ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 22 ] The Promise Love...
โซ่หัวใจ...คล้องสองเรา
แอสตันมาร์ติน ราปิด สีบรอนซ์เทาแล่นขึ้นสะพานวอเตอร์ลูมุ่งหน้าตรงมายังฝั่งตรงข้ามกันกับจัตุรัสทราฟัลการ์เพื่อจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนยอร์ค โดยมีจุดหมายปลายทางคือโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่ชานนท์เป็นเจ้าของ...
สีหน้านิ่งเฉยครุ่นคิดไม่ยอมพูดจาของชานนท์ที่นั่งคู่กันมากับมินตราที่เบาะหลังของตัวรถ ทำให้หล่อนรู้สึกอึดอัด ไหนจะปัญหาที่เกิดขึ้นในวันก่อนทำให้ชานนท์หายไปทั้งคืนและไม่ได้กลับมาที่โรงแรมอีกเลยจนกระทั่งสายของอีกวันทำให้มินตราเป็นห่วงกังวลยิ่งนัก
พี่นนท์ยังโกรธมินอยู่เหรอคะ มินขอโทษ มินตราเอ่ยถามด้วยความรู้สึกผิด ดวงตาสวยมีแววเศร้าสลด
พี่ไม่ได้โกรธเธอ...พี่ไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น พี่แค่น้อยใจเธอ ที่เห็นพี่เหมือนใครคนนั้นของเธอ ชานนท์ตอบทันทีโดยไม่ต้องคิด มันเป็นความรู้สึกลึกๆในจิตใจ ที่รู้สึกน้อยใจหล่อนอย่างช่วยไม่ได้ จนต้องเอ่ยออกมาเพื่อให้หล่อนรับรู้และตอกย้ำสถานะของตน...
โธ่ พี่นนท์ยังโกรธมิน มินไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นนะคะ มินตราจับจ้องดวงหน้าด้านข้างของชายหนุ่มด้วยความรู้สึกผิด แต่เขาไม่แม้แต่จะเหลียวมองหล่อนสักนิด
พี่ไม่ได้โกรธเธอเลย พี่แค่น้อยใจ มินรู้ใช่มั๊ยว่าพี่คิดยังไง ชานนท์ปรายตามองหญิงสาวแสนรักข้างกายของเขาด้วยแววตาตัดพ้อ จนมินตราสะดุดกับสายตานั้นนิ่งไปอย่างทำอะไรไม่ถูก
มินรู้...แต่มินยังไม่พร้อมจะรักใครค่ะพี่นนท์ มินมีลูกที่ต้องดูแลไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว มินตรามองตรงไปยังข้างหน้า ไม่ยอมสบตาชายหนุ่มข้างกาย
พี่รู้...เธอรักเขาก็ได้ ไม่เป็นไร...แต่พี่รักเธอ อยากดูแลเธอ และเลี้ยงดูอาร์มให้เหมือนเป็นลูกของพี่ มินตราถึงกับตะลึงไปกับคำบอกรักของชายหนุ่มที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว ชานนท์จับกระชับมือของมินตรามาวางไว้แนบตัก ในที่สุดเขาก็ได้บอกความรู้สึกให้มินตรารับรู้อย่างเป็นทางการเสียที ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบและไม่ถูกที่ทางดังหวังไว้ก็ตาม
ไม่ค่ะ มินไม่อยากใช้พี่เหมือน มินตราหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อนึกถึงวสุขึ้นมา ผู้ชายที่แสนดีคนนั้นหล่อนหลอกใช้เขา ทำร้ายหัวใจของเขาจนแหลกสลายมาแล้ว มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกไม่ว่าจะเป็นชานนท์ หรือกับใคร...
