ความคิดเห็นที่ 1 หมดรอบ commodities ต่างๆ ? ศก ยุโรป ชลอตัว ? บวกกับ ศก อังกฤษ ออกอาการเฉื่อยชัดเจน ? น้องดาวน์ (โจน) ร่วงอย่างหนัก ถึงแนวรับ สำคัญ ถึงเวลาเก็บซะที ? เงินทุนเคลื่อนย้ายในโลกาภิวัฒน์ ง่ายเพียงกดปุ่ม ... มีหลายหัวข้อให้พิจารณา เหลือเกิน .. รบกวนผู้รู้ วิเคราะห์เพิ่มด้วยคับ ^^' จากคุณ : Gilmer - [ 7 ก.ย. 51 08:43:55 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เชื่อมั้ยครับ เหตุผล "ที่เ ค้ า ว่ า . ." ..น่าตลกชะมัด(ฟังแล้วจะรู้สึกแปลกๆ) จากวิกฤติซับไพรม์ทีอเมริกา มีผลกระทบภาคการเงิน จนกระเทือนไปถึงภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ของอเมริกา ..ดังจะเห็นว่า ในช่วงต้นนั้น ค่าเงิน usd อ่อนลงมา จากราวๆ 11x jpy ต่อ 1 usd ลงมาถึง 100 เยนต้น ต่อ 1 ดอลล่าร์ จากปีที่แล้วมาปีนี้ เศรษฐกิจอเมริกายังไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุด วันนี้ " ข้ อ อ้ า ง " ที่เค้าว่า ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์แข็งก็คือ ผลจากเศรษฐกิจอเมริกาถดถอย ล่ามสู่เขตเศรษฐกิจยุโรป อังกฤษ และญี่ปุ่น (มันลามตั้งแต่ต้นแล้วหล่ะ) กำลังกระเทือน ประเทศเหล่านี้ เป็นผลทำให้มีการลดการถือครองสินทรัพย์ ในรูปเงินสกุลอื่น อย่าง ยูโร เยน ปอนด์ ....กลับมาสู่ดอลล่าร์!! จึงเป้นผลทำให้ค่าเงินดอลล่าร์กลับแช็งค่าขึ้นมา... ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ มั้ยครับ?? แต่นี่   เ ป็ น เ ห ตุ ผ ล  ที่นักวิเคราะห์ และสื่อฝรั่งเอาออกมาอ้างจริงๆ จากคุณ : บุญทับ - [ 7 ก.ย. 51 09:18:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น่างงมั้ย หนีจากประเทศต้นตอวิกฤติไปแล้ว พอวิกฤติลาม ก็หนีจากตลาดอื่น เข้าตลาดอเมริกาใหม่ . . จุดนี้ชี้ 2 อย่าง 1. เงินมันไม่มีที่ไปครับ และเค่าเงิน usd ยังคงเป็นเงินสกุลหลักของโลก ถ้าเทียบดูจากปีที่แล้ว ค่าเงิน usd อ่อนค่าลง เกินกว่า 10% เมื่อเทียบกับสกุลอื่นๆ วันนี้เงินusd กำลังกลับมาแข็งค่า (ตอนนี้อยู่ราวๆ 109-110 เยนต่อ ดอลล่าร์) วันนี้ถ้ามองในแง่ดี มันก็คือ การปรับตัว หาสมดุล (มองในแง่ดีนะ) หรือ ..หากมองในแง่ไม่ดี 2. คือวิกฤติครั้งนี้ มันไม่มีทางไปจริงๆ จากภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงอเมริกา ล่ามเข้าสู่ยุโรป และประเทศหลักอื่นๆ อย่างญึ่ปุ่น (จะไต้หวั่น ฮ่องกง จีด้วยหรือเปล่า ข่าวยังไม่ค่อยเอามาลง) ลามจากต้นตอของปัญหา ไปประเทศอื่นๆ ..แทนที่จะรอต้นตอปัญหาให้คลี่คลายจึงจะกลับเข้าไป แต่วันนี้ เหตุการณ์ยังไม่คลี่คลาย แต่กลับจำเป็นต้องกลับเข้าไป(ค่าเงินแข็ง) หมายความว่า เงินไม่มีที่ไป ไม่มีทางลงจริงๆ   ..มองลึกลงไปกว่านั้น นั่นก็คือ วิกฤติซับไพรม์นี้ กำลังขบายวง จากวิกฤติอเมริกา เป็นวิกฤติยุโรป และกำงจะเป็นวิกฤติระดับโลก ไม่ได้พูดให้ตกใจ แต่วิกฤติอันนี้เป็นวิกฤตระดับโลกจริงๆ แต่ผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง มันจะช้ากว่า ภารการเงินเท่านั้นเอง ถามว่ามันจะน่ากลัวกว่านี้มั้ย ในระดับโลก ต้องบอกว่ามันจะน่ากลัวกว่านี้ในแง่เศรษฐกิจที่แท้จริงครับ คือการค้าขายในระดับโลกคงจะซบเซาลงต่อเนื่อง จากนี้ไปอีกสัก 1-2 ปี แภคการเงินจะน่ากลัวกว่านี้มั้ย ..