ความคิดเห็นที่ 1   เริ่มจากร้านแรกกันเลยดีกว่า ใครที่ติดตามผลงานของซันนี่ (แหวะ .... ฟังดูน่าหมั่นไส้เนอะ) คงจำกันได้ว่า ซันนี่เคยพามาชิมร้านนี้แล้ว 1 ครั้ง ครั้งนั้น สั่งไปหลายอย่าง อร่อยดี อิ่มหมีเลย เล่าแบบคร่าวๆอีกครั้งนะครับ ร้าน " The Duke's " เป็นร้านอาหารฝรั่งครับ (ไม่รู้จะนิยามว่าชาติไหนดี) เสิร์ฟอาหารจำพวกสเต็ก พาสตา พิซซา สลัด ซึ่งค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในเชียงใหม่พอสมควร สังเกตจากเวลาเดินเข้าร้านนี้แล้ว จะมีแต่ ฝรั่ง ฝรั่ง ฝรั่ง นั่งกินกันเต็มร้าน ซึ่งจุดนี้นี่เอง ทำให้คนใจนิสัยขี้อาย เกิดความขวยเขิน ว่า "เอ๊ะ แล้วชั้นจะมีสิทธิ์ได้เข้าไปนั่งกินเหรอ ?" หรือ "เอ๊ะ เค้าจะเอาใจแต่ลูกค้าฝรั่งรึเปล่านะ ?" หรือ "ม๊ายยยยย.... มันต้องแพงแน่ๆเลยเทอว์ !!!" คราวนี้ ลองสลัดภาพความคิดแบบเก่าออกไป แล้วเตรียมรับรู้มุมมองใหม่ๆกันดูครับ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 14:30:49

ความคิดเห็นที่ 2   ไม่มีลงอ่างอะดิทู้นี้....ว้า จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 14:54:43

ความคิดเห็นที่ 3   ตามไปชิมด้วยคนนะคร้าบบบผม อิอิ จากคุณ : นมขาวเย็น เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:00:14

ความคิดเห็นที่ 4   ว่าแล้ว ก็หยุดความเยิ่นเย้อ และเวิ่นเว้อ ด้วยการสั่ง Appetizer อย่างแรกมาก่อน ซันนี่และเพื่อนสาว เลือกสั่งซุปมันฝรั่งแบบอังกฤษ กินคู่กับขนมปังฝรั่งเศสเหนียวนุ่ม ทาเนยแข็งหอมมันครับ เนื้อซุปมันฝรั่งนั้น ค่อนข้างเป็นเนื้อครีม เวลาที่เราละเลียดเนื้อซุปมันฝรั่งเข้าไป จะรับรู้ถึงรสสัมผัส ที่เหมือนเนื้อทรายเม็ดละเอียดเล็กๆ กำลังไหลผ่านอณูของต่อมรับรสบนลิ้นของเราครับ รสชาติที่เค็มกำลังพอดี และหอมพริกไทยอ่อนๆ เนื้อกุ้งเด้งหนุบหนับ ที่คอยมาเซอไพรส์เวลากัดเจอ ยิ่งตอนฉีกเนื้อขนมปังที่เหนียวนุ่ม ทาเนยหอมๆ มันๆ แล้วเคี้ยวตามซุปเข้าไป..... โหกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!!!!!!!!!!!! สวรรค์ช่างสรรสร้างอาหารชนิดนี้ เพื่อมวลมนุษยชาติแท้ๆเลยครับ (ชั้นว่า เว่อร์ไปนะเทอว์ ) (แต่มันอร่อยจริงๆนะ ^^) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:00:25

ความคิดเห็นที่ 5   หลังจากที่ได้มีการเสิร์ฟซุปมันฝรั่งถ้วยแรกไป ทั้งโลกก็ต้องแสดงความเสียใจ ให้กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ของซุปมันฝรั่งถ้วยนั้น ภายในเวลาอันรวดเร็ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้ายิ่งนัก แต่.... เราจะไม่ปล่อยให้ความหม่นหมอง มาทำลายภารกิจพิชิตพุงของเราเป็นอันขาด เราจึงสั่งเมนูต่อไป มาตอบสนองกระเพาะอาหาร ที่กำลังบีบรัดตัวหลั่งน้ำย่อยอยู่ภายในอย่างไม่หยุดหย่อน เมนูที่ 2 ของวันนี้ ก็คือ "Buffalo Wings !!!!!!!!!!!!!!!!!!!" " " " . ปีกควาย ? (เสียงสร้อยไข่มุกแสนสวยของคุณแม่ หล่นพื้นดัง "แป้ก!") บัฟฟาโล่วิงส์นั้น หาใช่ปีกควาย หรือควายมีปีกแต่อย่างใด หากแต่เป็นปีกไก่ม่อนบน นำไปหมักและคลุกเคล้าเครื่องเทศ แล้วนำไปย่างพร้อมกับราดน้ำซอสรสจัดจ้าน นำมารับประทานกับมายองเนส และก้านเซเลรี่แช่เย็น (ใครก็ได้ ช่วยบอกที ว่าบัฟฟาโล่วิงส์ กับ ปีกไก่ย่างซอสบาบีคิวต่างกันตรงไหน วานผู้รู้ช่วยไขปริศนาทีครับ) ทันทีที่กัดเนื้อไก่นุ่มๆ รสชาติจัดจ้าน ก็แผ่ซ่านไปทั่วลิ้น พร้อมกับความหอมเย็นชื่นใจ ของก้านเซเลรี่ ที่มาช่วยปรับความเลี่ยนมัน ให้กลายเป้นความพอดี โคร๊ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อร่อยอีกแล้วล่ะเทอว์  !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:18:19

ความคิดเห็นที่ 6   ไม่นานนัก หลังจากรสจัดจ้านของบัฟฟาโลวิงส์ได้ทำหน้าที่ให้ความสำราญแก่ต่อมรับรสในลิ้น ก็มาถึง Main Dish จานแรกของเรา นั่นก็คือ "Chicken Fried Chicken" หรือว่า ไก่ทอด นั่นเอง แล้วมันจะแตกต่างจากไก่ทอดเคเอฟซี ไก่ทอดหาดใหญ่ ไก่ทอดเที่ยงคืน ตรงไหน ? แน่นอน มันคือไก่ทอด แต่ไก่ทอดของ The Duke's ย่อมไม่ใช่ไก่ทอดธรรมดาสามัญบ้านๆ แต่อย่างใด แต่เป็นไก่ทอดระดับพระนางมาเรียอังตัวเน็ต (มากไปมั้ย ?) ที่คัดสรรอกไก่ชั้นดี มาหมักกับเกลือและพริกไทยให้เข้าเนื้อ แล้วนำไปชุบแป้ง+เกร็ดขนมปัง ก่อนที่จะห่อด้วยเบค่อนชิ้นบึ้ม ทอดด้วยน้ำมันร้อนจัด จนกลายเป็นสีเหลืองทอง กรอบนอก นุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกับซอสเห็ดรสเยี่ยม และมันบดที่แสนจะหอมเนย แค่คำแรกที่เข้าปาก.. น้ำตาแหงความปลาบปลื้ม ก็แทบจะหลังออกมาตรงนั้นเลยครับ อร่อยม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่พูดพร่ำทำเพลง โซ้ยเลยละกัน ^^ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:25:37

