สวัสดีสมาชิกทุกท่าน


          สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงใน Pantip-Cafe หลายอย่างเลยใช่ไหมคะ อย่างล่าสุด ของเล่นใหม่ของชาว Cafe ก็คือ "ห้องสนทนา" ที่อยู่ในทุกๆ โต๊ะของ Cafe (ยกเว้นโต๊ะข่าว) สำหรับสร้างมิตรภาพ และการพูดคุยที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ซึ่งการใช้งานก็ง่ายๆ เพียงแค่ คลิก!! โต๊ะที่เห็นว่าจะคึกคักมากที่สุด หนีไม่พ้นคุณแม่ๆ จากชานเรือน ย้อนความหลังห้องแชทสมัยที่ยังเล่นโปรแกรม Pirch กันเลย เห็นแล้วก็มีความสุขค่ะ โต๊ะอื่นๆ ก็ใช่ว่าจะน้อยหน้าที่ไหนนะคะ BluePlanet ก็แชทกันเพลิดเพลินมาก

          สำหรับห้องสนทนานี้ผู้ที่แชทได้จะต้องเป็นสมาชิกพันทิปเท่านั้น เวลาที่เข้าห้องก็จะสามารถเห็นล็อกอินของสมาชิกที่กำลังออนไลน์อยู่

          Hilight ฉบับที่แล้วได้แนะนำตัวย่อในการเขียนกระทู้รีวิวไป ฉบับนี้แนะนำกลุ่มย่อย "ซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน" ที่เพิ่งเปิดใหม่ (อันที่จริงก็เปิดหลายวันแล้ว) ลองอ่านกติกาเล็กๆ น้อยๆ ในการตั้งกระทู้ดูค่ะ

          พบกันฉบับหน้าจ้า

* สมาชิกสามารถอ่านเนื้อหาในฉบับย้อนหลังได้ผ่านทางหน้าเว็บ
http://www.pantip.com/cafe/theespresso

* แนะนำบริการหรือแจ้งปัญหา Cafe & BlogGang ติดต่อได้ที่นี่ คลิก

 

พันทิปคาเฟ่เปิดพื้นที่ให้กับสมาชิกที่อยากขายของ เป็นการทดลองเปิด (นำร่อง) ที่ผลน่าพึ่งพอใจมาก ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น โดยเฉพาะห้องโต๊ะเครื่องแป้งนั้นคึกคักมาก มีของให้เลือกจนตาลาย แต่ทั้งนี้ ทางเราจำเป็นจะต้องมีกติกาเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเป็นการจัดระเบียบสำหรับพ่อค้า-แม่ค้า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย และไม่สร้างความรบกวนให้แก่สมาชิกท่านอื่นๆ โดยมีรายละเอียดคร่าวๆ ดังนี้

1. เปิดกว้างสำหรับสมาชิกทุกท่าน โดยสินค้าที่สมาชิกนำมาตั้งกระทู้ขาย ไม่จำเป็นจะต้องตรงกับห้องนั้นๆ ก็ได้ เพราะต้องการให้มีพื้นที่ซื้อ-ขาย-แลกเปลี่ยน สำหรับสมาชิกที่คุ้นเคยในห้องเดียวกันค่ะ อย่างเช่น สมาชิกห้องสยามต้องการขายเครื่องสำอาง ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปขายที่ห้องแป้ง ก็ขายห้องสยามได้เลยค่ะ ฟรีสไตล์สุดๆ หรือจะขายไม้เทนนิส ให้กับสมาชิกในห้องศุภชลาศัย ก็ไปตั้งกระทู้ขายที่ห้องศุภชลาศัย แบบนี้ก็ดีที่สุด ตรงห้อง ขายง่าย ไม่เสียเวลาหา

2.กำหนดให้ต้องเป็นสมาชิก และสมาชิกระบบมือถือเท่านั้น ที่มีสิทธิ์ตั้งกระทู้ขายสินค้า ซึ่งสมาชิกจะมีโควต้าในการตั้งกระทู้ท่านละ 1 กระทู้ต่อวันเท่านั้น

