อึ้ง...พบว่าตัวเองทำงานมากว่า 4-5 ปี รายได้ปีละเกินล้านบาท ไม่มีเงินเหลือเก็บ

ขอใช้พื้นที่ระบายหน่อยนะ

ผมทำงาน ตปท มาหลายปีแล้ว รายได้เดือนละเกือบๆ 2 แสนบาท ส่งกลับบ้านทุกเดือน น้อยสุด 7 หมื่นบาท บางเดือนมีโอที หรือ โบนัส ผมส่งคราวละเกิน 2 แสนบาท ไม่เคยขาดซักเดือนเดียว ถือคติ"รีบโกย รีบกลับ"

ผมไม่เคยสนใจแจกแจงวิธีเก็บ วิธีใช้เงิน วิธีบริหารเงินเองเลย ให้ภรรยาเป็นคนจัดการทั้งหมด ค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถผ่อนบ้าน ฯลฯ ตัวเองมีหน้าที่หาเงิน ถึงเวลาก็โอนและโทร ไปบอกยอดว่าเท่าไหร่ เท่านั้น และภรรยาก็ไม่เคยบอกว่าเรามีเงินเท่าไหร่ เก็บอะไรยังไง

ชีวิตดำเนินไปตามปกติ จนเมื่อปลายปีที่แล้ว ภรรยาบอกว่าบัตรเครดิตวงเงินเต็ม (วงเงิน 2 แสนบาท) ใช้ไม่ได้ ผมเริ่มสงสัยเพราะตัวเองใช้บัตรเครดิตมานาน ไม่เคยจ่ายเกินรอบบิลซักครั้ง แต่เมื่อต้นปีที่แล้ว ผมเปิดบัตรเสริมให้ภรรยา เพราะเวลาพาลูกไปหาหมอ หรือ ชอปปิ้งของใช้ในบ้าน จะได้สะดวก

อ้อ เมื่อต้นปีที่แล้วผมต่อเติมบ้านนิดหน่อย แต่ก็กู้มาต่อเติมนะ และยังผ่อนอยู่ ให้เธอมีบัตรเครดิต เผื่อซื้อของใช้ และผมไม่ลืมเตือนให้เธอลงบัญชี/จดรายการใช้จ่าย เธอบอกไม่มีเวลา

เมื่อวงเงินเริ่มเต็ม เธอเลยผ่อนแค่ขั้นต่ำ จนเมื่อผมรู้เรื่อง เลยบอกให้ไปเอาเงินในบัญชีที่พอมีอยู่บ้าง 2 แสนกว่ามาปิด เพราะหนี้บัตรเครดิตโตเร็วมาก เท่ากับว่า สิ้นปีที่ผ่านมา ผมใช้เงินโบนัส+เงินเก็บโปะหนี้ไปเกือบ 5 แสนบาท


สิ้นเดือน ม.ค ที่ผ่านมา เงินผมโอนช้า เพราะติดธุระ ผมบอกภรรยาว่าให้เอาเงินส่วนอื่นไปจ่ายค่าผ่อนบ้านก่อน เพราะเดี๋ยวโดนค่าปรับส่งงวดช้า

ภรรยาบอกว่า เงินเหลือติดตัวไม่ถึงพันบาท ทั้งบ้านไม่มีเงินสดเหลือเลย ผมอึ้ง...

เมื่อวานนี้ ผมเลยลองไปเช็ค Slip เงินเดือนเก่าๆ ดูว่า ผมทำงานมาได้เท่าไหร่ ส่งกลับบ้านเท่าไหร่ ปรากฏว่า

ผมแทบทรุดหมดแรง ดื้อๆ...

