ถามพี่น้องชาวคริสต์

กระทู้คำถาม
อยากถามพี่น้องชาวคริสต์ว่า  ทำตัวยังกับญาติพี่น้องที่เป็นพุทธ

เราเพิ่งนับถือคริสต์ได้ไม่นาน  คุณพ่อก็เพิ่งเสีย

ก่อนท่านจะไปเราก็ได้บอกแม่ว่าเราไปนับถือคริสต์แล้วนะ

แม่ก็เข้าใจ  แต่ถึงเวลางานศพ  บางอย่างเค้าก็ไม่ให้เราทำ  บางอย่างเราจำเป็นต้องทำ

เป็นลูกชายคนเดียว  เราก็ทำเพราะทำให้พ่อครั้งสุดท้าย และทำให้แม่สบายใจ

แต่ญาติหรือคนอื่นๆก็ไม่ค่อยเข้าใจ โน้นนี่นั้น  ยิ่งเห็นพิธีกรรมยิ่งเห็นความงมงาย

ไม่อยากเกี่ยวข้องอะไรอีกเลย  อยากรู้เพื่อนๆมีวิธีเลี่ยง หรือปรับตัวกันยังไงบ้างครับ

รู้สึกว่าเป็นตัวประหลาดในพิธี แต่มันฝืนความรู้สึกมาก  เดิมก็ไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
การปรับตัวส่วนตัวคือ ยังไปร่วมงานศพเพื่อแสดงความรักค่ะ แต่จะปฏิเสธการจุดธูปเทียนกราบไหว้ด้วยความถ่อมสุภาพ เวลาพระสวดก็ยังนั่งอยู่ค่ะแต่ไม่พนมมือ อาจต้องนั่งหลังๆ เพื่อไม่ให้เป็นจุดเด่นและเป็นที่สะดุดของคนพุทธ นั่งด้วยความสุภาพแต่จะอธิษฐานกับพระเจ้าในใจเผื่อครอบครัว เผื่อครอบครัวเผื่อคนในงานให้ได้พบความรักและความจริงของพระองค์สักวัน และอธิษฐานเผื่อคนที่เสียชีวิต ให้พระเจ้าทรงรับดวงวิญญาณของเค้าด้วยคืออ้อนวอนพระองค์ค่ะ เพราะเรารักเขามาก และอยากพบเขาอีกในสวรรค์ และเพราะเราไม่แน่ใจว่าเขาเคยได้ยินข่าวประเสริฐของพระเจ้าแล้วหรือยัง ถ้าเคยแล้วแต่เขาปฏิเสธพระเจ้าอันนี้เราสามารถอ้อนวอนพระองค์เหมือนยืนเคาะหน้าประตูสวรรค์ของพระองค์อยู่อย่างนั้น พระองค์ทรงฟังค่ะ

ส่วนความอึดอัดที่เกิดขึ้นอยากให้มองครอบครัวหรือคนที่บังคับเราด้วยความเข้าใจและรักเขาอย่างที่พระเยซูทรงรักนะคะ เขาแค่ยังไม่รู้ความจริงของพระเจ้า ส่วนตัวไม่ขอใช้คำว่าเคร่งค่ะ แต่อยากเชื่อฟังพระเจ้าจริงๆ คือยังชอบให้ทานเสมอ แต่การใส่ซองต่างๆ เพื่อสนับสนุนการกราบไว้ การทำพิธีกรรม เช่น ซองผ้าป่า ซองกฐิน ถวายเพื่อฝังลูกนิมิตร อะไรแบบนี้ที่แม้ว่าไม่ใช่กการไหว้รูปเคารพรับของบูชา จริงๆ ไม่ควรค่ะ เพราะจะมีผบกระทบฝ่ายวิญญาณ บางครั้งพระเจ้าก็ส่งบททดสอบมาให้เราค่ะ ว่าเราเกรงใจมนุษย์มากกว่ายำเกรงพระองค์หรือไม่ ส่วนตัวเจอครบค่ะ พระเจ้าจะทดสอบความเชื่อและความหนักแน่นมั่นคงของเราค่ะ
อย่าลืมว่า มารเป็นศัตรูที่คอยวนเวียนเหมือนสิงคำราม คอยกัดกินเราตลอดนะคะ มันจะทำทุกอย่าง ทุกช่องทาง เพื่อให้เราทำบาปและไม่เชื่อฟังพระเจ้า เหมือนเอวาวันนั้นที่ถูกมารหลอกใฟ้กินผลไมเต้องห้ามค่ะ แถมส่งให้สามีกิน (อาดัม) ความบาปเลยเข้ามาในโลก จากการไม่เชื่อฟังค่ะ

