Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
--------->> THE ECHO หนังผีหลอนใช้ได้ ที่แอบฉายเงียบๆ (สปอยด์เนื้อเรื่องแต่ไม่เปิดความลับ+คอมเม้นต์) <<----------- vote  

หนังหลอนใช้ได้ครับ (+o+)

เนื้อเรื่อง

เรื่องราวของ บ็อบบี้ เรย์โนลด์ ชายวัยกลางคนที่ติดคุกจากคดีร้ายแรงที่เขาก่อไว้
เมื่อหลายปีก่อน หลังพ้นโทษ บ็อบบี้ มีที่เพียงแห่งเดียวสำหรับตั้งต้นชีวิตใหม่ นั่นก็คือห้องของ ผู้เป็นแม่ในอพาร์ทเมนต์ โทรมๆ แห่งหนึ่ง ที่เธอทิ้งไว้ให้หลังจากเสียชีวิตไปในระหว่างที่เขา รับโทษอยู่ในห้องขัง โดยที่ตัว บ็อบบี้ เองก็ไม่ได้รู้ต้นสายปลายเหตุถึงการตายของแม่มากนัก นอกเสียจากคำบอกเล่าเพียงคร่าวๆของผู้จัดการอพาร์ทเมนต์ที่บอกว่า ก่อนตายแม่ของเขา
ป่วยหนัก วันๆ ขังตัวเองอยู่แต่ในห้องพัก

แรกเริ่มที่ีเข้ามาอาศัยอยู่ที่ห้องพักแห่งนี้ บ็อบบี้มักจะถูกรบกวนด้วยเสียงประหลาด ที่คล้ายกับของแข็งขูดขีดผนัง และเสียงอีกทึกครึกโครมจากการทะเลาะเบาะแว้ง
ของนายตำรวจกับภรรยาสาวที่อาศัยอยู่ห้องติดกัน ตลอดจนพฤติกรรมน่าสงสัยของ เพื่อนบ้านลึกลับจอมสอดรู้สอดเห็นจากตึกฝั่งตรงข้าม ที่มักจะสร้างความรำคาญด้วยการ โผล่มาคอยจดๆ จ้องๆ ยามเขาเผลอ แต่ บ็อบบี้ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งเหล่านี้มากนัก เพราะนอกจากจะต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในสังคมใหม่ที่เขาถูกดูแคลนในฐานะของคนคุกแล้ว เขายังต้องหาทางสานสัมพันธ์กับ เอลิสซ่า อดีตแฟนสาวที่ห่างเหินหมางเมินกันไปตั้งแต่เขาเกิดคดี

แต่เหตุการณ์ประหลาดต่างๆ เหล่านั้นหาได้สงบลงแต่โดยดี ซ้ำกลับสำแดงเดชต่อไปเรื่อยๆ จนเริ่มสร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับบ็อบบี้ถึงการตายของแม่ ว่าบางทีเธออาจจะไม่ได้ป่วยตาย
แต่ถูกทำร้ายจากอะไรบางอย่างที่กำลังเริ่มคุกคามเขาและแฟนสาวอยู่ในตอนนี้ นอกจากนั้น ในแต่ละวัน ทั้งเพื่อนบ้านจอมจุ้น และความรุนแรงในครอบครัวของนายตำรวจห้องข้างๆ
ก็ยังคงรบกวนต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ทำให้ความอดทนที่จะนิ่งเฉยต่อเรื่องทั้งหลาย
ของ บ็อบบี้ สะบั้นลงในที่สุด โดยที่ไม่คาดคิดว่า การยื่นมือเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นในครั้งนี้ จะทำให้เขาได้รับรู้ถึงเรื่องราวดำมืดที่เป็นต้นตอของเหตุการณ์ประหลาดทั้งหลาย

comment!!

หนังฮอลลีวู้ดเรื่องแรกของ ยัม ลารานัส ผู้กำกับชาวฟิลิปินส์ โดยรีเมคมาจาก Sigaw
หนังเรื่องดังของตัวเองในบ้านเกิดที่ขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นหนังผีฟิลิปปินส์ที่น่ากลัวและหลอนที่สุด
เรื่องหนึ่ง ซึ่งตัวผมเองนั้นก็ยังไม่มีโอกาสได้ดู Sigaw หนังเวอร์ชั่นต้นฉบับเหมือนกัน
ว่าตกลงแล้วตัวหนังมันหลอนจริง หรือว่าแค่คำเล่าลือกันแน่ที่มันหลอกหลอน

