ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 19 ] The Promise Love...
ชีวิตใหม่...อยู่ไปไม่มีเธอ
วสุตื่นขึ้นมาในตอนสายของวันเพราะเสียงอะไรบางอย่างที่ดังเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยิน เมื่อคืนเขานอนกระสับกระส่ายทั้งคืนจนเช้านี้สมองมึนตื้อไปหมดเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ ชายหนุ่มชันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงก่อนจะสะบัดศรีษะไปมาขับไล่ความมึนงงอยู่ชั่วครู่แล้วก็ต้องนึกเอะใจ จึงรีบเดินออกจากห้องไปตามกลิ่นหอมที่ลอยมาจากด้านนอกห้องนอน
พอออกมาถึงยังห้องรับแขกแล้ว วสุก็ต้องสะดุดเข้ากับร่างเล็กบอบบางของใครบางคน ทั้งที่เข้าใจว่าอาจะเป็นรินลดาที่หมู่นี้มาเป็นแขกประจำที่ห้องของเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่กลับกลายเป็นคนที่เขาเฝ้าคิดถึงอยู่ไม่รู้คลาย คนที่ห่างหายจากกันไปเกือบหนึ่งเดือนเต็ม เขาอยากจะกระชับอ้อมกอดนั้นไว้ให้แนบแน่นไม่ให้ใครคนอื่นมาแย่งหล่อนไปจากเขาได้ มิน!! วสุอุทานออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เป็นครั้งแรกหลังจากที่เขาเคยให้กุญแจห้องกับมินตราเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังคบกันใหม่ๆ แต่หล่อนก็ไม่เคยแม้แต่จะย่างกรายเข้ามาเลยสักครั้ง แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้นถึงทำให้มินตรามาปรากฎตัวถึงที่นี่ได้
ตื่นแล้วเหรอคะ มินตราสะดุ้งกับเสียงเรียกที่ดังมาจากข้างหลังเล็กน้อย หล่อนหันมายิ้มกว้างให้วสุ ดวงตาเป็นประกายระริกเหมือนมีน้ำตาใสหยดเล็กๆคลอหน่วยตา หญิงสาวชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนที่มือบอบบางละจากหม้อซุปที่กำลังเคี่ยวอยู่ตรงหน้าแล้วเดินตรงมายังเขา
เอ่อ...จ้ะ วสุยิ้มเหยเกอย่างประหม่า ชายหนุ่มนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าตนจะประหม่าได้ถึงขนาดนี้ทันทีที่เห็นมินตราในชุดลำลองสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าดูน่าทนุถนอมจนเขาอยากจะคว้าหล่อนเอามากอดไว้แนบอก
มินทำซุปครีมข้น ออมเล็ต แล้วก็อเมริกาโน่ชงให้แล้วค่ะ แต่ไม่มีโฮลต์วีทนะคะ มินลืมซื้อเข้ามาพี่ก้องจะทานเลยไหมคะ เมื่อเห็นวสุยังคงยืนนิ่งงันอยู่ มินตราจึงดึงมือวสุให้เดินตามกันมาแล้วดันไหล่ให้เขานั่งลง วสุมองอาหารเช้าตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างสงสัยเล็กน้อยพลางหันมามองมินตราด้วยสายตามีคำถาม
วันนี้มีอะไรดีดีเหรอ มินดูแปลกไปนะ วสุถามอย่างสงสัย เขายังคงใช้สรรพนามเช่นเดิมกับสมัยที่ยังดีๆกันอยู่ ก่อนจะหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบรสชาติที่เขาคุ้นเคยมินตรายังคงจำได้ดีไม่ลืม
มินก็แค่อยากจะขอบคุณพี่ก้องที่ดีกับมินมาตลอด เสียงเล็กหวานใสยังคงเจื้อยแจ้ว แต่น้ำเสียงนั้นสั่นเล็กน้อยทำให้วสุถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
ต่อไปถ้ามินไม่อยู่ พี่ก้องต้องหาใครมาทำหน้าที่นี้ให้แทนนะ น้ำเสียงที่เมื่อครู่ยังหวานใสสั่นเครือลงไปจนวสุต้องจับมือมินตราที่ยืนกอดคอเขาอยู่ด้านหลังมากุมไว้หลวมๆ
