ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับ วันนี้ผมเบิร์ด SG 11 และหนุ่ย SG 12 จากทีมสะแกกรัง จะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่จังหวัดอุทัยธานี เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองพระชนกจักรี" ในระยะเวลาสองวันหนึ่งคืนนี้เราได้ไปพบเจออะไรกันบ้าง ตามไปดูกันได้เลย... จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:27:20 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สถานที่แรกที่เราจะพาไปเที่ยวชมกันก็คือ "หุบป่าตาด" ที่ว่ากันว่าใครได้มาที่นี่แล้วจะได้พบบรรยากาศเหมือนกับยุคดึกดำบรรพ์หรือ ยุคไดโนเสาร์อะไรแบบนั้นกันเลยทีเดียว หุบป่าตาดอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองอุทัยธานีเท่าไหร่ เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ แม้นักท่องเที่ยวจะมีไม่มากแต่เจ้าหน้าที่ก็ให้บริการและให้คำแนะนำเป็น อย่างดี จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 3 จากทางเข้าเดินตามทางเดินไปแบบสบายๆ จะพบกับอุโมงค์ที่เราจะต้องเดินผ่านไปเพื่อที่จะเข้าไปที่หุบด้านในครับ ระยะทางในอุโมงค์ค์ไม่ไกลเลยประมาณ 50 เมตรเท่านั้น เดินสักครู่เดียวก็ถึงระหว่างทางเดินเราก็ส่องไฟฉายดูหิน ดูค้างคาวไปด้วยได้บรรยากาศธรรมชาติมากเลย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:28:15 ]

