Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วันหนึ่งเมื่อดิฉันพบว่า ตัวเองไม่มีทรัพย์สินอื่นใดเลย นอกจากรองเท้าหนึ่งกอง วางแผนการเงินกันเถอะค่ะ vote  

ดิฉันก็เป็นเหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่ชอบซื้อของ ชอบแต่งตัว ชอบของสวยงามแถมยังชอบท่องเที่ยว สมัยเรียน พวกเครื่องประทินผิวก็เริ่มใช้ แต่เป็นแบบราคานักศึกษา อย่างนูโทรจีน่า หรือ โอเลย์ ลอรีอัล ของพวกนี้ถึงจะไม่แพง แต่สำหรับนักเรียนก็ต้องกระเบียดกระเสียนเหมือนกัน ดิฉันมาจากครอบครัวชั้นกลางตอนล่าง ตอนเรียนมหาวิทยาลัย โชคดีได้ทุน ไม่ต้องรบกวนทางบ้าน แต่ก็เป็นพวกรสนิยมสูง แต่รายได้ต่ำ

พอเรียนจบ ได้ทำงานกับนิตยสารผุ้หญิงแนวหน้าฉบับหนึ่ง เขียนคอลัมน์  ออกงานสังคม เดินทางไปต่างประเทศ รายได้เมื่อเริ่มต้นแค่ปลายหลักพัน แต่พอผ่านโปรก็ได้หลักหมื่น แล้วมันก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ตามความสามารถ ตีเสียว่าโดยเฉลี่ยมีรายได้ ๒๕๐๐๐ บาทต่อเดือน เมื่อ๖ ปีที่เเล้ว มีรายได้พิเศษจากการเขียนโฆษณาบ้างประปราย

ตัวคนเดียว ให้เงินเเม่ เดือนละ ๒ ถึง ๓๐๐๐ บาท ที่เหลือ ก็ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของกระจุกกระจิก รองเท้า กระเป๋า ไม่เคยมีความคิดที่จะเก็บเงิน ไว้ใช้ในอนาคต เวลาบริษัทส่งไปเมืองนอก นอกจากเบี้ยเลี้ยงที่ได้ ก็ยังควักกระเป๋าซื้อของมาอย่างสนุกสนาน  มีบัตรเครดิตหนึ่งใบ  โชคดีที่ตัวเองเลือกทำบัตรเครดิตกับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เพราะเจ้านี้เขาไม่มีผ่อนจ่าย ต้องจ่ายเต็ม ดิฉันเลยไม่มีหนี้บัตร ทำงานไปใช้เงินไป ไม่เคยคิดถึงอนาคต พอได้โบนัสก็เอาเงินไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี นี่ยังโชคดี ที่พวกเครื่องสำอางค์ ครีมต่างๆ ดิฉันได้จากบริษัทอย่างพวกเอลก้า ลอรีอัล ชิเซโด้อยู่เป็นประจำ มีล้นตู้ ไม่ต้องเสียเงินซื้อ

ตลอดเวลาที่ทำงานห้าปี ใช้ชีวิตแบบรื่นเริง  จ่ายแบบไม่คิดถึงวันข้างหน้า ไม่เคยมีเงินเก็บสำหรับฉุกเฉิน แถมมีอยู่ปีนึง ที่การออกสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่งเข้ามาในตลาด ดิฉันยังไปกู้เขามาเพื่อไปเที่ยว ทั้งๆ ที่ในอาชีพการงาน ไปต่างประเทศอย่างน้อย ๓ ครั้งอยู่เเล้ว แต่ไม่พอ เพราะไปทำงานกับออกเงินไปเองไม่เหมือนกัน ดิฉันเป็นหนี้ดอกเบี้ยขูดเลือดนี้อยู่ สิบสี่เดือนเต็มๆ กับการเที่ยวสองอาทิตย์

ไม่ว่าจะมิดไนท์เซลล์ มิดเดย์เซลล์ที่ไหน ดิฉันต้องไปให้หมด ขอให้เซลล์เถอะ ดิฉันไม่เคยคิดว่าวันหนึ่ง เราจะแก่ตัวลง และการก้าวเข้าสู่วัยสามสิบนั้นเราควรมีเงินเก็บบ้าง เรื่องเหล่านี้ไม่เคยเข้ามาอยู่ในหัวสมองเลย วันๆ ไม่นับเรื่องงาน มีแต่เรื่องเอนเตอร์เทน ช้อปปิ้ง และเรื่องผู้ชาย (คงเป็นวัยน่ะ) และเมื่อใกล้สิ้นเดือน บางครั้งก็ต้องหมุนเวียนเงินในหมู่เพื่อนสนิท เพื่อให้ชีวิตดำเนินไปต่อจนสิ้นเดือน เพื่อนดิฉันเป็นเป็นแบบดิฉันนี่เลย

