ความคิดเห็นที่ 1 ชอบเพลงประกอบมากครับ ส่วนเรื่องราวที่ได้ชม ผมขอเก็บเอาไปแอบคิดอะไรในใจคนเดียวดีกว่า จากคุณ : teetat143 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 01:12:37

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่าถ้าก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น สองหนุ่มนี้ ศึกษาข้อมูลก่อนสักนิด ในเรื่องการเดินทาง การซื้อตั๋ว วิธีซื้อตั๋ว ก็คงไม่ต้องเสียเงิน 50 เยนไปแบบนี้ค่ะ และก็อาจจะไม่ต้องเสียความรู้สึกไปตั้งแต่แรกด้วย จริงๆ แล้ว คนแบบนั้น ก็มีทุกที่แหล่ะเนอะ .. แต่ถ้าเราเตรียมตัวดี ก็เหมือนตัดโอกาสคนประเภทนั้นไปกว่าครึ่ง เราคิดว่างั้นนะคะ ส่วนเรื่องโฮมเลส โนคอมเมนท์ดีกว่า แหะๆ จากคุณ : Shiraha เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 01:43:47

ความคิดเห็นที่ 3 รักเมืองไทยมากครับ จากกระทู้แนะนำเนี่ย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10212609/E10212609.html จากคุณ : ลองเข้าไป เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 01:49:20 A:124.121.186.232 X: TicketID:305509

ความคิดเห็นที่ 4 รักเมืองไทยมากครับ จากกระทู้แนะนำเนี่ย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10212609/E10212609.html จากคุณ : ลองเข้าไป เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 01:49:40 A:124.121.186.232 X: TicketID:305509

ความคิดเห็นที่ 5 อย่าให้เหตุการณ์ที่คนกลุ่มเดียวเจอมาตัดสินทั้งประเทศเลยครับ ทุกๆที่ก็มีทั้งคนดี คนไม่ดี คนมีน้ำใจ หรือไม่มี อยู่ที่ว่ามากหรือน้อย จากคุณ : M E T R O S E X Y เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 01:56:41

ความคิดเห็นที่ 6 ดูแล้วทึ่งกับมุมมองใหม่ที่ไม่น่าเชื่อเลยครับ จากคุณ : my team (My Team) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 02:04:35

ความคิดเห็นที่ 7 เท่าทีผมดู Comment ของแต่ละคน เช่น 2 , 5 คิดว่าคงดูไม่จบ ถ้าคุณดูจนจบ ก็คงจะไม่ Comment แบบนี้ ได้โปรดดูให้จบครับ แล้วคุณจะได้อะไรมากว่าสิ่งที่คุณ Comment ไว้ ซึ่งนั้นจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวทั้งหมด... *** นึกถึง Clip เขมรที่ตัดต่อบางส่วน แล้วจับ 7 คนไทย ที่แรกๆคนไทยเราก็ด่ากันเอง แล้วมาถึงบางอ้อเมื่อเห็น Clip ทั้งหมดภายหลัง***** จากคุณ : คนคลองลำเจียก เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 02:42:59

ความคิดเห็นที่ 8 ดูแล้วจำไว้อย่าไปทำกับใครอย่างนั้นละกันครับ .. แต่ก็นะ เมษานี้ผมไปแล้ว ตื่นเต้นกะรถไฟในโตเกียวอยู่เนี่ย ถ้าเห็นคนท่าทางเปิ่นเดินๆกางหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่น แต่หน้าตาดีมาก รีบเข้ามาให้การช่วยเหลือเลยนะครับ นั่นหล่ะ ผมเอง 5555++ จากคุณ : Boy4Boyz เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 02:43:13

ความคิดเห็นที่ 9 คห 2 เราว่าประเด็นมันไม่ใช่ได้อยุ่เรื่องการศึกษาข้อมูลปะคะ ประเด็นที่เค้านำเสนอ คือเรื่อง การช่วยเหลือ ของคนต่างหาก เรื่องเสียความรู้สึก ใครมันจะไปคาดถึง ว่าเค้าจะทำกับเราแบบนี้ คิดชุ่ยๆ แบบนี้ ได้ไง ( คห ส่วนตัว ) อย่างงี้โลกนี้ก็ไม่ต้องมีคำว่า น้ำใจหรอก  เตรียมตัวไปเองให้พร้อมมันก็ดี แต่การจะหวังพึ่งน้ำใจคนไม่รู้จัก มันกลายเป็นเรื่องยากแแล้วสินะ ?? ( ป.ล. โลกแห่งความฝัน ) แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 54 03:09:50 จากคุณ : ปอปลานั้นหายาก (ปอปลานั้นหายาก) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 03:00:38

ความคิดเห็นที่ 10 เสริม .. ตรงท่าเรือท่าช้าง ตรงวัดพระแก้ว เดินผ่านทุกวัน เห็นทุกวัน ขายผลไม้ให้ต่างชาติแพง นั้นอันนั้นได้แต่ถอนหายใจแล้วส่ายหัว แต่วันนั้นเห็นแล้วอึ้ง เป็นเงาะเหี่ยวๆ ที่เราเห็นตามตลาด ที่เกือบจะทิ้งแล้วอะคะ คือขนมันเป็นสีดำหมดแล้ว ทั้งลูกเหี่ยวจนแบบ ถ้าเป็นในตลาดที่เราซื้อๆ กันเค้าทิ้งแล้วอะคะ แต่แม่ค้าร้านนึง เอามาขาย กิโลละ 200 บาท สาบานว่าเห็นจริง จากคุณ : ปอปลานั้นหายาก (ปอปลานั้นหายาก) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 03:03:02

ความคิดเห็นที่ 11 ได้ยินเพื่อนพูดถึงเหมือนกันแต่เราไม่ได้ดู คราวนี้ได้ดูแล้ว ขอบคุณค่ะ จากคุณ : timeteam เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 06:28:52

ความคิดเห็นที่ 12 ผมให้ comment เกี่ยวกับรายการนี้ไปแล้วนะครับ ตามนี้ !!! http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10218044/E10218044.html บอกข้อมูลเพิ่มเติมให้อีก สองหนุ่มนั่น ไปอยู่ที่สถานี jr shinjuku ด้าน south exit (ระบุให้ก็ได้เดี่ยวจะหาว่าผมมั่ว) และตู้ขายตั๋วในสถานี shinjuk มีภาษาอังกฤษ ให้เลือกใช้นานสิบกว่าปีแล้วครับ !!! และสองหนุ่มนี้ ตอนที่เอาลิงค์มาให้ดูนี่ สองหนุ่มนี่ก็ไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่นเป็นวันแรกที่มาเหยียบญี่ปุ่นด้วนะครับ อย่าลืม !!! ดังนั้นสองหนุ่มนี้ต้องเคยใช้ตู้ขายตั๋วมาแล้วตั้งแต่ลงจากเครื่องบิน ไม่ว่าจะลงสนามบินไหน หรือเมืองไหน ก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟเข้าเมืองเองทั้งนั้นก่อน ดังนั้นไอ่มุขถูกหลอกขอตังค์ที่สถานี jr shinjuku นี่ บอกได้คำเดียวครับว่า ฝืด !!! แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 54 08:49:50 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 08:36:16

ความคิดเห็นที่ 13 อีกอย่างหนึ่ง แล้วคุณสองหนุ่มนี่ อยู่ดีๆ มาโผล่ตรงสถานี shinuku ได้ยังไงละครับ เดินมาหรือ หรือ นอนอยู่แถว shinjuku !!! แล้วก่อนมาถึง shinjuku ละครับ มายังไงละครับ เดินมาหรือ ถึงไม่รู้จักวิธีซื้อตั๋วรถไฟ !!! แล้วก็วิธ๊การซื้อตั๋วรถไฟจากตู้ของรถไฟแต่ละประเภท มันเหมือนๆ กันนะครับ ไม่ใช่ที่ของสถานี shinjuku มันแปลกประหลาดอยู่ที่เดียวนะครับ !!! อีกสักช๊อทดีมั้นครับ ตั๋ว jr จาก shinjuku ไป akihabara ไม่ว่าจะไปเส้นไหน yamanote จะวนซ้ายหรือวนขวา หรือไปเส้น chuo ผ่ากลาง มันราคา 160 yen ครับ ตั๋วสองคนสองใบก็รวม 320 yen สองหนุ่ให้ตงค์ไป ไม่เห็นว่าเป็นธนบัตร ซึ่งต่ำสุดคือใบละ 1000 yen ดังนั้นคือให้เหรียญไป เหรียญญี่ปุ่น มีใหญ่ที่สุดคือ เหรียญ 500 yen ก็หมายความว่าให้ไป 500yen เครื่องมันทอน 180 yen นะครับ !!! ถ้าขอตังค์ขอ 180 yenดีกว่ามั้ยครับ ทำไมขอแค่ 150 yen !!! แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 54 09:36:58 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 09:02:08

ความคิดเห็นที่ 14 จะเอาอีกมั้ยครับ !!! ช้อทแรกที่เปิดตัวด้วยวิวมุมสูงจากตึก กทม.โตเกียว ที่มองเห็นศาลเจ้าเมจิกับสวนโยโยหงิ  ไตเติ้ลที่ขึ้นมาก็ผิดแล้วครับ !!! จำไว้ให้ขึ้นใจครับ ว่า "หนัง" พาไป "หนัง" ก็คือ "หนัง" ครับ ถ้าเคยทำหนัง คงรู้ว่า ยังไงก็ต้องมีสคริป จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไป ถ้าเดินทางธรรมดาๆ ไม่มีเรื่องตื่นเต้นให้ติดตาม ตอนหน้าจะหาคนดูได้ยังไงละครับ !!! จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 09:06:31

ความคิดเห็นที่ 15 ในแต่ล่ะประเทศ ก็ต้องมีคนหลายประเภทค่ะ แต่ถ้าดูจบแล้ว ก็ได้เห็นแง่คิดของเค้าอีกแง่คิดนึงนะคะ จากคุณ : zoey เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 09:40:29

ความคิดเห็นที่ 16 ผมเฉยๆนะ ตอนไปญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่ก็มีน้ำใจ เสียแต่ว่าพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ไม่เคยเจอใครโกง รายการนี้ อาจจะโป๊ะเช๊ะโดนขอดื้อๆพอดี ส่วนพวก homeless มันก็มีหมดทั้งโลก แต่ homeless ที่ญี่ปุ่น อาจจะแตกต่างไปจากหลายๆประเทศตรงที่คนเหล่านี้ มาจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนมาก่อน อย่างที่รายการว่าไว้ แต่ homeless ที่ญี่ปุ่น ก็ยังดูปลอดภัยกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งอเมริกา อังกฤษ แม้แต่ประเทศไทย ก็อย่างที่เค้าบอกไว้ "ยังดีที่ขอ ไม่ฉกเอาไปดื้อๆ" ก็ยังดีจริงๆที่ขอ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 09:54:13

