ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 18 ] The Promise Love...
ชีวิตของฉัน...นับจากนี้...
วันนี้เป็นวันที่มินตราจะได้ออกจากโรงพยาบาลเสียที อินทิราดีใจเป็นที่สุดในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะพาลูกกลับไปอยู่บ้านเกิด เพราะรู้จากรินลดาว่ามินตราถูกให้ออกจากงาน หล่อนเป็นห่วงลูกนักเพราะรู้ว่างานคือสิ่งที่ลูกรักแต่กลับต้องมาเสียไปอย่างไม่ควรจะเสีย
หลังจากได้รับโทรศัพท์สายสำคัญเมื่อตอนเช้าตรู่จากชายคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นอดีตสามีหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน วันนี้อินทิราตั้งใจว่าจะไปพบเขาดูสักครั้ง หล่อนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง เฝ้ามองผ่านกระจกเข้าไปภายในภัตตาคารมองคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นอดีตสามีที่เห็นอยู่ไม่ไกลอย่างห่วงหา สองเท้าก้าวเดินเข้าไปภายในภัตตาคารอย่างแน่วแน่...มั่นคง
อินทิราจ้องมองอดีตสามีที่นั่งอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่างด้วยดวงตาสงบนิ่ง สายตาของเขาที่เหม่อมองออกไปภายนอกหน้าต่างช่างดูเหงาเศร้าสร้อยจนคนมองอดน้ำตารื้นขึ้นมาไม่ได้ เขาดูแก่ไปมากผมสีดอกเลาแต่จัดทรงอย่างดีอย่างคนที่ดูแลตัวเองดีหล่อนอยากจะสัมผัสมันเหมือนเมื่อก่อนนัก
คุณคะ อินทิราวางมือลงบนไหล่หนาของคนที่นั่งหันหลังให้อยู่อย่างเบามือ สิทธิ์..หันขวับมาอย่างรวดเร็วก่อนจะยิ้มออกมาให้คนที่เฝ้ารอคอยอย่างดีใจ
มาแล้วเหรอ ทานอะไรดีสั่งอาหารกันก่อนไหม สิทธิ์มีท่าทางประหม่าอย่างเห็นได้ชัดรีบยื่นเมนูให้หล่อน พร้อมกับเปิดเมนูอีกเล่มของตนดูอย่างตั้งใจ
คุณมีอะไรหรือคะ ถึงตามหาฉัน อินทิราเข้าประเด็นทันทีสายตาไม่ได้มองที่เมนูอาหารสักนิด หล่อนมองเขม็งไปยังรถเข็นข้างกายของอดีตสามีอย่างฉงนใจ
เอาเป็นว่าผมสั่งให้คุณเลยก็แล้วกันนะหลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย สิทธิ์หันมายิ้มให้อดีตภรรยาเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มปนความเศร้าที่หล่อนรู้สึกได้
คุณคะ..ขาของคุณ เอ่อ.. หล่อนหยุดเว้นระยะไว้ชั่วครู่ นึกรู้ว่าไม่ควรถามคำถามที่ตอกย้ำซ้ำเติมร่างกายของเขา
อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ผมเป็นอย่างนี้ มันนานจนผมชินกับมันแล้ว สิทธิ์หัวเราะเบาๆอย่างไม่ใส่ใจกับมันนัก
ฉันขอโทษค่ะ ที่ถามแต่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย อินทิราเอ่ยขอโทษอย่างเกรงใจ แต่ถึงอย่างไรหล่อนก็ยังอดเป็นห่วงอดีตสามีไม่ได้ ไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลากว่า 27 ปีที่ผ่านมาเขาอยู่อย่างไร..เกิดอะไรขึ้นกับเขาบ้าง