ก็ตอบว่า คงใช่ แต่ไม่มาก.. จากคุณ : บุญทับ - [ 7 ก.ย. 51 09:28:54 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ยกตัวอย่างบ้านเรานี่แหละ เป็นโมเดลที่ดี.. คือวิกฤติต้มยำกุ้ง.. จะเห็นว่า.. ตลาดหุ้นบ้านเรา หักพังลงมา ในช่วงปี  2538-2539-2541 จะหักพังในภาคการเงินก่อนครับ แล้วภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง จึงค่อยๆ กระเทือน มีการปิดตัว ปิดบริษัท ล้มละลาย คนตกงาน ..มาหนักๆ ในช่วงปี 2541-2543 ก่อนที่จะค่อยๆ ซึมอีกหลายปี จึงค่อยฟื้นตัว ขึ้นมาในช่วงปี 2545 เป็นต้นมา ตอนนี้วิกฤติระดับดลก ก็จะเป็นไปในรูปแบบเดียวกันครับ คือวิกฤติภาคการเงินนั้น คงจะลงใกล้สุดแล้ว.. ตอนนี้มันกำลังจะล่ามไปสู่ภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง หลังจากนั้น จึงค่อยซึม อีกหลายปีก่อนจะฟื้นตัวครับ.. ผมเองก็ไม่รู้ ไม่กล้าเดาเหมือนกัน ว่าวิกฤติเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวเมื่อไหร่ พูดไปก็เดาทั้งนั้นครับ ต้มยำกุ้งใช้เป็นโมเดลได้ แต่ขนาดของวิกฤติที่เริ่มจากอเมริกานี้ มันต่างกัน แล้วมันก็กระเทือนกับโลกต่างกันด้วย.. กระเทือนกับโลกมากกว่า.. ..แต่มองอีกด้านหนึ่ง การแก้ไขวิกฤตินี้ ก็เกิดอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากกว่า และเกิดจากทั้งฝ่ายอเมริกา ยุโรป และญุ่ปุ่นด้วย พูดง่ายๆ คือ ราวมแรงร่วมใจกันแก้วิกฤติ เพราะว่า ผลประโยชน์นั้นมีร่วมกันอยู่ครับ.. จากคุณ : บุญทับ - [ 7 ก.ย. 51 09:37:44 ]

ความคิดเห็นที่ 5 สรุปรวมๆ ผมว่า วันนี้ที่ค่าเงิน ดอลล่าร์แข็งขึ้นมา.. ผมมองว่า ไม่มีอะไรมากไปกว่า.. 1. เงินสกุลดอลล่าร์ ยังเป็นที่ยอมรับในระดับโลก (ทีแรกคิดว่าค่าเงินนี้จะแย่แล้ว ถ้าค่าเงินนี้ล้ม ก็ล้มทั่วโลก เพราะทั่วโลกใช้เงินสกุลนี้เป็นหลักในการค้ำประกันค่าเงินตัวเองอยู่) ..สรุปว่า ค่าเงินนี้ยังไม่ล้ม 2. เพราะเงินมันไม่มีที่ไป วิกฟติมันเป็นไปทั่วทั้งโลก   เงินมันหาทางไปไม่ได้ มันก็โยกไปโยกมาอย่างนี้แหละ เพราะกระแสเงินมันไม่นิ่ง และคนก็กลัว ก็มีการลดความเสี่ยง เคลื่อยย้าย จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง (คงจะเห็นกระแสเงินโลกแปรปวนแบบนี้ไปอีกพักใหญ่) . จากคุณ : บุญทับ - [ 7 ก.ย. 51 09:46:52 ]