ความคิดเห็นที่ 17 ช้อทแรกนี้คือ สคริป ที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นครับ เพื่อที่จะตอนท้ายจะมาขมวดปมให้เห็นย้อนกลับมาดูที่บ้านเราว่า ถ้าเจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในบ้านเรา ให้ช่วยเหลือเค้า อย่าไปโกงหรือหลอกลวงเค้าครับ นี่คือหมายของการสื่อ อะไรบางสื่งบางอย่างให้คนดูได้คิดครับ โดยใช้วิธีการในอีกแบบหนึ่ง เหมือนคำว่า "นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า......." แต่ที่ผิดคือ ดันทะลึ่งไปใช้ฉากในประเทศญี่ปุ่น ที่คนโดยส่วนใหญ่แล้ว (เกือบทั้งหมด) เคารพในศักศรีของตนเองมากเท่านั้นเอง การกระทำแบบในหนังจึงแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวได้เลยครับ ฉากแรกถ่ายทำกันตรงนี้ครับ ตู้ขายตั๋วของสถานี jr shinjuku ด้าน south entranc แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 54 09:56:41 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นแผนที่เส้นทางรถไฟในรูปด้านบนมั้ยครับ (ตรงกลางรูป) ที่เห็นในหนังว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น อันนี้ถูกต้องครับ ใครเจอแผนที่รถไฟโตเกียวแล้วไม่งงก็ไม่ใช่คนแล้วครับ เทวดาแท้ๆ แน่นอน เพราะคนญี่ปุ่นเองยังงง !!! แต่ด้านขวาสุดของรูป จะมีแผนที่อีกอันหนึ่ง ซึ่งหน้าตาเหมือนอันกลางรูปทุกอย่าง แต่เป็นภาษาอังกฤษครับ !!! เนื่องจากหนังของสองหนุ่มนี่ ผมดูมานานตั้งแต่ขอยืมจักรยานปั่นไปทั่ว และก็ดูแล้วไม่ได้ทำให้เกิดอาการหวาดกลัวจากการดูมากมายนัก แต่พอมาตอนขอคังค์นี่ เห็นพูดกันมากจริงๆ ผมก็เลยต้องมาเขียนให้ทราบกันซะหน่อย ว่า "หนัง" มันก็คือ "หนัง" มันจะเป็นเบสออนทรูสตอรี่ มากน้อยขนาดไหนก็ว่ากันไป ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หรือหาประโยชน์จากอะไร นอกจากเรตติ้งคนดูเท่านั้น และก็มีการแฝงปรัชญาความคิดไว้ตอนท้ายๆ  ผมก็เลยไม่เขียน comment อะไร พอมาตอนขอเงินนี่ ผมก็เลยขอสักหน่อยเถอะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดๆ กันไปใหญ่ ไม่เหมือนพวกเจตนาหลงป่า แบบในอดีต ที่ต้องออกมาช่วยกันกระชากหน้ากากจอมปลอม เพราะนั้นคือการเจตนาเพื่อหาผลประโยชน์ใส่ตัวล้วนๆ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 10:05:36

ความคิดเห็นที่ 19 จาก คห5 นะครับ ดูจบครับ คุณ จขกท ดูจนจบตั้งแต่ในทีวี และดูคลิปต่ออีกหลายครั้ง และนั่นเป็นสิ่งที่ผมคอนเม้น เพราะผมก็เคยไปญี่ปุ่นหลายครั้ง และเมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่นๆที่ไปมา บ้านเมืองและคนของเค้ายังดีกว่าที่อื่นอยู่เยอะครับ ผมรักเมืองไทยครับ ไม่จำเป็นต้องดูคลิปไหนเพื่อสร้างความรัก แต่ไม่ได้รู้สึกว่าในทางจิตใจ คนในประเทศเค้าจะด้อยกว่าบ้านเราหรือที่อื่น คนยังมีวัฒนธรรม มีมารยาทที่ดีมากๆ มีน้ำใจ(เท่าที่่เจอ) มีความรักชาติอยู่จริง ขยัน ฯลฯ ส่วน homeless ของญี่ปุ่น ดูเหมือนจะน่ากลัว แต่เค้าไม่ทำอันตราย ไม่ใช่ขอทานครับ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 54 10:29:19 จากคุณ : M E T R O S E X Y เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 10:09:31

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเจอจริงๆผมก็ยังแอบคิดว่า คนที่มาขอเงินนั้นไม่ใช่คนญี่ปุ่นครับ น่าจะเป็นคนชาติอื่นที่มาทำงานในญี่ปุ่น ผมคิดอย่างที่คุณskyboxว่าไว้น่ะครับคนญี่ปุ่นเค้าเคารพศักดิ์ศรีของตนเองมากเกินกว่าที่จะทำอะไรแบบนั้น จากคุณ : taepuis เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 11:10:29

ความคิดเห็นที่ 21 การเจาะถ่ายแต่ มุมไม่ค่อยจรรโลงนักในบ้านเมืองอื่น ๆ พยายามแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยมโทรม แล้วเอามาพูดจา ให้เกิดความรู้สึกรักบ้านเกิดตัวเอง ผมถามเถอะว่า คุณไม่มีปัญหาที่จะทำให้บ้านคุณดีขึ้นโดยการพัฒนาด้วยตัวเองแล้วเหรอ หรือเราจำเป็นต้องสร้างความรักชาติ (ชั่วคราว) โดยไปรบกับต่างชาติ คนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่ของโลก มาจากการสร้างแรงบรรดาลใจที่ดี อาจจะเอาจุดดีคนอื่นมาสร้างแรงให้ตัวเอง แต่รายการนี้กำลังจะสร้างความแตกต่าง. ? ---------------------------------------------- ปล. คนที่จะไปแบบแบ็คแพ็คได้ ไม่ใช่คนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในลักษณะที่เห็นหรอกครับ มันเป็นการสร้างฉากขึ้นมา ลักษณะของการดิ้นรนหาทางรอด มันต้องมีมากกว่านี้ ยิ่งตอนคนญี่ปุ่นกึ่ง ๆ ว่าสอนซื้อตั๋ว ผมไม่เห็นว่าเจ้าตัวจะสนใจเลยว่า จะกดยังไง มัวแต่ เอ๊อ ๆ คนใจดี จากคุณ : SuperTee (itCrazy) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 11:22:02

ความคิดเห็นที่ 22 เราจากความเห็นที่ 2 นะคะ เราก็ดูจบอ่ะค่ะ แล้วก็คอมเมนท์ไปตามที่เราคิด .. แล้วก็ขอโทษคุณ ปอปลานั้นหายาก ใน คห.9 ด้วยนะคะ ที่เราคิดชุ่ยๆ ตามความเห็นส่วนตัวของคุณ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ ...มันคือความเห็นส่วนตัวของเรา เพราะฉะนั้น กระทู้นี้ ถ้าหากจะต้องการให้ความเห็นคล้อยตามตั้งแต่แรก ก็บอกไว้ในกระทู้เลยค่ะ คนที่มีความเห็นต่างออกไปจะได้ไม่ต้องคอมเมนท์ .. - - จากคุณ : Shiraha เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 13:20:01

ความคิดเห็นที่ 23 อยากจะบอกคนทำหนัง ว่า  "ที่ขายตั๋ว มี กดคำว่า english ด้วยนะคะ" บนหน้าจอ ไม่ได้มีแต่ภาษาญี่ปุ่นอย่างเดียว และ จะมีแผนผังรถไฟ เป็นภาษาอังกฤษอยู่ด้านข้างๆ น๊ะคะ ถ้าหาดูให้ดีจริงๆ ก็เจอ แล้วที่สำคัญ "ทำไม ไม่ถาม เจ้าหน้าที่สถานี" มันไม่ดีกว่าเหรอ จากคุณ : love-so เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 13:31:46

ความคิดเห็นที่ 24 ดูจนจบแล้วก็รู้สึกว่า.....เฉยๆ คนไม่ดีมีอยู่ทุกแห่ง คนไม่มีที่อยู่ก็มีอยู่ทุกแห่ง ถ้าไป"เที่ยว"ประเทศอื่นเพื่อแค่ไปดูความแย่หรือไปตามหาดูคนไม่มีที่อยู่ นั่นก็น่าสลดใจว่าไปทำอะไร ถ่ายพวกนี้มาเพื่อ? ให้คนดูว่าญี่ปุ่นก็มีด้านไม่ดีงั้่นหรือ? น่าตลกมากกว่าผมว่า บอกตรงๆไม่ชอบ clip นี้ ดูแล้วรู้สึกว่า biased และพยายามยัดเยียดมุมมองมุมหนึ่งเท่านั้น ว่าแล้วก็ เห้อ..ไม่น่าหลงดูจนจบเลยเรา เสียเวลา จากคุณ : Rennis เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 13:35:15

ความคิดเห็นที่ 25 คุณคิดว่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นอย่างที่คุณคิด...หรือเปล่าครับ ดูจบแล้วค่ะ ก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดเดิมที่มองประเทศนี้อะไรเท่าไหร่ ยังคงมีความเห็นว่า เป็นประเทศที่สามารถเชื่อถือในความ [b]แน่นอน[\b] ได้ เห็นด้วยว่าที่ นายหนุ่ม 2 นายนี่เจอคนแบบนี้ถือว่า แจ็คพอต ค่ะ เพราะความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ น่าจะน้อยมากๆ สำหรับคนญี่ปุ่น เราไม่ได้มองว่าที่นั่น เปอร์เฟ็กต์นะคะ แต่ละประเทศส่วนดี เค้าก็มี ส่วนเสีย เค้าก็มี เอาเรื่องดีๆ ที่เคยเจอที่นั่นมาเล่าสู่กันฟัง ปลายปีที่ผ่านมา ที่เกียวโต เราเดินออกมาจากสถานนีรถไฟเกียวโตไม่เท่าไหร่ ก็ค้นกระเป๋าถือเพื่อหาแผนที่ ข้าวสารเกียวโต แล้วเดินไปพร้อมกับดูแผนที่ไป พร้อมกับบ่นคุณแฟนว่า สงสัยจะผิดทาง ทำไงดี ????? มีผู้หญิงวัยทำงานคนนึงวิ่งตามเรามา ผู้หญิงคนนั้น : "........." เรา: “？？？？” พร้อมกับพูดว่า I don't understand japanese. ผู้หญิงคนนั้น :　Your wallet....　พร้อมชี้มาไปที่สะพานแถวบริเวณที่เราค้นหาแผนที่ขึ้นมาดู เราเลยเดินตามเค้าไป พบกระเป๋าเงินเราตกอยู่ เรากับคุณแฟนก็ขอบคุณเธอ ที่วิ่งตามมาบอก ส่วนในกรณี พวก Homeless ที่ในคลิปเราก็เห็นนะคะ ที่โอซาก้า ตอนที่เดินผ่านก็คิดเหมือนกันว่า เป็นคนญี่ปุ่นนี่ก็ยากเหมือนกัน เห็นเค้าเจริญแบบนี้ การแข่งขันก็สูงตามไปด้วย ค่าครองชีพก็สูงไปด้วย ก็ต้องมีคนส่วนนึงแหละค่ะ ที่ต้องมีความเป็นอยู่ต่ำกว่ามาตรฐาน เลยทำให้ที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีคนฆ่าตัวตายสูงที่สุด แต่ถ้าถามว่าเราชอบญี่ปุ่นตรงไหน ก็คงเป็น ความมีกฎที่แน่นอนของเค้า เวลาเท่าไหร่คือเท่านั้น ราคาเท่าไหร่คือเท่านั้น อีกอย่างที่ชอบมากๆคือ ความมีคุณภาพของคนญี่ปุ่น แต่กว่าที่เค้าจะมีคุณภาพแบบนี้ได้ก็คงต้องแลกมากับกฎระเบียบทางสังคมที่แน่นอนนั่นแหละค่ะ เรายังกดดันเลย แค่ตอนจะทิ้งขยะซักชิ้นทำไมมันยากลำบากเพียงนี้ เมืองไทย แค่ทิ้งให้ลงถังขยะ บุญท่วมหัวแล้ว เมืองญี่ปุ่น มีขยะบางประเภทไม่มีที่ให้ทิ้ง เช่น พวกถ่านไฟฉาย และขยะทุกประเภทต้องแยกทิ้งให้ถูกถัง แชร์ประสบการณ์ เราต้องไปเปิดถังขยะเค้าดูว่าไอ้กระป๋องกาแฟเนี่ยะ ช้านต้องเอามันโยนลงถังไหน แบบเซ็งเหมือนกัน ทำไมมันถึงทิ้งยากทิ้งเย็นอย่างงี้ นี่แหละค่ะ ที่ทำให้เราพบว่า อยู่บ้านเราสบายกว่าเยอะ ง่ายๆดี แต่ก็สามารถมองย้อนกลับได้ว่า ทำไม คุณภาพประชากรมันถึงไม่เท่ากัน เรารักเมืองไทยที่ เพราะที่นี่มีบ้านเรา มีครอบครัวเรา ให้เราอยู่อาศัยและให้การศึกษาเรามา ให้เราเติบใหญ่มาจนทุกวันนี้ แต่เราชื่นชมหลายๆ ประเทศที่เค้า มีพัฒนาประเทศให้น่าอยู่ คมนาคมสะดวกสบาย สะอาด และสังคมที่น่าอยู่มากกว่าเรา และก็คอยหวังว่า อยากจะเห็นเมืองไทยเป็นแบบนี้บ้างจัง จากคุณ : JinMingTian เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 17:58:11

