สวัสดีครับบบบบบบ
นี่ก็เป็นรีวิวโรงแรมที่สองของผม (ในพันทิพ)
วันนี้จะพาไปนอนโรงแรมหรูห้าดาว ย่านพร้อมพงษ์กัน
Hilton Sukhumvit Bangkok ครับ
Location : 11 SUKHUMVIT SOI 24, KHLONG TON, BANGKOK, 10110, THAILAND
Tel : 0-2-6206666 Fax : 0-2-6206699
Site :
http://www3.hilton.com/en/hotels/thailand/hilton-sukhumvit-bangkok-BKKSUHI/index.html
Hilton Sukhumvit Bangkok
เป็นโรงแรมห้าดาว ในเครือ Hilton Worldwide
ซึ่งเครือ Hilton Worldwide นี้กำลังจะมีโรงแรมแบรนด์ระดับบนสุดของเครือ แห่งใหม่ในปีหน้า
Waldorf Astoria bangkok บนตึก Magnolias ถนนราชดำริ ข้างๆ Pennisula
โรงแรมเปิดให้บริการได้ประมาณสองปีแล้วครับ
โรงแรมอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ข้างๆเอ็มโพเรี่ยม
หรือถ้าจะมาทาง BTS เดินทะลุเข้าเอ็มโพเรี่ยม แล้วออกประตูซอยสุขุมวิท 24 โซนดีพาร์ตเม้นท์ได้เลยครับ เย็นดี 55
ด้านหน้าโรงแรมครับ (จริงๆผมมาเช็คอินตั้งแต่บ่ายโมง แต่ลืมถ่ายครับ แหะๆ)
ตัวโรงแรมเป็นอาคารสูง 26 ชั้นครับ
ด้านหลัง จะเป็นโรงแรม Double tree by Hilton ครับ
เราไปดูภายในโรงแรมกันดีกว่าครับ
โรงแรมตกแต่งสวยงาม แบบ Luxury Boutique Hotel
เปิดประตูเข้าไปปุ๊บ จะได้กลิ่นที่เป็น signature ของโรงแรมชัดเจน
ที่เป็นกลิ่นเดียวกับ Amenities ของโรงแรม ผลิตภัณฑ์ของ Peter Thomas Roth ครับ ห๊อมมมมม หอมมม
เข้าไปในล็อบบี้ที่ชั้น 1 ก็จะเห็นนี่ก่อนเลย รูปปั้นอ้วนๆ เท่ๆ (สีขาวเหมือนกันทุกตัวในโรงแรม)
ที่บ่งบอกภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของโรงแรม
จากโถงตรงกลางที่มีรูปปั้น มองไปทางขวาจะเป็นบริเวณที่นั่งของแขกครับ สำหรับนั่งรอเช็คอิน หรือนั่งเล่นทั่วไป
เบาะสีพื้น ตัดกับสีเบาะสีสันแสบตา สวยดีครับ
ที่ผมชอบอีกอย่างคือเพดาน graffiti คล้ายๆภาพวาดลวดลายไทย ไม่ทราบว่าวัสดุที่ใช้ทำคืออะไร แต่มองครั้งแรกนึกว่าจอ LED เท่ดีครับ
ตรงมุมขวามือของโซนนี้มีเปียโนตั้งอยู่ด้วย แต่ไม่เห็นมีคนเล่นเลยครับ ฮา
ถัดจากโซนนี้ไปจะเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินครับ ผมไปถึงตอนประมานบ่ายโมงพนักงานก็ให้เช็คอินได้เลยครับ
พนักงานที่ฟร้อนพูดจาดี๊ดี เรียกคุณผู้ชาย เขินเบย
พอดีว่าเป็นสมาชิก Hhonors เลยขอ Late Checkout ได้ถึงบ่ายสอง
