IFEC : “ทวิช”หวังความยุติธรรมยังมีอยู่...ในวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 2 พ.ค.

            “ผมหวังเพียงอย่างเดียวว่าการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พ.ค.นี้ จะเป็นไปตามระเบียบของบริษัท เป็นไปตามกฎหมาย และหวังว่าความยุติธรรมยังมีอยู่”
                 “ทวิช เตชะนาวากุล” ผู้ถือหุ้นใหญ่ และกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) กล่าวในงานแถลงข่าว “เปิดแผนการบริหารงาน พร้อมนโยบายในอนาคต  และชี้แจงแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับผู้ถือหุ้น”

เมื่อถูกถามให้ประเมินสถานการณ์วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ที่ IFEC เตรียมจัดขึ้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
            เขาบอกว่า ตอบไม่ได้เลยว่าวันประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พ.ค.จะเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่เขาตอบได้ แบบเขินๆนิดหน่อยคือ เขาได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้นให้เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัท ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ และ IFEC จดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา
           แต่เขาไม่มีส่วนรับรู้ในการจัดการประชุมของบริษัท วาระการประชุม วิธีการลงคะแนนเสียง

เสียใจมั๊ยที่ลงทุนใน IFEC เป็นคำถามที่ถูกโยนขึ้นระหว่างการแถลงข่าว
            ทวิช บอกว่า สายไปแล้วกับคำว่าเสียใจ เราคงไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้ พูดตรงๆ คือ มันถลำไปแล้ว ถ้าจะถามว่าเสียใจ ผมไม่เสียใจ แต่การลงทุนมีความเสี่ยง แต่ผมขอย้ำว่า ผมเข้ามาลงทุนจริงๆ ตอบไม่ได้หรอกว่าคิดผิดหรือคิดถูกที่เข้ามาลงทุนใน IFEC
          “ผมเดินหน้าต่อก็เพื่อรักษาสิทธิผู้ถือหุ้น และอยากเห็นบริษัทปฏิบัติตามหลักการบริหารของบริษัทจดทะเบียน และยึดหลักกฎหมาย”

ถามว่ามีนักลงทุนรายย่อยมีการติดต่อสอบถามข้อมูลมามั๊ย

              ทวิช บอกว่า มีรายย่อยโทรเข้ามาหาหาเหมือนกัน ซึ่งก็ได้ตอบตามข้อเท็จจริงว่า เราเป็นกรรมการของบริษัทจริง แต่ก็เป็นกรรมการนอกนา ที่ไม่มีสิทธิทำอะไร เพราะอำนาจอยู่ที่ประธานกรรมการ IFEC (นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์)
          กรรมการเสียงข้างมากในฝั่งของทวิช ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ด้วยฉันทามติ ให้เข้ามาเป็นกรรมการ 5 คน ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 มี.ค.  ประธาน IFEC ก็แต่งตั้งให้เป็นกรรมการที่จะหมดวาระภายในเดือนเม.ย. ถึง 3 คน ซึ่งทวิช ก็รู้สึกงง เหมือนกันกับการดำเนินการของประธาน IFEC

ส่วนเรื่องคดีความระหว่างทวิช กับประธาน IFEC
           ทวิช บอกว่า เรื่องนี้ต้องแยกแยะระหว่างประเด็นส่วนตัวกับเรื่องของบริษัทฯ เรื่องส่วนตัวก็ว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมาย

