ความคิดเห็นที่ 1   ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่แวะเข้ามาชม โดยเฉพาะเพื่อน ๆ ที่แวะมาคอมเม้นท์ ถือว่าเป็นการให้กำลังใจในการทำรีวิวได้มากทีเดียวนะครับ ^__^ .. สำหรับ กิ๊ฟ และ โหวต จากเพื่อน ๆ ก็น้อมรับ และขอบคุณมาก ๆ ที่ชื่นชมครับ .. กราบงาม ๆ หนึ่งที _/\_ สำหรับรีวิวที่ผ่านมา ก้อแวะไปชมกันได้นะครับ: [Review] Let's Jumping in Italy, Greece, Istanbul .. 13 days (Part 1: Style Comic) http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9383912/E9383912.html [Review] Let's Jumping in Italy, Greece, Istanbul .. 13 days (Part 2: Style Comic) http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9405720/E9405720.html [revieW/2] LeT's JuMpinG in SaNToriNi, GreeCe .. คุณเคยอยากให้เวลาหยุดหมุนบ้างไหม ? http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9640522/E9640522.html [SeeN] 2010 July @ South Korea, Family Trip http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9625202/E9625202.html [Review] นคร "Damascus" เมืองหลวงแห่ง Syria http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9305794/E9305794.html [Review] Iraq มีอะไรมากกว่าสงครามและสนามรบ "Erbil and Duhok" http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/02/E8917108/E8917108.html แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 03:17:24 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:13:10

ความคิดเห็นที่ 2   บินจากบาร์เรนเช้าตรู่ ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็มาถึง Cairo แล้วล่ะครับ .. ทริปนี้จริง ๆ ก็จะว่าจะลุยเองกับเพื่อนสองคน (คนเดิมที่ไปอิตาลีกรีซกันนั้นล่ะ ช่างถ่ายภาพกระโดดประจำตัว กิตติมศักดิ์) .. แต่พอได้สอบถามเพื่อนร่วมงานชาวอียิปต์ เค้าบอกว่าถ้าไปเองโดน แท๊กซี่หลอกฟันยับแน่ ๆ -__-'' .. คนในพื้นที่บอกกันถึงขนาดนี้ ผมกับเพื่อนเลยตกลงปลงใจซื้อ Private Tour 2D1N ราคาไม่แพงครับ มารับที่สนามบินพาไปเที่ยวไปหม่ำเข้าสถานที่ต่าง ๆ  พร้อมที่พัก และสุดท้ายก็กลับมาส่งที่สนามบิน .. แต่ว่าก็มีบางโปรแกรมที่ไม่ได้คิดไว้ ก็ไปเพิ่มที่หลังได้ครับ จ่ายเงินเค้าเพิ่ม .. ออกจากสนามบินประมาณ 11 โมงเช้า .. ไกด์และคนขับมารับ พาขึ้นรถตู้ (ติดแอร์ด้วย) .. มุ่งหน้าไปยังจุดหมายแรกที่เมือง Giza ซึ่งห่างจาก Cairo 30 กว่ากิโลเมตร ... ระหว่างทาง ข้ามผ่านแม่น้ำไนล์มาได้ เราต้องตะลึงกับตึกที่อยู่รอบ ๆ .. ดูเหมือนจะเป็นตึกที่สร้างไม่เสร็จ แต่มีคนอาศัยเต็มทั้งตึก .. เป็นเพราะว่า รัฐบาลอิยิปต์ ไม่ต้องการให้ผู้คนอาศัยใกล้ ๆ แม่น้ำไนล์ เพื่อให้เป็นแหล่งต้นไม้สีเขียว .. รัฐบาลจึงตัดน้ำตัดไฟ และถ้ามีตึกไหนสร้างเสร็จ ก้อจะทุบทิ้ง !! .. สุดท้ายก้ออย่างที่เห็นในภาพ "Unfinished Building " (*แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 53 03:26:59 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 03:34:21 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 03:33:24 แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 03:27:52 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:26:26

ความคิดเห็นที่ 3   เข้าสู่เมือง Giza แล้วครับ ซึ่งถนนหนทางก้ออย่างที่เห็นในภาพ .. ดูเหมือน รัฐบาล จะไม่มีงบพัฒนา ถนนที่วิ่งไปสู่ The Great Pyramid .. ทั้ง ๆ ที่ ปี ๆ หนึง มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาที่นี่ไม่รู้กี่ล้านคน !!! (ปล. คงเดากันออกว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้นะครับ คุ้น ๆ ใกล้ ๆ ตัวม่ะ) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:31:52

ความคิดเห็นที่ 4   เย้มาถึงแล้ว .. พีระมิดคูฟู (Khufu) หรือ มหาพีระมิดแห่งกิซ่า (The Great Pyramid of Giza) ซึ่งเป็นหนึ่งเดียวในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ยุคเก่า) ที่ยังคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน มีขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า ดีใจจนตัวลอยเมื่อได้มาถึง ^__^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:38:02