และได้ Password Wifi ด้วยครับ เน็ตแรงมากกกกก
ที่ฝั่งตรงข้ามกัน (ด้านซ้ายมือของประตูทางเข้า)
จะเป็นโต๊ะของ Conceirge ครับ
ถัดจากโต๊ะกองเซียจไปจะเป็น Business Zone ครับ
จะสังเกตุว่าทุกโซนของโรงแรม จะมีของประดับตกแต่งที่ดูเท่ๆแปลกตา
ผสมกับความหรูหราของโรงแรม
ผมค่อนข้างชอบการตกแต่งของโรงแรมแนวนี้ครับ ดูไม่หรูเกินไป
อันนี้เป็นภาพรวมของล็อบบี้ครับ
หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็ไปที่ห้องกันครับบบบ
เดินจากล็อบบี้เข้าไปข้างในนิดหน่อย จะเห็นกระถางดอกไม้ จัดแต่งสวยงาม
เดินผ่านมาดามที่กำลังจูงน้องหมาเดินเล่นเข้าไป ล็อบบี้ลิฟต์จะอยู่ทางขวามือครับ
ล็อบบี้ลิฟต์โทนสีสว่างๆ เรียบๆครับ
ที่หน้าลิฟต์จะมีข้อมูลชั้นที่เป็น Facilities ต่างๆของโรงแรม ตามนี้เลยครับ
ชั้น G จะเป็น Lobby และบาร์ของโรงแรมชื่อ Mondo ครับ
ชั้น 2 เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม Scalini และเป็น Study Room คือส่วนคล้ายๆห้องนั่งเล่น มีชั้นหนังสือ และมีห้องประชุมเล็กๆ
ชั้น 3 เป็นส่วนห้องจัดประชุม และห้องบอลรูมของโรงแรม
ชั้น 4 เป็น Exclusive Lounge สำหรับแขกที่มี Exclusive club benefit
ชั้น 5-24 เป็นห้องพัก
ชั้น 25 The Summit (ผมไม่ได้ขึ้นไปดู) จากการสอบถามพนักงานบอกว่า เป็นเพนเฮาส์สไตล์นิวยอร์คที่ใช้สำหรับการจัดประชุม หรืองานเลี้ยงส่วนตัวครับ
และชั้น 26 เป็นสระว่ายน้ำ ยิม และ pool bar ชื่อว่า lapse ครับ
ล็อบบี้ลิฟต์จะแบ่งเป็น 2 ฝั่งครับ แต่จะมีลิฟต์ฝั่งซ้ายมือเท่านั้นที่ขึ้นไปชั้น 25และ26 ได้ เพราะประตูลิฟต์จะเปิดคนละด้านกับชั้น G-24
เข้าลิฟต์แล้ว เอาคีย์การ์ดแนบตรงกล่องดำๆนี้ก่อน แล้วค่อยกดชั้น
ล็อบบี้ลิฟต์ชั้นที่ผมพักครับ ชั้น 16
อ้อ ตอนจองรีเควส High floor ไว้ พนักงานก็จัดให้ ดี๊ดี
ขอพักไว้ก่อนนะครับ
เดี๋ยวจะมาต่อในส่วนของห้องพัก
แต่ขอพูดถึงการบริการในส่วนของชั้นล็อบบี้นิดนึงงง
คือทุกครั้งที่ผมพักโรงแรม 4-5 ดาว ผมค่อนข้างคาดหวังกับการบริการไว้มาก (เพราะเสียเงินไปค่อนข้างมาก555)
พนักงานที่โต๊ะเช็คอินบริการถือว่าดีครับ มีแขกรอเช็คอินอยู่ เลยให้ผมนั่งรอก่อน
แต่แปลกใจตรงที่ไม่มี Welcome drink เลย T^T มาตรฐานของโรงแรมระดับนี้ควรจะมีนะ หรือลืมผมไป T^T