พี่ขอโทษนะ...ที่พี่ทำตัวห่างเหินกับมิน แต่พี่ก็ไม่ได้สบายใจเลย วสุที่ยังคงนั่งอยู่จะหันมามองมินตราที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังของเขาอย่างค้นหาคำตอบ แต่หล่อนขืนตัวเขาไว้พร้อมกอดกระชับแผ่นหลังหนาให้แน่นขึ้น ถ้าความรู้สึกของเขาไม่ผิดพลาด วสุรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างเย็นๆเปียกชื้นสัมผัสที่หัวไหล่ของเขาบางเบา
อื้อ..ไม่มีอะไรหรอกมินก็พูดไปเรื่อย พี่ก้องไม่ต้องขอโทษมินหรอก ทุกอย่างเป็นเพราะมิน..เพราะมินคนเดียว มินตราเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ปากบอกปฏิเสธพร้อมกับผละออกจากวสุแล้วมานั่งตรงข้ามกับเขา
ทานเถอะค่ะ เดี๋ยวจะเย็นซะหมด น้ำเสียงหวานใสนั้นกลับมาแฝงด้วยความขี้เล่นเหมือนเดิม มือเรียวสั่นเล็กน้อยแต่ก็ยังพยายามตักอาหารเข้าปากทานอย่างเอร็ดอร่อย จนวสุที่มองตามการกระทำแต่ละอย่างที่ดูแปลกในสายตาเขา ชายหนุ่มมองหญิงสาวแสนรักตรงหน้าอย่างจับสังเกตุ ภายใต้ท่าทางปกตินั้นมีบางสิ่งที่เขาไม่เข้าใจแฝงอยู่ ถ้าหากว่าเขาจะลองดูอีกครั้งล่ะ ถ้าหากเขาจะให้โอกาสมินตราอีกสักครั้งแล้วมองข้ามอะไรบางอย่างไป จะยังได้มินตราคนเดิมที่เขารักกลับคืนมาได้หรือไม่นะ... ช่วงสายของวันเดียวกันหลังจากรอส่งวสุไปทำงานแล้ว มินตราก็ออกมาจากคอนโดด้วยความรีบร้อน หญิงสาวรีบตรงไปยังโรงพยาบาลแทบจะทันทีเพราะวันนี้หล่อนมีเรื่องที่ต้องจัดการหลายเรื่องทีเดียว รวมทั้งเรื่องของอธิป หล่อนอยากจะเห็นหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะต้องจากไป...
โอม... เมื่อไหร่นายจะฟื้นซะที มินตราแนบใบหน้าลงทาบทับแก้มที่เริ่มอวบกลมขึ้นเล็กน้อยของอธิปที่ยังคงนอนไม่รู้เรื่องนั้นอย่างรักใคร่
ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นของใครคนอื่นที่หล่อนไม่มีวันจะเอื้อมถึงได้อีกต่อไป ยิ่งรู้อย่างนี้แล้วมินตราก็ยิ่งหมดหวังที่จะได้รักเขาหลังจากที่พยายามหลอกตัวเองมาตลอดว่าพวกเขากำลังดำเนินเรื่องหย่ากัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันฉันคนรักมานานปี แต่แล้วเขากลับกลายมาเป็นสามีของสรินที่เป็นพี่สาวต่างมารดากับหล่อนไปได้ ชีวิตต่อจากนี้ต่อไปยังไม่รู้จะเป็นอย่างไร...หล่อนคงได้แต่ต้องรอคอยมันอย่างอดทน..
คุณมินตราวันนี้มาเร็วนะครับ ไม่มาทานกลางวันกับโอมเหรอครับวันนี้ ภัทรเอ่ยทักทายอย่างอารมณ์ดี ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามาพบกับมินตราซึ่งมาเป็นแขกประจำวันของห้องนี้ทุกเมื่อเชื่อวัน
วันนี้มินรีบค่ะ มีธุระต่อนิดหน่อยมินตรายิ้มหวานให้คนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยคำบางคำที่ทำให้ภัทรถึงกับหน้าแดง
น้องสาวมินที่พามาด้วยคราวก่อนเป็นยังไงบ้างคะ รสาน่ะเขาน่ารัก คุณสองคนดูๆกันอยู่ใช่มั๊ยคะ ภัทรได้ยินชื่อคนที่มินตราเอ่ยถึงก็ได้แต่พูดตะกุกตะกักอย่างขัดเขิน
เอ่อ..เขา เขาก็..ก็น่ารักดีครับ มินตราถึงกับยิ้มกว้างออกมากับคำตอบที่ดูขัดเขินของชายหนุ่มเคร่งขรึมอย่างภัทร หล่อนได้แต่นึกในใจอย่างมีความหวังในที่สุดรสาน้องรหัสสุดที่รักก็ดูจะคลิกกันลงตัวเสียทีกับภัทรคนที่หล่อนเพิ่งค้นพบไม่นานมานี้ว่านิสัยดีไม่แพ้กัน...
