PREB ใจป้ำทุ่ม246 ลบ.แจกปันผล0.80 บ.อัตราผลตอบแทน 7.92% อานิสงส์ธุรกิจรับเหมา-แผ่นพื้นคอนกรีตดีตามคาด

https://www.share2trade.com/index.php?mod=news&file=view&id=195
บอร์ด PREB ไฟเขียวจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดอัตรา 0.80 บาทต่อหุ้น เป็นเงินมูลค่า 246 ล้านบาท จากที่มีกำไรสุทธิ 384.21 ล้านบาท กำหนดจ่าย 24 พ.ค.นี้ คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงถึง7.92% ของราคาหุ้น หรือคิดเป็น 64% ของกำไรต่อหุ้น ระบุผลจากธุรกิจรับเหมาและธุรกิจขายแผ่นพื้นคอนกรีตโตกว่าคาด ขณะที่ประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนดีขึ้น "วิโรจน์ เจริญตรา"กรรมการผู้จัดการ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30% คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นปีแรก

นายวิโรจน์ เจริญตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.80 บาทต่อหุ้น หรือเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 246.95 ล้านบาท โดยจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลดังกล่าวภายในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้

ทั้งนี้เงินปันผลที่จ่ายในรอบปี 2561 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ระดับ7.92% ซึ่งคิดจากราคาหุ้นที่ 10.10 บาท ณ วันที่ 21 ก.พ. 2562

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2561 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,896.14 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 384.21 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบเฉพาะส่วนงานที่ดำเนินงานต่อเนื่องพบกว่า มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 92 ล้านบาท (ปี2560 บริษัท มีกำไรจากธุรกิจดำเนินงานต่อเนื่องประมาณ 292.06 ล้านบาท และเมื่อรวมกำไรจากธุรกิจที่ยกเลิก และ กำไรจากการขายธุรกิจที่ยกเลิกเป็นผลให้ปี 2560 มีกำไรรวม 703.51 ล้านบา โดยปีที่ผ่านมาได้มีการจ่ายเงินปันผล 1.80 บาทต่อหุ้น)

นายวิโรจน์ เจริญตรายังกล่าวต่ออีกว่า กำไรจากการขายกิจการที่ยกเลิกไป ได้นำมาลงทุนทั้งในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในรูปแบบของการร่วมลงทุนกับกลุ่มพันธมิตรและการพัฒนาโครงการด้วยตนเอง โดย ณ ปัจจุบันนี้ มีโครงการที่พัฒนาเอง 3 โครงการมูลค่าโครงการรวมประมาณ 4.4 พันล้านบาท และเป็นโครงการรวมทุนอีก 5 โครงการมูลค่าโครงการรวมประมาณ 5.2 พันล้านบาท โดยคาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีเริ่มต้นที่เริ่มรับรู้ผลกำไรจากการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นี้

ภาพรวมธุรกิจปี 2562 สำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และ ธุรกิจผลิตและขายแผ่นสำเร็จ ก็ยังคาดการณ์ว่าจะมีความเติบโตได้ทั้งในเรื่องยอดรายได้และกำไร  ซึ่งสาเหตุที่ทำให้บริษัทมีกำไรที่ดีเกิดจาก ความสามารถควบคุมต้นทุน  และความสามารถในการส่งมอบงานได้ตรงเวลาโดยมีงานแก้ไขน้อย  โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 30% จากปีก่อน ซึ่งปัจจุบันมีส่วนงานรับเหมาก่อสร้างมีงานรอรับรู้รายได้ประมาณ 8 พันล้านบาท โดยคาดว่าจะแบ่งรับรู้ภายในปี 2562 ประมาณ 4 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในอีก 2 ปีข้างหน้า รวมทั้งจะมีรายได้ จากงานขายผลิตแผ่นพื้นคอนกรีต และพรีแคสของบริษัทพีซีเอ็ม คอนสตรัคชั่น แมททีเรียล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย อีกประมาณ 580 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาสที่ 4/2562

"แนวโน้มของงานรับเหมาก่อสร้างอาคารสูงของบริษัทฯ ยังมีทิศทางที่ดี และยังคงสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ โดยปีนี้บริษัทฯ เพิ่มงานธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามา เพื่อสนับสนุนให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยังเน้นการมีจุดแข็งในด้านคุณภาพที่ดี  และมีต้นทุนต่ำ โดยจะช่วยทำให้บริษัทฯ รักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ในระดับที่เพิ่มขึ้น" กรรมการผู้จัดการกล่าวในที่สุด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่