ความคิดเห็นที่ 1 หัวกระทู้เป็นปัญหาระหว่างชาติกันเลยทีเดียว จากคุณ : แม่น้องนลิน เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 11:50:34

ความคิดเห็นที่ 2 เหตุผลที่ไม่ให้คืออะไร เราอ่านแล้วทางญี่ปุ่นยังไม่ชัดเจนเลย จากคุณ : darkheart เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:03:11

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่ต้องง้อค่ะ ไปที้อื่นก็ได้เนาะ จากคุณ : miniaibon เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:03:22

ความคิดเห็นที่ 4 ไปเกาหลีแทนเลยค่ะ บ้านเมืองก็อารมณ์เดียวกัน สกีก็มีให้เล่น ช็อปป้ิงหนุกกว่าท่ีญ่ีปุ่นอีกของถูกกว่า จากคุณ : Okane sae areba เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:23:48

ความคิดเห็นที่ 5 อ่านแล้วเกลียดญี่ปุ่นเลย ไม่ต้องไปมันแล้วญี่ปุ่น ชิ หยิ่งนัก บอกลูกเลยคะ ประเทศเค้าไม่ต้อนรับเรา จากคุณ : mayomay เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:26:05

ความคิดเห็นที่ 6 คิดไม่ออกว่า profile ขนาดนี้ ทำไมวีซ่าไม่ผ่าน คงต้องทำใจและลองติดต่อยกเลิกดีกว่าค่ะ ไปเกาหลีก็ได้นะ มีหิมะเหมือนกัน คนไทยไม่ต้องทำวีซ่าด้วย จากคุณ : Ms...plum เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:26:26

ความคิดเห็นที่ 7 ที่จริงน่าจะลองให้สามีเป็นสปอนเซอร์ดูนะครับ จากคุณ : Timin2101 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:30:02

ความคิดเห็นที่ 8 เข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่นะคะ   แต่เหมือนที่ คห. 2 ค่ะ  คือไม่ทราบเหตุผลของทางญี่ปุ่นว่าทำไมถึงไม่ออกวีซ่าให้   ลองไปตั้งที่ห้อง blue ไหมคะ   อาจได้คำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ จากคุณ : หลอดสีรุ้ง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:30:38

ความคิดเห็นที่ 9 สึนามิที่ญี่ปุ่น เห็นคนไทยอ้างจังนะคะว่าเราไปช่วยเค้า เหมือนเป็นบุญคุณอะไรสักอย่างที่เค้าควรจดจำ หลายๆคนอาจจะลืมไป ว่า ครั้งตอนปี 47 สึนามิครั้งแรกในประเทศไทย ที่ทำให้คนไทยหวาดผวา เพราะไม่เคยเตรียมรับมือกับสึนามิมาก่อน ประเทศที่รีบพาคณะคนขึ้นเครื่องบินมาช่วยไทยนั้นคือประเทศอะำไร และเค้ารีบมาภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ เค้ารีบมาข่วยเพราะเค้ารู้ว่าบ้านเราไม่เคยเจอ แต่บ้านเค้าเจอมาเยอะแล้ว เค้าจึงมาช่วยดูแล ให้ความรู้กับประเทศเรา ว่าควรจะเริ่มจัดการอะไรตรงไหนก่อน ทั้งๆที่ตอนนั้น เรายังเงอะๆงะๆ งงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำอะไรกันไม่ถูก และเค้ายังให้เงินช่วยเหลือ ข้าวของอีกเยอะนะคะ มันแปลกที่คนไทยส่วนใหญ่ลืมไปแล้วว่าเค้าเคยช่วยเรามากแค่ไหน ฝ่ายที่เริ่มช่วยก่อนมันคือฝ่ายเค้านะคะ แต่เรากลับจำได้แต่ตอนที่เราช่วยเค้า และเอามาพูดทวงบุญคุณกับเค้าตลอด เวลาไม่พอใจอะไรก็จะเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เรื่องวีซ่าไม่ผ่าน ลองหาเหตุผลดูว่าเพราะอะไรถึงไม่ผ่าน เอาใจช่วยให้ผ่านนะคะ หรือไม่งั้นก็เปลี่ยนไปที่อื่นแทนค่ะ เค้าไม่อยากได้เงินเรา ก็ช่างเค้า มีประเทศเดียวเสียเมื่อไรกัน ไม่ต้องง้อก็ได้ค่ะ จากคุณ : ฟ้าใส เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:31:24 A:180.183.21.100 X: TicketID:348252

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆแล้ว ไม่ได้อยากง้อ เมื่อเค้าทำให้เรารู้สึกไม่ welcome แล้ว การเปลี่ยนโปรแกรมไปประเทศอื่นนั้นไม่ยาก แต่มันคือความฝัน และความรู้สึกของลูกชายตัวน้อย ที่เค้าคิดถึงประเทศในฝันของเค้านี้ไปไกลแล้ว การทำลายความฝันของลูกจึงเป็นอะไรที่ดิฉันทำใจยากจัง เพราะเค้าและพ่อของเค้าสามารถไปได้ แต่แพลนต้องยกเลิกเพียงเพราะแม่ไม่ได้วีซ่า มีใครพอจะแนะนำหนทางได้ใหมค่ะ จากคุณ : Mamy40 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 12:31:36 A:110.168.66.209 X: TicketID:369410

ความคิดเห็นที่ 11 วีซ่าไม่ผ่าน ทำได้แค่ยื่นใหม่ เค้ามีสิทธิ์ที่จะไม่บอกว่าทำไมไม่ให้ผ่าน ที่อื่นๆ เป็นกันแบบนั้น เราคิดว่าญี่ปุ่นก็คงเหมือนกัน เวลายื่น ก็เลยทำได้แค่ หาหลักฐานให้ครบ มีอะไรใส่ไปให้หมด เพื่อชักจูงเค้าว่าเราไม่ไปทำความเสียหายให้เค้า และไปแล้วกลับแน่นอน ต้องยอมรับว่าผู้หญิงไทยด้วยกันนี่แหละ ที่ทำให้ผู้หญิงไทยขอวีซ่าไปไหนต่อไหนได้ยาก ถ้าทำอะไรไม่ได้แล้ว คงต้องพาไปที่อื่นแทนชดเชย แล้วค่อยขอวีซ่าไปญี่ปุ่นใหม่โอกาสหน้าค่ะ จากคุณ : แม่น้องอัณณา เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:00:40 A:101.109.235.142 X: TicketID:258399

ความคิดเห็นที่ 12 เสียใจด้วยนะคะที่วีซ่าไม่ผ่าน แต่ไม่อยากให้เหมารวมทั้งหมดเลยค่ะ คนญี่ปุ่นน่ารักๆยังมีอีกเยอะค่ะ สุขสันต์วันพ่อนะคะ ไม่กลุ้มไม่เครียดจ้า จากคุณ : Stranger me เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:12:16

ความคิดเห็นที่ 13 งง   ที่งงก็คือ ยังขอวีซ่าไม่ผ่านแต่ทำไมถึงซื้อตั๋วเครื่องบินเลย  การที่สถานทูตไม่อนุมัติวีซ่า ก็ไม่ได้แปลว่าสถานทูต จะแล้งน้ำใจ และถ้าคิดแบบนี้ ใครที่บริจาคเงินช่วยซึนามิ ก็สมควรจะได้วีซ่า ?  การที่คุณแม่มีเงินหลักแสนหลักล้าน บางทีก็ไม่เกี่ยวกับการอนุมัติวีซ่า. เพราะตอนนี้ พี่สาวเรา มาญี่ปุ่น กับเรา เมื่อวันที่ 1 และจะกลับไทย วันที่10 นี้. ก็ไม่ได้มีเงิน ใน บัญชี หลักแสนหลักล้าน. แต่หลักหมื่นยังไม่ถึงด้วยซ้ำ. ที่ได้วีซ่า เพราะมีหลักฐานการทำงานที่ชัดเจน และเอกสารครบถ้วน ตามที่สถานทูตต้องการ พี่สาวเราขอวีซ่าท่องเที่ยวปกติ แถมเป็นคนโสด อายุสามสิบต้นๆ การที่วีซ่า จะผ่านหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเอกสารหลักฐานของผู้ขอนะคะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ความเป็นแม่หรือ เงินใน บช จากคุณ : jtsunod7 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:29:40

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่รู้เขาใช้อะไรเป็นเกณฑ์ตัดสินนะ เห็นคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นก็เยอะ เราเห็นใจคุณนะ คงเสียความรู้สึกมาก ไปเที่ยวยุโรป ก็เล่นสกีได้ เดี๋ยวโอกาสหน้าค่อยไปญี่ปุ่นนะคะ ขอให้มีความสุขกับครอบครัวค่ะ หัวข้ิอกระทู้กับเนื้อหาไม่เกี่ยวกันนา อย่าพูดเหมือนทวงบุญคุณเลยนะ แล้วเขาก็ไม่ได้มาชื่นชมหรือขอให้เราชื่นชมเขาด้วยอ่ะ จากคุณ : Miru เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:35:04 A:58.8.47.36 X: TicketID:377720

ความคิดเห็นที่ 15 ตรรกกะประหลาดดี จากคุณ : PAN OUT เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:37:50

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นใจคุณค่ะเข้าใจความรู้สึก แต่เราไม่ชอบการเขียนเรื่องของคุณเลย มันไม่เกี่ยวกันเลยแม้แต่น้อย เรื่องขอวีซ่าผ่านไม่ผ่านใช่ว่ามีแต่ญี่ปุ่นซะเมื่อไหร่ ประเทศไหนๆก็เหมือนกัน แทนที่จะหาสาเหตุว่าเราขาดอะไรไปทำไมถึงไม่ให้ผ่าน โดยหาเองจากการสอบถามคนที่เคยขอวีซ่า หรือในห้องบลู พันทิป โดยมากเจ้าหน้าที่สถานทูตเค้าไม่บอกหรอกค่ะ ว่าเพราะอะไรทำไมไม่ให้ผ่าน แล้วเตรียมข้อมูล หลักฐานที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ให้พร้อม แล้วขอยื่นอุทธรณ์ไป น่าจะดีกว่าการที่คุณไปดราม่าว่าทำเพื่อลูกเป็นความฝันของลูก เค้าไม่เอาเรื่องพวกนี้มาพิจารณาหรอกค่ะ เพราะคนที่ขอคงไม่ใช่แค่คุณ มีคนอีกเป็นร้อยเป็นพันที่เค้าขอกัน แต่เราสงสัยนิดนึงว่าทำไมต้องรอ 6 เดือน ทัะ่วไป ถ้าไม่ผ่าน เค้าจะมีให้ยื่นอุทธรณ์อีกครั้งเลยไม่ใช่หรือคะ หรือคุณยื่นแล้วก็ยังไม่ผ่าน จริงๆจากประสบการณ์ที่เราเคยยื่นมา เราไม่เคยยื่นญี่ปุ่นนะคะ เรายื่นของสถานทูตสวิสซึ่งที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่าหินและขอยาก เพราะหญิงไทยไปทำชื่อเสียไว้เยอะ เรารู้อยู่ว่าที่นี่ขอยาก และมีคนโดนปฎิเสธแบบไม่บอกเหตุผลเยอะ เราเลยทำการบ้านค่อนข้างหนัก ว่าต้องเตรียมอะไรบ้างให้เค้าเชื่อว่าเราไปเที่ยวจริงๆ ไม่ได้ไปขุดทองกับสามีและลูก เพราะเราค้าขายไม่ได้มี statement เงินเดือน หรือจดหมายรับรองจากใคร สามีเราลอยตัวอยู่แล้ว เพราะเค้ามีจดหมายรับรองราชการ เหลือแต่เรา เราเลยพยายามยื่นหลักฐานทุกอย่างที่ยืนยันว่า เราจะต้องกลับมาอยู่ไทยไม่ไปไหนแน่ๆมายื่น หลักฐานที่ยื่่นตอนนั้นมี book bank มีกี่เล่ม เรายื่นหมดทุกเล่ม สลากออมสิน บัตรเครดิต หลักฐานการเป็นเจ้าของรถ บ้าน ขนาดประกันสุขภาพ ประกันชีวิตที่เราทำ เรายังยื่นไปด้วย รวมไปถึงทะเบียนการค้า ทะเบียนสมรส นอกจากนั้นเรายังทำแผนการเดินทางอย่างละเอียดตลอดทริป ว่าใน แต่ละวันไปทำอะไร ที่ไหนบ้าง เดินทางด้วยวิธีใด กี่โมง จะขึ้นรถไฟไปไหน สายอะไร  เดินไปทางไหน พักที่ไหน ซึ่งเราสามารถวางแผนพวกนี้ได้ล่วงหน้า ตามเว็บไซด์ตารางการเดินทางรถไฟในแต่ละประเทศอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีใบจองตั๋วเครื่องบิน(แต่ยังไม่ออกตั๋ว) ใบจองโรงแรม ทุกที่ที่เราไปพัก   ตอนเรายื่นเจ้าหน้าที่ยังบอกว่าหลักฐานเอกสารเยอะมาก และก็ผ่านได้โดยไม่ยากทั้ง 3 คน เพราะเราแสดงให้เค้าเห็นจริงๆว่าเราไปเที่ยว ไม่ได้ไปขุดทอง เราอยากให้คุณลองดูจากของเราว่า คุณขาดหลักฐานอะไรไปบ้างรึเปล่าคะ หากขาดอะไรลองไปยื่นดู และถ้ารอบนี้ไม่ทันแล้ว รอไปรอบหน้าก็ได้ค่ะ ลูกคุณโตแล้วน่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก เปลี่ยนไปที่อื่นก่อน แล้วงวดหน้าเอาใหม่ก็ไม่สาย ดราม่าไปไม่มีประโยชน์ค่ะ เจ้าหน้าที่เค้าไม่ใช่แล้งน้ำใจ แต่มันเป็นหน้าที่ที่เค้าต้องสกรีนคนจริงๆ เพราะหญิงไทยทำเสียไว้เยอะ ต้องโทษคนของเราค่ะ ไม่ใช่โทษเค้า จริงๆเท่าที่เคยรู้มา ญี่ปุ่นขอไม่ยากมากนะคะ คุณอาจจะพลาดที่ไม่ทำการบ้านให้พร้อมกว่านี้ แต่ในเมื่อพลาดไปแล้ว รอบหน้าลองขอดูใหม่ เตรียมไปให้ละเอียดยิบ เค้าจะไม่ให้เราผ่านวีซ่าก็ให้มันรู้ไป สู้ๆค่ะ จากคุณ : Trippy เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:40:07