มิน !! ชานนท์ปล่อยมือของมินตราที่กำลังพยายามดึงมือของตนออกจากการถูกเขาเกาะกุม
ใกล้ถึงแล้วค่ะ เลิกพูดเถอะ หญิงสาวเบนสายตาออกไปยังนอกหน้าต่างรถแล้วแอบเช็ดน้ำตาที่กำลังจะหยดลงมาอย่างเงียบๆโดยไม่ให้ชานนท์รู้ว่าลึกๆแล้วหล่อนรู้สึกอบอุ่นใจมากแค่ไหน
ได้สิ ถ้าเธอไม่อยากฟังหรือรับรู้ ก็ทำตัวให้เป็นปกติเถอะ ลุง...จอดหน้าโรงแรมเลย ผมจะลง ชานนท์สั่งคนขับรถประจำตัวแล้วยุติการสนทนากับมินตราเพียงเท่านั้น ชายหนุ่มพยายามซ่อนความหมองเศร้าแล้วทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ก่อนจะก้าวยาวเข้าไปยังภายในโรงแรม โดยมีมินตราเดินแกมวิ่งตามมาติดๆ
*********************************************
หลังจากส่งเอรินเสร็จแล้ว รถแท็กซี่สีน้ำเงินที่มีอธิปนั่งมาก็กำลังจะเลี้ยวซ้ายขึ้นสู่สะพานวอเตอร์ลูมุ่งตรงไปยังโรงแรมเดอะรอยัลเฮ้าส์การ์ดซึ่งเป็นที่พักของเขาตลอดการเดินทางครั้งนี้ จู่ๆสายฝนก็ตกโปรยปรายลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยความรู้สึกเหงาจับขั้วหัวใจ
ฝนตกอีกแล้ว ขนาดหนาวๆอย่างนี้ลอนดอนก็ยังมีฝนตกได้ทุกวัน คุณไปไหนมาไหนต้องพกร่มไปด้วยนะครับ คนขับแท็กซี่วัยกลางคนเอ่ยบอกอธิปให้รับรู้ถึงสภาพอากาศแปรปรวนของลอนดอนในยามนี้หรือที่จริงแล้วลอนดอนมักจะเป็นอย่างนี้ตลอดมากกว่า ขอบคุณครับ คุณลุง อธิปยิ้มเล็กน้อยให้คนขับแท็กซี่ ก่อนจะมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้งมองสายฝนโปรยปรายด้วยหัวใจเปลี่ยวเหงา...
ถ้าหากสายฝนจะช่วยพัดพาหัวใจของเขากลับคืนมาได้คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว...อธิปไม่รู้เลยว่าขณะนี้หัวใจของเขากำลังแล่นสวนทางไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเส้นทางที่เขากำลังมุ่งไป...แอสตันมาร์ติน ราปิดที่สีบรอนซ์เทาที่แล่นสวนกันกับรถแท็กซี่ที่อธิปนั่งมากำลังพุ่งทะยานมุ่งหน้าสู่ถนนยอร์ค เพื่อไปยังโรงแรมพาร์คพลาซ่าคันทรีฮอลล์ ที่อยู่ตรงข้ามกับเดอะรอยัลเฮ้าส์การ์ดด้วยระยะห่างเพียงแม่น้ำเทมส์ และลอนดอนอายกั้นขวางอยู่....
เมื่อรถเข้าเทียบจอดยังหน้าโรงแรม ชานนท์ลงจากรถโดยทันทีโดยไม่รอมินตรา ชายหนุ่มพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด หญิงสาวได้แต่รีบเดินตามมาเพื่อให้ทันเขา หล่อนมองแผ่นหลังของชายหนุ่มตรงหน้าที่เดินนำห่างออกไปด้วยความรู้สึกผิดและเศร้าอย่างบอกไม่ถูก...
