ความคิดเห็นที่ 1   เช้าแล้วจ้า เจ้าข้าเอ๊ยยยยย ลงไปเดินเล่นตรงสวนหย่อมของ B&B ดีก่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:43:25

ความคิดเห็นที่ 2   อุ๊ย เจ๊อะเจ้าบ้านซะด้วย เมี๊ยวววววววว B&B นี้มีน้องแมวอยู่ 2 ตัวค่ะ เป็นตัวผู้หนึ่ง ตัวเมียอีกหนึ่ง ที่เห็นนี่เป็นตัวเมียซึ่งชีขี้อายหน่อยนะฮะ ไม่ค่อยเดินมาเล่นกับแขกเลย ส่วนตัวผู้อีกตัว ไม่เห็นเลยแฮะ คงหนีไปเที่ยวเล่นกระมัง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:43:51

ความคิดเห็นที่ 3   ปล่อยน้องเหมียวเค้าอยู่อย่างสงบๆละกัน ส่วนเราก็ก้มหน้าก้มตาหม่ำข้าวเช้ากันไป ที่ Absoluut Verhulst B&B ที่เราพักเนี่ย มีแค่ 3 ห้องเองค่ะ นี่ก็โฉมหน้าเพื่อนร่วมชายคาของเราค่ะ มีคู่หนุ่มสาวชาวเมกัน เผอิญเค้ากินเสร็จเช็คเอาท์ตอนเราลงมาพอดี เลยไม่ทันคุยกัน ส่วนอีกคู่เป็นผัวเมียชาวเมกันเช่นกัน คู่นี้มาจากแถวๆซานฟราน ตอนแรก จขกท.ก็เหล่ๆคุณเมียเล็กน้อย เพราะหน้าตาแอบเหมือนคนไทย สุดท้ายคุณน้ามาแบไต๋ว่าอะฮั๊นเชื้อยุ่นฮ่ะ แต่รุ่นเกิดโตในเมกา พูดญี่ปุ่งม่ายล่ายเลย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:44:40

ความคิดเห็นที่ 4   อาหารเช้าของ B&B เจ้านี้นี่อลังการงานสร้างใช่เล่นนะฮะ มีทั้งขนมปัง แฮม ชีส ผลไม้ น้ำส้มคั้นสดๆ ชา กาแฟ แถมยังเลือกไข่ได้จานนึง จะเอาไข่ดาวก็ได้ ไข่ต้มก็ดี จขกท.เลยฟาดอ็อมเล็ตไส้แฮม เห็ด หัวหอม ชีส ซะให้ อาหย่อยยยยยย ตอนที่คุณ Benno เดินมาเก็บจาน จขกท.ชมว่า breakfast อร่อยมั่กๆเลยค่ะคุณน้า เฮีย Benno ยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งก่อนตอบว่า "ไม่อร่อยได้ไงจ๊ะ เป็นอาหารเช้าที่ปรุงจากหัวใจของน้าเรยนะ" เอ่อ...คุณน้าขา ไม่ทราบมีอาชีพเก่าเป็นพระเอกลิเกมาก่อนเหรอเคอะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:45:07

ความคิดเห็นที่ 5   หม่ำข้าวเช้าจนอิ่มหมีพีมันแล้ว ได้เวลาออกลุย Bruges ซะที โย่ว์!! ลองเดินเลียบคลองแถว B&B ไปเรื่อยๆดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:45:36

ความคิดเห็นที่ 6   ทำไมน่ารักอย่างงี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:45:53

ความคิดเห็นที่ 7   เจอช็อตนี้เข้าไป จขกท.แทบเป็นลม จะสวยไปไหนจ๊ะน้อง Bruges จ๋าาาาาาา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:46:42

ความคิดเห็นที่ 8   เห็นชาวบ้านเขานั่งเรือแล้ว จขกท.เลยเกิดกิเลสอยากนั่งมั่ง พอเห็นบู้ธสีแดงๆขายตั๋วทัวร์นั่งเรือปุ๊บ อิฉันก็รีบถลาเข้าไปตีตั๋วทันที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:47:33

ความคิดเห็นที่ 9   กี๊ดๆ น้องเรือ น้องคลองจ๋า หนูมาแย๊วววววว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:47:47