ความคิดเห็นที่ 7   ว้าว หายไปนานเลยนะค่ะ คราวนี้เปลี่ยนเป็นพาไปกินบ้างก็ดีคะ จากคุณ : minna_noon เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:27:14

ความคิดเห็นที่ 8   ร้านนี้เคยไปแล้วเหมือนกัน อร่อยๆใช้ได้ แต่แอบแพง จากคุณ : ขวดโหลใส่ลูกอม (ขวดโหลใส่ลูกอม) เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:09:33

ความคิดเห็นที่ 9   หมูอ้วน >>> วันนี้ไม่ลงอ่างจ้า เดี๋ยวคนจะเข้าใจผิด คิดว่าเป็นของกิน เกิดมีคนอยากกินซันนี่ขึ้นมา จะยุ่งเอา หุหุ นมขาวเย็น >>> ชิมได้ค้าฟ แต่ห้ามชิมเยอะนะ เดี๋ยวซันนี่ไม่อิ่ม 555 ! minna_noon >>> แสดงว่าแอบติดตามซันนี่นะเนี่ย จำกันได้ด้วย ขอบคุณนะค้าฟฟฟฟ ขวดโหลใส่ลูกอม >>> ซันนี่ว่า ราคา ก็เหมาะสมกับปริมาณอาหารนะครับ คืออาจจะดูแพง แต่พอเทียบกับขนาด ปริมาณ และคุณภาพอาหารแล้ว จะรู้สึกว่ามันไม่แพงเลย ................................................................................................. สำหรับเมนูต่อไปนี้ ขอเตือนไว้ก่อนว่า ใครใจไม่กล้าพอ อย่าสั่ง ! เพราะคนที่บ้านอาจรักคุณมากขึ้นได้ ทำไมเหรอ ? เพราะอาจจะกินไม่หมด จนต่อห่อไปฝากคนที่บ้านไง ว่าแล้วก็พาไปรู้จักกับพิซซ่าแป้งบางกรอบ ไซส์ใหญ่บึ้มชนิดโซฮานมาเห็นต้องอุทาน OMG ! ขนาดสั่งว่าพิซซ่าขนาดเล็กล้ว ยังแผ่แผ่นมาให้ซะใหญ่บึ้ม แล้วราคาไม่ได้แพงเว่อร์เลยนะครับ ไม่ถึงสองร้อย สั่งได้สองหน้า อยากใส่หลายหน้าอยากมิกซ์แอนด์แมตช์ ก็มิกซ์กันได้ตามใจชอบ ซันนี่เลยสั่งหน้า อิแทลเลี่ยน ซอสเสจช์ (กรุณาห่อปากและกระดกลิ้นตอนพูด) แอนโชวีฟ์ (กรุณาใช้ฟันหน้ากระทบริมฝีปากล่าง ตอนออกเสียงคำว่า วีฟ์) และ ซูกินี่ย่าง มารวมกันในหน้าเดียว ทันทีที่พิซซ่ายกออกมาเสิร์ฟถึงที่ กลิ่นหอมของแอนโชวี่ ก็เตะจมูกก่อนเป็นอย่างแรกเลย แล้วยิ่งได้กัดคำแรกเข้าไป... ทั้งความเด้งของไส้กรอก ความเค็มนิดๆ หวานติดปลายลิ้นหน่อยๆ และไม่คาวอย่างที่คิด ของแอนโชวี่ ความหวานจากซูกินี่เผา ที่ช่วยกันออกแรงผสมผสานรสชาติกันอย่างลงตัว และเลิศเลอเป็นที่สุด จะติดก็ตรงที่ให้มาเยอะมาก จนกินไม่หมดเนี่ยแหละ บุญเลยตกเป็นของคนนั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านแทน เหอๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:19:08

ความคิดเห็นที่ 10   อาหารมากมาย ถึงกับล้นโต๊ะเลยทีเดียว จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:20:03

ความคิดเห็นที่ 11   พักเบรกของคาวกันเบาๆ ด้วยรูทเบียร์โฟลตไอศครีมโฮมเมดกันครับ เมนูเบๆ แต่หากินยากชะมัด แค่เห็นฟองรูทเบียร์ ฟู่ขึ้นมา เวลาเทราดไอติมวนิลา ก็ทำเอาหัวจิตหัวใจซันนี่แทบจะละลายแล้ว ยิ่งตอนที่กลิ่นหอมๆ ของรูทเบียร์ลอยขึ้นมา แซมด้วยกลิ่นวนิลาจากไอติม ยิ่งทำให้รู้สึกอร่อย ตั้งแต่ยังไม่เข้าปากกันเลยทีเดียว แล้วพอดูดน้ำที่ผสมกันระหว่างรูทเบียร์ กับไอติมเข้าไป เท่านั้นแหละ .....! ความหวาน ความหอม ความเนียน ความซ่า มันถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันให้เราตั้งตัว เป็นอีกหนึ่งเมนูเลอค่า ที่สมควรแก่การยกย่องให้เป็นมรดกโลกต่อไป (เพ้อได้เข้าขั้นมากๆ ) - -" จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:21:08

