"หากเราปฏิบัติแบบเดียว เป็นนักเดินทางขาเดียว เน้นทำวิปัสสนาอย่างเดียว โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมถะ ก็อาจเปรียบได้กับการใช้มีดปอกผลไม้เล่มเล็กๆ ไปฟันต้นไม้ใหญ่ แม้เราจะฟันลงไปหลายๆครั้งด้วยความอุสาหะพยายามแค่ไหน แต่กว่าต้นไม้ใหญ่จะโค่นลงได้ ก็คงต้องเหนื่อยยากเกินบรรยาย ผู้ที่ปฏิบัติวิธีนี้ นานวันเข้าแรงกายแรงใจอาจจะถดถอย ทำให้หมดกำลังใจ และละทิ้งการปฏิบัติไปในที่สุด เพราะมองว่าการปฏิบัติธรรมนั้นช่างไร้ค่า บากบั่นทำอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่เกิดผลอะไร
ส่วนบางคนที่คิดว่าจะเน้นทำสมถะเพียงอย่างเดียว โดยไม่ทำวิปัสสนา และฝังตัวเองอยู่กับการทำสมาธิโดยไม่สนใจการเจริญวิปัสสนานั้น ก็คงไม่ต่างอะไรกับผู้ที่เสาะแสวงและลงทุนหาเครื่องมือที่ดีที่สุดมา เพื่อโค่นต้นไม้ใหญ่ แต่กลับไม่ลองลงมือตัดต้นไม้เลย ย่อมเท่ากับลงทุนไปโดยเปล่าประโยชน์ หรืออีกแบบหนึ่งที่น่าเสียดายยิ่งกว่าก็คือ คนที่หาเลื่อยไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ดีที่สุดมาได้แล้ว แต่กลับไม่ยอมใช้เลื่อยนั้นโค่นต้นไม้ ได้แต่ใช้หั่นแตงโม นั่นสัปปะรดกินไปเรื่อย คนประเภทนี้ก็เปรียบได้กับคนที่ปฏิบัติสมถะจนได้ฌานขั้นสูงๆ แต่กลับใช้กำลังสมาธินั้นไปกับการเล่นฤทธิ์ หรือหาความสุขสงบ โดยไม่ยอมใช้เพื่อการวิปัสสนา เพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์ให้แจ้ง"
จากปกหลัง"สมถะเท้าขวา วิปัสสนาเท้าซ้า่ย"
จากคุณ |
:
ธิลักษ์
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ค. 55 21:15:31
|
|
|
|