ผมทำงานมา 4 ปีกว่า ปีแรกได้เงิน 2.2 ล้าน ปีต่อๆมา น้อยกว่านี้ไม่เท่าไหร่ 2 ปีสุดท้าย(เช็คง่ายสุด) ปีละ 2 ล้านกว่าๆ
รวมๆ แล้วกว่า 8 ล้าน คำณวนคร่าวๆ หลังหักภาษี+ค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมส่งกลับบ้านเกิน 4 ล้านบาท

แล้วเงินมันหายไปไหนหมด(ฟร่ะ)

เงินจำนวนนี้ มันอาจจะไม่มากมายสำหรับบางคน แต่สำหรับผม มันคือความทุ่มเท เหนื่อยยาก อดทนห่างบ้าน ห่างลูก/ภรรยา มาไกลบ้าน ทนเหงา ทนแรงกดดันหลายๆอย่าง

สุดท้าย มันคือ ความว่างเปล่า...เหนื่อยเปล่า ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ

จริงๆ เร็วๆนี้มี Plan จะกลับไปทำงานที่ไทย คิดว่า เอาน่ะ ได้อยู่ใกล้ลูก เงินลดลงนิดหน่อยแลกกะครอบครัว....ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้คงยังกลับไม่ได้

...สงสารตัวเอง...

ทุกอย่างคงต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด อายุก็มากขึ้นๆแล้ว

ไม่อยากโทษว่า ใครผิด เพราะถึงโทษใคร เงินที่หมดไปก็ไม่ได้คืนมาอยู่ดี ตัวเองมีส่วนผิดที่ปล่อยปละละเลย ไว้ใจภรรยาจนเกินไป ส่วนภรรยาก็ผิดที่ไม่รู้จักการจัดการ บริหารการเงิน มีเยอะใช้เยอะ ไม่ช่วยมอนิเตอร์เงินจนรู้ตัวเมื่อเงินหมดไปแล้ว

***ห้องชานเรือน เคยมีแต่เคส สามีไม่เอาไหน ไม่ทำงาน กินแต่เหล้า คุณแม่บ้านจะยุให้เลิก มีแล้วหนักอกหนักใจจะมีไปทำไม แล้วถ้าเคสภรรยาไม่เอาไหนบ้าง คุณๆจะคิดเห็นเป็นประการใดกันบ้าง

ปล1. ภรรยาไม่ได้นอกใจ มีก๊งมีกิ๊กอะไรนะครับ เพียงแต่บริหารเงินไม่เป็น กินใช้ไปเรื่อยเปื่อย ขาดการจัดการ พอถามที่มาที่ไปของเงินก็ไม่รู้ๆ เรื่องนี้มั่นใจ เพราะภรรยาเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก อยู่กับแม่

ปล2. อยากให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจ เรื่องเงินๆทองๆ ไม่รู้จักใช้ ไม่รู้จักเก็บ จนเวลาผ่านไปจะเป็นเหมือนผม

ปล3. ใครก้ได้ ช่วยพูดอะไรก็ได้ให้ผมรู้สึกดีขึ้นหน่อย ตอนนี้มันท้อ มันเหนื่อย มันหมดแรง แทบไม่มีกำลังใจจะทำงานต่อ คิดถึงแต่ลูก อยากจะกลับบ้านก็ไม่ได้กลับ เมื่อวานภรรยาดุลูกประชดต่อหน้า (ผ่าน Skype) บอกว่าพ่อให้งดกินขนมแล้ว ชุดสวยๆต่อไปนี้ห้ามซื้อ ห้ามขอ ได้ยินแล้วมันจี๊ดดดด แต่ต่อหน้าลูก ผมไม่ว่าอะไรภรรยารุนแรงหรอก ได้แต่บอกว่า ไม่ได้หมายถึงแบบนั้นซะหน่อย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
คุณรักภรรยา (ในทางที่ผิด) มากเกินไป
ทำไมเราบอกอย่างนี้รึ?
เพราะความรักคุณอยู่บนฐานของความไว้ใจ แต่สำหรับภรรยาคุณความรักเธอ(อาจจะ)อยู่บนพื้นฐานของเงินตรา