ความคิดเห็นที่ 12   ก่อนจะจากลาร้าน The Duke's ไป ที่ขาดไม่ได้เหลือเกิน ก็คือของหวานตบท้ายเป็นการล้างปาก ตามแบบฉบับผู้ดีไฮโซคุณหนูน้องซัน (เบ้ปาก !) เคยบอกไปแล้ว แต่ก็จะบอกอีกว่า The Duke's ไม่ได้มีดีแค่เสต็กและของคาวจานหนัก แต่ของหวานนั้นไซร้ ก็เด็ดดวง เลอค่า น่ายกย่องไม่แพ้กัน คราวก่อนแนะนำชีสเค้ก กับแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลว์ (ห่อลิ้นด้วย) ไป วันนี้ เห็นทีต้องสั่งเมนูเด็ดดวง ที่ใครๆก็กล่าวถึง ว่าเป็นสุดยอดของหวานแห่งยุคกันเลยทีเดียว นั่นก็อพายกล้วยหอมกับแมคคาเดเมียที่อบกันออกมาอุ่นๆ เสิร์ฟพร้อมกับไอติมโฮมเมดรสวนิลา แค่หน้าตาตอนยกมาเสิร์ฟ ก็สวยจนต้องตกตะลึงกันเลย แล้วไม่ได้สวยแค่ภายนอกเท่านั้นนะจ้ะ ของดี เค้าต้องดีจากภายใน แล้วแผ่ซ่านรัศมีความเลิศออกสู่สายตาประชาชน เช่นเดียวกับพายแมคคาเดเมียกล้วยหอมชามนี้ ที่นอกจากจะรูปสวยแล้ว ยังมีรสชาติที่ไม่สามารถใช้ถ้อยคำในภาษาทั่วไปบรรยายได้ คงต้องไปยืมคำบรรยายในภาษาเอลฟ์ แห่งลอร์ดออฟเดอะริงส์ มาบรรยายแทน เพราะบาร์บว่า..... อร่อยเว่อร์มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!! มันหวาน มัน นุ่มเนียน กรอบ กรุบ หอม เย็น อุ่น โอ๊ย... สารพัดความรู้สึกที่คลุกเคล้าปะปนกันในปาก ไหนจะแอบซ่อนเนื้อพุดดิ้งชุ่มฉ่ำข้างในถ้วยพายอีก กินไป ตัวก็จะลอยไป (ดีที่มีพุงช่วยถ่วงไว้นะ !) เมนูนี้ ไม่ขอพูดอะไรมากเอาเป็นว่า ใครไปร้านนี้แล้วไม่สั่งมาลอง ซันนี่มีเคืองเลย ! เป็นความเลอเลิศ ที่ควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นมรดกแห่งมวลมนุษยชาติเหลือเกินครับ ทุกคน จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:22:15

ความคิดเห็นที่ 13   อ้อ... เม้ามาตั้งนาน ลืมบอกไปว่า ร้าน The Duke's นั้น มี  2 สาขา สาขาแรก ที่อวดโฉมในรูปนี้ เป็นสาขาริมปิง ใกล้ๆกับสะพานเหล็กครับ ใครจะขับรถมา ก็ข้ามฝั่งจากสะพานนวรัตน์ฝั่งท่าแพ มา ที่ฝั่งสันป่าข่อย แล้วเลี้ยวขวามาทางเดียวกับร้าน Love at First Bite ร้านจะเป็นร้านเล็กๆ อยู่ใกล้ๆร้านแหนมเนืองวีทีครับ ส่วนอีกสาขา หาง่ายๆ อยู่ตรงไนท์บาร์ซ่า ข้าง McDonal ครับ ขอให้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้าครับ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:23:18

ความคิดเห็นที่ 14   ตอนนี้ อณุญาตให้เหล่านักชิม ที่เริ่มรู้สึกอิ่ม ไปทำการถ่ายเท เพื่อเตรียมต้อนรับอาหารจากร้านต่อไปครับ สำหรับใครที่ยังสามารถ และมีพื้นที่ในการเก็บกักอาหารได้มากพอ เชิญมาต่อกันที่ร้านหรูๆ ดูไฮโซกันที่ร้านนี้เลยครับ "W" by หวานละมุน จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:25:19

ความคิดเห็นที่ 15   ทางเข้าร้านหวานละมุนเนี่ย ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่ ก็มีสิทธิ์งงได้ง่ายๆครับ ขนาดอยู่เชียงใหม่มา 5 ปี ยังไม่รู้เลยว่ามีร้านนี้อยู่ ร้านตั้งอยู่บนถนนช้างม่อยครับ ใครที่ขับรถไปเอง ก็วนตามคูเมืองฝั่งนอกครับ วนมาทางก่อนถึงประตูท่าแพ จะเห็นป้านร้าน Mike Burger ใหญ่ๆ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ เป็นทางไปกาดหลวงนั่นเอง (แบบว่า ไปมาก็บ่อย แต่ไม่ยักรู้เลยว่า ถนนไปกาดหลวงเส้นนี้ ชื่อ ถ.ช้างม่อย ปกติจำแต่ซอบไมค์เบอร์เกอร์ เหอๆๆๆ) พอเข้าไปในถนนช้างม่อยแล้ว ให้ชิดขวามครับ ถนนเป็นแบบวันเวย์ (เหมือนเมืองนอกเลย) แล้วจะเห็นธนาคารทหารไทยครับ ข้างธนาคารทหารไทย (TMB) จะมีซอยเข้าไป ชื่อซอย ช้างม่อย ซอย 2 ครับ เลี้ยวขวาเข้าไปเลย แล้วก็จะเจอร้านทันที จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:30:28

ความคิดเห็นที่ 16   แค่เดินเข้าไป บรรยากาศก็กินขาดแล้วล่ะครับ ตกแต่งร้านได้น่ารักมากกกกกกกกก ดูดี มีชาติตระกูลสุดๆ อารมณ์แบบว่า ไฮโซมาเอง แต่พอหยิบเมนูขึ้นมาดู ก็ต้องผงะกับราคาครับ - -" ราคา ก็ ไฮโซ จริงๆครับ - -" เครียดเลย ! ซันนี่โลว์โซว์ ถึงกับปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว (ต๊ายยย.... ไหนบอกเป็นคุณหนูน้องซัน ไฮโซไงยะ !) แต่เอาน่า ถ่อสังขารวางมาดมาถึงนี่แล้ว จะมาเปิดเมนูแล้วเดินออกร้านไป ก็เกรงใจเค้าอยู่ เลยขอสวมวิญญาณนักชิมที่ดี พลีเรือนร่าง เอ๊ย ! พลีเงินเพื่อพิสูจน์ว่า ของดี ที่เค้าร่ำลือกันมานักต่อนักนั้น จะดีจริงรึเปล่า ว่าแล้วก็ .... วางมาดไฮโซ แล้วเปิดดูเมนูต่อไป ^^ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:36:05

ความคิดเห็นที่ 17   แน่นอนว่า เมื่อเราสวมบทบาทไฮโซ เราก็ต้องสวมให้ตลอดรอดฝั่ง ตามธรรมเนียม ก็เลยสั่งชามาจิบ แต่ตอนเย็น อากาศร้อนๆแบบนี้ ครั้นจะสั่งชาร้อน ก็ดูจะผิดกาลเทศะไปหน่อย เลยสั่งชามะตูมเย็นมาครับ จิบแล้วก็ อืม.... เย็น ชื่นใจ หอมกลิ่นมะตูมอ่อนๆ หวานนิดๆพอติดปลายลิ้น รสชาติผู้ดี๊ ผู้ดี บอกไม่ถูก (ทำหน้าเชิ่ดนิดๆ แล้วจิบชามะตูม แก้หิวไปพลาง) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:40:03

