ความคิดเห็นที่ 1   ภาพถ่ายหน้าที่พัก ฤดูหนาว ต้นไม้กลายเป็น กิ่งไม้แห้งยืนต้น ไม่รู้เพราะอะไร ฉันกลับรู้สึกชอบ.... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:21:04

ความคิดเห็นที่ 2   ค่าโทรศัพท์ในต่างประเทศ เมื่อเดินออกจากบ้านพัก... ฉันหยิบโทรศัพท์ ตั้งใจจะโทรหาเพื่อน แต่สายไปแล้ว เพื่อน sms มาบอกตั้งแต่แปดโมงว่า จะไปไหนดี... ตายละ มัวแต่นอนไม่รู้เรื่อง เพื่อนมันคงบ่นอุบไปแล้ว... ที่ลอนดอน ระบบโทรศัพท์เหมือนกับบ้านเรา ดังนั้นใครที่ไม่อยากเปลี่ยนซิม หรือเปิดเครื่องไว้ตลอดสามารถเปิดบริการ Roaming กับเจ้าของเครือข่ายได้ และเมื่อถึงลอนดอนสามารถเปิดเครื่องของเราใช้งานได้เลย แต่แนะนำว่าให้ศึกษาอัตราค่าบริการให้ละเอียด ไม่งั้นอาจช๊อคตายกับบิลเรียกเก็บได้.. หากรายละเอียดเยอะ จำไม่ได้ ก็จำง่ายๆ ว่า รับสาย แพงกว่าโทรออก... Sms หรือการรับ – ส่ง ข้อความบนมือถือ นั้น รับเข้าฟรี ส่งออกเสียตังค์ เท่านั้นเอง ที่ควรจำ ที่ลอนดอน Sms 1 ครั้ง ค่าส่งครั้งละ 10 บาท แต่ถ้าโทรออก ก็เสียมากกว่า 50 บาท ต่อ นาที และรับสายจะยิ่งแพงกว่าโทรออก คิดได้ดังนั้น...เอาไว้ออกจากบ้านแล้วค่อยไปหยอดตู้โทรแล้วกัน ใครที่ใช้บริการโทรศัพท์ในเครือข่ายทรูมูฟ แบบรายเดือน ก็ไปดูรายละเอียดการนำเครื่องไปใช้ต่างประเทศที่นี่นะ http://www.truemove.com/TH/06_ir_out_1_post_ready.html ของบริษัทอื่นๆ หาเองเน้อ ขี้เกียจ บังเอิญว่าฉันใช้ ทรูมูฟ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:21:35

ความคิดเห็นที่ 3   ตู้โทรศัพท์ ในลอนดอน เมื่อแรกที่ฉันออกเดินจากบ้าน เพราเช้านี้คือเช้าวันแรกสำหรับฉันในกรุงลอนดอน ตั้งใจว่า จะเดินชิวๆ สูดอากาศหนาวแสนสดชื่นยามเช้า เริงร่ากับความเย็นไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ แต่อีกใจก็กังวล ว่าเพื่อนอยู่ไหนกันแล้ว เมื่อวานพวกเราไม่ได้นัดสถานที่และเวลา ดังนั้น เช้านี้จึงต้องติดต่อกันเพื่อถามไถ่ แต่มองดูนาฬิกาอีกที...ตายละ เกือบสิบโมงแล้ว! ยังไม่ได้ทำไรเลย อีก 6 ชั่วโมง ฟ้าก็จะมืดแล้วนะ.. ไม่ได้การละ ไม่ต้องโทรแล้ว...sms เลยละกัน ฉัน sms ไปบอกเพื่อนว่า “วันนี้ไป Trafalgar Square กันนะ เจอกันที่สถานีตอน 10 โมงครึ่ง” เพื่อนตอบมาว่า OK.... จากบ้าน Russell Square ฉันไปถึงสถานี Leicester Square ด้วยเวลาไม่ถึง 15 นาที ฉันบอกเพื่อนว่า จะรอที่ทางออก โดยปกติทางออกจากสถานีรถไฟใต้ดินที่ลอนดอนมักจะมีทางเดียว ไม่เหมือนบ้านเราที่ทุกสถานี จะมีทางออกได้หลายทาง แต่สถานีนี้ ไม่ใช่... มีทางออกเยอะมาก หากจะนัดกัน ต้องนัดให้ดีว่าจะเจอกันที่ทางออกไหน ว่าแล้วก็ถ่าย (สาร) รูป ตัวเองไว้เป็นที่ระลึก จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:22:43