ผมขอตัวออกไปรอข้างนอกนะครับ คุณจะได้อยู่กันตามลำพัง มินตราได้แต่ยิ้มพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณภัทรที่เปิดโอกาสให้ เมื่อภัทรเดินลับตาไปหล่อนจึงนั่งลงข้างเตียงแล้วจับมือของอธิปขึ้นมากุมแนบแก้มเบาๆ
โอม...ฉันจะไปแล้วนะรีบฟื้นซะทีนะฉันไม่อยู่ดูแลตัวเองด้วย
ฉันรักโอมมาตลอด...แต่โอมมีคนดูแลอยู่แล้ว พี่สาวของฉันเขาไม่ใช่คนเลวร้ายหรอกนะ เขาก็แค่เด็กขาดความอบอุ่นต้องให้ความรักเขาให้มากๆทำให้เขามีความสุข อย่าทำให้พี่ฉันต้องเสียใจนะ
ฉันต้องไปแล้วนะ...ที่รักของฉันมินตราจูบลงบนริมฝีปากของคนนอนหลับอยู่อย่างแผ่วเบาทนุถนอม พร้อมทั้งก้มลงกอดแนบศรีษะลงบนอกของอธิป น้ำตาไหลหยดซึมลงผ่านเนื้อผ้าลงไปยังผิวเนื้อบริเวณที่เป็นส่วนของหัวใจของเขาที่ยังคงนอนหลับอยู่ ก่อนจะผละออกมามองเขาชั่วอึดใจ มินตรากลั้นใจเช็ดน้ำตาของตนเองที่ไหลลงมาไม่หยุดและมองอธิปนิ่งนานเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันหลังเดินกลับออกไปจากห้องอย่างตัดใจ...
ไม่ไกลกันนักที่แผงควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ ปรากฏกราฟขึ้นสูงต่ำอย่างรวดเร็วไม่เป็นจังหวะ แสดงถึงการทำงานของหัวใจที่กำลังเคลื่อนไหวเต้นแรง พร้อมกับมือของชายหนุ่มที่ยังนิ่งอยู่เมื่อครู่กระตุกขึ้นมาหลายต่อหลายครั้ง...
................................................................................................................
อรณีกำลังนั่งอย่างสบายอารมณ์อยู่ภายในห้องพักส่วนวีไอพีของตนเพื่อให้ช่างแต่งหน้าบรรจงเสริมความงามให้เพื่องานประกาศผลรางวัลทางภาพยนตร์คืนนี้ที่หล่อนมีชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ไม่ไกลกันนั้นรินลดาที่วันนี้ดูเคร่งขรึมผิดปกติกำลังนั่งดูรายละเอียดที่อรณีจะต้องใช้เพื่อเชิญรางวัลในค่ำคืนนี้อย่างใช้ความคิด พี่รินเสร็จงานนี้แล้วพรุ่งนี้อ้วนไปหามินนะ กะจะชวนไปกินข้าวซะหน่อย อรณีพูดไปโดยที่สายตาไม่ได้มองมาทางรินลดาแม้แต่น้อย หล่อนกำลังส่องกระจกเพื่อเช็คดูความเรียบร้อยของใบหน้าและทรงผมอยู่อย่างพินิจพิเคราะห์ รินลดาละสายตาจากเอกสารในมือชั่วขณะ ขยับปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่หยุดเอาไว้แล้วทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่อรณีบอก
อะไรของพี่รินเนี่ยไม่รับมุขเลย เอาแต่เหม่ออยู่ได้ ฮึ อรณีมองรินลดาที่เฉไฉนั่งมองเหม่อออกไปยังนอกหน้าต่างอย่างเป็นห่วงแกมสงสัยใคร่รู้ ปกติรินลดาเป็นคนกระตือรือร้นอยู่เสมอแต่วันนี้หญิงสาวดูเนือยๆผิดปกติ
ขอโทษนะคะ มีของขวัญฝากมาให้คุณอรณีกับคุณรินลดาค่ะ สตาฟหญิงประจำงานคืนนี้หอบของบางอย่างเป็นกล่องของขวัญผูกโบว์สวยงามสองชิ้นเข้ามายื่นให้กับรินลดา หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะรับกล่องนั้นมาอย่างงงๆ แล้วเปิดดูการ์ดที่แนบมาให้เมื่ออ่านแล้วก็ถึงกับหน้าซีด อรณีเห็นท่าทางของรินลดาแล้วยิ่งสงสัยหนักจึงรีบคว้าเอากล่องที่เป็นของตนเองมาเพื่อเปิดดูการ์ดที่แนบมานั้นด้วยความตื่นเต้น ข้อความในการ์ดเป็นข้อความสั่งลาจากมินตราเพื่อนรักที่สุดของหล่อน...
