|
เมื่อภาพยนตร์เรื่อง "องค์บาก" และ "ต้มยำกุ้ง" ประสบความสำเร็จทั่วโลก
ทำให้ทีมงานทั้งผู้สร้างและผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องที่สามที่นำแสดงโดย จา-พนม
ยีรัมย์ หรือ โทนี่ จา ต้องทำการบ้านมากขึ้นในทุกๆ ด้าน มิใช่แต่เพียงแนวคิด
Value Creation ที่นำวัฒนธรรมในการเปลี่ยนภาพการผลิต
โดยใช้จุดแข็งทางวัฒนธรรมไทยมาสร้างทางเลือกใหม่ของ
หนังไทยบนตลาดโลก ผนวกกับโมเดลโครงสร้างทางด้านการจัดการและการตลาดเข้ามาควบคุมการทำงาน
แต่โมเดล "แอ็คชั่น ฮีโร่" ที่ถูกผลิตขึ้นจะกลายเป็น "แบรนด์ที่มีชีวิต"
โดยอาศัยเอกลักษณ์ความเป็นไทยยังคงโลดแล่นอยู่บนแผ่นฟิล์ม
กลายเป็นฮีโร่ซุปเปอร์สตาร์ที่ถูกจับตามองมากยิ่งขึ้นทั้งจากผู้สร้างและผู้รอชมภาพยนตร์เรื่องต่อๆ
ไปของเขา
อนาคตของ โทนี่ จา จะเป็นอย่างไร พลังของแอ็คชั่น ฮีโร่
ที่ถูกสร้างขึ้นจากโมเดลการตลาดอย่างเป็นระบบ
จะถูกขับเคลื่อนไปในทิศทางใด ภาพยนตร์เรื่องหน้า โทนี่ จา
จะออกมาวาดลวดลายด้วยลีลาแม่ไม้มวยไทยโบราณในรูปแบบเดิม
หรือจะมาในมาดของแอ็คชั่น ฮีโร่ วิ่งสู้ฟัด ตามล่าผู้ร้ายกันทั้งเรื่อง
หรือจะมีไม้เด็ดทุ่มทุนสร้างพร้อมทีมงานมืออาชีพจากฮอลลีวู้ดเข้ามาดูแลการผลิต
บอสใหญ่แห่งสหมงคลฟิล์ม "เสี่ยเจียง" หรือ
"สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ"
คือ ผู้ถอดรหัสและบอกเล่าถึงทิศทางพลังฮีโร่ โทนี่ จา ในนิตยสาร
at office ฉบับนี้
ประตูห้องทำงานบนอาคารไอบีเอ็มชั้น 9
ซึ่งเป็นออฟฟิศสำนักงานของสหมงคลเปิดกว้างต้อนรับทีมงานนิตยสาร
at office เข้าสัมภาษณ์บอสใหญ่ในค่ำวันหนึ่ง เสี่ยเจียงดูท่าทางเป็นกันเอง
และมีรอยยิ้มเป็นมิตรบ่งบอกถึงความสุข
เมื่อเอ่ยถามถึงความสำเร็จของต้มยำกุ้งทั้งในเมืองไทยและตลาดต่างประเทศ
at office : เสี่ยช่วยเล่าให้ฟังถึงการเริ่มต้นเข้ามาเป็นนักแสดง ในสังกัดสหมงคลฟิล์มของ
จา พนม สักเล็กน้อยค่ะ
คงต้องเริ่มต้นที่ คุณปรัชญา ปิ่นแก้ว จาก บาแรมยู ผู้กำกับเรื่องต้มยำกุ้ง
เขานำภาพยนตร์มาเสนอเป็นเรื่องของมวยไทย ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจ
เพราะเรื่องราวของมวยไทยทั้งในทีวีและบนแผ่นฟิล์มมีเยอะแยะ
ถ้าเราบอกเราสร้างหนังมวยไทย คนอาจจะคิดว่ากั้นเวทีแล้วขึ้นไปชกกันบนเวที
มันไม่มีอารมณ์หมดแล้ว หนังก็ไม่มีคนดูไม่น่าสนใจ
แต่เมื่อผมได้พบ พันนา ฤทธิไกร และ จา พนม
ที่ปรัชญาพามาแนะนำ เห็นลีลาการต่อสู้แบบมวยไทยโบราณของไอ้จา
ก็มานั่งคิดว่า เอ๊ะ! เราดูหนังเฉินหลงเขาปราบผู้ร้ายด้วยกังฟูกลายเป็นเอกลักษณ์ที่โด่งดัง
ทำไมเราไม่ใช้วิธีนี้มาคิดให้เด็กคนนี้เขาต่อสู้กับผู้ร้ายด้วยวิชามวยไทยโบราณ
น่าจะเป็นที่ยอมรับในตลาดภาพยนตร์
at office : มวยไทยโบราณกับการจับผู้ร้าย จึงเป็นที่มาของภาพยนตร์แนวแอ็คชั่น
ฮีโร่
ผมมองว่าตลาดหนังแอ็คชั่นยังขายได้ดีทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ
เราจึงประยุกต์ลีลาการต่อสู้ของนักแสดงนำ
คือ จา พนม ให้ใช้การต่อสู้แบบมวยไทยโบราณมาจับผู้ร้าย ความรู้สึกสนุกก็เหมือนกับ