ความคิดเห็นที่ 18   สั่งอาหารมาพิสูจน์คำร่ำลือไปสองอย่างครับ อย่างแรก ไม่รู้จะสั่งอะไรจริงๆ เพราะเห็นราคาแล้วแอบเครียดเบาๆ เลยสั่งไก่ทอดงามาทานเล่น ซึ่งรสชาติก็ ... รสชาติผู้ดีอีกแล้วครับ อาหารที่นี่ เค้าจะรสชาติแบบเรียบร้อย ไม่โหวกเหวกโวยวาย (รสชาติเรียบๆ) แต่กินๆไปแล้ว จะอร่อยขึ้นในแต่ละค้ำที่เคี้ยวไป ช่างเป็นเทคนิกการทำอาหารที่เหนือชั้นจริงๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:43:06

ความคิดเห็นที่ 19   แล้วก็มาถึงจานหลัก เมนูคนยาก ของเราในครั้งนี้ครับ จานนี้เด็ดดวงมาก ถึงกับมีคนแนะนำมามากมาย นั่นก็คือ ข้าวผัดกากหมูกับปลาแซลมอนครับ (ว๊ายยย.. กากหมู อ้วนจะตาย !) (จ้ะ........ ผอมมากกกกกกกกกก ทุกวันนี้ผอมมากกกกก ได้ข่าวว่าของโปรดไม่ใช่เหรอ กากหมูทอดมันๆน่ะ เวลาแม่เจียวน้ำมันหมู ก็ไปดอดเก็บกากหมูมาจิ้มน้ำปลากินกับข้าวนิ หุหุ) พนักงานเสิร์ฟน่ารัก ยกจานมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ทันทีที่เห็นหน้าตาข้าวผัดคนยากจานนี้ ก็ต้องตกตะลึงกับความไฮโซ และความหน้าตาดีของอาหารครับ ดูจุ๋มจิ๋ม น่ารัก น่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน ว่าแล้วก็ค่อยๆบรรจงเกลี่ยข้าวผัดกากหมูจานละ 95 บาท อย่างระมัดระวัง (เดี๋ยวข้าวตกไปจะเสียดายเอา - -") คำแรก.... อืมมม... อร่อยง่า........................................... คิดถึงบ้านจัง ! รสชาติเค็มๆ มันๆ คิดว่าต้องใช้น้ำมันหมูผัดแน่นอน ข้าวหอมมะลิเม็ดสวย นุ่มเหนียวกำลังดี กากหมูกรอบกรุบ เค็มๆ มันๆ ไม่เหม็นหืนเลย ถ้าใครที่ชอบให้มีหลายรสชาติหน่อย ก็บีบมะนาวแล้วคลุกกัน รสชาติก็แปลกใหม่ไปอีกแบบครับ ปลาแซลมอนเนื้อแน่น ก็ย่างมาด้วยระดับกำลังดี ราดด้วยซอสของทางร้าน กินกับข้าวผัดแล้ว เข้ากั๊นนน เข้ากัน แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะติดคอ สำลักความเป็นผู้ดีตายนะครับ ราคาระดับนี้แล้ว เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซุปเต้าหู้ไข่ ให้คล่องคอครับ (เค้าเปล่านิสัยไม่ดี จิกกัดเรื่องราคา กับเรื่องผุ้ดีนะ แค่แซวเล่นเฉยๆ หุหุ) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:52:00

ความคิดเห็นที่ 20   กินไปแค่สองอย่าง ทำไมเริ่มรู้สึกอิ่มแบบนี้นะ หรือว่าเรากำลังเริ่มปรับตัวเข้าสูภาวะท้องไส้แบบผู้ดีแล้ว ว่าแล้ว ตามธรรมเนียม ก็ต้องสั่งของหวานมาล้างปากครับ เลยสั่งพานาคอตต้าชาเขียว กับ กับ กับ.... จำชื่อไม่ได้ มาดูอย่างแรกก่อน พานาคอตต้าชาเขียว จริงๆ มีพานาคอตต้ากุหลาบด้วย สีแดงสวย มีกลีบกุหลาบแต่งหน้าข้างบน แต่เค้าบอกว่ารสจะออกเปรี้ยวๆหวานๆ พอดีซันนี่ไม่ค่อยชอบของหวานรสเปรี้ยว (เรื่องมากจริง) เลยเอาพานาคอตต้าชาเขียวดีกว่า ถึงหน้าตาพานาคอต้าชาเขียว จะไม่เย้ายวนใจแบบพานาคอตต้ากุหลาบ แต่ด้วยความที่เธอเป็นขนมแบบผู้ดี ดังนั้น จึงมีเลือดผู้ดีอยู่เต็มตัว เรื่องหน้าตา อาจจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่จิตใจภายในเธองดงามมากครับ พานาคอตต้าชาเขียวของเราหวานนุ่ม เนียนลิ้นด้วยเนื้อพุดดิ้งชาเขียว หอมกลิ่นชาเขียวแบบพอให้รู้ว่า "อืม.. ชั้นเป็นชาเขียวนะ" ไม่ได้แรงจัดจนเหมือนซดน้ำสาหร่ายแต่อย่างใด พร้อมด้วยท็อปปิ้ง ที่ไฮโซ สมกับเป็นราชนิกูลยิ่งนัก ด้วยมาร์ชเมลโล่ชาเขียว หวานละมุน เหนียวหนุบ อร่อยเป็นที่สุด ไม่เสียแรงเกิดมาเป็นขนมไฮโซเลย เหอๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:58:39

ความคิดเห็นที่ 21   ส่วนอันนี้ ขออภัยจริงๆ ที่จำชื่อขนมไม่ได้ครับ แต่รสชาติก็อร่อยใช้ได้เลย เผอิญถูกความงามจากภายในของพานาคอตต้าชาเขียวบังตา เหอๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 16:59:50

ความคิดเห็นที่ 22   หลังจากหลงเสน่ห์ความหวานละมุนไปในครั้งแรก คราวนี้ ก็มีโอกาสได้ไปกินที่นี่อีกครั้งครับ รอบนี้ได้ที ลองสั่งหลายๆอย่างมาชิมดู กะว่า กินเสร็จ ไปโม้เพื่อนได้เลยครับ ว่าได้มากินแล้ว... ไม่ได้สั่งแค่อย่างสองอย่างด้วยนะเธอว์ (เป็นการสร้างค่านิยมที่ไม่ดี ให้แก่เยาวชนเป็นที่สุด เราต้อง MOSO ไฮโซอย่างพอเพียงนะจ้ะ ทุกคน) แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 17:05:05 จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:03:48

