ความคิดเห็นที่ 1   แลกในเมืองได้ประมาณ 18,800-19,000 vnd จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 11:15:51

ความคิดเห็นที่ 2   ทำไมรูปไม่ขึ้นล่ะเนี่ย ลองใหม่ค่ะ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 11:20:54

ความคิดเห็นที่ 3   เราเดินทางไปถึงโฮจิมินห์ประมาณ 9 โมงกว่า ๆ มีเวลาเที่ยว hcm แค่วันเดียว เพราะคืนนี้จะนั่งรถต่อไปยังดาลัท แต่เรายังไม่ไ้ด้จองตั๋วรถ hcm-ดาลัท ก็เลยต้องเดินหาบริษัทรถก่อนค่ะ นั่งรถเมล์สาย 152 ชมเมือง ไปโดดลงแถว ๆ ถนนฟามงูหลาว ที่เขาเปรียบเทียบกันว่าเป็นตรอกข้าวสารของ hcm จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 11:30:31

ความคิดเห็นที่ 4   เวลาน้อย ต้องเลือกเฉพาะสถานที่เที่ยวที่สนใจ พวกเราตัดสินใจไปที่อาคารที่ทำการรัฐสภาเก่าของเวียดนามใต้ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และการเมือง ถ้าสนใจประวัติศาสตร์เวลาไปในสถานที่แบบนี้จะจินตนาการได้ถึงบรรยากาศและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยค่ะ เดินไปตามห้องต่าง ๆ ที่เขาจัดไว้ในสภาพเดิม ๆ แล้วก็นึกถึงลุงโฮ กับภาพเหตุการณ์วันที่ไซ่ง่อนแตก เกิดไม่ทันหรอกค่ะ แต่เคยเห็นภาพในสารคดีบ่อย ๆ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 11:50:43

ความคิดเห็นที่ 5   คิดถึงดาลัท อ้อ...Nha Trang อ่านว่า ญา-จาง นะครับ จากคุณ : Into the Groove เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 12:53:27

ความคิดเห็นที่ 6   มาชม จากคุณ : troll เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 13:38:57

ความคิดเห็นที่ 7   ขอบคุณค่ะ คุณ Into the Groove แต่ขออนุญาตเขียนแบบนี้ตามที่ไกด์บุ๊คภาษาไทยส่วนใหญ่เขียนนะคะ เพื่อความเข้าใจตรงกัน นักท่องเที่ยวท่านอื่นจะเสิร์ชข้อมูลได้ง่ายกว่า เพราะตามจริงแล้วไม่มีพยัญชนะไทยตัวไหนออกเสียงนี้ได้ถูกต้องเลยค่ะ ไปเที่ยวต่อกันค่ะ โบสถ์ฝรั่งกลางเมืองโฮจิมินห์ สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ตอนแรกสร้างนั้นคงจะงดงามมาก เพราะตกแต่งด้วยกระจกสีแบบนิยมของโบสถ์คริสต์ แต่แตกหักเสียหายไปมากในช่วงสงคราม เมื่อบูรณะก็มิได้นำกระจกสีมาประดับตกแต่งเพิ่มเติมอีก แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 53 15:00:52 จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:00:07

ความคิดเห็นที่ 8   มารอชม เก็บข้อมูลคะ จากคุณ : หมูแจ๊ส เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:30:36

ความคิดเห็นที่ 9   -อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่าแก่ที่ยังเปิดให้บริการ มีนักท่องเที่ยวแวะเข้ามาเยี่ยมชมมากมาย ที่นี่จึงเป็นแหล่งขายโปสการ์ดและของที่ระลึกชิ้นเล็ก ๆ ด้วย -อนุสาวรีย์โฮจิมินห์ รัฐบุรุษของเวียดนาม -โอเปร่าเฮ้าส์ โรงละครที่ยังเปิดการแสดงอยู่ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:33:44

ความคิดเห็นที่ 10   เมื่อไปเที่ยวต่างแดน การเดินเที่ยวมีข้อดีคือ ทำให้เราได้สัมผัสชีวิตผู้คนในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด แม้จะเป็นช่วงเวลาน้อยนิด แต่้ก็ได้พูดคุยทักทาย และแอบถ่ายรูป ชัดบ้างเบลอบ้าง สนุกดี อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าชาวโฮจิมินห์ยิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับนักท่องเที่ยวดีกว่าเจ้าหน้าที่ ต.ม.เวียดนามเยอะ ประโยคหลังนี่ความคิดเห็นส่วนตัวล้วน ๆ ค่ะ อิอิ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:39:49

ความคิดเห็นที่ 11   รอชมอีกค่ะ จากคุณ : Canon_tommy เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:48:29

