ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 21 ] The Promise Love...
ไกลแค่ไหน...คือใกล้
การที่ได้รับรู้รับฟังเรื่องการตั้งครรภ์ของมินตรา เป็นเรื่องราวที่ช็อคที่สุดในชีวิตของชานนท์ก็ว่าได้ เพราะมันคือความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาผิดหวังในตัวหล่อนมากมายเพียงใด การมีมินตราเข้ามาโคจรอยู่ข้างกายเขาแม้เพียงเวลาไม่นาน เป็นความหวังในชีวิตที่ชานนท์โหยหามาตลอด... "ยินดีด้วยนะอเล็กซ์...มิสแมนนี่ของนายตั้งครรภ์ได้ 15 สัปดาห์แล้ว" สูตินรีแพทย์หนุ่มเพื่อนสนิทของชานนท์ เอ่ยอย่างอารมณ์ดี
ชานนท์ถึงกับอึ้งไปไม่น้อยกับสิ่งที่ได้ยินจากปากเพื่อนสนิทของตนเอง มินตราท้องงั้นหรือ...ได้อย่างไร..กับใครกัน...
"เฮ้..อเล็กซ์ ทำไมเงียบไปล่ะ นายไม่ดีใจรึไงที่กำลังจะมีลูกน่ะ" น้ำเสียงห่วงใยนั้นมีแววล้อเลียนเล็กน้อย ชานนท์ตั้งสติได้จึงรีบถามออกไปด้วยอาการตื่นๆ
"ขอบใจนะไมเคิล เอ่อ..เค้าไม่ใช่..ช่างเถอะ..ว่าแต่เค้าไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็นเลย ทำไมอยู่ดีๆถึงเป็นลมไปได้ล่ะ" ชานนท์ปรายตามองไปยังร่างบอบบางของมินตราที่ยังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงพยาบาลอย่างไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นเสียที ด้วยสายตาที่แสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน
"อย่างที่นายบอกเองไง รายนี้ไม่มีอาการแพ้ท้องให้เห็น เราจะยังไม่รู้หรอกนอกจากเจ้าตัวเค้าจะสังเกตหรือรู้สึกได้เอง ซึ่งวันนี้ก็มีอาการเป็นลมบ่งบอกแล้ว แต่ไม่มีอันตรายหรอกนะ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์โดยไม่แพ้ท้องเลยก็มีเยอะอยู่เหมือนกัน" คุณหมอหนุ่มอธิบายเป็นฉากๆ ชานนท์ได้แต่รับฟังอย่างตั้งใจ
"แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ฉันก็ไม่เคย.." ชานนท์ทำสีหน้าปั้นยาก จนคุณหมอหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ
"บริหารงานโรงแรมหลายแห่งเจริญขนาดนี้ เรื่องแค่นี้เล็กน้อยน่ะ...ว่าแต่ไปแต่งงานตอนไหนไม่เห็นบอกกันบ้าง"
"เฮ้ย!! ไม่ได้แต่ง มินตราเค้าไม่ใช่เมียฉันซะหน่อย แล้วเค้าก็ไม่ได้ท้องกับฉัน" ชานนท์ใจเต้นไม่เป็นส่ำกับคำพูดจากปากของตนเอง คำเรียกหญิงสาวที่นอนอยู่ไม่ไกลเป็นสิ่งที่เขาปรารถนาจะให้หล่อนเป็นยิ่งนักนับแต่เจอกัน แต่ตอนนี้หล่อนกลับมาท้องกับใครที่ไหนก็ไม่รู้
"ไม่จริง!! ไม่จริงใช่ไหมพี่นนท์" น้ำเสียงของมินตราสั่นระริก จนชานนท์ตกใจเมื่อหันไปตามเสียงแล้วพบว่าหล่อนลืมตามองมาทางเขาด้วยดวงตาประกายระริกฉ่ำน้ำตา
"มิน!! ฟื้นแล้วเหรอจ้ะ" ชานนท์ผุดลุกจากเก้าอี้ถลามายังร่างบอบบางที่เริ่มจะเจ้าเนื้อนิดๆของมินตราทันที
