|
ความคิดเห็นที่ 1 |
|
ผมเป็นอีกคนนึงที่ได้มีโอกาสไปเยือนปายและหลงรักที่นั่นอยากหัวปักหัวปำ
ไปปายครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2544 หรือเมื่อเกือบ10 ปีที่แล้ว ได้มีโอกาสไปแวะทั้งโป่งน้ำร้อนท่าปาย เที่ยวเมืองปาย แวะถ่ายรูปที่จุดพักรถปางมะผ้า ต่อด้วย ถ้ำผีแมน ล่องแพถ้ำลอด ถ้ำปลา ไปวัดขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู ถ่ายรูปกับวัดจองคำ ไปทำประกาศนียบัตรผู้พิชิต 1,864 โค้ง นั่งเรือไปหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว เลยไปเยี่ยมค่ายทหารริมชายแดน ไทย-พม่า
สมัยนั้น ปางอุ๋ง และ บ้านรักไทยยังไม่ดังเลย ในตัวเมืองปาย สะพานประวัติศาสตร์ยังเป็นแบบเก่าๆจะพังๆ ยังไม่มีการบูรณะ (ไม่นับว่าใกล้ๆสะพานยังไม่มีร้านรวงเลย เช่นกาแฟวาวี) สะพานข้ามแม่น้ำใกล้ๆกับบ้านกระทิงรีสอร์ตก็ยังไม่มี ที่พักต่างๆที่เห็น แพงสุดไม่เกิน 500บาท (ริมแม่น้ำปายเลย นั่งเล่นเอาเท้าแหย่น้ำจากบ้านพักเลย)
นักท่องเที่ยวก็มีแต่ฝรั่งหัวทอง backpack ไปกันแบบเซอๆ ไม่มีถนนคนเดิน ตอนกลางคืน มีแต่ชาวบ้านออกมาขายของกินเล็กๆน้อย และน้ำขิงๆร้อนใส่ในกระบอกไม้ไผ่ รุ่งเช้าที่ถนนเดียวกันนี้ก็มีแต่ชาวเขานำของป่ามาวางขายกับพื้น ขายไปท่ามกลางไอหมอกทั้งๆที่อยู่กลางเมืองปาย ได้อารมณ์มากๆ
ธนาคารมีที่เดียวคือธนาคารกรุงไทย ไม่มี 7-Eleven ร้านกาแฟมีที่เดียวคือ All about coffee ซึ่งลงอยู่ใน guidebook ของ lonely planet ด้วย ได้คุยกับเจ้าของร้าน(พี่วัชกับพี่แอ้ม)อย่างถูกคอ และได้รู้ประวัติของพี่ๆกลุ่มแรกๆที่เข้ามาเที่ยวเมืองปายและหลงรักจนทิ้งงาน Advertising Agencies มาเปิดร้านและอยู่ที่ปายอย่างถาวร (เช่นร้าน all about coffee, ร้านมิตรไทย, ที่พักสิบสองพันนา เป็นต้น)
ร้านมิตรไทยเป็นร้านเดียวที่ขาย postcard ใกล้ๆกันเป็น pub เล็กๆชื่อ B-Bop เล่นดนตรีสด ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งที่มาแจม (เดี๋ยวนี้ร้านออกไปอยู่นอกเมืองแล้ว) สมัยนั้นด้านหลัง B-Bop ยังเป็นมัสยิสอยู่เลย
แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 53 11:09:17
จากคุณ |
:
Chill up
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ค. 53 19:53:01
|
|
|
|
|