ความคิดเห็นที่ 23   เปิดประเดิมความไฮโซแบบพอเพียงรอบสอง ทีร้านหวานละมุนรอบนี้ ด้วยการสั่งสลัดกุ้งย่างตะไคร้มาครับ ผักสลัดสดๆ กรอบๆ ชื่นใจ กับกุ้งตัวใหญ่ เนื้อแน่น เด้งหนุบหนับ ย่างกับตะไคร้ เครื่องเทศ แล้วเสียบมากับก้านตะไคร้ เสิร์ฟกับน้ำสลัดแบบของทางร้าน รสชาติเปรี้ยวๆ เค็มๆ มันๆ ถือเป็นการโหมโรงของมื้อได้อย่างวิเศษเลย จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:08:44

ความคิดเห็นที่ 24   หลังจากนั้น พนักงานก็มาแนะนำอาหารพิเศษ ใหม่ล่าสุด เรียกว่า new Release กันเลยทีเดียว นั่นก็คือหมี่กรอบครับ หมี่กรอบ ที่หากินที่ไหนก็ได้ ที่มีตลาด ของกินเบๆ แบบนี้เนี่ยนะ .... แต่ก็ว่าไม่ได้ เค้าแนะนำมา ก็แสดงว่า ต้องมั่นใจในความเด็ดอยุ่ในระดับนึงเลยล่ะ เลยตัดสินใจสั่งหมีกรอบหวานละมุน มาลองชิมหน่อยซิ ว่าจะไฮโซ ตามคอนเส็ปต์อีกมั้ย จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:11:24

ความคิดเห็นที่ 25   พอยกมาเสิร์ฟ ก็รับรู้ถึงความไม่ธรรมดาแล้วล่ะครับ เพราะมีหมี่กรอบเหลืองฟูน่ากิน ยกมากับกรวยใบตองห่องถั่วงอกตัวอ้วนขาว ที่มาแต่ตัว ตัดหัวหางเรียบร้อย และใบกุ่ยช่าย (ช่ายป่ะ ?) น่ารักจุ๋มจิ๋มมาก พริกชี้ฟ้า ก็แกะสลักเป็นดอกไม้ด้วย เก๋ไก๋เป็นที่สุด หน้าตา ถือว่า ผ่าน มาโฟกัสกันที่รสชาติกันต่อดีกว่า แค่คำแรกที่ตักเข้าปาก ก็จะรับรู้ถึงความกรุบกรอบของหมี่ ที่คลุกเคล้ากับน้ำเชื่อมรสหวานกำลังดี หอมกลิ่นผิวมะกรูด (ทางร้านบอกว่า ตามสูตรจริงๆ ต้องใช้ส้มซ่า แต่หายาก เลยประยุกต์ใช้ผิวมะกรูดแทน) ซึ่งซันนี่ว่า มันเด็ดที่ตรงนี้เนี่ยแหละ ไม่เหมือนใครดี กินไป ก็ชื่นใจไป หอมมะกรูดขึ้นจมูกฟื้ดๆ ทั้งไข่ฟูที่โรยหน้ามาข้างบน ยิ่งทำให้รสชาติกลมกล่อมเค็มมันมากขึ้น กินกับถั่วงอกหัวกุด เย็นๆ ชื่นใจ เมนูนี้เค้าเด็ดจริงๆนะเทอว์ จุดนี้ คุณหนูน้องซันนี่ ขอยอมรับจ้ะ โฮ่ะๆๆๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:17:57

ความคิดเห็นที่ 26   มาต่อกันด้วยเมนูหากินง่าย แต่ใช่จะอร่อยทุกที่ อย่างยำถั่วพลู ที่รู้ๆกันอยู่ ว่าร้านไหนก็มีขาย แต่ยำถั่วพลูที่นี่ ก็ต้องมีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ด้วยถั่วพลูสดใหม่ กรอบกรุบ กับน้ำพริกเผาผัดกันใหม่ๆ รสชาติเผ้ดนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ ถูกตัดด้วยความหอมมัน ของมะพร้าวคั่ว และหัวกะทิที่คั้นมาอย่างดี ราดหน้าด้วยครีมกะทิที่ตีจนเป็นฟอง กินกับไข่ต้มใบจิ๋ว ที่แกะสลักเป็นลายดอกไม้ อย่างไม่ทิ้งลายไฮโซ ได้ใจไปเลยจ้ะ หุหุ (ยกมือมาปิดปาก แล้วก้มหน้า20 องศา หัวเราะเบาๆ แบบผู้ดี) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:22:38

ความคิดเห็นที่ 27   อาหารอย่างสุดท้ายในมื้อค่ำสุดไฮโซนี้ ก็คือ แกงส้มชะอมไข่ กับปลาสลิดฟูครับ (ปลาสลิดฟูนะจ้ะ ไม่ใช่สลิดดกแต่อย่างใด) รสชาติน้ำแกงที่เข้มข้น แต่ไม่ได้เผ็ดจัดจนร้องไห้ เรียกว่าฝรั่งกินได้ คนไทยกินดี ถูกปากทั้งพี่ทั้งน้องเลย ไข่ทอดชะอม ที่หนา นุ่ม เลือกมาแต่ยอดชะอม ไม่มีหนามแข็งมาปักปากให้เจ็บใจเล่น กินกับข้าวสวยร้อนๆ เม็ดสวย เหนียว นุ่ม หอม พลางตักปลาสลิดฟุ กรอบร่วน เค็มกำลังดีเข้าปาก ปิดท้ายมื้อไฮโซได้เลอเลิศมากๆเลยล่ะ ปล. งวดนี้ ไม่มีของหวานนะจ้ะ เพราะไฮโซไปเย็นเกิน เค้กจุ๋มจิ๋มทั้งหลายเลยหมดเกลี้ยงไปซะแล้ว โดยสรุปก็คือ ร้านที่ 2 ของเรา ร้าน W by หวานละมุน ที่ถึงจะดูราคาแพงไปบ้าง (ตามลำดับความสำคัญของปัจจัย ที่เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินเลือกว่าจะกินร้านไหน) ถ้าถามว่า ให้มากินทุกวัน ได้มั้ย ? ตอบได้เลยว่า มาได้ ! แต่จ่ายให้ด้วย - -" เพราะอาหารอร่อยเลยทีเดียวล่ะ บรรยากาสก็ดีมากๆ ไม่น่าเชื่อว่าถนนไปกาดหลวงที่มีคนพลุกพล่าน พอหลบเข้ามาในซอยจะเจอร้านน่านั่งแบบนี้ แต่ด้วยราคาที่ประชาชนคนชั้นกลาง กินเงินเดือนหมื่นต้นๆ หรือนักศึกษาที่ห่รายได้หลักจากผู้ปกครอง แบบนี้ การมากินร้านแบบนี้บ่อยๆ คงใช่ที่แน่ๆ แต่ถ้าจะคิดว่า นานๆมากินที เป็นการให้ของขวัญตัวเอง หรือมาในโอกาสพิเศษ ก็ว่ากันไป คิดว่า ร้านนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว ยิ่งคู่รักที่จะออกเดตกัน ขอบอกว่า ร้านนี้เป๊ะมากๆเลยเทอว์ บรรยากาศ แสง เสียง อาหาร ของหวาน เป๊ะหมด (แต่ระวังตอนหมดโปรฯจีบกัน อาจได้เดินไปกินซอยข้าง ที่กาดหลวงแทน) ส่วนไฮโซตัวจริง รวยจริง อะไรจริง มีรายได้ต่อเดือนไม่ลำบากหัวใคร แนะนำได้ว่า ผูกปิ่นโต มานั่งกินบ่อยๆได้เลย เพราะนอกจากจะรสดี บรรยากาศเยี่ยมแล้ว ยังดูดี มีคลาสด้วย เป็นการสั่งสมรสนิยมไปได้ในตัว โฮ่ะๆๆๆๆ (หัวเราะปิดปาก แบบไฮโซฝึกหัด) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:36:07