เฉินหลงที่วิ่งไล่จับผู้ร้ายด้วยกังฟู แต่เราจะทำอย่างไรให้หนังมันสนุก หนังน่าดู
และเป็นที่ยอมรับของตลาด เราก็ต้องลงทุนให้มาก เพื่อให้ดูหนังเรื่องนี้แกรนด์
ดูแล้วยิ่งใหญ่ เราไปทำหนังบู๊ยิงกันมันก็ธรรมดา ไม่น่าสนใจ
ปรากฏว่าเรื่องแรก "องค์บาก" ประสบความสำเร็จเกินคาด
เราจึงกล้าถล่มทั้งทุนสร้างและทีมงานกับเรื่องที่สอง
คือ "ต้มยำกุ้ง" เดี๋ยวนี้กลายเป็นชื่อของไอ้จา กินไปหมดแล้ว ดังไปทั่วโลก
เป็นบุญวาสนาของคน
หนังประสบความสำเร็จก็ดี ไม่ประสบความสำเร็จก็หมดไปเลย ผมก็แย่เลย
(เสี่ยเจียงกล่าวอย่างเป็นกันเอง)
at office : วิธีการสร้างแบรนด์ จา พนม ให้กลายเป็นซูเปอร์สตาร์นักบู๊
เราสร้างและดูแลเขาโดยใช้โมเดลเหมือนนักแสดงชื่อดังใน
ต่างประเทศ
คาแรคเตอร์ของเขาต้องการสร้างให้เป็นสากลและไม่เหมือนใคร
โดยใช้แม่ไม้มวยไทยโบราณเป็นจุดขายในการต่อสู้ เป็นแอ็คชั่น ฮีโร่ ที่มีการต่อสู้เป็นเอกลักษณ์
ส่วนทีมงานหรือวิธีการสร้างแบรนด์เราดูแลกันแบบสากล ทุกวันนี้ คุณไม่ต้องห่วงเขาหรอก
จาเขาสบาย มีเงินเดือนมีเปอร์เซ็นต์จากรายได้ภาพยนตร์ มีค่าตัว มีทีมงานดูแลครบชุด
เรียกได้ว่าเขาเกิดมาแล้วสบาย
เรื่องการสร้างคาแรคเตอร์ของนักแสดงสำคัญมากในการสร้างการจดจำ ทุกวันนี้
ทีมของสหมงคลให้ความสำคัญมากกับทีมนักแสดงนำหน้าใหม่
นักแสดงนำทุกคนต้องมีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน
นอกเหนือจากไอ้จา เราก็มีนักแสดงนำหน้าใหม่ อย่าง เดี่ยว-ชูพงษ์ ก็จะบู๊บ้าเลือด
คนละแบบกับไอ้จา จะมาเลียนแบบกันไม่ได้
นักแสดงนำฝ่ายหญิงก็มีหลายคนที่ฝึกฝนอยู่ เช่น น้องจีจ้า เป็นมวยไทยเหมือนกัน
ฝึกมานาน 4 ปีแล้ว ชำนาญในหลายด้าน ทั้งมวยไทย ยูโด ยิมนาสติก เราจะสร้างให้ดังเหมือน
มิเชล โหยว นักแสดงทุกคนจะถูกฝึกฝนก่อนที่จะเริ่มให้แสดงภาพยนตร์ โดยมีทีมงานดูแลอย่างใกล้ชิด
ตอนนี้ก็มีนางเอกหลายคนที่กำลังปั้นให้ดัง อย่างนางเอกใหม่อีกคน ในภาพยนตร์เรื่อง
"สวยพิฆาต" นี่จะปั้นให้มีคาแรคเตอร์คล้ายกับแองเจลิน่า โจลี่
นักแสดงที่ผมเอามาปั้นมาฝึกมีเงินเดือนให้ทั้งหมด
at office : หลังจากจบเรื่อง "ต้มยำกุ้ง" เสี่ยได้พูดคุยกับจาถึง
ภาพยนตร์เรื่องต่อไปหรือยังคะ
ผมวางแผนกับทางทีมงานผู้กำกับไว้แล้ว สำหรับงานเขียนบทอยากให้เข้มข้นขึ้น
ตอนนี้ทาบทาม คุณจิก -ประภาส ชลศรานนท์
จากเวิร์คพอยท์ให้มาช่วยในเรื่องการเขียนบทหนังเรื่องใหม่ของจา
และกำลังอยู่ใน
ขั้นตอนของการเจรจา เรื่องใหม่ของจาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับดาบ เป็นดาบไทยโบราณ
เป็นหนังแอ็คชั่นตามคาแรคเตอร์ของไอ้จามันนั่นแหละ
at office : อาณาจักรของสหมงคลจะเป็นอย่างไรคะ
หลังความสำเร็จของต้มยำกุ้ง
ผมคิดสร้างอาณาจักรในฮอลลีวู้ด โดยสหมงคลของเราเป็นผู้บุกเบิก ใช้ความเป็นไทยของเรา
พัฒนาให้มันเป็นอินเตอร์ทั้งทีมงาน ทั้งนักแสดง
เราต้องสร้างบุคลากรของเราเองทั้งหมดทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์
เราต้องพร้อม เมื่อเราประสานมือกับต่างประเทศแล้วมันจะง่ายในการทำงาน
:: กลับไปหน้าหลัก ::
|