิดเห็นที่ 56   อ่ะพอดีกว่า สำหรับบรรยากาศตลาดนัดคริสต์มาส ร้านขนม จะมีให้ชิม เดินกันไป ชิมเล็กชิมน้้อยไปเรื่อยๆ อิ่มพอดี อิอิ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:07:41

ความคิดเห็นที่ 57   เฮ้อ กว่าจะโพสต์ขึ้น พอขึ้นทีก็ดันมาทีละสอง ซ้ำอีกแระ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 19:10:29 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:09:40

ความคิดเห็นที่ 58   มาดูสถานที่ที่เราไปแวะถ่ายรูปและฟังประวัติ (ที่ไม่ได้ซึมเข้าหัวเลย) กันดีกว่า มีเวลาที่เมืองนี้แค่วันนี้วันเดียว พรุ่งนี้เราวางแผนว่าเที่ยงๆ จะไปบอนน์ ดังนั้นพี่แจนจึงเร่งทำเวลาเพื่อให้เราได้เห็นจุดสำคัญๆ ของโคโลญจน์  มาเที่ยวหน้าหนาว ได้อย่างเสียอย่าง คือได้เห็นตลาดคริสมาสตร์ แต่มันหนาวและ ฟ้ามืดเร็ว ถ่ายรูปไม่เห็นอะไรเลย เริ่มที่ภาพนี้ ที่เห็นเป็นแท่งนั้น คือ ที่อยู่บนยอดโบนโดมอ่ะ ใหญ่มาก ไม่รู๔้สมัยก่อนขนขึ้นไปได้ไง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:13:10

ความคิดเห็นที่ 59   ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นหลักฐานว่า ฉันได้มาเยือนแล้ว ซึ่งไม่รู้หรอกว่า อีกหกเดือนข้างหน้าฉันก็กลับมาใหม่ ที่เดิม แต่ต่างกันที่ ฤดู ภาพนี้ไปหน้าหนาวเดือน ธันวา วันที่ 22 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:15:03

ความคิดเห็นที่ 60   ตัดภาพไปเมื่อหน้าร้อน วันที่ 13  เืดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เสื้อผ้า ต่างกันลิบ ฮ่าๆ   ถ่ายบนสะพานข้ามแม้น้ำไรน์ ที่ให้รถไฟวิ่งเข้าสถานีและคนสามารถเดินข้ามไปที่ Dom ได้ด้วย.. ระหว่างทาง ผนังกุญแจ จะมีที่หนุ่มสาวชาวเยอรมันนำแม่กุญแจสลักชื่อตัวเองมาคล้องเชื่อว่าจะทำให้ครองรักกันชั่วนิรันดร์ ฝรั่งห็ฝรั่งเหอะน่ะ มีเชื่ออะไรแบบนี้เหมือนบ้านเราเหมือนกัยนแหละ ก็คิดสงสัยกับเืพื่อนว่า แล้วกุญแจโยนทิ้งลงแม่น้ำไหมนะ ... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:35:42

ความคิดเห็นที่ 61   ภาพคห. 60 ถ่ายกับผนังกุญแจ ที่เกิดจากความเชื่อของผู้คนในเรื่องที่ว่า หากสลักชื่อตนเองกับคนรักลงบนแม่กุญแจแล้วนำมาคล้องไว้ที่นี่ จะทำให้รักกันยืนยาว.... เง้อ เชื่อไรแปลกๆ เหมือนบ้านเราเหมือนกันแฮะ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:49:33

ความคิดเห็นที่ 62   แต่บางอันก็มีสาม แล้วแบบนี้หมายความว่า??? จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:51:16

ความคิดเห็นที่ 63   ดูแผงนี้สิ แน่นเอี๊ยด จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:51:59

ความคิดเห็นที่ 64   สะพานนี้มีไว้ให้รถไฟวิ่งเข้าสถานีหลัก จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:53:15

ความคิดเห็นที่ 65   การไปเยือนโคโลญจน์อีกครั้งในหน้าร้อนที่ผ่านมา ทำให้ฉันพบว่า “เที่ยวยุโรปหน้าร้อน ดีที่สุด” เพราะกลางวันยาวกกว่ากลางคืน ฟ้าใส แดดสวย ถ่ายรูปงาม  ผู้คนก็คึกคัก ไม่เหงา ได้เปรียบกว่าไปหน้าหนาวเยอะ ดูภาพนี้สิ มุมเดียวกัน เวลาใกล้ๆ กัน กับภาพในคห. 33 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:55:31