และตลอดเวลาที่ผมเข้าพักที่โรงแรม เบลบอย ไม่เคยเปิดประตู หรือเดินเข้ามาช่วยถือของแต่อย่างใด
คือจริงๆเปิดเองได้ ถือเองได้อยู่แล้วครับ ไม่ซีเรียส ฮาา แต่แค่แปลกใจ เพราะแขกไม่ได้เยอะ
และเบลบอยก็ยืนบริเวณนั้นตอนที่ผมเดินเข้าออกโรงแรมหลายๆครั้ง
รวมถึงตอนที่แบกกระเป่ามาเช็คอิน และแบกขึ้นห้อง คือจากการพักในโรงแรม 4-5 ดาวที่ผ่านๆมา เบลนี่ลงมายกกระเป๋าถึงในรถเลยครับ
และเบลจะเป็นคนเอากระเป่าขึ้นไปให้ตลอด แต่คือจริงๆผมก็ไม่ถึงกับคอมเพลนนะ แค่แปลกใจเพราะเราคาดหวังไว้กับการบริการ อย่าด่าผมนะ 55
แล้วก็หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็จะเดินไปขึ้นห้อง พนักงานบอกแค่เลขห้อง 'ห้อง 1612 ชั้น 16 นะครับ' แต่ไม่มีพนักงานพาไปส่งที่ห้อง (อันนี้ไม่เป็นไร)
แต่ไม่อธิบายเลยว่า ลิฟต์ไปทางไหนยังไง
ไม่ได้เขียนในใบคอมเพลนให้ทางโรงแรมไว้ เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เอามาเล่าให้ฟังในรีวิวนี้ดีกว่า
เพราะแอบผิดหวังเล็กน้อยกับการบริการของชั้นล็อบบี้ที่นี่ (แต่ชั้นอื่นก็บริการดีมากๆครับ เดี๋ยวจะเล่าต่อ)
เดี๋ยวจะกลับมาต่อในส่วนของห้องพักนะครับบบบ
[CR] Hilton Sukhumvit Bangkok - Stylish and Sophisticated
นี่ก็เป็นรีวิวโรงแรมที่สองของผม (ในพันทิพ)
วันนี้จะพาไปนอนโรงแรมหรูห้าดาว ย่านพร้อมพงษ์กัน
Hilton Sukhumvit Bangkok ครับ
Location : 11 SUKHUMVIT SOI 24, KHLONG TON, BANGKOK, 10110, THAILAND
Tel : 0-2-6206666 Fax : 0-2-6206699
Site : http://www3.hilton.com/en/hotels/thailand/hilton-sukhumvit-bangkok-BKKSUHI/index.html
Hilton Sukhumvit Bangkok
เป็นโรงแรมห้าดาว ในเครือ Hilton Worldwide
ซึ่งเครือ Hilton Worldwide นี้กำลังจะมีโรงแรมแบรนด์ระดับบนสุดของเครือ แห่งใหม่ในปีหน้า
Waldorf Astoria bangkok บนตึก Magnolias ถนนราชดำริ ข้างๆ Pennisula
โรงแรมเปิดให้บริการได้ประมาณสองปีแล้วครับ
โรงแรมอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 ข้างๆเอ็มโพเรี่ยม
หรือถ้าจะมาทาง BTS เดินทะลุเข้าเอ็มโพเรี่ยม แล้วออกประตูซอยสุขุมวิท 24 โซนดีพาร์ตเม้นท์ได้เลยครับ เย็นดี 55
ด้านหน้าโรงแรมครับ (จริงๆผมมาเช็คอินตั้งแต่บ่ายโมง แต่ลืมถ่ายครับ แหะๆ)
ตัวโรงแรมเป็นอาคารสูง 26 ชั้นครับ
ด้านหลัง จะเป็นโรงแรม Double tree by Hilton ครับ