ความคิดเห็นที่ 4   Subway Fast food ราคาถูก ของลอนดอน เมื่อไปถึงนั่งรอเพื่อนอยู่ราว 10 นาที...เพื่อนไม่มา!! แถวนั้นมีตู้โทรศัพท์หยอดเหรียญ ฉันเลยใช้เหรียญที่มีลองโทรหาเพื่อน หยอดเหรียญมือเป็นระวิง หมดไปเกือบ 1 ปอนด์ ได้คำตอบว่า เพื่อนจะมาสาย ให้เดินเล่นไปก่อน.... มารู้ทีหลังว่า...เพื่อนยังเดินอยู่ในตลาดขายดอกไม้แถวที่พักย่าน Liverpool Street อยู่เลย -_-‘ แค้นนัก!!!! เกือบ 11 โมงแล้ว เริ่มหิว.... สภาพร่างกายคงเริ่มงง ทำให้หิวบ่อย แล้วนี่ฉันหิวข้าวเย็นหรือข้าวเที่ยงล่ะเนี่ย??? ใกล้ๆ บริเวรทางขึ้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน มีร้าน Subway อยู่ ฉันเห็นราคาพิเศษในแต่ละวัน วันนั้นเป็นวันอาทิตย์ แซนวิชราคาพิเศ แค่ 1.99 ปอนด์ เสร็จฉันล่ะ...เหนืออื่นใดที่ทำให้อยากนั่งพัก...เพราะในร้านอุ่นมาก...อุ่นจนร้อน มื้อนี้ฝากท้องไว้ที่นี่แล้ว Subway ลอนดอน (ไม่มีรูป ไม่เข้าใจว่ารูปของเช้าวันนี้ หายไปไหนหมด -_-‘ ) แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 53 20:01:32 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:27:07

ความคิดเห็นที่ 5   เริ่มต้นวันนี้ที่ Trafalgar Square วิธีการเดินทางไป http://www.london.gov.uk/trafalgarsquare/visit/travel.jsp จากจุดนี้แล้วจะไปต่อที่ไหน ไม่ต้องกังวลกับเรื่องยานพาหนะ เพราะ “เท้า” ของคุณนั่นแหละ คือ พาหนะชั้นเยี่ยม ใส่รองเท้าที่เดินสบายๆ จะทำให้ไปได้ไกล (อนาคตไกลได้โดยไม่ต้องมีค่ารถ) Trafalgar Square ว่ากันว่า Trafalgar มาจากภาษาอารบิก อ่านเป็นภาษาไทยๆ เรา คือ ทราฟัลการ์ แสควร์ หรือ จตุรัสทราฟัลการ์ เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอนุสรณ์สถานของสงครามทราฟัลการ์ หรือสงครามวอเตอร์ลู ระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1805 มีอนุสาวรีย์นายพลเนลสัน และล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติ (National Gallery) โบสถ์เซนต์มาร์ตินอินเดอะฟีลด์ (Saint Martin in -the – Fields church) นอกจากนี้จัตุรัสทราฟัลการ์ เป็นสถานที่ที่ใช้ในงานเฉลิมฉลอง ตลอดจนการประท้วงต่าง ๆ หลายหน (ภาพจากเน็ต) จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:28:33

ความคิดเห็นที่ 6   ลองมาอ่านเรื่องราวเชิงประวัติศาสตร์ของจัตุรัสแห่งนี้กัน (ลอกเขามา) จัตุรัสประกอบด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ใจกลางมหานครลอนดอน ห้อมล้อมด้วยถนนทั้ง 3 ด้าน และมีบันไดกลางขนาดใหญ่ที่จะนำไปสู่หอศิลป์แห่งชาติในด้านที่ 4 ของจัตุรัส และยังมีถนนตัดผ่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข A4 ซึ่งถนนที่ห้อมล้อมทั้งหมดใช้ระบบการจราจรรถวิ่งทางเดี่ยว (One-way traffic system) อ่านแล้วคงนึกภาพไม่ออก (ฉันก็นึกไม่ออก เพราะไปเห็นแบบวิ่งผ่าน) เลยไปหาภาพจากเน็ตมาให้ดู เป็นภาพมุมสูง สีฟ้าที่เห็น เป็นน้ำพุ ว่ากันว่า แต่เดิมมีอีก 2 อัน ต่อมาถูกย้ายไปตั้งที่สวนในกรุงออตโตว่า แคนาดา (ภาพจากเน็ต) แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 53 21:22:44 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:29:16