ความคิดเห็นที่ 5   วิธีการสร้างมหาพีระมิดแห่งกิซ่า (จาก Google) วิธีการยกแท่งหินขนาดใหญ่หนักหลายสิบตัน เพื่อประกอบขึ้นเป็นพีระมิดอย่างแม่นยำยังเป็นปริศนา โครงสร้างเหนือห้องเก็บโลงพระศพ ในพีระมิดคีออปส์ ประกอบขึ้นด้วย แท่งหินแกรนิตสีแดงขนาดใหญ่หลายสิบแท่งซ้อนทับกัน 5 ชั้น แต่ละแท่งมีน้ำหนัก 50 ถึง 70 เมตริกตัน แท่งหินขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พบในหมู่พีระมิดกิซ่าอยู่ภายในวิหารข้างพีระมิดเมนคีเรเป็นแท่งหินปูนที่มีน้ำหนักมากถึง 200 เมตริกตัน เป็นน้ำหนักประมาณเท่ากับชิ้นส่วนหนักที่สุดภายในเรือไททานิค ซึ่งไม่มีปั้นจั่นใดๆ ในอู่ต่อเรือขณะนั้นสามารถยกได้ จนผู้สร้างเรือต้องว่าจ้างทีมงาน ชาวเยอรมัน มาสร้างปั้นจั่นยักษ์สำหรับยกชิ้นส่วนดังกล่าว เฮโรโดตุส (Herodotus) นักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ซึ่งเดินทางไปอียิปต์ช่วง 450 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 2 พันปีเศษหลังจากพีระมิดสร้างเสร็จ ได้บันทึกคำบอกเล่าของนักบวชชาวอียิปต์โบราณไว้ว่า ในการสร้างพีระมิดชาวอียิปต์โบราณมีอุปกรณ์บางอย่างทำด้วยไม้ใช้สำหรับยกหินขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามไม่พบหลักฐานอื่นๆ ที่อ้างอิงถึงเครื่องมือนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด หรือบันทึกโบราณ เฮโรโดตัสยังได้บันทึกไว้ว่าการก่อสร้าง พีระมิดคูฟู ทำเฉพาะช่วงฤดูน้ำหลากซึ่งประชากรว่างจากการเพาะปลูก นั่นคือ ประมาณปีละ 3 - 4 เดือน และก่อสร้างอยู่ 20 ปี จึงแล้วเสร็จ เนื่องจากเทคโนโลยีในขณะนั้นยังไม่มีระบบปั้นจั่นไม่รู้จักแม้กระทั่งล้อเลื่อน และไม่มีหลักฐานการใช้พาหนะที่ลากด้วยแรงสัตว์ การเคลื่อนย้ายหินจึงใช้แรงงานคนลากเข็นไปบนแคร่ไม้ โดยมีการราดน้ำเพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน การเคลื่อนย้ายวัตถุน้ำหนักมากๆ ด้วยวิธีนี้มีหลักฐานเป็นภาพแกะสลักนูนต่ำบนฝาผนังหิน ซึ่งแสดงการเคลื่อนย้ายเทวรูปหินขนาดใหญ่ด้วยแรงคนนับร้อย วิธีการลำเลียงหินขึ้นสู่บริเวณก่อสร้างในระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการก่อสร้างคืออีกส่วนหนึ่งที่เป็นปริศนา แนวคิดแรกเริ่มเชื่อกันว่าชาวอียิปต์โบราณใช้วิธีสร้างทางลาดบริเวณด้านข้างของพีระมิด และชักลากหินขึ้นตามทางลาดที่ก่อสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความสูงของระดับการก่อสร้างจนถึงจุดสูงสุดยอด และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จจึงทำการรื้อทางลาดดังกล่าวออกคงเหลือไว้แต่ พีระมิด ที่สร้างเสร็จ ถ้าแนวคิดนี้เป็นจริงสิ่งก่อสร้างใหญ่ที่สุดในโลกยุคนั้นอาจไม่ใช่พีระมิดคูฟู แต่อาจเป็นทางลาดสูงเท่าตึก 40 ชั้นที่ใช้ก่อสร้างพีระมิดแทน มีแนวคิดอื่นๆ เสนอว่าทางลาดดังกล่าวอาจไม่ได้สร้างอยู่ด้านใดด้านหนึ่งข้างพีระมิด แต่อาจสร้างเป็นทางวนรอบพีระมิดแทน หรืออาจบางทีแต่ละชั้นของพีระมิดนั่นเองคือทางที่ใช้ชักลากหินขึ้นสู่ชั้นถัดไป ผ่านทางลาดขนาดเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระหว่างแต่ละชั้น แม้จะยังไม่มีข้อสรุปถึงวิธีการลำเลียงหินขึ้นสู่บริเวณก่อสร้าง แต่การประกอบหินแต่ละก้อนสามารถสรุปได้ว่าผ่านการตัดแต่งแบบก้อนต่อก้อน เนื่องจากแต่ละก้อนต้องมีขนาดและแง่มุมพอดีกับหินก้อนอื่นๆที่จัดเรียงไว้ก่อนหน้า เพราะในการก่อสร้างพีระมิดไม่มีการใช้วัสดุเชื่อมประสาน หินแต่ละก้อนวางซ้อนกันอยู่ได้ด้วยน้ำหนักกดทับด้านบน และระนาบที่เท่ากันในแต่ละชั้นจึงต้องตัดแต่งอย่างปราณีตแบบก้อนต่อก้อนก่อนประกอบเข้าสู่ตำแหน่ง ด้วยเครื่องมือง่ายๆ อย่างไม้วัดระดับแนวราบ และสายดิ่งที่ใช้ตรวจสอบผิวหน้าหินในแนวตั้ง โดยใช้ลิ่มหินควอตซ์ (Quartz) ซึ่งเป็นหินอัคนีความแข็งสูงในการขัดแต่งผิวหน้าของหินแต่ละด้านให้เรียบ ช่างหินอียิปต์โบราณสามารถสร้างผลงานดีเยี่ยม จนผิวสัมผัสระหว่างหินแต่ละก้อนห่างกันเพียง 0.02 นิ้วเท่านั้น ควรทราบอีกว่า ณ เวลานั้นโลกยังไม่เข้าสู่ ยุคเหล็ก โดยที่เทคโนโลยีการตีเหล็กยังไม่ถูกพัฒนาขึ้นจนกว่าอีก 1 พันปีต่อมา เครื่องมือโลหะที่มีใช้ในสมัยนั้นทำด้วย ทองแดง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายหากต้องการตัดหินปูนและหินแกรนิตให้ได้ขนาดและรูปทรงตามต้องการ ผู้ศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยียุคโบราณเชื่อว่า ช่างอียิปต์โบราณใช้ แท่งโลหะพันด้วยเชือก เพื่อหมุนปั่นแท่งโลหะเจาะรูลึกในก้อนหินโดยมีการโรยผงทรายลงในรูที่เจาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก้อลองดูได้จากหินแต่ล่ะก้อนที่เค้าเอามาสร้าง ขนาดสูงประมาณหนึ่งเมตร เห็นจะได้ !!! แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 03:42:22 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:41:10

ความคิดเห็นที่ 6   วัตถุดิบที่ใช้ในการสร้างพีระมิดแห่งกิซ่า (จาก Google) พีระมิดแห่งกิซ่า ในสมัย คริสต์ศตวรรษที่ 19แหล่งหินที่นำมาสร้างพีระมิด ไม่อยู่ในบริเวณที่ก่อสร้างแต่ต้องขนส่งจากเหมืองหินที่อยู่ห่างไกลนับร้อยไมล์ มาตามแม่น้ำไนล์ แล้วขนส่งทางบกต่อไปอีกจนถึงบริเวณก่อสร้างซึ่งห่างจากริมฝั่งแม่น้ำไนล์ประมาณ 22 กิโลเมตร หินปูนซึ่งเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้างส่วนใหญ่อยู่ทางใต้ห่างไปกว่า 200 กิโลเมตร เรียงรายตามแนวฝั่งแม่น้ำไนล์ เหมืองหินปูนใกล้ที่สุดอยู่บริเวณเมืองตูราห่างจากกรุงไคโรไปทางใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร ส่วนหินแกรนิตที่ใช้สร้างห้องเก็บพระศพ และโลงพระศพ อยู่บริเวณตอนเหนือของเขื่อนอัสวานในปัจจุบัน ซึ่งห่างจากบริเวณก่อสร้างไปทางใต้กว่า 900 กิโลเมตร การขนย้ายหินจากระยะทางไกลขนาดนั้นต้องใช้พาหนะขนาดใหญ่ล่องตามแม่น้ำไนล์เป็นแรมเดือน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศไทยจะประมาณเท่ากับการล่องเรือจากเชียงรายลงมาถึงกรุงเทพฯ การลำเลียงหินขึ้นลงจะใช้แคร่เลื่อนไม้และอาจใช้จังหวะที่มีน้ำท่วมเข้าถึงบริเวณเหมืองและพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขนย้ายหิน มีข้อสังเกตว่าพาหนะที่ใช้บรรทุกหินจะต้องสามารถรับน้ำหนักได้มากถึงหลายสิบตัน จึงจะสามารถขนแท่งหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ใช้ในการก่อสร้าง พาหนะดังกล่าวอาจมีลักษณะคล้ายเรือใหญ่ ซึ่งมีคานให้เรือขนาดเล็กกว่าหลายๆ ลำช่วยกันพยุงรับน้ำหนักอยู่ด้านล่าง เมื่อเปรียบเทียบกับเรือขุดขนาดใหญ่ของไทยขนาด 45-55 ฝีพายซึ่งยาวร่วม 30 เมตร ยังสามารถรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 10 เมตริกตันต่อลำ พาหนะที่ชาวอียิปต์โบราณใช้ขนส่งหินหนักถึง 70 เมตริกตันจะต้องรับน้ำหนักได้มากกว่าเรือขุดขนาดใหญ่ของไทยหลายเท่า มีการขุดพบเรือโบราณขนาดใหญ่สร้างด้วยไม้ในบริเวณเดียวกับ พีระมิดคูฟู ที่เป็นหลักฐานว่าชาวอียิปต์โบราณมีความสามารถในการต่อเรือขนาดใหญ่ได้ดี ... ทางเข้าThe Great Pyramid of Giza .. มีตำรวจท่องเที่ยวเฝ้าอยู่  .. แต่เข้าไปได้แค่นิดเดียวครับ เค้าไม่เปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าไป .. แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะไปเข้าไปดูอีกอัน จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:45:07

