ความคิดเห็นที่ 1 |
|
สัญญารัก...ลวงใจ [ ตอนที่ 16 ] The Promise Love...
ขอรักเธออีกสักครั้ง ถ้าฉันจะยังมีโอกาส...
แม่จ๋า...แม่อยู่ไหน..แม่จ๋า..
สริน..สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ดวงตาของหญิงสาวเจิ่งนองไปด้วยน้ำตา ตากลมโตเบิกโพลงอย่างขวัญเสีย เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดพราวเต็มทั่วใบหน้า สองมือสั่นระริกกำผ้าปูที่นอนแน่นจนเป็นรอยยับย่นเต็มไปหมด คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่หล่อนฝัน ฝันถึง..อาร์ม ลูกชายสุดที่รัก...เสียงตาหนูลูกรักร้องเรียกมารดาอย่างขวัญเสีย ลูกน้อยที่จากไปโดยที่ไม่ได้พบหน้ากันแม้วันที่เสียชีวิต หล่อนก็ยังมาไม่ทันได้ดูใจลูกชายเพียงคนเดียว ยิ่งเมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของสามียามที่มองหล่อนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามายังโรงพยาบาลด้วยแล้ว สายตานั้นของอธิปเป็นสิ่งที่สรินไม่อยากจะจดจำไปชั่วชีวิตทีเดียว ดวงตาของเขาแดงก่ำ สภาพทรุดโทรมไม่เหลือเค้าผู้ชายมาดเฉียบเหมือนเคย...
โอมคะ...ลูก..ลูกล่ะ สรินเหนี่ยวรั้งสองมือของอธิปที่นั่งอย่างหมดแรงอยู่ที่หน้าห้องไอซียูด้วยท่าทางสิ้นหวัง
ทำไมเพิ่งมา ผมโทรตามหาคุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่คุณไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน สรินหน้าซีดเผือดอึ้งไปกับคำพูดของอธิป จะบอกเขาได้อย่างไรว่าหล่อนอยู่ที่ไหนกัน เพราะมันไม่ใช่เรื่องดีที่สรินคิดจะเปิดเผยมาก่อน
คือ..สริน..ปะ..ไป ไม่ทันจบคำพูดอึกอักจากสริน ร่างกายเมื่อยล้าของอธิปก็ขยับลุกขึ้นมาเปิดประตูหน้าห้องไอซียูอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
ไม่ต้องพูดแล้ว..คุณไปบอกลูกเองเถอะสรินขมวดคิ้วย่น ประกายตาฉายวาบอย่างมีความหวัง ในเมื่ออธิปบอกมาอย่างนี้ลูกน้อยของหล่อนคงจะปลอดภัยไม่เป็นอะไรมาก หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปภายในห้องทันที แล้วสรินก็ได้เห็นลูกน้อยบนเตียงพยาบาลนั้นมีร่างน้อยนอนหลับใหลอยู่นิ่งสนิท ใบหน้าพริ้มน่ารักซีดขาวราวกับไม่มีสีเลือด
สรินแทบก้าวขาไม่ออกยามเห็นภาพนั้น หญิงสาวเดินอย่างเชื่องช้าเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้น เสียงกรีดร้องดังอย่างโหยหวนอยู่ภายในห้องไอซียู อธิปหลับตาลงอย่างเจ็บปวด ยืนหมดแรงพิงผนังหน้าห้องรออย่างทรมาน
อดีตที่เจ็บปวดและทรมาน ทำให้สรินยังคงฝันร้ายอยู่จนทุกวันนี้ ชีวิตแต่งงานที่พังพาบของตนยิ่งตอกย้ำให้สรินยิ่งคิดถึงเรื่องคราวนั้นอยู่ไม่รู้คลาย...