ความคิดเห็นที่ 7   เสาปูนเนลสัน ตั้งอยู่ตรงการของจัตุรัสออกแบบ โดย เซอร์ เอ็ดวิน ลุตเย็นส์  ในปี ค.ศ. 1939 ด้านบนสุดของเสาหินคือรูปแกะสลักของ พลเรือเอกโฮเรทิโอ เนลสัน ผู้ที่บัญชาการนำในการรบที่สมรภูมิทราฟัลการ์ รูปแกะสลักสิงโตบรอนซ์ ออกแบบโดย เซอร์ เอ็ดวิน แลนเซียร์ ส่วนโลหะได้มาจากการรีไซเคิลของปืนใหญ่ของฝรั่งเศส เสาปูนเนลสันนี้สูงมาก....สูงจนมองไม่เห็นมิสเตอร์เนลสันที่ยอด เป็นเสาที่มองเห็นเด่นอยู่เสาเดียวมาแต่ไกล แต่จริงแล้ว...อย่างที่บอกว่าตอนไปน่ะ ฉันไม่มีข้อมูลไรอยู่ในหัวเลย จึงทำให้ไม่รู้ว่า บนยอดนั้น มีมิสเตอร์เนลสัน ยืนอยู่ กร๊ากกกก เวลาถ่ายรูป เลยได้มาอย่างที่เห็น.... แค่เสากะสิงโต... พอตอนมาเขียนรีวิว นี่ แหละ ถึงได้รู้ว่า ยอดที่เราไม่ได้ถ่ายมานั้น.... มีมิสเตอร์เนลสัน ยืนอยู่อย่างเดียวดาย.....แต่สง่างาม (ภาพจากเน็ต) จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:30:12

ความคิดเห็นที่ 8   ว่าแล้ว ก็สวมวิญญาณนักท่องเที่ยว ถ่ายรูปกับสิงโตและเสาไว้เป็นทีระลึก เอ่อ คุณเพื่อนก็พยายามเหลือเกินที่จะให้ได้ครบทุกอย่าง สิงโต เสา และ คน??? จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:31:45

ความคิดเห็นที่ 9   ตอนที่ฉันไปเป็นช่วงคริสมาสตร์ ฉันควรจะได้เห็นภาพสวยๆ แบบนี้ แต่บอกแล้วว่า ไม่รู้อะไรเลยซักอย่าง.....สุดท้ายพอไปค้นเจอภาพจากเน็ต โอ....มายกู๊ด มันช่างสวยงามอะไรปานฉะนี้ เจ็บใจนัก ไปถึงที่ก็ยังไม่ได้เห็น!!! (ภาพจากเน็ต) จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:33:20

ความคิดเห็นที่ 10   น้ำพุบริเวณนี้สวยมาก..... สายน้ำเป็นละอองดูแล้วให้ความรู้สึกอ่อนนุ่ม น่าสัมผัส แค่คิดก็พอ อย่าได้ทำเชียว...มันหนาว...... (ภาพจากเน็ต) จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:34:22

ความคิดเห็นที่ 11   ส่วน จขกท. ตอนไปเดินก็ไม่ได้รูปสวยๆ เลยซักรูป เพราะมัวแต่หนาว มือแข็ง เวลาก็น้อย รีบๆ ลกๆ ไม่รู้จะทำไรดี น้ำพุได้แต่ดูว่าสวยแต่ดันไม่ถ่ายรูป พอถ่ายรูป ดันถ่ายนางเงือก... -_-‘ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:36:10

ความคิดเห็นที่ 12   ย่านนี้เป็นย่านรวม Landmark หรือ สัญลักษณ์ของลอนดอนไว้เกือบหมด ถ้าขยัน ชอบเดิน ไม่ท้อ ก็เดินชมได้ทั่วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น... ฮ่าๆ... จะบอกว่า จากคห. 0 จนมาถึงบรรทัดข้างบนนี้ เขียนไว้ค้างเติ่งตั้งแต่หกเดือนที่แล้ว ตั้งใจว่าจะเขียนให้จบ แต่ก็ยุ่งงานยุ่งการ และก็มีอันต้องได้เดินทางกลับไปยุโรปหน้าร้อนอีกแล้ว ทำให้ของเก่าเขียนไม่จบ ของใหม่ก็มาอีกแล้ว... อยากเขียนเยอะๆ อยากเล่าทุกอย่างที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ แต่ทว่าไม่มีเวลาเอาเสียเลย... -_-‘ เราเลยเปลี่ยนความคิดว่า เราจะเขียนแบบสั้นๆ ไม่อธิบายและลงรูปอย่างเดียว อิอิ เพราะอีกใจก็อยากแชร์รูปเผื่อว่าหลายท่านที่กำลังจะไป เอาไว้ใช้เรียกน้ำย่อยไปพลางๆ ซักหน่อย แต่อีกทีก็อยากเขียนเยอะๆ เพื่อแชร์ข้อมูลที่มีอยู่ เอาเป็นว่า เขียนทีละประเทศไปเลยดีกว่า ไม่ต้องเขียนตามวันที่ไปแระ คริคริ งั้นมาต่อกันดีกว่า...เริ่มที่ หอนาฬิกา Big Ben จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:36:58

