สวัสดีสมาชิกทุกท่าน

      เมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในสังคม ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีการใช้พื้นที่เหล่านี้ในการสร้างกระแส ไปจนถึงสร้างความเกลียดชัง ทำให้หลายคนได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ดูหมิ่น หมิ่นประมาท หรือแม้กระทั่งได้รับความอับอาย ความจริงแล้วมีกฎหมายที่ครอบคลุมการกระทำผิดบนโลกไซเบอร์ ที่สามารถเอาผิดทางอาญาได้ด้วย

      ตัวอย่างคดีฟ้องร้องที่เคยปรากฏในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งจากความตั้งใจ และรู้เท่าไม่ถึงการ ถือเป็นอุทาหรณ์ให้แก่นักท่องเน็ตต้องระมัดระวังการโพสต์มากขึ้น การที่เราไม่รู้กฎหมาย หรือเข้าใจกฎหมายอย่างไม่ถ่องแท้ ย่อมอาจทำอะไรที่อาจละเมิดต่อกฎหมายได้ การที่ไม่รู้กฎหมาย แล้วทำโดยไม่ศึกษาโดยละเอียดรอบคอบก็อาจทำให้ต้องคดีโดยไม่รู้ตัว

      ฉบับนี้ ขออนุญาตพูดถึงเรื่องของกฎหมาย "หมิ่นประมาท" อาจจะดูเป็นเรื่องหนักไปสักเล็กน้อย แต่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับสมาชิกทุกท่าน ในทางที่จะระมัดระวังการพูดหรือเขียนถึงบุคคลอื่น และทางที่จะเป็นอาวุธป้องกันสิทธิของตัวเอง

      เจอกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ

* สมาชิกแบบ Mobile Register สามารถเพิ่มข้อมูลบัตรประชาชน เพื่อ Upgrade สมาชิก โดยสามารถใช้ชื่อสมาชิกเดิม แต่ได้สิทธิ์เหมือนสมาชิกแบบบัตรประชาชน ได้แล้วนะคะ คลิก

* สมาชิกสามารถอ่านเนื้อหาในฉบับย้อนหลังได้ผ่านทางหน้าเว็บ
http://www.pantip.com/cafe/theespresso

* แนะนำบริการหรือแจ้งปัญหา Cafe & BlogGang ติดต่อได้ที่นี่ คลิก

     


คุยกับ มือกลองในตำนาน

      "เล่นพันทิปมานาน 7-8 ปี การตอบกระทู้เดี๋ยวนี้แรงขึ้นเยอะ ความเห็นที่อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า แรงไป คือกระทู้พาดพิงบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือคนที่ถูกพาดพิงไม่สามารถโต้ตอบได้ กระทู้ต่อว่า ด่าทอ ด้วยวาจาหยาบคาย ส่วนตัวถ้าเจอกระทู้ดราม่า มักจะอ่านข้ามๆ ไปหรือไม่อ่านเลย แล้วไปดูตอนสรุปเรื่องอีกที ปกติเล่นห้องเฉลิมไทย ตอบกระทู้เกี่ยวกับหนังใหม่ๆ ที่เข้าโรงซะส่วนใหญ่"

การวิพากษ์วิจารณ์บุคคลสาธารณะ แค่ไหนที่รู้สึกว่าสังคมน่าจะรับได้

      "ทุกคนมีสิทธิ์คิด วิจารณ์ และรู้สึกกับคนในข่าว แต่ควรจะนึกถึงคนรอบข้างที่อาจจะกระทบ หรือไม่ไปพาดพิงคนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง"

ฝากถึงเพื่อนสมาชิกท่านอื่น เกี่ยวกับการใช้อินเทอร์เน็ต และ social network

      "ผมมองสังคมตอนนี้แล้วรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากจะโทษการเมืองนะ ที่ทำให้แนวคิดคนสมัยนี้มันเปลี่ยนไป การเมืองเราก็ต้องแบ่งสี แบ่งข้าง คนที่อยู่ตรงกลางก็จะโดนผลักว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม จนมันเป็นแนวคิดไปแล้วว่า เธอต้องเลือก เธอต้องอยู่สักฝ่ายนึง ซึ่งผมมองว่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เมื่อก่อนเราจะคิดอะไร จะพูดอะไร ส่วนใหญ่จะอยู่กลางๆ ไม่เอียงไปทางไหน แต่เดี๋ยวนี้เหมือนทุกคนต้องมีฝ่าย รวมไปถึงแม้แต่ข่าวเรื่องบันเทิง ยังมีแต่คนถาม เธอเชื่อใคร เธอเอาใจช่วยใคร พอเราบอกว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามก็เกิดการโต้เถียง ผมว่าเราควรฟังกันให้เยอะ เปิดใจให้มากขึ้น สังคม social network มันคงจะดีกว่านี้"