สวัสดีค่ะ คุณอเล็กซ์ คุณแมนนี่ พนักงานต้อนรับสาวชาวอังกฤษเอ่ยยิ้มแย้มทักทายด้วยความสุภาพอ่อนน้อม
สวัสดี วันนี้ที่โรงแรมเป็นยังไงบ้าง ชานนท์ถามพนักงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มตอบเช่นกัน ด้านหลังของชายหนุ่มมีมินตรายืนรีรออยู่ด้านหลัง หญิงสาวเหลียวมองไปรอบๆบริเวณล็อบบี้เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยโดยรวมของโรงแรม แล้วสายตาก็มาสะดุดอยู่ที่หญิงสาวรูปร่างเล็กคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่าหล่อนน่าจะเป็นคนเอเชีย ไม่ทันที่มินตราจะได้เอ่ยถาม หญิงสาวคนนั้นก็ทักทายหล่อนเสียก่อน
คุณเป็นคนเอเชียรึเปล่าคะ เอรินเอ่ยทักมินตราด้วยสีหน้าลุ้นๆ หล่อนถามเป็นภาษาไทยออกไปเผื่อมินตราจะเป็นคนไทยเหมือนกัน
สวัสดีค่ะ ดิฉันแมนนี่ เป็นเลขาท่านประธาน มิทราบมีสิ่งใดให้รับใช้คะ มินตราตอบหญิงสาวน่ารักตรงหน้าเป็นภาษาไทยด้วยน้ำเสียงเป็นมิตรเช่นเดียวกัน
ดีใจจังเลยค่ะ คุณเป็นคนไทยเหมือนกัน คุณช่วยฉันด้วยนะคะ คือฉัน...ฉันเพิ่งมาลอนดอนครั้งแรกแล้วก็นัดกับเพื่อนไว้ที่โรงแรมนี้ค่ะ เอรินระล่ำระลักบอกมินตราแทบจะเรียงประโยคไม่ถูก จนมินตราต้องโอบหญิงสาวที่กำลังขวัญเสียไว้อย่างปลอบโยน
ค่อยๆเล่านะคะ เพื่อนของคุณชื่ออะไร พักอยู่ที่ห้องไหนคะ มินตราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน จนเอรินคลายใจ หญิงสาวรวบรวมสติก่อนจะเล่าอย่างช้าๆ
ฉันมาหาเพื่อนสนิทชื่อวิสาห์ หรือวินซี่ย์ เจย์ค่ะ เธอจะแต่งงานที่นี่วันมะรืนนี้ค่ะ แล้วฉันมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ แต่ว่าติดต่อเธอไม่ได้ ฉันก็เลยกลัวว่าจะเคว้งค่ะ เอรินอธิบายยาวยืด ยังไม่ทันจะเล่าจบเสียงใสจากเพื่อนตัวดีของเอรินก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน
เอริน ขอโทษน๊าที่ให้รอนาน วิสาห์หรือวินซี่ย์ วิ่งเข้ามาทักทายเพื่อนรัก ทั้งสองกอดกันกลมก่อนจะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอยู่ชั่วครู่ โดยเอรินไม่ลืมที่จะขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของมินตรา
ไฮ..อเล็กซ์ ไบรอันว่าที่สามีของวิสาห์ที่เดินตามหลังเจ้าสาวของเขาลงมายังล็อบบี้เอ่ยทักทายเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยอย่างชานนท์ด้วยความสนิทสนม
ว่าที่เจ้าบ่าวหน้าตาสดชื่นจริงนะ เป็นไงชอบสถานที่ไหม เลขาของฉันออกแบบเองกับมือเลยนะ ชานนท์หันมามองมินตราชั่วขณะ หญิงสาวยิ้มแย้มทักทายไบรอันอย่างเป็นมิตร