ตอนนั้นผมกำลังจะกลับไปหาคุณ แต่ว่า.. สิทธิ์พูดไม่ทันจบประโยคอาหารก็มาเสิร์ฟขัดจังหวะเสียก่อน อินทิราได้แต่จ้องมองเขาด้วยสายตามีคำถาม
แต่ว่า..อะไรคะ หล่อนขมวดคิ้วด้วยความสงสัยหรือจะเป็นคืนนั้นในวันที่มินตราเกิด วันที่หล่อนได้พบหน้าอดีตสามีเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่ได้เจอกันอีกเลยตราบจนทุกวันนี้
ไม่มีอะไรมันผ่านมานานแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงมันอีก เขาตัดบทพลางชักชวนให้หล่อนรับประทานอาหาร ทั้งสองทานอาหารกันไปอย่างเงียบเชียบ หล่อนอยากจะถามเขาเหลือเกิน แต่คงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะถามอีก เพราะทั้งหมดที่ผ่านมามันกลายเป็นอดีตที่ตกตะกอนในใจไปเสียแล้ว
ผมอยากแสดงตัวกับลูก..อยากจะบอกพวกเขาว่าเป็นพ่อคุณจะว่ายังไง สิทธิ์บอกเล่าความประสงค์ของเขา อินทิราถึงกับอึ้งไป
เพื่ออะไรคะในเมื่อแกไม่เคยมี หล่อนมองตอบสายตาที่จ้องเขม็งมองมาของเขาอย่างงุนงงสับสน
เพื่อลูก คราวนี้เพื่อมินตราลูกของเรา ผมอยากให้แกไปจากที่นี่
อะไรนะ!! คุณ อินทิราจ้องสิทธิ์ด้วยสายตาเป็นประกายกร้าว แววตาเศร้าฉายแววกระด้างขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนจะอ่อนแสงลง
ผมอยากทำเพื่อแก ถ้าคุณยอมผมจะส่งแกไปลอนดอนไปอยู่กับญาติที่โน่นก่อนแล้วจะให้แกเรียนต่อโทก็ได้
ทำไม..เพื่ออะไร อินทิราน้ำตาคลอเต็มสองตา อดีตสามีที่ไม่เคยเหลียวแลกัน พอกลับมาเจอกันอีกครั้งเขากลับจะพรากลูกน้อยไปจากหล่อนอย่างนั้นหรือ...
เพื่อตัวแกเอง เพื่อสรินลูกสาวของผม และทั้งหมดนั้นมันดีต่อพวกเราทุกฝ่าย สิทธิ์ถอนใจกับทางออกของปัญหาที่เขาอยากจะขอเป็นคนแก้ไขให้ลูกรักทั้งสอง
ในที่สุดการแก้ปัญหาของลูกรักของคุณคือจะไล่ให้ลูกสาวฉันไป เหมือนกับที่คุณแก้ปัญหาของตัวเองด้วยการหายไปจากชีวิตฉันใช่ไหมคะ อินทิราน้ำตานองหน้าระล่ำระลักถามเขาอย่างน่าสงสาร
ผมขอร้อง คุณต้องช่วยผม ต้องช่วยแกให้พ้นจากผู้ชายคนนั้นพ่อของนายโอม ผมกลัวเขาจะทำร้ายลูกของเรา สิทธิ์บีบมืออินทิราอย่างเรียกร้องขอความเห็นใจ
คุณคิดว่าเขาจะทำร้ายลูกของเราเหรอคะ
เขาเคยทำมาแล้ว ผมสืบรู้มาผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมากนะ คราวนี้เขาคงจะยิ่งโกรธที่ลูกของเราทำให้ลูกชายเขาเจ็บหนักยังไม่ฟื้นเลย คำตอบจริงจังของสิทธิ์ทำให้อินทิรานึกกลัวว่าบิดาของอธิปจะทำร้ายลูกสาวของหล่อนจริงๆ
ฉันควรจะให้แกไปใช่ไหมคะ แต่ฉันจะบอกลูกว่ายังไงดี
ผมจะจัดการเอง คุณต้องเชื่อใจผมนะ สิทธิ์กุมมืออดีตภรรยาไว้อย่างปลอบให้กำลังใจ วูบหนึ่งที่ได้สัมผัสมือนุ่มทำให้เขาแทบไม่อยากจะปล่อยมือหล่อนให้จากไปอีกเลย เขายังจำได้ดีวันนั้นวันที่เกิดอุบัติเหตุเป็นวันที่ความสุขของเขาต้องจบลงพร้อมกับขาทั้งสองข้างของเขาที่ต้องเสียไปตลอดกาล...