ความคิดเห็นที่ 17 เราว่ากฏ ก็คือกฏ ถ้ารักษากฏไม่ได้ก็ลำบาก ยิ่งหลายๆคนชอบแหกกฏอยู่แล้วด้วย ถ้าเขาบอกว่าอีก 6 เดือนสามารถยื่นใหม่ได้ ทำไมไม่ลองพิจารณาเลื่อนวันเดินทางดูละค่ะ คุยกับลูกชายคุณให้เข้าใจ ถึงแม้ว่าคุณอยากไปเคาท์ดาวน์ที่นั่นในวันนั้น แต่ถ้าเขาไปด้วยโดยไม่มีแม่เขาก็คงไม่มีความสุขหรอกค่ะ วันหยุดไหนก็ไม่สำคัญเท่าการอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าหรอกค่ะ แล้วรอบหน้าลองยื่นผ่านทัวร์ดูค่ะ น่าจะช่วยได้บ้าง จากคุณ : คุณป้าไอที เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:45:29

ความคิดเห็นที่ 18 กรณีของดิฉัน เอกสารที่ยื่นคือ 1. หลักฐานทั่วไปคือ แบบฟอร์มขอวีซ่า แบบฟอร์มแบบสอบถาม ทะเบียนบ้าน รุปถ่าย 2. passport เคยได้ multiple visa Australia และ Schengen Visa และเคยไปประเทศในกลุ่มเอเซียเช่น สิงคโปร์ พม่า ลาว 3. ใบรับรองจดทะเบียนบริษัท ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้าน โดยมีดิฉันถือหุ้นสูงสุด และแฟนเป็นผู้ถือหุ้นรอง 4. แม้ดิฉันจะเป็นผู้ถือหุ้นสุงสุด แต่ในบริษัทดิฉันมีตำแหน่งรองจากแฟน จึงให้แฟนทำจดหมายรับรองการทำงาน และเซ็นให้ 5. เอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้ทางสถานทูตมั่นใจก็คือ ตั๋วเครื่องบิน และใบจองโรงแรม ซึ่งทางสถานทูตจะได้มั่นใจได้ว่าดิฉันมีที่พัก และวันไปกลับที่แน่นอน รวมทั้งหนังสือสัญญาเช่าบริษัท และ หนังสือสัญญาเช่าซื้อรถยนต์อายุ 1 ปีแต่ทาง VFS กลับดึงออกแล้วคืนมา ุ6. หลักฐานทางการเงิน ทั้ง bankbook ของบริษัทที่มีเงินหมุนเวียนเจ็ดหลักทุกเดือน และบัญชีส่วนตัวของดิฉันที่มีเงินหมุนเวียนและคงเหลือเจ็ดหลัก ถึงสองแบงค์ รวมสามเล่ม profile ของดิฉันไม่น่าจะมีอะไรที่ไม่ตรงคุณสมบัติของการขอวีซ่า ใครก็ได้ที่พอจะมีประสบการณ์ ช่วยบอกดิฉันที จากคุณ : Mamy40 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:50:00 A:110.168.66.209 X: TicketID:369410

ความคิดเห็นที่ 19 น่าจะให้บ.ทัวร์ขอให้ค่ะ ใส่เรารวมกับกรุ๊ปอื่น ญี่ปุ่นไม่ทราบแต่มีเพื่อนเคยไปขอฝรั่งเศส ไปขอเองไม่ผ่าน เหมือนกันเลยคือไม่ยอกเหตุผลทั้งที่เอกสารแน่นมาก มีจดหมายเชิญด้วยจากที่โน่น สเตทเม้นต์ก้อดี เลยให้เอเจ้นต์ช่วนยื่นให้อีกครั้ง อาทิตย์เดียวก้อได้วีซ่า เอกสารเดิมทุกอย่าง เค้าเลยเสียค่าวีซ่า2รอบเลย ค่าเดินเอกสารแค่500 แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 13:53:01 จากคุณ : via iPhone (My Sea Lion) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:50:46

ความคิดเห็นที่ 20 กรุณาอย่ามองว่าดิฉัน ดราม่าควีน หรือ ลำเลิกบุญคุณแต่อย่างไร ที่ดิฉันระบายคือความหมายการให้ความช่วยเหลือและน้ำใจที่ มนุษพึงมีให้กัน อีกอย่างการปฏิบัติ การพูดจาจากเจ้าหน้าที่ Local และฝ่ายญี่ปุ่นเอง การโดนปฏิเสธวีซ่าแน่นอนทุกคนต้องยอมรับ แต่สถานทูตอื่นสามารถยื่นอุทรได้เลย หรือยื่นใหม่ได้เลย ดิฉันเลยไปขอร้องเขาเพียงแค่ขอให้ดิฉันได้ยื่นเอกสารที่ VFS ดึงออกไปให้เขาพิจารณาอีกครั้ง จากคุณ : Mamy40 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:59:03 A:110.168.66.209 X: TicketID:369410

ความคิดเห็นที่ 21 เรื่องขอวีซ่าเสียใจด้วยนะคะ แต่เราไม่ชอบตรรกะในการตั้งกระทู้ของคุณเลยจริงๆ เรื่องวีซ่า ทางสถานทูตมีสิทธิปฏิเสธได้โดยไม่ต้องบอกเหตุผลค่ะ โดยปกติแล้ว ยิ่งคุณทำธุรกิจส่วนตัว คุณยิ่งต้องมี หลักฐานทางเอกสารที่แน่นอนค่ะ ว่าไปแล้ว จะกลับมา ไม่ใช่แค่เรื่องตั๋วเครื่องบินหรือโรงแรมเท่านั้นค่ะ ลองเข้าไปศึกษาได้จากกระทู้นี้นะคะ http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/09/E9720100/E9720100.html จากคุณ : fishokung เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 13:59:45

ความคิดเห็นที่ 22 ส่วนเรื่องที่บอกน้ำใจ หรือ บลา บลา บลา ที่คุณยกขึ้นมา อยากบอกว่า คุณไม่ใช่คนไทยเพียงคนเดียวนะคะ ที่ขอวิซ่าไปญี่ปุ่น ถ้าทุกคนที่โดนปฏิเสธวิซ่า แล้วมายกเรื่องน้ำใจ อย่างนั้นคนไทยทุกคนที่ขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่น ญี่ปุ่นควรจะไม่ปฏิเสธในทุกกรณีใช่มั้ยคะ เค้าถึงจำเป็นต้องมีกฏขึ้นมาไงคะ ถ้าคุณยอมรับกฏกติกาที่จะเข้าประเทศเค้าไม่ได้ เปลี่ยนประเทศไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ จากคุณ : fishokung เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 14:04:00

ความคิดเห็นที่ 23 หัวข้ออย่างดราม่าเลยค่ะ ประเทศเราก็ช่วยกันไปช่วยกันมา วีซ่าไม่ผ่านนี่ถึงขั้นคนญี่ปุ่นเลวหมดคงไม่ใช่น่ะค่ะ ลองถามที่ห้องบลูเพิ่มเติมดีกว่าค่ะว่าทำไมไม่ผ่าน เราเห็นใครไปก็ผ่านน่ะค่ะ คนรอบข้างยังไม่เคยเจอว่าไม่ผ่าน จากคุณ : My_little_bonnie (My_little_bonnie) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 14:25:59

ความคิดเห็นที่ 24 วีซ่าญี่ปุ่นขอยากจริง อันนี้เชื่อเพราะเคยมีเพื่อนผู้หญิงคนนึง ตำแหน่งหน้าที่การงานดี ทำงานบริษัทญี่ปุ่น เงินเดือนเหยียบหมื่น เป็นสาวโสด แต่ก็ไม่ผ่าน เราก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันรึเปล่านะ แต่เธอแต่งตัวไปขอวีซ่าได้แบบ... เอาเป็นว่ามันดูไม่สุภาพและล่อแหลมก็แล้วกัน ทั้งๆ ที่เป็นการไปญี่ปุ่นกับบริษัท(ที่เป็นญี่ปุ่นอีกต่างหาก) ในขณะที่พนักงานคนอื่นๆ ที่เป็นสาวโสดเหมือนกัน ตำแหน่งก็ไม่ได้สูงเท่าเธอ กลับผ่านฉลุยทุกคน กรณีของคุณ ก็ไม่รู้นะคะว่าไปพลาดตรงไหน จริงๆ แล้วถ้าคุณมีทะเบียนสมรสยื่นไปด้วยจะง่ายดายมาก คือประเทศญี่ปุ่นน่ะค่ะ ได้ชื่อว่าสาวไทยไปขายบริการเยอะมาก เค้าก็เลยสกรีนเยอะหน่อย บางทีเลยพลอยทำให้คนประวัติดีๆ อดไปด้วย ก็ซวยไป เท่าที่คลุกคลีกับคนญี่ปุ่นมาเยอะพอสมควร จะบอกว่ากฎก็คือกฎค่ะ คนชาตินี้ซื่อตรงเป็นไม้บรรทัด ไม่มีหยวนไม่มีหย่อน ไม่ได้คือไม่ได้ วินัยเค้าจัดจริงอะไรจริง เค้าไม่สนรายละเอียดเบื้องลึกหรอกว่าคุณเป็นยังไง เมื่อมีจุดที่ทำให้ต้องสงสัยในตัวคุณ เค้าก็จะไม่มีอ่อนข้ออยู่แล้ว เค้าก็ถือหลักว่าไม่ได้ง้อให้ใครเข้าประเทศ คุณจะยกแม่น้ำทั้งห้า อ้างว่าเคยบริจาคโน่นนี่มันก็ไม่ได้ช่วยให้มีน้ำหนักขึ้นมาได้เลยค่ะ และตามปกติเวลาขอวีซ่าแล้วยังไม่อนุมัติ ไม่ควรจ่ายเงินโรงแรมและตั๋วเดินทางไปก่อน เจอเข้าแบบนี้มันจะยิ่งเซ็งกว่าเดิม จากคุณ : เมรี เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 14:36:50 A:180.180.53.81 X: TicketID:018574

ความคิดเห็นที่ 25 ญาติเราก็โดนปฏิเสธวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ ขอกันทั้งครอบครัว ลูกชาย3คนได้วีซ่าแต่พ่อกับแม่ไม่ได้.. ที่ไม่ได้ญาติเราคิดว่ามันน่าจะมาจากเอกสารธุรกิจของครอบครัว เพราะเขาทำธุรกิจรถบรรทุกของ สินค้า ไม้ และอยู่ติดกับชายแดนด้วย เงินในบัญชีมีมากกว่าสิบล้านอ่ะค่ะ คาดว่าจนท.คงไม่มั่นใจในธุรกิจของญาติเรา ดูเหมือนจะไม่เคลียร์ว่าเป็นสีขาวล้วนหรือเปล่าวีซ่าเลยถูกปฏิเสธ ญาติเราเลยเปลี่ยนแพลนไปนิวซีแลนด์กันแทน อีกคนเพื่อนสนิทเรากับแฟนทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวของแบงค์เอกชน ขอวีซ่าท่องเที่ยวญี่ปุ่นโดยให้เพื่อนที่ทำกรุ๊่ปทัวร์ขอให้ร่วมกับกรุ๊ป มันก็ได้วีซ่ามาค่ะแต่พอวันเดินทางจริงมันก็เดินทางไปกับแฟนกันแค่2คน  :) จากคุณ : JPA เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 14:56:59

ความคิดเห็นที่ 26 ใจร้ายอ่ะ ไม่อยากไปละญี่ปุ่น จากคุณ : Falada เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:32:49

ความคิดเห็นที่ 27 เอิ่ม ...ต้องมีน้ำใจอะไรคะ งง ถ้าเราจะบอกว่าคุณแม่ขอวีไม่ผ่านแล้วมาพาล ยกเหตผลตีกันมั่วไปหมดนี่ เราจะโดนตื้บไหมน้า  รอบนี้ไม่ผ่านก็ขอรอบหน้าค่ะ ตามที่ จนท เค้าบอกนั่นล่ะ กฏก็คือกฏ เค้าก็คงจะพิจารณามาแล้ว จะมาอ้างว่าช่วยเหลือตอนสึนามิ นั่นนี่ ด้วยความเป็นแม่ อยากทำตามฝันของลูก บลาๆๆ มันไม่ใช่อ่ะ คือ ความเป็นแม่มันไม่เกี่ยวกันอ่ะค่ะ ถ้าพูดแบบนี้ แม่คนอื่นๆคงจะเอาเหตุผลนี้ไปเถียงเอาวีซ่ากันครึ่งค่อนประเทศอ่ะค่ะ   ลองใหม่ค่ะ เอาใจช่วย จากคุณ : Piggy_Jiggy เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:33:13