ความคิดเห็นที่ 10   ในเวลาเดียวกัน ป๊ะป๋าเดี๊ยนก็กำลังโดนเด็ก ม.ต้น รุมทึ้งอยู่พอดี!! "ลุงครับๆ ลุงเป็นคนญี่ปุ่นป่าวครับ" "ป่าวจ้า ลุงเป็นคนไทยจ้า" "งั้นลุงมีพาสปอร์ตไทยป่าวครับ" "พาสปอร์ตอยู่ที่โรงแรมจ้ะ แล้วจะเอาไปทำไมเนี่ย" "อาจารย์ส่งพวกเรามาเล่นเกม ใครถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวได้หลายสัญชาติสุดคนนั้นชนะครับ! แต่ต้องถ่ายรูปพาสปอร์ตด้วยสิ" "ถึงลุงเค้าไม่ได้พกพาสปอร์ต แต่เราก็ถ่ายรูปไปก่อนก็ได้นี่เนอะ เอ้ายิ้มค่าลุง *แชะ* ขอบคุณค่า/ครับ" กร๊ากกกก นี่มัน field trip วิชาไหนคะเนี่ย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:48:18

ความคิดเห็นที่ 11   หลังจากป๊ะป๋าฝ่าวงล้อมเด็กๆมาได้ เราก็ได้ขึ้นเรือซะที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:48:36

ความคิดเห็นที่ 12   โดยทัวร์นี้ได้พี่แว่นในภาพเป็นไกด์ค่ะ ซึ่งแกต้องพากย์ 3 ภาษา - ดัชต์,ฝรั่งเศส,อังกฤษ เลย เก่งจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:49:16

ความคิดเห็นที่ 13   ออกเรือแล้วล่ะน๊า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:49:30

ความคิดเห็นที่ 14   หลังคาบ้านริมคลองเป็น stepped gable ทั้งแถบ สำเนาถูกต้องมั่กๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:50:14

ความคิดเห็นที่ 15   บ้านนี้ไกด์บอกเป็นบ้านของสถาปนิกค่ะ สังเกตได้จากวงเวียนและอุปกรณ์เขียนแบบบนหลังคา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:50:34

ความคิดเห็นที่ 16   ส่วนหลังนี้ใช้เป็นฉากในหนัง In Bruges ที่นำแสดงโดย Colin Farrell ด้วยนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:51:17

ความคิดเห็นที่ 17   ถนนริมคลองเส้นนี้ บรรยากาศน่านั่งมั่กๆอ่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:51:34

ความคิดเห็นที่ 18   เมือง Bruges นี่ได้ฉายาว่าเป็น Venice of the North ด้วยค่ะ ด้วยความที่คลองรอบเมือง แต่ก็ยังเยอะสู้เวนิสต้นฉบับไม่ได้ แถมบรรยากาศยังต่างกันมากมาย เวนิสจะมาแนวอลังการงานสร้าง ส่วน Bruges จะออกแนวเมืองน้อยน่าเอ็นดูมากกว่า คลองเยอะ สะพานก็เลยแยะตาม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:52:56

ความคิดเห็นที่ 19   ส่วนสะพานนี้ ไกด์บอกว่า "เราจะผ่านสะพานที่เตี้ยที่สุดของเมือง Bruges แล้วนะคร้าบ ฉะนั้นทุกท่านกรุณาก้มๆหัวหน่อย แต่ถ้าท่านเป็นคนเยอรมันหรือฝรั่งเศส กรุณายืนขึ้นด่วนๆ" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:53:38

ความคิดเห็นที่ 20   ส่วนอันนี้ เป็นหน้าต่างที่เล็กที่สุดของเมืองค่ะ กร๊ากกกก จะมีไว้ทำอะไรวะเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:54:01

ความคิดเห็นที่ 21   จริงๆแค่นั่งเรือดูบ้านเมืองเค้าเฉยๆก็คุ้มแล้วค่ะ เพราะเราจะได้มองเมืองน่ารักๆนี้ ด้วย swan eye view (อย่างหล่อนต้องเป็ดพะโล้แล้วอีชอ ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:54:25

ความคิดเห็นที่ 22   พูดถึงน้องหงส์ น้องหงส์ก็มา (เป็นกองทัพเลย!) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:54:37

ความคิดเห็นที่ 23   โอว์ น้องหงส์น้องเป็ด สองเผ่าพันธุ์อยู่ด้วยกันอย่างสมานฉันท์มาก ไกด์เจ้าเก่าบอกว่า เป็ดกะหงส์ในเมืองนี้เป็นตัวผู้ซะเยอะ จนไกด์สงสัยว่ามันจะกลายเป็นเป็ดเกย์รึเปล่า O_o แต่ จขกท.สงสัยนี่มากกว่าฮ่ะ ว่าปีๆนึง จะมีน้องเป็ดน้องหงส์โดนเรือชนเดี้ยงไปกี่ตัว -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:55:07

ความคิดเห็นที่ 24   ขากลับนั่งผ่านท่าเรือของอีกเจ้าด้วย ไกด์เลยบอกว่า "เด๋วนะครับทุกท่าน กระผมขอตัวเก็บคู่แข่งก่อน!" ว่าแล้วเฮียก็ทำเสียงรัวปืนกลไส่ไมค์ค่ะ! นี่ตกลงตูมาซื้อ ปญอ.ทัวร์ซะให้แล้วเรอะ >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:56:25

