ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 25 ] The Promise Love...
ใกล้ไปถึง...หัวใจ
ร่างเพรียวบางของหญิงสาววัย31ปี หลับใหลอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่นหนาบนเตียงนอนสี่เสาหลังใหญ่ สริน..กำลังนอนหลับอย่างมีความสุข ใบหน้าเรียวสวยคมเปื้อนยิ้มเหมือนมีความสุขแม้ในยามหลับ เป็นภาพที่อิทธิ์ได้แต่ยืนมองดูอย่างรักใคร่ ตอนนี้สัมพันธภาพของพวกเขาก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นหนึ่งอย่างช้าๆ อิทธิ์ยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะหันกลับไปเตรียมอาหารรอคนขี้เซาให้ตื่นมาทานอาหารเช้าด้วยกัน...
หอมจัง...วันนี้ทำอะไรให้ทานคะ สรินในชุดนอนบางเบาย่องเข้ามาทางด้านหลังอย่างเงียบๆ ทำเอาอิทธิ์ถึงกับสะดุ้ง
โอ๊ะ..ผมตกใจหมด ชายหนุ่มในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายตารางกำลังเทชิ้นเนื้อที่เพิ่งหั่นเสร็จลงไปคนในหม้อซุป ดูน่ารักมากในสายตาของสริน จนหล่อนเผลอยิ้มกว้างออกมาอย่างขบขัน
ผู้ชายเจ้าเล่ห์กับผ้ากันเปื้อนสีฟ้า อืม..ก็น่ารักดีนะ ฉันชอบ สรินกอดเอวชายหนุ่มเอาไว้จากทางด้านหลัง พร้อมทั้งเอาใบหน้าแนบแผ่นหลังกว้างอบอุ่นมั่นคงนั้นอย่างรักใคร่
อยู่ดีๆมาบอกว่าชอบ คุณทำให้ผมไปไม่ถูกเลยนะ...สริน อิทธิ์กุมมือน้อยที่กอดเอวเขาไว้จากด้านหลังอย่างรักใคร่ไม่ต่างกัน ใครจะคิดว่าหลังจากการหย่าของสรินและอธิป ระหว่างพวกเขาจะมีวันนี้จนได้ในที่สุด
ยังไงคะ สรินพึมพำถามทั้งที่ยังพักพิงอยู่กับแผ่นหลังกว้างอันอบอุ่นของชายหนุ่มตรงหน้า
คุณเปิดเผย ซื่อตรงกับความรู้สึก จนผมรู้สึกรักคุณ อิทธิ์ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงปกติ มือซ้ายกุมมือคนรักไว้แน่น มือขวายังคงคนซุปต่อไปเรื่อยๆ
ว่าไงนะ!! สรินคลายมือจากแผ่นหลังกว้าง แล้วมายืนเคียงข้างชายหนุ่มตรงหน้าเตา พยายามจะสบตาเพื่อถามหาความจริงใจจากอิทธิ์อีกครั้ง ตาเรียวสวยมีแววตกใจระคนตื่นเต้นจนอิทธ์ต้องลอบยิ้ม
ผมรักคุณไง พูดจริงๆนะ อิทธิ์แกล้งทำหน้าเครียดพูดอย่างจริงจังหันมาเผชิญหน้ากับสริน จนหล่อนรู้สึกตัวผละมือจากเคาน์เตอร์จ้องหน้าเขาตอบอย่างค้นหาคำตอบในคำพูดเล่นนั้นเช่นกัน
โกหกใช่มั๊ย คุณแค่มีความสัมพันธ์กับฉันเหมือนที่คุณมีกับคนอื่นๆ สรินพึมพำ หล่อนยังคงอึ้งไม่หายกับคำสารภาพรักจากปากชายหนุ่มตรงหน้า
จะโกหกทำไม ผมกำลังขอคุณแต่งงานอยู่นะ ได้มั๊ย แต่งงานกับผมเป็นภรรยาของผมคนเดียว อิทธิ์พูดด้วยสีหน้าจริงจังที่สุดตั้งแต่สรินเคยรู้จักเขา แววตาระริกของอิทธิ์ที่เพ่งมองมาอย่างลุ้นรอคำตอบดูตื่นเต้นจนสรินถึงกับมือไม้เย็นเฉียบ