ความคิดเห็นที่ 13   อ่ะ ลงรูปผิดมุม Big Ben เป็นหอนาฬิกาที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของลอนดอนเลยทีเดียว ใหญ่มาก เมื่ออยู่ย่านนั้น ยืนมองจากมุมไหนก็เห็น สวยงาม...โดดเด่น ภาพคห. 12 ถ่ายจากอีกฝั่งของแม่น้ำ แต่ภาพนี้ถ่ายจากถนน แยกไฟแดงที่กำลังจะข้ามถนน จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:39:09

ความคิดเห็นที่ 14   อ่ะ เริ่มสับสนแระ จาก คห. 11 ก่อนจะเดินเรื่อยมาจนถึง Big Ben ระหว่างทางมีพิพิธภัณฑ์ให้ชมมากมาย ดังเช่นภาพนี้ เป็น The National Gallery, London รวบรวมรูปภาพในสมัย Western European painting 1250–1900 www.nationalgallery.org.uk จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:42:24

ความคิดเห็นที่ 15   เดินเรื่อยลงมาตามถนน...(อะไรไม่รู้ ฮ่าๆ) จะเจออะไรประมาณนี้... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:43:15

ความคิดเห็นที่ 16   ข้างทางก็จะมีแบบนี้..กำลังเปลี่ยนเวรยาม จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:44:00

ความคิดเห็นที่ 17   ม้าตัวใหญ่มากกกกกกก ใหญ่เหมือนและดูทะมึน น่ากลัว เหมือนในหนัง เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง เลย ว่าแล้วก็สวมวิญญาณนักท่องเที่ยวอีกแล้ว.. กล้าๆ กลัวๆ ยักแย่ ยักยัน เข้าไปยืนถ่ายกับม้า ถ่ายเสร็จแล้วออกมายืนดูคนอื่นถ่าย ถึงได้เห็นป้ายคำเตือน (มองไปที่ด้านหลังม้า) จะ อึ๋ยส์ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:46:13

ความคิดเห็นที่ 18   เดินไปเรื่อยๆ เห็นรถเมล์ก็ถ่ายรถเมล์ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:48:20

ความคิดเห็นที่ 19   A-Ha ก่อนจะข้ามฟากไปหาเจ้าบิ๊กเบนใกล้ๆ ก็ทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวเช่นเคย.. ฉันมาถึงแล้วนะจ้ะ ลอนดอน จ๋า จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:50:01

ความคิดเห็นที่ 20   เดินไปเรื่อยๆ ก็เก็บภาพไปเรื่อยๆ ในวันนั้นไม่รู้อะไรเป็นอะไร จนวันนี้ก็ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรอีกเช่นเคย ฮี่ๆๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:51:53

ความคิดเห็นที่ 21   ใหญ่โต อลัง มากๆๆๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:52:34

ความคิดเห็นที่ 22   พี่บิ๊ก อีกซักมุม แบบ Close up งามจริงๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:54:07

ความคิดเห็นที่ 23   เดินไปเรื่อยๆ เดินๆ เดิน (เพื่อนเริ่มบ่น) เรากำลังจะไปข้ามสะพาน เพื่อไปฝั่งที่มีลอนดอนอาย.. เดินผ่านสวน สวยแต่หนาวมากกกก จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:55:38

ความคิดเห็นที่ 24   ในสวน ต้นไม้ฤดูหนาว ต่างไร้ใบ.. มองลอดไป เห็นลอนดอนอายไหวๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 19:58:42

ความคิดเห็นที่ 25   และจากภาพใน คห. 24 เราก็พบว่า "พวกเราเดินอ้อม" ฮ่าๆๆๆ จากแยกตรงบิ๊กเบน สามารถเดินข้ามสะพานแล้วจะเจอลอนดอนอายได้เลย แต่ในบางครั้ง การเดินหลงก็ทำให้เราได้พบอะไร ใหม่ๆ เหนือความคาดหมาย อย่างเช่น ทำให้เรารู้ว่าที่เราเดินหลงมาตั้งไกลเพื่อข้ามไปนั้น ชื่อ Lambeth ฮี่ๆๆ ปลอบใจตัวเองไปเรื่อยๆ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:03:43