ความคิดเห็นที่ 4 .... จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:28:38 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อุโมงค์ที่เราเดินผ่านมานั้น เดิมทีนั้นไม่สามารถเดินทะลุมาได้นะครับ เพราะเมื่อก่อนนั้นทางออกไม่มี หลวงพ่อทองหยด ผู้ค้นพบหุบป่าตาดแห่งนี้จึงเกณฑ์ชาวบ้านให้มาช่วยกันคนละไม้คนละมือจนเปิด อุโมงค์เป็นทางเดินผ่านมาได้ เหตุที่คิดว่าให้ชาวบ้านมาช่วยกันได้ก็เพราะว่าเมื่อลองให้คนที่อยู่ในถ้ำ ด้านในตอนนั้นกับคนที่อยู่ด้านนอกแล้วเคาะๆสำรวจดู ก็ยังได้ยินกันจึงคิดว่าหินไม่หนามากนั่นเอง จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การท่องเที่ยวครั้งนี้เรามาพร้อมกับโครงการ "คืนป่า รักษ์น้ำ เพื่อโลกสีเขียว" โดยโครงการนี้ได้มีเป้าหมายในการอนุรักษ์ป่าไม้ สัตว์ป่า แหล่งน้ำตามธรรมชาติ รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่เกิดปัญหา และต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา และนั่นเองที่ทำให้เราได้พบกับ "นัท" นักศึกษาสาวที่เข้ามาทำรายงานในหุบป่าตาด เราไม่รีรอที่จะเข้าไปแนะนำโครงการนี้ให้นัทฟัง แน่นอนครับ..คนสวยก็ต้องใจบุญอยู่แล้ว นัทเป็นคนแรกในจังหวัดอุทัยธานีที่เราประชาสัมพันธ์โครงการนี้ให้ฟัง แล้วเธอก็ไม่รีรอที่จะได้ร่วมทำบุญกับเรา ชื่นใจจริงๆครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 14:41:29 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:29:53 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อากาศที่หุบป่าตาดนี้ปกติจะชื้นตลอดทั้งปี อ้อ..บอกไว้ก่อนสำหรับคนที่คิดจะไปเที่ยวที่หุบป่าตาดล่ะก็ อย่าลืมทายากันยุงกันไปด้วย เพราะว่าที่นี่ว่ากันว่ายุงเยอะทีเดียวครับ ก็เพราะอากาศชื้นนี่แหละ ดีที่ว่าวันที่เราไปเที่ยวชมกันนั้นแดดดีก็เลยรอดตัวไป ไม่โดนยุงกัด จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 .... จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:30:40 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ที่หุบป่าตาดที่นี้จะแบ่งส่วนของหุบออกเป็น 2 ช่วงนะครับ โดยการเข้าออกเป็นทางเดียวกัน ตลอดการเดินทางท่องเที่ยวก็ได้พี่ผจญ เจ้าหน้าที่ที่คอยมาอำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดีเลย ผมสังเกตได้ครั้งแรกก็กับพี่ผจญ นี่แหละครับว่าผู้คนที่นี่ยิ้มง่าย และมีอัธยาศัยที่ดีมากๆ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:31:02 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ระหว่างที่เราเข้าไปที่หุบด้านใน พี่ผจญบอกว่าในบางช่วงของปีที่นักท่องเที่ยวไม่มากนักนี่จะมี "เลียงผา" มานอนเล่นอยู่ที่หุบป่าตาดนี้ด้วย ว่าแล้วแกก็พาไปชี้จุดที่แกบอกเองว่าเคยเห็นกับตาตัวเองมาแล้วด้วยล่ะ...ว้า ว! แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 14:42:01 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:32:04 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากเดินออกมาแล้ว จากนั้นเราจึงปรึกษากันเรื่องการท่องเที่ยวในทริปนี้ของเรา เนื่องจากว่า smartguide อีกทีมหนึ่งที่เดินทางมาพร้อมกันกับเรานั้น หลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วพบว่าแนวทางการท่องเที่ยวคล้ายกันมากๆ เพราะว่าเริ่มที่แรกหุบป่าตาดนั้นเราก็มาเหมือนกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจมาก่อน แล้วพอมาพูดคุยกันว่าแต่ละทีมจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างนั้น เอาว่าคล้ายกันขนาดไปติดต่อร้านจักรยานที่กะว่าจะใช้ขี่เที่ยวรอบเมืองยัง ที่เดียวกันเลย เราเปลี่ยนแผนใหม่ โอเค..เรารู้ว่า smartguide ที่ดีควรจะมีแผนการเดินทางที่ดี แต่เราก็คิดว่าหากเมื่อทั้ง 2 ทีม ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดนี้พร้อมกัน มีแผนการเดินทางท่องเที่ยวเหมือนกัน ก็ใช่ว่าแม้จะเดินทางไปที่เดียวกัน แต่ละทีมก็อาจมีวิธีการนำเสนอที่ต่างกัน ทว่าเราคิดว่าน่าจะเป็นการดีกว่าถ้าเราจะไปนอกเส้นทางที่เตรียมไว้ตั้งแต่ ต้น ก็เรามาเที่ยวก็เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องเที่ยวอยู่แล้วนี่ การได้ไปในสถานที่ๆต่างกัน น่าจะทำให้คนที่มองมาในการท่องเที่ยวครั้งนี้ ได้เห็นอะไรที่หลากหลายขึ้น เราก็เลยตกลงกันตามนี้ครับ เราแวะทาน ก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้าน"สำเนียง" บอกชื่อไว้หน่อยเพราะซี่โครงหมูอร่อยดี แถมราคายังไม่แพงอีกตะหาก ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อร้านสำเนียง เราก็คิดว่าคุณพี่ที่เป็นคนทำก๋วยเตี๋ยวคือชื่อนี้ แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ครับ สำเนียง คือชื่อคุณแม่ ส่วนคุณพี่ชื่อ "วีนัส" อื้อหือ..ฟังชื่อแล้วตื่นเต้นนิดนึงเลยอะ หลังทานก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จพี่วีนัสก็ได้ร่วมทำบุญกับเราด้วย เราจึงถามแกว่าแถวนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวใดน่าสนใจบ้าง แกจึงแนะนำ ให้ขึ้นไปบนวัดเขาสังกัสฯ ดูทางขึ้นสิครับ เราต้องเดินขึ้นบันไดกัน 449 ขั้น เชียวนะ กว่าจะถึงข้างบน แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 14:42:46 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:32:38 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ดูรูปแล้วอย่าเพิ่งตกใจกันล่ะครับ สำหรับท่านใดที่อยากมาเที่ยวที่วัดเขาสังกัสฯนี้แต่ไม่อยากเดินขึ้นบันไดล่ะ ก็ มีถนนที่สามารถเดินทางมาได้เหมือนกัน....ค่อยอุ่นใจกันหน่อยละซี่ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:33:07 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ... แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 14:39:43 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:38:14 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ที่วัดสังกัสรัตรคีรีนี้ช่วงเวลาที่น่าสนใจที่สุดคือ ในวันออกพรรษานะครับเพราะว่ามีประเพณีตักบาตรเทโวด้วย  โดยจะมีพระมาเดินบิณฑบาตที่ตามบันไดทั้ง 449 ขั้น พอเราได้ยินได้ฟังอย่างนี้แล้ว ก็ทำให้นึกขึ้นในใจบ้างเหมือนกันว่าหากมีโอกาสคงต้องมาเยือนที่วัดนี้ในวันออกพรรษาให้ได้เลย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 4 ก.ย. 51 14:41:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 #15 มาเร็วจิงๆครับ หลังจากเหนื่อยกันกว่าจะขึ้นไปถึงด้านบน แต่จากสิ่งที่เราเห็นเบื้องหน้าก็ทำให้เราหายเหนื่อยไปได้เหมือนกัน วิวเมืองอุทัยธานีจากด้านบนนี้ต้องบอกว่า อยากให้ทุกคนได้มาเห็นจริงๆครับ  ถือเป็นวิวจากมุมสองที่มองเห็นได้ทั้งเมืองแบบเยี่ยมไปเลย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราใช้เวลาสักพักหนึ่งสำหรับการเที่ยวชมวัดและวิวด้านบนรวมทั้งสักการะพระพุทธรูป จากนั้นเราจึงเดินทางกันต่อสู่จุดมุ่งหมายถัดไปนั่นก็คือ วัดอุโบสถาราม (ในรูปตามป้ายคือ วัดอุโบสถาราม แต่ในหนังสือนำเที่ยวหลายเล่มบอกว่าชื่อ วัดอุโปสถาราม) แต่ชาวบ้านก็เรียกกันติดปากว่า "วัดโบสถ์" ครับผม จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:45:27 ]