3. ข้อนี้ฝากไว้เป็นข้อเตือนสติสำหรับผู้ที่ซื้อสินค้า สินค้าบางอย่างต้องใช้วิจารณญาณมากพอสมควร เพราะทางเราเป็นแค่พื้นที่
สำหรับท่านสมาชิกพ่อค้า-แม่ค้าเท่านั้น เราไม่สามารถช่วยเหลือท่านสมาชิกใดๆ ได้ เพราะฉะนั้น จะตัดสินใจซื้อสินค้าอะไร หาข้อมูลเยอะๆ จะได้ไม่มาเสียใจทีหลังนะจ๊ะ



 





ตั้งคำถามต่อยอด
แบบว่า.. บางครั้งดูไปก็เริ่มจะซีเรียส มีการนำมาอิงกับหลักความเป็นจริง จนลืมไปว่าเป็นละคร
ดูจบแล้วเกิดคำถาม และสงสัยทุกสิ่งทุกอย่าง จนเกิดกระทู้คำถามต่างๆ อย่างเช่น
ทำไมเรยาถึงชอบเรียกสามีว่าพ่อ, อยากรู้ว่าทำไมเรยาถึงชอบไปตีกอล์ฟ, สงสัยเรื่อง เรยา ขึ้นเครื่องบินตอนท้อง 7 เดือนกว่าๆ, ตี๋เล็กเห็นแม่ถูกโยนลงบ่อด้วยเหรอ งงอ่ะ... โอ๊ววววววว ไม่เครียดค่ะ ไม่เครียด

แฟชั่น
เมื่อความสวยกระแทกตา กิเลสก็มาทันที เกิดการเลียนแบบทั้งการแต่งตัว แต่งหน้า ทรงผม มีการทำคลิป How-to ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น คลิปแต่งหน้าแบบเรยา แต่งหน้าแบบเด่นจันทร์ ทำผมเหมือนเรยา หรือจะเป็นคลิปเลียนแบบ สวมบทบาทเป็นตัวเอกของเรื่อง

          อาการอินทั้งหมดที่กล่าวมานี้ หลายคนอาจนึกถึง "การเลียนแบบ" เท่าที่สังเกต โดยทั่วไปก็มักเลียนแบบกันในเรื่องง่ายๆ อย่างพวกแฟชั่น การแต่งตัว หรือคุยเป็นเรื่องขำขันกันเสียมากกว่า อารมณ์เหมือนวัยรุ่นเลียนแบบเกาหลี ส่วนการเลียนแบบเชิงพฤติกรรม คงไม่ได้เลียนแบบกันง่ายๆ ไม่ค่อยพบเห็นกันเท่าใดนัก อย่างที่ทราบกันดี จากงานวิจัยที่เคยผ่านตา ว่ารายการทีวีหรือละครที่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวนั้น สามารถเหนี่ยวนำผู้ที่มีความรู้สึกอ่อนไหว เกิดการลอกเลียนแบบพฤติกรรมได้ เป็นเรื่องที่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องชี้แนะและให้เวลาค่ะ ไม่ได้หมายความว่ามันจะผิดจริยธรรม หรือศีลธรรมไปเสียทั้งหมด รายการทีวีหลายรายการ ละครหลายเรื่อง ก็ให้ข้อคิดในมุมของความบันเทิงแก่คนดู หลายคนใช้ละครเป็นทางออกเชิงอารมณ์ เพื่อผ่อนคลายตัวเองจากชีวิตที่ตึงเครียด ความเบื่อหน่าย และสุดเซ็งในแต่ละวัน

          อย่างไรก็ตาม แฟนๆ ก็อย่าเอาแต่ดูละคร ติดทีวีเสียจนไม่เป็นอันทำอะไร ลองออกไปหาอะไรกินนอกบ้าน นอนอ่านหนังสือ หรือหากิจกรรมอย่างอื่นทำบ้างนะคะ อินกันแต่พอประมาณค่ะ

 

 

 




 

 


