'ณเดชน์' ถึงคราวซวย 'ยูนิฯ' ประกาศตัดขาด
วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2556 เวลา 09:15 น.
จู่ ๆ ก็ทุบหม้อข้าวตัวเองซะอย่างนั้น สำหรับ ณเดชน์ คูกิมิยะที่โดนบริษัทยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ ประกาศตัดขาด ไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคออกกฎเด็ดขาดถอนโฆษณาทุกช่วงที่มี ณเดชน์เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งข่าวนี้ทำเอาสะเทือนกันไปหลายฝ่าย พอสอบถามจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่าเกิดอะไรขึ้น แหล่งข่าววงในที่เชื่อถือได้ ก็เล่าสาธยายให้ฟังเป็นฉาก ๆ ถึงต้นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพระเอกคนดังกับเจ้าของสินค้าต้องยุติลง
เริ่มจากทางยูนิลีเวอร์จ้างณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผมเคลียร์ ตกลงค่าตัวโฆษณา ซึ่งรวมถึงการออกอีเวนต์ การร่วมกิจกรรมทุก ๆ อย่างที่ยูนิลีเวอร์จัดขึ้น มูลค่าเป็นหลัก 10 ล้านบาท และเมื่อเดือนก่อนทางยูนิลีเวอร์ก็ได้ซื้อโฆษณาเป็นลักษณะการถ่ายแบบกับนิตยสารดัง และก็ยกกองไปถ่ายทำกันไกลถึงญี่ปุ่น พระเอกคนดังมีแม่เป็นผู้ติดตามคอยไปดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่างการทำงานนั้น ทางนิตยสารดังก็อยากจะทำเพื่อลูกค้าที่ซื้อโฆษณาให้ออกมาดีและคุ้มค่าต่อลูกค้าที่สุด เลยบอกให้พระเอกคนดังถือผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายแบบหน่อย แต่ทางแม่ของพระเอกดังกลับบอกว่า “ไม่ได้ หากจะให้ถือต้องจ่ายเพิ่มอีก” ซึ่งจำนวนเงินนั้นมากเป็นหลักหลายแสน โดยมีช่างทำผมช่างยุคอยส่งเสริมว่าอย่ายอมเป็นอันขาด ทางนิตยสารจึงต่อรองว่าจะถ่ายให้ดูเนียน ดูสวยงามและเหมาะสม ไม่ฮาร์ดเซลส์จนเกินไป
พอกลับมาถึงเมืองไทย ทาง บก. นิตยสารดัง จึงไปคุยกับยูนิลีเวอร์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ญี่ปุ่น รูปที่ถ่ายมาถ้าหากจะนำมาใช้งานต้องมีการจ่ายค่าตัวณเดชน์เพิ่มอีก เมื่อรู้อย่างนั้นทางยูนิลีเวอร์จึงส่งดอกไม้พร้อมแนบการ์ดมีข้อความไปขอโทษประมาณว่า ถ้าเกิดความผิดพลาดในการทำงานที่ญี่ปุ่นนั้นก็ต้องขออภัยด้วย ทางฝั่งแม่ที่เป็นผู้ดูแลนอกจากจะไม่รับคำขอโทษนี้แล้ว ก็ส่งกระเช้าดอกไม้กลับคืนพร้อมกับสัญญาการทำงานที่กำลังจะหมดลงเดือน มิ.ย. นี้ กลับคืน พร้อมบอกว่า นี่คงเป็นการร่วมงานครั้งสุดท้ายกับทางยูนิลีเวอร์แล้ว
ตรงจุดนี้เองที่สร้างความไม่พอใจให้กับทางบริษัทยักษ์ใหญ่นี้เป็นอันมาก ถึงขั้นประกาศยกเลิกสัญญาทุกอย่าง และถอนโฆษณาออกจากช่อง 3 ทันที หากมีช่วง ที่ละครของณเดชน์ออก อากาศ และกับทุก ๆ สื่อ ทุก ๆ รายการที่มีณเดชน์ไปออก เรียกว่าคำสั่งนี้ทำเอาสะเทือนวงการโฆษณาและเอเจนซี่ไม่น้อย เพราะนั่นรวมถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจะละลายหายไปในพริบตา หากมีการถอนโฆษณาเกิดขึ้นจริง เพราะสินค้าของยูนิลีเวอร์นั้นแทบจะครอบคลุมตั้งแต่หัวจดเท้า และเข้าไปอยู่ในแทบทุกครัวเรือน มีการลงโฆษณามูลค่าเป็นร้อย ๆ ล้านต่อเดือน เรียกว่าคำสั่งนี้ออกมาช่อง 3 คงกุมขมับอย่างแรง และอีกคนที่เครียดไม่แพ้กันก็เห็นจะเป็น เอ-ศุภชัย ผู้จัดการของพระเอกคนดัง เพราะทางยูนิลีเวอร์จะไม่ได้ตัดขาดแค่ณเดชน์ แต่ทำท่าตัดขาดเด็กในสังกัด เอ-ศุภชัย ทุกคนด้วย งานนี้ใครจะหมู่ ใครจะจ่า คงต้องติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.
เครดิต ข่าวจากเดลินิวส์
'ณเดชน์' ถึงคราวซวย 'ยูนิลีเวอร์' ประกาศตัดขาด
วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2556 เวลา 09:15 น.