ความคิดเห็นที่ 18 วัดอุโบสถาราม เดิมชื่อว่า "วัดโบสถ์มโนรมย์" สร้างขึ้นในปลายสมัยกรุงธนบุรี ภายในบริเวณวัดมี "มณฑปทรงแปดเหลี่ยม" สถาปัตยกรรมในช่วงยุคล่าอาณานิคม โดยหลวงพิทักษ์ภาษา ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2442 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 14:47:19 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:46:08 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ความรู้สึกเราเองหลังจากที่เดินไปเดินเที่ยวชมแล้ว ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจดีเหมือนกันครับ เพราะบรรยากาศโดยรอบมณฑปทรงแปดเหลี่ยมนี้ ดูแตกต่างกันมากๆ แถมยังมาตั้งอยู่ริมแม่น้ำซะอีกนะ เก๋ซะไม่มี จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ที่วัดโบสถ์ นอกจากมณฑปแล้วสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์และในวิหารนี่เองครับ  โดยภาพจิตรกรรมทั้งหมดนี้คาดว่าได้เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 นี่เอง จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราเดินดูภาพจิตรกรรมได้ไม่นานเท่าไหร่ พอออกมาด้านนอกอีกครั้ง ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มแล้วครับ อย่างที่บอกตอนแรกว่ามณฑปทางแปดเหลี่ยมนี้สร้างขึ้นริมแม่น้ำสะแกกรังเลยทีเดียว เราก็เลยลองเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วถ่ายรูปบรรยากาศมาให้ดูกัน แม้ในรูปนี้บรรยากาศคงจะไม่เหมือนกับตอนที่มณฑปนี้ถูกสร้างขึ้น แต่เราก็ยังคิดว่าเป็นบรรยากาศที่ดีมากๆอยู่ดี จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:48:38 ]