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ยิงไปที่พี่ sky box เเต่ตอนเราไปฮิเมจิ .. จำได้ Supper เเถวหอ   มันคิดค่าถุงล่ะ..   ยังต้องยืดอก พกถุงกันมาเองเลย (งก ) ตอบคำถาม จขกท   เราเป็นเเฟนรายการนี้นะ ..  นั่งดูไปฮาไป  ไม่ได้คิดมากอะไร .. มุมที่เขาไปเห็นห้องพัก หรือ สภาพชีวิตคนญ๊ปุ่นเเล้วบอกประมาณว่า... สภาพคนญี่ปุ่นจริงๆ ไม่ได้หรูหรา หรืออยู่ในที่ๆ ดีอะไร เท่าไร .. เอิ่ม..  เราว่าเป็นเพราะเขาไปคุยกับคนค่อนข้างรากหญ้าของสังคมน่ะ .. (คนเก็บขยะอย่างนี้ !!) ที่พักคนธรรมดาที่ญ๊ปุ่นที่เราเจอ  ก็สะอาดดี  มีระเบียบ สวยงามใช้ได้   (ในสังคมของคนทำงานบริษัท ) เเถมรูปห้องพักสามีเรา สมัยไปทำงานทีญี่ปุ่นให้ดู จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 20:58:07

ความคิดเห็นที่ 27 บ้านมนุษย์ธรรมดา ทีญี่ปุ่น ก็สะอาดนี้  เหมือนที่เห็นในการ์ตูน... เลยไม่ได้ผิดหวัง  กลับตื่นเต้นดีที่ได้เห็น เหมือนที่เคยวาดภาพไว้ จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 54 21:00:29

ความคิดเห็นที่ 28 พี่ฟ้า...ข้อมูลสุดยอดจริงๆครับ จากคุณ : หนุ่มเมืองกรุง (NMkrung) เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 00:09:04

ความคิดเห็นที่ 29 มาเสริมให้เฮียฟ้าหน่อย เรื่องที่มีคนมาเสนอตัวช่วยซื้อตั๋วรถไฟแล้วขอเงินนั้นมีจริงครับ แต่จุดทำการของเค้าจะอยู่ที่สถานีอากิฮาบาร่าครับ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 00:43:58

ความคิดเห็นที่ 30 เคยดูหนังสั้นที่นำเสนอโดย 2 หนุ่มนี้หลายประเทศแล้ว นับเป็นมุมมองที่แตกต่างครับ ขอบคุณสำหรับคลิปนี้ครับ เพราะผมยังไม่ได้ดู ดีใจที่ได้ชมครับผม จากคุณ : จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 07:24:09

ความคิดเห็นที่ 31 คห17 "...ช้อทแรกนี้คือ สคริป ที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นครับ ..." คุณหมายความว่ายังไงครับ ฉากการขอเงินดื้อๆนั้น เป็นการ set up ขึ้นมาหรือครับ? ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมขอประนามครับ เอาความรักในศักดิ์ศรีของคนญี่ปุ่นมาล้อเล่น และยังทำให้คนอื่นเข้าใจผิดโดยออกทีวีทั้งประเทศ ผมว่า มันไม่ใช่แล้วครับ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 08:41:53

ความคิดเห็นที่ 32 เผื่อใครไม่เห็นภาพ จากคุณ : salamanka เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 09:23:52

ความคิดเห็นที่ 33 มันมีคนที่ขอเงินทอนค่ะ คุณลาบราดอร์สีดำเคยเจอแล้ว เพื่อนเราก็ด้วย แต่คนละสถานีกัน แถมกล้องถ่ายอยู่อย่างนั้น ญี่ปุ่นมีคนไม่ดีค่ะ แต่ไม่ค่อยมีคนหน้าด้าน คนไม่ดี คนโรคจิต เข้าไม่กล้าเข้ากล้องหรอก จากคุณ : salamanka เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 09:25:51

ความคิดเห็นที่ 34 สำหรับผมเฉยๆครับ มันคือความจริงที่มีอยู่บนโลกใบนี้และเชื่อว่ามีทุกที่ทุกแห่งในโลก เลยไมไ่ด้คิดมากอะไร ถึงมันจะเป็นสคริป ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่ผมจะมองในมุมมองความเชื่อของตนเองมากกว่า ว่าถึงยังไงมันก็มีอยู่จริงเรื่องราวแบบนี้ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 54 14:25:36 แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 54 13:40:25 จากคุณ : แมงจิดนูนเรืองแสง เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 13:32:29

ความคิดเห็นที่ 35 อยากบอกว่าแม้จะมีคลิปนี้หรือคลิปไหนออกมา แม้ดูว่าจะรู้สึกแปลกๆยังไง เราก็ยังชอบญี่ปุ่นอยู่ดี รายการของสองคนนี้ก็ดูขำๆดีอ่ะค่ะ ^^ สนุกดี จากคุณ : สีน้ำ -_- เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 14:58:33

ความคิดเห็นที่ 36 รักญี่ปุ่นมากคะ ญี่ปุ่นอบอุ่นและดีกว่าที่คุณคิดคะ ส่วนตัวเคยเจอหนุ่มญี่ปุ่นลวนลามด้วยสายตา ครั้งเดียว อิอิ จากคุณ : Tokyo Tower & Forever Love เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 21:05:13

ความคิดเห็นที่ 37 เมลล์ไปถามที่รายการสิ มีที่อยู่ อีเมลล์รายการอยู่ท้ายรายการไง หรือของสถานีโทรทัศน์ก็ได้ ว่าสคริปรึเปล่า ปล. อืม.... เขาไม่ได้ถ่ายหนังเเล้วเอามาฉายนะคะ แต่เป็นทำหนังประกวดเเล้วเอาไปฉายตามเทศกาลหนังทั่วโลก เลยชื่อหนังพาไป ไม่ทำหนังเเล้วไปหลายๆประเทศ ดูเหมือนจะเป็นการเป็นถ่ายแบบฟุตเทจ แล้วตัดต่อให้เป็นตอนๆ (คล้ายๆที่ถ่ายหนังเรื่องไฟนอล สกอร์มั้ง) แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 54 22:00:54 จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 21:56:32

ความคิดเห็นที่ 38 เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วทำให้รู้ว่า ต่างคนต่างความคิดจริงๆ ถ้าไม่ใช่แฟนรายการ อาจจะคิดไปในทางนั้นได้ แต่ถ้าตามรายการนี้มาตลอด คุณจะรู้ว่าเค้าใช้กล้องตัวเดียว ผลัดกันถ่าย และเคยฟังสัมภาษณ์ ทั้งสองคนบอกว่ารายการนี้ไม่มีสคริป เจออะไรก็ถ่ายไปเรื่อยๆ แล้วมาตัดต่อกันอีกทีให้เป็นตอนๆ หาข้อมูลของรายการนิดนึงครับ อย่ามองในแง่ร้ายจนเกินไป ในเคสนั้น ผู้ดำเนินรายการทั้งสองคนอาจจะทำการบ้านมาไม่ดีพอ หรืออาจจะเพราะความรีบ เลยไม่รู้ว่าเปลี่ยนภาษาได้ หรือจะจงใจใช้มุกเรื่องภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้รายการออกมาสนุก ก็เป็นได้ แต่คงไม่ถึงขั้นจ้างใครมาทำอะไรแบบนั้นหรอกครับ ทุกประเทศไม่ว่าจะเจริญแล้วแค่ไหน มันก็มีทั้งคนดี คนเลวปะปนกันไป ใครไม่เจอคนแบบนี้ก็โชคดีไปครับ จากคุณ : ปลาริวกิ้น เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:18:18

ความคิดเห็นที่ 39 ตลกค่ะ จากคุณ : CherryBlossom669 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 54 22:45:09

ความคิดเห็นที่ 40 ขออนุญาตนำเอาข้อความที่พี่บอลตอบในเฟซบุ๊คมาให้อ่านนะคะ (เป็นสไตล์จิกกัดเล็กน้อยตามแบบฉบับของพี่เค้าแหละค่ะ) ******************************************* ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ ครับ ที่เข้ามาให้กำลังใจ และเข้าใจครับ เรื่องความคิดเห็นใน pantip นี่ ร้อยคนก็ร้อยความคิดเห็นครับ "หนังพาไป..." ก็เป็นกระจกสะท้อนความคิดภายในของผู้ชม แต่ละคนด้วยน่ะครับ มันทำให้เห็นว่า เราเป็นคนอย่างไร เรากำลังทำอะไร ซึ่งคนได้รับ ก็จะแตกต่างกันไปอยู่แล้ว แต่เชื่อว่ามันก็คือการเดินทางร่วมไปด้วยกันน่ะครับ ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกคนที่ร่วมออกเดินทางไปกับเรานะครับ ................ ปล.อุตส่าห์จ้างคนทั้งสถานีแล้ว เซ็ตฉากจนเหมือนขนาดนั้นแล้ว ยังไม่เนียนอีกเหรอนี่ แหม... ที่นั่งตัดงานกันไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนเนี่ย เพราะเอาเงินไปใช้หนี้ครับ ( ค่าตัวนักแสดงแพงนะนั่น เรตคนญี่ปุ่นด้วย.. 555+) แล้วไอ้ที่ 'จ้าง' มาเดิน 'ทั้งถนน' ฮาราจุกุนั่น ก็ยังไม่ได้ไปจ่ายเค้าเล้ยยยยยย ........ 555555+ ******************************************** ที่มา : http://www.เฟซบุ๊ค.com/MoviePaPai ส่วนตัวเราเชื่อว่าคงไม่ใช่การจัดฉากเนื่องจาก 1. ณ ขณะนั้น 2 หนุ่มคงไม่สามารถที่จะไปจ้างใครหรือจัดฉากอะไรได้ จะใช้ชีวิตอยู่ยังลำบากเลย (ต้องนอนวัด กินข้าวฟรี) แถมไม่มีคอนเนคชั่นอะไร ภาษาก็ไม่ได้ แถมไอ้ที่ถ่ายมาก็คือถ่ายๆไว้ก่อน ยังไม่รู้เลยว่าจะได้ฉายที่ไหนมั้ย แค่ไม่อยากให้การไปต่างประเทศเสียเปล่า 2. รายการ "หนังพาไป" ไม่ใช่ "หนัง"นะคะ ตามที่ คห. 37 อธิบายไว้เลยค่ะ รายการนี้เป็นสารคดีการเดินทาง(ที่มา : เฟซบุ๊ครายการ) ซึ่งที่มาของชื่อรายการก็คือการที่ "หนังสั้น" ที่ทั้งสองคนส่งเข้าประกวดในต่างประเทศทำให้ทั้งสองคนได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ต่างๆและถ่ายทอดมาให้เราดูต่างหาก 3. เราได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับรายการนี้ในพันทิพและได้อ่านคอมเม้นท์ในเฟซบุ๊ครายการ ซึ่งมีคนมาให้ความคิดเห็นว่า ได้เจอชายคนเดียวกันนี้ทำพฤติกรรมแบบนี้เช่นเดียวกัน โดยคนที่คอมเม้นท์ในเฟซบุ๊คเป็นผู้หญิง ส่วนกระทู้ในพันทิพจำไม่ได้แล้วว่ากระทู้ไหน(หรือไม่งั้นก็กระทู้นี้แหละ 55) แต่จำได้ว่าคนตอบเป็นผู้ชายค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 01:05:43 จากคุณ : โกโก้ปั่นไม่ใส่วิปครีม เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 01:01:00