จู่ ๆ ก็ทุบหม้อข้าวตัวเองซะอย่างนั้น สำหรับ ณเดชน์ คูกิมิยะที่โดนบริษัทยักษ์ใหญ่ ยูนิลีเวอร์ ประกาศตัดขาด ไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย โดยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคออกกฎเด็ดขาดถอนโฆษณาทุกช่วงที่มี ณเดชน์เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งข่าวนี้ทำเอาสะเทือนกันไปหลายฝ่าย พอสอบถามจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่าเกิดอะไรขึ้น แหล่งข่าววงในที่เชื่อถือได้ ก็เล่าสาธยายให้ฟังเป็นฉาก ๆ ถึงต้นเหตุที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพระเอกคนดังกับเจ้าของสินค้าต้องยุติลง
เริ่มจากทางยูนิลีเวอร์จ้างณเดชน์เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผมเคลียร์ ตกลงค่าตัวโฆษณา ซึ่งรวมถึงการออกอีเวนต์ การร่วมกิจกรรมทุก ๆ อย่างที่ยูนิลีเวอร์จัดขึ้น มูลค่าเป็นหลัก 10 ล้านบาท และเมื่อเดือนก่อนทางยูนิลีเวอร์ก็ได้ซื้อโฆษณาเป็นลักษณะการถ่ายแบบกับนิตยสารดัง และก็ยกกองไปถ่ายทำกันไกลถึงญี่ปุ่น พระเอกคนดังมีแม่เป็นผู้ติดตามคอยไปดูแลอย่างใกล้ชิด ระหว่างการทำงานนั้น ทางนิตยสารดังก็อยากจะทำเพื่อลูกค้าที่ซื้อโฆษณาให้ออกมาดีและคุ้มค่าต่อลูกค้าที่สุด เลยบอกให้พระเอกคนดังถือผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ถ่ายแบบหน่อย แต่ทางแม่ของพระเอกดังกลับบอกว่า “ไม่ได้ หากจะให้ถือต้องจ่ายเพิ่มอีก” ซึ่งจำนวนเงินนั้นมากเป็นหลักหลายแสน โดยมีช่างทำผมช่างยุคอยส่งเสริมว่าอย่ายอมเป็นอันขาด ทางนิตยสารจึงต่อรองว่าจะถ่ายให้ดูเนียน ดูสวยงามและเหมาะสม ไม่ฮาร์ดเซลส์จนเกินไป
พอกลับมาถึงเมืองไทย ทาง บก. นิตยสารดัง จึงไปคุยกับยูนิลีเวอร์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ญี่ปุ่น รูปที่ถ่ายมาถ้าหากจะนำมาใช้งานต้องมีการจ่ายค่าตัวณเดชน์เพิ่มอีก เมื่อรู้อย่างนั้นทางยูนิลีเวอร์จึงส่งดอกไม้พร้อมแนบการ์ดมีข้อความไปขอโทษประมาณว่า ถ้าเกิดความผิดพลาดในการทำงานที่ญี่ปุ่นนั้นก็ต้องขออภัยด้วย ทางฝั่งแม่ที่เป็นผู้ดูแลนอกจากจะไม่รับคำขอโทษนี้แล้ว ก็ส่งกระเช้าดอกไม้กลับคืนพร้อมกับสัญญาการทำงานที่กำลังจะหมดลงเดือน มิ.ย. นี้ กลับคืน พร้อมบอกว่า นี่คงเป็นการร่วมงานครั้งสุดท้ายกับทางยูนิลีเวอร์แล้ว
ตรงจุดนี้เองที่สร้างความไม่พอใจให้กับทางบริษัทยักษ์ใหญ่นี้เป็นอันมาก ถึงขั้นประกาศยกเลิกสัญญาทุกอย่าง และถอนโฆษณาออกจากช่อง 3 ทันที หากมีช่วง ที่ละครของณเดชน์ออก อากาศ และกับทุก ๆ สื่อ ทุก ๆ รายการที่มีณเดชน์ไปออก เรียกว่าคำสั่งนี้ทำเอาสะเทือนวงการโฆษณาและเอเจนซี่ไม่น้อย เพราะนั่นรวมถึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจะละลายหายไปในพริบตา หากมีการถอนโฆษณาเกิดขึ้นจริง เพราะสินค้าของยูนิลีเวอร์นั้นแทบจะครอบคลุมตั้งแต่หัวจดเท้า และเข้าไปอยู่ในแทบทุกครัวเรือน มีการลงโฆษณามูลค่าเป็นร้อย ๆ ล้านต่อเดือน เรียกว่าคำสั่งนี้ออกมาช่อง 3 คงกุมขมับอย่างแรง และอีกคนที่เครียดไม่แพ้กันก็เห็นจะเป็น เอ-ศุภชัย ผู้จัดการของพระเอกคนดัง เพราะทางยูนิลีเวอร์จะไม่ได้ตัดขาดแค่ณเดชน์ แต่ทำท่าตัดขาดเด็กในสังกัด เอ-ศุภชัย ทุกคนด้วย งานนี้ใครจะหมู่ ใครจะจ่า คงต้องติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.
เครดิต ข่าวจากเดลินิวส์