การประนีประนอมกับความบาป โดยถูกหลอกว่าเราต้องเมตตา
นี่คือ tactic ของมารซาตานค่ะ เหมือนกับการกินเหล้า นิดหน่อยนาา จนเพื่อนพาเที่ยวผู้หญิง จนนอกใจ จนครอบครัวพัง จนถูกฟ้องอย่า จนล้มละลาม จนเป็นหนี้ (นี่คือการทำงานของศัตรูพระเจ้าค่ะ) แม้แต่การโกหกเล็กๆ น้อยๆ นี่คือกฏของสวรรค์เลยค่ะ มารจะขึ้นไปฟ้องความผิดเรา ที่ทำต่อพระเจ้า และพระเจ้าทรงยุติธรรมมากค่ะ จำเป็นต้องตีสอนเรา
หว่านสิ่งไหนยังคงต้องเก็บเกี่ยวสิ่งนั้นนะคะ ส่วนตัวเลยจะระวังมากค่ะ มนุษย์ทุกคนทำไม่ได้ทั้งหมดหรอกค่ะ เรายังอ่อนแอในกายเนื้ออยู่ แต่ถ้าเราผูกพันและสนิทกับพระเจ้า พระเจ้าจะทำให้เรากล้าทำและมีวิธีทางออกให้ค่ะ ดังนั้นเราจำเป็นต้องรู้ว่าสิ่งใดพระเจ้าอนุญาตและสิ่งใดเป็นความบาปที่พระเจ้าไม่ชอบนะคะ
และสิ่งใดเป็นการล่อลวงจากศัตรูที่เรามองไม่เห็น

อันที่พลาดไปแล้วก็ให้กล้าเข้ามาอธิษฐานสารภาพบาปกับพระองค์และขอสติปัญญาจากเบื้องบนในการดำเนินชีวิตในแต่ละสถานการณ์ ให้ผ่านไปด้วยกำลังที่มาจากพระเจ้าค่ะ
ให้ถามพระเจ้าก่อนทุกครั้งก่อนตัดสินใจทำอะไร ถามและนิ่งฟังเสียงพระองค์ค่ะ พระองค์จะทรงตอบผ่านความเงียบนั้นเอง
ถ้ารู้สึก เอ๊ะ ไม่แน่ใจว่าบาปมั้ยควรมั้ย ถ้ามีแอบเอ๊ะ แปลว่าใช่ค่ะ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้ากำลังเตือน
ก็ให้รีบกลับใจ ไม่ทำนะคะ แต่ถ้าไม่รู้จริงๆอยากหาคำตอบก็ให้เซิรชอ่านในพระคัมภีร์หรือถามอาจารย์ที่คริสตจักร หรือพี่น้องหรือผู้นำที่เติบโตแข็งแรงกับพระเจ้านะคะ

(เราต้องฉลาดกว่าศัตรูค่ะ)
ส่วนตัวคือเจอมาหมดทุกรูปแบบของการล่อลวงค่ะเลยพออธิบายได้

สุดท้ายนี้
ขอพระเจ้าทรงประทานสติปัญญาและทรงนำในทุกการตัดสินใจนะคะ เอเมน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่