Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ว่าด้วยเรื่อง Galaxy S3 เปิดไม่ติด และศูนย์ซัมซุงที่สีลม vote ติดต่อทีมงาน

เป็นประสบการณ์ตรงกับการนำสินค้าเข้าศูนย์บริการครั้งแรกในชีวิตของผมครับ เอามาแชร์กัน อาจยาวหน่อยนะครับ ต้องขออภัยด้วย


ตอนที่ 1 : เมื่อ S3 ที่รัก..จากไปอย่างไม่ทันได้เตรียมใจ

    หลังจากที่ใช้มือถือ Samsung Galaxy S3 มาตั้งแต่เดือน ก.ค. ซึ่งถือเป็น android ตัวที่สองในชีวิต (ตัวแรกคือ Galaxy S) แล้วก็ถือว่าถูกใจประทับใจในภาพรวมของมือถือรุ่นนี้มาก และทะนุถนอมมันเป็นอย่างดี ใส่เคสตลอด มาได้ประมาณเกือบห้าเดือน

    เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ช่วงประมาณสิบโมงเช้า ก็ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น นั่นคือ อยู่ดีๆ S3 ของผมก็ดับไปแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย!!! ซึ่งทำเอาผมงงมาก เพราะจำได้ว่าตอนใช้ล่าสุดแบตยังอยู่ประมาณ 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่เรื่องของแบตหมด ดังนั้น ผมจึงพยายามจะเปิดเครื่องใหม่ แต่ก็เปิดไม่ติด จึงได้ลองวิเคราะห์หาวิธีแก้และลองเดาดูว่าปัญหามันน่าจะเกิดจากอะไร โดยเริ่มจากนำสายชาร์จมาลองเสียบชาร์จแต่ปรากฏว่า ไฟ led ที่แสดงสถานะการชาร์จก็ไม่ขึ้น ก็ยังลังเลว่าสายชาร์จเสียหรือแบตมีปัญหาหรือเปล่า จึงได้ทำการลองสลับสายชาร์จกับแบตกับรุ่นน้องที่ใช้ S3 อยู่เหมือนกัน ปรากฏว่า แบตของผมยังมีไฟ 60 กว่าเปอร์เซนต์ และสายชาร์จก็ยังใช้ได้ นั่นหมายความว่า มันน่าจะเป็นที่ตัวเครื่องของเราแล้วล่ะ

    หลังจากที่เครียดไปพักใหญ่ ผมจึงลองเปิดคอมแล้วลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตดู ปรากฏว่า เราไม่โดดเดี่ยวแล้ว เพราะมีหลายคนพูดถึงปัญหานี้อยู่เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่ที่อาการใกล้เคียงที่สุดก็คือ อาการของเมนบอร์ดพัง!!! ซึ่งต้องทำการเปลี่ยนเมนบอร์ด และเนื่องจากในช่วงนั้นผมยังอยู่ต่างจังหวัด ไม่ได้เข้ากรุงเทพฯจึงลองหาวิธีแก้อื่นๆที่น่าจะทำได้ระหว่างรอเข้าไปที่ศูนย์ โดยได้ลองกดปุ่มเปิดค้างประมาณสิบวินาที, ถอดแบตไว้ข้ามคืน แล้วเอามาใส่ใหม่ตอนเช้า ฯลฯ โดยทุกวิธีที่กล่าวมาก็ไม่มีวิธีไหนได้ผลดีขึ้น เพราะ S3 ของผมก็ยังไร้สัญญาณชีพอยู่เหมือนเดิม ผมจึงคิดว่า ในเมื่อเราปฐมพยาบาลเองไม่ได้ผล สงสัยต้องพาไปหาหมอให้เขาผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะให้แล้วล่ะ จึงค้นคว้าหาข้อมูลว่ามีศูนย์ซัมซุงอยู่ที่ไหนบ้าง และที่ไหนมีชื่อเสียง(ในด้านดี) มากที่สุด แล้วก็วางแผนการเดินทางไปยังที่นั่น รวมถึงหาที่จอดรถด้วย (ตอนแรกว่าจะนั่งรถไฟฟ้าไป แต่เปลี่ยนใจขับรถไปดีกว่า เพราะขับรถไปจากต่างจังหวัดครับ)