ความคิดเห็นที่ 41 การเจาะถ่ายแต่ มุมไม่ค่อยจรรโลงนักในบ้านเมืองอื่น ๆ พยายามแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยมโทรม แล้วเอามาพูดจา ให้เกิดความรู้สึกรักบ้านเกิดตัวเอง ผมถามเถอะว่า คุณไม่มีปัญหาที่จะทำให้บ้านคุณดีขึ้นโดยการพัฒนาด้วยตัวเองแล้วเหรอ หรือเราจำเป็นต้องสร้างความรักชาติ (ชั่วคราว) โดยไปรบกับต่างชาติ คนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่ของโลก มาจากการสร้างแรงบรรดาลใจที่ดี อาจจะเอาจุดดีคนอื่นมาสร้างแรงให้ตัวเอง แต่รายการนี้กำลังจะสร้างความแตกต่าง. ? _________________________________________________ เราอยากทราบว่าคุณได้ดูครบทุกตอนไหมค่ะ เช่น ตอนแยกขยะ หรือตอนที่เกี่ยวกับ การจราจร เส้นทางจักรยาน หรือจะเป็นตอนที่ นำเสนอเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถเมล์ ในประเทศญี่ปุ่น เราว่าจริงๆรายการนี้กล้านะคะ หลายๆตอนเค้าจะเปรียบเทียบซะเห็นภาพ หลายๆครั้ง ก็จะพูดประชด ถึงสภาพอะไรที่ไม่ดีในเมืองไทยซะส่วนใหญ่ ถ้ารายการนี้อวยเมืองไทย เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วค่ะ... จากคุณ : immeeLy เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 01:24:19

ความคิดเห็นที่ 42 เขาแค่เอาแง่มุมที่หลากหลายของญี่ปุ่นมาให้เราเห็น no one (country) is perfect จากคุณ : netaddict เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 02:49:06

ความคิดเห็นที่ 43 ผมเขียนทั้งหมด (เท่าที่พอที่จะไม่ให้เดือนร้อนใครมากมายนัก)ไปแล้ว เมื่อเช้าวันศุกร์ และก็หวังว่าคงจะทำให้คนที่ไม่เคยไปญี่ปุ่นพอเข้าใจว่า มันไม่ได้สามารถเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ง่านนักในสมัยปัจจุบันนี้ ก็เพราะว่าในอดีตแล้ว อย่างน้อยก็สิบปีที่แล้ว สมัยที่ตู้ขายตั๋วบางตู้ยังเป็นของเก่าที่ยังมีแค่ภาษาเดียวเท่านั้น จึงสามารถเกิดขึ้นได้ รวมถึงสถานีที่เกิดเหตุแบบนี้ด้วย ที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจงว่า แหล่งคือ akihabara แต่พอเช้าวันนี้มาเจอ ท่านที่กรุณาคัดลอกข้อความมาจากสองหนุ่มนี้ ก็ขอบคุณมาก ^_^ เพราะว่าผมเห็นด้วยกับข้อความที่ว่า มันทำให้เห็นว่า เราเป็นคนอย่างไร.... เรากำลังทำอะไร.... ปล. ผมอ่านแล้วก็ไม่เห็นข้อความตอบปฎิเสธนิครับว่า ไม่มีสคริป ??? จะว่าไปแล้วตัวผมเองก็ผมตามดูมาตลอด ก็ขำๆ ดี เพราะรู้ว่าเค้าทำอะไร ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะไม่รู้จะว่าอะไร จนมาตอนที่ขอเงินนี่ละครับ !!! มันทำให้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วของคนที่ไม่เคยไปญี่ปุ่น หรือคนที่กำลังจะไปญี่ปุ่น จนนำเรื่องนี้มาพูดคุยกันใน BP ก็เลยต้องมาอธิบายให้เข้าใจกัน ผมดู harajuku ตอน 1 และตอน 2 แล้ว มันมีคำถามมากมายจากคนที่เคย "เดิน" ในเส้นทางนี้ คำถามที่คาใจ คือ ในหนึ่งวัน เสียเงินเท่านี้เองหรือครับ (ตอบจบของตอนสองสรุปค่าใช้จ่ายไว้) ค่าเดินทางอย่างเดียว ไม่มีค่าอาหาร ไม่มีค่าที่พัก !!! เอาละค่าที่พักก็ตอบกันไปแล้วว่า นอนวัด !!! ค่าอาหารไม่มี ก็ทานวัดตอนเช้าหนึ่งมื้อ แล้วก็ดึๆ กลับไปทานวัดอีกมื้อ !!! เสียตังค์แค่ค่าตั๋วจาก shinjuku ไป akihabara และกลับวัดอีกรอบ !!! จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 09:06:05

ความคิดเห็นที่ 44 ว่ากันตรงๆ นะครับ คงไม่โกรธกัน ในเมื่อมันไม่ได้เป็นหนัง แต่เป็นสารคดีการเดินทางไปเรื่อยๆ เจออะไรก็ถ่ายๆ ไว้แล้วค่อยมาตัดต่อทีหลัง !!! ยังคงยืนยันแบบเดิมนะครับ ??? ถ้ายังยืนยันแบบเดิม เดี๋ยวจะจับผิดให้ดูครับ ทั้งสองตอนของ harajuku !!! จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 09:08:52

ความคิดเห็นที่ 45 ^ ^ ป๋า โหด อ่ะ ....   อืมม   ดูกระทู้พวกนี้ถึงรู้ว่า  เราเป็นคนคิดน้อยจริงๆ ... ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้มันจะกลายเป็นประเด็นได้มากมาย !!   เราดูรายการทีวีก็เพื่อผ่อนคลาย (กรูเครียดกับงานมาทั้งวันเเล้ว)  ยกเว้นวิเคราะห์ข่าวถึงจะเออ.. นั่งคิดตาม คิดเเย้ง คิดสารพัด ... ว่าไปก็เห็นใจ 2 หนุ่มพิธีกรไม่น้อย ... อายุยังไม่มาก ประสบการณ์ไม่เยอะ .. เพิ่งทำรายการออกทีวี ครั้งเเรก(มั้ง) ก็โดนซะเเล้ว.. จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 10:04:01

ความคิดเห็นที่ 46 ได้รับไม่เหมือนกัน ก็ไม่ว่ากัน คุณได้รับความเครียด แต่คนอื่นได้รับความสุขได้รับแง่คิด ก็อยู่ที่ใครจะได้รับอะไรนะนะ แต่ หลังจากดูรายการนี้ก็ ไม่เคยมีความคิดที่จะ "ไม่อยาก" ไปญี่ปุ่น หรือ กลัว การไปญี่ปุ่น อย่างว่าต่างคนต่างมุมมอง จากคุณ : หางหวาย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 10:09:21

ความคิดเห็นที่ 47 กลับมาเขย่าอีกสักรอบ ^_^ ตกลงว่า รายการนี้ไม่มีสคริป นะครับ !!! นั่นหมายความคือ เป็นการเดินทางโดยสองหนุ่ม ไปถึงไหน เจออะไร ก็ถ่ายไปเรื่อยๆ ใช่นะครับ ในเมื่อเข้าใจตรงกัน ดังนั้น harajuku ตอนที่ 1 และ 2 คือ การเดินทางในหนึ่งวันของสองหนุ่มนะครับ ^_^ ผมไล่ลำดับเหตุการณ์ในสองตอนนี้ ผิดก็ท้วงได้นะครับไม่มีปัญหา ^_^ 1.ผจญภัยบนรถไฟช่วงเร่งด่วนตอนเช้า 2.ต่อด้วยย่าน harajuku หาวัยรุ่นแต่งตัวแรง 3.เข้าศาลเจ้าเมจิ 4.ได้วิวมุมสูงศาลเจ้าเมจิ จากตึก TMG จบตอนแรก ตอนสองเปิดด้วย 5.วิวมุมสูงจากตึก TMG 6.สถานี shinjuku จะซื้อตั๋วไป akihabara 7.ถูกขอเงินทอน 8.พาดูมนุษย์กล่อง 9.สุดท้ายที่ akihabara กลับไปกินข้าววัด เหตุการณ์ไล่เรียงเป็นแบบนี้นะครับ (ในหนังก็มีตัดต่อฟุตเทจเข้าไปเสริมนิดๆ หน่อยๆ) ตกหล่นอะไร ก็เพิ่มเติมได้นะครับ ผมเป้นพวกไม่ค่อยละเอียดเท่าไรอาจมีหลุดๆ บ้าง ดูแล้ว สรุปว่า one day trip ใน tokyo การเดินทางตาม 1-9 ใช้เงินเท่าเนี้ย *_* จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 13:11:19

ความคิดเห็นที่ 48 จากประสบการณ์การ "เดิน" ในโตเกียวของตัวผมเอง ซึ่งมีไม่มากมายเท่าไรนัก แค่พอจะรู้จักบางสถานที่และพอจำได้ว่าสถานที่เหล่านั้นอยู่ตรงไหนบ้าง งั้นมาดูกัน "หนัง" ครับ 1.เริ่มแรกตอนเช้า ซึ่งผมไม่รู้ว่าวัดที่นอนฟรีอยู่ที่ไหน 2.รู้แต่ว่าสองหนุ่มนั้น ขึ้นรถไฟ jr สาย joban (รถไฟสายสีน้ำเงิน) มาลงที่สถานี ueno (มีไม่กี่สถานีที่สาย yamanote และสาย keihin-tohoku line negishi line บังเอิญว่าตรงชานชาลา ueno ตรงนั้นผมขึ้นบ่อย) 3.เรื่องรถไฟช่วงเร่งด่วน นั่นคือวันจันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น (เสาร์อาทิตย์ไม่มีช่วงเร่งด่วน) 4.มาถึง harajuku ไม่มีคนแต่งตัวแรงๆ หรือ แต่งคอส ก็เพราะเป็นวันธรรมดา ไม่ใช่วันอาทิตย์ 5.เดินศาลเจ้าเมจิ 6.ดูสภาพเส้นางแล้ว คงเดินทะลุด้านหลัง เพื่อไปออกตรง yoyogi ซึ่งใกล้กับโซนตึกสูงของ shinjuku ซึ่งตึก TMG อยู่แถวๆ นั้น (เส้นทางนี้เดินค่อนข้างไกล ผมเคยเดินเหมือนกัน) 7.วิวมุมสูงบนตึก TMG 8.สถานี shinjuku (เดินเข้าทาง west exit/entrance ด้านโซนตึกสูง แล้วเดินวนมาถึงด้าน south exit/entrance 9.ถูกขอเงิน จากการให้ซื้อตั๋วไป akihabara (ตอนนั้นเป็นเวลาอีกสองนาทีจะถึงสี่โมงเย็น กรุณาดูนาฬิกาในหนังด้วย) 10.พาไปดูมนุษย์กล่อง (แถวๆ ueno) 11.สรุปเรื่องราวอยู่ที่ akihabara แล้วกลับวัด ปล. 9,10,11 ก็เดินทางย้อนไปย้อนมาดีนะครับ !!! เพราะมนุษย์กล่องที่ไปเดินดูนั้น มันคือตอนสายๆ ครับ (ดูจากสภาพมนุษญ์กล่องที่ปรกติตื่นหลังเที่ยง และแดดหน้าหนาว และสถานที่) จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 13:13:05