รินลดานอนทอดกายซบกับไหล่ของวสุที่กำลังนอนแน่นิ่งหลับสนิทอยู่บนชายหาด เบื้องหน้าของพวกเขาคือท้องทะเลที่สงบนิ่งดูเวิ้งว้างกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่รู้เป็นเวลานานเท่าใดแล้วที่ทั้งสองพักกายลงที่นี่ ที่ที่มีแต่ความเหงาและว่างเปล่า เมื่อวานหล่อนตัดสินใจพาวสุออกมาจากเหตุการณ์ที่โหดร้ายที่ทั้งตัวหล่อนและวสุไม่อยากจำ
รินลดาสาบานกับตนเองไว้หลังจากขับรถพาวสุมาจนถึงประจวบ หล่อนหมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นคนดึงเขาออกมาจากมินตรากับอธิป และจะไม่สนใจสิ่งใดอีกแล้ว คนที่หล่อนรักจะไม่ต้องมาเจ็บปวดจากความรักที่ไม่มีทางออกเช่นนี้อีก....รินลดาจะเสียสละตนเองเพื่อไขว่คว้าหัวใจของเขามาให้ได้ แม้ว่าจะต้องกลายเป็นคนบาป หล่อนก็ขอ...ยอม
เวลาผ่านคืนและวันอย่างเชื่องช้า...ภายในห้องสูทหรูของโรงแรมระดับห้าดาว วสุยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียงภายใต้ผ้านวมผืนใหญ่ รินลดาออกมาจากห้องน้ำหลังจากชำระล้างร่างกายตนเองเสร็จเรียบร้อยเมื่อนึกถึงความสุขที่ได้รับเมื่อคืนนี้ หล่อนถึงกับหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ถึงแม้วสุจะยังไม่รับความรักจากหล่อน ถึงแม้จะเห็นเป็นเพียงแค่คนสำรองก็ไม่เป็นไร อีกไม่นานรินลดาจะทำให้วสุเห็นถึงความจริงใจจากหล่อนให้ได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม
ดูสินอนหลับเหมือนเด็กเลย รินลดาก้มลงหอมแก้มวสุที่หนวดเคราขึ้นเขียวครึ้มน้อยๆ อย่างคนไม่ดูแลตัวเอง ก่อนจะลูบไล้ฝ่ามือลงบนใบหน้าอย่างทนุถนอมหวงแหน
ถ้าเปลี่ยนจากน้องเป็นฉันได้ คงจะดีไม่น้อยเลยนะ นายคงไม่ต้องเสียใจที่รักคนที่เขาไม่รักนายอีก น้ำตาหยดเล็กๆไหลหยดลงบนแก้มของวสุโดยที่รินลดาไม่ทันได้สังเกตเห็น วสุที่เริ่มรับรู้ถึงอะไรบางอย่างค่อยๆกระพริบตาสะลึมสะลือ
ถ้านายรักฉัน ต่อให้แลกกับอะไรฉันก็ยอม..อ๊ะ รินลดารีบลุกขึ้นจะเดินออกไปทันทีที่วสุเริ่มขยับตัวยุกยิกเป็นสัญญาณว่ากำลังจะตื่นแล้ว
เดี๋ยว วสุที่ยังนอนอยู่คว้าข้อมือของรินลดาไว้ก่อนจะออกแรงดึง ทำให้ร่างทั้งร่างของหล่อนที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว หล่นปุลงมาอยู่บนตัวของเขาที่นอนอยู่ทันที ขะ..ขอโทษ ก้องปล่อย ว๊าย!! รินลดาขืนตัวไว้เมื่อกำลังจะลุกขึ้นแล้วกลับถูกวสุดึงให้ลงมานอนข้างกันบนเตียง