ความคิดเห็นที่ 22 แน่นอนครับว่าในเมื่อเรามาเที่ยวที่จังหวัดอุทัยธานี สิ่งหนึ่งที่ทีมเราซึ่งก็ชื่อทีม "สะแกกรัง" ต้องไม่พลาดที่จะได้มาซึมซับบรรยากาศก็ย่อมต้องเป็นวิถีชีวิตที่ลุ่มแม่น้ำแห่งนี้เอง แล้วนี่เป็นวิวของชุมชนลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง เมื่อเรามองจากวัดโบสถ์ แล้วเดี๋ยวเราเดินข้ามไปที่ฝั่งนั้นกันนะครับ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:49:18 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เราค่อยๆเดินข้ามสะพานที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดมอเตอร์ไซด์ขับได้ คนเดินได้ แต่รถยนต์อดผ่าน เดินไปด้านบนเพื่อสัมผัสบรรยากาศเหนือลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:49:40 ]

ความคิดเห็นที่ 24 อย่างที่เราบอกว่าหลังจากเราเดินออกมาจากวิหารวัดโบสถ์แล้วท้องฟ้าก็มืดครึ้ม แต่ภาพที่เราได้เห็นบนสะพานนี้ แม้ท้องฟ้าจะไม่ปลอดโปร่ง แต่ภาพเบื้องหน้าเราก็งามเหลือเกิน จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:50:13 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โดยที่เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เราทั้งคู่กลับรู้สึกตรงกันว่าการเดินทางท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ เราอยากมาสัมผัสแบบนี้แหละ ภาพความสวยงามของผู้คนกับวิถีชีวิตริมแม่น้ำ มองออกไปไกลๆเราเห็นผู้คนกำลังภายเรือจากอีกฝั่งนึงของแม่น้ำข้ามไป โดยที่ไม่ต้องเสียค่าเรือข้ามฟาก 3.50 บาท แบบที่เราเคยชินกันที่กรุงเทพด้วยแหละ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:50:45 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เราใช้เวลาอยู่บนสะพานอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ลุงท่านนี้คงเห็นเรายืนถ่ายรูปอยู่บนสะพานอยู่นานพอสมควร พอแกพายเรือมาใกล้ทางลอดใต้สะพาน จึงโบกมือให้กับเราพร้อมยิ้มแย้มให้ถ่ายรูปอย่างน่ารักมากๆ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:51:19 ]

ความคิดเห็นที่ 27 แม้เราจะเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่เวลาไม่นานเราก็เห็นชาวบ้านสัญจรกันด้วยการพายเรือเดินทางอยู่ตลอด พอเราเดินมาได้ถึงกลางสะพาน เราหันหลังแล้วมองย้อนกลับไปที่วัดโบสถ์ เป็นโชคดีของเราพอดีที่มีชาวบ้านพายเรือมาอยู่ใกล้ๆ ภาพที่เราเห็นเบื้องหน้าช่างสวยงามเป็นที่สุด บางทีคนเราการหาความสุขก็อาจจะเป็นการกลับไปหาอะไรที่เรียบง่ายแบบนี้ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 28 หลังจากที่เราเดินข้ามสะพานจากวัดโบสถ์มาอยู่ที่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นตลาดสดเทศบาล ของชุมชนลุ่มแม่น้ำสะแกกรังก็เป็นเวลาเย็นพอควรแล้ว อาจจะเพราะชาวบ้านคิดว่าเราดูไม่เหมือนคนท้องถิ่นก็ได้ ทำให้คุณป้าละเอียดยิ้มให้กับเราอย่างพิมพ์ใจ เราจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปพูดคุยด้วย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:52:14 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่เรารู้สึกได้อย่างง่ายดายว่าผู้คนที่นี่ดูอารมณ์ดีกันอย่างบอกไม่ถูก คุณป้าละเอียดอายุกว่า 70 ปีแล้วแต่ยังแข็งแรงดีอยู่ ที่แขนขวาสะพายถังน้ำ(ตอนแรกเบิร์ดคิดว่าเป็นตะกร้า แต่หนุ่ยบอกว่าไม่ใช่ จึงเอารูปมาดูกันเลยรู้) ข้างในมีผักเอยอะไรเอย หนักใช่เล่นเหมือนกัน จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:52:41 ]