คุณรู้ตัวเร็วนะ 4-5ปีเอง บางคนทำงานส่งให้ภรรยาใช้ทั้งชีวิตจนตัวตายก็ยังไม่รู้เลยว่าเงินหายไปไหนหมด มารู้อีกทีตอนป่วยไม่มีเงินรักษาตัว
คนทำงานต่างประเทศหลายๆคนก็เป็นแบบคุณแต่เค้าไม่มาเล่าออกสื่อ บางคนป่วยเจียนตายทำงานอยู่ต่างบ้านต่างเมืองไม่ยอมหาหมอ
แต่ส่งเงินกลับบ้านไม่มีขาด กลัวคนทางบ้านจะลำบากอดตาย แต่ตัวเองกำลังจะตาย ไม่เคยนึกถึง ไม่เคยบอกใคร ทนลำบากมันไป
แต่คนทางเมืองไทยที่คิดว่าเค้าจะลำบาก เค้ากลับอยู่สุขสบายกว่าคนหาเงินซะอีก แต่เคยมีใครไปบอกคนทางนั้นมั๊ยว่าคนทำงานทางนี้ลำบากแค่ไหน
ไม่มีหรอก บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อว่ามาทำงานเมืองนอกหน่ะ ลำบาก

เอาเถอะ มาถึงขนาดนี้แล้วอย่าพึ่งทรุดไปตามแรงโน้มถ่วงของโรค (เครียด)
กัดฟันทำงานต่อไปอีกระยะ เพื่อเก็บเงินส่วนที่หายไป และรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะหากไม่แข็งแรง มีเงินสิบล้านก็ไม่มีประโยชน์ ทำงานเก็บเงินเอาไว้เพื่อรัก(ษา)ตัวเองบ้าง และซื้อความสุขให้ตัวเองบ้าง

ไม่ต้องห่วงลูกเมียมากเกินไป ห่วงตัวเองก่อนดีกว่่า เพราะหากว่าล้มหมอนนอนเสื่อไป คนที่ลำบากก็คือคนที่รอเงินเรานั่นแหละ ลูกและเมียที่เคารพรัก
ดังนั้น ก่อนอื่นต้องคุยกับเมียอย่างหมดเปลือกว่าคุณผู้หญิงมีหนี้ที่ไหนอีกบ้าง รีบใช้หนี้บัตรเครดิตก่อน แล้วเมื่อหมดหนี้ก็จัดสรรปันส่วนเงินไว้ผ่อนบ้านแต่ละเดือน
ต้องคุยกับเมียให้รู้เรื่อง เรื่องเงินมันเรื่องใหญ่ เงินหาได้มา ส่วนหนึ่งเก็บไว้เอง ส่งให้เมียผ่อนบ้านผ่อนรถเท่าที่ต้องผ่อน
ให้ใช้เท่าที่จะให้ได้ไม่ลำบาก อยู่ไทยมีเงินเดือนบะไม่ต่ำกว่า 7หมื่น ใช้โดยไม่ต้องทำงาน สวรรค์ชัดๆ

ตอนนี้ก็ต้องบอกเมียว่่า ถึงเวลาที่เราต้องลงนรกชั่วคราวละนะ สวรรค์เบี่ยงแล้ว ถ้าไม่อยากให้ฉันตายซะก่อนเธอต้องเชื่อฉันและช่วยฉัน
ไม่อย่างนั้น สวรรค์ปิดแน่ ต้องเอาความจริงมาพูดกันเลย ต้องให้เมียมองเห็นความยากลำบากของเงินที่ได้มาให้ได้
ถ้าเมียไม่ยอม ก็แสดงว่าเค้าไม่รักคุณจริงนี่ รักแต่เงินที่คุณส่งให้เท่านั้น