ตอนที่ 2 : พา S3 ที่รักส่งโรงหมอ(ที่สีลม) เพื่อกู้ชีพ

    แล้วก็ได้ข้อสรุปว่า ขอไปที่ศูนย์ซัมซุงที่สีลมแล้วกัน เพราะว่าส่วนใหญ่บอกว่า ที่นั่นบริการดี ช่างเก่ง ซ่อมได้ไว อะไหล่มีสต็อคค่อนข้างเยอะ  (แถมบางคนยังบอกว่า เจ้าหน้าที่สาวๆที่รับเครื่องน่ารักอีก ^_^) จึงตัดสินใจเดินทางไปแต่เช้าตรู่ของวันนี้ (เสาร์ 24 พ.ย.) เพราะอยากเป็นคิวแรกๆ เผื่อลุ้นว่าจะซ่อมเสร็จทันภายในวันนี้เลย แต่เอาเข้าจริงปรากฏดันไปถึงก่อนศูนย์เปิดตั้งครึ่งชั่วโมง(ศูนย์เปิดเก้าโมงในวันเสาร์ ส่วนวันธรรมดาเปิดแปดโมง) เพราะเผื่อเวลาเยอะไปหน่อย ตอนแรกกลัวรถจะติดเพราะเห็นว่าจะมีม็อบมีปิดเส้นทาง แต่ที่ไหนได้ ถนนโล่งมาก
    พอไปถึง ผมก็เอารถไปจอดที่ด้านหลังตึกเรียบร้อย ก็เข้าไปยืนรอจนศูนย์เปิด ซึ่งคนก็เริ่มทยอยมารอกันเยอะพอสมควรแล้ว ผมก็เข้าไปกดบัตรคิวแล้วก็ได้บัตรคิวเป็นคิวแรกของวันได้สำเร็จ!!! จากนั้นก็เข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่ (มีน่ารักหลายคนตามคำร่ำลือจริงๆด้วย) ที่เค้าท์เตอร์ 7 รู้สึกว่าจะชื่อคุณน้ำฝน แล้วก็แจ้งอาการให้ฟัง ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็รับเครื่องไปแล้วก็ให้กรอกเอกสารส่งซ่อมโดยที่ไม่ได้ขอเอกสารพวกใบเสร็จหรือใบประกันอะไรจากผมเพิ่ม(เดี๋ยวนี้น่าจะสแกนบาร์โค้ดเอา) แล้วคุณน้ำฝนก็แจ้งผมว่า "ถ้ายังไงคาดว่า 2-3 วันน่าจะซ่อมเสร็จนะคะ" แต่ผมก็อธิบายไปว่า เดี๋ยวผมต้องกลับไปทำงานต่างจังหวัดในวันจันทร์ ไม่ทราบว่า ถ้ามีอะไหล่พร้อมแล้ว หากเป็นไปได้ผมรบกวนขอให้ช่วยซ่อมให้ทันวันนี้หน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมรอรับ เพราะผมน่าจะไม่ได้เข้ากรุงเทพฯบ่อยๆ ซึ่งคุณน้ำฝนก็บอกว่า เดี๋ยวจะลองคุยกับช่างดูให้ แล้วเธอก็ถือเครื่องไปให้ช่างด้านหลังดู พร้อมกับมีเสียงคุยกันประมาณว่า ช่างถามว่า เครื่องนี้เป็นอะไรเหรอ แล้วคุณน้ำฝนก็ตอบว่า เปิดไม่ติด ชาร์จไม่เข้า ช่างก็บอกว่า โห วันนี้เคสแรกก็หนักเลย งั้นเดี๋ยวดูให้ก่อนเลย แล้วคุณน้ำฝนก็เดินกลับมาแล้วบอกผมว่า "เดี๋ยวถ้ายังไงรบกวนรอสองชั่วโมงนะคะ สิบเอ็ดโมงค่อยมารับเครื่องได้ แต่ข้อมูลในเครื่องอาจจะหายหมดเลยนะคะ" พอได้ยินอย่างงั้นผมก็โล่งใจเลยครับ ข้อมูลข้างในช่างมัน ปกติผม back up ข้อมูลสม่ำเสมออยู่แล้วเลยไม่ค่อยเสียดายอะไร แค่ขอให้มันเปิดติดออกมาใช้ได้ก็พอแล้ว จากนั้นเลยออกมาจากร้านซัมซุงออกมานั่งทานมื้อเช้าที่ starbucks ข้างๆ รอจนสิบเอ็ดโมงแล้วจึงกลับไปที่ศูนย์อีกครั้ง พร้อมกับลุ้นว่าสุดท้ายแล้วจะซ่อมได้หรือเปล่า..แล้วจะเสียค่าซ่อมไหม....

ตอนที่ 3 : ขอบคุณจากใจ

    หลังจากที่เดินกลับไปที่ศูนย์ พบว่าคนก็ยังเยอะอยู่พอสมควร จึงเข้าไปนั่งกดคิวแล้วก็รอเรียก พอถึงคิวผมก็เข้าไปรับเครื่อง ซึ่งผลก็ปรากฏว่า ซ่อมเสร็จแล้วจริงๆด้วย!!! ตอนนั้นดีใจมากครับ แต่ก็ยังติดอยู่ว่า จะต้องเสียค่าซ่อมหรือเปล่า เลยถามเจ้าหน้าที่ไป แต่สรุปสุดท้ายก็ได้รับข่าวดีครับ คือ "ไม่เสียค่าใช้่จ่ายใดๆเลย" เพราะยังอยู่ในประกัน ผมจึงถามสาเหตุและวิธีการซ่อม ซึ่งก็เป็นไปตามคาดครับ เป็นเพราะเมนบอร์ดเสีย!!! แล้วก็ซ่อมโดยการเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ให้ ซึ่งผมก็ยังงงๆอยู่ว่า ทำไมมันถึงเสียง่ายจัง เพราะอย่างรุ่นเก่าที่ผมใช้ (Galaxy S1) นั้น ใช้สมบุกสมบัน เปียกฝน ตกหล่นก็บ่อยยังไม่พังเลย แต่ S3 นี่ถนอมมากๆแล้วดันเป็น คงต้องให้ทางซัมซุงช่วยกลับไปศึกษาแล้วแก้ปัญหานี้ดูแล้วล่ะครับ เพราะมันค่อนข้างเป็นหลายเครื่องแล้ว เท่าที่ผมเห็นข้อมูลในอินเตอร์เน็ตมา (ไม่เคยคิดว่าจะโดนกับตัวเอง แต่ก็โดนไปกับเขาด้วยเหมือนกัน -_-' ) และผมเองก็คงต้องระมัดระวังการใช้งานมากขึ้นพอสมควร เพราะก็ยังไม่รู้ว่ามันจะเสียอีกเมื่อไหร่ แต่ทางศูนย์เองก็ประกันการซ่อมให้ 90 วันซึ่งก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะครับ ^_^

 
 

จากคุณ : TaeChelsea
เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 55 20:46:04




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com