ความคิดเห็นที่ 7   นิยามของมหาพีระมิดแห่งเมืองกิช่า (จาก Google) เคยมีการกล่าวเอาไว้ว่าการสร้างพีระมิดแห่งเมืองอียิปต์นั้นอาจจะไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์ในสมัยของอียิปต์โบราณ แต่อาจจะเป็นฝีมือของชาวแอตแลนติส ที่ได้สร้างเอาไว้ (ดูจากบทความ "แอตแลนติส") ทำให้มีหลายแนวความคิดที่แสดงให้เห็นว่าปิรามิดได้ถูกสร้างขึ้นโดยมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับโลก ดังจะเห็นได้จากคำนิยามของคำว่า "ปิรามิด" จากนักปราชญ์หลายท่าน เช่น อาร์คิเมดิส นักคณิตศาสตร์ชาวกรีกได้ให้นิยามของ "ปิรามิด" ดังนี้ ผลรวมระยะทั้ง 4 ด้านของฐานหารด้วย 2 เท่าความสูง = 3.1416 (ค่าไพ = 3.14159 26535 89793 23846 26433 83279 50288 41971 69399 37510) ค่าการวัดเป็นนิ้ว (Pyramidal Inch) สามารถคำนวณออกมาเป็นขนาดใกล้เคียงกับขนาดของโลกเช่น 50 นิ้วปิรามิด = 1 ใน 10 ล้านของแกนขั้วโลก ผลรวมของด้านฐาน = จำนวนวันใน 1 ปี ซึ่งก็คือ 365.240 สองเท่าของความสูงปิรามิด เมื่อคูณด้วย 10 ล้าน = ความยาวระยะทางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์โดยประมาณ 1 นิ้วปิรามิด คูณด้วย 10 ล้าน = ค่าใกล้เคียงกับระยะทางของวงจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ (ค่าแตกต่างเพียงเล็กน้อย อธิบายได้ว่าความกว้างวงโคจรตอนที่สร้างกับตอนนี้แตกต่างกัน) น้ำหนักของปิรามิดประมาณ 6 แสนตัน คูณด้วย 100,000,000,000,000 = น้ำหนักของโลกโดยประมาณ .. ขอโดดอีกสักทีเหอะ ให้หายสะใจ \^_^/ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:47:32

ความคิดเห็นที่ 8   ถัดไปไม่ไกล (ตา) จะเห็น พีระมิดคาเฟร (Khafre) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:51:00

ความคิดเห็นที่ 9   พีระมิดคาเฟร (Khafre) ตั้งอยู่ตรงกลางของพีระมิดทั้ง 3 และสร้างอยู่บนพื้นที่สูง ทำให้ดูเหมือนมีขนาดใหญ่ที่สุด และมีบางคนเข้าใจผิดว่าพีระมิดคาเฟรคือมหาพีระมิดแห่งกิซ่า ..แต่ถ้าจะเดินก็คงไม่ไหวเพราะว่าอากาศร้อนมากด้วย นั่งรถไปสบายกว่า :) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:52:47

ความคิดเห็นที่ 10   ถึงล่ะ ... พีระมิดคาเฟร .. เดี๋ยวเราเข้าไปดูข้างในกันครับ .. ใครที่ซื้อทัวร์ต้องถามให้ดีก่อนนะครับว่า รวมค่าเข้าที่นี้แล้วยัง ไม่ง้านก้อต้องจ่ายเพิ่มเหมือนป๋ม T__T .. แต่ว่า คุ้มมากนะครับ ได้เข้าไปข้างในเนียะตื่นเต้น ๆ เท้าผมลอยอีกแย้วววว ^^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:55:15

ความคิดเห็นที่ 11   ภายใน พีระมิดคาเฟร ครับผม ทางเข้าค่อนข้างแคบ และเตี้ย ๆ ด้วยครับ .. เค้าห้ามเอากล้องถ่ายรูปตัวใหญ่ ๆ เข้าไปนะครับ :P แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 03:58:37 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 03:57:05

ความคิดเห็นที่ 12   เดินมาสุดทาง ก็จะเจอห้องใหญ่ ๆ ว่างปล่าว .. สมบัติ ต่าง ๆ ถูกยกไปเก็บไว้ที่ Egyptian Museum กับ UK Musuem หมดแล้วก๊าบบบ >_< .. ซึ่งเราจะไป Egyptian Museum ในวันถัดไป .. ส่วน UK Musuem เนียะ คงต้องมีโอกาสที่เหมาะ ๆ ผมต้องตามไปกระโดดแน่ ๆ ;) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:00:53

ความคิดเห็นที่ 13   ซ้ายสุดคือ พีระมิดเมนคูเร (Menkaure) ขนาดเล็กที่สุดและเก่าแก่น้อยที่สุดในหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า จากตำแหน่งการก่อสร้างทำให้คาดได้ว่า เดิมอาจตั้งใจสร้างให้มีขนาดใกล้เคียงพีระมิดคูฟู และพีระมิดคาเฟรแต่ในที่สุดก็สร้างในขนาดที่เล็กกว่า พีระมิดเมนคูเรมักปรากฏในภาพถ่ายพร้อมกับหมู่พีระมิดราชินีทั้ง 3 (The Three Queen's Pyramids) พีระมิดทั้งสามสร้างเรียงต่อกันเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกของกรุงไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ในปัจจุบัน ด้วยโครงสร้างใหญ่โตและลักษณะรูปทรงเรขาคณิตเฉพาะตัว ทำให้สามารถสังเกตเห็นได้จากระยะไกล ทั้งนี้แม้แต่จากภาพถ่ายดาวเทียม จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:03:43

ความคิดเห็นที่ 14   ทางทิศตะวันออกของพีระมิดคาเฟรมี มหาสฟิงซ์ (The Great Sphinx of Giza) หินแกะสลักขนาดมหึมาที่มักปรากฏในภาพถ่ายคู่กับพีระมิดคาเฟร จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:06:07