รู้แต่ว่า The Echo เวอร์ชั่นใหม่นี้ ที่อเมริกาถูกถอดโปรแกรมออกจากการฉายใน
โรงปกติ แล้วส่งตรงลงแผ่นดีวีดี/บลูเรย์ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม เทียบกับหนังผีรีเมค
(ย้ำ! ว่าฉบับรีเมค) ในแนวทางเดียวกันอย่าง The Grudge, The Eye, The Pulse, One Missed Call หรือ Shutter ต้องถือว่าผลงานของผู้กำกับฟิลิปปินส์โกอินเตอร์
เรื่องนี้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ใน "ภาคบังคับ" ตามสไตล์หนังผี
กับฉากกระตุกขวัญ ฉากหลอนๆ ที่แม้ไม่มีอะไรใหม่ไปจากมุกเดิมๆ แต่ ยัม ลารานัส ยังนำของเดิมๆ เหล่านั้นกลับมาใช้ซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน
ในแง่ของเนื้อหาสาระ The Echo ค่อนข้างมีเนื้อมีน้ำให้จับต้องได้มากกว่าหลายๆ เรื่องที่ได้เอ่ยชื่อถึงในเบื้องต้นเสียด้วยซ้ำ โดยที่ทั้งหมดถูกขมวดรวมไว้อย่างกลมกลืน ภายใต้เรื่องราวที่ฉากหน้าเป็นหนังผีตามยุคสมัยนิยม

ผู้กำกับ ลารานัส ใช้เรื่องของ "เสียง" มาวิพากษ์วิจารณ์สังคมเมืองได้อย่างน่าสนใจ สังคมเมืองที่ผู้คนถูกแยกออกจากกันด้วยผนังคอนกรีตบางๆ และบ่อยครั้งที่เสียงอึกทึกครึกโครม จากห้องข้างๆ กลายเป็นความน่ารำคาญตามปรกติวิสัยที่เราปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยที่ไม่ได้สนใจ หรืออาจจะสนใจบ้าง ในบางกรณี แต่มากสุดก็เพียงแค่ในรูปของการแอบฟังแอบดู ที่ไม่ใช่เพื่อ จะหยิบยื่นความช่วยเหลือ แต่เพื่อระแวดระวังไม่ให้ตัวเองต้องตกไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวนั้นๆ
ต่างหาก ซึ่งผลจากพฤติกรรมทั้งหลายเหล่านี้นี่เองที่เป็นเงื่อนไขการหลอกหลอนของผีใน The Echo

ลีลาการเล่าเรื่องของ ลารานัส เดินหน้าแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวา ไม่ซับช้อน แล้วก็แทบจะพูด ได้ว่าไม่หักมุมในตอนจบ (twist ending) แต่อาศัยวิธีการนำเสนอแบบ "ปริแง้ม" เนื้อเรื่อง ออกมาทีละนิด ดึงคนดูให้ติดตามไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็แทรก สถานการณ์ผี เข้ามาคอย กระตุกขวัญผู้ชมเป็นระยะๆ ที่แม้จะมีไม่มากขนาดที่เรียกได้ว่าช็อคผู้ชมทุกๆ สิบนาที
แต่หลายๆ ฉากก็ถูกนำเสนอออกมาผ่านงานด้านภาพได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเรื่องของการสร้างบรรยากาศด้วยการใช้แสงและสี

ตลอดทั้งเรื่องเกือบ 60-70 เปอร์เซ็นต์ของหนัง ลารานัส เลือกที่จะใช้แสงและสีในโทน
เหลือง - ส้ม - น้ำตาล ไม่ว่าจะเป็น ตอนกลางวัน ทั้งในห้องของ บ็อบบี, โถงทางเดิน รวมถึงห้องต่างๆ ที่มักจะถูกฉาบไปด้วยสีเหลืองอมส้ม หรือตอนกลางคืนที่บรรยากาศยังคงอึมครึม
ไปด้วยโทนสีเหลืองและน้ำตาลเข้มจากแสงไฟ ซึ่งผิดปรกติวิสัยของหนังผี (ที่มักจะคุมโทน
ด้วยสีฟ้าหรือสีเขียว) ทั้งนี้ก็น่าจะเดาได้ไม่ยากว่า ลารานัส ต้องการใช้สีสันดังกล่าวใน
การสร้างอารมณ์เวิ้งว้าง ห่อเหี่ยว หยาบกระด้าง เพื่อส่งบรรยากาศให้สนับสนุนกับเนื้อหา
ในหนังที่ว่าด้วยเรื่องความแล้งน้ำใจของผู้คนในสังคมเมืองนั่นเอง

ปล. หนังเข้าฉายเฉพาะโรงเมเจอร์ รัชโยธินนะครับ ใครสนใจจะดู เช็ครอบดีๆ

ดูภาพหลอนๆ จากหนังเพิ่มเติมได้ที่
http://www.entertainweekly.in.th/file_detail.php?cid=00212&c=2

จากคุณ : สาวกอากังฟู
เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 19:35:10 A:172.16.50.39 X:58.137.65.10 TicketID:239961




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com