ความคิดเห็นที่ 6 สำหรับบ้านเรา หรือนักลงทุนบ้านเรา ก็ไม่มีอะไรต้องตื่นตระหนกมากนักครับ มองให้ออก หรือจะมองว่ามันเป็นเกมส์ก็ได้(จริงๆ ไม่ค่อยอยากใช้คำนี้ แต่ก็ใกล้เครียงสุดน่ะนะ) คือมองว่ามันเป็นเกมสการเงินระดับโลกไป.. . ลอง..เชื่อในทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดสิครับ เหมือนตลาดหุ้นบ้านเรา มีคนดูแลอยู่ อาจจะไม่ใช่คนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง.. แต่เป็นหลายๆ กลุ่ม สมรู้ร่วมคิดกันอยู่ครับ ..วางแนวทาง ประคับประคองอยู่ กระแสเงินโลก มันก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน วันนี้เท่าที่เราได้ยินได้ฟังกัน กระแสเงินโลก เวียนเล่นเก็งกำไร ปั่นราคากันอยู่ใน 3 กลุ่ม คือ 1. ตลาดหุ้น 2. ตลาดเงิน และ 3. ตลาด คอมโมดิตี้ เงินส่วนใหญ จะเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน 3 กลุ่มนี้ครับ ช่วงที่ไม่มั่นใจที่สุด ต้องกลับไปหารายได้ในรูปดอกเบี้ย จากสกุลเงินที่น่าหรือคิดว่าน่าวางใจที่สุด อีกส่วนหนึ่งฝากมอง.. (อันนี้อาจารย์ผมแนะนำมา จนผมแทบจะคิดว่าตัวเองคิดเองแระ 555) มองดาวน์โจนส์ เป็น ptt ของบ้านเรา มอง ตลาดหุ้นอังกฤษ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ตลาดหุ้นฮ่องกง เป็น pttep เป็น bbl เป็น scc advanc  มองไปในทำนองนี้ มองไปทำนองนี้ แล้วเราจะเห้นการประคองตลาดหุ้นทั่วโลก บางทีจำเป็นต้องดันหุ้นใหญ่ เพื่อออกตัวเล็ก ประคองหุ้นใหญ่เพื่อออกหุ้นปั่น ..บ้านเราคิดว่าจะเป็นหุ้นอย่างอะไร ลองจิตนาการเอาเอง บางช่วงบ้านเราอาจจะเป็นหุ้นปั่น บางช่วงบ้านเราอาจจะเป็นหุ้น trunaround บางช่วงบ้านเราอาจจะเป็นหุ้นเติบโตสูง ก็คิดๆ กันไป ตามแต่ช่วงเวลาและจิตนาการของแต่ละคน.. รวมๆ ผมก็นั่งเทียนพรรษาน่ะนะ ถือว่าอ่านขำๆ แล้วกัน.. . ...สุดท้าย ขอโยงเรื่องมาหน่อย ถ้าอยากให้เศรษฐกิจบ้านเรา รวมถึงตลาดหุ้นบ้านเราเข้มแข็ง ในหลวงเรา ทรงประทาน แนวคิดที่เจ๋งๆ มาให้แล้ว นั่นคือเศรษฐกิจพอเพียง.. แนวคิดนี้ ถ้าลงรากลึกในประเทศไทย ต่อไปประเทศไทยก็จะสามารถเป็น defensive stock ของโลกได้ครับ จากคุณ : บุญทับ - [ 7 ก.ย. 51 10:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 งานนี้ขึ้นไปถึง 38-40 บาทแน่ การเมืองอเมริกันเริ่มนิ่ง การเลือกตั้งกำลังจะมีขึ้นส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม จากคุณ : Mushroom Man - [ 7 ก.ย. 51 10:59:37 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เงินจากบรรดากองทุนอีแร้งมั้ง  มีเป็นพันๆ กองทุน เข้าไปเล่นเก็งกำไร จะจนทั่วโลกพังกันหมด สุดท้าย เงินมันก็ต้องกลับบ้านมัน คือกลายเป็นดอลลาร์ จากคุณ : คุณชายเฉิน - [ 7 ก.ย. 51 12:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมมองว่าช่วงที่ผ่านมา ดอลลาร์มันอ่อนเกินไป เลยต้องปรับตัวเข้าหาสมดุล เหมือนในปี 40 ช่วงลอยตัวค่าเงินบาทใหม่ๆ มันอ่อนลงไปถึง 52  แล้วก็ปรับตัวมาที่ 40กว่าๆ เมื่อนักลงทุนเห็นว่าดอลลาร์มันอ่อนมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น จึงได้มีการโยกย้ายเงินกลับเข้ามาถือดอลลาร์ .........