ขอให้อ้วนโชคดีได้รับรางวัลที่หวังไว้ในงานคืนนี้นะ ฉันส่งช็อคโกแลตหน้าพิเศษร้านโปรดของอ้วนมาให้ด้วย ไม่มีโอกาสเอามาให้ด้วยตัวเอง อรณี..นักแสดงสาวผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ เป็นเพื่อนรักที่สุดของฉันเลยนะ จากนี้ไปไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนฉันจะคิดถึงอ้วนเสมอ....
รัก...มินตรา
อรณีอ่านข้อความจบด้วยมืออันสั่นระริก หล่อนรู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาครามครัน หันหน้ามามองรินลดาอย่างต้องการขอความกระจ่าง รินลดาได้แต่น้ำตาคลอหลบหน้าไม่สามารถพูดอะไรได้อีกนอกจากยื่นการ์ดจากกล่องของขวัญของตนเองส่งให้อรณีอ่านด้วยตนเอง
พี่ริน...รู้ใช่มั๊ยว่ามินรักพี่ที่สุด มินฝากแม่ด้วยนะ อะไรก็ตามที่เป็นความสุขของพี่ มินยินดีจะให้ มินต้องไปแล้ว ฝากดูแลพี่ก้องด้วย รักเขาให้มากเท่าที่จะทำได้ พี่ก้องเป็นคนดีที่สุดในชีวิตของมิน ขอฝากคนดีคนนี้ไว้ในมือพี่รินนะ....
รักที่สุด.มินตรา
รินลดามองของขวัญตรงหน้าที่หล่อนเปิดออกดูแล้วถึงกับอึ้งไป กรอบรูปแสนสวยภายในบรรจุภาพของหล่อนและมินตราเป็นรูปตอนเด็ก สองพี่น้องกอดคอกันยิ้มแย้มสู้กล้องด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข ร่องรอยของวัยเยาว์อันสดใสที่จางหายไปตามกาลเวลา รินลดาถึงกับน้ำตาซึมออกมาอย่างรู้สึกละอายใจสองมือปิดปากกลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ให้หลุดรอดออกมา
พี่ริน!! นี่มันอะไรกันคะ อรณีระล่ำระลักถามรินลดา เมื่อไม่ได้คำตอบจึงคิดจะโทรศัพท์ไปหามินตราเพื่อจะถามเอาความจริง แต่คำตอบที่ได้รับจากรินลดาทำให้หล่อนต้องใจหาย
มินจะไปลอนดอนคืนนี้แล้ว..แต่พี่..พี่
ทำไมพี่รินไม่บอกอ้วน ทำไม แล้วพี่ก้องรู้รึยัง อรณีตวาดแหวใส่รินลดาอย่างผิดหวังในตัวพี่สาวที่เคารพมาก
ป่านนี้คงรู้แล้วล่ะมั้ง...พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน รินลดาร้องไห้ออกมาอย่างรู้สึกผิด หล่อนคิดเอาไว้แล้วว่าจะขอส่งน้องสาวที่รักให้จากไปอย่างเงียบๆ ไม่ให้ใครรู้โดยเฉพาะถ้าคนๆนั้นคือ...วสุ
พี่นี่เห็นแก่ตัวจริงๆ อ้วนผิดหวังมากเลยนะรู้มั๊ย
เพราะพี่...ที่มินไปเป็นเพราะพี่คนเดียว รินลดายังคงร้องไห้ออกมาไม่หยุดจนอรณีนึกสงสารก่อนจะโอบหล่อนไว้อย่างให้กำลังใจ ใจอ่อนยวบทันทีที่เห็นสีหน้าแสดงความรู้สึกผิดอย่างมากมายของรินลดา
ขอโทษนะ..พี่ริน อ้วนไม่น่าพูดอย่างนี้กับพี่เลย เรื่องความรักน่ะ...ไม่มีใครถูกหรือผิดเสมอไปหรอก
คุณสริน...ไม่สิต้องเรียกพี่ใช่มั๊ย สร้อยมุกเส้นเล็กเส้นนี้เป็นของขวัญจากใจมินนะ ขอมอบให้พี่สาว..คำนี้มินไม่เคยพูดมันออกมา ช่วยดูแลโอม..และรักโอม..แทนมินด้วย ทั้งพ่อ...และโอม พี่ต้องดูแลพวกเขานะ มินคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ขอโทษสำหรับทุกอย่าง...