ความคิดเห็นที่ 25   แล้วทัวร์นั่งเรือขำๆครึ่งชั่วโมงของเราก็มาจบที่มุมมหาชนสุดงามนี่เจ้าค่ะ โอ้แม่เจ้า นี่มันเมืองเทพนิยายหรืออะไรคะเนี่ย >_< แต่จริงๆความงามดั่งเมืองตุ๊กตาของ Bruges นี่มีที่มาอันแสนเศร้าค่ะ เพราะอุตสาหกรรมการค้าผ้าที่รุ่งเรืองของ Bruges มาถึงยุคตกต่ำในช่วงปลายปี 1400s สวนทางกับ Antwerp ที่เริ่มเจริญขึ้นเรื่อยๆ แล้วเมืองก็มาตายสนิทในปี 1530 เมื่อแม่น้ำ Zwin ที่เชื่อมเมืองบรูจส์กับ North Sea นั้นเกิดอุดตันด้วยเศษหินเศษโคลนจนเรือใหญ่แล่นผ่านไม่ได้ ชาวเมือง Bruges เลยต้องอพยพย้ายไปที่อื่น ทำให้เมืองยังคงสภาพบ้านเรือนเมื่อ 500 กว่าปีก่อนไว้ได้ ด้วยเหตุฉะนี้ ตอนนี้เมือง Bruges เลยกลายเป็นมิวเซียมกลางแจ้งที่อุดมด้วยนักท่องเที่ยวไปซะแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:57:18

ความคิดเห็นที่ 26   จบทัวร์ภาคพื้นน้ำ เราก็ย้ายมาทัวร์ภาคพื้นดินต่อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:57:52

ความคิดเห็นที่ 27   อะไรเอ่ย น่ารักจัง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:58:05

ความคิดเห็นที่ 28   บอกแล้วจะตกใจมั๊ยฮะ ว่าเจ้าตึกแสนกุ๊กกิ๊กนี่ ไม่ใช่โบสถ์หรือวัง แต่เป็นหอเก็บเอกสารของเมือง ตึ่งโป๊ะ! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:59:03

ความคิดเห็นที่ 29   ส่วนที่อยู่ข้างๆนี่ก็ Stadhuis หรือ Town Hall ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:59:22

ความคิดเห็นที่ 30   รูปสลักเต็มด้านหน้า Stadhuis เลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 05:59:59

ความคิดเห็นที่ 31   เราลองเดินเข้าไปดูๆ เลยเจอพนักงานชี้ชวนให้ซื้อ 3-day Bruges Pass ในราคา 15 ยูโร ซึ่งคุ้มมากค่ะ โดยเฉพาะถ้าใครวางแผนตะลุยมิวเซียมใน Bruges ด้วยเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:00:22

ความคิดเห็นที่ 32   เราเลยได้เบิกศักราช บัตรเบ่ง Bruges Pass กันที่ Stadhuis เนี่ยแหล่ะ เหล่าเต้งของ Stadhuis ก็จะเป็น Gothic Hall ซึ่งใช้เป็นที่ประชุมสภาในยุคโบราณ ห้องสวยมากๆๆๆค่ะ โดยเฉพาะเพดานโกธิคสุดลิ่มทิ่มประตูนั่น หนูชอบบบบ น่าเสียดายที่เค้าห้ามถ่ายรูปข้างในห้องค่ะ งื้ดๆ (ภาพ : terragalleria.com) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:01:43

ความคิดเห็นที่ 33   รอบๆห้องจะเป็นจิตรกรรมฝาผนังที่วาดขึ้นในปี 1895 ซึ่งเล่าถึงประวัติศาสตร์ของ Bruges ที่เคยเจริญรุ่งเรือง (ส่วนการล่มสลายของเมืองนั้น เค้าไม่พูดถึงค่ะ ช่วยแอ๊บแบ๊วทำเป็นไม่รู้เรื่องด้วยนะฮะ กร๊ากกกก) (ภาพ : visit-bruges.be) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:02:18

ความคิดเห็นที่ 34   ข้างๆ Stadhuis ก็เป็น Basilica of Holy Blood ซึ่งโกธิคได้สุดตรีนเช่นกัน แต่ตอนเราไป เค้ากำลังจะปิดโบสถ์พักเที่ยงพอดี เลยขอต๊ะไว้ก่อนละกันเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:02:43

ความคิดเห็นที่ 35   เดินต่อไปยัง Markt (Market Square) ดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:03:01

ความคิดเห็นที่ 36   บรรยากาศตรง Markt นี่คึกคักมั่กๆ คนอย่างตรึม จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:03:14