ความคิดเห็นที่ 30 บรรยากาศตลาดนี่แม้ไม่คึกคักเท่าไหร่ แต่เราก็แอบเห็นป้าย "คนอุทัยไม่เอา...(ห้างยักษ์ใหญ่)" เราเห็นแล้วก็แอบเห็นด้วยในทีเหมือนกัน แล้วก็แอบคิดไปด้วยว่า ถ้าเกิดในชุมชนแห่งนี้มีห้างยักษ์ใหญ่มาเปิดจริงๆ บรรยากาศที่เราเห็นอยู่ตอนนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บรรยากาศที่ดูเหมือนทุกคนรู้จักกันหมด ตลาดเหมือนเป็นที่พบปะสังสรรค์ของคนในชุมชนก็คงเปลี่ยนไป ในรูปเป็นวัดโบสถ์เมื่อเรามองจากที่ตลาดครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 14:54:21 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:53:09 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ตอนที่เราถ่ายรูปวัดโบสถ์จากฝั่งตลาดนี้เอง ทำให้เราต้องเดินไปใกล้ๆตลิ่ง ลุ่มน้ำสะแกกรังตอนนี้น้ำไม่ขึ้นสูงมากนัก ทำให้ตอนแรกเราไม่ทันได้สังเกตทั้งที่ตอนอยู่ฝั่งนู้นก็เพิ่งมองมาแท้ๆ บ้านไม้ลอยกลางน้ำอยู่บนแพของหลายครอบครัวอยู่ที่เบื้องหน้าเรา เรามองหาที่เดินลงไปให้ได้ใกล้ที่สุดทันที จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:53:44 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ยายม้วย นั่งอยู่ที่ประตูหน้าบ้านยิ้มแย้มทันทีที่เราเดินลงไปนั่งที่ใกล้ๆกับแพแล้วยกมือสวัสดี ยายม้วยเล่าให้ฟังว่าแกเป็นคนที่นี่ตั้งแต่เกิด แต่ว่าตอนแรกก็ไม่ได้ลงมาอยู่กลางน้ำแบบนี้ ยายม้วยที่วันนี้อายุกว่า 80 ปีแล้วเล่าให้ฟังว่าตอนสมัยรุ่นๆอายุสิบกว่า กลับพบว่าตัวเองชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่กลางน้ำมากกว่า ก็เลยอยู่ที่ตรงนี้มาตั้งแต่นั้น ตอนนี้บ้านหลังนี้ยายม้วยอยู่กับหลานๆรวมกันทั้งหมด 5 คน แกเล่าให้เราฟังอย่างอารมณ์ดีตรงที่แกนั่งที่เดิม จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 หลังจากนั่งคุยกันเพลินๆไม่ทันรู้ตัว ท้องฟ้าเมฆหนาทึบก็คลืบคลานเข้ามาหาเราแล้วครับ เห็นเมฆขนาดนี้ได้ไม่เกิน 3 นาที ฝนก็เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตาเลย แต่ดีนะว่าวิ่งทัน เป็นอันว่าวันนี้เราคงต้องหลับฝนแล้วเข้าที่พักแล้วล่ะครับ.... จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:55:25 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เช้าวันที่ 2 ของการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ "เรา" ทีมสะแกกรัง คุยกันว่าจะออกไปท่องเที่ยวในที่ๆยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก เราเลือกเดินทางไปที่ อ.บ้านไร่ ห่างจากตัวเมืองอุทัยธานีประมาณ 2 ชั่วโมง เป้าหมายที่เราจะไปคราวนี้ถนนยังทำไม่เสร็จเลย ระหว่างทางก็ต้องผ่านถนนลูกรังนิดหน่อย แต่บรรยากาศสองข้างทางก็ร่มรื่นดีครับ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:55:59 ]

ความคิดเห็นที่ 35 หนทางบางช่วงต้องลัดเลาะตัดภูเขาเข้าไป แม้ถนนหนทางจะไม่สะดวกเท่าใดนัก แต่เมื่อเรามองออกไปนอกหน้าต่างรถ เราก็พบกับวิวธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวขจีอยู่ตรงหน้า เราอดใจไม่ไหวที่จะหยุดรถ แล้วลงไปบันทึกรูปเอาไว้ครับ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:56:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ระหว่างทางเราได้พูดคุยกับพี่ลูกขิ่น เพราะตอนแรกเราหาไม่เจอ พี่ลูกขิ่นนอกจากบอกทางเราแล้ว ยังแนะนำเราด้วยว่าให้หาคนนำทางพาไปดูซากเครื่องบินสมัยสงครามโลก แต่เวลาเรามีไม่พอครับ จากทางที่พี่ลูกขิ่นบอกมาไม่ไกล เราก็ถึงบ้านเจ้าวัด อ.บ้านไร่ ต.อีมาดอีทราย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:57:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เราเดินลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในหมู่บ้าน บ้านทุกหลังนี่สร้างกันแบบเรียบง่ายทุกหลัง เราเดินเข้าไปด้านในจนพบบ้านหลังหนึ่งที่มีชาวกะเหรี่ยงนั่งนอนเอกเขนกอยู่ด้านใน พร้อมกับยกมือไหว้แนะนำตัว(ในรูปด้านซ้ายคือ "ธิ" และด้านขวามือ "พี่แตงโม" จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:58:17 ]