แต่ฉันเป็นม่าย เคยแต่งงาน เคยมีลูก ฉันไม่แน่ใจว่าคุณจะจริงจังกับฉันจริงๆ ดวงตาหญิงสาวสั่นระริกน้ำคลอเต็มหน่วยตาอย่างตื้นตันใจ แต่หล่อนก็ยังรู้สึกลังเลอยู่ไม่น้อย
ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบหรอกนะ..สริน คุณก็แค่เป็นคนหนึ่งที่เคยเป็นเหมือนคนหลายสิบล้านคนบนโลกใบนี้ อย่าคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรดีสิ คุณมีดีพอที่ผมจะรักคุณนะ อิทธิ์คว้าร่างเพรียวของหญิงสาวตรงหน้ามากอดเอาไว้แนบอกอย่างรักใคร่
แต่ฉันเคยแต่งงานกับโอม..เพื่อนสนิทของคุณนะ สรินหลบสายตาสีหน้าลังเลอย่างตัดสินใจไม่ถูก จนอิทธิ์ต้องกระซิบบางคำที่ทำให้หล่อนอึ้ง
แต่เจ้าโอมมันบอกว่า มันแยกห้องนอนกับคุณมาตลอด คุณน่ะอินโนเซนท์จะตาย เรื่องเก่าๆที่ผ่านมาไม่ว่าผู้ชายคนก่อนๆของคุณจะเป็นใครถึงทำให้คุณมีลูกติดมา ก็ช่างมันเถอะ ผมไม่สนหรอก สรินถึงกับหน้าแดงกับถ้อยคำหนักแน่น ไม่มีคำหวานแต่กลับจริงใจในความรู้สึกของผู้ชายตรงหน้า จึงเฉไฉทุบหน้าอกเขาเบาๆอย่างหมั่นไส้ คนบ้า!! ชอบพูดทะลึ่ง สรินผละจากอกกว้างก่อนจะก้มหน้างุดเดินหนีไปด้วยใบหน้าแดงซ่าน เป็นอีกด้านหนึ่งของผู้หญิงที่เขาเคยคิดว่าหล่อนดูร้ายกาจหนักหนา ผู้หญิงคนนี้ที่ใช้สายตาเฉียบคมสะกดหัวใจเขาได้อยู่หมัดทีเดียว
ตกลงใช่มั๊ย เรื่องแต่งงานน่ะ!! อิทธิ์ตะโกนไล่หลังคนรักที่ก้มหน้างุดคว้าผ้าเช็ดตัวเดินตัวปลิวเข้าห้องน้ำไปอย่างขัดเขิน
ไม่รู้!! เสียงตอบออกมาจากภายในห้องน้ำ ทำให้ชายหนุ่มถึงกับหัวเราะออกมา แถมผิวปากอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปคนซุปอย่างมีความสุข
สริน...ไม่เคยคิดเลยว่าหล่อนจะมีวันนี้ วันที่มีคนรักหล่อนโดยไม่แคร์อดีตที่เคยเป็น เพราะความแค้นที่คอยเกาะกุมจิตใจ ทำให้หล่อนต้องทำร้ายคนมากมายโดยเฉพาะคนสองคนที่รักกันมากอย่างอธิปและมินตรา เมื่อนึกถึงอดีตครานั้นหญิงสาวรู้สึกสะท้อนใจ
นึกย้อนไปเมื่อเกือบสองปีก่อน เมื่อครั้งที่หล่อนแอบรู้มาว่ามินตราคลอดลูกของอธิปที่ลอนดอน โดยมีชานนท์ลูกพี่ลูกน้องของหล่อนคอยให้ความช่วยเหลือ สรินรู้สึกถึงสายใยบางๆของคำว่าพี่น้องในคราวนี้ที่หล่อนรู้สึกสงสารมินตราจับใจ
อะไรนะ!! หลานฉันเป็นผู้ชายงั้นเหรอ ฮะ ฮะ ดี ดีมาก ไม่เคยมีครั้งไหนที่สรินจะได้ยินเสียงบิดาของหล่อนหัวเราะร่วนอารมณ์ดีขนาดนี้มาก่อน หญิงสาวได้แต่แอบมองอยู่หน้าประตูห้องหนังสืออย่างสลดใจ