ความคิดเห็นที่ 15   The Great Sphinx of Giza (จาก Google) สฟิงซ์ของอียิปต์ อาศัยอยู่บนทรายสีเหลืองนุ่มของที่ราบสูงแห่งกิซา เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาซึ่งเรารู้จักกันดี... สฟิงซ์ สัตว์ลูกครึ่งที่ทอดร่างหันหน้าสู่ทิศตะวันออกและหมอบเฝ้ามหาพีระมิดมานับพันปี!! เจ้าสัตว์ที่เกิดจากการรวมตัวอันแปลกประหลาดระหว่างมนุษย์กับสิงโต ส่วนหัวที่เหมือนมนุษย์นั้น มีสัญลักษณ์ องฟาโรห์อียิปต์แสดงไว้ชัดเจน คือมีเคราที่คาง ตรงหน้าผากมีงูจงอางแผ่แม่เบี้ย และมีเครื่องประดับรัดเกล้าแบบกษัตริย์โดยรอบ ความกว้างของใบหน้านั้นประมาณ 14 ฟุต ส่วนลำตัวที่เป็นสิงโตมีความยาวเกินกว่า 240 ฟุต (วัดจากหัวถึงหาง) ขนาดของมันมโหฬารจนคนที่เดินผ่านเหลือตัวนิดเดียว ว่ากันว่าสฟิงซ์ คือ รูปเหมือนขนาดใหญ่กว่าร่างจริงสองเท่าของ "ฮาร์มาชิส" เทพแห่งรุ่งอรุณ เมื่อตอนที่แปลงร่างเป็นสิงโตมีเศียรเป็นฟาโรห์อียิปต์หรือ "sphingein แปลว่า การบีบรัด เพราะสฟิงซ์ของชาวกรีกเป็นสฟิงซ์ที่นิสัยไม่ดี ชอบหยอกเล่นกับเหยื่อ พอมีเหยื่อหลงเข้ามาก็จะถามคำถามและถ้าตอบไม่ถูกจะฆ่าทิ้ง ส่วนหน้าที่ของสฟิงซ์แห่งกิซานอกจากเฝ้าพีระมิดแล้ว เบื้องหลังและทุกด้านของรูปปั้นอมนุษย์นี้ ยังมีพื้นที่ที่ เรียกว่า "นครมรณะ" รายรอบอยู่ นครมรณะกินอาณาบริเวณคลอบคลุมผืนทรายทางใต้ ทางตะวันตกและเหนือของสฟิงซ์หลุมแล้วหลุมเล่าต่างถูกขุดเจาะเป็นโพรง เพื่อใส่โลงหินที่บรรจุร่างของพระราชวงศ์ ขุนนาง และนักบวชชั้นสูงซึ่งผ่านกรรมวิธีการทำมัมมี่มาแล้ว โดยที่สฟิงซ์จะคอยขจัดวิญญาณชั่วร้ายให้พ้นจากหลุมศพเหล่านั้น .. Sphinx แบบเต็ม ๆ ตัวครับ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:11:58

ความคิดเห็นที่ 16   เคยเห็นกันหรือป่าว ว่า ตูด (ก้น) ของ Sphinx หน้าตาแบบไหน ??? ปล คิดเล่น ๆ ว่า ถ้า Sphinx ตัวนี้มีชีวิตอยู่จริง มันจะไปเข้าห้องน้ำที่ไหนเนียะ .. สงสัยอึต้องก้อนโตมาก ๆ แน่ ๆ -__-'' จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:14:44

ความคิดเห็นที่ 17   นักท่องเที่ยวทั่วไป เค้าก้อถ่ายรูปคู่กับ Sphinx แบบนี้ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:17:44

ความคิดเห็นที่ 18   นี้แน่ะ .. ซ่านัก .. จิ้มจมูกหักซะเลย จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:20:28

ความคิดเห็นที่ 19   ผมขอโทษก๊าบบ คุณ Sphinx .. อภัยให้ผมด้วย ^_^'' .. บินหนี Sphinx ดีกว่า ปล จริง ๆ แล้ว ไกด์บอกว่า จมูกของ Sphinx หัก เพราะว่า ทหารฝรั่งเศส ต้องการทำลายครับ ก้อเลยยิงใส่ ทำให้จมูกแหว่งไป >_< .. ผมปล่าวทำหักจริง ๆ นะ :P จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:22:05

ความคิดเห็นที่ 20   เรามาต่อกันที่ Papyrus Institue กันครับ กระดาษของชาวอียิปต์โบราณ ผลิตจากหญ้าที่เรียกว่าปาปิรุส (papyrus) และเรียกว่ากระดาษปาปิรุส พบว่ามีการใช้จารึกบทสวดและคำสาบาน บรรจุไว้ในพีระมิดของอียิปต์ นักประวัติศาสตร์เชื่อว่ามีการใช้กระดาษที่ทำจากปาปิรุสมาตั้งแต่ปฐมราชวงศ์ของอียิปต์ (ราว 3000 ปีก่อนคริสตกาล) มาดูว่าวิธีการทำกระดาษปาปิรุส .. ในสมัย 5000 ปีก่อนเนียะ ..เค้าทำกันอย่าง .. เริ่มต้นจาก ตัดต้น ปาปิรุสมาก่อนครับ ปล เจ้เสื้อเขียวนี่เป็นไกด์ของพวกเรา ที่พาเที่ยว Giza & Cairo ตลอดสองวันก๊าบบบ .. ส่วนน้องเสื้อดำเนียะเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบัน จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:25:40

ความคิดเห็นที่ 21   ขั้นตอนต่อมาคือ ลอกเปลือกออก ก้อจะได้เนื้อของต้นปาปิรุสออกมา .. จากนั้นก็เอามาคลึง ๆ ด้วยไม้ (วางอยู่ซ้ายมือ) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:29:12

ความคิดเห็นที่ 22   ต่อด้วย ก็เอาอุปกรณ์มาหนีบทับกดให้แบน กลายเป็นแผ่นบาง ๆ .. แล้วนำแผ่นที่ได้ไปแช่น้ำทิ้งไว้ ซึ่งถ้าเราแช่น้ำไม่นานมาก ก้อจะได้เป็นสีขาว .. แต่ถ้าแช่น้ำนานมากก็ได้จะสีดำ .. อันนี้ก้อขึ้นอยู่กับความชอบ สุดท้าย ก้อเอากระดาษมาเรียงสับหว่างเป็นฟันปลา .. ก็จะได้กระดาษปาปิรุส ตัวอย่างรูปที่แขวนอยู่ข้างหลังน้องเสื้อดำในรูปข้างบนนะครับ (ความคิดเห็นที่ 21) ก็ล้วนวาดบนกระดาษปาปิรุส ทั้งนั้นนะก๊าบบบ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:33:19

ความคิดเห็นที่ 23   หลังเราผลิตกระดาษปาปิรุส กันเสร็จแล้ว .. ไม่ได้ของติดมือมา เพราะของแท้ แพงมาก >_< .. เดี๋ยวค่อยไปซื้อของเลียนแบบที่ตลาดก๊าบบ จากนั้น เราก้อมาต่อกันร้าน น้ำหอม .. ซึ่งเป็นน้ำหอม Original ของชาวอิยิปต์เค้าล่ะครับ .. ร้านนี้ก้อมีน้ำหอม หลากหลายเชียว .. แบ่งแยกระหว่างกลิ่นสำหรับผู้ชาย และผู้หญิง .. เจ้าหน้าที่เอามาให้ทดลอง ซะหลายกลิ่นจนมึนเลยก๊าบบ ...วิธีแก้คือ เอาเม็ดกาแฟมาดม ล้างกลิ่นใจจมูก (ถ้วยแก้วเล็ก ๆ ที่มีผงกาแฟในรูป) .. เรียบร้อยก๊าบบบ ผมกับเพื่อนได้ อะโรมาเธอราปี มาคนล่ะขวด .. เป็นแบบช่วยเรื่องอาการภูมิแพ้ (ฝากให้มะม้า) .. ส่วนราคาอย่ามาถามให้ช้ำใจ T__T จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:41:21