ความคิดเห็นที่ 49 ผมเริ่มขี้เกียจเขียนในเรื่องปลีกย่อยแล้ว เอาว่าดูประเด็นเดียวง่ายๆ คือ ตอนเช้ามีการใช้รถไฟ jr สายสีน้ำเงิน ไปไหนมั่งก็ไม่รู้จนมาถึง นั้นคือการใช้รถไฟครั้งแรกของวัน ซื้อตั๋วกันยังไงหรือครับ ก็มันเป็น jr เหมือนกัน !!! ถึงสถานี shinjuku ถึงถูกหลอกกินตังค์เนื่องจากไม่กดตู้ขายตั๋วเอง -_-" แล้วขากลับจาก ajihabara กลับวัดนี่ ใช้วิธีอะไรละครับ !!! เหตุการณ์ทั้งหลายนั้นทั้งหมดนั่น จะเป็นสคริปหรือไม่ให้ดูตั้งแต่ นาทีที่ 1.30 ของตอนที่ 1 นะครับ แล้วจะเห็นความจริง........ สองหนุ่มนั้นถือเจ้านี่ครับ...... จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 13:14:15

ความคิดเห็นที่ 50 สำหรับท่านที่ไม่ทราบมันคือตั๋วเหมาเดินทางได้ทั้งวันของ jr นะครับ แล้วตอนบ่ายสี่ นี่ทะลึ่งซื้อตั๋ว jr จาก shinjuku ไป akihabara ทำเกลืออะไรละครับ !!! พอเท่านี้นะครับ ขออภัยท่านทั้งหลายด้วยครับ ที่ผมมากวนน้ำให้ขุ่นอารมย์ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะข้อความนี้ครับ ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่า เราควรเป็นตัวของตัวเองและแสดงออกตัวตนที่แท้จริงออกมา เพื่อให้คนทั้งหลายยอมรับตัวตนที่แท้จริงของเราเอง ^_^ มันทำให้เห็นว่า... เราเป็นคนอย่างไร...... เรากำลังทำอะไร............. แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 13:26:50 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 13:19:45

ความคิดเห็นที่ 51 อูยยยยยยยยยยยยย หลงรักโตเกียวพอๆกับพี่ skybox เลยคะ อิอิ โหดมันฮาแท้ๆ อิอิ จากคุณ : Tokyo Tower & Forever Love เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 14:01:18

ความคิดเห็นที่ 52 SkyBox เป็นคนคุณภาพที่แตกต่างจากสองหนุ่มนั้นอย่างสิ้นเชิง คงหาคนที่นำเสนอ อย่างสองหนุ่ม นั้นยากอยู่นะ จากคุณ : Bito เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 14:32:09 A:180.180.220.190 X: TicketID:275984

ความคิดเห็นที่ 53 เข้ามาดู กระทู้อีกรอบ คุณ SkyBox โอั ต้องขอคาราวะจริงๆ แฟนพันธ์แท้ ตัวจริงเสียงจิง 最高 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 15:25:17 แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 15:22:57 จากคุณ : JinMingTian เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 15:21:10

ความคิดเห็นที่ 54 เเหง่ว ... บัตรรถไฟ เหมาทั้งวัน .. ok ล่ะ พี่ฟ้า.. ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แก้ไขเมื่อ 13 ก.พ. 54 16:23:11 จากคุณ : aomnan เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 16:22:45

ความคิดเห็นที่ 55 อวยกันเค้าไป ญีปุ่นอะ ไม่มีคนเลวเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย จากคุณ : lady_piglet เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 54 22:01:16

ความคิดเห็นที่ 56 คนไปเที่ยว กับคนอยู่ประจำนี่ ข้อมูลเขาได้รับเท่ากันหรือเปล่าอะ คนท้องถิ่นอาจจะรู้หมด บัตรนี้ทำไร ไปนี่ราคาเท่าไร แต่ลองให้เราไปเที่ยวซักที่ซิ ค่ารถยังไม่รู้เลย ไปนี่ๆมันเท่าไร ไม่ต้องไปไกลถึง ตปท หรอก เอาแต่ ตจว บ้านเราก็พอแล้ว หรือบางคนเอาแค่ในกรุงเทพเนี่ยล่ะ BTS จากไหนไปไหนราคาเท่าไร มีบัตรอะไรบ้าง ราคาเท่าไรบ้าง ยังตอบไม่ได้เลย ก็ของมันไม่ได้ใช้ทุกวันนี่หว่า จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 00:51:34

ความคิดเห็นที่ 57 ด้วยความเคารพ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะคนละวันกันนะค่ะ เพราะแต่ละตอนเค้าไม่ได้บอกว่าวันไหนเป็นวันไหน บอกแค่ว่าอยู่เมืองอะไร ที่ไหน เพราะว่าเค้าไม่ได้เอามาลงทั้งหมดนะคะ ที่ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ ก็มีเยอะ อาจะจะเลือกมาเป็นช๊อตๆตัดต่ออีกที แล้วเราเข้าใจผิดไปเอง รึเปล่าเอ่ย? เพราะขากลับก่อนวันที่จะออกจากโอซาก้ามาโตเกียว เค้าบอกว่า เหลือเวลาที่ญี่ปุ่นอีก 6 วัน ฉะนั้น .. ที่เค้าซื้อคือตั๋ววันใช่ไหมค่ะ แล้วฉากที่มีคนมาขอเงิน อาจจะเป็นอีกวันก็ได้ เพราะเค้าไม่ได้บอกเลยนะคะ วันตอนไหนเป็นวันไหน เวลาไหน เพราะเดาจากที่พิธีกรบอกว่า หลายตอนโดนเซนเซอร์ แสดงว่าเวลา ก็ต้องไม่ต่อกันสิ อาจจะสลับไปมาเพื่อความสมูทเวลาผู้ชมติดตาม เดาเอานะคะ แนะนำคุณ sky ไปเขย่าที่ห้องเฉลิมไทยดีกว่านะคะ คนดูเยอะกว่า หลายความเห็นกว่า จะได้ช่วยกันพิจารณา หรือไม่ก็ขอให้เจ้าตัวมาตอบเลย จะได้รู้ๆกันไปเลย ^^ จากคุณ : immeeLy เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 01:30:55

ความคิดเห็นที่ 58 มาจากห้องเฉลิมไทย ครั้งแรกที่เข้ามา Blueplanet เลยครับ ข้อมูลคุณ Skybox แน่นมากเลย สายตาเฉียบคมจริงๆ แต่มันก็มีขอที่ยังไม่กระจ่างอยู่ดีล่ะครับ เพราะผมคิดว่า นาทีที่ 1.39 น่าเป็นภาพจากวันอื่นครับ ซึ่งนำตัดต่อใส่เข้าไปให้เข้ากับบรรยากาศที่ดูเร่งรีบ ในภาษาการตัดต่อแบบนี้เข้าเรียกว่า insert ครับ แต่ผมก็ยังไม่มั่นใจในความคิดของตัวเองเท่าไหร่ เพราะถ้าเป็นคนละวันจริง ทำไมเสื้อผ้ามันเหมือนกัน แต่ก็คิดต่อได้ว่ามันเป็นเสื้อคลุมกันหนาวนิ มันก็สามารถใส่ซ้ำกันได้ทุกวันนั้นล่ะ สรุปผมก็เลยยังไม่ปักใจเชื่อ 100% และคิดเพิ่มด้วยว่าที่ภาพสถานที่หลายๆ ภาพ ที่มันคนละที่กันแต่มาตัดต่อรวมกันจนไม่สมจริง ก็เพราะการ insert นี้ล่ะครับ เหมือนตอนหนังเรื่องเพื่อนสนิท ถ้าไม่ใช่คนเชียงใหม่ก็จะดูแล้วรู้สึกเนียน แต่ถ้าเป็นคนเชียงใหม่ก็จะรู้มันคนละที่ คนละทิศทางกัน วิธีแก้ง่ายๆ คือถ่ายใหม่ครับ แต่จะให้สองคนนั้นกลับไปถ่ายที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ก็คงจะไม่มีงบ แต่สิ่งหนึ่งก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 1 ตอน ซึ่งตามความเข้าใจของเรามันควรจะเป็นเหตุการณ์ที่เรียงลำดับต่อเนื่องกัน และเกิดขึ้นในวันนั้นๆ ใช่มั้ยครับ ผมกลับมั่นใจว่าเหตุการณ์ในแต่ละตอนนั้น เกิดจากเอาการเดินทางหลายๆ วันมายำรวมกันครับ และก็พยายามตัดต่อให้ดูเป็นวันเดียวกัน (ตามวิธีนำเสนอของรายการ) ที่นี่มันก็เลยความคิดตามมาว่า แล้วตอนจบล่ะ เมคค่าใช้จ่ายขึ้นมาหรือเปล่า ซึ่งตรงนี่คงมีแต่ 2 คนนั้นที่รู้ ส่วนเรื่องคนขอตังค์นั้น ความเห็นส่วนตัวคือเชื่อว่าไม่เซ็ทครับ เพราะลองนึกถึงหลักความจริง ถ้าเป็นเซ็ท 1 .สองหนุ่มนั้นคงทำการบ้านมาเยอะพอสมควรเลย ถึงรู้ว่ามีมิจฉาชีพพรูปแบบนี้ด้วย (ผิดกับที่ทั้งรายการก่อนหน้านั้น ดูแล้วไม่ได้เตรียมอะไรเท่าไหร่) 2. ในแง่ของการเล่าเรื่อง ในเมื่อุตส่าห์เซ็ทแล้ว ก็ควรจะเล่าต่อเกี่ยวกับมิจฉาชีพแบบอื่นๆ แต่นี้กลับพาไปดูป่ากลางเมืองต่อ แล้วค่อยไปเล่าเรื่องมนุษย์กล่องเพื่อสรุปเรื่องโดนขอตังค์ตอนจบ (ไปๆ มาๆ ผมคิดว่าตอนจบนี้ล่ะเซ็ท อาจจะถ่ายคนละวันกันด้วยซ้ำ แล้วมาต่อเนื้อเรื่องกันเพื่อในจบบริบูรณ์) 3. การเซ็ทฉากเป็นสิ่งที่ยากมากในการถ่ายทำ เพราะทุกอย่างมันคือการแสดง และมันจะต้องมีการถ่ายซ้อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ด้วยจำนวนทีมงานบวกกับเงินที่มีอยู่ ทำให้ผมคิดว่ามันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ซะมากกว่า ประมาณนี้ล่ะครับ ลองแชร์ความเห็นกัน ปล1. เพิ่งเห็นว่าความเห็นของผมคลายๆ กับคุณ immeely เลยแฮะ ปล2. ทุกรายการ Reality ในโลก มันก็มีสคริปต์ มีเซ็ทล่ะครับ เพียงแต่สคริปต์นั้นเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการถ่ายทำ และการเซ็ทจะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งแต่ละวิธีถือว่าไม่ผิดครับ แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 54 02:24:02 จากคุณ : mushroom cream soup เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 02:17:51