จนได้มาพบกับสามี ก่อนจะแต่งงานเขาเอาบัญชีทรัพย์สินของเขามาให้ดู เขาแก่กว่าดิฉันสามปี ก่อร่างสร้างตัวมาด้วยมือตัวเองล้วนๆ เขามีเงินเก็บสำหรับฉุกเฉิน ตอนนั้น หกเดือน มีเงินเก็บสำหรับตอนเกษียร แล้วดิฉันก็ต้องเอาบัญชีตัวเองออกมาให้เขาดูด้วย ว่าเรามีทรัพย์สิน หนี้สินอะไรบ้าง ดิฉันถามเขาว่า “รองเท้านับเป็นทรัพย์สินได้ด้วยหรือเปล่า” (ปรากฎว่าไม่ได้ )  ดิฉันไม่มีอะไรเลย  ที่ร้ายที่สุด สิ่งที่ใช้เงินซื้อไป ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันอะไรสักอย่าง ถ้านับประสบการณืชีวิต สิ่งที่เห็นเป็นเงินได้ คงมีมากอยู่ แต่เอามาจ่ายค่าข้าวไม่ได้ เสียหน่อย

เพื่อนที่เรียนจบมาด้วยกัน เริ่มถือบัตรเครดิตมาพร้อมกัน ในขณะที่ดิฉันพอมีสติอยู่บ้างไม่ถือบัตรอื่นเลย มีใบเดียวที่ต้องจ่ายเต็ม เพื่อนเริ่มมีบัตรไปที่สอง สาม และในที่สุด มันมีบัตรต่างๆ ที่เขาส่งมาให้ จำนวน๙ ใบ  และเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว จากแสน กลายเป็นสอง ตอนนี้พอกพูนจนไม่รู้เเล้วว่าเท่าไหร่ เงินเดือนเเทบทั้งหมดถูกจ่ายเป็นจำนวนขั้นต่ำของบัตรเเต่ละใบ ดิฉันไม่ได้ฉลาดกว่าเพื่อนแต่ประการใด แต่โอกาสในชีวิต นำพามาให้รู้จักคนที่วางแผนชีวิตเป็น อย่างสามี เลยทำให้เรียนรู้หลายอย่างจากเขา ไม่งั้นยังคงงมโข่งอยู่

ไม่อยากให้คุณๆ ลืมธรรมชาติที่ว่า วันหนึ่งคุณต้องแก่ตัวลง ถึงเเม้ว่าวันนี้ วัยเลขสองของคุณมันจะสนุกไม่รู้จบจริงๆ ทั้งความรัก ทั้งความสวยงาม ที่ต้องเเต่งเติม ทำได้แต่อย่าให้กระทบกับอนาคต เพราะวันหนึ่งเมื่อคุณเข้าสู่เลข ๓ วันนั้นหน้าที่การงานคุณอาจจะมั่นคง เงินเดือนมากขึ้นเเล้ว แต่หนี้สินที่คุณก่อไว้ในวัยเลข ๒ จะตามมาหลอกหลอนคุณไม่จบสิ้น

หากคุณไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอู้ฟู้ แต่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่อาจจะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน ในอนาคต หากคุณไม่มีเงินเก็บเลย ต่อไปคุณจะเอาเงินที่ไหนมาสร้างครอบครัวของคุณ จะอยู่ที่ไหน จะหวังพึ่งพ่อแม่ไปตลอด ซึ่งคุณอาจโชคดีพ่อแม่มีบ้านให้อยู่ แต่ถ้าพ่อแม่คุณไม่ได้มีบ้านให้คุณล่ะ หรือแม้แต่คุณตัวคนเดียว คุณจะอยู่ที่ไหน และเมื่อคุณอายุมากขึ้น แก่มาก คุณจะเอาอะไรกิน  รองเท้า กระเป๋าเครื่องสำอางค์ มันสำคัญมากถึงขนาดที่เราจะเสี่ยงความมั่นคงในอนาคตหรือเปล่า โบทอกซ์ที่ฉีดๆ กัน ค่าเสริมความงามต่างๆ หากมันเกินกำลัง จำเป็นไหม ที่คุณต้องเป้นหนี้ และถ้าคุณอายุหกสิบเเล้ว แต่ก็ยังมีกินใช้ไปวันๆ เหมือนในตอนนี้ล่ะ ถึงตอนนั้นจะทำยังไง

เมื่อคุณอายุสามสิบ เวลามันจะวิ่งจนคุณตามไม่ทัน เมื่อมารู้ตัวอีกที ก็สี่สิบเเล้ว และน่าเศร้านะ ถ้าถึงตอนนั้นแล้ว สิ่งที่อวดได้ว่าเป็นของเรา ก็แค่รองเท้ากระเป๋า หรืออะไรเทือกนี้ ร้ายที่สุดตอนนั้นคุณอาจจะเป็นแม่ใครสักคน แล้วต้องรำพึงกับตัวเองว่า ถ้าเราเริ่มวางแผนชีวิตเร็วกว่านี้ คงจะดี

แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 52 09:23:51

จากคุณ : mrs.night owl
เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 52 08:55:30





[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ]       
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com