ความคิดเห็นที่ 24   ถ้วยแก้ว สวย ๆ ไว้ใส่น้ำหอม .. แยกขายต่างหาก .. แต่ราคาแพงครับ หาซื้อในตลาดถูกกว่า ปล  จริง ๆ เมืองไทยก้อมีม้างขวดแบบนี้ ถูกกว่ามากด้วย จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:45:09

ความคิดเห็นที่ 25   เหนื่อยล่ะ กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่โรงแรมก่อนดีกว่า .. สระว่ายน้ำใหญ่ดี แต่ไม่ยักจะมีสาว ๆ ในชุดบิกินีเลย :P จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:46:32

ความคิดเห็นที่ 26   ฝั่งตรงข้ามโรงแรมก้อเป็นห้าง City Center .. เก่า ๆ แลดูเน่า ๆ นิดครับ .. ส่วนใหญ่คนแถบอาหรับ เค้ามักจะเดินห้างกันดึก ๆ นะครับ (9PM-1AM) เพราะว่าไม่ร้อน จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:50:34

ความคิดเห็นที่ 27   รถโดยสารที่ได้รับความนิยมมากใน Cairo คือเจ้า White Chicken (ไก่ขาว) ... ก้อประมาณรถตู้นะครับ แต่มีเครื่องยนต์อยู่ข้างหลัง .. ขับซิ่งดีแท้ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:51:34

ความคิดเห็นที่ 28   ระหว่างเดินเที่ยวรอบ ๆ โรงแรม ... ว้าววว เมื่อไหร่จะมีโอกาสอย่างนี้บ้างนะ ^__^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:53:00

ความคิดเห็นที่ 29   นึกว่ารถตุ๊ก ๆ มีแต่เมืองไทยซะอีก ... Cairo ก้อมีนะ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:53:55

ความคิดเห็นที่ 30   ตลาด Local ตามตรอกซอกซอยใน Cairo ... อืมมม .. จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:55:43

ความคิดเห็นที่ 31   ยิ้มหวานซะ คุณลุงแตงโม .. คือแกขายแตงโมนะครับ ป๋มเลยเรียกว่า คุณลุงแตงโม .. ผมว่าแตงโมแกน่าจะแดงหวาน เหมือนรอยยิ้มแกแน่ ๆ เลย ^___^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 04:59:29

ความคิดเห็นที่ 32   พี่สาวหันหน้าไปแป๊บเดียว .. เจ้าน้องชายตัวแสบ แอบหม่ำขนมหมดถุงเลย .. แสบจริงนะ ^^'' จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:01:03

ความคิดเห็นที่ 33   สนใจเปิดบัญชีฝากเงินที่นี้ดูม่ะครับ .. National Bank of Egypt ..  ^__^'' จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:04:06

ความคิดเห็นที่ 34   หลังจากเดินเล่นรอบ ๆ โรงแรม จนได้เวลานัด 6PM .. ไกด์มารับ พาไปล่องเรือแม่น้ำไนล์ และ Dinner กันคร๊าบบ .. เริ่มหิวกันแล้วชิมิ ^^ (*แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 53 03:36:11 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:06:53

ความคิดเห็นที่ 35   แง้ ๆ >_< อุ้มหนูหน่อยค่ะ "เวลาที่คุณร้องไห้ .. มักจะมีใครคนหนึ่งยื่นมือเข้ามาปลอบ และซับน้ำตาคุณเสมอ" !! จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:10:31

ความคิดเห็นที่ 36   ได้เวลาตากล้องผม คุณตี๋อ้วน (นามสมมติ) .. ออกมาเล่นบ้างแล้ว ^___^ ปล ภาพไหนสวย ๆ ในทริปนี้ หรือว่าทริปที่ผ่านมา ก้อคนนี้ล่ะก๊าบบบที่ถ่าย ต้องเครดิตให้พี่เค้าเยอะ ๆ :) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:14:02

ความคิดเห็นที่ 37   เด็กท้ายเรือ ;) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:15:43

ความคิดเห็นที่ 38   เรือด่วนแม่น้ำไนล์ .. อารมณ์ประมาณเรือด่วนเจ้าพระยาม่ะ? จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:18:46

ความคิดเห็นที่ 39   โอ้มีคนมาเล่นวินด์เซิร์ฟด้วย จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:20:18

ความคิดเห็นที่ 40   การตกแต่งภายในร้าน (เรือ) สวยดี มีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายที่ โดยเฉพาะชาวยุโรป ก๊าบบ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:22:25

ความคิดเห็นที่ 41   หิวกันยัง .. ไปหม่ำ ๆ กันดีกว่าเนอะ .. ดูแล้วกุ๊กท่าทางใจดี .. อาหารต้องอร่อยแน่ ๆ เลย :) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:24:00

ความคิดเห็นที่ 42   ระหว่างรับประทานอาหาร .. มีการแสดงระบำ อาหรับราตรี ให้ดูด้วย .. เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ชาย ^0^ แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 05:27:42 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:26:43

ความคิดเห็นที่ 43   เค้าเต้นหลายเพลงเหมือนกันครับ .. มีพักยกไปเปลี่ยนชุดด้วย .. และนี้ก้อเป็นท่าจบ ก๊าบบ  .. ประมาณว่าเลิศมากกกกก จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:29:25

ความคิดเห็นที่ 44   เราออกไปดูวิว ย่ามค่ำคืนของริมแม่น้ำไนล์ กันบ้างนะครับ ..  ก็มีโรงแรมหรู ๆ ริมแม่น้ำหลายโรงแรม .. เช่น Sofitel Hotel จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:32:06

ความคิดเห็นที่ 45   Grand Hyatt Cairo Hotel จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:33:49

ความคิดเห็นที่ 46   Four Seasons Hotel จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:34:45

ความคิดเห็นที่ 47   คู่หนุ่มสาว มา Romantic บนสะพานข้ามแม่น้ำไนล์ ^^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:36:48

ความคิดเห็นที่ 48   ออกจากเรือ 4 ทุ่มกว่า .. แต่การจราจลคับคั่งมาก ๆ ... จบแล้วสำหรับวันแรก .. พรุ่งนี้เราไปต่อ Museum กัน :) ปล1 ตอนนี้ที่นี้ดึกแล้ว ผมขอตัวไปนอนก่อนนะครับ .. ไว้เวลาบ่าย ๆ เมืองไทยจะมาต่อ ที่กระทู้นี้นะก๊าบบบ eg. Museum .. Mosque .. ตลาดปราบเซียน .. และ Light Show ก๊าบบบ ปล2 วันนี้เงียบมาก ไม่มีผู้โดยสารขึ้นเรือไปกับผมเลย :P จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 05:40:34

ความคิดเห็นที่ 49   สนุกมากครับ....ตามชมอยู่นะครับ จากคุณ : Art999. เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 06:05:05