ความคิดเห็นที่ 28 เราเป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน ใช้บัญชีเิงินเดือนสามีอย่างเดียว แต่เราสามีเราทำงานบริษัทมั่นคง หน้าที่การงานดี ไม่มีปัญหาอะไรเลย ยื่นแป๊ปเดียวผ่าน ไม่รู้เพราะเราเคยไปเที่ยวญึ่ปุ่นมาก่อนหรือเปล่านะ (ตอนสมัยยังทำงาน) เลยอนุมัติง่าย จขกท profile ดีกว่าเราเยอะเลย น่าสงสัยเหมือนกันที่ทำไมไม่ผ่าน คงเหมือนกับที่สถานฑูตอเมริกานั่นแหล่ะ บางคนเงินมีเงินหลายล้านยังไม่ได้ แต่ในขณะที่คนทำงานบริษัทธรรมดา กลับผ่านฉลุย เราเข้าใจว่า จขกท คงจะขอที่ กรุงเทพใช่ไหมคะ มีอีกวิธีนึง แต่อาจต้องทุ่มทุนหน่อย คือไปขอใหม่ที่สถานฑูตญี่ปุ่น ที่เชียงใหม่ดู เพราะที่นั่นไม่ผ่านตัวแทน ยื่นกับเจ้าหน้าที่สถานฑูตโดยตรงเลย จขกท มีวีซ่าอเมริกาไหมคะ ถ้ามี ตรงนี้จะสะดวกมาก ๆ เลยค่ะ เพราะเค้าถือว่าโดนอเมริกาเช็คมาแล้ว เชื่อใจได้ในระดับหนึ่งเลย ยังไงลองไปปรึกษาห้องบลูดูด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 15:36:16 จากคุณ : ล่าลาล้า เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:35:24

ความคิดเห็นที่ 29 เราว่ามันคงละเรื่องกันนะคะ ความช่วยเหลือที่เราช่วยเค้า เอามาปะปนกับเรื่องวีซ่าได้ยังไง ในอดีตที่ผ่านมาเค้าช่วยบริจาคสร้างสะพาน สร้างถนน บ้านเราก็เยอะ อย่างนี้ไม่ถูกใจอะไรไม่ต้องโทษกันไปมาเหรอคะ ลองเข้าไปในห้อง blue planet นะคะ เค้าจะมีคำแนะนำอะไรดีๆเพียบเลย อย่างเช่น บางคนมีภาระต้องกลับมาชำระหนี้สิน มีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ เงินในบัญชีมีไม่เยอะ แต่ก็ผ่าน เพราะเค้ามั่นใจว่าต้องกลับประเทศแน่นอน เห็นเค้าว่ากันว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่หน้าไปอันดับต้นๆ ลองใหม่นะคะ สู้ๆค่ะ จากคุณ : dewproud_2915 เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:52:37

ความคิดเห็นที่ 30 เรื่องปกติค่ะ รวยล้นฟ้า ก็วีซ่าไมผ่านได้ เค้าต้องดูความผูกพันธ์ที่มีต่อประเทศ คือ หลังจากเที่ยวแล้วจะกลับประเทศแน่นอนรึเปล่า เอกสารคุณคงมีอะไรสะกิดใจเจ้าหน้าที่ค่ะ เลยไม่ได้ ไม่เห็นเป็นไรเลย เราเองยังเคยโดนยกเลิกวีซ่าด้วยซ้ำ (สมัยขอเรียนต่อ หลังจากเรียนอยู่ญี่ปุ่นหลายปีแล้ว) แจ้งมาแบบส่งจดหมายลงทะเบียนมา บอกให้เรากลับไทยในวันนั้น เดี๋ยวนั้นเลย ไม่งั้นจะถือว่าโดดวีซ่า ทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิดกฏเลย ไม่ได้ทำงานพาร์ตไทม์ด้วยซ้ำ เงินก็มี  ฮ่าๆ ใครมันจะไปเก็บของทัน เลยไปติดต่อตม. ปรากฏว่าเค้าก็ยืดระยะเวลาให้ค่ะ แต่ก็คือวีซ่าต่อไม่ได้อยู่ดี ตอนนั้นเศร้ามากค่ะ แต่ก็เข้าใจแหล่ะว่าเค้าต้องมีเหตุผลแน่ๆ  อย่าเศร้าไปค่ะ และอย่าเหมาเกลียดซะทั้งประเทศ เรื่องนี้มันธรรมดามากๆ ไม่งั้นถ้าไปขอประเทศอื่นแล้วไม่ผ่านอีก คงได้เกลียดกันไปหมด จากคุณ : Doraemon no fushigi na POKKE เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 15:55:43

ความคิดเห็นที่ 31 เราก็เป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงานเหมือนกันคะ ว่าจะไปเที่ยวกับลูกและสามี สามีเราเป็นชาวต่างชาติ ทำงานในระเทศไทย หน้าที่การงานดี  ทั้งลูกและสามีไม่ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศ มีแค่เราที่ต้องขอเหมือนเจ้าของกระทู้เลยคะ เราใช้บัญชีเงินเดือนสามี กับบัญชีเงินเก็บ 6 หล้ก ยื่นวันพฤหัส วันอังคารได้วีซ่าแล้วคะ เรามี Multi Schengen Visa กับเคยมีอังกฤษ แคนาดา ไปเกาหลีแทนมั้ยคะ ไม่ต้องขอวีซ่า มีสกีให้เล่นเหมือนกันด้วย จากคุณ : Birmingham เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 16:03:16

ความคิดเห็นที่ 32 เราก็เหมือนเจ้าของกระทู้เลยค่ะ ลูกชายและสามี ถือ passpost อเมริกา แต่เราของ่ายมากไปญึ่ปุ่นมา 11 ครั้งแล้ว เดี๋ยวนี้ขอไม่ต้องใช้ bookbank เพราะเราไปทุกปี ความแตกต่างของเรากับเจ้าของกระทู้ 1 เราทำงานบริษัทมหาชนมา 12 ปี เงินเดือนเกือบแสน และเขียนว่าจ่ายค่าใช้จ่ายเองค่ะ 2 เอา passpost สามี และลูกแนบไปด้วยบอกว่า 2 คนนี้ไม่ต้องขอวิีซ่า แต่ไปด้วยกันค่ะ จากคุณ : chicchop (chicchop) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 16:08:12

ความคิดเห็นที่ 33 เสียใจด้วยที่วีซ่าไม่ผ่านค่ะ แต่ขอไม่เห็นด้วยที่ว่าไม่มีน้ำใจ แถมเหมารวมทั้งประเทศ ไปถึงเรื่องสึนามิอีก เราก็เพิ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นมาเมื่อเดือนตุลา โปรไฟล์คล้ายกัน พ่อกับลูกเค้าถือ US passport เราขอวีซ่าคนเดียว ไม่ได้จดทะเบียนสมรสด้วย เราให้สามีเป็น sponsor และแนบเอกสารของพ่อลูกด้วยหลายอย่าง เพื่อยืนยันว่าเป็นครอบครัว ที่เพิ่มเติมจาก จขกท. ก็อย่างพวก ใบเกิดลูกที่มีชื่อพ่อชัดเจน และใบรับรองจากรร.ลูกว่าเรียนอยู่ แถมด้วยแพลนเที่ยวแบบคร่าวๆ การที่เค้าปฏิเสธแล้วไม่บอกเหตุผล เค้าก็ทำได้ตามสิทธิ์เค้า เราต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเอาเอง เดาว่าเพราะอะไรถึงไม่ผ่าน แล้วค่อยแก้ตัวใหม่ (แต่จขกท.คงไม่ยื่นอีกแล้ว) ส่วนเรื่องอีก 6 เดือนถึงจะยื่นใหม่ได้ อันนี้ก็เป็นกฎเค้าที่บอกไว้ในเอกสารการยื่นอยู่แล้ว ถึงรับไม่ได้ก็ทำอะไรไม่ได้ เข้าใจว่าคุณโกรธและผิดหวัง แต่การบริจาคเงินช่วยเหลือกับเรื่องวีซ่ามันไม่เกี่ยวกันค่ะ จากคุณ : FrozenYogurt เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 16:50:39

ความคิดเห็นที่ 34 เท่าที่ทราบนะคะ เจ้าหน้าที่ของสถานทูตคนที่พิจารณาวีซ่าจะเวียนกันพิจารณาค่ะ มีอยู่หลายคน(แต่กฎเกณฑ์เบื้องต้นที่ใช้เป็นหลักในการพิจารณาอันเดียวกัน) บางคนใจดีอาจจะให้ แต่บางคนเคร่งหน่อย เกิดสะกิดใจอะไร กับเอกสารที่ยื่นหรือประวัติของเราที่เค้ามีอยู่ในมือ อาจจะไม่พิจารณาให้ก็ได้ค่ะ เพราะฉะัันั้นในกรณีของคุณเจ้าของกระทู้อาจจะมีอะไรสะกิดใจคนพิจารณาเข้าสักอย่างที่ทำให้เค้าไม่มั่นใจ เค้าก็เลยไม่พิจารณาออกวีซ่าให้ แต่ยังไง คนที่ขอไม่ได้แ้ล้วก็ใช่ว่าจะถูกปฏิเสธตลอดไป รอไปอีกหกเดือน คราวหน้าถ้ายื่นใหม่อาจจะผ่านก็ได้นะคะ จากคุณ : ต้าปิ่ง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 17:17:07

ความคิดเห็นที่ 35 นอกจากเรื่องการทำตามความฝัน การยอมรับการปฏิเสธจากผู้อื่น  และ การมีอุปสรรคระหว่างทางเดินแห่งฝันไปบ้าง รวมถึง การรอคอยเป็น ก็เป็นสิ่งที่เด็กวัย 8 ขวบควรเรียนรู้ และเป็นบทเรียนที่มีคุณค่าของเค้าค่ะ ตามหลักการและเหตุผล ลูกคุณเค้าน่าจะเข้าใจคุณได้ ถ้าเค้าไม่เข้าใจ ก็ถึงเวลาสอนให้เข้าใจแล้วล่ะค่ะ คุณอาจจะพูดกับสถานทูตไม่เข้าใจ แต่คงไม่มีปัญหา ถ้าพูดกับลูกชายใช่ไหมคะ จากคุณ : แม่ของคนเอเต้ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 17:30:25

ความคิดเห็นที่ 36        หัวข้อกับเหตุผลดูไม่เกี่ยวข้องกันเลยนะครับ เจ้าหน้าที่ไม่กี่คนไม่ใช่ คนทั้งประเทศกว่า 200 ล้านคน ไม่ได้เกี่ยวการเห็นค่าของคนด้วยครับ อาจจะมีบางอย่างที่ทำให้เค้าไม่สามารถอนุมัติให้ได้ กฏก็ต้องเป็นไปตามกฏ เค้าไม่จำเป็นต้องอนุมัติให้ทุกคนที่มีคุณสมบัติครบครับ การให้วีซ่าก็ต้องจำกัด จำนวนคนที่ให้ เชื่อว่าไม่ใช่คุณคนเดียว อาจจะหลายสิบหรือหลายร้อยหลายพัน คนที่คุณสมบัติครบแต่ไม่ได้วีซ่าครับ ขอให้เปิดใจคิดถึงใจเขาใจเราด้วยครับ คนอื่นก็ต้องการไปทุกอย่างมีข้อจำกัดครับ          ยกอีกตัวอย่างนะครับ การสมัครเรียนพิเศษมีที่นั่ง 100 ที่ แต่หากมีคน ต้องการให้ลูกเรียนกว่า 300 คน ต่อให้ให้เงินเค้าเยอะแค่ไหน รู้จักอาจารย์ ก็อาจจะไม่ได้เรียน หากกฏเกณฑ์เค้ามีว่าช่วงวันไหน รับได้เท่าไหร่ ใครมา ก่อนได้ก่อน หรือมาพร้อมกันใช้วิธีสุ่มคอมพิวเตอร์ให้ เค้าก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ครับ ใครจะมาขอร้องแบบคุณเค้าก็แหกกฏไม่ได้ มันเป็นหลักการครับ จากคุณ : เจ้าชายเจ้าสำราญ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 17:49:17

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ชอบหัวข้อกระทู้ และความคิดของเจ้าของกระทู้ จากคุณ : น้องสกัมฟ์ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 17:52:08

ความคิดเห็นที่ 38 ดราม่าสุดๆเลย กระทู้นี้ เราว่า ประเด็นเรื่องการไป ญป เป็นความฝันของลูกชายคุณมันไม่เกี่ยวอะไรกับมนุษยธรรมของการตัดสินวีซ่าของไม่ว่าสถานฑูตใดๆ มันเป็นแค่ "ความต้องการ"ที่ไม่คอขาดบาดตาย ไม่ได้ไปก็คงยังมีชีวิตอยู่ได้ สถานฑูตย่อมมีสิทธิ์ในการไม่อนุมัติวีซ่าโดยไม่บอกเหตุผล มันเหมือนเขาเป็นเจ้าของบ้านแล้วเขาไม่ต้องการให้คุณเข้าบ้านเขาน่ะแหล่ะ และเรื่องนี้ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับสึนามิสักนิด ขอโทษนะพูดจาปัญญาอ่อนเอามากๆ ไม่สวยเลยที่ไปด่าสถานฑูตเขา เอาเรื่องที่เขาเสียใจขึ้นมาพูดประกอบเหตุผล คุณได้บริจาคเงินเจ็ดหลักช่วยเขาบ้างหรือไร จึงอ้างบุญคุณซะขนาดนี้ อ่านข้อความคุณแล้วให้รู้สึกอับอายที่คนไทย สัญชาติเดียวกะเราทำกิริยาแบบนี้ เรื่องเอกสารการเดินทางที่คุณไปทำมา โดยที่ไม่ใช่สิ่งที่สถานฑูตบอกให้ทำ ไม่มมีความจำเป็นใดๆที่เขาจะต้องเห็นใจคุณอีกน่ะแหล่ะ ระวังนะคะ เรื่องมากขนาดนี้ เขาสามารถ blacklist คุณ ไม่ต้องเข้าประเทศเขาตลอดชีวิตก็ยังได้ ปล.เทียบกะการขอวีซ่าต่างๆสำหรับคนไทย เราว่า วีซ่า ญป ง่ายสุดๆแล้วล่ะ ไม่ต้องเตรียมการอะไรอย่างการขอเข้าเมืองฝรั่งเลย เขาคงต้องมีเหตุผลอะไร ซึ่งคุณเองน่ะแหล่ะน่าจะรู้ดีที่สุด จากคุณ : DirtyDuck เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 18:06:07