ความคิดเห็นที่ 28   รีวิวนี้ พิมพ์เยอะ ปวดหลังจังเลยง่ะ..... ................................................................................................. มาต่อกันที่ร้านที่ 3 กันเถอะ (เฮ้อ... เพิ่งจะร้านที่ 3 เองเรอะ - -") ร้านนี้ ชื่อว่าร้าน "Raming Teahouse Siam Celadon" หรือชื่อไทยๆว่า "ระมิงค์ทีเฮ้าส์ สยามศิลาดล" คุ้นๆชื่อกันใช่มั้ยครับ ช่ายแล้วล่ะ... เป็นเจ้าของเดียวกันกับ โทนาฟฟฟฟฟฟฟ !!! เอ๊ย ! ม่ายช่ายยย เป็นเจ้าของเดียวกันกับชาระมิงค์ต่างหาก ชาระมิงค์เป็นชาที่ส่งขายไปทั่วประเทศ และส่งออกด้วย มีชื่อเสียงในระดับนึงเลย ไม่เชื่อไปเดินห้าง ลองดูโซนขายใบชา รับรองว่าต้องเจอชาระมิงวางขายแน่นอน (หาไม่เจอ ให้หอมแก้มซันนี่ 2 ทีอ่ะ ) นอกจากธุรกิจชาแล้ว ที่นี่ยังผลิตเซรามิกส่งออกอีกด้วย ก็เลยเป็นที่มาของชื่อ ระมิงทีเฮาส์ สยามศิลาดลนี่เอง จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:42:04

ความคิดเห็นที่ 29   ร้านระมิงทีเฮาส์ของเรา ตั้งอยู่บนถนนท่าแพครับ เป็นตึกแถวด้านหน้ารูปทรงแบบโคโลเนียลหน่อยๆ ติดกับคลองแม่ข่าเลย (สังเกตสะพานเล็กๆด้านข้าง) ด้านหน้าของร้าน อาจจะดูเหมือนร้านขายเครื่องเซรามิกทั่วไปนะครับ แต่พอเดินเข้าไปข้างในแล้ว จะซ่อนสวนเล็กๆ น่ารักไว้ข้างใน สวนร่มรื่น มีลมพัดตลอดด้วย เหมาะกับการนั่งชิลอ่านหนังสือมากๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 17:59:09

ความคิดเห็นที่ 30   ว่าแล้ว ก็สั่งเครื่องดื่มมาดับกระหายกันดีกว่า ซันนี่สั่งสมูธตี้มะม่วงกับโยเกิร์ตครับ แก้วแบบว่าสูงมากกกกกก สีสันสดใส น่ากินมาก แค่เห็นก็สดชื่นแล้วล่ะ แต่.... มัวแต่ถ่ายรูปเพลิน เลยเผลอไปปัดแก้วหกคว่ำหมดเลยยยยย อดกินเลยง่า T T จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:01:29

ความคิดเห็นที่ 31   ส่วนเพื่อนร่วมกินในครั้งนี้ สั่งชาเขียวลาเต้ครับ อุ่นๆ หอมๆ น่ากินมาก หน้าตาก็น่ารักเชียว แอบขโมยกินตอนเพื่อนลุกไปเข้าห้องน้ำ รสชาติน่ารักมากๆเลย แบบหวานนิดๆ ละมุมลิ้นด้วยฟองนม ให้อารมณ์ละเมียดละไมมากๆเลย จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:03:15

ความคิดเห็นที่ 32   เห็นแล้วหิวเลยอะ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:03:53

ความคิดเห็นที่ 33   จากนั้น ก็มาถึง Appetizer ของเรา ซันนี่กระเพาะใหญ่ เลยสั่งของว่างเซ็ตใหญ่มาสังเวยครับ เซ็ตใหญ่นี่ ขอบอกว่า ใหญ่จริงๆนะครับ ไม่ได้พูดเล่น เพราะพอเห็นตอนยกมาเสิร์ฟแล้วแบบ... แอบอึ้งไปสามวิ มันเยอะครับ กลัวกินไม่หมด (เพื่อนเบ้ปาก) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:05:02

ความคิดเห็นที่ 34   แมงปอบินเดี่ยว >>> ถือว่ากระตุ้นให้กินข้าวเย็นเร็วหน่อยละกันครับ แหะๆ ................................................................................................. ทีนี้ มาลงรายละเอียดกับแต่ละเมนูในเซ็ตใหญ่ของเราดีกว่า อย่างแรก ปอเปี๊ยะสดครับ งานนี้ใครเกลียดผัก อาจต้องค้อนกันควับใหญ่เลยทีเดียว เพราะไส้มีแต่ผักกับไข่ครับ ใครที่ชอบกินผัก คงปลื้มน่าดู ในไส้มีใบชาสดด้วสยนะครับ เวลาเคี้ยว รู้สึกสดชื่นมากๆเลย เพราะมีทั้งผักสลัด ผักชี ต้นหอม ใบชา ใบอะไรไม่รู้เยอะแยะ จิ้มกับน้ำจิ้มหวานๆ เปรี้ยวๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว กินผักๆ แบบนี้ มันเข้ากับบรรยากาศสวนเขียวๆ ร่มรื่นอย่างบอกไม่ถูกอ่ะ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:09:12

ความคิดเห็นที่ 35   อย่างต่อไป เป็นทอดมันข้าวโพดครับ อันนี้ธรรมดา ขอผ่านครับ เหอๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:10:07