ความคิดเห็นที่ 50   นั่นนนนนนนนนนนนนน มันต้องโดดเยอะๆอย่างนี้ซิครับ สมศักดิ์ศรีจอมโดดแห่งห้อง  BP เจงๆๆเลย เนื้อหามันส์มากครับ จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 06:17:01

ความคิดเห็นที่ 51   คุณเป็นคนที่น่าอิจฉาทีสุดคนนึง จากคุณ : thekop10 เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 07:32:37

ความคิดเห็นที่ 52   ^_^ นึกถึงการ์ตูนเรื่อง คำสาปฟาโรห์ เลยค่ะ ตึกสร้างไม่เสร็จ แต่ For rent >> rent for 55 ชอบประวัติศาสตร์ของที่นี่มากค่ะ แล้วก็ทึ่งกับการคำนวณของเค้ามากๆ อ่านแล้วสนุกดีค่ะ รอชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : route rover เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 07:42:13

ความคิดเห็นที่ 53   โอ........ยอดมาก ตามชมค่ะ   ขอบคุณที่พาเที่ยว เปิดหูเปิดตา     โดด  ได้ เจ๋ง มาก จากคุณ : เค้กเนย เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 07:56:45

ความคิดเห็นที่ 54   เป็นที่ที่อยากไปที่สุดในชีวิตเลยล่ะ ขอบคุณสำหรับมินิรีวิวนะคะ ไม่นานจะได้ตามรอยคุณ จขกท แล้วล่ะค่ะ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 08:32:59

ความคิดเห็นที่ 55   ติดตามอยู่ค่ะ รูปสวย เนื้อหาสนุก เยี่ยมค่ะ ปล อยากทราบอุณหภูมิค่ะ จากคุณ : smileline เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 08:53:58

ความคิดเห็นที่ 56   อ่านรีวิว แล้วอยากไป แต่แฟนไม่ยอม เพราะเพิ่งไปทำหน้ามา หมดไปหลายหมื่น..................... เศร้าเลยตรู จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:12:59

ความคิดเห็นที่ 57   ท่ากระโดดแจ่มมากครับ ขอบคุณสำหรับรีวิว ทำให้ได้เปิดหู เปิดตามากขึ้นครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:22:43

ความคิดเห็นที่ 58   เป็นอีกหนึ่งที่ ที่อยากไปมากๆ เลยครับ ดูรีวิวนี้แล้วเพิ่มความอยากตรงระบำอาหรับนี่แหละ ขอบคุณสำหรับรีวิว และ ลีลาการโดดแบบสุดมันส์ครับ จากคุณ : keep it up เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:32:31

ความคิดเห็นที่ 59   เข้ามาบอกคำเดียวสั้นๆว่า "อิจฉาคร่า" จากคุณ : ยาหยีผีเบอะ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:35:18

ความคิดเห็นที่ 60   ได้เข้าไปภายในพีระมิดด้วย น่าตื่นเต้นๆ ปล.คุณจขกท.โดดได้ทุกที่เลยนะก่าก๊า จากคุณ : adangrawi เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:42:25

ความคิดเห็นที่ 61   เคยคิดไว้ว่าชีวิตนี้อยากไปเห็นปิระมิดจริงๆ ซักครั้งนึง คุณ จขกท ทำให้เพิ่มความอยากมากขึ้นนะเนี่ย ต้องรับผิดชอบด้วย 555 ขอบคุณสำหรับรีวิวสนุกๆ นะคะ จากคุณ : GeD^_^GeD เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:48:11

ความคิดเห็นที่ 62   ชอบมากเลยครับ อียิปต์เป็นที่ เที่ยวที่อยากไปมานานแล้ว มีวันหยุดแค่2วันก็มาเที่ยวที่นี่ได้ สุดยอดมากเลย ไว้ต้องตามรอยบ้าง ติดต่อซื้อทัวร์ยังไงครับ ราคาเท่าไหร่ ป.ล. แอบอิจฉาเสื้อสีน้ำเงิน เบอร์3 ได้ไปเที่ยวกับคุณhalfofw หลายทริปเลย สงสัยเป็นเสื้อตัวโปรด จากคุณ : toytrip เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 09:56:13

ความคิดเห็นที่ 63   .. อูยยยย จะให้อิจฉาไปถึงไหน เพิ่งตามไปเที่ยวเกาหลี - กรีซ อยู่แวบๆ  แย่งร่างไปตะลอนอียิปต์อีกแล้ว >_____< .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 10:09:33

ความคิดเห็นที่ 64   ชีวิตนี้เที่ยวคุ้มเลยนะครับ แถมมีรายการทีวีท่องเที่ยวของตัวเองด้วย :) เรือล่องแม่น้ำไนล์สวยมากเลยครับ อียิปต์จ๋าเลย ปล.กระโดดแรงๆระวังปิรามิดเขาถล่มนะครับ จากคุณ : Kit_Phuket เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 10:19:47

ความคิดเห็นที่ 65   เวลาบอกใคร ๆ ว่า อยากไปอียิปต์ เพื่อไปตามรอย "คำสาปฟาโรห์" มีแต่คนหัวเราะ แต่ดูจากรีวิวนี้แล้วยิ่งตอกย้ำความฝัน ว่าจะต้องไปให้ได้สักครั้ง ขอบคุณนะคะ สนุกมาก ๆ เลย จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 10:32:24

ความคิดเห็นที่ 66   กระโดดมันส์จริงๆ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 10:35:53

ความคิดเห็นที่ 67   อยากไปอียีปต์ตั้งแต่อ่านหนังสือของพี่ไอซ์ (ฝากรักไว้...ในใจเธอ) ยิ่งมาเห็นอย่างนี้   >_<  .. อิจฉามากมาย    สวย จริง ๆ คะ ปล. ชอบถ่ายภาพกระโดดเหมือนกัน (แต่ตอนนี้จะกระโดดแต่ละทีก็กลัวพื้นจะยุบ ^^") จากคุณ : อยากไปจัง แต่ตังค์ไม่มี (ApPaRenTly) เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 10:46:50

ความคิดเห็นที่ 68   ตามมาชมแล้วครับผม.. หุหุ จากคุณ : เจ้าชายแวมไพร์ เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 10:54:10

ความคิดเห็นที่ 69   เป็นคนที่น่าอิจฉามากกกกก >< แต่ละทริปน่าสนใจมาก จากคุณ : *~~thymos~~* เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:06:25

ความคิดเห็นที่ 70   กำลังจะไปอียิปต์เลยคะ 20 วัน เดือนตุลานี้ละคะ ขอมาเก็บข้อมูลด้วยคนนะคะ เรื่องกระโดคงต้อมแพ้นะคะ อิชั้นสังขารไม่อำนวยแล้วคะ อียิปต์น่ากลัวไหมคะ สำหรับสาวสวยอย่างเราที่จะแบกเป้ไปตะลอนแต่เพียงผู้เดียว จากคุณ : blackbubble เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:13:43

