คุณคิดว่า ความคิดเป็นเหตุให้เกิดความอยาก ใช่หรือไม่

กระทู้คำถาม
ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ความคิด(วิตก) ไม่ใช่เหตุเกิดความอยาก(ตัณหา) แต่เป็นเหตุร่วม

ตัวเหตุที่ทำให้เกิดความอยาก(ตัณหา) คือความรู้อารมณ์(เวทนา)

ถ้าจะลงลึก ต้องใช้ความรู้เรื่องปฏิจจสมุปบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องค่อยๆทำความเข้าใจ ต้องรู้นิยามของตัวแปร และความสัมพันธ์ และต้องพิจารณาซ้ำๆ บุคคลเมื่อรับรู้(เรียกว่ามีผัสสะ)ทางอายตนะคือ ตา-หู-ลิ้น-จมูก-กาย แล้วเกิด เวทนา สัญญา สังขาร ขึ้นในแต่ละอายตนะนั้นๆ ป้อนเข้าสู่(ปฏิสรณะ)ที่อายตนะคือมโน เมื่อมีการรู้ทางมโน ผัสสะที่มโนนี้ ก็ปรุง เวทนา สัญญา สังขาร ขึ้นอีก(ของกรณีมโน) ซึ่ง เวทนา สัญญา สังขาร ชุดของมโนนี้ ก็ป้อนกลับสู่มโนอีกด้วย ทั้งหมดที่ป้อนเข้าสู่มโน เรียกว่า ธรรมารมณ์

ทุกครั้งที่มีการรู้ธรรมมารมณ์ เกิดเวทนา ซึ่งเป็นปัจจัยของตัณหา

เวลาเราเจริญมรรคแปด สิ่งที่เราต้องทำในกรณีของสัมมาสังกัปปะคือ ละอกุศลวิตกทั้งสาม คือ กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก แล้วคิดกุศลวิตก คือ เนกขัมมะวิตก อพยาบาทวิตก อวิหิงสาวิตก ดังนั้น จึงชัดเจนว่า ความคิด ไม่ใช่เหตุของความอยาก เพราะสัมมาสังกัปปะ ต้องให้คิดใน 3 แง่มุมข้างต้น ถ้าฝึกไม่คิดเลย ก็หลุดพ้นไม่ได้ เพราะไม่สามารถละอกุศลวิตกได้ ในเบื้องต้นจึงต้องละอกุศลวิตก ด้วยการคิดกุศลวิตก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่