มินไม่ให้ผมบอกคุณลุง กับคุณแม่ของเธอครับ แต่ผมเป็นคนดูแลเธอให้คุณลุง เพราะฉะนั้นผมคิดว่าคุณลุงควรรู้ไว้ เสียงตามสายจากชานนท์ เอ่ยอย่างรู้สึกผิดนิดๆที่ไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับมินตราได้
ดีแล้วล่ะ อเล็กซ์ คอยดูแลให้ลุงหน่อยนะ ลูกคนนี้เขาอาภัพ รักคนที่ไม่ควรรักลุงเลยไม่อยากให้เค้าต้องอยู่อย่างเจ็บช้ำที่เมืองไทย สิทธิ์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ยามนึกถึงเรื่องในอดีตของตนและภรรยาทั้งสอง และลูกๆที่ต้องมารับผลจากการกระทำของเขา
บอกผมได้มั๊ยครับว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ผมรู้จักมั๊ย
เราอย่าไปรู้เลย มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก เอาเป็นว่าลุงจะส่งเงินไปให้เราช่วยดูแลน้องให้หน่อยนะ
ไม่ต้องห่วงครับ เรื่องเงินน่ะผมมีไม่ต้องรบกวนคุณลุงเลย ผมสัญญาว่าจะดูแลมินยิ่งกว่าชีวิตเลยครับ น้ำเสียงรับคำเป็นมั่นเหมาะจากชานนท์ทำให้สิทธิ์สบายใจขึ้นมาก ชายชราถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
โธ่..หลานตาต้องมากำพร้าพ่อตั้งแต่เกิด ยัยหนูลูกสาวพ่อ..ทำไมถึงได้อาภัพอย่างนี้นะ สิทธิ์ลูบไล้หน้าจอโทรศัพท์ที่ปรากฏภาพทารกน้อยแรกเกิดกำลังหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของมินตราที่ดูอวบอิ่มแต่มีสีหน้าอิดโรยจากการคลอดให้เห็น ภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเป็นภาพที่ชานนท์ส่งมาให้เขาทันทีที่พยาบาลส่งเด็กให้อยู่ในอ้อมอกของมารดาเป็นครั้งแรก
ดูอะไรอยู่เหรอคะคุณพ่อ สรินค่อยๆเดินเข้ามาอย่างเงียบกริบ ก่อนจะชะโงกหน้าไปดูภาพหน้าจอโทรศัพท์ของบิดาแล้วชะงักไป ทันทีที่รู้ว่าเป็นภาพอะไร
เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกลูก ว่าแต่วันนี้มาเงียบจังเลยลูก สิทธิ์พับโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ต ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันมายิ้มแย้มเหมือนเคย
ลูกของเด็กคนนั้นเหรอคะ..พ่อ สรินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขื่นๆ จนสิทธิ์ถึงกับอึ้งไปก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน
ไม่มีอะไรนี่ลูก ไปพักผ่อนเถอะ ชายชราแตะแขนลูกสาวเบาๆ สรินมองหน้าบิดาด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวอย่างขอคำตอบ จนสิทธิ์อึ้งไป
