พาเพื่อนเที่ยวเกาหลี : รีวิวจากทริปไปทำงาน เมื่อหลายปีที่แล้ว

สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้ง กับการรีวิว การเดินทางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นของเก่า หลายปีที่แล้ว เป็นช่วงที่ผมยังทำงานอยู่ต่างประเทศครับ ขอรีวิวอันนี้ก่อนครับ ส่วนทริป อมก๋อย ดินแดนที่ถูกลืม ขอเป็นครั้งหน้า เพราะรูปเยอะมาก ต้องย่อก่อนครับ ทำไม่ทัน ช่วงนี้งานเยอะอยู่

ก่อนอื่นต้องชี้แจง Tag ก่อนสินะครับ ขอเฉพาะที่หลายคนอาจจะคิดว่า Tag ทำไม่ ไม่เห็นเกี่ยวครับ
Tag หาเพื่อน เพราะเพื่อนๆ ผมอยู่ในห้องสยามทั้งนั้นเลย และมีเรื่องความรักสวยงาม อยากแชร์ในห้องสยามด้วยครับ
Tag ภาพถ่าย เพราะอยากแชร์ภาพถ่ายดอกไม้ และวิวครับ
Tag ที่เหลือ น่าจะตรงกลุ่มนะครับ

คอมเม้นท์กันได้เต็มที่ครับ ยินดีครับ ปาดได้ เม้นท์ติชมได้ครับ ยินดีรับฟังทุกความเห็นครับ

เอาล่ะครับ เริ่มเลย เรื่องราว เกิดขึ้นจากวันหนึ่ง Boss เดินมาบอกว่า มี Case Emergency ลูกค้าที่เกาหลี ต้องไปช่วยดูด่วน คนที่เหลือในออฟฟิศมีแต่ engineer ที่เป็นคนอินโด ซึ่งเข้าเกาหลี ต้องมีวีซ่า ส่วนคนสิงคโปร์ ไม่ถนัดงานนี้ ดังนั้น เหลือผมคนเดียวแล้ว ที่ทำงานนี้ได้ เพราะคนไทยเข้าเกาหลีได้แบบ short visit ไม่ต้องมีวีซ่า

ที่ Boss ต้องมาชี้แจงเยอะ เพราะคงเห็นใจเพราะผมเพิ่งกลับมาจาก อินโด เมื่อวานนี้เอง ยังไม่ได้พักเลย โอเคร ไปก็ไป สรุปบินพรุ่งนี้
"จองตั๋วเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดงาน แผนที่ ชื่อคนติดต่อ พร้อมอยู่ในซองนี่นะ" (เห้ย พี่พร้อมขนาดนี้ จะถามไมวะฮะ 555)

ผมเป็นคนง่ายๆ แบบนี้ล่ะ ไม่ค่อยงอแง เลยโดนประจำ แต่ปัญหาคือบอกตอนเช้า พอสายๆ เริ่มมีปัญหาครับ สงสัยไปกินอะไรผิดมา ปวดท้องอย่างแรง พอเที่ยงต้องไปหาหมอที่คลีนิคเลย อาหารเป็นพิษ ฉีดยาไป 1 เข็ม และนอนพัก 2 ชม. ค่อยยังชั่ว หัวหน้าถามไปไหวมั้ย ผมส่ายหน้าบอก

"OK, I can"

เล่าซะยาว เมื่อไหร่จะไปซะที อย่าเพิ่งเบื่อครับ ไปละๆ

เครื่องออก 8.00 เวลา Singapore ไม่ได้เตรียมอะไรไปมากเพราะไปแค่ 3-4 วัน นั่งเครื่องประมาณ 7 ชั่วโมงเมื่อยมากครับ หลับแล้วหลับอีก เพราะเวียนหัวจากอาการ อาหารเป็นพิษอย่างแรงเมื่อวาน ยังไม่หายดีเท่าไหร่ แถมเที่ยวนี้ไม่มีหนังอารายน่าดูซักเรื่อง หลับก้อแล้ว ตื่นก้อแล้ว เล่นเกมส์ Nintendo ก้อแล้ว ทำไมมันไม่ถึงซะทีฟะ เด๋วตูไปขับเองซะเลย ม่ายทันจายวัยรุ่นเลย...
เอาล่ะ ถึงซะที สนามบินโซล  สุดยอดเลย 10 องศา หนาวมาก.!! แต่ทำไมมันดูโล่งๆพิกลไม่รู้นะ สนามบินนี้ ผู้คนไม่พลุกพล่านเลย



เสร็จแล้วก้อไปที่ ตม. จนท.ก้อถามว่ามาทำอะไร ฟังก้อไม่ค่อยออก มันพูดสำเนียงแปลกๆ บอกไปว่ามาประชุม เค้ายังถามต่อ บอกว่า ไหนลองเล่าให้ฟังซิว่ามาประชุมเรื่องอะไร !!เย้ย!! งัยกันนี่ บอกแล้วพี่จะรู้เรื่องกะผมมั้ยวะฮะ! ได้ อยากรู้ วาดรูปเลย นี่นะ โรงงานเป็นงี้นะ บลา ๆๆๆก้อบอกเค้าไป เค้าก้อพยักหน้าหงึกๆ แกล้งทำเป็นรู้เรื่อง แต่จริงๆ เค้าไม่รู้หรอกชัวร์ เพราะว่าผมก็มั่วๆเหมือนกัน กะลังมึน 555 แกล้งพูดเร็วๆ เค้าคงฟังไม่ทัน แต่ยังไม่จบ ดันถามอีกว่าอยู่กี่วัน ไปที่ไหน ก้อบอกหมดไปที่นู่น ทำท่าจะหาที่อยู่ที่พิมพ์ไว้ มาให้ดูมันก้อบอก ok ok แต่ดันมีคำถามสุดท้าย “มาคนเดียวเหรอ”
เลยตอบแบบสุภาพ “เออ” ( YEP! )



จากข้อมูลต้องไปซื้อตั๋วเพื่อต่อรถเมล์เบอร์ 8A ข้างนอกสนามบินที่รอรถ หนาวจังเลย เด๋วกลับไปต้องไปเล่นงานบอส ดันบอกว่าไม่หนาว 20 องศากะลังดี ชิวๆ ที่ไหนได้ เอาล่ะจ่ายค่ารถเมล์ไป 25,000 วอน (ประมาณ พันกว่าบาท) ถามคนขับว่านานป่าว กว่าจะถึง บอกว่าใช้เวลา 5 ชั่วโมง (จะรอดมั้ยเนี่ย ตู ยิ่งเมารถเก่งซะด้วย) พอรถออกก้อเลยพยายามหลับซะ ข้างๆ มีคนแก่อยู่คู่นึงน่ารักมากๆ นั่งประสานมือกันตลอดทางเลย ตื่นมากี่ทีก้อเห็นยังประสานมือกันอยู่ อืม จริงๆความสุขที่แท้จริง คงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่า การมีคนรู้ใจอยู่เคียงข้างตลอดไป ไม่ต้องมีเงินทองมากมาย อิจฉาจังวุ๊ย


ข้างทาง


มีต่อนะครับ !
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่