 

      ในช่วงที่ผ่านมามีคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทจากการเขียนบนเว็บบอร์ดเป็นกรณีศึกษาอยู่หลายเคส ซึ่งหลายคดีไม่เพียงแต่เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในกระดานสนทนาอย่างในพันทิป เท่านั้น ยังเป็นที่สนใจจากสังคมภายนอกด้วย

      รายงานผลการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใน ประเทศไทยปี 2552 โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) พบว่า รูปแบบของการติดตามข่าวออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือการอ่านข่าวและแสดง ความคิดเห็นผ่านทางเว็บบอร์ด รองลงมาได้แก่ เว็บไซต์และบล็อค ร้อยละ 87.1 และ 68.7 ตามลำดับ ปัจจัยสำคัญที่ทำ ให้มีการติดตามข่าวผ่านทางอินเทอร์เน็ต ได้แก่ ความสะดวกในการเข้าถึง ความมีอิสระในการติดตามข่าว และความรู้สึกที่มีส่วนร่วมและสามารถแสดงความคิดเห็นได้

      ด้วยความสะดวกและเข้าถึงได้ง่ายของสื่อออนไลน์นี้เอง ที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้ขาดความยั้งคิด การแสดงความคิดเห็นต่อข่าวหรือประเด็นที่สนใจผ่านกระดานสนทนา แลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อข่าว มีจำนวนไม่น้อยที่พบว่าแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หรือขาดวิจารณญาณ มีการละเมิดความเป็นส่วนบุคคล ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือที่เห็นบ่อยในช่วงนี้ ได้แก่การแสดงความคิดเห็นพาดพิงบุคคลอื่น เช่น การวิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของของดารา การอัพโหลดภาพ คลิปเสียง หรือวิดีโอใดๆ ที่ยังมิได้มีการพิสูจน์ว่าเป็นจริงหรือไม่ ลงในกระดานสนทนา ฯลฯ ทั้งหมดนี้อาจเป็นการกระทำที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ซึ่งระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำผิดและบทลงโทษไว้ชัดเจน

      สมาชิกบางส่วนยังไม่เข้าใจในตัวกฎหมายว่ามี ผลบังคับใช้แล้ว การแสดงความคิดเห็นลงในกระดานสนทนา ไม่ได้เป็นแค่การขีดเขียนตัวอักษรลงไปเท่านั้น แต่หมายถึง ความรับผิดชอบ ในสิ่งที่เขียนหรือกระทำลงไปด้วย แม้แต่ทางเว็บไซต์เองที่ก็ต้องมีกฎกติกา ข้อตกลงก่อนการสมัครใช้งาน

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

      ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 “ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือ ถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

      ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 328 “ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาท ได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใดๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียงบันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท”

บุคคลสาธารณะทำไมจะวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้

      ในกรณีปัญหาพิพาทของดาราชื่อดังหลายๆ ท่าน ซึ่งเป็น “บุคคลสาธารณะ” หรือ Public Figures ที่ประชาชนให้ความสนใจ และวิพากษ์วิจารณ์บุคคลดังกล่าวในช่วงนี้ แม้บุคคลจะมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นก็ตาม กฎหมายมิได้ให้ความรับรองหรือคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวอย่างไม่มีขอบเขต แต่สิทธิและเสรีภาพที่กฎหมายให้การรับรองและคุ้มครองนั้น จะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิของตนเองไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น บุคคลสาธารณะก็เป็นคนๆ หนึ่งที่มีสิทธิตามกฎหมาย การวิพากษ์วิจารณ์ถึงบุคคลสาธารณะที่ถูกต้อง ควรวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่เป็นสาธารณะของบุคคลนั้น

      คำว่า เรื่องงาน กับ เรื่องส่วนตัว มีความแตกต่างกัน การวิพากษ์วิจารณ์หรือการใส่ความ ในทางกฎหมายนั้นสาระสำคัญไม่ได้อยู่ที่สิ่งที่พูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แม้จะเป็นเรื่องจริงแต่หากเป็นเรื่องที่โดยปกติคนไม่นำมาพูดกัน ทางกฎหมายถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว และแม้จะมีการเปิดเผยก็ไม่เป็นประโยชน์อันใดต่อสาธารณะ  เช่น บุคคลสาธารณะจะไปมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุคคลใด ก็มิใช่เรื่องที่จะขุดเอามาโพสต์แสดงความเห็น หรือวิพากษ์วิจารณ์สนุกสนาน แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงแต่ก็เข้าข่ายหมิ่นประมาทเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว และความสัมพันธ์นั้นก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอันใดกับประโยชน์สาธารณะ