ถ้าพ่อไม่บอกหนู ทั้งเรื่องแม่ เรื่องผู้หญิงคนนั้นและน้องของหนู เอ่อ..เด็กนั่นน่ะค่ะ หนูจะยกโทษให้พวกเค้าได้ยังไงคะ เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง พ่อบอกหนูได้มั๊ย อย่าให้หนูต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่ไม่มีทางออกแบบนี้ได้มั๊ย!! สรินร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้นกับการกระทำที่ผ่านมาของตน เพียงเห็นหน้าเด็กน้อยในภาพเมื่อครู่ความรู้สึกผิดก็แล่นขึ้นมาเป็นริ้วอย่างอธิบายไม่ถูก
เด็กนั่นเหมือนโอมมากเลยนะคะ หนูอยากทำอะไรเพื่อไถ่โทษบ้างค่ะ สรินพึมพำออกมาเบาๆ ตาลอยอย่างครุ่นคิดถึงผู้ชายแสนดีคนที่หล่อนไม่สามารถยื้อหัวใจเขาไว้ได้
หล่อนกำลังชั่งใจระหว่างความแค้นในอดีตที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หล่อนเองก็เป็นเพียงผลพวงจากการกระทำของผู้ใหญ่เท่านั้น ความถูกต้องที่กำลังสำนึกผิดอยู่ในใจ อย่างไหนจะมีน้ำหนักในใจมากกว่ากันกันแน่ มันมากพอหรือไม่ถ้าจะปล่อยอธิปให้เป็นอิสระจากการผูกมัดมานานปี
ตกลง..พ่อจะเล่าให้ฟัง... คำบอกเล่าเรื่องราวแต่หนหลังระหว่างสิทธิ์กับมารดาของมินตรา ถูกถ่ายทอดออกมาให้สรินได้รับรู้...หญิงสาวได้แต่อึ้งไปกับสิ่งที่หล่อนไม่เคยรับรู้มาก่อน
หลังจากปรับความเข้าใจกับบิดาแล้ว สรินรู้สึกอ่อนระโหยโรยแรงเป็นอย่างมาก สิ่งใดกันที่ทำให้หล่อนดื้อแพ่งมาไกลถึงเพียงนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกแย่ จนต้องต่อสายหาใครบางคนอย่างตัดสินใจได้ในที่สุด
คุณอิทธิ์...เอกสารหย่าวันก่อนน่ะ เอามาให้ฉันพรุ่งนี้ที่บริษัทนะ ฉันจะเซ็นต์
*******************************************************
ลอนดอนในยามเช้าตรู่ อากาศค่อนข้างหนาวเหน็บที่สุดตั้งแต่เคยพบมาในขณะที่ฝนยังคงตกโปรยปรายลงมาไม่หยุด ความเหน็บหนาวในหัวใจก็ยังไม่หยุดเช่นกัน อธิปรู้สึกเหงาจับใจ เขากำลังยืนอยู่บนชั้นเกือบจะสูงที่สุดของโรงแรมพาร์ค พลาซ่า คันทรีฮอลล์ ในวิวที่สามารถมองเห็นลอนดอนอายได้อย่างชัดเจน
ในขณะที่ถัดไปยังชั้นบนสุดของโรงแรม มินตรากำลังยืนอยู่ริมหน้าต่างฝั่งเดียวกันมองฝนที่กำลังตกโปรยปรายลงมาไม่หยุดเช่นกัน
แจน...มินฝากลูกไว้ก่อนนะคะ ฝนตกหนักมากกลัวแกจะไม่สบาย พอดีวันนี้มีประชุมแทนพี่นนท์ ถ้าฝนหยุดเมื่อไหร่จะไปรับแกนะคะ มินตราโทรศัพท์เอ่ยฝากฝังลูกน้อยไว้กับออแพร์ที่ไว้ใจได้อย่างแจนแล้วไปรับทุกเย็นเป็นเรื่องปกติ
ไม่เป็นไรค่ะ คุณเสร็จธุระเมื่อไหร่ค่อยมารับก็ได้ เงินพิเศษที่ให้มาเยอะจนน้องอาร์มอยู่สามวันสามคืนยังได้เลยค่ะ แจนหัวเราะอย่างอารมณ์ดีมาตามสาย มินตรารู้สึกโล่งใจเมื่อพบว่าพี่เลี้ยงดูแลอาร์มได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณมากนะคะ..แจน วันนี้มินตราต้องเป็นตัวแทนชานนท์เข้าประชุมเรื่องงานเลี้ยงรับรองคณะทูตจากเมืองไทย เพราะเขามีธุระด่วนที่เวลล์ จากทีแรกที่นัดกับเพื่อนไว้จึงต้องเลื่อนออกไปเพราะต้องออกเดินทางไปตั้งแต่เช้าตรู่โดยฝากฝังภารกิจไว้กับหล่อน ระหว่างที่กำลังจะออกไปทำงานเสียงเคาะประตูก็ดังรัวอยู่ด้านนอกห้อง
เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ คุณแมนนี่ แขกห้องวีไอพีชั้น11 มีปัญหาค่ะ หัวหน้าบริกรหญิงระล่ำระลักบอกมินตราที่มีอำนาจจัดการสูงสุดในขณะที่ชานนท์ไม่อยู่ด้วยสีหน้าตื่นๆ
เกิดเรื่องอะไรคะ มินตราถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนไม่แพ้กันพร้อมทั้งเดินนำไปยังห้องนั้น
คือลูกค้าสั่งไวน์ชาร์โต้ มาโกซ์ปี 90 ไปค่ะ แต่ลูกค้าโทรลงมาโวยวายว่าไวน์มีปัญหาค่ะ
เป็นไปได้ยังไง ไวน์ตัวนั้นแพงมากเลยนะ ไม่มีทางที่จะมีปัญหาไปได้ งั้นเดี๋ยวคุณลงไปเอาขวดใหม่มาให้ด้วยนะแล้วช่วยจัดออร์เดิร์ฟอะไรสักอย่างมาให้ด้วย จะได้เอาไว้ตอบแทนค่าเสียเวลาของลูกค้า แล้วคุณเอาตามขึ้นไปให้ด้วยนะคะ มินตราหันมาสั่งการหัวหน้าบริกรหญิงอย่างรู้งาน
แต่ไวน์แดงปี90 ของเราหมดแล้วค่ะ มีแต่ไวน์ขาว ทำยังไงดีคะคุณแมนนี่ มินตราถึงกับกุมขมับกับปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นหลังจากหัวหน้าบริกรหญิงรายงานจบ หญิงสาวได้แต่ขบคิดอย่างหนัก
งั้นเอาปี 86 หรือ 89 มาแทนก็ได้ น่าจะใช้แทนกันได้แถมแพงกว่าซะอีกลูกค้าคงพอใจ ว่าแต่ลูกค้าห้องไหนนะ ฉันจะล่วงหน้าไปรับหน้าก่อนค่ะ
ห้อง 1101 ค่ะ ทันทีที่รู้เบอร์ห้องของแขกเจ้าปัญหา มินตรารีบเดินไปทันทีโดยไม่ทันฟังคำทักท้วง
แย่จัง..ลืมบอกไปเลยว่าห้องนั้นเป็นเพื่อนกับคุณอเล็กซ์ คุณแมนนี่คงรู้จักล่ะมั้ง คงไม่เป็นไรหรอก หัวหน้าบริกรหญิงมองตามหญิงสาวที่เดินไปลิบๆด้วยสายตาเป็นห่วงนิดๆ ก่อนจะหันกลับไปอีกทางหนึ่ง
ยิ่งเดินใกล้จุดหมายเข้ามามากขึ้นเท่าไหร่ มินตรายิ่งรู้สึกหนาวยะเยือกขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุมากขึ้นเท่านั้น เป็นครั้งแรกที่ต้องรับมือแขกโดยที่ชานนท์ไม่อยู่ หญิงสาวถึงกับตื่นเต้นกับปัญหาที่รออยู่ตรงหน้า
มินตราเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้อง 1101 หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างคิดหนักว่าจะจัดการสะสางเรื่องยุ่งๆนี้ได้อย่างไร ไม่ทันจะได้เคาะประตู จู่ๆประตูก็เปิดออกมาเบาๆ
ขณะเดียวกัน...ภายในห้องทำงานของชานนท์ เอกสารปิดผนึกฉบับหนึ่งวางรอเขาอยู่บนโต๊ะทำงานแต่เช้าตรู่ หน้าซองเขียนว่าเอกสารสำคัญ ด่วนที่สุด ส่งมาจาก ยูโรคาร์ บริษัทรถเช่าชื่อดังในกรุงลอนดอน...