ความคิดเห็นที่ 37   ตรงกลาง Markt จะเป็นอนุสาวรีย์ของ Pieter de Coninck แห่งสมาคมผู้ทอผ้า และ Jan Breydel แห่งสมาคมพ่อค้าหมู ทั้งสองเป็นแกนนำพาชาวเมืองถล่มกองทัพจากเบอร์กันดี ในสมัยกระโน้น Bruges อยู่ใต้การปกครองของราชวงศ์เบอร์กันดีซึ่งเป็นพัทธมิตรกับฝรั่งเศส แต่เนื่องจากอุตสาหกรรมทอผ้าของเมืองนั้น ต้องพึ่งพาขนแกะจากอังกฤษ และก็รู้ๆกันอยู่ว่าฝรั่งเศสกับอังกฤษนี่ เขากินเกาเหลากันมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหาแล้ว ทำให้บรรดาพ่อค้าของ Bruges ง๊องแง๊งๆกับนายเหนือหัวอยู่เนืองๆ เมื่อชาวเมือง Bruges โวยวายไม่ยอมจ่ายภาษีเรตใหม่ที่บังคับใช้โดย Philip the Fair แห่งราชวงศ์เบอร์กันดี Philip เลยส่งกองทัพมาตั้งป้อมอยู่หน้าเมือง สองฮีโร่ของเราเลยพาชาวเมืองออกไปเชือดบรรดาทหารที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:03:40

ความคิดเห็นที่ 38   วีรกรรมเปรี้ยวตรีนของบรรดาพ่อค้าเมือง Bruges ยังไม่จบแค่นั้นค่ะ! หลังจากราชวงศ์เบอร์กันดีสิ้นทายาทสืบตระกูล ราชวงศ์ Habsburg จากออสเตรียเลยส้มหล่น ได้ครอง Bruges แทน และเมื่อเจ้าชาย Maximilian แห่ง Habsburg พยายามจะเข้ามาจำกัด อภิสิทธิ์ของบรรดาพ่อค้าของเมือง ชาวเมืองเลยจับเจ้าชายเป็นตัวประกันไปซะ 3 เดือนขำๆ >_< ว่ากันว่าเจ้าชายแม็กซิมิเลี่ยนโดนขังอยู่ในตึกที่เห็นนี่ (ซึ่งตอนนี้กลายเป็น Cafe Craenenburg ไปแหล่ว) และเจ้าชายต้องทนดูบรรดาที่ปรึกษาและคนสนิทของแก โดนจับทรมานโชว์ชาวเมืองก่อนถูกเชือดทิ้ง ภายหลังไม่ทราบว่าเจ้าชายไปสัญญาอะไรกับชาวเมือง Bruges แกถึงหลุดรอดจากการคุมขังมาได้ แต่เจ้าชายแม็กซิมิเลี่ยนก็ไม่เคยลืมความหลังฝังใจหนนี้ พอแกได้ขึ้นครองบัลลังก์ Habsburg ปุ๊บ Maximilian ก็จัดการดันเมือง Antwerp ให้เป็นศูนย์กลางความเจริญแทน Bruges และนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ Bruges ต้องพบกับจุดจบที่น่าเศร้าในกาลต่อมา... จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:04:01

ความคิดเห็นที่ 39   เล่าแต่เรื่องเครียดๆแล้ว มาชมอะไรเบาๆกันบ้างดีไหมฮะ อย่างเช่นช็อคโกแล็ตของร้าน Galler ที่อยู่ใกล้ๆ Markt นี่ไง ร้าน Galler นี่มาจากเมือง Liege ในแคว้น Wallonia ค่ะ ที่บรัสเซลส์ก็มีสาขาอยู่ตรงกรองส์ปลาสเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:04:16

ความคิดเห็นที่ 40   อูว์ ละลานตาไปหมด เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว "ร้านเราชิมฟรีได้ชิ้นนึงนะคะคุณพี่ จะลองซักอันมั๊ยคะ" น้องพนักงานขายเสนอมาแบบนี้ มีเหรอเดี๊ยนจะปฏิเสธ! ช็อกโกแล็ตร้านนี้ก็อร่อยดีนะคะ หอมหวานแต่ไม่เลี่ยนมาก จขกท.เลยได้ถอย Pralines ในภาพมาลองชิมหลายๆรส แฮ่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:05:02

ความคิดเห็นที่ 41   จากร้าน Galler เราก็เดินชมตึกรามบ้านช่องน่ารักๆของ Bruges ไปเรื่อยๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:05:16

ความคิดเห็นที่ 42   จนมาถึงร้าน Chocolate Line สุดแนวของเมือง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:05:28