ความคิดเห็นที่ 12   สีสันยามค่ำคืนในย่านช้อปปิ้งของ HCM สวยไม่แพ้ประเทศไหน ๆ ในโลก มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินอยู่มากมาย เพราะนอกจากสินค้าแบรนด์เนมแล้ว ยังมีร้านอาหารสวย ๆ น่านั่งหลายร้าน แหล่งช้อปปิ้งราคาถูกอยู่ริมถนน ในซอยข้าง ๆ ตลาดเบนถั่นห์ เท่าที่สอบถามราคาค่อนข้างแพง บางร้านพอรู้ว่าเป็นคนไทย ยังไม่ทันต่อราคา เขาส่ายหน้า เดินหนีเลย เสื้อยืดบางร้านบอกราคา 120-200 บาท แต่บางร้านซื้อได้ในราคา 50-60 บาท แบบและเนื้อผ้าเหมือนกันเปี๊ยบ พวกเราแบกเป้ใบโตเดินถ่ายรูปกันตั้งแต่โพล้เพล้จนดึกดื่น ไม่ได้หลงแสงสี แต่ต้องรอรถไปดาลัท ออกเวลาห้าทุ่มครึ่ง ง่วงจัง จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 15:52:56

ความคิดเห็นที่ 13   ภาพสุดท้ายที่ HCM รวมอาหารอร่อย เริ่มจาก - ขวาน 94 ร้านนี้เด่นเรื่องปู เช่น ปอเปี๊ยะไส้ปู ที่ใส่เนื้อปูมาเต็ม ๆ แบบไม่หวงของ, ข้าวผัดปู รสชาติมาตรฐาน และปูนิ่มตัวโตทอดราดซอสมะขาม, น้ำอะโวคาโดปั่นอร่อยมาก ราคาปานกลาง ยกให้เป็นร้านอาหารรสชาติเยี่ยมอันดับต้น ๆ ในทริปนี้ค่ะ - Fanny ร้านไอศกรีมยอมนิยมที่ชาว BP แนะนำ บรรยากาศดี ไอศกรีมอร่อย มีรสแปลก ๆ ให้ชิมเยอะ ค่อนข้างมีราคาตามบรรยากาศและบริการ - ขวานงอน ร้านอาหารเวียดนามที่มีชาวต่างชาติเข้าคิวรอมากมาย จุดเด่นคืออาคารสวยเป็นตึกทรงยุโรปคล้ายบ้านเก่า อาหารจัดเป็นซุ้มออกร้าน ลูกค้าสามารถไปเดินเลือกสั่งอาหารที่วางอยู่เป็นซุ้ม ๆ ทั่วไปได้ หรือสั่งจากเมนู ร้านนี้มีอาหารหลากหลายชนิด สามารถลองชิมอาหารเวียดนามได้ครบทุกประเภท *** ขวาน (QUAN) หมายถึงร้าน เราจึงเห็นป้ายร้านค้าทั่วไปในเวียดนาม ขึ้นต้นด้วยคำว่า QUAN เสมอ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 16:11:06

ความคิดเห็นที่ 14   เดินทางจาก HCM ไปดาลัทด้วยรถโดยสารสีส้มสดใส เป็นรถนั่งค่ะ ขับดีพอใช้ ตอนออกจากตัวเมืองขับช้า ๆ ตามกฎหมายควบคุมความเร็ว เผลอหลับ ๆ ตื่น ๆ พี่คนขับแอบใส่ตีนผี เหยียบกระจายค่ะ ขึ้นเขาลงห้วยไม่ต้องแตะเบรคกันเลย จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 16:23:01

ความคิดเห็นที่ 15   ถึงแล้วค่ะ ดาลัท เจ้าของฉายปารีสตะวันออก ดาลัทเป็นเมืองบนภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าสน สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร คือสูงประมาณภูเรือ จ.เลย หรือดอยวาวี จ.เชียงราย จึงมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ชาวฝรั่งเศสสร้างดาลัทขึ้นเป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศ และวางแผนจะตั้งเป็นเมืองหลวงของดินแดนอาณานิคมแถบอินโดจีน แต่แผนล้มเลิกไปเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สีสันฉูดฉาดของบ้านเรือนในดาลัท เกิดจากกฎระเบียบที่ว่าห้ามทาสีบ้านซ้ำกับบ้านข้างเคียง ทำให้เกิดบ้านเรือนหลากสีขึ้น จนได้ฉายา เมืองสีลูกกวาด คาดว่าฝรั่งเศสเป็นผู้ตั้งกฎนี้ค่ะ และไม่ทราบว่ายังใช้บังคับอยู่หรือเปล่า เพราะดูน่าจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่ยากจน แต่กฎระเบียบแปลก ๆ ก็ทำให้บ้านเมืองสวยงามจนมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมายทุกปี จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 16:51:00