******************************************************
มินตราค่อยๆก้าวเข้าไปภายในห้องนั้นอย่างระแวดระวัง ภายในห้องมืดสนิทคล้ายกับจะไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆอยู่ภายใน หญิงสาวก้าวเดินเข้าไปเรื่อยๆ พร้อมส่งเสียงทักทายแขกวีไอพีที่คาดว่าจะอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งภายในห้อง
ขอโทษนะคะ ไม่มีคำตอบใดๆ มินตราขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อกี้ประตูเปิดออกมาได้อย่างไร หล่อนยังนึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย หรือเพราะปิดประตูไม่สนิทก็ไม่น่าจะเป็นไปได้..
เอ๊ะ..หรือว่าแขกเช็คเอาท์ไปแล้ว หรือว่าออกไปข้างนอก แล้วทำไมไม่ปิดประตูห้อง มินตราพึมพำกับตนเองอย่างแผ่วเบา ก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอน
สวัสดีค่ะ คุณอยู่ข้างในห้องรึเปล่าคะ ดิฉันจะนำไวน์มาเปลี่ยนให้ค่ะ มินตราเคาะประตูห้องนอนเบาๆ
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆอีกเช่นเคย มินตราไม่รู้จะทำเช่นไร ความวิตกกังวลทำให้ขนกายลุกตั้งชัน เหงื่อแตกพลั่กรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ หญิงสาวค่อยๆถอยหลังออกมาทีละก้าว ทีละก้าว ก่อนจะหันหลังกลับเพื่อจะออกไปจากห้องทันทีที่รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล แต่แล้ว..หล่อนก็ชนเข้ากับใครบางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว
อุ๊ย..ขอโทษค่ะ มินตราค้อมศรีษะต่ำ เอ่ยขอโทษขอโพยแขกที่หล่อนเผลอทำผิดมารยาทชนเขาเข้าโดยบังเอิญ แต่แล้วจู่ๆมินตราก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนใครคนนั้นกอดรัดเอาไว้ หญิงสาวถึงกับตาเบิกโพลงอย่างตกใจกลัวสุดขีด
คุณคะ!! จะทำอะไรคะ มินตราพยายามผลักไสชายในความมืดนั้นอย่างระมัดระวังด้วยหล่อนคิดว่าอาจจะเป็นเพราะแขกวีไอพีคนนี้อาจจะกำลังเมาจึงล่วงเกินหล่อนเข้าให้
จะทำให้เธอเป็นเมียฉันยังไงล่ะ..มินตรา เสียงกระซิบบางเบาข้างหูนั้น ทำเอามินตราถึงกับขนลุกซู่อีกรอบ หล่อนจำได้ดีเสียงนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก
โอม!! มินตราถึงกับตกตะลึงพยายามขืนตัวออกจากการกอดรัดของเขา อธิปยอมผละออกห่างจากหญิงสาวอย่างง่ายดายจนหล่อนแทบจะเสียหลัก
ใช่..ฉันเอง ฉันมาตามสัญญาแล้วมินตรา อธิปเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น นัยน์ตาเป็นประกายขณะที่ยืนเผชิญหน้ากับมินตราแม้กระทั่งในความมืด ชายหนุ่มก็ยังเห็นหยดน้ำตาใสจากดวงตาเศร้ากำลังคลออยู่เต็มหน่วยตาของหล่อน
สัญญา..อะไรกัน มินตราถึงกับหน้าร้อนผ่าวกับคำขอสัญญาหน้าตาเฉยนั้นของอธิป หล่อนรู้ในความหมายของมันและค่อนข้างแน่ใจว่าเขากำลังหมายถึงเรื่องเมื่อคืน
