บางคนอาจจะสงสัยภาพนี้เอามาลงทำไม คือภาพนี้เป็นภาพชีวิตเลยครับ
เกิดอะไรขึ้นกับผมสองคนนั้นหรือ ก็คือว่าเนื่องจากผมกับเพื่อนไปช้ากว่ากลุ้มอื่นๆ
พอไปถึงผานกแอ่นพระอาทิตย์ ก็ขึ้นมาแล้วแต่ก็ไม่มากนัก ประมาณ 6 โมงนิดๆ
คนก็เริมเดินกลับกันแล้วแต่ต้องบอกว่าเดินสวนกันแค่ 10 คนได้บางส่วนอาจจะ
กลับทางลานพระแก้วถ้าจำไม่ผิด พอไปถึงก็เห็นคนอยู่ 4-5 คนถ่ายรูปอยู่ผมกับ
เพื่อนก็ถ่ายูรูปนู้นนี้กันไปเรื่อย ใช้เวลาประมาณแค่ไม่ถึง 10 นาทีเองคนก็กลับกัน
หมดจนเหลือผมกับเพื่อนอยู่สองคนยังถ่ายไม่หนำใจเดินมาตั้งไกล ในตอนนั้น
ผมอยากให้เพื่อนถ่ายรูปผมที่หน้าผาให้ก็ตะโกนเรียกให้มาถ่ายรูปให้หน่อย
เพื่อนผมก็ติดถ่ายดอกกระดุมอยู่ถ้าใครเคยไปคงจำได้ ตรงลานหน้าผานั้นแหละ
ผมก็เลยต้องตั้งกล้องโหมดตั้งเวลาวางกับรากไม้ตรงนั้น แล้วกระโดดพยายามอยู่
5 นาทีไม่สวยเลยกำลังจะเก็บกล้องกลับ .... พอผมปิดฝากล้องหันหลังกลับมาผม
ก็ตกตะลึงกับภาพ ช้างพลายตัวหนึ่งสูงพอๆกับหลังคาห้องน้ำหรืออะไรสักอย่างบนภูกระดึง
กำลังเดินออกจากชายป่าเข้าหาเพื่อนของผมห่างกันแค่ 1 คันรถเมล์ครับ
เพื่อนผมก็มัวแต่ก้มถ่ายดอกกระดุมอยู่เลยไม่เห็น ใจหนึ่งผมก็จะเอากล้องขึ้นมาถ่าย
เพราะให้ตายเหอะภาพมันสวยมากครับแดดเช้าสีทองส่องโดนตัวช้างที่ห่าง
กับคุณแค่ 1 คันรถเมล์เช่นกัน อะไรมันจะได้เห็น จะๆเต็มตาอย่างนี้ ในใจหนึ่ง
ก็บอกว่าไม่ทันแน่ ผมเลยตะโกนออกไปแบบคนตกใจ
! ช้าง ช้าง ไอ้มัน ช้าง ....นั้นเป็นสิ่งที่ผมทำได้ในตอนนั้นแค่ตะโกนบอกเพื่อน
เพื่อนผมก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วก็พยายามลุกหนีเพราะตอนนั้นมันก้มถ่ายดอก
กระดุมอยู่ ตอนแรกเพื่อนผมถอยและทำถ้าจะเสียหลักล้ม แต่ไม่ล้มแล้วก็วิ่งหนีมา
ทางผม ซึ่งตอนนั้นผมคิดในใจว่ามันจะวิ่งมาหาผมทำไมมันหน้าผาแล้ว ทำไมไม่วิ่ง
กลับไปทางที่ทำการ เลยคิดว่าถ้าช้างมันวิ่งมาผมจะโดดลงไปที่ชง่อนหิน ตรงผา
นกแอ่น คงยืนได้ประมาณคน 2 คนนั้นคือสิ่งที่คิดได้ภายในระยะเวลาตั้งแต่หันไป
เห็นช้างก็ประมาณ 10 วินาที
แต่เหมือนว่าผมกับเพื่อนโชคยังดี สวรรค์ยังอยากให้ผมกลับมาทำรีวิว 3 ฤดู
ให้เพื่อนๆดูคือในจังหวะที่ผมตะโกนไป เจ้าช้างตัวนั้นมันก็ตกใจเสียงผม
กระโดดหนีกลับหลังหันพร้อมๆกับเพื่อนผม ร้องเสียงหลงเข้าป่าไป พอผมได้สติก็ยกกล้อง
ขึ้นมาถ่ายแต่ เหมือนผมใช้บุญไปหมดแล้วกล้องเจ้ากรรมดันอยู่ในโหมดตั้งเวลา
มันก็เลยดัง ตี้ด ตี้ด ตี้ด แช่ะ ภาพที่ได้ก็ตามที่เห็นครับ
ถ้าผมถ่ายภาพนั้นได้นี้สวยแน่นอนครับ และคงไม่เคยมีใครถ่ายช้างภูกระดึงได้
แบบใกล้ชิดขนาดนั้น และภาพที่แสงสีทองยามเช้ากระทบตัวช้าง และดอกกระดุม