วอนเดอร์ฟูล สถานที่สวยงามมาก เธอเหมาะจะเป็นนักออกแบบงานแต่งงานมากๆเลย ไบรอันเอ่ยชื่นชมมินตรา จนชานนท์ถึงกับปลื้มแทน
ขอบคุณนะคะคุณแมนนี่ คุณเก่งมากๆเลยค่ะ สวยงามเหมือนฝันถูกใจฉันจริงๆเลยค่ะ วิสาห์ตรงเข้ามาจับมือแสดงความชื่นชมมินตราจนออกนอกหน้า เอรินได้แต่มองอย่างทึ่งในความสามารถของสาวสวยตรงหน้า
ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันดีใจที่คุณทั้งสองชอบ มินตราเอ่ยตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดีใจกับคู่บ่าวสาวเช่นกัน
เออ..แล้วเพื่อนเจ้าบ่าวล่ะ ใคร ชานนท์หันมาให้ความสนใจและชวนไบรอันคุย
น้องชายสุดที่รักของนายไง อดัมส์น่ะ ไบรอันตบไหล่ชานนท์อย่างถือสนิท
อดัมส์มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวงั้นเหรอ เซอร์ไพรส์มากต้องเจอกันหน่อยแล้ว ชานนท์หัวเราะอย่างอารมณ์ดีที่คิดว่าจะได้เจอกับน้องรักที่ไม่ได้เจอกันมานานกว่าสองปีแล้ว
มินจ๊ะ ไปด้วยกันมั๊ยคืนพรุ่งนี้ ชานนท์หันมาเอ่ยชวนหญิงสาวอย่างอารมณ์ดี มินตรารีบส่ายหน้าอย่างเกรงใจ หล่อนไม่ชอบออกงานสังคมตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
พี่นนท์ไปกับเพื่อนเถอะค่ะ เอ่อ..ตอนนี้มินขอตัวไปหาแจนก่อน
ชานนท์ได้แต่มองตามหลังมินตราเดินออกไปจากโรงแรมหลังจากล่ำลาแขกทั้งสามแล้ว อย่างเศร้าสร้อยความรู้สึกกรุ่นๆเมื่อครู่ที่นั่งมาในรถด้วยกันเขายังไม่ลืมไปเสียทีเดียว
ใคร..คุณแจน ไบรอันถามอย่างสนใจใคร่รู้หลังจากลอบสังเกตสีหน้าของคนตรงหน้าอยู่เป็นนาน
เค้าเป็นออแพร์น่ะ ผมสปอนเซอร์มาจากเมืองไทยให้ช่วยดูแลบ้านที่ฝั่งโน้นแล้วก็ดูแลเด็กด้วย แววตาหม่นแสงของชายหนุ่มตรงหน้า ไบรอันได้แต่มองด้วยความเป็นห่วง เพราะปกติชานนท์จะดูดีกว่านี้มากนัก
ออแพร์งั้นเหรอ ไบรอันเอ่ยถามเพื่อนสนิทหลังจากดูรูปการแล้ว ไบรอันเข้าใจได้ทันทีว่าเพื่อนรักของเขากำลังหลงรักเลขาสาวคนนี้เข้าเสียแล้ว
ใช่..เค้านัดกันว่าจะไปรับลูกน่ะ แขกทั้งสามหันขวับมาสีหน้าแตกตื่นกับคำตอบของชานนท์
นายจะบอกฉันว่า ไม่ทันที่ไบรอันจะพูดจบ ทั้งไบรอัน วิสาห์ และเอรินก็หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายกับคำตอบของชานนท์ที่พูดขึ้นมาลอยๆ ใครจะคิดว่าผู้ชายที่สมบูรณ์แบบและเพียบพร้อมไปเสียหมดทุกอย่างอย่างชานนท์จะเพลี่ยงพล้ำให้กับความรักถึงเพียงนี้...
ฉันกำลังหลงรักผู้หญิงที่มีลูกติดคนนั้น...