ลองคิดดูแล้วกันนะ
ความคิดเห็นที่ 23
เมียคุณนี่ แบบว่า ผลาญเงินชัดๆ สบายไงคะ ไม่ต้องทำงาน มีเงินลอยมา ชอปปิ้งนู้นนี่ กลับบ้านคราวนี้ลองดู กระเป๋าเธอหน่อยคะ มีหลุยส์กี่ใบ มีแหวนเพชรใส่ไว้อวดเพื่อนกี่วง เราลาออกมาเลี้ยงลูก แต่เราไม่เคยคิดที่จะผลาญเงินสามีเลย ประหยัดทุกอย่างเพื่ออนาคต คงต้องจับมาอบรมยาวคะ ผู้หญิงให้เงินง่ายๆ ถ้าไม่รู้จักใช้เงิน จะหมดแบบนี้แหละคะ ใช้งินมือเติบมาก
ความคิดเห็นที่ 20
ถ้าไม่ติดว่าคุณมีลูกแล้ว ผมจะแนะนำให้เลิกกับผู้หญิงคนนี้ซะ ผู้หญิงห่วยๆแบบนี้อยู่ไปก็ไร้อนาคต
ส่วนถ้าอยากได้คำปลอบใจ ให้คิดว่า เงินแค่นี้ช่างมัน ไม่ตายก็หาใหม่ได้
ความคิดเห็นที่ 95
ขอคิดต่างนะคะ  แปลกใจจังที่มีแต่คนบอกให้คุณปิดบัตรเครดิตภรรยา

ถ้าเป็นเรา เราจะให้ภรรยาใช้บัตรเครดิต ให้เงินสดให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ห้ามซื้ออะไรโดยไม่ใช้บัตรเครดิตเลย ให้มีพอแค่ซื้อลูกชิ้นปิ้งข้างทาง หรือก๋วยเตี๋ยวข้างทางเท่านั้น ลองคำนวณดูว่าน้อยที่สุดที่คนจะมีเงินสดในมือในแต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่  แต่ไม่ให้ภรรยามีรหัสกดเงินสดของบัตรเครดิต

แล้วเราจะเช็ครายการใช้จ่ายจากภรรยาจากบัตรเครดิตค่ะ เพราะภรรยาถ้าจะใช้เงินก็บังคับว่าต้องรูดบัตรเท่านั้น คุณจะเห็นว่าภรรยาคุณไปช้อปที่ไหน กินข้าวร้านอะไร  ถ้ามีรายการแปลก ๆ มาก็ถาม  ช่วงนี้เนียนๆ คุยกับภรรยาแต่จดเอาไว้ว่าวันนี้ภรรยาไปทำอะไรที่ไหน พอบัตรมาเทียบดูวันที่ก็พอจะรู้ว่าเค้าไปทำอะไร เห็นอะไรปกติในรายการก็รีบทักท้วง สอบถามทันที

บางบัตรเครดิตที่เราใช้ เช่นกสิกร สิ้นปีทำสรุปยอดมาให้เลยค่ะ ว่าหมวดของการใช้จ่ายเป็นประเภทใดมั่ง

บัตรเครดิตให้ตัดบัญชีอัตโนมัติ โดยบัญชีนี้เป็นชื่อคุณค่ะ และให้ตัดเต็มแบบไม่จ่ายรายเดือนเลย  แค่ 2-3 เดือนคุณก็จะรู้แล้วว่าเงินที่มีส่วนใหญ่ไปไหน
ความคิดเห็นที่ 6
เงินขนาดนี้ กินใช้ยังไงก็ไม่หมดหรอกค่ะ
มันต้องเหลือเป็นของบ้าง
ลองดูว่าภรรยาเล่นไพ่เล่นหวยเอาเงินให้เพื่อนพี่น้องยืมไปบ้างไหม

รวบการเงินมาดฺแลเองได้แล้วค่ะถ้าแม่บ้านขาดคุณสมบัติด้านนี้
การเงินแย่นี่พาครอบครัวลงเหวเอาง่ายๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่