ความคิดเห็นที่ 43   ร้านนี้จะออกแนวติสต์ๆหน่อยค่ะ ร้านอื่นเค้าวางช็อคโกแล็ตไว้เป็นระเบียบสวยงาม ยังกะร้านเพชรไม่มีผิด แต่ของร้านนี้เค้าจะวางกองๆไว้ ดูจริงใจดีค่ะ เดี๊ยนชอบ กร๊ากกกกก (แถมร้านยังเป็นกระจก มองไปเห็นครัวด้วยนะเอ้อ) ช็อคโกแล็ตเยอะจริงๆ ตัดสินใจไม่ถูกอีกแล้วหรือเรา "งั้นคุณพี่จะลองช็อคโกแลตรสพริกกับวาซาบิ(!) Best Seller ของร้านเรามั๊ยคะ" เอร๊ยยยยยย จัดมาด่วนๆเลยค่ะคุณน้องขา ของแปลกพี่ชอบบบบ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:06:11

ความคิดเห็นที่ 44   ซื้อช็อคโกแล็ตหมดตรูดแล้ว เที่ยวต่อได้จ้า T^T เมืองนี้นี่ ไปทางไหนก็มีแต่ร้านช็อคโกแล็ต กี๊ดๆ หม่ามี๊ขา หนูเข้าใจความรู้สึกเวลาหม่ามี๊เดิน 5th Avenue แล้วค่ะ กร๊ากกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:06:32

ความคิดเห็นที่ 45   เดินไปสักพักเราก็มาโผล่ที่ Onze Lieve Vrouwekerk (Church of Our Lady) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:06:46

ความคิดเห็นที่ 46   ด้านหน้ามีคุณลุงกับเครื่องอะไรก็ไม่ทราบ เวลาหมุนๆมันจะมีเสียงเพลงอ่ะค่ะ จขกท.หย่อนเหรียญให้คุณลุงไปนิดโหน่ย เลยโดนคุณลุงลากไปหมุนๆเจ้าเครื่องนี้ให้ป๊าถ่ายรูปด้วยเลย เอิ๊ก แต่เอารูปเด็กน้อยน่ารักไปรับชมดีกว่านะคะ ขืนโพสรูปเดี๊ยน ผู้อ่านจะนอนไม่หลับเอา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:07:02

ความคิดเห็นที่ 47   โม้พอแล้ว เข้าข้างในโบสถ์กันดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:07:33

ความคิดเห็นที่ 48   โบสถ์มืดไปนิด แต่ก็ทำให้ดูขลังดีเหมือนกันนะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:08:04

ความคิดเห็นที่ 49   เหมาะแก่การนั่งยุบหนอ พองหนอ ทำจิตใจให้ปล่อยวางต่อกิเลสช็อคโกแล็ต จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:08:22

ความคิดเห็นที่ 50   หรือจะแวะชมไฮไลต์ของโบสถ์อันนี้ก็ได้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:08:52

ความคิดเห็นที่ 51   รูปสลักหินอ่อน Madonna and Child นี่เป็นผลงานของ มิเคลันเจโล่ สุดยอดประติมากรเลยนะจะบอกให้! อีกทั้งนี่เป็นงานของมิเคลันเจโล่ชิ้นเดียว ที่ออกนอกประเทศอิตาลีในช่วงที่เฮียยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย แหม่ พ่อค้าเมือง Bruges นี่เส้นใหญ่ล่ำซำจริงไม่ติงนังเลยนะฮะเนี่ย ส่วนตัว จขกท.ว่างานชิ้นนี้ออกดูธรรมดาสามัญ ไม่ทรงพลังแบบ Pieta ที่วาติกัน แต่ผู้รู้ก็ชี้ให้เห็นถึงความแปลกของมัน ตรงที่ปกติเราจะเห็นเบบี๋พระเยซูนั่งตักพระแม่มารี แต่รูปนี้ มิเคลันเจโล่กลับให้เบบี๋พระเยซูยืนเกาะพระแม่มารีแทน แถมยังทำท่าเหมือนกำลังจะเดินมาหาผู้ชมอีกตะหาก ส่วนพระแม่มารี แทนที่จะมองพระเยซู กลับก้มหน้ามองพื้น เหมือนกำลังปลงตกกับชะตากรรมของพระเยซูยังไงยังงั้น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:09:14

ความคิดเห็นที่ 52   นอกจาก Madonna and Child แล้ว ในโบสถ์ยังมีหลุมฝังศพของสองพ่อลูก Charles the Bold และ Mary of Burgundy กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์เบอร์กันดีด้วยค่ะ ส่วนนี้ต้องเสียค่าเข้าชมค่ะ เว้นแต่ท่านจะใช้บัตรเบ่ง Bruges Pass จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:09:44