แต่งงานกันไหม.. วสุเอ่ยออกมาโดยที่ไม่ยอมมองหน้าคนตัวนุ่มนิ่มในอ้อมกอดสักนิด รินลดาถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างนึกน้อยใจ
ที่พูดมาจริงใจรึเปล่า รินลดาเหลียวมองคนที่เพิ่งจะเอ่ยขอตนแต่งงานโดยไม่ทันตั้งตัว แต่วสุกลับไม่มีคำตอบใดใด เขามองขึ้นไปบนเพดานอย่างเหม่อลอยไม่แม้แต่จะหันหน้ามาสบตากัน
หึ ฉันนึกแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้...ไม่น่าถามให้เจ็บเลย รินลดาแกะมือหนาออกจากตัว ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องโดยที่วสุไม่แม้แต่จะทักท้วงเลยสักนิด สุดท้ายมันก็เป็นแค่คำโกหกหลอกลวงสินะ... ............................................................................................................................
สองสัปดาห์แล้วที่มินตราได้ออกจากโรงพยาบาล แต่หล่อนก็ยังคงเทียวไปเทียวมาโรงพยาบาลอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเพื่อเยี่ยมอาการของอธิปที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะรับรู้ใดใด โดยอาศัยภัทรคอยดูต้นทางให้ตอนนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ หลังจากพักฟื้นร่างกายจนดีขึ้นแล้วก็เป็นเวลาที่มินตราจะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งกับชีวิตและหน้าที่การงาน
เฮ้อ..ทำไมงานมันหายากขนาดนี้น๊า นี่ถ้าไม่มีเงินเก็บสงสัยคงอดตายตั้งแต่วันแรกซะละมั้ง มินตราถอนหายใจออกมาหลังจากสัมภาษณ์งานเพิ่งเสร็จ
สี่ที่แล้วนะมินตรา สู้สู้ ต้องมีสักที่แหละน่าที่จะรับเรา มินตราสูดลมหายใจเข้าปอดลึกเรียกหากำลังใจจากตนเอง
ถึงแม้ผลงานของหล่อนที่ผ่านมาจะเป็นที่ถูกตาต้องใจของคณะกรรมการหลายท่านในหลายๆบริษัทก็ตามแต่เพราะเรื่องอื้อฉาวที่หนีไม่พ้นเสียงซุบซิบนินทากันปากต่อปาก ทำให้งานที่คิดว่าจะหาได้ไม่ยากเพราะหล่อนมีฝีมือที่เป็นที่ยอมรับในวงการสถาปัตยกรรม แต่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น
ที่จริงคุณก็ทำงานดีนะ...แต่..