ความคิดเห็นที่ 38 พี่แตงโม เล่าให้เราฟังว่าแกอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดพ่อแม่เป็นชาวกะเหรี่ยง รวมถึงทุกคนในหมู่บ้านนี้ประมาณ 30 ครัวเรือนเช่นกัน  ผู้คนที่นี่มีไมตรีดีมากนะครับ เพราะขณะที่สนทนากันเบิร์ดก็เข้าไปนั่งในบ้านกันเพลินเลย แถมยังตักน้ำให้ดื่มอีกด้วย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:58:50 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ชาวกะเหรี่ยงที่นี่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ไปทำงานนอกพื้นที่เลย  พี่แตงโมบอกว่าถ้าเราไปเป็นลูกจ้างเค้า ก็ต้องทำงานตามแต่ที่นายจ้างต้องการ เราจะทำอะไรอย่างที่เราอยากทำก็ไม่ได้...ในรูปเป็นเด็กๆที่หมู่บ้านครับ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 14:59:28 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แกบอกว่าทุกวันนี้ก็ปลูกไร่แบบนี้ก็สบายดี ไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็อยู่แบบพอมีพอกิน ไม่ต้องดิ้นรนกับชีวิตมาก ชาวกะเหรี่ยงส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็ปลูกข้าวโพดบ้างอะไรบ้าง รวมถึงปลูกข้าวด้วยครับ ได้ข้าวเปลือกมาก็มาตำเอาเองด้วยเลย หลังจากสนทนากันได้ครู่ใหญ่ก่อนล่ำลากันจึงให้พี่แตงโมช่วยสาธิตวิธีการตำข้าวซะหน่อย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:00:24 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ความตั้งใจเราทีม "สะแกกรัง" ตั้งใจว่าในวันที่ 2 นี้จะเปิดมุมมองอทุยธานีที่ทุกคนยังไม่เคยเห็น จากหมู่บ้านกะเหรี่ยงแล้ว เราเลือกเดินทางไปที่ "น้ำตกผาร่มเย็น" ไม่ไกลจากที่เดิมมากนัก แน่นอนถนนทางเข้าน้ำตกนี้ก็ยังเป็นถนนลูกรังเช่นกัน ตอนที่เครื่อง GPS บอกเราว่าถึงจุดหมายแล้ว เรายังหาทางเข้าไม่เจอเลยก่อนจะหันไปเห็นป้ายนี้ครับ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:01:33 ]

ความคิดเห็นที่ 42 น้ำตกนี้ไม่มีร้านค้าอยู่ล้อมรอบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เห็นสักเท่าไหร่ ทางเดินเข้าไปด้านในเป็นการถางทางเดินแบบคนเดียวเดินเรียงกันแคบๆ ระหว่างทางก่อนถึงน้ำตกด้านในต้องผ่านสะพานไม้ 2 สะพาน หวาดเสียวไม่ใช่เล่นเลยครับ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:02:00 ]

ความคิดเห็นที่ 43 บรรยากาศทางเดินสองข้างทาง มีผีเสื้อบินคลอเคลียกับเราไปด้วยตลอดทางแม้ทางเดินจะแคบแต่ก็ชื่นใจเหลือเกิน เดินเข้าไปถึงด้านในเป็นลำธารสลับกับน้ำตกเล็กๆ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:02:33 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ระยะทางแค่ไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพเราก็ได้มาพบกับความเขียวชอุ่มแบบธรรมชาติสุดๆแบบนี้ ทำเอาเราต้องค่อยๆเดินเที่ยวชมไปทีละน้อยเลย จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:02:58 ]