ความคิดเห็นที่ 53   ทั้ง Charles the Bold และ Mary of Burgundy นั้นเสียชีวิตในอุบัติเหตุทั้งคู่ โดยเฉพาะ Mary of Burgundy ที่ดันมาตกม้าตาย (จริงๆ ไม่ได้เล่นคำ) ก่อนผลิตทายาท เลยทำให้ดินแดนใต้การปกครองของเบอร์กันดี ถูกส่งต่อไปให้พระสวามีของแมรี่ ซึ่งก็คือ เจ้าชาย Maximilian แห่ง Habsburg คนเดียวกับที่โดนขังอยู่ในคาเฟ่ 3 เดือนน่ะแหล่ะโยม -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:10:18

ความคิดเห็นที่ 54   อันนี้เป็นลายข้างแท่นฝังศพค่ะ ช่างวิจิตรงดงามได้ใจจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:10:39

ความคิดเห็นที่ 55   ส่วนนี่ก็เป็นหลุมศพของจริงค่ะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นหลุมของจ้าวผู้โชคร้ายทั้งสองรึเปล่า ขนาดในหลุมเค้าก็ยังวาดรูปประดับไว้ด้วยนะเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:10:56

ความคิดเห็นที่ 56   เสร็จจากโบสถ์แล้ว เราก็ขอแวะชมวิวพักยกเสียหน่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:11:35

ความคิดเห็นที่ 57   วันนี้อากาศดี เหมาะแก่การนั่งเรือชมวิวจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:12:05

ความคิดเห็นที่ 58   เที่ยงแล้วเหรอเนี่ย งั้นขอพักหม่ำๆที่ร้าน De Proeverie แถวๆนั้นก่อนละกัน เอาเค้ก Green Tea with Orange ที่นึงนะค๊า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:12:23

ความคิดเห็นที่ 59   ว่าแล้ว จขกท.ก็ถือโอกาสงัดช็อคโกแล็ตที่ซื้อมาเมื่อเช้าออกมาชิม หุหุ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:12:50

ความคิดเห็นที่ 60   ประเดิมด้วยรส Earl Grey ของร้าน Chocolate Line แต่ไมลิ้นหนูทุยจัดจนแทบไม่ได้รสชาเลยง่ะ งื้ดๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:13:08

ความคิดเห็นที่ 61   ต่อด้วยช็อกโกแลตไส้พริกและวาซาบิของ Chocolate Line เช่นกัน ออกมาอร่อยเกินคาดแฮะ รสวาซาบินั้นได้กลิ่นวาซาบิขึ้นจมูกนิดๆ ไม่ได้รสชาติรุนแรงอย่างที่คิดไว้ รสพริกก็เช่นกัน กินแล้วไม่ได้เจอพริกเต็มๆปาก แต่ได้รสเผ็ดเป็น aftertaste แค่พองาม นี่กระมังเคล็ดลับของความดังของร้าน Chocolate Line เพราะแม้รสจะแปลกประหลาดพิสดาร แต่เขาก็ผสมผสานมันออกมาได้พอเหมาะพอเจาะ วันหลังๆ จขกท.ลองซื้อรสพริกเสฉวน(!)ของร้านอื่นมาด้วย ซึ่งอิฉันว่าของร้านโน้นมันพริกรุนแรงไปหน่อย คือแปลกอย่างเดียว ไม่อร่อยเลย T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:13:46

ความคิดเห็นที่ 62   สักพักพนักงานก็ยก Caffe Latte ที่เราสั่งมาสมทบ อะจ๊ากกกกกก สั่งกาแฟก็มีช็อคโกแล็ตแถมด้วยเหรอเนี่ย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:14:00

ความคิดเห็นที่ 63   ร้านนี้เค้าใช้ช็อคโกแล็ตของร้าน Sukerbuyc ซึ่งอยู่ตรงข้ามค่ะ (เจ้าของเดียวกันป่าวเนี่ย) แล้วไอ้ Expo นี่มาได้ไงหว่า แต่ช่างเถอะ ได้กินช็อคโกแล็ตกลั้วกาแฟก็มีความสุขแร๊วววววว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:14:25

ความคิดเห็นที่ 64   จากนั้นเราก็ไปต่อกันที่ Sint-Janshospitaalmuseum (St John's Hospital Museum) ที่อยู่แถวๆนั้นค่ะ อาคารนี้เคยเป็นโรงพยาบาลที่ก่อตั้งเมื่อเกือบ 900 ปีก่อนโน่น และเค้าเพิ่งจะย้ายโรงบาลไปในปี 1976 นี่เองค่ะ O_o ด้านในเลยมีการแสดงเครื่องไม้เครื่องมือการแพทย์ยุคกลางให้ดูนิดหน่อย น่าเสียดายที่เค้าห้ามถ่ายรูปข้างใน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:14:41