ความคิดเห็นที่ 71   เย้ ๆ ในที่สุดก้อมีผู้โดยสารแล้ว ^___^ ... ไปต่อกันนะครับ .... ปล. พอดีเดี๋ยวต้องไปทำงานตอนเช้า ขอโพสก่อนนะ และจะกลับมาแวะตอบเพื่อน ๆ ข้างบน ^__^'' .............................................................................................. สำหรับเช้าวันที่สองเราก้อเริ่มต้นด้วย Egyptian Musuem นะครับ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:14:20

ความคิดเห็นที่ 72   ตั๋วเข้ามิวเซียมก๊าบบ .. ก้อดูได้เกือบทั้งหมดนะครับ ยกเว้นห้องมัมมี่ ที่ต้องจ่ายค่าตั๋วเพิ่ม จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:16:57

ความคิดเห็นที่ 73   ภายในมิวเซียมห้ามเอากล้องเข้าไปนะครับ ต้องฝากไว้ที่รับฝากกระเป๋าครับ .. No Photo :P จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:18:58

ความคิดเห็นที่ 74   หน้ากากมัมมี่อันลื่อชื่อ ของ Tutankhamun .. เนื่องจากถ่ายรูปไม่ได้จริง ๆ .. เกือบโดนเจ้าหน้าที่จับด้วย รูปนี้จึงเอามาจาก WIKI นะครับ WIKI: Tutankhamun (alternately spelled with Tutenkh-, -amen, -amon), Egyptian twt-ˁnḫ-ı͗mn, approx. [təwaːt ʕaːnəx ʔaˈmaːn]; 1341 BC – 1323 BC) was an Egyptian pharaoh of the 18th dynasty (ruled c.1333 BC – 1323 BC in the conventional chronology), during the period of Egyptian history known as the New Kingdom. His original name, Tutankhaten, means "Living Image of Aten", while Tutankhamun means "Living Image of Amun". In hieroglyphs the name Tutankhamun was typically written Amen-tut-ankh, because of a scribal custom that placed a divine name at the beginning of a phrase to show appropriate reverence. He is possibly also the Nibhurrereya of the Amarna letters. He was likely the 18th dynasty king 'Rathotis' who, according to Manetho, an ancient historian, had reigned for nine years — a figure which conforms with Flavius Josephus's version of Manetho's Epitome. จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:21:08

ความคิดเห็นที่ 75   มัมมี่ (Mummy) WIKI: คือศพที่ดองหรือแช่ในน้ำยาพิเศษในประเทศอียิปต์ พันทั่วทั้งร่างกายด้วยผ้าลินินสีขาว เพื่อเป็นการรักษาสภาพของศพเพื่อรอการกลับคืนร่างของวิญญาณผู้ตาย ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ คำว่า "มัมมี่" มาจากคำว่า "มัมมียะ" (Mummiya) ซึ่งเป็นคำในภาษาเปอร์เซีย มีความหมายถึงร่างของซากศพที่ถูกดองจนกลายเป็นสีดำ โดยชาวอียิปต์โบราณจะทำมัมมี่ของฟาโรห์และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ และนำไปฝังในลักษณะแนวนอนภายใต้พื้นแผ่นทรายของอียิปต์ อาศัยแรงลมที่พัดผ่านในแถบทะเลทรายอาระเบียและทะเลทรายในพื้นที่รอบบริเวณของอียิปต์ เพื่อป้องกันการเน่าเปื่อยของซากศพที่อาบด้วยน้ำยา ในอียิปต์โบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของชีวิตหลังความตาย เกี่ยวกับการหวนกลับคืนร่างของวิญญาณ โดยมีความเชื่อว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างไปชั่วระยะเวลาหนึ่งจะหวนกลับคืนสู่ร่างเดิมของผู้เป็นเจ้าของ จึงต้องมีการถนอมและรักษาสภาพของร่างเดิม โดยการแช่และดองด้วยน้ำยาบีทูมิน ซึ่งจะช่วยรักษาและป้องกันไม่ให้ซากศพเน่าเปื่อยผุผังไปตามกาลเวลา ... เข้าไปดู MummY .. มัมมี่ .. ตัวเป็น ๆ ก๊านนน (ปล. เข้ามาเพิ่มข้อมูล MummY ให้ก๊าบบ) แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 19:09:28 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:23:35

ความคิดเห็นที่ 76   วิธีการทำมัมมี่ WIKI: นำศพของผู้ตายมาทำความสะอาด ล้วงเอาอวัยวะภายในออกโดยการใช้ตะขอที่ทำด้วยสำริดเกี่ยวเอาสมองออกทางโพรงจมูก แล้วใช้มีดที่ทำจากหินเหล็กไฟซึ่งมีความคมมาก กรีดข้างลำตัว เพื่อล้วงเอาตับ ไต กระเพาะอาหาร ปอดและลำไส้ออกจากศพ โดยเหลือหัวใจไว้ สาเหตุที่ไม่เอาหัวใจออกจากร่างด้วยเพราะเชื่อกันว่าหัวใจเป็นศูนย์รวมแห่งจิตวิญญาณ อวัยวะภายในเหล่านี้จะถูกแทนที่ด้วยวัสดุประเภทขี้เลื่อย เศษผ้าลินิน โคลน และเครื่องหอม จากนั้นอวัยวะทั้งหมดจะถูกนำไปล้างด้วยไวน์ปาล์ม เสร็จแล้วก็จะถูกนำลงบรรจุในภาชนะสี่เหลี่ยม มีฝาปิด ที่รู้จักกันในชื่อของคาโนบิค ส่วนร่างของผู้ตายจะถูกนำไปดองโดยใช้เกลือประมาณ 7-10 วัน เมื่อศพแห้งสนิทแล้ว ก็จะถูกนำมาเคลือบด้วยน้ำมันสน จากนั้นจะมีการตกแต่งและพันศพด้วยผ้าลินินสีขาวชุบเรซิน มัมมี่ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะถูกนำบรรจุลงในหีบศพ พร้อมกับเครื่องรางของขลังต่างๆ และมัมมี่บางตัวยังมีหน้ากากที่จำลองใบหน้าของผู้ตายวางไว้ในหีบศพของมัมมี่อีกด้วย สำหรับเพื่อนที่สนใจ วิธีทำมัมมี่อย่างละเอียด รบกวนเข้าไปดูที่ WIKI: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88 ... มัมมี่ตัว (คน) นี้ อายุ 3 พันกว่าปี นะครับ .. สุดยอดจริง ๆ เทคโนโลยีสมัยโบราณของคนอียิปต์เนีรยะ ^__^ (ปล. มาเพิ่มข้อมูลวิธีการทำ MummY ให้ก๊าบบบ) แก้ไขเมื่อ 07 ก.ย. 53 19:11:07 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:25:47

ความคิดเห็นที่ 77   จากนั้นเราก้อมาต่อกันที่ป้อมปราการ อายุเกือบพันปี .. The Saladin Citadel of Cairo ( قلعة صلاح الدين ) WIKI: is a fortification in Cairo, Egypt. The location, part of the Muqattam hill near the center of Cairo, was once famous for its fresh breeze and grand views of the city, and was fortified by the Ayyubid ruler Salah al-Din (Saladin) between 1176 and 1183 AD, to protect it from the Crusaders. จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:28:01