ความคิดเห็นที่ 26   ข้ามสะพานมา มองย้อนกลับไป ก็จะได้ภาพนี้ สวยงาม ตระการตายิ่งนัก (แต่ภาพถ่ายได้ เหวอ และ เบลอ สุดๆ ) -_-' จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:04:48

ความคิดเห็นที่ 27   แล้วก็เอาหน้าตัวเองไปแปะไว้ในรูปนั้น จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:11:35

ความคิดเห็นที่ 28   เดินไปก็เจอต้นไม้ไร้ใบ ตลอดทาง ชอบจัง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:13:41

ความคิดเห็นที่ 29   ช๊อบ ชอบ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:17:18

ความคิดเห็นที่ 30   บ้า ๆ บอ ๆ กัน จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:18:33

ความคิดเห็นที่ 31   ระหว่างรอข้ามถนน ก็เจอคู่บ่าวสาว กำลังถ่ายรุป หนาวๆ แต่ เขาคนมีคู่ คงอุ่นกว่าเราคนโสด คริคริ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:20:10

ความคิดเห็นที่ 32   แอบตามมาดูค่ะ ~ กำลังแพลนทริปช่วงปีใหม่อยู่ อีก 1 ใน checklist ที่ต้องไปในชีวิตนี้ พี่บิ๊ก !!! ^__^ จากคุณ : @ri (@ri) เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:20:59

ความคิดเห็นที่ 33   กำลังจะข้ามถนน เห็นหนุ่มน้อยคนนี้ปั่นจักรยาน อย่างไว น่าสนุกจัง อากาศดีมากกกกก ฟ้าใส แดดสวย และ หนาว จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:22:37

ความคิดเห็นที่ 34   พอไปถึงลอนดอนอาย เราก็ตกลงใจกันว่า นั่งพัก หลบหนาวก่อนเถอะ มือแข็งหมดแย้ววว หน้าชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ จะมีร้านอาหารและวอฟเฟิล เต็มไปหมด ราคาที่ติดจะติดแบบถูกๆ แต่พอสั่งเข้าจริง ไอ้เจ้านี้ปาเข้าไปเกือบ แปดปอนด์ (เล่นสั่งซะครบเครื่อง) น้ำตาเล็ด น้ำตาหยด ตอนเคี้ยว... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:26:01

ความคิดเห็นที่ 35   ยืนมองและคุยกันว่า จะขึ้นไหม Concept หนึ่งคือว่า มาถึงแล้วนี่ จะรอทำไม... แต่อีกใจก็บอกว่า มันแพงนะเว้ย.. งั้นยืนมองไปก่อน ตัดสินใจก่อนว่าจะขึ้นมะ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:28:21

ความคิดเห็นที่ 36   สุดท้ายไม่รู้อะไรดลจิต บันดาลใจให้ซื้อตั๋วขึ้นลอนดอนอาย... รู้สึกตัวอีกที ก็มายืนอยู่ในเจ้าแคปซูล เพื่อมองออกไปยังแคปซูลตัวอื่นซะงั้น -_-' ซื้อตั๋วอย่างแพง กว่า 17 ปอนด์ เพื่อไปยืนเฉยๆ เพราะไม่ได้ตื่นเต้นเอาเสียเลย แม้ว่าจะอยู่บนจุดสูงสุด.. ระบบภายในนิ่งมาก.... นิ่งจน น่าเบื่อ แหมไอ้เราก็นึกว่าจะเหมือนรถไฟเหาะ.. จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:30:08

ความคิดเห็นที่ 37   สวสัดีค่ะ คุณ @ri  ยินดีค่ะ ไปด้วยกันเลย วันนี้โพสต์แบบเหงา เพราะเอาของเก่าที่ค้างไว้มาโพสต์ แล้วมุกแป๊ก เขียนไม่ออก.. แต่ก็ไม่อยากดองไว้ ถ้ามีโอกาส ไปดูกระทู้เก่าๆ ได้นะคะ ตามลิงค์ที่แตกประเด็นมาได้เลยค่ะ ================== มาต่อที่เจ้าแคปซูล มองออกไปด้านนอก ก็สวยดีเหมือนกัน ยามพระอาทิตย์พลบค่ำ..(บ่ายสี่โมง) เลยเริ่มทำใจยอมรับได้ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:32:11

ความคิดเห็นที่ 38   มองลงไปอีกด้าน จะเป็นสะพานข้ามเข้าไปในสถานีรถไฟ Waterloo (ใช่ไหมอ่ะ ฮ่าๆ ) จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:33:13