อาการอินละคร ของคนบนโลกไซเบอร์

          เป็นวัฒนธรรมการดูละคร ที่กำเนิดขึ้นมาพร้อมๆ กับยุคอินเทอร์เน็ต ที่ผ่านมามีละครไม่น้อยที่ได้รับความนิยม จนถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นให้ชาวโลกไซเบอร์ได้พูดคุย แสดงความคิดเห็นกันเพลิดเพลิน สนุกสนาน ชนิดไม่ต้องเปิดทีวีดูก็ได้ อ่านกระทู้ รู้ทุกช็อต วันไหนพลาดไม่ได้ดูตอนไหน เปิดกระทู้หาคลิปละครย้อนหลังดูกันตามสบายได้เลย

          The Espresso ฉบับนี้รวบรวมอาการอินละครของคนบนโลกไซเบอร์ มาเช็คกันหน่อยซิว่าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้กันบ้างหรือเปล่า (อาจจะต้องยกเคสของ "ดอกส้มสีทอง" มาประกอบเยอะหน่อย เพราะกำลังอิน ฮ่าๆ)

ตั้งหน้าตั้งตารอ
ถึงขั้นกลับบ้านเร็ว รีบกินข้าว ปูเสื่อนอนรอกันเลยทีเดียว บางคนถึงขั้น "ขอ 4 วันได้มั้ย 2 วันมันน้อยไป ไม่สะใจ" วันไหนที่จะต้องพบเจอกับสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตก รถติด กลับบ้านไม่ทัน อาจจะโชคดีสำหรับผู้ที่มีอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ก็หา App เปิดทีวีดูมันในรถนี่แหละ จอเล็กก็ไม่เป็นไร ขอให้ได้ดู (อันนี้ต้องขออภัยคนรอบข้างที่ใช้ 3310 ด้วยที่ทำให้อิจฉา) บางคนถึงขั้น หาทีวีไปติดในรถกันเลย ชีวิตเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริง เพราะถ้าชั้นพลาดตอนนี้ไปพรุ่งนี้ชั้นจะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง!!!

หรืออย่างวันที่สัญญาณดาวเทียมขัดข้อง ทำให้จอมืดไปหลายชั่วโมง ซึ่งวันนั้นตรงกับวันที่ละครเรื่อง"ดอกส้มสีทอง" พอดี แฟนละครถึงขั้นกระวนกระวาย กลัวจะไม่ได้ดูละคร พลาดอย่างอื่นได้ แต่พลาด เรยา ไม่ได้นะฮ๊าาา

จดจำประโยคเด็ดจากละคร ใครพูดอะไรจำได้หมด
จำทุกเม็ด เก็บทุกอณู สังเกตว่าละครหลายเรื่องที่ฮิต มักจะมีวลีเด็ดโดนใจให้ชาวโลกไซเบอร์ได้กระหน่ำโพสต์กระทู้ , twitter, facebook กันให้พรึ่บพรั่บ ชนิดที่ว่านอนดูละครไป โพสต์ไป ตัวอย่างวลีฮิต จากละครเรื่อง"ดอกส้มสีทอง" ที่ทำให้ชาวกระทู้พูดถึงกันมาก เช่น ประหลาดจนโลกไม่ลืม, ตบหน้ากลางสี่แยก ฯลฯ บางประโยคก็เอามาใช้แซวเล่นกันในชีวิตประจำวัน สนุกสนานกันไป

ตั้งกลุ่ม/เปิดแฟนเพจ
ความร้อนแรงของละครไม่ได้ระบาดอยู่แค่พันทิปเท่านั้น ยังลามไปถึงโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ อย่าง twitter หรือ facebook มีการจัดตั้งแฟนเพจของตัวละครจนเกือบแทบจะครบทั้งเรื่อง
ถือเป็นอีกความสามารถหนึ่งของคนบนโลกไซเบอร์ ที่นอกจากจะต้องรู้จักละครเป็นอย่างดีแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการงัดเอาตัวตน คาแรกเตอร์ของตัวละครออกมาใช้ในการโต้ตอบพูดคุยกับคนในแฟนเพจ ที่เด็ดกว่านั้นคือ ตัวละครในเรื่อง มักจะแวะเวียนมาทักทาย จิกกัดกันเบาๆ ในแฟนเพจอยู่เสมอ



 
 (c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved.
คลิกที่นี่ หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสารจากเราอีกต่อไป