ความคิดเห็นที่ 59 สำหรับพวกที่มัวแต่จ้องจับผิดนะครับ เอาเวลากับความฉลาดไปลงมือทำแบบสองคนนี่ดีกว่ามั้ยครับ เคยฟังคตินี่มั้ยครับคนจริงชอบทำคนละยำชอบติ ไม่เคยสร้างสรรแล้วยังจ้องแต่จะทำลาย มีคนแบบนี่เยอะๆประเทศเจริญตายห่ จะเฟ๊กหรืออะไรก็ช่างสองคนนี่ผมชอบเขามาก ดูตั้งแต่ตอนแรกเลยชอบการนำเสนอมุมที่แตกต่าง ชอบในความพยายามขอให้ประสบความสำเร็จเยอะๆน่ะครับ ต่่างคนต่างความคิดโลกนี้มีทั้งคนชั่วคนเลวทั่วทุกมุมจริงๆ ทั้งทางจิตใจและการกระทำ(แค่อีกหนึ่งความคิดเห็นของเด็กอายุ17) จากคุณ : แค่หนึ่งความคิด เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 03:33:41 A:88.175.104.8 X: TicketID:240267

ความคิดเห็นที่ 60 ว๊าวๆๆ  อ่านจบทุกความคิดเห็นเลยค่ะ จริงอยากข้ามมาแสดง คคห ของตัวเองก่อนว่า อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นกันคุณ sky box ค่ะ  อิอิ และคิด แบบเดียวกับ คคห ที่ 45 เลยแหละ จากคุณ : นิรันดร ศรสวรรค์ (enduresexy) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 04:08:52

ความคิดเห็นที่ 61 เรียนท่านๆ ทั้งหลาย ^_^ ผมเริ่มแค่ว่า "หนัง" มันต้องมีสคริป จะมากหนือน้อยก็ว่ากันไป !!! ครั้งแรกกระทู้นี้ ความเห็นที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10218044/E10218044.html และอีกครั้งในกระทู้นี้ ความเห็นที่ 14,17 ที่ว่า "หนัง" ต้องมีสคริป และก็ตั้งใจว่าเขียนถึงเรื่องนี้เพียงเท่าที่เห็นใน ความเห็นที่ 18 !!! แต่ก็บังเอิญมีท่าน #40 ได้กรุณาคัดลอกข้อความกินใจ(ผม) จากสองหนุ่มนี้มาให้อ่าน !!! ผมก็เลยต้องฉลองศรัธา มาต่อให้สมความปรารถนา ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยตอบอะไรใครในวันเสาร์และวันอาทิตย์ !!! สุดท้ายนี้หากว่าท่านๆ ทั้งหลายอ่านแล้วไม่สบายใจ หรือขุ่นข้องหมองใจ ผมก็ได้ขออภัยไว้ในแล้วในความเห็นที่ 50 ด้วยความเคารพทุกท่านที่ออกเสียงมา ณ ที่นี้ จาก(อดีต)คนเคยทำหนัง ^_^ -------------------------------------------------- คุณ mushroom cream soup ครับ ^_^ เรื่องค่าใช้จ่ายตอนท้ายที่สรุปว่าหนึ่งวันใช้เงินเท่าไร จริงอยู่ว่าไม่ได้เขียนให้ชัดเจนว่ากี่วัน แต่การสรุปเช่นนั้น เป็นวิธีการหนึ่ง ในการสร้างความเชื่อให้เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากเนื้อเรื่องพาไปยังบนสรุปในตอนท้าย ผมว่าอันนี้ละครับ คือ สิ่งที่ไม่มีใครรู้จริง ได้แต่อนุมานตามที่บอกไว้ให้คิดตามเอาเอง !!! ผมเห็นด้วยครับ สำหรับข้อความที่ว่า...... ......และคิดเพิ่มด้วยว่าที่ภาพสถานที่หลายๆ ภาพ ที่มันคนละที่กันแต่มาตัดต่อรวมกันจนไม่สมจริง ก็เพราะการ insert นี้ล่ะครับ เหมือนตอนหนังเรื่องเพื่อนสนิท ถ้าไม่ใช่คนเชียงใหม่ก็จะดูแล้วรู้สึกเนียน แต่ถ้าเป็นคนเชียงใหม่ก็จะรู้มันคนละที่ คนละทิศทางกัน..... ถูกต้องครับ คนเชียงใหม่หรือคนที่คุ้นเคยในพื้นที่จะรู้ว่าฉากนั้นในหนังนั้นมันจริงขนาดไหน ^_^ แล้วไม่คิดว่า ผมเป็นคนที่คุ้นเคยพื้นที่โตเกียวมั่งหรือครับ ที่ดูแล้วรู้ว่าฉากนั้นอยู่ตรงไหนมุมไหนของโตเกียว หรือของสถานีรถไฟในโตเกียว !!! ส่วนเรื่องการตัดต่อฟุทเทจหรืออินเสริจน์เป็นของสามัญยิ่งกว่ายาสามัญประจำบ้านครับ ถ้ามันเป็น "หนัง" ^_^ -------------------------------------------------- คุณ immeeLy ครับ   ผมไม่ตั้งใจให้เป็นเรื่องใหญ่โตครับ แต่บังเอิญไปแตะต้องความจริงบางอย่าง ในโลกของหนังที่ทำให้คล้อยตาม ด้วยวิธีการปรกติของการทำ "หนัง" ก็เลยมีไซด์เอฟเฟ๊กออกอาการกันเล็กน้อย นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ว่ากัน ก็ถือว่าเป็นผลสำเร็จที่ดีของหนัง เพราะเป็นตัววัดฟีดแบคได้ดีตัวหนึ่ง ^_^ ส่วนห้องเฉลิมไทยนั้น ปรกติผมอ่านอย่างเดียวมานานแล้วครับ ไม่เคยออกเสียง อารมย์ที่นั้น มันเป็นเรื่องของ "หนัง" ซึ่งอยู่เหนือเรื่องราวอื่นๆ เช่น เหตุผล หรือ ความเป็นจริง ซึ่งถือว่าเป็นรอง เพราะว่า "หนัง" ที่ดีย่อมถูกสร้างให้สามารถควบคุมอารมย์และสร้างความคล้อยตามได้ตามใจคนสร้างหนังนะครับ ^_^ กระทู้เรื่องนี้ที่เป็นกระทู้แนะนำสัปดาห์ที่แล้วในห้องเฉลิมไทย ผมก็ตามอ่านมาตลอดครับ ถ้าไม่มีการตั้งกระทู้ใน BP ผมก็คงยังเงียบอยู่เป็นปรกติครับ แต่บังเอิญว่ามาตั้งที่ BP ซึ่งเป็นห้องที่เกี่ยวกับการเดินทาง ซึ่งคนอ่านต้องการ "ข้อมูลที่เป็นจริง" เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเดินทางมากกว่า ซึ่งผมเลือกที่จะชี้แจงความจริงให้กับคนที่จะไปญี่ปุ่นในห้องนี้มากกว่าครับ ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 07:33:08

ความคิดเห็นที่ 62 แฟนรายการหนังพาไป  อย่าคิดว่าเป็นการมาจ้องจับผิดเลยค่ะ เนื่องจากประเด็นเรื่องขอเงินทอน ถูกกล่าวถึงอย่างมาก ทั้งที่ห้อง Blue Planet ,ห้องเฉลิมไทย (และ กำลังไปที่ ห้องไกลบ้าน) คุณ SkyBox แค่เข้ามาบอกเล่าว่า ในความเป็นจริง มันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ...คนที่จะไปเที่ยวก็ไม่ต้องกังวลกันไป ข้อมูลญี่ปุ่นของคุณ SkyBox นั้น เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ เราเคยหาข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น(แต่ยังไม่ได้ไปสักที ... เศร้า) ไปเจอข้อมูล และ รีวิวของคุณ SkyBox ... ถึงกับอึ้ง และทึ่ง มีตั้งแต่เรื่อง ของกิน ที่เที่ยว เส้นทาง ...จนถึง จำนวนไฟแดงในเกียวโต (อ่ะจ๊ากกก...นึกว่าเจ้าหน้าที่ผังเมืองญี่ปุ่นปลอมตัวมา) เราเป็นคนหนึ่ง ที่คิดตามข้อมูลของคุณ SkyBox แล้วก็เห็นด้วย และก็ยังติตามรายการ หนังพาไปอยู่ ไม่ได้เลิกดูแต่ประการใด ...มองเห็นหลายๆมุม ก็ทำให้ดูรายการสนุกดีนะคะ จากคุณ : crabbad เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 10:20:08

ความคิดเห็นที่ 63 ขอย้ำ ดังๆ นะคะ ถึงรายการนี้จะชื่อ หนังพาไป แต่มัน ไม่ใช่ หนัง ค่ะ ไม่ได้มีสตอรี่บอร์ดหรือสคริปท์อะไรเทือกนั้น การถ่ายอะไรไปเรื่อยๆ แล้วนำมาตัดต่อเอาแค่ที่ต้องการ ไม่ใช่เรื่องง่ายนคะ ผู้หญิงคนหนึ่งในทีมงาน Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอนท์ ถึงกับต้องโกนหัว เพราะการตัดต่อมาแล้ว แต่ที่สองคนนี้ทำให้รายการนี้น่าสนใจมา ก็เพราะความรู้ในการทำหนัง จึงสามารถเอาเรื่องราวมากมายที่ถ่ายๆ ไว้มาตัดต่อให้ดูรู้เรื่องได้ จากคุณ : หน้าปลาทอง เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 13:00:14

ความคิดเห็นที่ 64 แหม๋!!!!!!!   จะแขวะอะไรนักหนาก็ไม่รู้   คนที่เค้าใช้ชีวิต เค้าไปบ่อย หรือเค้าอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น หรือ จะไทย ใครๆ ก็ต้องรักประเทศที่อาศัยอยู่  เราเองก็ชอบวัฒนธรรม การดำรงชีวิต  อากาศ หรือหลายๆ อย่างของญี่ปุ่นเช่นกัน แต่ครั้น  "หนัง" แบบนี้ ดูเหมือนจะโจมตีต่อความรู้สึกที่ต่างจากความเป็นจริง   เอาความจริงมาคุยกันค่ะ เป็นไปได้เหรอ เดินทางไปต่างประเทศ แต่ "ไม่เตรียมตัวในเรื่องการเดินทางเลย  ตลกไปไหมคะ เปิดตัวมาเจอคนขอเงินเลย  ช่างเหมาะเจาะให้คนดูติดตามเสียเหลือเกิน  บอกหาช่องภาษาอังกฤษไม่เจอ  ไม่จริงหรอก มีแผนที่ภาษาอังกฤษตลอด แม้กระทั่งแผ่นพับ เฮ้อ!!!!  ดูตอนล่าสุด พาไปวัดที่เราก็เคยไป  คนดำเนินรายการ คุณยังดูถูกเจ้าหน้าที่ศาลในญี่ปุ่นเลยว่า "เกอิชา" รู้ไหมถ้าเค้าได้ยินและรู้ว่าคุณพูดถึงเค้าว่าไง เค้าจะรู้สึกอย่างไร  น่าเกลียดน๊ะคะ การจะขายหนังของตัวเองโดยเอาที่ตั้งของตัวเองว่า  ฉันจะขายด้านมืดของญี่ปุ่นเหรอคะ" บอกได้คำเดียวว่า  "น่าเกลียดที่สุด" จากคุณ : love-so เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 13:18:36

ความคิดเห็นที่ 65 จะบอกว่ามันเป็นหนัง จะเอาอะไรกับหนัง ... ถ่าย ๆ แล้วมาเลือกตัดต่อ ไม่มีสคริป บลา ๆ ไม่มีจัดฉาก ไม่แฟค มันก็พอ ๆ กับเพลงมิดะ ที่ทำให้เข้าใจอะไรกันมาผิดเป็นสิบๆ กว่าปีนี่แหละ จนป่านนี้ ชาวเขาเหล่านั้นยังต้องออกมาเรียกร้องความเข้าใจที่ถูกต้องอยู่เลย จากคุณ : DeE dEe เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 15:36:31

