ความคิดเห็นที่ 1 1.Cloud Atlas บนแผ่นฟิล์ม มีที่มา เพราะ Natalie Portman (?!) ช่วงปี 2005 ที่พี่น้อง Wachowski ถ่ายทำเรื่อง V for Vendetta ที่มี Natalie Portman เป็นนางเอก ตอนนั้น Natalie Portman กำลังติดนิยายเรื่อง Cloud Atlas อยู่พอดี  แล้ว Lana Wachowski เห็น เลยลองหามาอ่านบ้าง  อ่านไปอ่านมา เลยติดเรื่องนี้ตามนาตาลี - -'  ก็เลยเกิดไอเดียกับพี่ชาย Andy ว่าอยากจะลองเอานิยายเรื่องนี้ ที่ใครๆ ก็ว่ากันว่าไม่มีทางเอามาทำหนังได้ มาลองทำจริงๆ ดู จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:19:04

ความคิดเห็นที่ 2 2. สคริปต์หนังเรื่องนี้ ใช้เวลาตลอดวันหยุดพักร้อนยาวนานเพื่อพัฒนาขึ้น ความยากของการเอาเรื่องนี้มาสร้างหนังมันอยู่ที่เนื้อหาของเรื่องนี้มันซับซ้อนเกินเหตุ  แม้แต่คนเขียน David Mitchell ยังคิดในใจตอนเขียนว่า เสียดายที่เรื่องนี้คงเอาไปทำหนังไม่ได้แหงมๆ  แต่ที่ไหนได้ พี่น้อง Wachowski ดันปิ๊งเรื่องนี้ขึ้นมา และอยากลองของมากๆ - -'  เพราะชอบที่เรื่องนี้มีไอเดียที่ใหญ่โตมาก  และมีประเด็นถึงความผูกพันของมนุษย์เรา แทนที่จะพุ่งไปยังการเกลียดชังสังคมแบบหนังหลายๆ เรื่อง  รวมไปถึงซีนดราม่าที่มีในเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับความหวังของคนเรา ตอนนั้นพี่น้อง Wachowski คิดว่าอยากจะร่วมงานกับ Tom Tykwer (ผลงานคือ Run Lola Run)  มานานมากแล้ว  และรู้สึกว่า Cloud Atlas นี้น่าจะเป็นโปรเจคที่เหมาะดี ในปี 2006 พี่น้อง Wachowski ไปกระตุ้นให้ Tykwer หาเรื่องนี้มาอ่าน จนครั้งนึง Tykwer ก็ได้ไปพักร้อนที่ฝรั่งเศสตอนใต้ แล้วก็บังเอิญหิ้วนิยาย Cloud Atlas ติดมือไปด้วย ปรากฏว่าทริปนั้นกลายเป็น Tykwer นั่งอยู่ชายหาดอ่าน Cloud Atlas ทั้งวัน - -'  จนเมีย Tykwer ต้องบอกให้ออกไปเที่ยวที่อื่นมั่ง  ก็ยังไม่วายถึงกับระหว่างทาง มีการให้เมียจอดรถเพื่ออ่านให้จบบท - -' พออ่านจบเล่ม เลยรีบโทรไปบอกพี่น้อง Wachowski ขอร่วมงานด้วยทันที  Tom Tykwer เลยกลายมาเป็น co-producer ของเรื่องนี้ หลังจากเคลียร์งานอื่นได้หมด  เดือนกุมภาปี 2009 พี่น้อง Wachowski ก็เริ่มลุยงานด้านสคริปต์หนังกับ Tom Tykwer  โดยนัดกันไปเจอกันที่ Costa Rica แล้วก็เช่าบ้านหลังนึงริมทะเลเพื่อการนี้โดยตรง  แล้วก็ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนเพือทำในส่วนสคริปต์หนังนี้อย่างเดียว  หยั่งกะมาแคมป์ปิ้งกัน   ซึ่งก่อนจะเริ่มงานตรงนี้ ทั้งสามคนก็ทำใจไว้บ้างว่ามีโอกาสที่โปรเจ็คนี้จะล่ม เพราะปัญหาเกี่ยวกับเนื้อเรื่องในหนังสือ The Cloud Atlas เพราะมันมีการเรียงเนื้อหาวนไปมา  เริ่มตอนแรกเนื้อหามันจะเรียงตามเวลาเกิดของแต่ละเหตุการณ์ จนถึงกลางเล่ม มันกลับดันเรียงเหตุการณ์กลับหลังแทน จนจบเล่ม - -" นั่นคือ บทแรก และบทสุดท้ายของหนังสือ เริ่มและจบที่ศตวรรษที่ 19  Lana เลยคิดว่า แบบนี้มันเอามาทำหนังไม่ได้แน่ๆ  เพราะเราคงไม่สามารถให้หนังฉายไป 90 นาทีแล้วค่อยมีตอนใหม่โผล่เข้ามาอีก สุดท้ายสิ่งที่สามคนนี้ทำก็คือ  แตกซีนต่างๆ ในนิยายออกเป็นร้อยๆ ซีน แล้วเขียนลงในแผ่นกระดาษการ์ด  จากนั้นก็วางให้กระจายบนพื้น เพื่อให้มองเห็นทั้งหมดได้ทั่วๆ  แล้วค่อยมานั่งจัดเรียงลำดับซีนใหม่ เพื่อดูว่าจัดเรียงแบบไหนน่าจะเวิร์คที่สุด แล้วก็ทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายๆ วัน จนเริ่มเข้าท่า จนมาถึงตอนจะวันก่อนจะเดินทางกลับบ้าน ก็บังเอิญมาเริ่มปิ๊งไอเดียที่ว่าน่าจะลองให้นักแสดงคนเดียวกัน แสดงในหลายๆ ภพดู  เหมือนกับเป็นการให้นักแสดงคนเดียวกัน ก็เล่นเป็นวิญญาณดวงเดียวกัน  จนมาถึงเดือนสิงหา ทั้งสามคนก็ได้ร่างสคริปต์เสร็จ  แล้วก็ตัดสินใจส่งไปให้ David Mitchell คนเขียนดูก่อน เพื่อดูซิว่าจะคิดว่ายังไง  (V for Vendetta พี่น้อง Wachowski ไปดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนมา  ซึ่ง Alan Moore คนแต่งเรื่องนี้ดันเกลียดไอเดียของการเอาไปดัดแปลงทำหนัง Hollywood มาก  ถึงขั้นเคยออกมาด่าผ่านสื่อ - -') ปรากฏ David Mitchell บอกว่า กลายเป็นว่า 3 คนนั้น รู้เนื้อเรื่อง Cloud Atlas ดีกว่าตัวเองซะอีก - -'  พอได้อ่านสคริปต์เสร็จ ถึงกับเอ่ยชมออกมาว่า นี่อาจจะเป็นหนังอีกเรื่องที่ทำออกมาได้ดีกว่าหนังสือ!  โปรเจคนี้เลยเริ่มสร้างเต็มตัวครับ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:29:21