นับตั้งแต่มาถึงโรงแรม อธิปเฝ้ามองลอนดอนอายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเทมส์ผ่านทางกระจกห้องทาวเวอร์สูทอย่างเหม่อลอย ที่เลือกพักห้องนี้เพราะเป็นชั้นบนสุดของโรงแรมและสามารถมองเห็นวิวสะพานได้ถึงสองแห่งทั้งสะพานฮังเกอร์ฟอร์ดและสะพานเวสต์มินสเตอร์โดยไม่มีสิ่งใดกั้นขวาง...ถ้าหากเขาจะมองเลยผ่านวงล้อหมุนของลอนดอนอายผ่านไปยังโรงแรมอีกฝั่งได้ อธิปก็อาจจะรู้ว่า หัวใจ ของเขาอยู่ที่แห่งใด
ฝนหยุดตกนานนับกว่าสองชั่วโมงแล้ว สองชั่วโมงที่เขาจ่อมจมอยู่กับความรู้สึกคิดถึงมินตรา...คนรักที่หนีหายไป อธิปงัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเขากำลังนอนแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำ น้ำอุ่นเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบจนกายแกร่งสั่นสะท้าน โทรทัศน์ติดผนังตรงข้ามอ่างอาบน้ำยังคงเปิดค้างไว้ไม่รู้เป็นเวลานานเท่าไหร่ รู้สึกหนาวยะเยือกจนขนกายลุกตั้งชัน ชายหนุ่มลุกขึ้นมาคว้าชุดคลุมอาบน้ำมาสวมเพื่อดับความหนาวจนเนื้อตัวเย็นซีด แล้วจึงไปนอนแผ่อยู่บนเตียงกว้าง
อธิปหวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ในความทรงจำระหว่างเขากับมินตราขึ้นมาอีกครา...ยามใดที่มีบางสิ่งที่เชื่อมเหตุการณ์ระหว่างเขาและหล่อนเอาไว้ เขาก็จะหวนนึกถึงมันอยู่เสมอราวกับเรื่องราววันวานเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน...
โอม...อย่าแกล้งกันสิ หนาวนะ มินตราพองลมเต็มแก้มเมินหน้าหนีคนชอบแกล้งอย่างงอนๆ หล่อนนั่งอยู่ปลายเตียงกำลังไดร์ผมอยู่ให้พอหมาด อธิปแอบเข้ามานั่งซ้อนหลังไม่ให้รู้ตัวแกล้งดึงเสื้อคลุมของหล่อนจนเห็นไหล่เนียนเปลือยเปล่า พร้อมทั้งกดจูบเบาๆลงไปบนหัวไหล่เย็น
ก็อาบน้ำเสร็จแล้วตัวห๊อมหอมนี่นา มากอดทีมา ชายหนุ่มคว้าแขนคนน่ารักตรงหน้าให้หันมาเผชิญหน้ากัน จูบเบาๆที่ขมับคนรักก่อนจะกอดกระชับอ้อมแขนแนบแน่น
แค่กอดนะ มินตราเกยคางบนไหล่หนาพร้อมทั้งพึมพำอ้อมแอ้มอย่างเคอะเขิน
อยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆ จนกว่าความตายจะมาพรากเรา อธิปยังพูดไม่ทันจบ มินตราขืนตัวออกจากอ้อมกอดแข็งแรงนั้นแล้วมองสบตาเขาด้วยแววตาตำหนิ
อย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ฉันไม่ชอบ ตงตายอะไรกัน ไม่เอานะ น้ำใสหยดเล็กจากดวงตาเศร้าของคนรักทำให้อธิปรู้สึกตัวยิ้มกลบเกลื่อน
อืม...นั่นสินะ พวกเราต้องอยู่ด้วยกันรักกันไปจนแก่จนเฒ่าด้วยกันตลอดไปเลยนะ อธิปยิ้มให้กับมินตราที่เอื้อมมือน้อยมาเช็ดน้ำตาที่หยดลงมาจากหางตาของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ชายหนุ่มก็ยังไม่รู้ตัว...
อธิปยิ้มให้กับความรักความหลังในครั้งนั้นของตนเองอย่างเศร้าหมอง ทุกสิ่งดูเหมือนเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ป่านนี้มินตราจะมีชีวิตอย่างไร มีความเป็นอยู่ดีแค่ไหน ยังรักเขาอยู่หรือไม่ เป็นคำตอบที่เขาจะต้องค้นหาให้เจอให้จงได้
***************************************************
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
25 พ.ย. 55 02:04:39
|
|
|
|