แม่ขอโทษ..ขอโทษนะลูก ยิ่งคิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็ให้เจ็บปวดหัวใจยิ่งนัก สรินเหลือบมองนาฬิกาบ่งบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว แต่หญิงสาวยังคงตาค้างนอนไม่หลับ ภายนอกหน้าต่างยังคงมีฝนตกโปรยปรายลงมาไม่หยุด ฝนคงเหมือนน้ำตาของหล่อนที่ไหลรินในอกยามนี้ หัวใจ..สิ่งมีชีวิตในร่างกายของหล่อนกำลังกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมาน
ถ้าหากสวรรค์จะมีจริง สรินได้แต่คิดหวังว่าป่านนี้ลูกชายสุดที่รักของหล่อนจะได้ไปอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างเป็นสุข ไม่เจ็บป่วย ไม่ทุกข์ทนกับโรคร้ายที่ทำให้ต้องเจ็บปวดใดใด ถ้าหากชีวิตนี้แลกได้หล่อนจะขอแลกชีวิตกับลูกน้อยโดยไม่มีบิดพลิ้วแม้แต่น้อย จะไม่รอจนสายเกินไปอย่างนี้... ทางด้านอธิป...หลังจากพามินตราออกมาจากสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันที่ทำให้เจ็บปวด ชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกสบายใจเลยแม้แต่น้อย มินตรา..ผู้หญิงที่เขารักคงกำลังทรมานใจกับการตัดสินใจของเขา ส่วนสริน..ภรรยาตามกฎหมายของเขา ผู้หญิงคนนั้นน่าสงสารที่เขารู้ตัวดีว่าใจร้ายกับหล่อนมากแค่ไหน ทำให้ต้องมาพัวพันกันอยู่จนทุกวันนี้อย่างดิ้นไม่หลุด ยิ่งนึกถึงวันที่ตัดสินใจจากมา อธิปยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเองมาก
โอม คุณจะกลับเมืองไทยเหรอคะ..ทำไม สรินเอ่ยถามอธิปอย่างหวาดหวั่นในวันที่เสร็จสิ้นพิธีฝังศพของลูกน้อย
เพราะผมทนอยู่กับคุณที่นี่ไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียวแล้วน่ะสิ อธิปตอบออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาคิดอย่างนั้นจริงๆ เมื่อไม่มีลูกให้ต้องรับผิดชอบดูแลร่วมกันแล้ว เขาควรจะไปจากหล่อนได้เสียทีไปจากความโกหกทั้งหมดทั้งมวลที่เขาเพิ่งค้นพบตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
คุณจะทิ้งฉันเหรอคะ สรินเกาะเกี่ยวแขนอธิปไว้ หล่อนไม่อยากจะเชื่อน้ำคำนั้นจากปากของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี
พวกเราแค่หมดหน้าที่ต่อกันแล้วต่างหาก ปล่อยผมไปตามทางของผมเถอะนะ คุณกักขังผมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...สริน อธิปเอ่ยออกมาบางเบาน้ำเสียงเจ็บปวด เขาจะไม่รั้งรออีกแล้วที่จะกลับไปตามหัวใจของตนกลับสู่อ้อมอก ในเมื่อเขาเป็นอิสระแล้วจากความทรมาน..พลาดพลั้ง...อธิปไม่เคยรู้เลยว่าขณะที่ตนเองกำลังจะเป็นอิสระจากสริน แต่เขากลับจะทำให้ผู้หญิงอีกคนที่เขารักหนักหนาต้องหลงเข้าไปสู่วังวนแห่งความเจ็บปวดเพราะตัวของเขาเอง...
.............................................................................................
ดึกแล้วอธิปปล่อยใจให้ลอยล่องไปยังที่ไกลแสนไกล ที่ที่ลูกน้อยของเขาอยู่ ลูกของใครอื่นที่เขาเลี้ยงดูมาด้วยความรักอย่างจริงใจ อธิปไม่สามารถหักใจให้ลืมความรู้สึกนั้นได้ ยามที่รู้ว่าอวัยวะในร่างกายของตนไม่สามารถเข้ากันกับลูกได้ แม้แต่เลือดก็ยังไม่ได้ ความคลางแคลงใจบังเกิดขึ้นในจิตใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้เพียงวูบหนึ่งของความคิดเขาก็ยังคงเจ็บปวดจากการสูญเสียในครานั้น ตอนนี้เขามีมินตราแม้เพียงชั่วระยะเวลาเพียงสามวันที่พรากหล่อนมาจากความเป็นจริงในปัจจุบัน แต่อธิปรู้ดีว่าทั้งหัวใจของเขาและหล่อนต่างมีความสุข...สุขที่หนีออกมาจากความเป็นจริงที่ทำร้ายจิตใจ...