ความคิดเห็นที่ 3 3.เพราะ นิยายเรื่อง Moby Dick เลยทำให้ Tom Hanks ยอมเล่นเรื่องนี้ ทีมผกก.มานั่งคุยกันว่า คนที่จะมาเล่นเป็น Dr.Goose จอมละโมบ ที่จะพัฒนากลายไปเป็นตัวละคร Zachary ในภพอนาคต เป็นตัวละครที่มีบางอย่างที่มีในมนุษย์ทุกๆ  คน ซึ่งนักแสดงที่เป็นสุดยอดแห่งความเป็น "มนุษย์ทุกๆ คน" ในยุคนี้ คงจะไม่มีใครเกิน Tom Hanks  ก็เลยตัดสินใจติดต่อ Tom Hanks ไป ทีแรก Tom Hanks ยังไม่ชัวร์ว่าจะรับเล่นเรื่องนี้ดีไหม ผกก.ทั้ง 3 คน ก็เลยนัดมานั่งคุยกันในออฟฟิศของ Tom Hanks  บังเอิญ Tom Hanks บอกว่าตัวเองกำลังอ่านนิยายเรื่อง Moby Dick อยู่ตอนนั้น Lana ก็เลยบอกว่า "Moby Dick กับนั่น (ชี้ไปที่โปสเตอร์หนังเรื่อง 2001:Space Odyssey) คือหนังที่เราจะสร้าง" Tom Hanks ได้ิยินปุ๊บ เลยตอบกลับมาทันทีว่า  โอเชร เริ่มงานเมื่อไหร่ดี! Tom Hanks ก็เลยกลายเป็นนักแสดงคนแรกที่เซ็นสัญญาเล่นเรื่องนี้ หมายเหตุ: Moby Dick เป็นเรื่องราวในปี ค.ศ. 1851 เกี่ยวกับการเดินทางผจญภัยของกลาสีชื่อ อิชมาเอล ในเรือล่าวาฬ Pequod และกัปตันเรือชื่อ อาฮับ ไม่นานอิชมาเอลก็ทราบว่า อาฮับกำลังออกติดตามหาวาฬตัวหนึ่งชื่อ โมบิดิก ซึ่งเป็นวาฬสีขาวขนาดมหึมาที่ดุร้ายมาก ไม่ค่อยมีเรือล่าวาฬลำใดรู้จักโมบิดิก ยิ่งที่เคยได้เจอตัวมันยิ่งน้อยนัก เมื่ออาฮับเจอมันคราวก่อน วาฬยักษ์ทำลายเรือของอาฮับและยังกัดขาเขาขาด อาฮับจึงคิดจะตามแก้แค้น (จาก wikipedia) จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:40:26