ความคิดเห็นที่ 39 กุ๊กๆหม่อนนนน เฮ้ออออออออออออออ~~~~~~ - -* จากคุณ : ลิขสิทธิ์โดยyoyo123a เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 18:08:41 A:171.98.20.121 X: TicketID:338662

ความคิดเห็นที่ 40 อดไม่ได้ ความจริงสงสัยมากๆ ดู profile คุณที่เล่ามา มันไม่มีอะไรที่ไม่ผ่านนะ คุณดูไม่น่ามีปัญหาในการขอด้วยสิ ตามปกติ วีซ่าสถานฑูต ญป ง่ายเหมือนปอกกล้วยมากๆ หากเราเป็น สถฑ เราคงมีคำถามว่า ๑/ ถ้าโดยสถานภาพที่คุณแจ้ง คุณและสามีชาวอังกฤษ มีบุตรชายวัย ๘ขวบ เป็นลูกชายโดยสายเลือดของคุณกะสามีหรือไม่ หากเป็นครอบครัวกันจริงและยาวนานมากกว่า ๘ปี ไม่มีการจดทะเบียนสมรสเพื่อรับรองบุตรเลยเหรอคะ ๒/ ธุรกิจที่จดทะเบียนทุน ๒ล้านดังกล่าว เป็นธุรกิจเกี่ยวกะอะไร ทำไมเงินหมุนเวียน หรือเงินเก็บมีเพียงแค่หลักแสน มันดูไม่สมเหตุผล ๓/ เราสงสัยการแต่งตัวของคุณ ได้แต่งตัวเหมาะสมกับสถานที่ราชการหรือไม่ เรื่องนี้กาละเทศะเป็นสิ่งที่เขาใช้พิจารณาความน่าเชื่อถือประกอบกัน ๔/ การขอวีซ่าได้มีพาสปอร์ตของสามี และจดหมายรับรองการเดินทางไปด้วยกันหรือป่าว จึงกล่าวอ้างได้ว่า ไม่ได้ไป ผญ คนเดียว มันไม่แปลกหากเขาจะคิดไปในทางไม่ดี บ้านเมืองเราชื่อเสียงโด่งดังเรื่อง ผญ ขายบริการทางเพศอยู่แล้วอ่ะ ๕/ ได้เขียน itinerary การเดินทางแจงต่อสถานฑูตไหม ซึงถือเป็นเอกสารจำเป็นในการพิจารณานะคะ มีข้อแนะนำ หากว่า ลูกชายอยากไปซะเหลือเกิน ทำไมคุณไม่เดินเรื่องขอ UK Citizenship ซะก่อนล่ะ ไหนๆก็ดำเนินชีวิตคู่มาเกินกว่า ๘ปีอย่างที่กล่าวอ้าง เพราะการขอเป็นพลเมืองประเทศสหราชอาณาจักร คราวนี้ล่ะ จะเข้าไปเที่ยวไหน ก็ไปได้เกือบหมดโดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวกะเรื่องวีซ่าอีกต่อไป จากคุณ : DirtyDuck เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 18:34:46

ความคิดเห็นที่ 41 ตรรกระแปลกๆอะคุณอะ เคยบริจาคช่วยเค้า ตอนนี้ขอวีซ่าจะเข้าประเทศเค้าแล้วเค้าไม่ให้เลยทวงบุญคุณซะงั้น เฮ้อ งี้ประเทศญี่ปุ่นจะไม่ไล่ออกวีซ่าให้กับทุกคนที่เคยบริจาคช่วยเค้าไปเพื่อทดแทนบุญคุณเหรอเนี่ย จากคุณ : แม่น้องเบนส์ เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 18:57:35

ความคิดเห็นที่ 42 เสียใจด้วยนะคะ สำหรับความฝันของลูกและครอบครัวคุณ.. ส่วนตัว ความเห็นส่วนตัวนะคะ...คิดว่ากฎคือกฎ เพราะญี่ปุ่นเค้าเคร่งครัดแบบนี้ล่ะค่ะเค้าถึงเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ตัวดิฉันเอง เคยไปญี่ปุ่นสมัยยังไม่แต่งงาน เพิ่งเรียนจบและทำงานได้ไม่กี่เดือน ด้วยความฝันเช่นกัน ฝันว่าสักวันฉันจะไปเหยียบแผ่นดินอาทิตย์อุทัยให้ได้ ไปให้เห็นกับตาว่า เพราะอะไรเค้าไม่ได้อยู่ไกลจากเรามาก เค้าเคยเจอเรื่องร้ายๆมามากกว่าเราแล้วทำไมเค้าถึงเป็นประเทศที่ ได้ชื่อว่าเป็นมหาอำนาจอันดับต้นๆของโลก เพราะเหตุใดคนญี่ปุ่นถึงมีระเบียบนัก มีวินัย ตรงเวลา มีมารยาทสูงมาก เพราะเหตุใดการลักขโมย การฆ่าข่มขืนแทบหาไม่ได้ในญี่ปุ่น และเมื่อไปถึงที่นั่นดิฉันก็ได้คำตอบ..เพราะคำว่ากฎคือกฎ เพราะความใจหินของพวกเค้า และเพราะการอบรมสั่งสอนให้เด็กรู้จักมารยาท วินัย ว่าเป็นอย่างไร ประเทศเค้าถึงไปไกลกว่าเรามากค่ะ เรื่องวีซ่า อย่างที่บอกไม่แน่ใจว่าทำไมคุณไม่ผ่าน อาจมีอะไรขัดข้อง ดิฉันตอนไป เพิ่งจบและทำงานได้ไม่กี่เดือน ไม่มีเงินในบัญชีไปโชว์ เพราะยังไม่มีเงินเก็บ ที่เก็บๆไว้ก็เตรียมไว้สำหรับการไปญี่ปุ่น สรุปไม่ได้โชว์เล่มบัญชี อาชีพที่ทำก็ไม่ได้มั่นคงนะคะ ตอนนั้นเป็นแค่ลูกจ้าง สามียังไม่มี โสดสนิท หน้าตาก็ไม่ขี้เหร่นะ จัดว่าดูได้ อิอิ แต่วีซ่าผ่านแบบไม่มีปัญหาอะไรเลย จนปัจจุบันหลายปีแล้วที่ไปญี่ปุ่นมา ยังอยากไปอีกมากกกกก ตอนนี้ลูกสองแล้ว ว่าจะรอให้ลูกโตอีกนิดแล้วจะไปอีกครั้งค่ะ เพราะประทับใจไม่มีวันลืมจริงๆ...ที่ไหนๆ ไปมาหลายที่แล้ว ไม่ประทับใจอุ่นใจ เท่าญี่ปุ่นค่ะ จากคุณ : Supaktinee เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 19:04:50

ความคิดเห็นที่ 43 คิดแปลกมากๆ  ค่อนข้างพาลด้วย  เหมือนไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวความสัมพันธ์ระหว่งไทยกบญี่ปุ่นเอาเลย  คุณรู้แต่เรื่องที่คุณไปบริจาคช่วยสึนามิให้เค้า   แต่คุณเคยรู้หรือเปล่าว่าตอนที่เราโดนสึนามิเหมือนกัน ญี่ปุ่นเค้าช่วยอะไรเราบ้าง เยอะแยะแค่ไหน  รวมถึงสมัยก่อนที่เกื้อกูลกันเรื่องการค้า การช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ  บางอย่างไทยเราก็ได้มาฟรีๆ            แบบนี้แหละค่ะ คุณถึงไม่ได้วีซาประเทศเค้า แก้ไขเมื่อ 05 ธ.ค. 55 19:43:07 จากคุณ : เขียวแดง เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 19:41:43

ความคิดเห็นที่ 44 เข้าใจ จขกท ค่ะ จากคุณ : nanoSmile เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 20:07:00

ความคิดเห็นที่ 45 รู้ว่าคุณเสียใจ แต่ไปประเทศอื่นก็ได้นะคะ จากคุณ : Alarsara (Alarsara) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 20:17:11

ความคิดเห็นที่ 46 ไหนๆจขกท เหมารวม เอาง่ายว่าแค่เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศ เราก็ขอเหมารวมว่าเบื่อ คนไทยแบบจขกท มาก เรื่องของความฝันลูก อะไรก็ตามมัน เป็นความคิดที่เห็นแต่ตัวเองเป็นหลัก หยุดคิดว่าใครๆต้องให้อภิสิทธิ์ตัวเองเถอะ จากคุณ : sputnik_mukmik เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 20:53:46

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิด จขกท แปลกๆ ค่ะ อีกอย่างที่เล่นสกี มีที่น่าเล่น สวยๆ เยอะเลยในโลกนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ญี่ปุ่นที่เดียวนะค่ะ จากคุณ : DutchEngel เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 21:01:29

ความคิดเห็นที่ 48 ลองไปปรึกษาคุณว่านน้ำดูนะค่ะ คุณว่านแกเซียนญี่ปุ่น ไปบ่อย เรื่องขอวีซ่าแบบมัลติเพิ่ลก็ชี้แจงละเอียด จขกท.ใจเย็น ๆ ค่ะ ความโกรธ น้อยใจ ทำให้ขุดเรื่องโน่นนี่มาเชื่อมโยงกัน ประเทศอื่่นที่สวย ๆ ก็มีเยอะค่ะ ไปเที่ยวก่อนก็ได้ค่อยไปญี่ปุ่นทีหลัง จากคุณ : เด็กหลังส้วม เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 21:13:03

ความคิดเห็นที่ 49 3. ใบรับรองจดทะเบียนบริษัท ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้าน โดยมีดิฉันถือหุ้นสูงสุด และแฟนเป็นผู้ถือหุ้นรอง 4. แม้ดิฉันจะเป็นผู้ถือหุ้นสุงสุด แต่ในบริษัทดิฉันมีตำแหน่งรองจากแฟน จึงให้แฟนทำจดหมายรับรองการทำงาน และเซ็นให้ เราว่า2ข้อนี้อาจจะมีส่วนที่ดูทำให้ทางเจ้าหน้าที่ไม่แน่ใจ. เพราะว่าเป็นธุรกิจส่วนตัว คนเช็นเอกสารเป็นสามีถ้าเอกสารไม่แน่พอก็มีสิทธิ์ไม่ผ่านเพื่อนเราเคยโดนกับประเทศจีน ทุนจดทะเบียนบริษัท10กว่าล้านแต่ยังไม่ผ่านเลยคะเพราะเอกสารหลักฐานไม่แน่นพอ เพื่อนเราบอกว่าบางทีของแบบนี้ถ้าเอกสารไม่พอทางประเทศนั้นๆก็กลัวว่าเราจะmakeขึ้นมาเอง จากคุณ : pinkie_pink เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 21:33:40

ความคิดเห็นที่ 50 อ้อ... ปกติเค้าขอวีซ่ากันก่อนจองตั๋วน่ะค่ะ เสียดายเงินแทนเลยอ่ะค่ะ ฮือออ จากคุณ : My_little_bonnie (My_little_bonnie) เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 21:38:25