ความคิดเห็นที่ 45 สภาพแวดล้อมที่น้ำตกผาร่มเย็นนี้จะว่าไปก็คล้ายๆกับที่หุบป่าตาดอยู่เหมือนกันครับ เราเห็นต้นตาดอยู่ที่นี่เหมือนกัน อากาศชื้นๆเย็นๆทำให้เดินกันเพลินจนเบิร์ดมือไปชนเข้ากับต้นไม้อะไรสักอย่างดังในรูปด้านขวาที่มีเหมือนหนามออกมานอกตัวต้น โดนเข้าไปนิดเดียวเจ็บเหมือนโดนเสี้ยนตำอยู่เหมือนกัน จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ที่จริงเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวน้ำตกที่สวยที่สุดของน้ำตกผาร่มเย็นนี้อยู่ที่ไหน เพราะด้านในนี้ไม่มีป้ายบอกทางหรืออะไรเลย แต่เราว่านั่นก็ไม่ใช่ปัญหานะ จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:04:15 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เพราะเราเองก็มาเที่ยวโดยที่ไม่ได้คาดหวังว่าต้องเจออะไรที่มากกว่าสิ่งที่เราเห็นตรงหน้า รากไม้และน้ำที่กัดเซาะหน้าดินจนเกิดเป็นน้ำตกเล็กๆ แค่นี้ก็เพียงพอให้เราหยุดถ่ายรูปอยู่หลายมุมทีเดียว จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:04:44 ]

ความคิดเห็นที่ 48 เราเดินเล่นอยู่ที่บริเวณน้ำตกผาร่มเย็นอยู่จนใกล้ได้เวลานัดพบทีมงาน แม้เราจะเดินไปไม่ถึงด้านบนของน้ำตก แต่เราก็ไม่รู้สึกแย่สักนิด แต่กลับประทับใจมากกว่าที่เราจะได้กลับไปบอกใครหลายๆคนว่าน้ำตกที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจแห่งนี้ กลับสวยงามอย่างที่เราคิดว่าต้องกลับมาเยือนอีกครั้งแน่นอน จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:05:10 ]

ความคิดเห็นที่ 49 เราคงต้องขอจบการเดินทางของเราสองคนเพียงเท่านี้ 2 วัน 1 คืน ที่จังหวัดอุทัยธานี สนุกกว่าที่เราเคยคิดเอาไว้ และสวยงามกว่าที่เคยได้ยินมามาก เราทั้งได้เข้าไปพูดคุยกับนัทและพี่ผจญที่หุบป่าตาด เราได้คำแนะนำเรื่องการท่องเที่ยวจากพี่วีนัสที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ริมลุ่มแม่น้ำสะแกกรังเราได้ยินได้ฟังเรื่องราวของยายละเอียดและยายม้วย ที่หมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงเราได้ฟังการใช้ชีวิตแบบพอเพียงของพี่แตงโม เราได้รับโจทย์พิเศษว่าอะไรที่สื่อถึงจังหวัดอุทัยธานี แต่เราคิดว่าเราไม่อยากเจาะจงลงไปว่าคืออะไร แต่เราคิดว่าเราได้ทำให้คุณเห็นไปแล้วทั้งจากรูปภาพและคำบรรยายด้านบน และที่สำคัญที่สุดเราอยากให้คุณได้มาท่องเที่ยวที่นี่ด้วยตัวคุณเอง อย่างชื่อการเดินทางของเราคือ "สัมผัส...อุทัยธานี" แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 51 15:06:13 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:05:51 ]

ความคิดเห็นที่ 50 อาทิตย์ นี้อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ ออกช่วง Smartguide สักประมาณ 9 โมงได้ รายการ IE Metropolis ช่อง 5 แล้วก็ถ้าว่างๆพอมีเวลากันคลิ๊ก link โหวต ให้เป็นกำลังใจหน่อยนะฮะ http://www.ielivetv.com/smartguide/view_guide.php?id=148 จากคุณ : BabeEyeView - [ 4 ก.ย. 51 15:11:34 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ห้ามนำรูปในกระทู้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร มีรูปชุดอื่นให้เลือกชมมากมายที่... เล่นพันทิปคลิ๊ก bloggang :  http://birdeyeviewphoto.bloggang.com เล่นมัลติพาย ก็ไปที่นี่เลย  :  http://birdeyeview.multiply.คอม เปลี่ยนเป็น com ด้วยนะ สำหรับวันนี้ขอบคุณมากครับ ... จากคุณ : Mr.DogGie (BabeEyeView) - [ 4 ก.ย. 51 15:14:45 ]