ความคิดเห็นที่ 4 4.เรื่องนี้ต้องมีเพลงที่เป็น "หนึ่งในเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เคยถูกแต่งขึ้นมา" อีกความหินในการสร้างหนังเรื่องนี้ก็คือ ต้องแต่งพลง Cloud Atlas Sextet ที่เป็นหัวใจหลักของหนังเรื่องนี้ด้วย ในนิยาย เพลง Cloud Atlas Sextet ถูกแต่งขึ้นโดยตัวละคร Robert Frobisher ซึ่ง Frobisher บรรยายถึงเพลงนี้ไว้จากจดหมายที่เขียนหาคนรักว่าเป็น   "หนึ่งในเพลงทียอดเยี่ยมที่สุดที่เคยถูกแต่งขึ้นมา และเป็นเพลงที่ไม่มีอะไรเทียบได้  เมื่อผมแต่งมันเสร็จ ผมจะไม่สามารถแต่งเพลงอะไรได้อีกที่ดีเท่าแม้แต่ 1 ในร้อยของเพลงนี้" ซึ่ง David Mitchell คนเขียน Cloud Atlas นี้ มีงานอดิเรกอย่างหนึ่งคือ แต่งเนื้อเพลงโอเปร่าเล่น - -' Tykwer ผู้เป็น co-producer เรื่องนี้ (ซึ่งมักจะแต่งเพลงประกอบหนังที่ตัวเองกำกับด้วย) ถึงกับเคยเอ่ยปากชมว่า แม้ Mitchell จะไม่ได้เป็นนักดนตรีมืออาชีพ แต่ก็ชื่นชมและทุ่มเทกับโลกของดนตรีมากๆ คำบรรยายของเพลง Cloud Atlas Sextet โดย Frobisher ในนิยาย คือ  "เป็นเสียงสะท้อนที่มาจาก White Mass โดย Scriabin, เป็นรอยเท้าที่สูญหายไปของ Stravinsky, และเป็น chromatics (สเกลของเพลง) จาก Lunar โดย Debussy  แต่ความเป็นจริงแล้ว ผมไม่รู้ว่ามันมาจากไหน มันเป็นความฝันที่เดินได้" Tom Tywker เลยตัดสินใจร่วมแต่งเพลงนี้ด้วยกับทีมงาน  โดยแต่งเพลงที่ออกมาเป็นแนวๆ Debussy (Claude Debussy นักแต่งเพลงชาวฝรั่งเศสช่วงยุค 1800) ซึ่งเพลงนี้ก็ได้ถูกเอามาใช้ในหลายช่วงของหนัง และมีหลายเวอร์ชั่น  ตั้งแต่เวอร์ชั่นที่เป็น symphony มีเครื่องดนตรีจัดเต็ม จนถึงเวอร์ชั่นที่บรรดามนุษย์อนาคตยุคซอนมีเอามาร้องกันเป็นเพลงสรรเสริญ คลิปนี้คือเพลง Clair de Lune โดย Debussy ครับ  คล้ายๆ Cloud Atlas Sextet บ้างไหม จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:46:49