ถามว่าชาตินี้จะคุยกับหมอวิชัยได้หรือไม่

            ทวิช บอกว่า ถ้าจะคุยก็คุยกันได้

ทวิช กล่าวถึงแนวทางการฟื้นฟูและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน IFEC  ว่า
               เขาเชื่อว่าถ้าหากเขาได้รับโอกาสในการเข้ามาบริหาร IFEC เชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจาก IFEC มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะที่มีหนี้ประมาณ 8 พันล้านบาท เท่านั้น ซึ่งแบ่งเป็นหนี้ตั๋วบีอีประมาณ 3 พันล้านบาท หุ้นกู้ 3 พันล้านบาท และโปรเจ็กต์ไฟแนนซ์อีกประมาณ 2 พันล้านบาท
           “ปัญหาที่เกิดขึ้นใน IFEC ที่ผ่านมาเกิดจากความขัดแย้งระหว่างนายแพทย์วิชัย และนายสุทธิชัย (อดีตผู้บริหาร IFEC) ซึ่งปัจจุบันลาออกไปแล้ว ปัญหาที่นายแพทย์วิชัยมีกับบริษัทโกลบอลวัน เรื่องโรงแรมดาราเทวี ว่าเป็นหนี้จริงหรือหนี้ปลอม ซึ่งผมเป็นกลุ่มใหม่ที่เข้ามา ยังไม่มีโอกาสเข้าบริหาร IFEC เลย” นายทวิช กล่าว

ถ้าหากทวิชได้มีโอกาสเข้ามาบริหาร และฟื้นฟูกิจการ IFEC

           เขาบอกว่า มีโจทย์ใหญ่ 4 ข้อที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ
          ประเด็นแรกคือ ต้องยุติความขัดแย้งให้ได้ผ่านการเจรจา และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยได้กับทุกกลุ่ม เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งเชื่อว่าทุกกลุ่มน่าจะเห็นชอบในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนายแพทย์วิชัย นายสิทธิชัย และโกลบอลวัน
           “ถ้ายุติแถลงข่าวซักเดือน ปัญหาบริษัทอาจน้อยลง  และให้ข่าวเชิงสร้างสรรค์”

               ประเด็นที่สอง ต้องเร่งแก้ไขปัญหาหนี้ของ IFEC ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี โดยทวิชบอกว่าถ้าเขามีโอกาสได้เข้ามาบริหาร เขาจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนในการแก้ปัญหาหนี้ โดยเขามีแนวคิดที่จะเสนอบอร์ดให้มีการแต่งตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน หรือ FA ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เพื่อเสนอแนวทางการจัดการทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 1,000 ล้านบาท

             ส่วนเรื่องของโรงแรมดาราเทวี ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ในฐานะที่เขาเป็นนักพัฒนาที่ดินเขาพร้อมที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโรงแรม และมีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯเข้ามาติดต่อ เพื่อขอพัฒนาที่ดินโรงแรมดาราเทวีร่วมกับเขา และโรงแรมดาราเทวีเอง อาจต้องมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจ จากเดิมเจาะกลูกค้าระดับไฮ-คลาส อาจจะมีการต่อยอดธุรกิจด้วยการหันมาใช้พื้นที่ลงก่อสร้างโรงแรม จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงสูง เพื่อทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม

              ประเด็นที่สาม เรื่องปิดงบปี 2559 ต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งในเบื้อต้นนายทวิช ได้มีการหารือกับผู้สอบบัญชี ซึ่งได้ให้ความเห็นไว้ 6 ข้อด้วยกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยในงานแถลงข่าวในครั้งนี้ได้ ซึ่งเชื่อว่ากว่าที่จะปิดงบได้ คงเป็นช่วงไตรมาส 3 หรือในเดือนกันยายน-ตุลาคม 2560 งบ IFEC น่าจะปิดได้
              “สาเหตุที่ IFEC ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP เพราะผู้บริหาร IFEC ไม่ได้มีการชี้แจงแผนการแก้ไขปัญหาหนี้ ถ้ามี FA ที่มีความเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ และสามารถปิดงบฯ ได้ โดยมีผู้สอบบัญชีรับรอง เชื่อว่าการปลดเครื่องหมาย SP ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งผมก็อยากทำให้เกิดขึ้นโดยรวดเร็ว”