   

ชื่อซ้ำ ใช้อักษรย่อ จะโดนคดีหมิ่นประมาทหรือไม่

      โดยหลักการแล้ว สามารถที่จะฟ้องร้องได้ แม้ว่าทั้งประเทศไทยจะมีบุคคลชื่อซ้ำหลายคน แต่ปัญหาอยู่ที่ในชั้นพิจารณาในศาลว่า ทางผู้ฟ้องหรือฝ่ายโจทก์นั้น สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าได้กล่าวพาดพิงถึงบุคคลนั้นจริง กรณีที่กล่าวพาดพิงถึงดาราท่านหนึ่ง แม้จะเป็นเพียงชื่ออักษรย่อ หรือไม่ใส่ชื่อเลยก็ตาม แต่หากบุคคลทั่วไปสามารถที่จะเข้าใจได้ว่าท่านกล่าวพาดพิงถึงใคร ท่านย่อมเข้าข่ายกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทแล้ว (ส่วนจะถูกฟ้องร้องตามกฎหมายหรือไม่เป็นอีกส่วนหนึ่ง)

แล้วแบบนี้ เราจะวิจารณ์ใครไม่ได้เลยหรือ

      การวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของบุคคลสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับฐานะหรือใน ตำแหน่งหน้าที่ หรือเรื่องที่เป็นความเสียหายต่อบ้านเมือง ย่อมสามารถกระทำได้ ใช่ว่าจะพูดไม่ได้เสียทีเดียว กฎหมายนั้นได้ให้ความคุ้มครอง หากว่าสิ่งที่พูดพาดพิงถึงผู้อื่นนั้นเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 329 เช่น
1. เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตน ตามคลองธรรม และไม่ใช่พูดในลักษณะที่เป็นการประจาน
2. ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ
กรณีนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องของส่วนรวมที่ประชาชนสมควรที่จะติชมได้ เช่น เรื่อง ศาสนา เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของราชการ เป็นต้น

      และพึงระวังข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 330 จำกัดมิให้ใช้สิทธิในการพิสูจน์ไว้ ถ้าเข้ากรณี ดังนี้
1) ถ้าข้อความที่หาว่าหมิ่นประมาทนั้น เป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และ
2) การพิสูจน์ความจริงนั้น ไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน

      หากว่าเราได้กระทำตามนี้ ก็ให้สบายใจได้ ทางกฎหมายก็ถือว่าผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท แต่ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนเสียก่อนว่า เมื่อเข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายแล้วจะไม่เป็นการหมิ่นประมาทและจะไม่โดนฟ้องร้องนั้น เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการที่จะพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตนโพสต์นั้น เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมายหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ในชั้นศาล ซึ่งเป็นเรื่องหลังจากที่ตนถูกฟ้องร้องไปแล้ว

      สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาภายหลังการถูก ฟ้องร้อง คือการต้องรับมือกับความยุ่งยาก รำคาญใจ มีประวัติอาชญากรรมติดตัว ที่ต้องอธิบายทุกครั้งที่ขอวีซ่าไปต่างประเทศ มีปัญหาในการขอสัญชาติ แม้แต่การสมัครงาน หากมีการตรวจประวัติก็อาจทำให้พลาดโอกาสทางการงานไปได้ ผลเสียที่ตามมามีอีกมากหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ต้องมีการเรียกสอบพยาน อีกทั้งการมาแก้คดีต่างๆ ในชั้นศาลนั้น อาจต้องหยุดงานมาชี้แจง เตรียมหลักฐาน แต่ละขั้นตอนนั้นใช้เวลานาน ต้องวางหลังทรัพย์หลักแสนประกันตัวระหว่างสู้คดี ทั้งนี้ยังไม่รวมกรณีที่สู้คดีแล้วแพ้ เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายทางกฎหมายที่หนักเอาการอยู่

      บางครั้งเราอาจคิดไม่ถึงว่าเรื่องเล็ก น้อยในโลกไซเบอร์ อาจบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ ตัดไฟเสียแต่ต้นลม "ตั้งสติ คิดก่อนโพสต์

      สมาชิกสามารถศึกษากฎหมายเรื่อง "บุคคลสาธารณะกับการหมิ่นประมาทผ่าน Social Media" ผ่านทางบล็อกได้ที่
      - ฉบับประชาชน คลิก
      - สำหรับนักกฎหมาย, อ้างอิง คลิก



     
     
   
 (c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved.
คลิกที่นี่ หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสารจากเราอีกต่อไป