ความคิดเห็นที่ 65   แต่จุดขายของที่นี่กลับเป็นภาพเขียน 6 ภาพของ Hans Memling จิตรกรชาว Bruges ชื่อดัง ซึ่งทางโรงพยาบาลไปจ้าง Memling ให้มาวาดภาพประดับ chapel ของโรงบาล เอารูป The Mystical Marriage of St Catherine ไปชมเป็นแซมเปิ้ลนะฮะ อันนี้เป็นบานพับด้านนอกของ Triptych ปล.เนื่องจากเขาห้ามถ่ายรูปด้านในมิวเซียม จขกท.จึงต้องจิ๊กภาพมาจากในอินเตอร์เน็ตนะขอรับ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:15:28

ความคิดเห็นที่ 66   ซึ่งพอกางบานพับออกมาก็จะเป็นภาพนี้ เนื่องจากโรงพยาบาลชื่อ St John's ในรูปจึงมีภาพเซ็นต์จอห์นทั้งสอง ได้แก่ St John the Baptist (รูปซ้าย) ลูกพี่ลูกน้องของพระเยซู ที่ภายหลังจบชีวิตลงด้วยการถูกฆ่าตัดหัว และ St John the Evangelist (รูปขวา) สาวกของพระเยซู ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นคนเขียนไบเบิ้ลบทสุดท้าย ส่วนที่มาของชื่อภาพ นั่นก็เพราะในภาพเบบี๋พระเยซูกำลังยื่นแหวนให้ St Catherine ซึ่งเป็นตัวแทนการแต่งงานทางจิตวิญญาณของสองศาสดาและนักบุญ จุดเด่นของผลงานของ Hans Memling อยู่ตรงความหวานๆนิ่มๆของภาพ ทุกอย่างจะดูสงบนิ่ง อย่างภาพด้านซ้ายที่แสดงเซ็นต์จอห์นตอนโดนตัดหัว แต่คนในภาพกลับหน้านิ่งเป็นบ็อทซะงั้น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:15:45

ความคิดเห็นที่ 67   ส่วน Shrine of St Ursula ของ Memling ชิ้นนี้ จขกท.ชอบมาก เพราะแหวกแนวได้สะใจเหลือเกิน แทนที่จะมาเป็นภาพเฉยๆ นี่มาเป็นตี่จู่เอี๊ยะกันเลยทีเดียว >_< ขอรีไซเคิลตำนานของ St Ursula อีกหนละกันเผื่อใครจำบ่ได้ St Ursula เป็นเจ้าหญิงที่จะโดนจับแต่งงานกับเจ้าชายที่ไม่ได้นับถือคริสต์ ก่อนแต่งเธอเลยอ้อนว่าที่สามี ให้ปล่อยเธอไป baptised ที่กรุงโรม พร้อมสาวบริสุทธิ์ไปอีก 11,000 คน แล้วเธอจะกลับมาร่วมหอลงโรงกับว่าที่สามี (แต่ในรูปนี้เหลือเพื่อนสาว 11 คน ไม่งั้นเจ้า shrine นี้คงได้ใหญ่เท่าวัดอรุณแน่ -_-) ปล.แก้ไขจากข้อความเดิม ที่ว่า St Ursula พาว่าสามีไปโรมด้วย จขกท.เช็คอีกที ปรากฎฮีนอนรอ St Ursula อยู่กับบ้านนี่หว่า -_- แก้ไขเมื่อ 21 ส.ค. 53 19:00:43 จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:19:41

ความคิดเห็นที่ 68   อนิจจาระหว่างเดินทางกลับมาจากโรม เออร์ซูล่าโดนเจ้าชายเผ่า Huns จีบที่เมืองโคโลญจ์ แต่เธอเซย์โน เจ้าชาย Huns เลยจัดการฆ่าล้างบางเออร์ซูล่าและเพื่อนสาวของเธอซะเรียบ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:20:15

ความคิดเห็นที่ 69   ถ้าใครไม่โปรดภาพหวานๆของ Memling ก็เชิญกระชากอารมณ์ด้วยภาพ The Last Judgement อันสุดพิสดารของ Hieronymus Bosch ได้ค่ะ งานของ Bosch นี่มีเอกลักษณ์มากค่ะ คือชาวบ้านเขาวาดพระแม่มารีทำซึ้งอยู่ดีๆ พี่ท่านกลับประเคนสารพัดตัวประหลาดที่กลั่นกรองจากจินตนาการสุดบรรเจิดมาแทน หลังจาก Bosch ลาโลกไป ก็มีศิลปินไม่น้อยที่พยายามลอกเลียนสไตล์ของแก แต่ก็แทบไม่มีใครทำแล้วขึ้นหิ้งเท่าต้นฉบับเลย ใครอยากชมงานเด็ดๆของ Bosch ขอเชิญที่ Prado Museum ที่มาดริดโลดค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:21:53

ความคิดเห็นที่ 70   มิวเซียมนี้ถือเป็นแค่อุ่นเครื่องนะขอรับ อาร์ตตัวแม่ๆจะออกโรงทู้หน้าเน้อ โปรดติดตาม อิอิ ส่วนวันนี้ ขอเดินถ่ายรูปเล่นก่อนละกันเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:22:21