"พี่นนท์..มินจะทำยังไงดี มินจะอยู่ได้ยังไง จะเลี้ยงเขาได้ยังไง มินไม่มีงาน ไม่มีเงิน ฮือ ฮือ" มินตราน้ำตาไหลอาบแก้ม ชานนท์โอบกอดหล่อนเอาไว้อย่างปลอบโยน
"เอ่อ..หมอขอตัวก่อนนะครับ ขอไปตรวจคนไข้สักครู่ ตามสบายนะครับ ตามสบายนะเพื่อน" คุณหมอหนุ่มหันมาพยักเพยิดกับชานนท์ เป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งมินตราและชานนท์ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง
"บอกพี่ได้ไหม...ว่าพ่อเด็กเป็นใคร" ชานนท์คลายอ้อมกอดจากมินตราที่ยังคงสะอื้นไม่หยุด แล้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง
"เขา...เขา..เป็น...เอ่อ มินไม่อยากพูดถึงเขา พี่นนท์มินขอร้อง...อย่าพูดถึงเขาอีก มินบอกไม่ได้จริงๆ" มินตราก้มหน้าหลบสายตาของชานนท์ที่มองมา สองมือจิกผ้าปูที่นอนแน่นจนยับย่น
"โอเค..โอเค...มิน เราจะไม่พูดถึงเขา ว่าแต่มินจะทำยังไงต่อไป บอกทางเมืองไทยดีไหม" ชานนท์คว้ามือน้อยมากุมไว้อย่างปลอบโยน
"มิน..มินไม่รู้" มินตราสีหน้าเป็นกังวล คิ้วคมขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างหาทางออกไม่ได้ หล่อนจะทำอย่างไรได้ในเมื่อมาอยู่ที่นี่เพียงแค่เริ่มเรียนภาษาเท่านั้น ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแม้สักนิด
"งั้นพี่จัดการเอง ไม่ต้องกังวล เรามาช่วยกันแก้ปัญหาเถอะนะ" ชานนท์ลูบศรีษะมินตราที่มีอาการขวัญเสียอย่างอ่อนโยน หล่อนเงยหน้าขึ้นสบตาเขา พร้อมทั้งเอ่ยด้วยเสียงเว้าวอน
"พี่นนท์อย่าบอกพ่อนะ คุณสรินด้วย อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้นะคะ มินจะคลอดเขาเงียบๆ ช่วยมินด้วยนะคะ พี่นนท์" มินตราระล่ำระลักขอร้องอย่างน่าสงสาร
เรื่องราวที่ผ่านมาครั้งนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของชานนท์เหมือนเพิ่งเกิดได้ไม่นาน มินตราในวันนั้นเป็นคนที่เขาอยากจะปกป้องจนถึงที่สุด แต่เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้ชานนท์คิดได้ว่าคนที่อยู่ในหัวใจของหล่อนคือผู้ชายคนนั้น
ไม่ใช่เขา
ราเชลรู้สึกตัวตื่นขึ้นมากลางดึก มือเรียวปะป่ายไปมายังคนที่นอนข้างกันเมื่อครู่ แต่พบเพียงความว่างเปล่า หญิงสาวงัวเงียลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อคลุมมาสวมใส่อย่างลวกๆ ภายในห้องมืดสลัวหล่อนเห็นเงาร่างคนคุ้นเคยยืนอยู่ริมหน้าต่างอย่างเหม่อลอย
"คิดอะไรอยู่คะ" ราเชลตรงเข้าสวมกอดแผ่นหลังกว้างของคนเหม่อลอย แนบแก้มลงไปหาไออุ่นนั้นอย่างรักใคร่ ชานนท์ปรายตามองหล่อนแวบเดียว ก่อนจะหันมองออกไปนอกหน้าต่างเช่นเคย
"คุณดูแย่นะ เพราะแมนนี่รึเปล่า ฉันไม่น่าปล่อยคุณไปให้หล่อนเลย" ราเชลคลายกอดจากแผ่นหลังกว้างดึงให้เขาหันหน้ามาเผชิญหน้ากัน อเล็กซ์ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