สวยมากครับ
แต่กลับมานั่งคิดอีกที ภาพที่สวยที่สุดก็คือภาพที่ผมถ่ายได้หลังจากนั้นเพราะ
ถ้าผมโชคไม่ดี คงไม่ได้มีโอกาสถ่ายรูปใดๆเลยครับแต่เพราะโชคดีเลยยัง
มีโอกาสได้มีชีวิต กลับมาถ่ายรูปอีกครั้ง
หลังจากนั้นผมเอาเรื่องนี้เล่าให้พี่เจ้าหน้าที่ๆ นำทางฟังเขาก็บอกว่าผมโชคดีมาก
เพราะปกติมันจะไม่หนี เพราะมันฆ่ามาหลายคนแล้ว ช้างที่พี่เขาพูดถึงก็คือ
ไอ้งาเทา ครับถ้าจำไม่ผิดก็มี นักศึกษา อาจารย์จากทางใต้ แล้วก็พระ
ต่างก็ต้องเสียชีวิตเพราะไอ้งาเทา ทั้งนั้นโดยเขตของมันคือทางไปผานกแอ่น
ลานพระแก้ว ครับพอผมฟังก็รู้สึกขนลุกครับ ว่าต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิคุ้มครองผมกับ
เพื่อนแน่นอน
ผมเลยย้อนกับมาคิดว่าผมกับเพื่อนทำอะไรผิดไปบ้างหรือเปล่าก็นึกขึ้นได้
ว่าตอนกางเต็นแถวศาลาหน้าร้านขายโปสต์กาดร์ ผมไม่อยากกางในศาลาอยาก
โดนฝนก็เลยกางข้างศาลาตรงพื้นหญ้า พี่ร้านข้าวแถวนั้นเขาก็เตือนว่าช่วงหน้าแล้ง
ปีนี้แล้งมาก ช้างมาป่วนเปี้ยนบ่อยมากัน 3 ตัวจะมาทุกวันพระคือ 7 วันมาทีครับ
แล้ววันที่ผมไปก็ครบ 7 วันก็เลยเตือนผมให้กางเต็นในศาลาจะปลอดภัยกว่า
ในตอนนั้นผมก็คิดว่าคงไม่เป็นไรเพราะเคยมาแล้ว 2 ครั้งไม่เห็นมีอะไรเลย
พอเพื่อนทักว่าเห่ยทำไม:-)ไม่มากางข้างบน เดี๋ยวก็เจอช้างหรอกไอ้ผมก็ปากไว
ตอบเพื่อนกับไปว่า "เออกูอยากเจอช้าง" นั้นคือสิ่งที่ผมนึกย้อนได้ แต่ท้ายสุดหลังผมกินข้าวเย็น
เจ้าของร้านข้าวข้างๆร้านนัดพบก็ทักว่าพวกน้องกางเต็นกันด้านล่าง
หรือเปล่าเขาก็บอกให้ผมเข้าไปกางในศาลา ผมก็เลยเปลี่ยนใจคิดว่าคง ดุเอาเรื่องคือมีแต่คนเตือน
ขนาดตอนเตรียมจะย้ายเจ้าหน้าที่ยังเดินมายำอีก ผมเลยไม่กล้าดื่อต่อ
ส่วนเพื่อนผมมันพูดตอนเดินไปผานกแอ่นนั้นแหละครับ ว่าเห็น หมูป่า กวาง
หมาป่าแล้ว ขาดแต่ช้าง เพราะเหตุนี้เขาเลยจัดให้ผมสองคนแบบ จะ จะ เต็มๆตา
ก็เลยอยากมาเตือนเพื่อนครับว่าอย่าพูดจาแบบผมกับเพื่อน ของแบบนี้มีจริงครับ
แล้วก็สำหรับตากล้องทั้งหลายเวลาถ่ายอะไรก็ควรจะมีเพื่อนคอยกวาดสายตาดู
รอบๆข้างครับ เพราะผมบอกได้เลยว่าคำที่เขาว่ากันว่าช้างเดินเบาอันนี้เป็นเรื่องจริง
ครับ จากการที่ผมเจอมากับตัวครับ
ฝากเป็นกระทู้เตือนภัยด้วยแล้วกันครับ
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 53 01:04:37
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 53 00:54:38
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 53 00:52:35
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 53 00:45:53
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ย. 53 00:44:53
แก้ไขเมื่อ 09 ก.ย. 53 16:40:47