สัญญารักของเราไง...เธอลืมแล้วเหรอ เมื่อวานฉันปล่อยเธอกลับมาแล้ว วันนี้ฉันจะมาทวงสัญญา อธิปก้าวย่างเข้าหามินตราทีละก้าวอย่างเป็นต่อ หญิงสาวถอยจนหลังพิงฝาผนังหน้าห้องนอนด้วยแววตาระทึก พยายามสะกดกลั้นความกลัวไม่ให้เล็ดลอดออกมาให้คนตรงหน้าได้หัวเราะเยาะ อธิปมองแววตาระริกฉ่ำน้ำตาของหญิงสาวอย่างนึกขัน
เธอ..กลัว อธิปกั้นมินตราไว้กับผนังห้องด้วยสองแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ก่อนจะแกล้งมินตราด้วยการเอาจมูกมาถูไถจมูกโด่งสวยของหล่อนอย่างหมั่นเขี้ยว นัยน์ตาระริกมีแววขบขันกลายๆ อย่างคนควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า
ฉันไม่ได้กลัว ฮือ..ฮือ หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เสียงสะอื้นเป็นระยะจากร่างน้อยตรงหน้าทำให้อธิปชักหมดสนุกที่จะแกล้งหล่อนจนได้ในที่สุด
คิดถึง อธิปจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางแดงนั้นอย่างโหยหา ก่อนจะผละจูบมองหน้าคนตัวเล็กแสนรักที่ถูกกักกั้นไว้ภายในอ้อมแขนอย่างรักใคร่ มินตราได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาอีกทั้งร่างกายที่ถูกตรึงไว้กับฝาผนังทำให้หล่อนหมดสิ้นทางหนี ครั้นจะโวยวายก็ไม่กล้าเพราะหล่อนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง
อยากจูบ จูบครั้งที่สองผิวเผิน รวดเร็ว แผ่วเบา เสียจนมินตราต้องเงยหน้าขึ้นมามองอย่างตกใจ หญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นคล้ายอยากจะฟังสิ่งที่กำลังจะออกจากปากของชายหนุ่มที่หล่อนแสนรักตรงหน้าอีกต่อไป
อยากสัมผัส อธิปค่อยๆบรรจงเลื่อนมือลูบไล้ใบหน้าหวานที่โหยหา แล้วลากไล้ลงมาเรื่อยๆจากแก้มขาวนวล ลำคอระหง ลาดไหล่ เรื่อยลงมาจนถึงลำแขนเรียว ในขณะที่ริมฝีปากยังคงจูบแผ่วเบาอยู่แถวริมฝีปากอย่างย่ามใจ
อยาก... ยังไม่ทันที่อธิปจะพูดจบ เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นขัดจังหวะ อธิปขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ยังคงไม่ยอมปล่อยมินตราออกจากอ้อมกอด หญิงสาวได้แต่ดิ้นรนขัดขืนด้วยกลัวใครจะมาเห็นเข้า แล้วระล่ำระลักบอกเขาอย่างลนลาน
ปล่อย!! โอม ปล่อยฉันนะ มินตราลุกลี้ลุกลนดิ้นขลุกขลักไม่หยุด จนอธิปหงุดหงิดฉกจูบจากหล่อนอย่างรวดเร็วอีกครั้งก่อนจะปล่อยตัวมินตราให้เป็นอิสระ
เอาเป็นว่ามัดจำไว้ก่อนนะ อธิปยิ้มมุมปาก ก่อนจะใช้นิ้วโป้งเช็ดรอยลิปสติกสีชมพูเข้มที่เลอะออกจากริมฝีปากของมินตราให้อย่างเบามือ มินตราได้แต่ยืนอึ้งกับการกระทำอ่อนโยนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วของอธิป...
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 18:27:18
|
|
|
|