|
ความคิดเห็นที่ 45 |
|
การไม่เป็นเอกฉันท์นั้นของใครครับ ของนักวิชาการที่รู้ภาษาอาหรับเป็นอย่างดี หรือของพวกที่ไม่รู้ภาษาอาหรับ ชอบบิดเบือน แล้วก็แถไปนั่นไปนี่กันแน่?
เพราะจะเห็นได้ว่า ไม่มีใครเลยที่ บอกว่า อายะห์ที่ 24:31 นี้เน้นการปิดที่หน้าอก หรือ ไม่มีใครเลยที่ มีข้อขัดแย้งว่า คลุมผมหรือไม่คลุมผมกันแน่ แต่นักวิชาการ ที่อ้างมาทั้งหมด มีมติเอกฉันท์ครับว่า ต้องคลุมศรีษะเป็นอันดับแรก แล้วจึงตั้งประเด็นว่า ปิดหน้าด้วยหรือไม่?
และที่คุณเข้าใจนั้นผิดครับ เพราะเรื่องการถอดมาปิดหน้าอกแล้วเปิดศรีษะนั้นไม่มีแน่ๆ ครับ แต่ที่ผมเน้นคือ ไม่มีการอนุญาตใดๆ ให้สตรีเปิดศรีษะ แต่มีคำสั่งชัดเจนว่า อันดับต้องคลุมศรีษะครับถึงจะปิดหน้าอกได้
จะมาบอกว่าไม่มีคำสั่ง อย่างที่ login แมทท์บิดเบือน ว่า
ในประโยค ดังกล่าว หรือประโยคใดๆ ไม่มีคำสั้ง "ให้ ใช้ผ้าอะไรมาคลุมศรีษะ ไม่ได้เด็ดขาด
เพราะ คำสั่งชัดเจนคือ
they should draw their veils over their bosoms หรือ and to extend their headcoverings (khimars) to cover their bosoms (jaybs),
draw (ดรอ) {drew,drawn,drawing,draws} vt.,vi. ดึง,ลาก,โก่ง,น้าว,ถอน,จับ (ฉลาก) ,เอาออก,ดึงออก,ชักนำ,วาด,สเก็ตช์,เขียน,บรรยาย,ร้อยกรอง,พรรณนา -Phr. (draw on ใกล้เข้ามา) . -Phr. (draw up ยกร่าง,ร่าง,ออกแบบ) n. การดึง,การลาก,สิ่งที่ดึงดูดใจ,การเสมอกัน,ส่วนที่ชักขึ้น
extend (อิคซฺเทนดฺ') v. ขยายออก,ยืดออก, ประเมินค่า, ไปถึง,เพิ่มขึ้น., Syn. extendibility,extendability n. extendible,extendable adj., Syn. stretch,reach
เป็นความของการ ดึงไปถึง ขยายไปถึง ลากไปถึง จึงแปลได้สองอย่าง ไม่ใช่ ถอดออก เพราะถ้าถอดออกจะไม่มี ความหมายของ extend ครับ
และไม่จำเป็นต้องใช้คำว่า ALAA=OVER ด้วย
จึงไม่สามารถจะ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ครับ แต่ต้องคลุมศรีษะสถานเดียวเท่านั้น แล้วดึงมารวบปิดที่อก แล้วจะบอกว่าไม่สั่งได้อย่างไร
อีกทั้ง ยังมีขอบเขตการปิด อีก คือ คำว่า "ญุยูบิฮินนา" (their bosoms) ที่กุรอ่านใช้ "ญุยูบ" เป็นพหูพจน์ของ "ญัยบ์" ซึ่งแปลว่า ซอง ซอก ร่อง(อก) รากศัพท์ของคำนี้หมายถึง Neck และ Collarbone (กระดูกไหปลาร้า) ด้วย ดังนั้นญัยบ์จึงกินความตั้งแต่ปลายคาง ลำคอ ช่วงไหล่ อกช่วงบน ลงมาถึงหน้าอกเลย
หรือ ท่าน Imam Abu Abdullah Qurtubi: ก็บอกว่า "Women in those days used to cover their heads with the khimar, throwing its ends upon their backs. This left the neck and the upper part of the chest bare, along with the ears, in the manner of the Christians. Then God commanded them to cover those parts with the khimar."