ความคิดเห็นที่ 5 5.ทำให้แต่ละตอนมันเกี่ยวเนื่องกันมากขึ้น โดยใช้พรอพประกอบฉาก Hugh Bateup ผู้เป็นดีไซเนอร์ของหนังเรื่องนี้บอกว่า ทีมงานพยายามทำให้หนังมันมีธีมที่ไม่กระจัดกระจายไป  และมีอะไรบางอย่างที่มีความสม่ำเสมอในเรื่อง ก็เลยมาเล่นกับพร๊อพในหนัง  เช่น กระดุมอัญมณีที่ Tom Hanks อยากขโมยในตอนยุค 1850  ก็กลายมาเป็นของที่ติดอยู่ตรงคอของ Tom Hanks ในยุคศตวรรษที่ 22 หรือดีไซน์เสื้อผ้าของตัวละครตัวนึงในยุคซานฟรานปี 1970  ก็กลายมาเป็นดีไซน์ของวอลเปเป้อร์ในยุคโซลปี 2144 Bateup บอกว่า หวังว่าเวลาที่ผู้ชมชมเรื่องนี้ อาจจะไม่เห็นรายละเอียดพวกนี้ชัดๆ แต่คงจะรู้สึกถึงสิ่งที่คล้ายๆ กันเหล่านี้ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:50:20

ความคิดเห็นที่ 6 6.ตอนสุดท้าย ตอนที่ 6 นี้ มีการคิดค้นภาษาขึ้นมาใหม่เอง ในตอนสุดท้ายที่เป็นฉากในอนาคตอันไกลโพ้น  David Mitchell ได้สร้างภาษาอังกฤษท้องถิ่นสำหรับยุคนั้นขึ้นมาใหม่  ซึ่งทีมงานหนังก็เอามาใส่ในหนังด้วยเต็มๆ ศัพท์ที่น่าสนใจ เช่น "judas" แปลว่า ทรยศ, "sivvy" แปลว่า to search, "yibber" แปลว่า นินทา (ศัพท์ยุคอนาคตอื่นๆ สามารถดูได้จาก http://www.slate.com/blogs/browbeat/2012/10/25/the_cloud_atlas_phrasebook_your_guide_to_yibberin_the_true_true_language.html ครับ) จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:51:46

ความคิดเห็นที่ 7 จบละครับ สำหรับ 6 เรื่องน่ารู้ของเรื่องนี้ ทึ่งกับการทำงานของทีมงานเรื่องนี้จริงๆ ครับ ยิ่งเรื่องบทที่ใช้เวลากันทั้งวันทั้งคืน ถึงจะเริ่ม brainstorm ออกมาเป็นการลำดับหนังสับไปสับมาได้เมพขนาดนั้น ถึง brainstorm เสร็จ ก็ยังใช้เวลาึครึ่งปี กว่าจะเขียนบทเสร็จจริงๆอีก สุดๆ - -' ยังไม่รวมถึงเพลงประกอบ ที่ต้องแต่งขึ้นมาใหม่ให้ได้ตามนิยายพรรณาไว้อีก ถึงรายได้ไม่ดี แต่ผมขอก็ยกให้เรื่องนี้เป็น masterpiece ของวงการหนังโลกอีกเรื่องนึงเลยคับ จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 12:56:02

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.youtube.com/watch?v=hVc4feKudF8 จากคุณ : PP (PThom_15) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:02:48

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านแล้วอึ้งค่ะ (เค้าทุ่มกันขนาดนี้ เชียว) เสียดายที่นักวิจารณ์ไม่ชอบ ไม่งั้นช่วงนี้ คงเดินหน้ากวาดรางวัลกันไม่หวัดไม่ไหวแล้วว แต่ยังไงก็สุดยอดค่ะ หนึ่งในหนังยอดเยี่ยมในดวงใจตลอดกาล หวังว่าอย่างน้อยในอนาคตซักอีก สิบปี ทุกคนจะหันมามองหนังเรื่องนี้และยกให้เป็นผลงานชิ้นเอก สำหรับความทะเยอทะยาน(แหวกแนว)บุกเบิกการถ่ายทอดเรื่องราวแนวใหม่ของศตวรรษนี้นะ อิอิ จากคุณ : Zenturiana เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:18:18