ความคิดเห็นที่ 51 ก่อนอื่นเราขอแสดงความเสียใจเรื่องวีซ่าไม่ผ่านค่ะ แต่ไม่อยากให้มาคิดแค้นฝังหุ้น เพราะมันไม่มีประโยชน์และเป็นทัศนคติที่ไม่ดี เราเองไปญี่ปุ่นบ่อยมาก และเคยขอวีซ่าให้แม่เราซึ่งไม่มีงานการใด ๆ ได้ไปญีปุ่นมาแล้ว หลังจากที่คุณไปศึกษาในกระทู้ที่มีเพื่อนสมาชิกแนะนำแล้วข้างบน http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/09/E9720100/E9720100.html เราเคยคุยกับเพื่อนที่เค้าทำธุรกิจส่วนตัว คุณต้องมีจดหมายอธิบายรายละเอียดการทำงานของบริษัทคุณว่าทำอะไรบ้าง เป็นภาษาอังกฤษก็จะดี ในกรณีที่คุณไม่ได้เป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือย ขออนุญาตแนะนำดังนี้ เอกสารที่คุณควรจะนำไปให้ทางสถานทูตดูตั้งแต่ครั้งแรก 1. ใบจดทะเบียนสมรส ระหว่างคุณกับสามี 2. หนังสือรับรองยินยอมออกค่าใช้จ่ายให้ของสามีคุณ 3. พาสปอร์ตของสามีคุณ ถ้ามีหน้าวีซ่าที่อยู่เมืองไทย และเวิร์คเพอร์มิทจะดีมาก (เราก็ใช้เหมือนกันค่ะ สามีเราเป็นคนฝรั่งเศส) 4. คุณมีลูกแล้ว ควรมีใบเกิดลูกที่ระบุว่า คุณเป็นแม่ของเด็ก 5. คุณควรทำแผนการเดินทางคร่าว ๆ ว่าไปเที่ยวที่ไหนอย่างไรบ้าง พักที่ไหน ใครออกค่าใช้จ่าย ถ้าคุณเตรียมเอกสารพวกนี้แต่แรกแล้ว ดิฉันคิดว่าคุณได้วีซ่าแน่นอน พอทีนี้ถ้ามันไม่ได้วีซ่าแล้ว กฎเค้าก็คือให้รออีก 6 เดือนซึ่งเข้าใจเจ้าหน้าที่ว่า เค้าไม่สามารถให้อภิสิทธิ์กับคุณได้ จริง ๆ ถ้าเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว ขอไม่ยากหรอกค่ะ ขอแค่เอกสารแน่นจริง น่าเชื่อถือก็พอ เราเดินทางก่อนหน้านี้บ่อย ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรนอกจากใบรับรองการทำงานใบเดียว (เพราะเราไปไม่เกิน 15 วันในแต่ละครั้ง) แต่พอเราแต่งงาน สถานะเราเปลี่ยน ข้อมูลในสถานทูตมันก็เปลี่ยนค่ะ เราก็เลยต้องเตรียมเอกสารใหม่หมดทุกอย่าง เราไปเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กับเพื่อนโดยไม่มีสามีไปด้วย เราเตรียมเอกสารดังนี้ (บอกไว้เป็นแนวทาง) 1. ใบรับรองการสมรสของเราที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ (สำเนา) 2. สำเนาพาสปอร์ตสามี พร้อม work permit และวีซ่าที่ได้อยู่เมืองไทย 3. หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (เป็นตัวจริงที่ออกจากกระทรวงพาณิชย์) มีชื่อเราและสามีเป็นผู้ถือหุ้น 4. สมุดบัญชีของเราและสามี 5. สามีเราเขียนจดหมายเป็นภาษาอังกฤษรับรองออกค่าใช้จ่ายให้เราทุกอย่าง 6. สำเนาหน้าที่เราเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น จะบอกว่า คนญี่ปุ่น เค้าไม่สนใจวีซ่าของยุโรปหรอกค่ะ เค้าสนใจแค่เอกสารและความน่าเชื่อถือของเอกสารที่คุณเตรียมไป ออกโดยเจ้าหน้าที่ไทยก็ได้ แต่ต้องถูกต้อง ตรวจสอบได้ ให้ความมั่นใจกับเค้า เค้าพิจารณาการให้วีซ่าแก่ใคร ไม่ใช่ดูที่ฐานะ แต่เค้าดูที่ความน่าเชื่อถือของบุคคลนั้น ที่แสดงต่อสถานทูตค่ะ เราแปลกใจมากว่าทำไมคุณไม่ยื่นทะเบียนสมรสกับใบเกิดลุกแต่แรก เราว่าคุณได้แน่นอน จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 21:52:06

ความคิดเห็นที่ 52 ปล. เราว่าสถานทูตญี่ปุ่นแฟร์สุดและดีที่สุดแล้วค่ะ ถ้าคุณวีซ่าไม่ผ่านเค้าคืนเงินให้ (แต่ไม่คืนเงินค่าบริการนะคะ) สมัยก่อน เค้าไม่เก็บเงินก่อนคุณได้วีซ่าด้วยค่ะ แฟร์ขนาดนี้ไม่มีที่สถานทูตไหนในไทยอีกแล้ว จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : วันพ่อแห่งชาติ 55 21:55:20

ความคิดเห็นที่ 53 เจ้าหน้าที่ทำถูกแล้ว กฏคือไม่มีการพิจารณาใหม่ หรือให้เหตุผล เพราะไม่งั้นก็จะมีคนมาอ้อนวอนแบบคุณ จขกท อีก ชื่นชมเจ้าหน้าที่สถานฑูต ทำตามกฏ ไิม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการตัดสิน การบุกไปสถานฑูตเพื่อยื่นเอกสารเพิ่มเติม มันไม่ใช่สิ่งที่บอกหรือแนะนำให้ทำได้ คุณ จขกท ไปเชื่อที่เพื่อนแนะนำ คนอื่นที่เค้าโดนปฏิเสธที่ย่อมมีเหตุผลที่สำคัญที่จะไปญี่ปุ่นทั้งนั้น แต่ไม่เห็นมีใครบุกไปที่สถานฑูตเลย ถ้าคุณ จขกท ทำได้ ต้องเป็นเรื่องแน่ๆ ทุกคนที่จะไม่ยอมรับคำปฏิเสธวีซ่าแล้วก็บุกสถานฑูตเป็นสิบเป็นร้อยคน วุ่นวายตาย จากคุณ : ~Nk~ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 00:36:19

ความคิดเห็นที่ 54 ดราม่าเกินค่ะ การขอวีซ่าไม่ผ่านไม่เกี่ยวกับน้ำใจ ความฝัน ความเป็นแม่อะไรทั้งนั้น มันเหมือนการอนุญาตให้คนแปลกหน้าเดินเข้ามาบ้านน่ะ รู้หน้าไม่รู้ใจ ถ้าเอกสารยืนยันตัวคุณไม่เป๊ะ ใครเค้าจะอนุมัติคุณ ทะเบียนสมรสแปลแล้วได้ยื่นมั้ยคะ ใบเกิดลูก หรือพวกเอกสารทางราชการที่แสดงความเป็นพ่อแม่ลูกแปลแล้ว รูปถ่ายครอบครัวแสดงความเป็นพ่อแม่ลูก เอกสารการศึกษาของลูก แพลนเที่ยวสำหรับ 12 วัน รายการจองตั๋วล่วงหน้าสำหรับเข้าชมสถานที่ต่างๆ เราโปรไฟล์ไม่งามเท่าคุณแต่ขอผ่านค่ะ เพราะเอกสารแสดงตัวตนเราเป๊ะจริง ทำงานมานานแค่ไหน ได้เงินเท่าไหร่ เงินฝากเท่าไหร่ มีที่มาที่ไปทุกอย่าง สอดคล้องเหมาะสมถ้ามีข้อสงสัยเรามีเอกสารเชื่อมโยงชี้แจงได้หมด คุณลองหาข้อมูลเยอะๆแล้ว เตรียมเอกสารให้พร้อม ครบ เพอร์เฟค เกินดีกว่าขาด รอหกเดือนค่ะขออีกรอบค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 01:01:19 จากคุณ : Cuddle เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 00:54:22

ความคิดเห็นที่ 55 คนไทยชอบแหกกฏ ... เมืองไทย กฏหมายเลยไม่ศักดิ์ิสิทธิ์ ... ปัญหาอื่นๆตามมามากมาย =___= จากคุณ : ironeta เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 02:16:01

ความคิดเห็นที่ 56 ตามคูหา 40 และ 51 ค่ะ คุณมีหลักฐานเรื่องความเป็นภรรยาและความเป็นแม่ยื่นไปด้วยไหม คุณยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบ Single หรือ Multiple ขอถามแค่ 2 ข้อก่อนค่ะ จากคุณ : ว่านน้ำ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 02:43:15

ความคิดเห็นที่ 57 เค้าคงมีลางสังหรณ์ว่ามีคนจะเข้าไปเพี้ยนในประเทศเค้าน่ะครับ ก็เลยป้องกันไว้ จากคุณ : Cepstrum เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 03:58:12

ความคิดเห็นที่ 58 ไม่มีบริษัทจดทะเบียนเป็นของตัวเอง ... มีร้านเล็กๆขายของในอินเตอร์เน็ต ทุนเปิดร้าน 5200 บาท เงินในบัญชีหลักเข้าๆออกๆ หลักพันบาท เงินเก็บสองหมื่นกว่าบาท ขอผ่าน(เป็นครั้งที่สี่) แต่ผมยื่นหลักฐานตั้งนึงประมาณ 80แผ่นA4 จากคุณ : Keropii,MCE เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 04:01:53

ความคิดเห็นที่ 59 อิฉันเคยตอบไนพันท่ปมาเยอะมากกก เรื่องวีซ่า ว่ากงสุลเค้าไม่แคร์หรอกค่ะ ว่าคุณจะถือกรีนการ์ด หรือ เคยไปมาแล้วกี่ประเทศ รวมทั้งการเคยโดนปฏิเสธวีซ่าด้วยเช่นกัน จะไม่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาในครั้งต่อๆไป ข้อมูลพวกนี้ เค้าเอาไว้ดูประกอบข้อมูลอื่นๆเท่านั้นเอง ทุก application จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่หมด นี่คือหลักการพื้นฐานในการพิจารณาวีซ่าของทุกประเทศ (ยกเว้นอเมริกา) ส่วนเรื่องเงินเจ็ดหลักหรือยี่สิบหลักไม่สำคัญเท่างานมั่นคง อยากทราบว่า ธุรกิจของ จขกท เกี่ยวกับอะไรคะ เท่าที่อ่าน เดาไว้สองข้อ 1 ประเภทของงาน 2 หลักฐานความสัมพันธ์ กับแฟน (ตดลงเป็นแฟน หรือสามีคะ) จากคุณ : letsgokrabi เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 04:08:34

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่ได้อ่าน... แต่มีคนบอกว่า จขกท. แปลก จากคุณ : เจ้าแม่แฟชั่น เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 05:12:10

ความคิดเห็นที่ 61 ใครบอกคุณว่าญี่ปุ่นฟื้นค่ะ ยังทรงๆกับจะทรุดอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ตอนนี้ญี่ปุ่นเขาNeedนักท่องเที่ยวมาก โปรไฟล์ดี เเจ่มเเจ้งชัดเจน ยังไงก็ขอววีซ่าผ่านค่ะ จากคุณ : Hana* เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 05:28:11

ความคิดเห็นที่ 62 ปกติเวลาอ่านเจอคนขอวีซ่าไม่ผ่าน เราเห็นใจนะ เพราะเคยขอวีซ่าเมกาไม่ผ่านเหมือนกัน แต่กระทู้นี้ "ไม่" จากคุณ : Ssachiy เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 06:36:30

ความคิดเห็นที่ 63 เพื่อนเราก็ไม่ชอบอเมริกาเพราะ เคยขอวีซ่าไม่ผ่าน แต่ผ่านประเทศอื่นมาเกือบหมด ทุกวันนี้เธอยังไม่เคยไปอเมริกา ลูกเธอสองคนเรียนนานาชาติ ยุโรปเธอก็ไปมาเกือบหมดแล้ว คงคล้ายเคสของคุณ จากคุณ : Phu-nera เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 07:07:39

ความคิดเห็นที่ 64 เราว่า ....  คุณไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีมากกว่านะคะ  เพราะผลทางธุรกิจด้วยใช่ไหม แล้วคุณไปขอคนเดียว โดยที่ไม่ได้แสดงฐานะของตัวเองว่าสมรสกับใคร มีบุตรกับใคร ยังไง ใครไปด้วยกับทริปนี้ คุณมีหน้าที่การทำงาน เป็นผู้ถือหุ้นสูงสุด  แต่กลับมีตำแหน่งรองจากสามี....อีก   แล้วสามีคือใคร มีความสัมพันธ์กันแบบไหน เอกสารแบบนี้ คุณแจ้งสถานทูตหรือเปล่า เพราะไม่อย่างนั้น สามีของคุณก็เหมือนคนต่างชาติทั่วไปที่มาลงทุนทำธุรกิจที่ไทย  ที่เป็นเจ้าของธุรกิจแล้วแอบจ้างคุณที่เป็นคนไทยมาถือหุ้นแทน  แบบนี้ เรียก นอมินี น่ะค่ะ  แถมรายได้เป็น  7 หลักต่อเดือนอีก เจ้าหน้าที่ ดูเอกสารที่คุณไปแสดงแค่นั้น ก็ตัดสินใจตามนั้น   ส่วนที่คุณไปแจ้งจำนงค์โน้นนี้ที่สถานทูต  มันก็คนละอย่างค่ะ คนรับเรื่อง คนพิจารณา เขาไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว  คนอนุมัติเขาดูเอกสารตามที่คนรับเรื่องสแกนมาก่อนแล้ว 1 รอบ เพราะฉนั้น เขามีสิทธิที่จะไม่เปลี่ยนคำตัดสินค่ะ จากคุณ : Mnki เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 07:38:49

ความคิดเห็นที่ 65 คิดเหมือนคห. 64 เราก็คิดเหมือนว่าเพราะมันเหมือนกับว่าบริษัทนี้ ฝรั่งเป็นเจ้าของแล้วมีนอมินีคือคนไทย ครั้งหน้าที่ต้องยื่นเพิ่ม 1. หลักฐานความเป็นแม่ 2. ตารางทัวร์ฉบับย่อย สั้นๆ 1-2 หน้าว่าไปไหนบ้าง แล้วเอกสารการเงิน เราว่ามีมากไป เขาอาจจะสงสัยว่าทำงานการอะไร เราว่าแค่2ฉบับที่มีเงินเข้าออกสม่ำเสมอดีกว่าค่ะ อื่นๆลองดูตามที่ท่านอื่นว่าดู ถ้าคุณยังอยากจะยื่นวีซ่าอีกนะคะ จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 07:59:42

ความคิดเห็นที่ 66 แม่เราอายุ70มีเงินในบัญชีหมื่นเดียวแบบไม่เคลื่อนไหวปีกว่า ได้มัลติเพิลวันนี้เองค่ะ ทบทวนก่อนว่าเรามีอะไรให้เค้าไม่ไว้ใจ อย่าไปโบ้ยแบบนี้ค่ะ จากคุณ : ปป (Always wrong) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 08:33:35