มินตรา การ์ดใบเล็กร่วงหล่นลงจากมือของสรินหลังจากได้อ่านข้อความทั้งหมดแล้ว หญิงสาวทั้งตกใจระคนแปลกใจกับสิ่งที่ได้รับ พัสดุกล่องของขวัญขนาดเล็กถูกเปิดโชว์สิ่งของที่อยู่ภายในนั้น มันสวยงามและวาวระยับจับใจจนต้องหยิบมันขึ้นมาดูซ้ำอีกรอบ ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกใจหายกับข้อความในการ์ดใบเล็กนั้นด้วย ทั้งที่มันมาจากคนที่หล่อนออกจะเกลียดขนาดนี้ เพราะสายใยบางๆของคำว่าพี่น้องรึเปล่านะ หล่อนถึงได้ใจอ่อนยวบและกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ขนาดนี้ได้
ฉันก็ขอโทษเธอเหมือนกันนะ..มินตรา สรินได้แต่นึกในใจอย่างรู้สึกผิดเช่นกัน หล่อนทำร้ายน้องสาวของตนเองเพียงเพราะคำว่า..แค้น..คำเดียวจริงๆ
ฉันเองก็เป็นแค่คนโง่คนหนึ่ง...ไม่ต่างจากเธอหรอก
วสุ...หลับตาลงพิงพนักเก้าอี้ภายในห้องทำงานส่วนตัวในบริษัทด้วยหัวใจที่แสนปวดร้าว ดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่จากมินตราถูกวางอยู่ตรงกลางของโต๊ะทำงาน วันนี้เขารู้สึกแปลกใจยิ่งนัก ที่จู่ๆก็มีคนส่งดอกไม้มาให้ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริงๆว่ามินตราจะเลือกใช้วิธีนี้เพื่อบอกลาเขา...นิ้วแกร่งยังคงลูบไล้ไปมาบนสร้อยทองคำขาวเส้นเล็กที่คล้องแนบมากับการ์ดใบเล็กนั้นอย่างเศร้าสร้อย ความอาทรห่วงหาทำให้เขาอยากจะแล่นไปตามหัวใจคืนมาตั้งแต่ได้เห็นสิ่งนี้ครั้งแรกแล้ว แต่ข้อความในการ์ดใบเล็กใบนั้นยับยั้งเขาเอาไว้ได้เสียก่อน...
พี่ก้อง...อย่าแปลกใจที่มินส่งของเหล่านี้มา คราวนี้มินขอเป็นคนส่งกุหลาบสีแดงแทนใจนี้คืนให้พี่บ้าง และสร้อยเส้นนี้มินขอคืนนะคะ กรุณามอบให้คนที่คู่ควรกับพี่..และมินหวังว่าจะเป็นพี่ริน อย่ารอคอย...อย่าตามหามิน... มินขอมอบอิสระคืนให้กับพี่ก้องค่ะ
รักเสมอ...พี่ชายของมิน
กลิ่นหอมเย้ายวนของดอกลิลลี่สีชมพูช่อโตที่มินตราส่งมาให้เขาแทนใจยังตั้งอยู่ข้างเตียงช่างหอมฟุ้งตลบอบอวลจนอธิปรู้สึกเหมือนตัวเขากำลังล่องลอยอยู่ที่ไหนสักแห่งที่ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความรัก ความทรงจำในวันที่อยู่กับมินตราและรักกันและกันอย่างลืมวันลืมคืนกำลังหวนกลับเข้ามาในความทรงจำเป็นระยะ
ฉันรักมิน...รักมาก...รักที่สุดเลย อธิปพรมจูบเบาๆบนหน้าผากกว้างของคนรักที่นอนอยู่ข้างกัน
ฉันรู้..ไม่ต้องพูดแล้ว
ในความทรงจำเลือนรางภาพใหม่ซ้อนเข้ามาแทรกกลางระหว่างความสุขนั้น ภาพที่มินตรายืนอยู่ริมถนนและกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียใจหนัก ปากพร่ำคำที่ทำให้หล่อนเจ็บปวดเพราะคำพูดร้ายกาจของเขา อธิปส่ายศรีษะไปมา คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากัน นิ้วเรียวจิกผ้าปูที่นอนแน่น กลิ่นหอมเย้ายวนของดอกลิลลี่สีชมพูยังคงโชยมาแตะจมูกอยู่เป็นระยะ วินาทีนั้นอธิปก็ลืมตาขึ้น ชายหนุ่มกระพริบตาปริบอย่างสู้แสงรบกวนจากภายนอกที่
โอม!!! นาย..นายฟื้นแล้ว
*****************************************************
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
18 พ.ย. 55 19:22:54
|
|
|
|