เพื่อการเก็งกำไรว่าดอลลาร์จะแข็งขึ้น  มันก็แค่นั้นเอง เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงถดถอยและอาจจะถดถอยนานถึง 10 ปี เท่าๆ กับที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น ประชาชนเริ่มไม่เชื่อมั่นแล้ว  การใช้จ่ายของประชาชนจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ  (เหมือนญี่ปุ่น) ภาคธุรกิจก็เริ่มเจ๊งไปทีละรายๆ   บริษัทขายสินค้าดีๆ ใหญ่ๆ อย่าง Sharper Image, Linen's N Things  ยังล้มละลายได้เลยครับ ผมเองก็อยากให้สหรัฐฯ และยุโรปฟื้นไวๆนะครับ เพราะผู้ส่งออกบ้านเรา ..............มีลูกค้าหลักอยู่แค่สหรัฐฯ อียู และญี่ปุ่น จากคุณ : อภิมหาชาตบุตร - [ 7 ก.ย. 51 13:00:04 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่มีอะไรครับแข็งชั่วคราวเท่านั้น เดี๋ยวก็อ่อน จากคุณ : Juste - [ 7 ก.ย. 51 13:58:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 มุมมองจากเมื่อ เงินยูโร ถือกำเนิด  1ยูโร เท่ากับ  1 ดอลล่าร์  มาเมื่อไม่นานมานี้ ตอน ซับไพม์ กำลังดัง   1ยูโร เท่ากับ 1.60 ดอลล่าร์  ดังนั้น เมื่อมองว่า ดอลล่าร์ เริ่มอ่อนตัวเกินไปแล้ว ประกอบกับ ค่าเงินอื่น ๆ ในประเทศนั้น ๆ เศรษฐกิจก็ไม่ได้ดีไปกว่า   เมกา  จึงมีการขาย short  เงินยูโร  รวมถึง ปอนด์ ด้วย  เช่น ขาย short  E/U  ที่ 1.6000  มันลงมา 1.5999 คุณก็ได้  1 เปอร์เซนต์ ลงมา 1.4999 ได้ 1000 เปอร์   ตอนนี้อยู่แถว ๆ   1.4300 คนที่ เล่นไว้ตอน 1.6000 ก็คงได้ไป แล้ว 1700 เปอร์เซนต์  การที่ เฮดฟันด์  เปลี่ยนจาก commodities หันมาเล่น ค่าเงินนี่เอง ทำให้ ดอลล่าร์  ผันผวนมาก จากคุณ : amadillo - [ 7 ก.ย. 51 20:13:53 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มันก็แค่การเกร็งกำไรค่าเงิน ผันผวนระยะสั้น จากคุณ : ~Nk~ - [ 7 ก.ย. 51 20:31:39 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มุมมองของพ้ม... วิกฤตโลกครั้งนี้ ผลกระทบถ้วนหน้า...จากเดิมฟองสบู่เงินเฟ้อบ้านที่ดินในสหรัฐฯร่วมสิบปี   กลับกลายเปนหนี้เสียมหาศาลฉุดให้ป่วนการเงินและการคลังจนลดอัตราดอกเบี้ยเกือบสุดๆ...ดังที่เห็นขวบปีที่ผ่าน... ส่งผลกระทบเงินทุนให้ออกป่วนตลาดคอมเมอร์ดิตี้และหาผลกำไรจากตลาดนอก...ยังผลให้น้ำมันดีดตัวสูงและเริ่มกลายเปนวิกฤตเงินเฟ้อทั่วกันและเปนที่เกรงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัวเหมือนยี่สิบกว่าปีก่อนที่ลำบากกันทั่วนาน...มาฟื้นยุคคอมพิวเตอร์... ในเวลานี้... คิดว่าทางสหรัฐฯเห็นพ้องกับชาวโลกต้องลดราคาน้ำมัน...ลงไม่งั้นลำบาก"มะกันชน...ด้วยเริ่มยกอัตราดอกเบี้ยทำให้เงินดอลล่าขึ้นๆ....ประกอบกับดึงเงินทุนไหลหวลคืน...กลับบ้าน เพื่อแก้ไขวิกฤตการเงินภายใน... ทั้งหมดอาจดูได้จากข้อมูลกราฟค่าเงินชาติต่างๆและเรตดอกเบี้ยและบอนด์ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ย. 51 00:48:46 จากคุณ : แพะโง่ (แพะโง่) - [ 8 ก.ย. 51 01:33:01 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ผ่านมาอ่าน...   จากคุณ : ชายยอดนักทดลอง - [ 8 ก.ย. 51 07:00:59 ]

ความคิดเห็นที่ 15 #14 เลขที่ 14 มีความหมายอะไรพิเศษไหม เห็นจับจองมาหลายกระทู้ จากคุณ : kasimasi - [ 8 ก.ย. 51 07:54:16 ]