"ฉันไม่ใช่ของเธอ..ไม่ใช่ของใคร เข้าใจไหม" อเล็กซ์ตอบหล่อนด้วยน้ำเสียงห้วนจนราเชลสะอึก
"ฉันรู้ดี คุณไม่ต้องมาตอกย้ำหรอก ฉันรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิ์อยู่แล้วแต่คุณก็ไม่ควรทำอย่างนี้กับฉัน ให้ความหวังแล้วมาทำร้ายกันด้วยคำพูดอย่างนี้" ราเชลน้ำตาปริ่มตา น้ำเสียงสะดุดจนชานนท์รู้สึกได้
"ขอโทษนะ...ราเชล สำหรับฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะไกลและยากเย็นสักแค่ไหน ฉันก็อยากจะอยู่ใกล้ๆเขา ดูแลเขาให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรต่อไปนับจากนี้ ฉันจะยอมรับมันขอเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขาก็พอ"
ชานนท์จับมือของราเชลไว้อย่างรู้สึกผิด ผิดที่ใช้หล่อนเป็นที่ระบายอารมณ์ยามผิดหวัง เศร้าใจ เพราะความคิดชั่ววูบเท่านั้นจริงๆ ไม่มีอย่างอื่น...
.
อีกฟากฝั่งของท้องฟ้า เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 ของการบินไทยกำลังทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าบินตรงสู่มหานครลอนดอน อธิปกำลังนั่งอ่านเอกสารปึกใหญ่อย่างตั้งใจ เพราะต้องไปประชุมกับบริษัทคู่ค้าในเคนซิงตัน เพื่อขยายขอบเขตธุรกิจของบริษัทที่กำลังสานงานต่อและมีแววว่าจะเจริญเติบโตมากยิ่งกว่าสมัยอดิษว์อีกมาก
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงสำหรับเอกสารปึกตรงหน้า อธิปเหลือบมองนาฬิกาข้อมือเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว เขาบีบขมับขับไล่ความเมื่อยขบก่อนจะคว้าหูฟังมาเปิดหาช่องรายการจากจอโทรทัศน์ขนาดเล็กตรงหน้า ก่อนจะหลับตาลงเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา
This I promise you
เพลงโปรดของมินตรายังคงบรรเลงแว่วหวานในห้วงของความคิดคำนึง อธิปได้แต่หวังว่าพวกเขาจะได้พบเจอกันอีกสักครั้งในเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไหนสักแห่ง...และเขาจะลืม...ลืมความใจร้ายของมินตราที่ทิ้งเขาไว้ในช่วงเวลานั้น... ที่นั่งเบาะหลังถัดไปไม่กี่ที่นั่ง เอริน...กำลังจ้องมองอธิปอย่างสนใจ เป็นความบังเอิญจนดูเหมือนจงใจหรืออย่างไรกัน ทำให้หล่อนได้มาพบเจอผู้ชายคนนี้อีกครั้ง...หากจะคิดว่ามันคือพรหมลิขิตล่ะ เอรินยิ้มออกมาอย่างนึกขำกับความคิดที่เข้าข้างตนเอง พรุ่งนี้เมื่อถึงลอนดอนหล่อนจะลองเข้าไปทำความรู้จักเขาดูอีกสักครั้งหนึ่ง ถ้าหากสวรรค์จะเป็นใจ หล่อนจะขอลองรักดูสักครั้ง...
******************************************************
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 55 22:12:47
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ย. 55 21:52:12
|
|
|
|