ความคิดเห็นที่ 71   หลังนี้ประตูทางเข้าอย่างเท่เลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:22:44

ความคิดเห็นที่ 72   ใครอยากถ่ายรูปเรือล่ะก็ หามุมแล้วตั้งกล้องรอได้เลยค่ะ ไม่เกิน 2 นาทีต้องมีโผล่มาซักลำแน่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:23:07

ความคิดเห็นที่ 73   หรือถ้าใครเบื่อนั่งเรือ ก็ใช้บริการรถม้าได้นะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:23:27

ความคิดเห็นที่ 74   นักท่องเที่ยวเยอะจริงๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:23:42

ความคิดเห็นที่ 75   ไปหามื้อเที่ยง(จริงๆ มื้อบ่ายแก่ๆ)กินตรง Markt ดีกว่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:23:57

ความคิดเห็นที่ 76   แต่ก่อนอื่น ลองเปลี่ยนบรรยากาศมา windown shopping กันบ้างดีมั๊ยฮะ ไม่ทราบจะรับร้านเพชร ร้านช็อคโกแล็ตพร้อมที่ดิน ไปปลูกเล่นซักหลังสองหลังดีคะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:24:29

ความคิดเห็นที่ 77   หรือจะร่วมโครงการประหยัดน้ำกับสมาคมผู้บ่มเบียร์ ณ เมือง Bruges ดีเอ่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:24:46

ความคิดเห็นที่ 78   เอ่อ...นี่คุณน้องจะไปเล่นมิวสิคฮิปฮอปแร็ปโย่ที่ไหนคะเนี่ย! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:25:04

ความคิดเห็นที่ 79   อร๊ายยยย ช็อคโกแล็ตรูปน้องเหมียวนอนตัวขด น่าร๊ากกกกกก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:25:20

ความคิดเห็นที่ 80   ส่วนนี่ ไม่ทราบกลัวคนไม่รู้เหรอไงฮะว่าเป็น Milk Chocolate! >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:25:36

ความคิดเห็นที่ 81   ส่วนเราก็เข้าไปเสียตังค์ที่ร้าน Chocolat oe Praline จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:26:00

ความคิดเห็นที่ 82   ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ร้านนี้กล่องสวยดี มีกล่องเหล็กที่เป็นภาพเมือง Bruges ด้วย เหมาะกับการซื้อกลับไปฝากญาติพี่น้อง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:26:15

ความคิดเห็นที่ 83   เลือกรสช็อคโกแล็ตเองได้ด้วยนะฮะ ช็อคโกแล็ตร้านนี้ก็ใช้ได้เลยค่ะ เพื่อนที่ออฟฟิสกินกันยังกะแร้งลง แต่มันจะออกหวานกว่า 2 ร้านเมื่อเช้าหน่อยนะฮะ นอกเรื่อง มีอีน้องที่ออฟฟิสคนนึง เล่าว่าเค้ามีโปรเฟสเซอร์เป็นคนเบลเยี่ยม ท่านอาจารย์เคยบอกลูกศิษย์ว่า คอยดูนะ ซักวัน ประเทศเบลเยี่ยมเล็กๆของไอจะบุกยึดอเมริกา! แต่เราจะไม่ใช้ระเบิดหรือรถถัง เราจะใช้ Fries เบียร์ และช็อคโกแล็ตเป็นอาวุธ! กร๊ากกกกก เป็นหนู หนูรีบยกธงขาวเลยค่า'จารย์ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:26:41

ความคิดเห็นที่ 84   ช็อปของฝากเสร็จ ก็ถึง Markt ซะที เจอกันอีกแล้วนะจ๊ะ พี่ Belfort จ๋า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:26:58

ความคิดเห็นที่ 85   ไม่ทราบป๊ะป๋าอิฉันอยู่ในอารมณ์ไหน ป๊าบอกอยากลองกินเบอร์เกอร์ร้าน Quick นี่ดู จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:27:22

ความคิดเห็นที่ 86   ชื่อร้าน Quick แต่บริการช้ามากๆๆๆๆ ขนาดมีคนต่อคิวหน้า จขกท.แค่ 3 คน ยังต้องรอตั้งเกือบ 10 นาทีกว่าจะได้สั่งอาหาร -*- แต่ภายหลังเราก็เข้าใจแล้วค่ะว่า ถ้าเทียบกับมาตรฐานร้านอื่นในเบลเยี่ยม นี่เขาเรียกว่าเร็วแล้ว >_< ส่วนเบอร์เกอร์ก็รสชาติธรรมดาสามัญ เหมือนกินแม็คเลยฮ่ะพี่น้อง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 53 06:27:41