อัลลอฮฺสั่งให้ปิดส่วนที่ พวกคนนอกศาสนาเคยเปิดไว้นั่นคือ the neck and the upper part of the chest bare, along with the ears
หรือ ท่าน Imam Abu'l-Fida ibn Kathir: ก็บอกว่า
"'Draw their khumur to cover their bosoms' means that they should wear the khimar in such a way that they cover their chests so that they will be different from the women of the jahiliyyah who did not do that but would pass in front of men with their chests uncovered and with their necks, forelocks, hair and earrings uncovered."
สตรีมุสลิมควร ใส่คิมารฺโดยที่ปิดหน้าอกของพวกเธอ ซึ่งจะแตกต่าง กับ สตรี สมัยป่าเถื่อนที่จะเปิดเผย คอ ผม และตุ้มหู
บรรดาผู้ที่เข้าใจภาษาอาหรับ เป็นนักวิชาการศาสนา ต่างก็บอกว่า ขอบเขตของ their bossom ที่ใช้คำว่า ญุยูบิฮินนา นั้น รวมไปถึงแม้กระทั้ง คอ และหูด้วย ซึ่งภาษาอังกฤษให้ความหมายได้ไม่หมด
ดังนั้น ผ้าคลุมผมปิดตั้งแต่ศรีษะ หู คอ เนินอกได้อยู่แล้ว แต่ถ้าปิดแค่อกแล้ว จะดึงไปคอ ถึง หูอย่างไร ต่อให้ใส่เสื้อคอเต่าก็ปิดไม่ถึงใบหูครับ
การที่บอกว่าอายะห์นี้ อนุญาตให้เปิดศรีษะ หรือไม่มีคำสั่งให้ปิดศรีษะนั้นจึงเป็นการอ้างที่ผิดเต็มๆ ทั้งเหตุผล และหลักการ
ผมถึงยกตัวอย่าไงล่ะครับว่า
ถ้ามีคนบอกว่า ให้ดึงโสร่งมาปิดหัวเข่า เขาจะดึงโสร่งให้ยาวลงมาปิดหัวเข่าครับ ไม่ใช่ถอดโสร่ง มาปิดหัวเข่า แล้วปล่อย อวัยวะเพศล่อนจ้อน โดยอ้างว่า ไม่มีคำสั่งให้ใส่โสร่ง เพราะคนที่รู้ความหมายจะรู้อยู่แล้วว่า โสร่งคืออะไร การที่บอกว่าให้ดึงโสร่งมาปิดหัวเข่า ก็รู้แล้วครับว่าอย่างแรกต้องใส่โสร่งก่อน
เช่น กัน การที่บอกว่า ให้ดึง ผ้าคลุมผมมาปิดหน้าอก ก็คือการให้คลุมผมแล้วดึงลงมาปิดถึงหน้าอกครับ ไม่ใช่ถอดผ้าคลุมผมแล้วปิดแค่หน้าอก ปล่อยหัวและผม เปลือยเปล่า หรืออ้างว่าไม่มีคำสั่งให้ปิดศรีษะ เพราะคนที่เข้าใจภาษาอาหรับเขาก็จะรู้อยู่แล้วว่า การใช้ คิมารฺนั้นใช้อย่างไร คิมารฺ ไม่ใช่ผ้าคลุมทั่วไป แต่เข้าใจ กับส่วนศรีษะ เหมือนโสร่งที่ใช้นุ่งนั่นแหละครับ
จากคุณ |
:
Carroth
|
เขียนเมื่อ |
:
6 พ.ย. 52 06:22:25
|
|
|
|
|