เราไปดูภายในโรงแรมกันดีกว่าครับ
โรงแรมตกแต่งสวยงาม แบบ Luxury Boutique Hotel
เปิดประตูเข้าไปปุ๊บ จะได้กลิ่นที่เป็น signature ของโรงแรมชัดเจน
ที่เป็นกลิ่นเดียวกับ Amenities ของโรงแรม ผลิตภัณฑ์ของ Peter Thomas Roth ครับ ห๊อมมมมม หอมมม
เข้าไปในล็อบบี้ที่ชั้น 1 ก็จะเห็นนี่ก่อนเลย รูปปั้นอ้วนๆ เท่ๆ (สีขาวเหมือนกันทุกตัวในโรงแรม)
ที่บ่งบอกภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของโรงแรม
จากโถงตรงกลางที่มีรูปปั้น มองไปทางขวาจะเป็นบริเวณที่นั่งของแขกครับ สำหรับนั่งรอเช็คอิน หรือนั่งเล่นทั่วไป
เบาะสีพื้น ตัดกับสีเบาะสีสันแสบตา สวยดีครับ
ที่ผมชอบอีกอย่างคือเพดาน graffiti คล้ายๆภาพวาดลวดลายไทย ไม่ทราบว่าวัสดุที่ใช้ทำคืออะไร แต่มองครั้งแรกนึกว่าจอ LED เท่ดีครับ
ตรงมุมขวามือของโซนนี้มีเปียโนตั้งอยู่ด้วย แต่ไม่เห็นมีคนเล่นเลยครับ ฮา
ถัดจากโซนนี้ไปจะเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินครับ ผมไปถึงตอนประมานบ่ายโมงพนักงานก็ให้เช็คอินได้เลยครับ
พนักงานที่ฟร้อนพูดจาดี๊ดี เรียกคุณผู้ชาย เขินเบย
พอดีว่าเป็นสมาชิก Hhonors เลยขอ Late Checkout ได้ถึงบ่ายสอง
และได้ Password Wifi ด้วยครับ เน็ตแรงมากกกกก
ที่ฝั่งตรงข้ามกัน (ด้านซ้ายมือของประตูทางเข้า)
จะเป็นโต๊ะของ Conceirge ครับ
ถัดจากโต๊ะกองเซียจไปจะเป็น Business Zone ครับ
จะสังเกตุว่าทุกโซนของโรงแรม จะมีของประดับตกแต่งที่ดูเท่ๆแปลกตา
ผสมกับความหรูหราของโรงแรม
ผมค่อนข้างชอบการตกแต่งของโรงแรมแนวนี้ครับ ดูไม่หรูเกินไป
อันนี้เป็นภาพรวมของล็อบบี้ครับ
หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็ไปที่ห้องกันครับบบบ
เดินจากล็อบบี้เข้าไปข้างในนิดหน่อย จะเห็นกระถางดอกไม้ จัดแต่งสวยงาม
เดินผ่านมาดามที่กำลังจูงน้องหมาเดินเล่นเข้าไป ล็อบบี้ลิฟต์จะอยู่ทางขวามือครับ
ล็อบบี้ลิฟต์โทนสีสว่างๆ เรียบๆครับ
ที่หน้าลิฟต์จะมีข้อมูลชั้นที่เป็น Facilities ต่างๆของโรงแรม ตามนี้เลยครับ
ชั้น G จะเป็น Lobby และบาร์ของโรงแรมชื่อ Mondo ครับ
ชั้น 2 เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรม Scalini และเป็น Study Room คือส่วนคล้ายๆห้องนั่งเล่น มีชั้นหนังสือ และมีห้องประชุมเล็กๆ
ชั้น 3 เป็นส่วนห้องจัดประชุม และห้องบอลรูมของโรงแรม