ความคิดเห็นที่ 39   ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ก็ถึงเวลาลงซะแระ... >_< จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:33:57

ความคิดเห็นที่ 40   เมื่อลงมา เราก็พากันเดินออกไปเพื่อจะไปขึ้นรถไฟไปหาเพื่อนของเพื่อน ที่นัดกันว่าจะมาเจอที่สถานี Waterloo มองย้อนกลับมาก็จะเจอพี่ลอนดอนอาย ในสภาพแบบนี้ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:37:39

ความคิดเห็นที่ 41   ขำชื่อกระทู้มากๆ เลยค่ะ ... ควันในลอนดอนเยอะจริงๆ ด้วย ดูรูปแล้วคิดถึงลอนดอนจัง ^^ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:38:03

ความคิดเห็นที่ 42   อืม ทุกครั้งที่มองภาพฝีมือตัวเองในคห. 40 และ ข้างล่างนี้ รู้สึกเหมือนฝันที่เป็นจริงยังไม่รู้ เพราะตอลดเวลาที่ผ่าน นั่งอ่านรีวิวที่ห้องนี้ ก็ฝันเพ้อไปทุกทีว่า จะต้องไปเห็นของจริงให้ได้... และแล้วฉันก้ได้มาลอนดอน และได้นั่งลอนดอนอาย แล้วด้วย.... เย้ เย้ จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:39:39

ความคิดเห็นที่ 43   ตกเย็นวันนั้น นัดไปเจอน้องที่ร้าน Belgo เพื่อกินหอยแมลงภู่อบไวน์ขาวและเบียร์เบลเยี่ยม ร้านอยู่ตรง... จำไม่ได้แล้วอ่ะ Soho หรือ Central มั้ง ฮ่าๆๆ มั่วไปเรื่อยๆ เลยจริงๆ เรา  ลองไปดูมนเว็บเขาแล้วกัน มีหลายสาขาในลอนดอน แต่ที่อร่อย เราว่าอยู่ตรงสาขาที่เราไป (ซึ่งยังไม่รู้ที่ไหน ไว้จะบอกน้องชายมาตอบ อิอิ)   http://www.belgo-restaurants.co.uk หม้อนี้ หอย 1 กิโล สนนราคา 12 ยูโร และเบียร์แก้วล่ะ....เท่าไหร่ไม่รู้ จำไม่ได้ (อีกแระ) ฮ่าๆๆ แต่จำได้ว่า บรรยากาศในร้านอบอุ่น คนแน่นร้าน กว้างขวาง สะอาด และที่สำคัญห้องน้ำดีไซน์สุดๆ (หาที่เปิดก๊อกน้ำแทบไม่เจอ -_- ) จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:41:02

ความคิดเห็นที่ 44   กินกับเบียร์เบลเยี่ยมแบบต่างๆ มีให้เลือกมากมาย ทั้งเบียร์แอ๊ปเปิ้ล ยัน เบียร์ช๊อกโกแลต จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:42:05

ความคิดเห็นที่ 45   ออกจากร้าน Belgo เราก็ตรงไปกินเบียร์ที่ร้านสไตล์ English Pub พอไปถึง โอ้โห นี่มัน Robin hood ผับหน้าที่ทำงานชัดๆ เพราะอะไร... เพราะบรรยากาศ ผู้คน กลิ่นไอ มันเหมือนกันเด๊ะเลย มาถึงที่ลอนดอนถึงได้รู้ว่าทำไมเขาเรียกว่าผับแบบนั้นว่า English Pub อ๋อ...มันเป็นอย่างงี้นี่เอง จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:42:54

ความคิดเห็นที่ 46   ผับที่นี่ปิดห้าทุ่ม   15 นาที ก่อนที่ร้านจะปิด จะมีชายร่างยักษ์ สั่นกระดิ่ง เป้ง เป้ง พร้อมกับตะโกนว่า "LAST ORDER" ทำเสียงทุ้มๆ ต่ำๆ นึกถึงภาพคนอ้วนในหนังฝรั่งพูด ออกไหมคะ? พอได้ยินเสียงนั้น เราต้องรีบสั่งเบียร์มาตุนไว้ เพราะที่นี่เขาปิดคือปิดจริงๆ ยังนั่งต่อได้อีกนิดหน่อยซักชั่วโมง ถ้าติดลม แต่ไม่มีเบียร์ขายนะจ้ะ ว่าแล้วเราก็ทำตัวตามสบาย ถ่ายรูป ชิว ชิว ไปเรื่อยๆ ดื่มด้วยกันม้ายยยยย ชน... จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 20:54:00