อธิปถอดเสื้อคลุมตัวยาววางไว้ปลายเตียงก่อนจะค่อยๆก้าวขึ้นไปนั่งบนเตียงอีกฝั่งพร้อมทั้งสอดกายเข้าไปใต้ผ้านวมผืนนั้นข้างๆ มินตราอย่างแผ่วเบา พร้อมทั้งมองมายังหล่อนนิ่งนานด้วยแววตาเปี่ยมสุข ชายหนุ่มค่อยๆใช้มือยกศรีษะของหญิงสาวให้ขึ้นมาหนุนแขนที่เขายื่นออกไปรองรับ หล่อนยังหลับตาพริ้มอยู่ในห้วงแห่งนิทรา คงเพราะเหนื่อยจากเมื่อคืนไม่น้อย
ฝ่ามือกร้านลูบไล้สัมผัสไหล่เนียนใสของมินตราอย่างหลงใหล พร้อมจูบเบาๆที่ปลายจมูกเย็นของหล่อนปากหนาค่อยๆเลื่อนมาประกบปากบางที่แดงบวมเจ่อนั้นอย่างรักใคร่ สัมผัสเบาบางนั้นทำให้มินตราเริ่มตื่นจากหลับใหล
โอม...จะทำอะไรอีก มินตราพึมพำเบาๆโดยที่ยังไม่ลืมตาตื่น อธิปยิ้มกับกิริยาน่ารักของหญิงสาวในอ้อมกอดแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นกดจูบบางเบาบริเวณซอกคอขาวของมินตรา
ไม่เอาแล้ว... มินตราสะลึมสะลือลืมตาตื่นขึ้นอย่างตกใจ เมื่อพบว่าอธิปกำลังสัมผัสคุกคามหล่อนทีละน้อย...ทีละน้อย
ฉันรักมิน รักมาก ถ้าฉันเสียมินไปอีกคน..ร่างกายของฉันคงจะทนไม่ไหว อธิปจูบเบาๆบนหน้าผากกว้างของคนรัก
ทำไมถึงจะทนไม่ไหว เมื่อก่อนยังอยู่ได้ตั้งหลายปี มินตราหน้าแดงก่ำถามออกไปแผ่วเบา คำรักที่ออกมาจากปากของอธิปเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจแห้งผากด้วยความรู้สึกผิดจากการกระทำผิดบาปครั้งนี้ของทั้งเขาและหล่อน
เพราะถ้าไม่มีหัวใจ..ร่างกายก็จะอยู่ไม่ได้น่ะสิ อธิปลูบศรีษะเล็กของมินตราอย่างแผ่วเบาด้วยความรักใคร่
ฉันยังเป็นหัวใจของโอมอยู่อย่างนั้นเหรอ..ยังเป็นไปได้เหรอ มินตราเอ่ยออกมาเบาๆด้วยสีหน้าครุ่นคิด อธิปถึงกับยิ้มออกมาให้คนตรงหน้าอย่างรักใคร่ก่อนจะทาบทับร่างบอบบางนั้นอย่างเชื่องช้า...นุ่มนวล
................................................................................................................
