“อัสซาด” ผู้นำซีเรีย ด่าซาอุฯ ยับ ทำตัวเป็น “ภัยคุกคามโลก” ชี้มัวแต่ลุ่มหลงสร้างอาณาจักรมุสลิมสุหนี่-เข่นฆ่าชีอะห์


ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย


       เอเจนซี - ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดแห่งซีเรีย ออกโรงตำหนิซาอุดีอาระเบียผ่านสถานีโทรทัศน์ของทางการ ในวันพุธ (15) โดยระบุว่าอุดมการณ์ทางการเมืองและศาสนาของรัฐบาลริยาดห์ที่ลุ่มหลงกับการสร้าง “จักรวรรดิของมุสลิมสุหนี่” และ “ลบล้างชีอะห์จากแผนที่โลก” กำลังกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อความมั่นคงและสันติภาพของโลก
       
       ประธานาธิบดีอัสซาด ผู้นำซีเรีย วัย 48 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจต่อจากบิดาเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2000 ระบุว่า เวลานี้โลกกำลังตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามใหม่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าภัยก่อการร้าย และภัยคุกคามใหม่ที่กำลังบั่นทอนความมั่นคงและสันติภาพของโลกนี้ คือ อุดมการณ์ทางการเมืองและศาสนาที่สุดขั้วของราชวงศ์และรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ที่เต็มไปด้วยพวกมุสลิมสุหนี่ที่มีแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งมุ่งหวังจะสร้างอาณาจักรของพวกสุหนี่ และกำจัดรัฐมุสลิมชีอะห์ออกจากแผนที่โลก
       
       “อุดมการณ์เพ้อฝันของริยาดห์ในการสร้างโลกที่มีแต่พวกมุสลิมสุหนี่ กำลังเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อโลกใบนี้ มิใช่แค่เป็นภัยคุกคามต่อตะวันออกกลาง ดังนั้น ชาวซีเรียและผู้คนในภูมิภาคนี้ จึงควรตระหนักถึงภัยคุกคาม และร่วมมือกันขุดรากถอนโคนความเชื่อที่สุดโต่งเหล่านี้เสีย” ถ้อยแถลงส่วนหนึ่งของอัสซาดระบุ
       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดของผู้นำซีเรียซึ่งเป็นพวกมุสลิมอะลาวิต (แขนงหนึ่งของชีอะห์) มีขึ้นในวันพุธ (15) หลังจากอัสซาดพบหารือที่กรุงดามัสกัสกับโมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ชาติพันธมิตรชีอะห์ที่สำคัญของซีเรีย โดยทั้งสองต่างเห็นพ้องกันว่าซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็น “สปอนเซอร์ใหญ่” ของพวกกบฏในซีเรียในการทำสงครามโค่นล้มรัฐบาลดามัสกัส กำลังเป็นภัยคุกคามต่อความสงบสุขของโลก
       
       ขณะเดียวกัน ท่าทีของผู้นำซีเรียยังมีขึ้นเพียงไม่ถึงสัปดาห์ก่อนที่การประชุมสันติภาพ “เจนีวา 2” ว่าด้วยความขัดแย้งในซีเรียจะเปิดฉากขึ้นที่สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหาทางยุติสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานเกือบ 3 ปี และคร่าชีวิตผู้คนในซีเรียไปแล้วกว่า 130,000 คน
       
       ด้านสำนักข่าว “ซานา” ของรัฐบาลซีเรียรายงานว่า โมฮัมหมัด จาวาด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางเยือนหลายประเทศในตะวันออกกลางทั้งจอร์แดน เลบานอน รวมถึงซีเรีย ได้กล่าวแสดงความผิดหวังต่อการที่อิหร่านถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมเวทีสันติภาพเจนีวา แต่ยังคงแสดงความคาดหวังว่าเวทีดังกล่าวจะสามารถหาทางออกที่เหมาะสมต่อวิกฤตในซีเรียได้
       
       ก่อนหน้านี้ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าให้ความสำคัญกับภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นพิเศษ ได้ตั้งเงื่อนไขที่ว่า อิหร่านสามารถเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพซีเรียที่สวิตเซอร์แลนด์ได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลเตหะรานยอมรับให้มีการตั้ง “รัฐบาลถ่ายโอนอำนาจ” ในซีเรีย รวมถึงต้องยอมตัดสัมพันธ์กับกลุ่มนักรบชีอะห์หัวรุนแรง “ฮิซบอลเลาะห์” ในเลบานอนเสียก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเงื่อนไขดังกล่าวของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่อิหร่านมิอาจยอมรับได้


สงครามกลางเมืองที่ดำเนินมานานเกือบ 3 ปี คร่าชีวิตผู้คนในซีเรียไปแล้วกว่า 130,000 คน


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่