ความคิดเห็นที่ 47   จบวันที่  2 อย่างอ่อนล้า และจบตอนที่ 4 แบบรวบรัด -_-‘ สวัสดีค่ะ คุณ Clear Ice ใช่ค่ะ ควันดำจริงๆ แต่ก็ยังคิดถึงลอนดอนอยู่ดี ==================== สรุปสุดท้าย...ที่ตั้งชื่อตอนว่า "มหานครควันดำในโพรงจมูก" ก็เพราะว่า อากาศหนาวและแห้ง ทำให้เส้นเลือดฝอยในจมูกแตกปนกับขี้มุกเลยเป็นเลือดออกมา ทีนี้ วันแรกๆ อยู่ลอนดอนก็เดินทางโดยรถใต้ดินตลอด พอกลับถึงบ้านสั่งขี้มูกตอนอาบน้ำจะเป็นสีดำๆ เป็นควันเขม่าออกมาตลอด จนวันนึงขณะที่ยืนรอรถใต้ดินอยู่นั้น โผล่หน้าออกไปดูจังหวะที่รถไฟกำลังวิ่งเข้าชาญชาลา โอ แม่เจ้า.....เขม่าโขมง เลยทีเดียว... มันมาจากใต้ดินนี่เอง เจ้าขี้มูกดำแห่งมาหนครลอนดอน!!! ขออภัย ไม่สามารถมีภาพประกอบ ==================== คาดว่าตอนที่ 5 อาจะไม่มี แต่คงจะมาแนวภาพรวมของแต่ละเมือง ไว้เจอกันใหม่ เมื่อเวลา อำนวย จ้า... =================== สำหรับท่านที่กำลังมองหาข้อมูลการเดินทางยุโรป ลองตามไปที่ทู้เก่านะคะ ตอนที่ 1  ยุโรปเมืองในฝัน : ตอน หาเรื่อง http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8969582/E8969582.html ตอนที่ 2 ยุโรปเมืองในฝัน : ตอน บินไปกับแขก http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8970729/E8970729.html ตอนที่ 3 ยุโรปเมืองในฝัน (3) : ตอน หนาวลอนดอน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9052062/E9052062.html จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 21:06:14

ความคิดเห็นที่ 48   วิวลอนดอนอายสวยมากๆครับ บรรยายเบียร์รสต่างๆซะน่าทาน ติดที่เป็นช่วงเข้าพรรษา ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 21:11:32

ความคิดเห็นที่ 49   คิดถึง Sider Beer จัง เดินลอนดอนวันเดียวโพรงจมูกดำเลยจริงๆ จากคุณ : ake_anfield เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 21:56:35

ความคิดเห็นที่ 50   ขอบคุณครับ แอบแวบไปอ่านตอนเก่าๆที่ดองไว้ด้วย สนุกมากครับ เหมาะสำหรับเป็นอีก 1 guidebook ของผม ยามเมื่อมีโอกาสไปตะลุยแดนผู้ดี อิอิ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 53 23:57:43

ความคิดเห็นที่ 51   จขกท เป็นคอเบียร์ตัวจิง  จำได้นะ....หึ หึ จากคุณ : แม่น้องเพ้นท์ เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 06:13:10

ความคิดเห็นที่ 52   ทั้งภาพ.. ทั้งคำบรรยาย .. สุดยอด จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ .. จากคุณ : คนร่วมชายคา เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 06:57:40

ความคิดเห็นที่ 53   เก็บเข้าคลังไว้ก่อน รอเงินครบแล้วจะตามไปเที่ยวด้วยนะคะ จากคุณ : Minky girl เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 11:24:40

ความคิดเห็นที่ 54   ภาพสวยมากจ้า คำบรรยายก็ทำให้เราเคลิ้ม นึกว่าตะเองกำลังถ่ายรูปอยู่ ข้างๆคุณ เคท เลย.... ว่าเเล้วก็เตรียมตัวเข้าสวนยางก่อนดีกว่า....หาเงินเก็บตังค์อีกสองปี น่าจะถึง... London นะเรา...คริๆ จากคุณ : เพชรน้ำนิล เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 11:43:00

ความคิดเห็นที่ 55   ขอบคุณมากนะคะที่กลับมารีวิวต่อ ถึงตอน 5 ไม่มีก็ยังรอลุ้นเหมือนเดิมค่ะ (ตอน 4 ยังลุ้นได้ผลเลย) จากคุณ : cascar เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 11:45:52

ความคิดเห็นที่ 56   วันนี้ตามมารวบ 1-4 เลยค่ะ ถ้าว่างเมื่อไหร่อย่าลืมกลับมาต่อนะคะ จากคุณ : wachu เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 12:01:12