มินตรานั่งมองใบหน้ายามหลับของคนรักอย่างเศร้าสร้อย ถ้าหากอธิปไม่มีสรินและหล่อนไม่มีวสุรออยู่คงจะดีไม่น้อย ทุกอย่างควรกลับเข้าสู่สภาวะความเป็นจริงได้แล้ว สามวันที่ผ่านไปถึงแม้จะโกรธที่อธิปพาตัวหล่อนมาอย่างถือวิสาสะแล้ว แต่มินตราปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีความสุขเหลือเกินที่ได้อยู่กับคนที่รักคนนี้แม้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป หล่อนก็จะเก็บมันไว้เป็นความทรงจำที่สวยงามตลอดไป ต่อจากนี้ไปพวกเขาคงต้องกลับไปสู่ความเป็นจริงสักที......
มินตราเดินอย่างไร้จุดหมายไปตามถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา หล่อนตัดสินใจได้แล้วว่าจะกลับไปสู่สภาวะเดิม คนเดิม โลกเดิมที่เป็นอยู่ ช่วงเวลาสามวันที่ผ่านมาอธิปคงมีความสุขแล้ว มินตราหวังไว้อย่างนั้น ต่อไปคงไม่ต้องมีสิ่งใดต้องติดค้างต่อกันอีกต่อไปคิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาเป็นสายอย่างคับแค้นใจ จะทำหน้าอย่างไรเมื่อเจอกับวสุ ความรู้สึกเดิมมันจะหวนกลับมาได้อีกไหม หล่อนก็ยังไม่อาจจะรู้ได้เลย
จู่ๆมินตราก็รู้สึกเหมือนร่างกายจะปลิวไปตามแรงดึง หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อหันไปเจออธิปสีหน้าโกรธสุดขีด หายใจอย่างเหนื่อยหอบ ดวงตาคร้ามคมวาวโรจน์จ้องมองมาจนมินตราถึงกับหน้าเสีย
คิดจะทำอะไร !!! อธิปตวาดอย่างแรง พร้อมกับกระชากข้อมือมินตราดึงให้เข้ามาใกล้ตัว
โอม.. ฉัน..ฉัน มินตราระล่ำระลักตอบยังไม่ทันจบประโยค
รักมันมากหรือไง!! คิดจะกลับไปหามันใช่ไหม" อธิปกระชากเสียงใส่จนมินตราต้องตกใจ ดวงตาสวยหลบวูบอย่างหวามไหว
มะ..ไม่ใช่.. หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธแทบจะในทันทีที่ถูกกล่าวหา อธิปไม่มีวันเข้าใจในสถานะที่ไม่ถูกต้องนอกจากทำตามอำเภอใจตนเองเท่านั้น
รักมันแล้วนอนกับฉันทำไม!!! ชายหนุ่มเค้นเสียงเข้ม พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาเช่นกัน
เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่ามินตราหายไปเหลือทิ้งไว้เพียงจดหมาย ที่เขาอ่านแล้วรู้สึกโกรธจนตัวสั่น รีบออกตามหามาไกลทีเดียวกว่าจะเจอมินตราเดินอยู่ริมถนนด้วยสภาพห่อเหี่ยวร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร
อย่าดูถูกฉัน !!! มินตราตอบโต้ด้วยแรงอารมณ์ไม่แพ้กัน ดวงตากลมสวยจ้องตอบอย่างผิดหวัง
แล้วยังไงล่ะมิน จะเอายังไงจะกลับไปหามันใช่ไหม อธิปตวาดพร้อมมองมินตราอย่างผิดหวังไม่แพ้กัน
ปล่อย!! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ มินตราสะบัดมือจากอธิปอย่างแรงจนหล่อนเสียหลักถลาลงไปยังริมถนน โดยไม่ทันตั้งตัวเสียงแตรรถดังรัวหลายครั้งจากรถเก๋งที่วิ่งมาด้วยความเร็วพอสมควรตรงมายังจุดที่หล่อนยืนอยู่ มินตราถึงกับตะลึงงันมองรถที่แล่นเข้ามาอย่างหวาดกลัวสุดขีด
มิน!!! ระวัง !!!! อธิปมองรถที่แล่นเข้ามายังคนรักด้วยสายตาตื่นตระหนก
**********************************************
จากคุณ |
:
lovereason
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 55 22:24:10
|
|
|
|