ความคิดเห็นที่ 52 เดินมาชมความงามค่า ....,,, (^________^*) จากคุณ : *~T S u Y u~* - [ 4 ก.ย. 51 21:11:04 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เป็นเมืองที่ต้องตั้งใจไปครับ   แต่อบอุ่นและดูสงบมากๆ  ไม่ไกลกรุงเทพเท่าไหร่ ผมเคยอยู่ที่นี่เกือบสองปี   คิดถึงจัง จากคุณ : จอมยุทธเจ้าสำราญ - [ 4 ก.ย. 51 23:59:10 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เคยไปมานานหลายปีแล้ว  ชอบความเห็นที่ 22  ดูแล้วเป็นอุทั๊ย อุทัย จากคุณ : udy - [ 5 ก.ย. 51 09:23:49 ]

ความคิดเห็นที่ 55 วันอาทิตย์นี้จะติดตามชมค่ะ จากคุณ : wuengjang - [ 5 ก.ย. 51 11:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 56 กำลังหาจังหวัดที่อยากไปครับ อุทัยก็อยุ่หัวครับตอนนี้ ถ้าไป 3 วัน 2 คืน จะน่าเบื่อไปหรือเปล่าครับ จากคุณ : ตาชิโบ - [ 5 ก.ย. 51 14:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 สวยงามจิงๆค่ะเคยเห็นภาพในหนังสือท่องเที่ยวเล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองอุทัยธานีมานาน วันนี้ได้ 1 ใน ทีม smart guide มาเล่าเพิ่มขึ้นยิ่งทำให้อยากไปจริงๆ ค่ะ เมืองไทยนี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอีกเยอะแยะเลยค่ะ จากคุณ : Dsmile - [ 5 ก.ย. 51 17:50:23 ]

ความคิดเห็นที่ 58 คิดถึงอุทัยครับ จังหวัดนี้สงบดีมาก ๆ เมื่อก่อนไปอยู่มาทุกปิดเทอม นี่ไม่ได้กลับไปเกือบครึ่งปีแล้ว ชาวบ้านที่นั่น ยังอยู่กันแบบผสมผสาน ยังมีคุณป้า คุณยายจับปูนามาต้มขายสด ๆ ถุงละ 5 บาท  เก็บกระถิน จับปลาตามคันนามาขายกันสด ๆ เป็นจังหวัดที่ขี่จักรยานเล่นในตัวเมืองได้อย่างสบาย ๆ ใครอยากไปแต่ไม่มีรถ ก็ขึ้นรถตู้ที่ใต้ทางด่วนอนุสาวรีย์ราคา 180 บาท หาโรงแรมที่พัก ไกล้ ๆ หน่อยก็เข้าที จากคุณ : high_voltage_x - [ 5 ก.ย. 51 20:48:14 ]

ความคิดเห็นที่ 59 นี่แหละครับ ความสวยงาม จากคุณ : 1234 - [ 5 ก.ย. 51 21:55:54 A:125.26.150.223 X: TicketID:184742 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ไม่เคยแวะอุทัยเลยค่ะ มีแต่ขับรถผ่าน มีธรรมชาติดีๆซ่อนอยู่เยอะเลยค่ะ เสียดายเพิ่งเข้ามาอ่าน เลยไม่ได้ดูรายการวันนี้เลยค่ะ จากคุณ : กาลครั้งหนึ่งความรัก - [ 8 ก.ย. 51 04:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ความงามคือความสงบจริงๆ รอยยิ้มบนใบหน้าคือราคาของความสุข ขอบคุณที่แบ่งปันนะครับ จากคุณ : cheychai - [ 9 ก.ย. 51 10:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แจ่มจันทร์ จากคุณ : ทิวาราตรี - [ 16 ธ.ค. 51 02:26:11 ]