ความคิดเห็นที่ 36   ส่วนอันนี้เป็นปอเปี๊ยะทอดครับ อันนี้ก็เฉยๆ ธรรมดาครับ ไส้เป็นพวกหมู กับวุ้นเส้น ถั่วงอก ประมาณนี้ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:11:08

ความคิดเห็นที่ 37   โฮ๊ะ อยากไปเชียงใหม่อีกแร้ววว อิอิ ว่าแต่ไม่ลงอ่างมันแปลกๆเน่อ^^ จากคุณ : หลานยายจุล เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:31:22

ความคิดเห็นที่ 38   มาถึง snack อย่างสุดท้ายครับ ไก่สะเต๊ะ อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก เนื้อไก่นุ่มมาก หมักกับผงกะหรี่หอมๆ ไม่เหลืองจนน่ากลัว เห็นเค้าบอกว่า ปั่นใบชาหมักไปด้วยครับ (แต่ไม่ได้กลิ่นชานะ เหอะๆๆๆ) กินกับน้ำจิ้ม อาจาด สุโค่ยยย !!! จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:35:31

ความคิดเห็นที่ 39   หลานยายจุล >>> ง่า.... กลายเป้นนึกถึงซันนี่ นึกถึงอ่าง ไปซะแร้วววว เหอๆๆๆ ................................................................................................. มาถึงจานหลักประจำมื้อเที่ยง สั่งต้มข่าไก่มาครับ หอมกะทิมากๆ สีสันก็สวยงามดูน่าทานเป็นที่สุด ยิ่งพอได้ชิมน้ำแกงแล้ว ยิ่งหลงรักเข้าไปใหญ่ เพราะมาครบทั้งเปรี้ยวเค็ม สมกับเป็นอาหารไทยแท้ๆเลย นั่งซดไป อร่อยไป ชีวิตมันช่างมีความสุขจริงๆครับ ^^ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:38:09

ความคิดเห็นที่ 40   จานนี้ เป็นจานหลักของเพื่อนครับ ข้าวผัดกุ้ง อาหารเบๆ แต่ทำออกมาได้น่าทาน และอร่อยซะด้วย (แอบกินตามระเรียบ) กุ้งตัวใหญ่เบิ้ม เนื้อแน่น หอมกระเทียมเจียว ข้าวเม็ดสวย ผัดร่วน ไม่แฉะเลย ยกนิ้วให้เลย ^^ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:39:51

ความคิดเห็นที่ 41   ส่วนจานหลักของซันนี่ เป็นข้าวไก่ซอสระมิงครับ หน้าตาเหมือนข้าวไก่ย่างทั่วไป รสชาติก็เหมือนข้าวไก่ย่างทั่วไป แต่อร่อยชะมัดเลย มันหอมๆ ใบชา บอกไม่ถูก ไก่ก็นุ่มๆ เค็มๆ มันๆ กินหมดแล้ว ต้องเอาข้าวคลุกน้ำซอสกินต่อ อร่อยง่า........ เหอๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:45:09

ความคิดเห็นที่ 42   ด้วยความแค้นครับ ที่ตะกี้มัวแต่ถ่ายรูป จนไปปัดโดนแก้วตก น้ำปั่นคว่ำ เลยอดกินไป ตัดใจสั่งแก้วสองครับ ก็คนมันอยากกินนี่ หน้าตาดีขนาดนี้ สีเหลืองมะม่วงมันดูสดใสจริงๆครับ พอได้ชิม ก็ไม่ผิดหวังเลย น้ำตาคลอด้วยความปลาบปลื้ม จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:47:56

ความคิดเห็นที่ 43   เช่นเคย ตามธรรมเนียม จบของคาว ก็ต้องตามด้วยของหวาน ร้านนี้ ขึ้นชื่อเรื่องชา เพราะงั้น แน่นอนว่า ต้องมีขนมแกล้มชาอร่อยๆแน่ ไม่ให้เสียเวลา เลยจัดมา 2 อย่าง อย่างแรก ขาวอวบ นุ่มนวล น่ากินมากมาย เป็นซอฟต์เค้กมะพ้าวอ่อนครับ รสชาติแบบว่า คำแรก ขอ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!!!!! เพราะทั้งนุ่ม ทั้งหอม ทั้งหวานแบบละมุน แทบจะละลายในปากกันเลยทีเดียว กินไป ก็ลูบพุงไป ชักจะปลงเรื่องลดความอ้วนแล้วล่ะ เหอะๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:51:23

ความคิดเห็นที่ 44   ของหวานอย่างที่ 2 ต่อด้วยเค้กสมุนไพรครับ หน้าตาสวยเปรี้ยวทันสมัยมากมาย ถ้าไม่บอก ไม่รู้เลยนะ ว่าเป็นเค้กสมุนไพร จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:52:26

ความคิดเห็นที่ 45   ตัดขึ้นมาชิมคำแรก อืมม... ได้กลิ่นอะไรไม่รู้ แต่รับรู้ว่าเป็นกลิ่นแนวเย็นๆ หอมๆ เหมือนกินเค้กใส่น้ำมันอโรม่าเลยอ่ะ พอจิบน้ำปั่นตาม แอบกระดกชาเพื่อนไปด้วย ยิ่งเข้ากั้นนน เข้ากัน ปิดท้ายมื้อเที่ยงได้งดงามมากๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:53:56

ความคิดเห็นที่ 46   ลองมาดูบรรยากาศรอบๆร้านกันบ้าง สวนร่มรื่น น่ารักมากๆเลย จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:54:29

ความคิดเห็นที่ 47   มีโต๊ะไม่กี่โต๊ะเองครับ ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นฝรั่งมานั่งยาววว อ่านหนังสือกัน ก้ออกจะเย็นสบาย เหมือนอยู่สวนที่บ้านยายแบบนี้ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:55:29

ความคิดเห็นที่ 48   ร้านระมิงทีเฮาส์ สยามศิลาดล เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นครับ ใครมาแอ่วเชียงใหม่ ไม่รู้จะไปนั่งแกว่งชิลๆที่ไหนตอนกลางวัน มาอิงแอบที่นี่ได้ครับ ด้านหน้าร้านมีเซรามิกสวยๆน่าซื้อให้แวะชมแวะซื้อด้วยนะค้าฟฟฟ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:57:12

ความคิดเห็นที่ 49   เฮ้อ.......................... กว่าจะเดินทางมาถึงร้านสุดท้ายได้ ร้านสุดท้าย ขอเปลี่ยนแนวพาไปกินอาหารญี่ปุ่นครับ แต่เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบ ถูกๆ ราคาถูก ถูกจริงๆ ไม่ได้โม้ อยู่ตรงบริเวณวงเวียนสันติธรรมครับ ชื่อร้าน "โกฮังเต" ครับ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 18:59:28