ความคิดเห็นที่ 67 คุณเสียใจถึงขนาดตั้งกระทู้ 2 ห้องเลย เพื่อ? เราว่ามันออกจะดราม่าไป ตรรกะไม่สมเหตุผล เหมือนไม่ได้ดั่งใจก็เหวี่ยงไปทั่ว ตลกอ่ะ กระทู้แนวนี้เราว่าเข้าข่ายล่อเป้านะคะ (แต่เราก็เข้ามา 555) ตั้งหัวกระทู้ซะเป็นปัญหาระดับชาติ เฮ้อ เยอะค่ะคุณจขกท. จากคุณ : via iPhone (Seawalker) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:16:33

ความคิดเห็นที่ 68 เป็นการตัดพ้อได้ครับ แต่มันไม่ใช่เหตุผลเลยแม้แต่นิด ผมไม่รู้นะครับ ว่าคุณยื่นเอกสารละเอียดแค่ไหน แต่ตอนนี้วีซ่าญี่ปุ่นง่ายขึ้นเยอะครับ ขอแค่เอกสารครบ ชัดเจน ก็มีสิทธิผ่านง่ายๆ แล้ว สถานฑูตต้องทำหน้าที่ของเขาเรื่องปรกติ คนไหนที่เขาเห็นว่าหลักฐานอ่อน หรือขาดหลักฐานสำคัญ จะไม่อนุมัติวีซ่าก็ย่อมทำได้ มันเป็นสิทธิและหน้าที่ของเขา แนะนำว่าให้ไปรีฟันตั๋ว และแคนเซิ่ลห้องพักโดยเร็ว งวดนี้ไม่ผ่าน ก็ยังรอได้อีก 6 เดือน ไม่ใช่ว่ากาหัวไม่ให้เข้าตลอดชีวิตซักหน่อย จากคุณ : วาริน เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:18:43 A:180.183.43.167 X: TicketID:212898

ความคิดเห็นที่ 69 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E13024926/E13024926.html จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 09:40:25 A:202.156.9.10 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 70 ขนาดหนูเรียนภาษาญี่ปุ่นผูกพันกับคนญี่ปุ่นมาเป็นสิบปี จะขอวีซ่าครั้งแรก ยังเครียดเลยค่ะ ถามตั้งในกระทู้ห้องบลูสามสี่รอบ ทั้งๆที่มันไม่ได้มีอะไรเลย ว่าแต่ พี่ยื่นทะเบียนสมรสไปด้วยหรือเปล่าคะ... คือ คิดว่าตัวนี้สำคัญนะคะ เพราะไม่งั้นก็เหมือนว่าให้ใครก็ไม่รู้เซ็นต์รับรองให้ แล้วถ้าไม่ได้จดอย่างน้อยก็มีเขียนบอกหรือเปล่าคะว่าเค้าเป็นใคร อยู่ด้วยกันจริง แต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสอะไรทำนองนี้ค่ะ ขึ้นไปอ่านสองรอบก็ยังไม่เห็นคำว่าทะเบียนสมรสเลย แล้วสถานฑูตเค้าไม่มาดูแพลนหรอกค่ะ เอกสารไม่ครบก็จบแบบง่ายๆเลย เรื่องมาตัดพ้อเนี่ย มันไม่ดีเลย คือแบบ เรื่องสึนามิญี่ปุ่นเนี่ย ไม่อยากเปรียบเทียบเลยนะคะ ถ้าเทียบกับประเทศอื่น ไทยเราถือว่าช่วยน้อยมากนะคะ หนูเองถ้าต้องโดนปฎิเสธก็คงนอยด์ไม่น้อย แต่คงไม่มาถึงตัดพ้อกันขนาดนี้ และไม่จำเป็นต้องปถึงสถานฑูตด้วยค่ะ ถ้ากรณีพี่เค้าให้ได้ คิดดูสิ จะมีคนอีกกี่คนที่รู้เรื่องนี้แล้วตามไปเอาวีซ่าให้ผ่านถึงที่ กฎก็คือกฏนะคะ จากคุณ : all abt เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 11:29:00

ความคิดเห็นที่ 71 พวกทำบุญสองบาท คาดหวังบุญกลับมาสองแสน .... อายแทนคนไทยจริงๆ คำเดียว อ่านแล้วไม่น่าสงสาร  ..... สมน้ำหน้า แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 12:24:22 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:15:57

ความคิดเห็นที่ 72 ขอโทษนะคะ ขอถามหน่อยว่า บริจาคช่วยสึนามิไปเท่าไหร่หรอค่ะ กี่สิบล้าน ถึงได้มาตัดพ้อขนาดนี้ จากคุณ : loki เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:24:31

ความคิดเห็นที่ 73 ขอต้อนรับมีสสสดราม่าประจำปี 2555 คนใหม่ของเราครับ จากคุณ : togugawa เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:27:21

ความคิดเห็นที่ 75 ขอต้อนรับมีสสสดราม่าประจำปี 2555 คนใหม่ของเราครับ จากคุณ : togugawa เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:28:18

ความคิดเห็นที่ 76 ติวเตอร์ แรงส์ อะ /// นอกจาก Profile ดีแล้ว ภูมิหลังต้องดีด้วย !!! ต้องถามว่ามีภูมิหลังติด blacklist ด้วยหรือเปล่า เพราะเพื่อนที่ทำงานไปยื่น ปกปิดมาตั้งนานเลยรู้เลยว่าอะไร เป็นอะไร เช่นเคยโดนวีซ่าไหม .. เพื่อนมันเคยโดด เลยต้องรอปีถัดมา ไปยื่นใหม่ แล้วกรอกตามจริง ที่เขาถาม สรุปคือ ผ่าน จากคุณ : nang2001 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:36:46

ความคิดเห็นที่ 77 คุณ nang2001 เคสโง่ๆ แบบนี้ ไม่ต้องอวย หรือ ถนอมน้ำใจแล้วล่ะครับ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:46:13

ความคิดเห็นที่ 78 สถานทูตมีสิทะิธิ์ที่จะพิจารณา ให้ ใคร หรือ ไม่ให้ ใคร เข้าประเทศ เค้าได้ตามที่เขาต้องการครับ การตัดสินใจของเค้าถือเป็นที่สิ้นสุด โดยไม่จำเป็นต้องฟังเหตุผล 108 พันเก้า ที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ที่คุณยกมาอ้าง ก็เหมือนกับคุณ เปิดบริษัท แล้วรับสมัครคนเข้าทำงาน ต่อให้ผู้สมัครคนนั้น profile ดีมากมายแค่ไหน เหมาะกับตำแหน่งนั้นๆ แต่คุณรับรู้ได้ด้วยเซ็นส์ของคุณว่า คนๆนี้ไม่น่าไว้วางใจ คุณจะรับเข้าำทำงานไหมครับ ผมคิดว่าที่เค้าไม่อนุมัติวีซ่า ก็เพราะ คุณไม่สามารถแสดงหลักฐานที่ทำให้เขาไว้วางใจคุณได้ หลักฐานต้องเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่คำพรรณาที่ออกจากปากคุณ จากคุณ : closefriend เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 12:55:51

ความคิดเห็นที่ 79 เราก็อยากไปญี่ปุ่นเหมือนกัน แต่ไม่รู้วันนั้นจะทำวีซ่าผ่านรึป่าว สิ่งที่ทำได้คือเตรียมเอกสารไปให้ครบหรือให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกนั้นวัดดวงกันล้วนๆ555 จากคุณ : นกกินน้ำ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:01:19

ความคิดเห็นที่ 80 ความคิดเห็นที่ 56     ตามคูหา 40 และ 51 ค่ะ คุณมีหลักฐานเรื่องความเป็นภรรยาและความเป็นแม่ยื่นไปด้วยไหม คุณยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบ Single หรือ Multiple ขอถามแค่ 2 ข้อก่อนค่ะ จากคุณ : ว่านน้ำ   เห็นด้วยกับ คห.นี้ครับ ผมว่า จขกท ขอแบบ Multiple แน่ๆ ที่สำคัญ จขกท เคยเข้าญุี่ปุ่นในระยะเวลาก่อน 3 ปีป่าว?? ถ้าไม่เคยผมคิดว่า จะขอ วีซ่า แบบ มัลติเบิ่ล ทำได้ยากจริงๆ ถ้า จขกท.ไม่สามารถยืนยันงานที่มั่นคงได้ ผมว่า สถานฑูต เค้าก็ทำถูกแล้วนะ ^^ จากคุณ : dexsil เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:09:50

ความคิดเห็นที่ 81 โดนปฏิเสธแค่ครั้งเดียวถึงกับเป็นเดือดเป็นแค้นเลยเหรอครับ ? ขอให้คุณนึกดูดีๆก่อนดีกว่า ว่าตอนที่ยื่นขอพลาดเอกสารตรงไหนหรือเปล่า? คราวหน้าก็ยังมี อีก6เดือนข้างหน้าก็ขอใหม่ได้ ทำยังกะว่าคุณไม่ได้ไปคราวนี้แล้วจะไม่ได้ไปอีกเลยงั้นแหละ จากคุณ : gaobear เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:17:15

ความคิดเห็นที่ 82 เอาเคสตัวอย่างมาเล่าให้ฟังนะคับ รุ่นพี่ พ่อเค้ามีบริษัทเกี่ยวกับรถยนต์เป็นSupplier Honda มีเงินเป็นร้อยล้าน ประวัติดีทุกอย่าง พ่อเค้าได้บินฟรีไปญี่ปุ่นนับครั้งไม่ถ้วน ตอนแรกเค้ายื่นสเตรทเม้นส์ไม่ถึง10หลักไปไม่ผ่าน กลับมายื่นอีกทีปรมาณ60ล้าน ถึงผ่าน คุณจะเชื่อหรอไม่ก็ตามแต่มันเกิดขึ้นแล้ว จากคุณ : machoiso เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:20:04

ความคิดเห็นที่ 83 สงสัยอย่างหนึ่งค่ะ ที่คุณมาบ่นๆ ว่าทำไมทางสถานทูตไม่ยอมให้ยื่นเอกสารใหม่ ไม่เห็นใจ หรือไม่บอกเหตุผลที่ปฏิเสธ ก่อนจะกรอกเอกสารขอวีซ่า คุณได้อ่านเงื่อนและกฏของเขาหรือยังคะ ???? เราจำได้ว่า เขาบอกไว้ชัดเจนเลยว่า จะไม่บอกเหตุผลในการปฏิเสธ และ อีกข้อคือ ถ้าจะยื่นใหม่ต้องรอ 6 เดือน ไม่ใช่พอผลออกมาว่าไม่ได้ก็มาตีโพยตีพายอย่างนี้ กฏคือกฏนะคะ ถ้าเขาอนุญาตแหกกฏให้คุณ แล้วคนอื่นๆละ มิวุ่นวายแย่หรอ ประเด็นคือ เกี่ยวอะไรกับเงินบริจาคช่วยสึนามิคะ ? ลองทวนตรรกะดูดีๆ มันใช่ไหมเนี่ย ??? จากคุณ : เบอร์รี่จัง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:35:46

ความคิดเห็นที่ 84 ผมว่าการมาโพสท์ของ จขกท เป็นการแสดงความเป็นเด็ก ไร้เหตุผล ไม่รู้จักโต ไร้มารยาท และอื่นๆอีกหลายประการ คุณขอวีซ่าไม่ผ่าน อยากมาโพสท์ระบาย ก็แสดงเหตุผล จะบ่นก็บ่นไป ใครหลายคนในนี้ก็ทำ แต่ก็กันอย่างมีขอบเขตุ มีเหตุผล วิจารณญาน แต่ประโยคย่อหน้าสุดท้ายของ จขกท มันทำให้เห็นถึงความปัญญาอ่อน ไร้สติ ไม่รู้จักคิดของ จขกท เป็นอย่างมาก สมน้ำหน้าครับ ถ้าต้องขออีกครั้งในอนาคต ก็อย่าให้ได้วีซ่าเลย ถ้าเกลียดเค้า ด่าเค้า ซ้ำเติมและยกอ้างบุญคุณต่้อความเดือดร้อนเค้าด้วยเรื่องที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ จากคุณ : เด็กเดินตั๋ว เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:38:25