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มคนบางกลุ่มออกมาปล่อยข่าวว่า นายทวิช ต้องการทำลายบริษัท เพื่อที่จะได้ซื้อหุ้นในราคาถูก
            นายทวิช บอกว่า  “ขอให้ใช้สามัญสำนึก ผมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทุกบาททุกสตางค์ที่หุ้นตก ผมเสียหายมากกว่าเพื่อน มีอย่างที่ไหน ผมจะฉีกเงินตัวเอง ด้วยการเข้ามาทุบหุ้น แล้วเข้ามาช้อนซื้อ ผมเป็นนักลงทุนระยะยาว ไม่มีความสามารถเข้ามาขายหุ้น หรือทุบหุ้น เพื่อซื้อของถูก”นายทวิชยืนยัน
            โดยเขาระบุว่า เขาเข้ามาลงทุนใน IFEC คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 พันล้านบาท คงไม่ต้องการให้เงินถูก Lock

           และประเด็นที่สี่คือ การหารายได้ให้เพียงพอกับดอกเบี้ยจ่าย ซึ่ง IFEC จะเป็นต้องหารายได้เพิ่มนอกเหนือจากรายได้จากการขายไฟฟ้า และรายได้จากค่าเช่าโรงแรม

              โดยสรุปแล้ว นายทวิช ยืนยันว่า แผนฟื้นฟูฯตามแนวทางของเขาจะทำให้ IFEC เติบโตอย่างยั่งยืน และในปี 2561 จะมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง ไม่ใช่กำไรที่เกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างหนี้

               อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ และกรรมการ IFEC มีความกังวล คือ การประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พ.ค.นี้ จะเป็นไปตามระเบียบของบริษัท และเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ เพราะในช่วงที่ผ่านมาการประชุม ทำผิดระเบียบปฎิบัติ และผิดกฎหมายมาโดยตลอด
                ซึ่งเป็นที่มาที่ทำให้กรรมการเสียงข้างมากของนายทวิช ได้ทำหนังสือไปยังประธานกรรมการ IFEC เพื่อเรียกประชุมคณะกรรมการในวันที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อขอให้มีการรายงานความคืบหน้าในการปิดงบการเงินปี 2559 ความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้ และที่สำคัญคือ ความคืบหน้าในการจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พ.ค. ให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย เพราะต้องยอมรับว่า กรรมการในฝั่งของนายทวิช เป็นเพียง กรรมการนอกนา ที่ไม่มีโอกาสรับรู้ถึงระเบียบวาระการประชุม

                   จับตาการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 2 พ.ค.นี้ ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี ซึ่งนาทีนี้ IFEC ยังแก้ข้อมูลที่ส่งไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อกำหนดสถานที่ประชุมว่า อยู่ห้องไหน ไม่รู้จักจบจักสิ้น และกรรมการที่เสนอในวันประชุมผู้ถือหุ้น ยังชักเข้าชักออก (แก้ไข) เป็นรายวันในข้อมูล ELCID ที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ที่แก้ข้อมูลรายวัน จนจะถึงวันประชุมผู้ถือหุ้น...ถึงเวลาแล้วที่นักลงทุนรายย่อยต้องออกมารวมพลัง เพื่อเลือกอนาคตข้างหน้าว่าจะฝากชะตากรรมไว้กับใคร ใครกันแน่ที่รักและหวงแหง IFEC และมีแผนการฟื้นฟูกิจการที่ชัดเจน ใช่ “โกหก” ไปวันๆ แล้วอย่าลืมเตรียมเสบียงให้พร้อม เพราะหนังเรื่องนี้ยาวววววว

สำหรับการประชุมในครั้งนี้จะมีการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการ เพื่อเข้ามาทดแทน
3 ตำแหน่ง ที่ครบวาระ โดยในฝั่งของ "ทวิช" เสนอ 3 ท่าน ประกอบด้วย
1.นายหาญ เชี่ยวชาญ
2 พลตำรวจเอกสุนทร ซ้ายขวัญ
3.นายปริญญา วิญญรัตน์
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่