ความคิดเห็นที่ 50   บรรยากาศในร้านนี่ แทบจะเรียกว่า เป็นร้านข้างถนนเลยก็ได้ครับ แต่ฝีมือพ่อครัวนี่ ไม่ธรรมดาเลย ร้านไม่ได้ตกแต่งไฮโซแต่อย่างใด อาศัยแค่จริงใจ และอร่อยจริงเข้าขายครับ แค่นี้ คนก็มากินกันเยอะแยะแล้ว มาถึง ก็สั่งอย่างแรกมาเลย ทาโกะยากิครับ นุ่มๆ ร้อนๆ กินเรียกน้ำย่อยกันก่อน จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:01:32

ความคิดเห็นที่ 51   จานหลักของเพื่อนมาก่อนเลยครับ ราเมนหมูทอด สามสิบบาท ทู้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกถูก ! อร่อยด้วยนะ เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปคล่องคอ หมูก็ทอดใหม่ อ่า..... แบบว่า ช่วยเพื่อนกินไงครับ เลยรู้หมดว่ารสชาติเป็นไง เหอๆๆๆ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:03:01

ความคิดเห็นที่ 52   จานต่อไปครับ ข้าวปั้นหน้ารวม มากันยกเซ็ต ทั้งไข่กุ้ง ปลาหมึกสด ปลาหมึกดอง ปลาแซลมอน ปลาโอ ปลาดิบที่นี่ สดใช้ได้เลยครับ ใครที่กลัวว่า ร้านข้างทาง หรือร้านญี่ปุ่นธรรมดาๆ จะไม่สด ซันนี่รับประกันให้ครับ ว่าร้านนี้สดจริง อะไรจริง จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:04:40

ความคิดเห็นที่ 53   ผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในการชิม กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:05:28

ความคิดเห็นที่ 54   อ่าส์............. จานหลักของซันนี่มาแล้วครับ เป็นข้าวปั้นสามเหลี่ยมห่อสาหร่ายไส้ปลาแห้ง อร่อยมากๆเลย โซ้ยไป ควักวาซาบิมาปาดไป ขึ้นจมูกจี๊ดๆๆๆๆๆ สุดยอดที่สุด หัวโล่งเลยครับ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:07:12

ความคิดเห็นที่ 55   ตามมาติดๆ ด้วยปลาหมึกย่างเกลือครับ ตัวใหญ่ๆ ให้แบบไม่เกรงใจคนกินเลยทีเดียว (เริ่มอิ่มแล้ว....) จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:08:11

ความคิดเห็นที่ 56   ปิดท้ายด้วยของคาวก็ไม่ใช่ ของหวานก็ไม่เชิง ไข่ม้วนของโปรดซันนี่ครับ ชุ่มๆ ฉ่ำๆ หวานๆ มันๆ ถือว่าปิดท้ายมื้อแทนของหวานแล้วกัน เชื่อมั้ยครับว่า ทั้งหมดที่สั่งไปที่ร้าน โกฮังเต เนี่ย หมดไป 340 บาทเอง เหอะๆๆๆ สามคน ก็ตกคนละประมาณ ร้อยสิบกว่าบาท ได้ทานอาหารญี่ปุ่นดีๆแบบนี้ ถูกแต่ดี มีให้เห็นที่นี่เลยครับ แถมน้ำยังไม่คิดเงินด้วย ตักน้ำแข็ง น้ำฟรีให้มาเป็นเหยือกเทแจกกันเลย อารมณ์ร้านอาหารตามสั่งหน้าปากซอยชัดๆ สุโค่ย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:10:58

ความคิดเห็นที่ 57   เฮ้อ..................................... กว่าจะพาไปครบทั้ง 4 ร้าน เหนื่อยแทบตาย พิมพ์ซะปวดหลังเลย ยังไงใครอยู่เชียงใหม่ หรือมีโอกาสได้มาแอ่วเชียงใหม่ ลองไปชิมกันนะครับ ซันนี่รับประกันความอร่อยจ้า ^^ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:12:29

ความคิดเห็นที่ 58   ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาทักทาย และเข้ามาดูกระทู้นะคร้าฟฟฟฟ แล้วไปเที่ยวด้วยกันใหม่เนอะ ^^ จากคุณ : ซูอิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 19:13:14

ความคิดเห็นที่ 59   บรรยายได้แบบว่า นาทานมากกกกกครับ น้ำลายไหลจ๊อกๆ อยากทานไปหมดเลย วันหลงัต้องไปลองบ้างแล้ว ขอบคุณนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:06:57

ความคิดเห็นที่ 60   เค้กมะพร้าวอ่อนน่าทานสุด ๆ ค่ะ จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 21:28:27

ความคิดเห็นที่ 61   น่าทานทั้งนั้น ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : jajump เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:03:11

ความคิดเห็นที่ 62   แต่ละอย่างน่าทานสุดๆ เลยค่า   @^_^@ จากคุณ : CX gal เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:04:08

ความคิดเห็นที่ 63   ซันนี่น่าร้ากที่ซู้ด   ดูรีวิวของซันนี่แล้วแทบเก็บกระเป๋า  ขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่เดี๋ยวนี้เลย   พยาธิในท้องร่ำร้อง จากคุณ : menina เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 09:55:37

ความคิดเห็นที่ 64   เคยทานเค้กชาของหวานละมุนสาขานี้ อร่อยมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ รู้มาว่าแต่ละวันทำจำกัดมาก ๆ และไม่ได้มีทุกวัน ส่วนเรื่องราคา ไม่ขอพูดถึงค่ะ (เพราะว่าฟรี 555+....คุณครูซื้อมาให้บัณฑิตและพี่น้องบัณฑิตเป็นของขวัญ) ไว้กลับเชียงใหม่จะไปตาม review ดูนะคะ น่าสนใจทั้งนั้น ดูแล้วอยากกลับบ้านเลย TT_TT จากคุณ : ข้าวโอ๊ตเคลือบช็อกโกเลต เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 13:33:07

ความคิดเห็นที่ 65   ขอบคุณครับ จากคุณ : คุณเอฟ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 19:54:41

ความคิดเห็นที่ 66   ขอแจกกิฟก่อนเลย อีกสองวันไม่มีเน็ตใช้ กลับมาจากไปตจว.แล้วจะมาอ่านน่ะจ๊ะ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 01:28:19

ความคิดเห็นที่ 67   อยุ่เชียงใหม่แท้ๆไม่เคยไปกินเล้ยยยย ต้องลองบ้างซะแล้ววววว จากคุณ : tragodius เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 12:53:37