ความคิดเห็นที่ 57   อ่านก็เพลิน...รูปก็สวยครับ... จากคุณ : อายะ (prsty) เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 21:50:12

ความคิดเห็นที่ 58   อยากไปลอนดอน จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 23:15:48

ความคิดเห็นที่ 59   ว๊าววววว อยากตะลุยมั่งจัง แต่คงอด งั้นตามรีวิวนี้ไปดีกว่า ขอบคุณสำหรับการตะลุยนะคะ ^_^ จากคุณ : ใสบัว เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 53 23:45:16

ความคิดเห็นที่ 60   เข้ามาเที่ยวลอนดอนด้วยคน... เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาผมก็พึ่งพาครอบครัวไปเที่ยวมา... ไปลุยกันเอง ก็สนุกไปอีกแบบ..แต่ แบบ จขกท.สนุกกว่าแฮะ....อิอิอิิ... จากคุณ : คนอุบล เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 15:05:33

ความคิดเห็นที่ 61   ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายและติดตามอ่านนะคะ วันนี้กำลังรู้สึกเหนื่อยล้า จนดูเหมือนว่า ถ้าได้เขียนอะไรออกไปบ้างอาจจะรู้สึกดีขึ้น เลยคิดว่า น่าจะเขียนลอนดอนต่อให้จบ และหวังว่ามุกจะไม่แป๊กกลางคันเหมือนตอนที่ 4 แล้วเจอกันจ้า จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 53 19:49:33

ความคิดเห็นที่ 62   หลังจากจบตอนที่ 4 ก็บอกกับตัวเองว่า "ยอมแพ้เหอะ" อย่าเขียนต่อเลย เอาไว้มีโอกาสค่อยเขียนใหม่ คิดได้แบบนั้นก็เลยทิ้งโน๊ตไว้ท้ายตอนที่ 4 แต่จู่ๆ วันนี้ก็ "เกิดอารมณ" อยากเขียน เคยเป็นกันไหม..มีงานสุมกองอยู่ตรงหน้า หลายอย่างที่ต้องทำให้เสร็จ แต่กลับเพิกเฉยต่อมัน แล้วมานั่เงเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย เพื่อให้รู้สึกสบายใจขึ้น... ว่าแล้วก็มาลงเอยที่บันทึกการเดินทางตอนนี่ 5 กับบันทึกลอนดอนวันที่ 3 (วันสุดท้าย ของครึ่งแรก) แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 10:04:16 ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E9626551 จากคุณ : SassyKate เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 08:13:55

ความคิดเห็นที่ 63   ภาพน่ารักมากๆ คะ  แต่งง ทำไม มีเดินลอนดอนวันเดียว โพรงจมูกดำเลย 5555 แสดงว่า ลอนดอน ฝุ่นเยอะหรือเปล่าคะ  ใครรู้บ้างจ๊ะ จากคุณ : thank u ja (luckyandrich) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 14:16:43

ความคิดเห็นที่ 64   ..ขอบคุณที่ชวนให้มาดูครับ.. ..เห็นภาพและที่คุณkate เขียนบรรยาย..แล้วเปลี่ยนใจ เลิกหมั่นใส้อังกฤษ..โดยเฉพาะเรื่องวีซ่า..ต้องหาโอกาสไปให้ได้ซักครั้ง.. ..อากาศเย็นและแห้ง..เลยทำให้เยื่อบุโพรงจมูกแห้งและแตกเลยมีเลือดออก..นะครับ.. ..เห็นหอยแมลงภู่แล้ว..คิดถึงครั้งหนึ่งในชีวิต..ที่เคยกิน..ที่เบลเยี่ยม..บังเอิญมีน้องคนไทยใจบุญพาไปเที่ยว ตั้งเต้นท์ ที่เมืองตากอากาศ..ไปซื้อหอยแมลงภู่จากซุปเปอร์มาเก็ต.มาอบกินกันเอง..แกล้มไวน์..อร่อยจริงๆ.. จากคุณ : klab (klab) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 53 22:34:28

ความคิดเห็นที่ 65   ตามมาเที่ยวลอนดอนค่ะ เดี๋ยวมีเวลาจะกลับไปอ่านตอนเก่า ๆ เผื่อว่าจะได้กลับไปอีกสักหน ขอบคุณสำหรับรีวิวนะค่ะ จากคุณ : Invisible Angel เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 08:46:16

ความคิดเห็นที่ 66   ตามมาอ่านครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Aon_loe เขียนเมื่อ : 10 ก.ย. 53 22:58:51