ความคิดเห็นที่ 66 #64 คืออะไรว่ะ!!! อยู่ๆก็มาแรงใส่เหมือนรู้เรื่องแต่ต้นรู้เรื่องที่เขาคุยกันดี เราว่ามามั่วๆมึนๆนะนั่น ไม่ได้เข้าประเด็นอะไรกะเขาเลย คือมีความรู้สึกว่าเขาคุยกันจะรู้เรื่องและ อยู่ๆยัยนี่ก็มาวีนและเริ่มประเด็นขึ้นอีก 555 จากคุณ : ~ศิลปินช่างฝัน~ เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 18:49:13

ความคิดเห็นที่ 67 ไม่ชอบรายการนี้ ไม่ชอบ 2 คนนี้ เกลียดวิธีการมองสังคมอื่น ๆ ด้วยแนวคิดอย่างนี้ค่ะ จากคุณ : คนดีผีคุ้ม เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 19:06:12

ความคิดเห็นที่ 68 ชอบรายการนี้มากค่ะ จากคุณ : Roxan เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 20:43:45

ความคิดเห็นที่ 69 ผมคิดว่า.... ท่าน รมต.ต่างประเทศ กับท่านกงศุลฯ คงไม่มานั่งร่วมแสดงภารกิจพิชิตห่อข้าวเหนีวด้วยหรอกมั้งครับ จากคุณ : อุ่นหนาวสาวคลั่ง (tkung13) เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 20:50:47

ความคิดเห็นที่ 70 ดีจังนะคะ หลายคนมีข้อสงสัย มีข้อติ ข้อเสนอ ทำไมไม่เขียนไปถึงรายการเลย หรือทางช่องเลย หรือจริงๆไปถามที่ FB ของหนังพาไปก็ได้ เราว่าคุณยอดและคุณบอล เค้าก็ไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย จะยัดเยียดอะไรให้กับคนดูนะคะ เราว่าดีออก ที่เค้าเอามุมต่างๆมานำเสนอ ตามความคิดเค้า ใครเห็นด้วยก็ว่ากันไป ใครมีข้อติ ก็ติกันไป น่าจะคิดว่าเป็นการติเพื่อก่อ เราเองยังมีไม่ถูกใจในบางคำพูดบางตอนเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราสามารถใช้วิจารณญาณที่เรามีอยู่ได้ ส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบพิธีกรทั้งสองคน เค้าเองก็ยังเรียนอยู่ ในมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย ส่งหนังประกวดไปด้วย เยาวชนที่มีความสามารถ ขยัน แบบนี้สิค่ะ ที่เราควรจะสนับสนุน .. แต่ให้มีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นก็บอกเค้าไป เพื่อที่เค้าจะได้เอาไปพัฒนา แก้ไข ทีวีไทยเองก็เป็นทีวีสาธารณะค่ะ ทุกคนมีสิทธิออกความเห็น มานั่งติเตียนในเวปนี้ก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา ปล ไม่แปลกใจว่ามีผู้ใหญ่ แบบคุณ คห 46 ประเทศนี้ถึงไม่เจริญซะที จากคุณ : immeeLy เขียนเมื่อ : 14 ก.พ. 54 22:44:09

ความคิดเห็นที่ 71 สู้ จากคุณ : enduresexy เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 03:09:46

ความคิดเห็นที่ 72 #70 ก็ติติงตรงนี้ เพราะอยากให้คนที่มาอ่าน web นี้ได้รู้ด้วยไงคะ ว่าไอ้ที่สองคนนี้เค้าถ่ายมาให้ดูในรายการน่่ะ มันผิดจากข้อเท็จจริงตรงไหน เป็นวิทยาทานดีออกค่ะ เราเองไม่รู้ก็เลยได้รู้ว่า อ๋อ....ตรงนี้นี่รายการมั่วนี่หว่า ถ้าไปติกันข้างหลัง คนที่ไม่ได้อ่านก็อาจจะยังเข้าใจผิดต่อไป ติกันตรงนี้ เราว่ามีประโยชน์กว่าไปบอกเค้าข้างหลังเยอะเลย เพราะคนอ่านได้ความรู้ แล้วถึงยังไงเดี๋ยวก็มีแฟนๆเอาไปบอกไปถามสองคนนี้ในเฟซอยู่ดีไม่ใช่เหรอ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 04:06:30

ความคิดเห็นที่ 73 มันจะดีค่ะ ถ้าไม่เอามาเปรียบเทียบว่ารักเมืองไทยขึ้นอีกจม แหม คนญี่ปุ่นไม่มีเลย เลวๆเนี่ย บลาๆๆ บูชากันเข้าไป ญี่ปุ่นน่ะ โน่นนี่นั่น แหม้..อะไรมันจะขนาดนั้น? เราเองไปญี่ปุ่นแบบแบ็คแพ็คไปเอง หนึ่งเดือนกว่าๆ ผู้หญิงสองคน อ่านภาษาญี่ปุ่นออกมั้ย ไม่ออกสักเท่าไหร่ แต่ไปมาได้ทั่วโตเกียวและโอซาก้า เรียกว่าผจญภัยกันสุดๆ เคยแม้กระทั่งตกรถไฟเที่ยวสุดท้าย แล้วเดินตามทางรถไฟแล้วทางตัน ต้องหาโบกแท็กซี่ แต่ก็กลับเมืองไทยมาได้ ไม่เจออันตรายใดๆที่เกิดมาจากประชากรประเทศญี่ปุ่น บริเวณสถานีอิเคบุคุโระ แถวๆที่พัก มีโฮมเลส 2-3 คนประจำอยู่ ก็ไม่เคยรีดไถ หรือทำอันตรายใดๆกับคนที่เดินผ่านไปมา รวมถึงเรากับเพื่อนด้วย ถามว่าเพราะอะไร? เพราะคนเราโดยสัญชาตญาณแล้วการเอาตัวรอดสำคัญที่สุด เพราะมีศูนย์ให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เพราะมีภาษาอังกฤษให้ดูที่ตู้กดตั๋วและบริเวณใกล้เคียง ตอนไปโอซาก้าวันแรก ทั้งๆที่ว่าเตรียมตัวมาดีพอสมควรแล้ว แต่ตกม้าตาย กดซื้อตั๋วไม่เป็น เพราะตู้หน้าตาไม่ค่อยเหมือนโตเกียว มีผู้ชายญี่ปุ่น ซาลารีมังท่านนึงมาอาสากดให้ แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับผู้หญิงสองคนที่ยืนงกๆเงิ่นๆ หอบกระเป๋าพะรุงพะรังอยู่ตรงตู้กดตั๋ว ในปัจจุบันคนจะไปญี่ปุ่นไม่ว่าไปเพื่ออะไร เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนกับการไปโดยไม่เตรียมตัวอะไรเลย? ในเมื่อไกด์บุคมากมายที่เป็นเล่มและเป็นไฟล์อิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่กันจนตามเก็บไม่หวาดไม่ไหว? ไม่ใช่คนญี่ปุ่นไม่มีคนเลว ไม่มีคนโกง ก็มี คนใจร้ายก็มี ใจจืดก็มี เราขนของขึ้นแท็กซี่กลางฝนพรำๆ จะไปนาริตะ แท็กซี่เห็นของเยอะ ยกออกจากหลังรถแล้วขับออกไปหน้าตาเฉย ให้ผู้หญิงสองคนยืนเหวอ ลากของตากฝนไปขึ้นรถไฟ แล้วก็ตกเครื่องบินจนได้ ก็เราเองที่เจอมา เราก็ยังบ่นถึงลุงโชเฟอร์อยู่จนทุกวันนี้ แต่ก็บ่นลุงโชเฟอร์ ลุงไม่ได้ทำให้เรารักเมืองไทยมากกกขึ้นจม ลุงไม่ได้ทำให้เราเซ็งคนญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกันกับคนไทย เวลานักท่องเที่ยวมาเยือนละมั้ง เคยอ่านหนังสือของคุณแอนดรูว์ บิ๊กส์ เล่มแรก "เมืองไทยในสายตาผม" ที่ปลอมตัวเป็นฝรั่งขี้นกเดินกางแผนที่แถวๆวัดพระแก้ว แล้วมีมิจฉาชีพมาหลอกพาไปซื้อพลอย บอกว่า พระราชวัง "ปิดซ่อม" ไม่ทราบว่าจริงเท็จ จัดสคริปต์อะไรยังไงหรือไม่ แต่อ่านแล้วก็เข้าใจและยอมรับ เมืองไทยมันมีแบบนี้จริงๆ ทุกประเทศมีคนดีคนเลว และคุณแอนดรูว์ก็ไม่ได้บอกว่า เจอแบบนี้ผมรักออสเตรเลียอีกจมเลย ลองดูนะครับ ประเทศไทยไม่ใช่แค่สยามเมืองยิ้ม มันมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด เพราะอะไร? ความสามารถในการแยกแยะ? จากอีกหนึ่งมุมมองค่ะ จากคุณ : ShongkoryO เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 11:40:05

ความคิดเห็นที่ 74 ส่วนตัว  ผมว่าสองคนนี้มีทัศนคติต่อญี่ปุ่นเอียงไปด้านลบนะครับ อธิบายไม่ถูก  แต่รู้สึกได้   ส่วนเรื่องไม่ดีของญี่ปุ่นที่เขานำเสนอ  คนที่สนใจประเทศนี้ก็คงรู้ๆ กันอยู่แล้ว   ไม่ได้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอะไร อยากจะบอกคนที่ว่ารายการไม่มีสคริปว่า  ถึงตอนถ่าย  ถ่ายไปเรื่อยๆ ก็จริง  แต่ตอนตัด  ยังไงมันก็ต้องมีเนื้อเรื่อง  มีจุดประสงค์ของแต่ละตอน  เขาถึงตัดต่อมารวมเป็นตอนๆ ได้    ดังนั้น  สิ่งที่เห็นอาจเป็นเรื่องจริงๆ   แต่มันผ่านมุมมองของคนที่ตัดต่อ  สิ่งที่เราได้ดู  คือสิ่งที่เขาอยากให้เรารู้สึก เป็นสิ่งผ่านการปรุงแต่งมาแล้ว  หากมีข้อเท็จจริงอีกมุมนึง  ผมคิดว่าคงไม่เป็นการเสียหายอะไรที่จะรับฟังนะครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.พ. 54 15:10:30 จากคุณ : numtyu เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 13:06:03

ความคิดเห็นที่ 75 จะบอกว่า อะไรก็ทำได้ แต่อย่าบอกว่าแผนที่มันไม่มีภาษาอังกฤษ มันสร้างความเข้าใจผิดๆ จากคุณ : christiegordo เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 13:55:00