ขอโทษด้วยครับ ทางเราไม่มีนโยบายรับพนักงานอย่างคุณ
ทำไมถึงโดนไล่ออกล่ะครับ มีปัญหาอะไรในที่ทำงานรึเปล่า
สารพันคำถามมากมายที่มินตราได้รับจากการบากหน้าไปสัมภาษณ์งานในทุกทุกที่ และเกือบจะทุกครั้งที่โดนคำตอบปฏิเสธแบบหยันๆกลับมา ไม่เข้าใจจริงๆว่าเรื่องส่วนตัวของหล่อนมันผิดบาปมากมายนักหรืออย่างไร ทำไมถึงต้องโดนสวรรค์ลงทัณฑ์อยู่เรื่อย
ในที่สุดมินตราก็มายืนอยู่หน้าวิสวัฒน์กรุ๊ป สถานที่ทำงานที่หล่อนรักเป็นหนักหนาเพราะอยู่ที่นี่มากว่าสี่ปีจึงมีความผูกพันธ์มากพอสมควร ทั้งที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีกแต่ในวันนี้มินตราจะขอมาคุยกับท่านประธานให้รู้เรื่อง
สวัสดีค่ะ..คุณเนตร ฉันมาขอพบท่านประธานค่ะมินตรายืนเจรจาอยู่หน้าเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ กับพนักงานหญิงที่หล่อนคุ้นเคย แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธกลับมาอย่างนุ่มนวล
ท่านประธานไม่อยู่ค่ะไปฮ่องกงค่ะ คุณมินตรา เนตรดาว..พนักงานต้อนรับสาวเอ่ยยิ้มแย้ม หล่อนนึกสะใจอยู่ไม่น้อย ที่จู่ๆว่าที่ภรรยาของท่านประธานในอนาคตก็ต้องตกจากสวรรค์ทั้งที่อีกไม่นานวสุก็จะได้ขึ้นเป็นประธานบริษัทต่อจากบิดาของเขาแล้ว
แล้วพี่ก้อง..เอ่อท่านรองอยู่ไหมคะมินตราเอ่ยถามข้อสงสัยทันที หล่อนไม่เจอหน้าวสุมากว่าสองสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาหายไปไหนจากชีวิตมินตราเหมือนกับไม่มีตัวตน...
ท่านรอง..เอ่อ.. ไม่อยู่ค่ะ หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบประโยค วสุก็โผล่ออกมาจากลิฟท์ภายในสำหรับผู้บริหารกำลังเดินจะออกไปจากบริษัทโดยไม่ทันสังเกตเห็นมินตราที่ยืนอยู่ไม่ไกลและกำลังมองมาทางเขาอย่างนึกไม่ถึง
พี่ก้อง... เสียงหวานที่แสนคุ้นเคยทำให้วสุถึงกับสะดุ้งหยุดเดินพร้อมทั้งหันกลับมาตามเสียงเรียกทันทีอย่างตกใจ ดวงตาคมเรียวของชายหนุ่มมีแววสับสนระคนความคิดถึงมากมาย
มิน วสุมีสีหน้าดีใจชั่วขณะก่อนจะพยายามปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉย จนมินตราถึงกับหุบยิ้มแทบจะทันทีกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา
ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม..นะมินตราเดินเข้ามาจับมือของวสุอย่างเคยชิน แต่วสุชักมือกลับแทบจะทันทีปล่อยให้มินตราถึงกับเก้อไป
ขอโทษนะ วันนี้ไม่ได้ วสุรีบเดินจากไปขึ้นรถสปอร์ตสุดหรูก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็วจนมินตราถึงกับอึ้งไม่หายทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง ตอนนี้แม้แต่ความเป็นเพื่อนพี่น้อง วสุก็ให้หล่อนไม่ได้เลยเชียวหรือ...
ขอโทษนะ..มิน พี่ขอเวลาทำใจอีกนิดเถอะ วสุเหลือบมองกระจกเขาเห็นมินตราทรุดลงไปอย่างหมดแรงร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างสุดกลั้น อยากจะหยุดรถเพื่อลงไปปลอบขวัญหล่อน แต่ก็ยั้งใจไว้ เขาพยายามแล้วที่จะไม่สนใจมินตรา แต่หัวใจมันกลับทำไม่ได้ยิ่งกว่า ยิ่งนึกถึงอธิปผู้ชายคนนั้นที่สละชีวิตตนเองเพื่อปกป้องมินตราด้วยแล้ว เขาก็ยิ่งรู้ตัวว่าตนกำลังจะพ่ายแพ้ แพ้ให้กับคนที่ไม่น่าจะแพ้แม้สักนิด...
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
15 พ.ย. 55 23:51:02
|
|
|
|