ความคิดเห็นที่ 85 ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้สำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับการที่ดิฉันตัดพ้อ นานาจิตตังนะคะ และขอขอบคุณมากสำหรับคนที่ให้กำลังใจ สำหรับเรื่องเอกสารดิฉันให้ทุกอย่างที่เหมือนกันกับให้ทางสถานทูตออส ต่างกันที่อายุดิฉันที่เพิ่มขึ้น และอายุการเปิดทำการของบริษัทที่เพิ่มขึ้น แต่สถานทูตออสให้ year mul แต่ไม่ผ่านสถานทูตญี่ปุ่น และอาจจะโชคร้ายที่ทาง VFS ดึงเอกสารบางอย่างที่เขาดิดว่าไม่จำเป็นออก (ได้ยินว่าเมื่อก่อนยื่นตรงกับสถานทูตเอง จึงยื่นเอกสารทุกอย่างได้) อีกอย่างในการเปิดบริษัท บริษัทที่นักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในไทย ตามกฏหมายไม่สามารถถือหุ้นเท่าคนไทย คนไทยต้องเยอะกว่า แต่ในการบริหารบริษัทนั้นไม่เหมือนกัน กรรมการคือฉัน และ แฟน แต่ในการบริหารแฟนคือ MD. ดิฉัน GM และรองจากดิฉันก็คือ Manager ในตำแหน่งต่างๆ บริษัทดิฉันเปิดมา 5 ปีกว่ามีรายระเอียดการปิดงบที่ชัดเจนส่งให้สถานทูต แต่เนื่องจากแฟนดิฉันต้องเดินทางต่างประเทศจึงไม่ได้ใช้ yesr visa ไม่ทราบอันนี้จะเป็นข้อบกพร่องรึป่าว. ในการยื่นเอกสารดิฉันใช้ของดิฉันเพียงคนเดียวเพราะคิดว่าน่าจะเพียงพอ แต่ในฟอร์มกรอกว่ามีคนร่วมทางไปด้วยคือแฟน (ระบุไปตรงๆว่าไม่ได้สมรสกัน) ก็แนบพาสปอร์ทของแฟนไป แต่ VFS บอกไม่จำเป็นเลยคืนมา.... แต่ไม่เป็นไรค่ะเรื่องมันจบไปแล้ว ที่มาโพสนี้เพียงแค่อยากได้ความคิดเห็น หรือช่องทางเพิ่มเติม จากผู้รู้แต่ถ้าทำให้ใครไม่พอใจก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ เพราะดิฉันเสียใจ เพราะที่พาสปอร์ทตองนี้มีสแตมป์ไม่ผ่านวีซ่า จากนี้จะขอวีซ่าไปประเทศไหนคงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หรือแม้จะไปประเทศเกาหลีอย่างที่แนะนำว่าไม่ต้องใช้วีซ่า แต่พาสปอร์ทมีสแตมป์วีซ่าไม่ผ่านความเป็นกังวลมันก็สูงขึ้น .... แต่ไม่เป็นไรคะ ขอให้กระทู้ดิฉันเป็นกระทู้สุดท้าย ขอปิดกระทู้นี้ละกัน ขอบคุณทุกความคิดเห็นค่ะ จากคุณ : Mamy40 จากคุณ : Mamy40 เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:39:32 A:110.168.115.241 X: TicketID:369410

ความคิดเห็นที่ 86 เข้าใจอารมณ์ตอนนั้นคับ ไม่เป็นไรมีโอกาสใหม่ค่อยขอใหม่ก็ยังไม่สาย อย่าเพิ่งไปโกรธ เกลียดประเทศเค้าเลย ถือว่าครั้งนี้ไม่ใช่ของเรา ประเทศญี่ปุ่นได้ไปแล้วจะหลงเสน่ห์เลยคับ อย่าเพิ่งท้อคับ จากคุณ : machoiso เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 13:58:35

ความคิดเห็นที่ 87 หรือเป็นเพราะเราเคยบริจาคช่วยสึนามิเมื่อครั้งนั้น เราเลยขอวีซ่าญี่ปุ่นไ้ด้ เป็นเพราะเหตุผลนี้เอง จากคุณ : ด.ญ.แต้มสี เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:51:33

ความคิดเห็นที่ 88 จากคห. 85 อ่านแล้วก็เข้าใจอารมณ์ของเจ้าของกระทู้มากขึ้น เพราะว่าถ้าพาสปอร์ตเคยมีสแตมป์ว่าวีซ่าไม่ผ่านก็อาจจะเป็นไปได้ว่าถ้าหนหน้าไปขอประเทศอื่น ก็อาจจะโดนเพ่งเล็งหนัก ถ้า VFS เอาเอกสารออกที่คุณคิดว่ามันจำเป็น เราว่ามันก็น่าจะเป็นความบกพร่องของ VFS  เพราะว่าสถานทูตก็พิจารณาตามเอกสารที่ได้รับมา และเป็นสิทธิ์ของเขาที่ว่าจะให้วีซ่าผ่านหรือไม่ผ่าน จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 14:52:47

ความคิดเห็นที่ 89 เอาเป็นว่า บางอย่างถ้าระบายไประบายกับเพื่อนดีกว่าในเนทนะคะ เพราะตอนแรกที่เราอ่านมันก็แหม่งๆ แต่คิดว่าเป็นอารมณ์น้อยใจเสียใจที่ไม่ได้ไปทำลูกผิดหวังเลยพาลไปนิด ถ้าเจ้าของกระทู้ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็จะหลงไหลในเสน่ห์ของประเทศเขาค่ะ เราไปสามหนแล้วหนแรกไปกับทัวร์ หนที่สองไปกับเพื่อนและสามี หนที่สามไปกับเพื่อน ยังอยากจะไปอีกแต่ติดว่ามีลูกเล็ก งวดหน้าเตรียมเอกสารให้ครบๆ แล้วก็ไปนะคะ แก้ไขเมื่อ 06 ธ.ค. 55 15:26:36 จากคุณ : la-la-bell เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:00:20

ความคิดเห็นที่ 90 เค้าไม่ให้ไปก็ไม่ต้องไปสิครับ แค่นั้นเอง คิดอะไรมากมาย โอเคละว่า ไปเที่ยวที่อื่นมันทดแทนกันไม่ได้ แต่ แค่ไม่ได้เที่ยวญี่ปุ่นนี่ ไม่เห็นจะเป็นอะไร แต่จากหัวกระทู้ มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ จขกท. การปฏิเสธวีซ่า กับ เรื่องความมีน้ำใจ โวยวายได้แต่อย่าเยอะ เหวี่ยงไปทั่ว มันไม่งาม จากคุณ : นาหม่อมLFC เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:10:17

ความคิดเห็นที่ 91 อย่างที่คิดไว้ตั้งแต่แรกว่าทำไมวีซ่าไม่ผ่าน ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นคุณไม่ได้จดทะเบียนสมรส มันไม่มีหลักฐานว่าคุณแต่งงาน สามีคุณก็ไม่ได้อยู่ในทะเบียนบ้านคุณ แถมประวัติการเงินแปลก ๆ อาจจะคิดว่าพวกฟอกเงิน เปิดบริษัทให้ฝรั่ง ได้รับผลประโยชน์ มีลูกด้วยกันเขาก็อาจจะคิดว่าเลือกกันแล้ว ปล ไปญี่ปุ่นไม่ได้ก็ไปเกาหลี ฝรั่งเศสไปเลย จะไปทำไมญี่ปุ่น จากคุณ : มนชิจัง เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 15:51:44

ความคิดเห็นที่ 92 คราวหน้าขอไปกับทัวร์น่าจะง่ายกว่านะคะ   แล้วก็ขอขยายเวลากับทัวร์เพื่อเทีียวเองเพิ่มเข้าไป วินวินจ้า ง่ายดี จากคุณ : ไข่เจียวกุ๊กไก่ เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 16:07:47

ความคิดเห็นที่ 93 เห็นด้วยกับคุณมนชิจัง เพราะถ้าจดทะเบียนสมรสกับสามี และเดินทางไปด้วยกัน ไม่น่าจะไม่ผ่าน แต่นี้เหมือนยื่นของตนเองคนเดียว สาวไทย โสด ทำงานเปิดบ.กับแฟนต่างชาติ ไม่ใช่ลูกจ้างประจำ ไปยื่นเองโดดๆแบบนี้จะผ่านยากค่ะ หนหน้าให้ขอผ่านเอเจ้นต์นะคะ ปลอดภัยกว่า สาวโสดคนอื่นๆด้วยค่ะ การขอเองเสี่ยงค่ะสำหรับญี่ปุ่น จากคุณ : My Sea Lion เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 16:15:07

ความคิดเห็นที่ 94 เพิ่งเข้ามาอ่าน มีหลายคนเคยเขียนแนะนำไว้เยอะแยะน่าจะเข้ามาอ่านและเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนนะค่ะ ของเราสาวโสดเดินทางกับเพื่อนสาวโสดเหมือนกัน แต่เราทำงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เค้าไม่ขอดูการเงินด้วยซ้ำยังผ่านฉลุยกับการขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นครั้งแรก สิ่งที่ จขกท ตัดพ้อมันดูไร้ซึ่งสติ เสียใจได้แต่ก็ขอใหม่ได้ อย่ามาด่ากราดกันแบบนี้โตๆ กันแล้ว   อีกอย่างตอนนี้เรื่องจบไปแล้ว และถ้าไม่อยากให้มีตราประทับว่าโดนปฏิเสธการขอวีซ่าก็ทำพาสปอร์ตใหม่ซิคะ ไปยื่นประเทศอื่นได้ แต่ญี่ปุ่นเค้าก็ยังมี record เดิม แต่ถ้าคุณจริงใจเตรียมตัวให้ดียังไงก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะญี่ปุ่นเค้าก็บอกว่ารออีก 6 เดือนค่อยยี่นได้ คิดใหม่ซะนะค่ะ อย่าตีโพยตีพายมันดูไม่งามเลย จากคุณ : ru_yodsu เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 18:45:16

ความคิดเห็นที่ 95 ถ้าคุณตั้งกระทู้ตั้งแต่แรกเกี่ยวกับการหาเหตุผลว่าทำไมไม่ผ่าน เหมือนกับในความเห็นเพิ่มเติมของคุณ คงไม่ดราม่ากันขนาดนี้ และคงมีหลายคนมาช่วยออกความเห็นเพื่อให้ผ่านได้ค่ะ หลายคนรวมทั้งเราไม่ชอบที่คุณเอาไปเกี่ยวกับการบริจาคเงินสึนามิเท่านั้นเอง จากคุณ : FrozenYogurt เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 19:18:44

ความคิดเห็นที่ 96 ตามมาอ่านอีกทีหลังเห็นข้อความของเจ้าของกระทู้ ไม่แน่ใจว่าคุณจะกลับมาอ่านอีกหรือไม่ แต่เรามาเพิ่มเติมว่า ในกรณีคุณ ไม่มีทะเบียนสมรส ก็ไม่เป็นไรค่ะ งั้นน่าจะเอาพวกเอกสารเกี่ยวกับบุตรแทน ก็ได้ค่ะ แต่มันต้องเกี่ยวข้องกัน และที่ VS ไม่อาเอกสารคงเพราะว่าคุณไม่ได้จดทะเบียน แต่ถ้าคุณบอกว่าสถานภาพไม่โสด มันก็ต้องใช้อยู่แล้วนะ งง นิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรค่ะ คราวหน้าเตรียมเอกสารให้พร้อม ลองไปเช็คในห้องบลูก่อนก็ได้ หรือส่งมาเดี๋ยวช่วยดูให้ จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:09:29

ความคิดเห็นที่ 97 ผมขอคิดแบบของผมนะครับ ผิดถูกอย่าด่ากัน คุณจขกท บอกว่าลูกและสามีถือพาส ปอร์ทประเทศอังกฤษแล้วสามารถเข้าญี่ปุ่นได้เลย ทำไมคุณไม่ให้สามีทำเรื่องให้คุณมีพาส ปอร์ทประเทศอังกฤษแบบของลูกคุณแค่นี้คุณก็เข้าญี่ปุ่นได้แล้วใช่ไหมครับ เพราะคุณเป็นภรรยาชาวอังกฤษประเทศอังกฤษก็น่าออกพาสปอร์ทให้คุณได้ จากคุณ : หอม ใบเตย เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 20:25:47

ความคิดเห็นที่ 98 ตอบคุณหอม ใบเตย (ขออนุญาตตอบแทนเจ้าของกระทู้ค่ะ) การจะมีพาสปอร์ตได้ ต้องเป็นคนสัญชาตินั้นๆ ค่ะ และที่สำคัญคุณเจ้าของกระทู้เค้าไม่ได้จดทะเบียนกับสามีคนอังกฤษค่ะ ดังนั้นในทางกฎหมายก็เหมือนคนโสด ไม่ได้มีภาระผูกพันอะไรทางกฎหมายฉันท์สามีภรรยา ดังนั้นอาจเป็นเรื่องยาก จากคุณ : Travel Animal เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 22:10:04

ความคิดเห็นที่ 99 จขกท.อย่าพึ่งรีบไปครับ กะลังจะทำพิธีมอบตำแหน่ง the best of ....  ให้อยู่แล้วเชียว จากคุณ : togugawa เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 23:24:17

ความคิดเห็นที่ 100 การทำงานแบบญี่ปุ่น คือทำตามกฎ ตามขั้นตอน และตามลำดับชั้นครับ เป็น Nature ของเขา จริงๆส่วนใหญ๋ก็เกือบทุกประเทศครับ เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎเผื่อคนๆเดียวได้ ขอให้เข้าใจเขานิดนึง อีก 6 เดือนก้พยายามใหม่ คราวนี้ก็เอาให้ชัวร์สุดๆไปเลยก็ได้ครับ ถ้าให้แนะนำก็ต้องไปดูตอนแนบเอกสาร ของผมตอนยื่นก็แนบ ใบจดทะเบียนบริษัท ใบผู้ถือหุ้่น สมุดบัญชีตัวเอง ไปด้วยครับเพิ่มความมั่นใจ จากคุณ : Specie (Specie) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 00:14:47