ความคิดเห็นที่ 10 ชอบหนังเรื่องนี้ที่สุด เป็นอีกเรื่องที่จะอยู่ในใจอีกนานแสนนาน ดูไปสองรอบก็ยังไม่พอ กำลังหาเวลาว่างดูอีกซักรอบก่อนจะลาโรงไป ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ???? จากคุณ : สวยไม่เสร็จ (สวยไม่เสร็จ) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:41:49

ความคิดเห็นที่ 11 งง กะเครื่องหมายคำถามไม่ได้พิมพ์แต่มันขึ้นมาได้งัย???? จากคุณ : สวยไม่เสร็จ (สวยไม่เสร็จ) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:43:03

ความคิดเห็นที่ 12 อย่างน้อยเรื่องนี้ก็มีเงินเราเข้าไปช่วยแล้ว หนังคุณภาพขนาดนี้ จากคุณ : ตามนั้น (อธติ23) เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 13:57:36

ความคิดเห็นที่ 13 สุดยอดครับ จากคุณ : chelsit เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 14:01:12

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณจขกท.นะคะ ณ จุดนี้อยากขอบคุณทุกอย่างทุกคนทุกสิ่งที่ทำให้เกิด Cloud Atlas  เป็นหนังสือและหนังที่ให้คำพูดเด็ดดวงดีจริงๆ จากคุณ : DaRaDoRa เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 14:15:37

ความคิดเห็นที่ 15 เก็บเรื่องนี้ไว้ในหอประวัติศาสตร์ส่วนตัว คู่กับ Fight club, Before sunset & Before sunrise, Big Fish, V for Vedetta etc. จากคุณ : Pooh Of The Hundred Acre Wood เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 16:16:07

ความคิดเห็นที่ 16 หนังคุณภาพ จากคุณ : รีดเนี้ยบเฉียบขาด เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:04:45

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ช่วงนี้ตามเก็บรายละเอียดจากทุกกระทู้ที่เกี่ยวกะเรื่องนี้เลย เป็นเอามาก ปล. ขำชื่อล็อกอิน จขกท. อยู่ประมาณ 5 วิ จากคุณ : Panda Tabo เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 23:41:50

ความคิดเห็นที่ 18 ชอบเรื่องนี้อีกเรื่องในดวงใจ หนังดีเลย จากคุณ : บราวนี่ชีสเค้กท็อปปิ้งวิคครีม เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 00:13:10

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากนะคะคุณบรึ๋ยศักดิ์  สำหรับเรื่องน่ารู้  ผู้สร้างทุ่มเทและตั้งใจสร้างหนังเรื่องนี้ เรารู้สึกคุ้มค่ามากเลย เพราะชอบหนังเรื่องนี้มาก  จะตามอ่านอะไรที่เกี่ยวกับหนัง  และอ่านความเห็นของผู้ชมแล้วทุกท่าน  ฟังเพลงประกอบไปด้วย พูดแล้วก็อยากจะดูอีก (รอบที่3ค่ะ) จากคุณ : padivarutda เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 10:52:43

ความคิดเห็นที่ 20 แปลไปแปลมา เย็นนี้ผมจะไปจัดรอบสองเองละคับ - -" จากคุณ : บรึ๋ยศักดิ์ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 12:40:00

ความคิดเห็นที่ 21 เพิ่งรู้ว่ารายได้ไม่ดี นักวิจารณ์ไม่ชอบ แปลกจังเราก็คิดว่าเรื่องนี้สุดยอดมากนะ จากคุณ : ranmachan เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 23:13:52

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อสี่เพิ่งรู้นะเนี่ย ข้อหก ครือปกติเราดูหนังไม่อ่านซับ แต่เรื่องนี้ถ้าไม่มีซับต้องฟังไม่รู้เรื่องแน่ ทำไงดี สงสัยต้องไปดูอีกรอบซะแร้ว จากคุณ : booklovers เขียนเมื่อ : 16 ธ.ค. 55 23:06:06