ความคิดเห็นที่ 78   ถัดจาก Citadel อยู่ติดกันคือมัสยิด The Mosque of Muhammad Ali Pasha. WIKI: The Mosque of Muhammad Ali Pasha or Alabaster Mosque (Arabic: مسجد محمد علي, Turkish: Mehmet Ali Paşa Camii) is a mosque situated in the Citadel of Cairo in Egypt and commissioned by Muhammad Ali Pasha between 1830 and 1848. Situated on the summit of the citadel, this Ottoman mosque, the largest to be built in the first half of the 19th century, is, with its animated silhouette and twin minarets, the most visible mosque in Cairo. The mosque was built in memory of Tusun Pasha, Muhammad Ali's oldest son, who died in 1816. This mosque, along with the citadel, is one of the landmarks and tourist attractions of Cairo and is one of the first features to be seen when approaching the city from no matter which side. จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:29:52

ความคิดเห็นที่ 79   ดีใจจนเท้าไม่ติดดินอีกแล้ว .. โย่ว ๆ  ^__^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:31:36

ความคิดเห็นที่ 80   ภายใน Mosque .. จะมองเห็นว่ามีนาฬิกาขนาดใหญ่ .. ซึ่งเป็นของขวัญจาก King Louis Philippe of France ในปีคศ 1845 .. ซึ่งมีเรื่องตลกเล่ากันว่านาฬิกาเรือนนี้ใช้ไม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง !!! จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:32:39

ความคิดเห็นที่ 81   ให้ดูความพยายามของตากล้องก๊าบบ กว่าจะได้ภาพสวยแต่ล่ะภาพ :) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:33:35

ความคิดเห็นที่ 82   มุมนี้ ป๋มมม ชอบก๊าบบ .. เย้ ๆ ^^/ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:34:52

ความคิดเห็นที่ 83   แต่มุมนี้ ตากล้องชอบ .. \^^ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:35:52

ความคิดเห็นที่ 84   ภายใน ของภายใน Mosque (เอ๊ะยังงัย งง ๆ -__-'') .. จะมีดวงไฟเรียงเป็นวงกลม .. ช่วยกันนับหน่อยสิว่ากี่หลอด ? เฉลย 365 หลอดก๊าบบบ เท่ากับจำนวนวันในหนึ่งปี .. แล้วถ้าปีนั้นมี 366 วันล่ะ จะมีคนมาติดหลอดเพิ่มปล่าวว้า .. ผมเองก้อลืมถามมั่วแต่กระโดดเพลิน :P จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:39:26

ความคิดเห็นที่ 85   The cupola of the mosque from the interior .. การตกแต่งบนเพดานหลังคา .. ทำได้อย่างสวยงามมากมายเลยนะครับ .. เห็นด้วยม่ะ? จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:41:03

ความคิดเห็นที่ 86   halfofw: ขอถ่ายรูปคู่ด้วยหน่อยนะก๊าบบบ .. น้อง ฟาโรห์น้อย ^__^ ฟาโรห์น้อย: ได้เลยคร๊าบบบ ..... 10 LE halfofw:  ^______^'' ปล 1LE = 6บาท โดยประมาณ .. มุขนี้ล้อเล่นนะน้องเค้าไม่ติดตังค์ น่ารักมาก ๆ .. แต่มีอีกรูป ตำรวจท่องเที่ยวถ่ายให้ผมกับเพื่อน ถ่ายเสร็จโดนไป 10 LE ของจริง .. ใกล้ ๆ กันนี้ล่ะ (*แก้คำผิด) แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 53 03:46:20 จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:45:04

ความคิดเห็นที่ 87   ข้าง ๆ The Mosque of Muhammad Ali Pasha เราก้อจะมองเห็น .. The Sultan al-Nasir Muhammad ibn Qala'un Mosque WIKI: is an early 14th century mosque at the Citadel in Cairo, Egypt (the sultan also built a religious complex in the center of the city, next to the one by his father Qalawun). It was built by the Mamluk sultan Al-Nasr Muhammad in 1318 as the royal mosque of the Citadel, where the sultans of Cairo performed their Friday prayers. The mosque is located across the street from the courtyard access to the Mosque of Muhammad Ali. The hypostyle mosque is built as a free standing 63 x 57 m rectangle around an inner court with a sanctuary on the qibla side and galleries surrounding the other three sides. The main entrance protrudes from the face of the western wall. There are two other entrances, on the northeastern side and on the southern side, respectively. Unlike most other mosques of Cairo, its outer walls are not paneled and have no decoration except a crenellation composed of rectangles with rounded tops. This results in a rather austere appearance which is probably accounted for by the military nature of its setting. Crenellation on the inner walls around the courtyard is of the stepped type. There are two minarets, both built entirely of stone, one at the northeast corner and one at the northwest portal right above the main entrance; the former is the higher of the two. The top of the latter is unique in Cairo in that it has a garlic-shaped bulb. The upper structure is covered with green, white and blue glazed mosaics (faience). This style has probably been brought by a craftsman from Tabriz who is known to have come to Cairo during the reign of al-Nasr Muhammad. Contrary to all other Mamluk mosques, the base of both minarets is below the level of the roof of the mosque. This indicates that the minarets were already standing when the walls were made higher in 1335. The heightening of the walls also resulted in a row of arched windows that give the building a special character. In the 1335 renovation, the mosque was heightened, its roof rebuilt and a dome of plastered wood covered with green tiles was added over the maqsura (prayer niche). For centuries the Qala'un Mosque was considered the most glamorous mosque in Cairo until the dome over the prayer niche collapsed in the sixteenth century and the high marble dado was carried off to Istanbul by the Ottoman conqueror Sultan Selim I. The present dome is modern, carried by granite columns taken from ancient Egyptian temples. จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:47:14

ความคิดเห็นที่ 88   ซ้อนท้ายเลยก๊าบบบ .. เดี๋ยวผมพาไป Shopping ที่ตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Cairo กัน (จะโดนฟันหัวแบะ หรือปล่าวเดี๋ยวรู้กัน 555) จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:48:07

ความคิดเห็นที่ 89   บ่ายสองแล้ว หิวจนไส้แห้งขอหม่ำอะไรรองท้องก่อนนะครับ .. เราก้อหม่ำหม่ำแถว ๆ ย่านขายของที่ระลึก.. Bazaar Khan El-Khalili จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:48:56

ความคิดเห็นที่ 90   ด้านหน้าร้านอาหารที่เราหม่ำ คือ Al-Hussein Mosque WIKI: is a mosque built in 1154 and located in Cairo, Egypt, near the Khan El-Khalili bazaar. It is named for the grandson of Muhammad, Husayn ibn Ali, whose head is believed by some to be buried on the grounds of the mosque. Shī‘ah Muslims believe that the head of Husayn ibn Ali is with his body in the Imam Husayn Mosque in Karbala. The mosque, considered to be one of the holiest Islamic sites in Cairo, was built on the cemetery of the Fatimid caliphs, a fact that was later discovered during the excavation. The mausoleum (dating back to 1154) is the oldest part of the complex. จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:50:47

ความคิดเห็นที่ 91   อีกมุม คร๊าบบ จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:52:01

ความคิดเห็นที่ 92   ขยันทำความสะอาดใหญ่เชียว :) "คนเราถ้ารักงานที่เราทำแล้ว ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานอะไร เราก้อมีความสุขเสมอ" เพื่อน ๆ คิดว่าอย่างนั้นม่ะ ? จากคุณ : halfofw เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 11:54:08