ชั้น 4 เป็น Exclusive Lounge สำหรับแขกที่มี Exclusive club benefit
ชั้น 5-24 เป็นห้องพัก
ชั้น 25 The Summit (ผมไม่ได้ขึ้นไปดู) จากการสอบถามพนักงานบอกว่า เป็นเพนเฮาส์สไตล์นิวยอร์คที่ใช้สำหรับการจัดประชุม หรืองานเลี้ยงส่วนตัวครับ
และชั้น 26 เป็นสระว่ายน้ำ ยิม และ pool bar ชื่อว่า lapse ครับ
ล็อบบี้ลิฟต์จะแบ่งเป็น 2 ฝั่งครับ แต่จะมีลิฟต์ฝั่งซ้ายมือเท่านั้นที่ขึ้นไปชั้น 25และ26 ได้ เพราะประตูลิฟต์จะเปิดคนละด้านกับชั้น G-24
เข้าลิฟต์แล้ว เอาคีย์การ์ดแนบตรงกล่องดำๆนี้ก่อน แล้วค่อยกดชั้น
ล็อบบี้ลิฟต์ชั้นที่ผมพักครับ ชั้น 16
อ้อ ตอนจองรีเควส High floor ไว้ พนักงานก็จัดให้ ดี๊ดี
ขอพักไว้ก่อนนะครับ
เดี๋ยวจะมาต่อในส่วนของห้องพัก
แต่ขอพูดถึงการบริการในส่วนของชั้นล็อบบี้นิดนึงงง
คือทุกครั้งที่ผมพักโรงแรม 4-5 ดาว ผมค่อนข้างคาดหวังกับการบริการไว้มาก (เพราะเสียเงินไปค่อนข้างมาก555)
พนักงานที่โต๊ะเช็คอินบริการถือว่าดีครับ มีแขกรอเช็คอินอยู่ เลยให้ผมนั่งรอก่อน
แต่แปลกใจตรงที่ไม่มี Welcome drink เลย T^T มาตรฐานของโรงแรมระดับนี้ควรจะมีนะ หรือลืมผมไป T^T
และตลอดเวลาที่ผมเข้าพักที่โรงแรม เบลบอย ไม่เคยเปิดประตู หรือเดินเข้ามาช่วยถือของแต่อย่างใด
คือจริงๆเปิดเองได้ ถือเองได้อยู่แล้วครับ ไม่ซีเรียส ฮาา แต่แค่แปลกใจ เพราะแขกไม่ได้เยอะ
และเบลบอยก็ยืนบริเวณนั้นตอนที่ผมเดินเข้าออกโรงแรมหลายๆครั้ง
รวมถึงตอนที่แบกกระเป่ามาเช็คอิน และแบกขึ้นห้อง คือจากการพักในโรงแรม 4-5 ดาวที่ผ่านๆมา เบลนี่ลงมายกกระเป๋าถึงในรถเลยครับ
และเบลจะเป็นคนเอากระเป่าขึ้นไปให้ตลอด แต่คือจริงๆผมก็ไม่ถึงกับคอมเพลนนะ แค่แปลกใจเพราะเราคาดหวังไว้กับการบริการ อย่าด่าผมนะ 55
แล้วก็หลังจากเช็คอินเสร็จ ก็จะเดินไปขึ้นห้อง พนักงานบอกแค่เลขห้อง 'ห้อง 1612 ชั้น 16 นะครับ' แต่ไม่มีพนักงานพาไปส่งที่ห้อง (อันนี้ไม่เป็นไร)
แต่ไม่อธิบายเลยว่า ลิฟต์ไปทางไหนยังไง
ไม่ได้เขียนในใบคอมเพลนให้ทางโรงแรมไว้ เพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เอามาเล่าให้ฟังในรีวิวนี้ดีกว่า
เพราะแอบผิดหวังเล็กน้อยกับการบริการของชั้นล็อบบี้ที่นี่ (แต่ชั้นอื่นก็บริการดีมากๆครับ เดี๋ยวจะเล่าต่อ)
เดี๋ยวจะกลับมาต่อในส่วนของห้องพักนะครับบบบ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น