ความคิดเห็นที่ 76 ชอบรายการนี้ เรื่องจริงไม่จริงไม่วิจารณ์ แต่เห็นด้วยกับหลายท่านว่าบางครั้งพิธีกรสองคนมีทัศนคติในแง่ลบกับญี่ปุ่นมาก และพยายามเปรียบเทียบเสมอว่าประเทศไทยดีกว่า (ในท้ายที่สุด) ทั้งๆ ที่ประเทศแต่ละประเทศมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ญี่ปุ่นเขาก็ไม่เคยพรีเซนต์อะไรว่าประเทศตัวเองดีเลิศขนาดนั้น ไม่รู้ว่าใครไปเอามาจากไหนว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ perfect ที่บอกว่าในการ์ตูนมีแต่เรื่องดีๆ นี่ผมก็ไม่ทราบว่าดูจากการ์ตูนเรื่องอะไร ถ้าเป็นการ์ตูนที่เอาไว้ให้เด็กดู อย่างโดราเอม่อน มันก็แน่นอนอยู่แล้วว่ามันคงมีภาพดีๆ แต่ถ้าเป็นการ์ตูนผู้ใหญ่อย่าง NHK หรือ คุโรซากิ มีด้านมืดมากมาย ทำไมไม่พูดถึงบ้างล่ะ? เรื่อง homeless ญี่ปุ่น เคยไปนั่งเล่นกับแมวของคุณลุง homeless คนนึงที่สวนอุเอโนะ ตอนแรกก็ไม่กล้าเข้าไปเล่นกับแมวแก เพราะกลัวลุง สักพักลุงก็พูดว่า "อุ้มได้เลยนะ" ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่รู้สึกเลยว่าเราไม่ควรตัดสินคนจากภายนอก T T จากคุณ : Govinda Gopala เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 54 22:28:44

ความคิดเห็นที่ 77 ยังจะดราม่ากันอยู่หรือเปล่าเนี่ย อิอิ ถ้าจะให้เทียบกับเมืองไทย เจอแบบนี้ยังขอแค่เงินทอน 100 กว่าเยน ถ้านักท่องเที่ยวมาทำท่างกๆเงิ่นๆที่เมืองไทย  อาจจะโดนหลอกพาขึ้นแท็กซี่ไปฟันหมดไปหลายพันนะจะบอกให้ จากคุณ : ลาบราดอร์สีดำ เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 17:06:24

ความคิดเห็นที่ 78 เสียดายภาษี ทำไมกงศุลต้องเอาเงินภาษีคนทั้งชาติไปสนับสนุนให้ไอ้ 2 คนนั่นด้วย ไม่ค่อยเข้าใจ จากคุณ : ชาติ 4300 เขียนเมื่อ : 16 ก.พ. 54 19:24:52

ความคิดเห็นที่ 79 บทสรุปส่งท้าย ปิดได้ Amazing มากครับ ^_^ จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 12:35:37

ความคิดเห็นที่ 80 ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ^_^ เท่าทีดู มีการใช้ JR PASS ไม่รู้ว่าซื้อแบบไหน 7 วันหรือ 14 วัน !!! เอาซะว่าซื้อแบบ 7 วันก็แล้วกัน ราคา 28,300 yen แต่ดูๆ แล้ว jr pass 7 days นี่ขึ้นเหนือลงใต้ทั่วประเทศ ตั้งแต่ beppu ยัน sapporo นี่ ไม่ธรรมดาจริงๆ มันน่าจะเป็น 14 days มากกว่า แต่ไม่ได้เดี๋ยวคำนวณไม่ลงตัว !!! ดังนั้น ค่าใช้จ่ายก็จะเป็น 27,007.8 บาท ลบด้วยค่า jr pass แบบ 7 วัน ตีเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณหนึ่งหมื่น ก็จะเหลือตังค์ 27,007.8 - 10,000 = 17,007.8 บาท เอา 17,007.8 บาท หารด้วน 30 วัน ก็จะเหลือค่าใช้จ่าย 566.92 บาท !!! ต้องยอมรับจริงๆ ครับ ว่าแน่มากที่สามารถบริหารเงินได้ขนาดนี้ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยล แค่วันละห้าร้อยกว่าบาท กับการตระเวณเที่ยวญี่ปุ่นไปทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้ *_* ปล.1 ผมเข้าใจครับ ว่านอนฟรี ที่ osaka และ tokyo และเข้าใจดีครับว่าที่ tokyo และ osaka ทานข้าววัดฟรี รวมถึงมีข้าวกล่องฟรีที่แฮ้บมาจากงานต้อนรับท่าน รมต. แยะจนสามารถกินได้สามวันสบายๆ ปล.2 เดินทางจนพรุไปทั้งประเทศญี่ปุ่นโดยรถไฟยี่สิบกว่าวัน ไม่น่าที่จะมาตกม้าตายที่ shinjuku ตอนช่วงท้ายๆ ที่มาอยู่ tokyo เลย ช่างน่าสงสารจริงๆ ปล.3 ท่านที่มาเยี่ยมจากห้องอื่น กรุณาหาข้อมูล JR PASS ด้วยนะครับว่ามันคืออะไร ก่อนจะโวยวายอะไรเดี่ยวจะเสียฟอร์มแขกจากห้องอื่น ^_^ ปล.4 ในอนาคตหากมีคนมาถามใน BP ว่าเดินทางในญี่ปุ่นต้องใช้เงินเท่าไร ผมขออนุญาตทำลิงค์มากระทู้นี้นะครับ ^_^ แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 54 12:57:14 จากคุณ : SkyBox เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 54 12:55:09

ความคิดเห็นที่ 81 .. พลาดกระทู้นี้ไปได้ไงนะ สนุ๊กสนุก ฮ่าๆๆ ส่วนตัวไม่เคยดูรายการที่ว่านี้นะครับ  ไม่ค่อยชอบดูรายการนำเที่ยวญี่ปุ่นเท่าไหร่ เพราะจะดี จะร้าย ... ขอเก็บตังค์ไปเที่ยวเอง แล้วมาเขียนรีวิว  มันส์กว่า อิอิ .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 00:13:27

ความคิดเห็นที่ 82 ยังมีดราม่าอยู่รึเปล่าเนี่ย คือรายการนี้เค้าถ่ายทำการเดินทางทั่วญี่ปุ่นแล้วตลอดสามสิบวัน แล้วเอามาตัดต่อใหม่น่ะครับ เพราะงั้นถ้าจะเห็นว่าการเดินทางไม่ประติดประต่อ จนมาเป็นจุดเอามาจับผิดได้ก็ไม่แปลกหรอกครับ จากคุณ : ศิษย์เผยอิง เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 03:52:22

ความคิดเห็นที่ 83 ของฟรีไม่มีในโลก !!!!! เขาไปถ่ายทำหนัง เขาต้องหาเงินคืนในการที่ได้ลงทุนไปปปปปปป เขาต้องทำให้มันเกิดคววมสนใจจจจ เขาทำทุกวิทีทาง เพื่อให้ได้กำไรรรรรร เขาไม่สนใจ ว่าเอาเปรียบใครรรรรรร ดังนั้น เขา จึง ทำออก มา เช่นนี้ จากคุณ : ! Feel it เขียนเมื่อ : 18 ก.พ. 54 17:40:21

ความคิดเห็นที่ 84 ชอบรายการนี้นะสนุกดี ชอบมากถ้ามีโอกาสจะไปญี่ปุ่นให้ได้สักครั้งค่ะ จากคุณ : น้องจุ่น เขียนเมื่อ : 20 ก.พ. 54 17:35:04

ความคิดเห็นที่ 85 คนญี่ปุ่นใจร้ายมีจริง ยืนยัน เราเคยอยู่โตเกียว ทำงานพิเศษ (อย่างถูกกฏหมาย มหาลัยอนุญาต) พอดีร้านที่ทำเป็นร้านอาหารที่สูบบุหรี่ได้ค่ะ ตอนเราเสิร์ฟอาหารให้โต๊ะเบอร์ 1 เป็นแขกผู้ชายญี่ปุ่นนั่งอยู่ 2 คน จำได้แม่นเลย ผู้ชายด้านซ้ายคีบบุหรี่ที่มือ ขี้บุหรี่แดงๆตกใส่มือฝ่ามือเรา เราร้อง "อิไต่" เขาก็เหลือบตามามองเฉยๆ ไม่พูดอะไรเลย ขอโทษซักคำก็ไม่มี เราไม่รู้ว่าจะยืนอยู่ตรงนั้นทำไม มือก็เจ็บ เลยรีบเดินไปบอกผจก. ผจก.ก็เลยพาเราขึ้นไปห้องพนักงานเพื่อทายาให้ พร้อมบอกว่าอย่าถือสา...... ตอนเลิกงาน เดินกลับบ้านยังเจอคนเมา ลากแขนจะไปเลี้ยงน้ำชาอีก ไม่ไหวแล้วจริงๆ เลยกรี๊ดแตกกลางถนน ร้องไห้ โวยวาย คนเมาตกใจเลย คนมองกันตรึม จากคุณ : แดงตะวันตก เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 54 01:02:42

ความคิดเห็นที่ 86 เห็นบางความเห็นนึกว่า วุฒิ-เคท ซะอีก จากคุณ : สวิส เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 20:22:23

ความคิดเห็นที่ 87 ขอเข้ามายืนยัน นั่งยัน นอนยันค่ะ!! ว่าที่คุณๆพิธีกรเจอเหตุการณ์ขอเงินมานั้นเป็นเรื่องจริงแน่นอนค่ะ เพราะผู้ชายญี่ปุ่นคนที่ขอเงินนั้น "เป็นคนเดียวกัน" กับที่เราเจอที่สถานีชิบุย่าเมื่อคราวไปญี่ปุ่นกับเพื่อนค่ะ เป็นวันแรกของการไปญี่ปุ่นเลยค่ะ แล้วมามุขเดียวกันเลยค่ะ หาสถานีปลายทางให้ กดตู้ให้ แบบที่เราไม่ได้ขอร้องค่ะ พอดีเพื่อนเป็นแอร์ฯเลยพูดกับเค้านิดหน่อยตอนแรกๆค่ะ แต่ก็งงๆ แล้วตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เค้าบอกเราว่าเอาเหรียญมาสิเดี๋ยวกดให้ เราหยิบเหรียญขึ้นมายังไม่ได้ส่งให้ เค้าคว้าไปหมดเลยค่ะ แต่เค้ากดให้จริงๆ ไม่ได้ขโมย พอเหลือเงินในมือเค้าเค้าบอกเค้าขอนะ "poor" เรางง อึ้งค่ะ แต่ก็หยิบออกมาส่วนนึงให้เค้าไป 100 เยน เค้าก็ยังขอบใจเราแล้วก็ไป ตอนดูรายการนี้ถึงกับอึ้งค่ะ เฮ้ยนี่มันคนเดียวกับที่เราเจอเลย ตอนพิธีกรกำลังดีใจว่ามีคนญี่ปุ่นมาช่วย เราลุ้นมากๆว่าขออย่าให้เจอเหมือนเรานะ คงไม่ใช่คนเดียวกันนะ แต่ปรากฎ... แต่ขอบอกว่าเราไม่โกรธเค้าค่ะ เราเหมือนได้ทำบุญ อีกอย่างเค้าก็เหมือนขอทำอะไรแลกเงินเล็กๆน้อยๆ แล้วอีกอย่างเราประทับใจในประเทศญี่ปุ่นในหลายๆอย่างค่ะและเข้าใจว่าทุกที่มันต้องมีสิ่งดีและแย่อยู่แล้วค่ะ แล้วเราก็กำลังกลับไปเยี่ยมประเทศนี้อีกรอบค่ะ ^___^ จากคุณ : จริงไม่กลัว เขียนเมื่อ : 15 ก.พ. 55 17:32:51 A:124.120.68.33 X: TicketID:236579

ความคิดเห็นที่ 88 เพิ่งเจอที่ Lund มาขอตังค์ในสถานีรถไฟเหมือนกัน แต่พี่แกขอที 100 SEK เลย ผมกินข้าวที่นั่นได้มื้อนึงเลยนะ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 55 14:26:49

ความคิดเห็นที่ 89 คนญี่ปุ่นูไม่ค่อยโกง คนไทยหรอกค่ะ มีอย่างเดียว แค่ดูถูก แค่นั้น จากคุณ : mikijang เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 00:32:18