ความคิดเห็นที่ 101 สามีเราไปเรียนซัมเมอร์ที่อังกฤษสมัยมัธยม และไปเที่ยวอีกหลายประเทศ ตอนเรียนมหาลัยเค้าจะไปเมกากับครอบครัว พ่อแม่เค้าได้ 10ปี ตัวเค้าเองต้องยื่นถึง 2ครั้ง ครั้งแรกไม่ผ่าน อีกไม่กี่วันยื่นใหม่จึงผ่าน พอเรียนจบเค้าจะไปเที่ยวเมกาอีก โดนปฏิเสธอีก คราวนี้เค้าบอกเลย ไม่ไปละ จากการโดนปฏิเสธวีซ่าจากเมกาถึง 2 ครั้ง ไม่มีผลอะไรกับการยื่นในประเทศอื่นนะคะ เราไปออสเตรเลีย อังกฤษ ยุโรป ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้วีซ่ามาสบายๆ ค่ะ จขกท สบายใจได้นะคะ อ้อ เราเคยยื่นทั้งที่สถานฑูต และ JVAC เลยรู้ว่า จนท เค้าดึงเอกสารออกเหมือนกันค่ะ อะไรไม่จำเป็นเค้าดึงออกเลย สามีภรรยา ยื่นด้วยกันใช้เอกสารชุดเดียว นอกนั้นดึงออกหมดเลยค่ะ หลังๆเลยรู้ว่าเค้าอยากได้อะไรไม่อยากได้อะไร ไม่ต้องเตรียมเยอะ ที่สถานฑูตใช้เวลาน้อยกว่าอีกนะคะ เอกสารที่เค้าดึงออกของคุณ เค้าไม่นำมาพิจารณาจริงๆค่ะ เค้าเลยดึงออก เช่นพวกจอง รร หรือตั๋วเครื่องบินน่ะค่ะ จนท JVAC เค้่ามีเชคลิตส์นี่คะ อะไรที่สถานฑูตไม่ได้ต้องการ เค้าก็ต้องคัดออกน่ะค่ะ ญี่ปุ่นน่าไปจริงๆ ค่ะ ถ้าไงลองขอใหม่นะคะ เราไปทุกปีไม่เคยเบื่อเลย^^ จากคุณ : ชาตอง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 00:36:25

ความคิดเห็นที่ 102 แสดงว่า ไม่ค่อยได้ดู ซีรีย์ ญี่ปุ่น ง่ะ ดูแล้วคิดได้เลยง่ะ คนทำดีทำในสิ่งที่สังคมต้องการ  แต่ ผิดกฏหมายก้อ ต้องติดคุกง่ะ คนร้ายทุกคนของหนังญี่ปุ่น นิสัยดีๆ ทั้งนั้น ง่ะ อิอิ จากคุณ : ross reel เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 10:45:41

ความคิดเห็นที่ 103 เราเข้าใจว่าคุณเจ้าของกระทู้คงจะเสียใจมากที่ไ่ม่ได้วีซ่า แต่เรื่องที่นำมาเขียนนี่ไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะคะ เห็นชัดๆว่า  คุณยังขาดเอกสารที่สำคัญในการยื่นวีซ่าอีกหลายอย่าง เพราะคุณขาดความเอาใจใส่ในการศึกษาก่อนที่จะไปขอวีซ่า ก่อนที่ไปเที่ยวประเทศไหนก็ตาม เราก็จำเป็นที่ต้องศึกษาก่อนไม่ใช่เหรอคะ ว่าที่นั่นผู้คนเค้าเป็นมีวัฒนธรรมแบบไหน อย่างสุภาษิตโบราณยังสอนไว้เลยว่า เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ขอทิ้งท้ายไว้อีกสักนิดนะคะ การทำความดี ทำบุญต่างๆ พระพุทธศาสนาเค้าสอนให้เราทำด้วยใจที่บริสุทธิ์ ไม่คิดหวังผลตอบแทนคะ จากคุณ : MJ's Girl (MJ's Girl) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 13:26:56

ความคิดเห็นที่ 104 profile ที่ยื่นไปของจขกท.นั้นดูดีมากครับในสายตาของเราๆที่อ่านและคนที่ได้ฟัง แต่ในสายตาของคนในสถานฑูตเค้าอาจะมองอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเค้าก็ปฏิเสธในการออกวีซ่าคุณใน ครั้งนี้ แต่ไม่เป็นไรครับคราวนี้ไม่ได้ คุณก็ลองใหม่สิครับในครั้งหน้าก็มีอีกแค่ 6เดือนเอง คุณต้องเข้าใจน่ะครับประเทศของเขาเราขอไปเข้าบ้านเขา วันนี้เขาไม่ให้เข้าบ้าน เพราะอะไรไม่มี ใครรู้  ถ้าคุณไม่ชอบเจ้าของบ้านนี้แล้ว คุณก็ไปขอเข้าบ้านหลังใหม่ บ่านหลังใหม่ก็อาจจะให้ คุณเข้าบ้านมาชมบ้านเค้าก็ได้น่ะครับ จากคุณ : jray เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 14:51:25

ความคิดเห็นที่ 105 ให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ ไม่ต้องเสียใจไปนะคะ ไปเที่ยวที่อื่นแทนก็ได้ค่ะ :) ส่วนตัวไปญี่ปุ่นมาแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่เลย อาจจะเพราะว่าเคยได้ยินคนพูดถึงแต่เรื่องดีๆ เรื่องมีระเบียบ ดีอย่างงั้นอย่างงี้ เลยตั้งความหวังไว้สูง เคยเป็นประเทศในฝันที่อยากไปมาก แต่ไปถึงก็งั้นๆ เมืองไม่ได้สะอาด เรียบร้อย หรือคนจะมีระเบียบอย่างที่จินตนาการไว้แม้แต่นิดเดียว ..คือถึงกับต้องกลับมาคิดว่าทำไมคนถึงชอบอวยกันนัก (คืออาจจะมีระเบียบกว่าบ้านเราแต่หลายประเทศ ในยุโรปมีระเบียบกว่านั้นมาก คนก็ดูเก็บกด ไม่จริงใจ แปลกๆ ใช้คำว่าขาดๆเกินๆน่าจะได้) ถ้าถามคนต่างชาติเค้าก็ว่าญี่ปุ่นขาลงแล้วทั้งนั้น ไปเที่ยวเกาหลีดีกว่าค่ะ ไม่ต้องง้อ ประเทศเกาหลีบางอย่างอาจจะยังไม่พัฒนาเท่าญี่ปุ่น แต่ถ้าจะเปรียบเทียบลักษณะบ้านเมือง ความเป็นระเบียบ ก็อารมณ์เดียวกันนะคะ อาจพูดได้ว่าเป็นญี่ปุ่นสมัยกำลังพัฒนา เป็นน้องๆที่กำลังจะเป็นหนุ่มเป็นสาว ปล. คิดซะว่า..ผิดหวังตั้งแต่ตอนขอวีซ่าดีกว่าไปถึงที่ แล้วต้องผิดหวังกลับมาแบบเรานะคะ :) จากคุณ : cookiecoco เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 55 23:26:13

ความคิดเห็นที่ 106 ญี่ปุ่นเค้าแยกเรื่องบุญคุณกับกฏเกณฑ์ออกจากกันนะคะ ไม่เช่นนั้นประเทศเค้าคงไม่มีระเบียบวินัยมากขนาดนี้ ถ้าจะโอนอ่อนผ่อนตามด้วยความเห็นใจ ใช้ความรู้สึก ไม่งั้นคงจะเละแบบประเทศเราที่ปัญหาคอรรัปชั่นมีมากจนอันดับประเทศตกไปอยู่ลำดับที่ 88 จาก 170 กว่าประเทศ ก็ไม่ใช่ เห็นใจ ช่วยเหลือพวกพ้อง อ้างบุญคุณอยู่แบบนี้หรือ การที่เราไม่ผ่านมีอะไรที่ติดขัด ตรวจสอบเลย แล้วแก้ไขให้ถูกต้อง และอย่าเร่งรัดเวลาอ้างว่าจอง รร แล้ว จองตั๋วแล้ว เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ของเค้าที่ต้องเอาตัวนี้มาเป็นเงื่อนไขเร่งรัดให้พิจารณาเร่งรีบ ที่สำคัญ กฏเกณฑ์ต่างๆ เราควรตรวจสอบก่อนว่า มีอะไรบ้าง ต้องทำอะไรบ้าง ใช้ข้อมูลอะไรบ้าง ไม่ได้ไปในครั้งนี้ แต่ครั้งหน้าก็ยังมี เรายังไม่ได้โลกจะแตกในวันสองวันนี้ ไปอีกสามปีข้างหน้า ก็ยังไม่ถือว่าทำลายความฝันเด็กหรอกค่ะ เพียงแค่ครั้งนี้ยังไม่พร้อมเท่านั้นเอง แต่ถ้าลูกรอไม่ได้ ต้องไปในครั้งนี้เท่านั้น คุณก็ให้พ่อลูกไปกันเอง เช่นพ่อลูกไปเที่ยวญี่ปุ่น 4 วัน จากนั้นนั่งเครื่องไปเที่ยวต่อเกาหลี ส่วนคุณตามไปเจอที่เกาหลี และถ้ายังเสียความรู้สึกแบบนี้ เราว่าคงไปแบบไม่มีความสุข จากคุณ : แมวสีขาวขนปุย เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 06:31:12

ความคิดเห็นที่ 107 เราว่าวีซ่าญี่ปุ่นของ่ายมากๆนะคะ ไม่เห็นเหมือนที่หลายคนบอกเลย ส่วนมาก เราเข้าใจว่าที่เค้าไม่ให้ผ่าน เพราะเอกสารไม่ครบนะคะ เท่าที่อ่านจากบอร์ดที่นั่น แล้วก็ถามๆจนท.มา ถ้าครบ ส่วนมากเค้าก็ให้ อีกอย่าง ของญี่ป่นเค้าใช้ outsource ทำงานนะคะ ไม่ใช่จนท.สถานทูต .... เข้าใจว่าเค้าจ้างคนนอกทำเรื่องในส่วนนี้เลย คงไม่เกี่ยวกับสถานทูตมั้งคะ ส่วนที่จขกท.บอกว่าเค้าไม่อลุ้มอล่วย ..... เราว่าคุณน่าจะเข้าใจคนญี่ปุ่นผิดแล้วค่ะ คนญี่ปุ่นเค้าวินัยสูงนะคะ ทำตามกฎเคร่งครัด ก็ขนาดเราไปดิสนีย์แลนด์ เห็นเด็ก 3-5 ขวบยืนต่อคิวเป็นชม.เพื่อนเล่นเครื่องเล่นน่ะค่ะ ไม่มีใครเอาเด็กมาอ้างขอทางลัดเลย เพราะเด็กทุกคนก็ต้องรอทั้งนั้น เพื่อนเรายังบอกเลยว่าที่คนญี่ปุ่นอดทน มีมารยาท มีวินัย สงสัยเพราะมาฝึกที่ดิสนีย์แลนด์ตั้งแต่เด็ก ....... แล้วยิ่งกฎการเข้าประเทศแบบนี้ ไปขอให้เค้าช่วยทั้งๆที่กฎมันชัดอยู่แล้วและเหตุผลที่ขอไม่ได้พิเศษถึงชีวิต เราคิดว่าปกติมากที่เค้าจะไม่ให้ค่ะ ปล. ส่วนนึงเราเข้าใจจขกท.นะคะ ที่อยากให้ลูกได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่เราว่าอีกส่วน นี่น่าจะเป็นโอกาสที่คุณจะสอนเค้าให้รู้จักยอมรับความผิดหวังในชีวิตค่ะ คนเราไม่มีใครได้ทุกอย่างที่ต้องการ .... เมื่อเราพบกับความผิดหวัง สิ่งที่เราทำได้ คือ ต้องยอมรับและอยู่กับความผิดหวังได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 55 14:23:34 แก้ไขเมื่อ 08 ธ.ค. 55 11:31:07 จากคุณ : MooNymph เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 11:29:41

ความคิดเห็นที่ 108 ไกด์เคยเล่าให้ฟังว่า มีบริษัทนึงทำกำไรดีมาก ปีนั้นเจ้าของบริษัทให้โบนัสพนักงานโดย พาไปเที่ยวญี่ปุ่น และแล้ว พนักงานทุกคนขอวีซ่าผ่านหมด ยกเว้นเจ้าของบริษัท จากคุณ : องศาที่361 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 55 20:40:54

ความคิดเห็นที่ 109 พอดีเข้ามาหาข้อมูลท่องเที่ยว หลงชื่นชมห้องblue ตอนนี้ไม่กล้าล้าาาา องค์รักษ์พิทักณี่ปุ่นมากจนผมขยาด จขกท โดนห้องชานเรือนล่อให้มาห้องblue แล้วก็โดนห้องblue ลุมขย้ำ ซ้ำเติมจนหนีออกไปแล้ว!! คห. สร้างสรรค์มีน้อยมาก บ้างก็ตั้งข้อจับผิดเค้าบ้างละว่าต้องมีโดนแบลคลิส มาบ้างละ ประวัติไม่ดีบ้างละ ผู้ชายหลายคนก็ลุมด่าเค้าแบบช่างกลกรูยกพวกด่า แกด่ามากรูด่าต่อ บ้างก็กระแนะ กระแหนเค้าจะให้รางวัลโน่นนี่ ผมว่าคุณไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลย? ผู้หญิงหลายคนที่ไปรุมด่าเค้า ดูถูกเค้า คุณกำลังดูถูกเพศแม่ เพศเดียวกับคุณเพียงเพราะ ?? พวกคุณไม่มีความเป็นแม่เอาซะเลย สะจัยยกันมากเลยใช่ใหมครับที่พวกคุณรุมด่าคนไทยกันเอง? ผิดมากหรือครับที่จะมีใครซักคนไม่ชอบญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลของเขา หรือ ไม่ร้องไม่เต้นกัมนังสไตส์ ไม่คลั่งต่างชาติไดชาติหนึ่ง วันนี้ พวก คุณอาจเพียงโชคดีกว่าเค้าที่ได้วีซ่า ...... ปล. ผมหมายถึงบาง คห ในกระทู้นี้เท่านั้น จากคุณ : Joey เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 55 00:06:01 A:27.55.130.161 X: TicketID:384682