ความคิดเห็นที่ 66   ตัดภาพกลับมาหน้าหนาว เก็บหน้าร้อนไว้รีวิว รวมกับทรปหน้าร้อนแล้วกัน เราเดินชมเมืองและตลาดอยู่นาน รู้สึกเมื่อยและหนาว พี่แจนเลยพาแวะเข้าไปในห้างเพื่อหาไรร้อนๆ ดื่ม ทางเข้าห้าง ประดับสวยเนอะ แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 19:58:34 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:58:15

ความคิดเห็นที่ 67   เครื่องดื่มร้อนของฉัน จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 19:59:46

ความคิดเห็นที่ 68   ออกจากห้างเราก็มาตะลุยกันต่อ จริงๆ แล้วจากการได้กลับไปรอบสองและสามีของพี่ พาเที่ยวพร้อมคำอธิบายเรื่องประวัติศาสตร์ต่างๆ ทำให้รู้ว่า เมือง โคโลญจน์ นี่มีประวัติน่าสนใจมาก ตึกรามบ้านช่องอาจจะดูเป็นตึกใหม่ๆ ก็เนื่องจากว่า เมืองนี้โดนทำลายอย่างหนักในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองทั้งเมืองถูกทำลายเกือบหมด คงเหลือไว้แต่มหาวิหารที่ไม่โดนระเบิด ทำให้เราไม่ค่อยเห็นสถาปัตยกรรมในสมัยเก่าๆ เท่าไหร่ แต่ก็ยังพอมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ใช้ทำอะไรนัก บางแห่งก็ขายให้เป็นบ้านของเอกชนไป ลักษณะบ้านบางหลังที่ไม่โดนทำลายก็จะยังคงไว้ เช่นหลังนี้ จำไม่ได้ว่าปีไหน (ส่วนใหญ่บ้านที่ยุโรปถ้าเป็นบ้านสมัยเก่าๆ มีอายุมาก เขาจะมีปี คศ. ที่สร้างสลักไว้หน้าบ้าน หลังนี้ก็คงไม่ต่ำ่ำกว่าร้อยปี มองไปที่หลังคาบ้านจะเห็นแท่งปูนยื่นออกมา ตัวนั้นใช้เป็นรอก เพื่อชักดึงเวลาขนของ หรือใช้แทนลิฟต์ในบางครั้ง แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 21:49:31 แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 20:50:31 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:04:25

ความคิดเห็นที่ 69   ภาพนี้ก็เป็นร้านขายเบียร์ จริงๆ น่าจะมีประวัตินะ ไม่งั้นฉันคงไม่ถ่ายมาหรอก ฮ่าๆๆ เอิ่มขออภัย ไม่มีข้อมูล จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:06:12

ความคิดเห็นที่ 70   บรรยากาศร้านคาเฟ่ในหน้าหนาว เงียบเหงาเพราะใกล้วันคริสต์มาส เต็มที บางคนเริ่มหยุดตั้งแต่วันที่ 19 จนถึงปีใหม่กันเลย จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:09:49

ความคิดเห็นที่ 71   ที่ว่าการอำเภอ (อันนี้ฉันเรียกเอง) หรือ Rathaus ในภาาาเยอรมัน ก็ออกแนวศาลาว่าการ อะไรทำนองนั้น ในยามกลางคืนก็เปิดไฟลสว่างไสว สวยงาม จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:12:25

ความคิดเห็นที่ 72   พอกลางวัน ก็มีหนุ่มสาวมาจดทะเบียนและแต่งานกันที่นี่ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:13:31

ความคิดเห็นที่ 73   สามทุ่ม วันที่ 22 ธ.ค. 2552 เราบอกลาพี่แจนที่ด้านล่างของโรงแรม และพรุ่งนี้ฉันกับน้องก็จะเดินเที่ยวในโคโลญจน์ตอนเช้าเพื่อเก็บภาพตอนสว่างๆ ก่อนออกเิดินทางไปบอนน์ ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นไข้เข้าแล้วล่ะ เพราะว่าวันนี้ลมแรงมาก โดยเฉพาะตอนยืนอยู่หน้า Dom รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ และเพลีย ลมหายใจร้อนมาก เหมือนจะมีเป็นไข้ ฉันรีบขึ้นห้องอาบน้ำและหยิบทิฟฟี่ ที่พกมาจากบ้านกินไปสองเม็ด แล้วเข้านอน เฮ้อ รู้สึกเหมือนจะไข้หนัก จะไหวไหมเนี่ย... ก่อนจะขึ้นเตียง ฉันเดินไปที่หน้าต่าง แง้มผ้าม่านและมองไปที่ Dom ช่างเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งอะไรเช่นนี้ เป็นบุญตาจริงๆ ที่ได้มาเยือน ฉันบอกลาโคโลญจน์เบาๆ ก่อนเข้าสู่นิทรา และกระซิบว่า พรุ่งนี้เจอกัน แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 53 20:23:25 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:22:12

ความคิดเห็นที่ 74   เที่ยวตลอด....คนเกือบโสดมันดีอย่างงี้นี่เองเนาะ ^_^ snow ลงหนาเหมือนกันเนอะ จากคุณ : แม่น้องเพ้นท์ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 21:10:44

ความคิดเห็นที่ 75   ตามมาชมค่ะ.....ข้อมูลละเอียดยิบเลยนะคะ จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 21:14:55

ความคิดเห็นที่ 76   เมืองน่ารักมากๆๆ เลยค่ะ อยากตามรอยบ้าง จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 21:26:51

ความคิดเห็นที่ 77   .. ฝ่าลมหนาวมาเที่ยวเมืองเบียร์ด้วยคนครับ ไม่ค่อยรู้จักเมืองโคโลญจน์ เท่าไหร่  จะพอคุ้นเคยบ้างก็จากทีมฟุตบอลเอฟซีโคโลญจน์ ขอเก็บรายละเอียดผ่านกระทู้นี้เพิ่มเติมแล้วกันครับ .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 21:41:26

ความคิดเห็นที่ 78   Khun Kate... Truly ...you are a very good narrator. Do feel as if I was there with you.....hope this come true one day na ka.  By the way.....love your photos too. Cheers........pi myna. จากคุณ : myna เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 21:46:56

ความคิดเห็นที่ 79   ตามมาเที่ยวโคโลนจน์ด้วยคนครับ ชอบบรรยากาศช่วงคริสต์มาสจัง ขอบคุณที่พาเดินชมบรรยากาศ white nachtmarkt นะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 22:07:43

ความคิดเห็นที่ 80   เราก็เป็นประเภท "คนเกือบโสด" เหมือนกันค่ะ อิอิ Cologne เคยไปผ่าน ๆ แวะเที่ยวที่ Dom แปปหนึ่ง ตอนนั้นไปช่วงเมษายน หนาว มาก ๆ นี่ถ้าเจอหิมะ สงสัยยืนแข็งแน่เลย ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : Invisible Angel เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 23:12:31

ความคิดเห็นที่ 81   ของเราไม่เกือบอะค่ะ โสดเลย ^^ รับสมัครผู้ร่วมเดินทางอยู่นะ ^^ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 23:45:16

ความคิดเห็นที่ 82   ขอบคุณมากครับ ได้ดูรีวิวสวยๆ เนื้อหาเยอะดีครับ เผื่อจะได้มีโอกาสไปยุโรปมั่ง จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 00:01:54

ความคิดเห็นที่ 83   ง่ะ...คุณเคทพาไปเที่ยว เมืองกังหันลม มั่งจิ... เป้าหมายปีหน้าจ้า อยากหาข้อมูลน่ะ คุณเคทเล่าได้ละเอียดยิบเลย อ่านสนุก ภาพสวย (มั่กๆ)  นะนะ คนดี... จากคุณ : เพชรน้ำนิล เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 00:04:11

ความคิดเห็นที่ 84   รายละเอียดดีมากภาษาที่เขียนก็อ่านง่าย รูปภาพก็ถ่ายได้สวยงามมากๆเลยค่ะ อยากไปเที่ยวจัง จากคุณ : กล้วยไม้สีเงิน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 01:54:42

ความคิดเห็นที่ 85   ขอบคุณครับ อยู่เมืองนี้มานาน แต่ไม่เคยชอบรีวิวไหนเท่าอันนี้เลยครับ ขอบคุณครับผม จากคุณ : DEKCGN เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:11:48

ความคิดเห็นที่ 86   ภาพสวย นางแบบงาม ภาษาน่าอ่าน อุ้ย เพอร์เฟ็กต์ ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ จะรอรีวิวตอนต่อไปค่ะ จากคุณ : hang around เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:42:57

ความคิดเห็นที่ 87   ขอบคุณค่ะ ที่ชวนมาทู้นี้ ถ้าไม่มาเสียใจแย่เลย ไม่รู้ว่าสิ้นปีนี้จะได้ออกนอก UK หรือป่าวเลย แพลนที่เตรียมไว้ 14 วัน ใน UK หมดเลยค่ะ แต่ใจจริงอยากข้ามไปปารีสมากๆ แต่คุณแฟนยังไม่แน่ใจว่าจะเคลียตัวเองได้มั๊ย ส่วนเยอรมันก้น่าไปจริงๆค่ะ เคยไปเมื่อหลายปีก่อนชอบมากๆ สรุปว่าอยากไปทุกที่ 5555 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : GeD^_^GeD เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:45:08