ความคิดเห็นที่ 16   รถถึงดาลัทตอนเช้ามืด พอลงจากรถก็สัมผัสกับความหนาวเกินคาด จนต้องควานหาถุงมือกับหมวกกันหนาวมาใส่กับพัลวัน ฝากเป้ไว้ที่ท่ารถ ก่อนออกเดินชมเมือง มุ่งหน้าไปยังตลาดเช้า สินค้าหลักของดาลัทคือพืชผักเมืองหนาวสารพัดชนิด มีแปลงผักอยู่ทุกพื้นที่ว่างแม้กระทั่งในชุมชนเมือง เคยได้ยินมาว่าพืชผักที่เป็นผลผลิตจากดาลัทสามารถนำไปเลี้ยงชาวเวียดนามได้ทั้งประเทศ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 17:33:15

ความคิดเห็นที่ 17   สีสันดาลัท จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 17:38:38

ความคิดเห็นที่ 18   สวนพฤกษศาสตร์ จัดแสดงพันธุ์พืชเมืองหนาว จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 17:40:44

ความคิดเห็นที่ 19   ทะเลสาบซวนฮวาง (Xuan Huong) กลางเมืองดาลัท เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง เนินเขาด้านหนึ่งของทะเลสาบมีร้านกาแฟเล็ก ๆ สำหรับชาวบ้านอยู่หลายร้าน ส่วนใหญ่ปราศจากการตกแต่ง และขายกาแฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  แต่ทิวทัศน์โดยรอบและความหนาวเย็น ทำให้บรรยากาศในร้านกาแฟเหล่านี้โรแมนติกมาก มุมหนึ่งเป็นที่ตั้งของหอไอเฟลจำลองเหมือนที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สมฉายา Little Paris จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 18:01:02

ความคิดเห็นที่ 20   โบสถ์ฝรั่งและวัดจีนในดาลัท จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 18:04:14

ความคิดเห็นที่ 21   พระราชวังฤดูร้อนของจักรพรรดิเบ๋าได๋ กษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนาม (ประมาณสมัยรัชกาลที่ 7) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองดาลัท ภายในพระราชวังตกแต่งอย่างเรียบง่าย แบ่งเป็นสัดส่วน เช่น ห้องบรรทมของจักรพรรดิ มเหสี และพระราชโอรส พระราชธิดา, ห้องทรงงาน, ห้องรับแขก สันนิษฐานว่าข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่ในพระราชวัง น่าจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปตั้งแต่ยุคอาณานิคม กระทั่งถึงยุคที่คอมมิวนิสต์เข้าปกครองก็เคยใช้พระราชวังแห่งนี้เป็นที่พำนัก หลังเวียดนามเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ จักรพรรดิเบ๋าได๋เสด็จจากเวียดนามไปประทับยังประเทศฝรั่งเศส และสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ.2540 จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 22:09:54

ความคิดเห็นที่ 22   วันนี้ฤกษ์ดีค่ะ ไปทางไหนก็เจอแต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาถ่ายรูปกัน จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 22:11:47

ความคิดเห็นที่ 23   ขับมอเตอร์ไซค์ท้าลมหนาวออกนอกเมืองไปอีกไม่กี่กิโลเมตร ก็ได้สนุกกับเครื่องเล่นทดสอบแรงดึงดูดของโลก เป็นรถคันเล็ก ๆ แล่นตามราง ลัดเลาะไปตามไหล่เขาและปากเหวขนาดย่อม คนนั่งทำหน้าที่บังคับรถเอง โดยโยกหรือดึงคันบังคับ เพื่อให้รถไหลและหยุดได้ ถ้าใจไม่กล้าพอก็ดึงให้รถแล่นไปช้า ๆ หน่อย โดยเฉพาะเมื่อเจอทางโค้งหรือทางชัน แล่นไปจนถึงสถานีปลายทาง ลงจากรถมาเดินชมน้ำตกขนาดย่อม มีร้านกาแฟให้นั่งชมวิวอยู่หน้าน้ำตกเลย จากนั้นจึงขึ้นรถคันใหม่ที่ใช้ระบบไฟฟ้าดึงช้า ๆ ขึ้นไปตามรางที่สูงชันจนเกือบตั้งฉากกับพื้นดิน ต้องคอยลุ้นว่าไฟฟ้าเวียดนามจะดับกลางทางหรือเปล่า จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 22:21:44

ความคิดเห็นที่ 24   ก่าดาลัท สถานีรถไฟเก่าแก่ และ ที่พักแสนน่ารักและเป็นส่วนตัวมาก ๆ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 22:29:23

ความคิดเห็นที่ 25   ชุมชนโบราณกลางเมืองดาลัท ผ่านไปเจอโดยบังเอิญ เ้พราะดูในแผนที่ว่าเป็นซอยลัดทะลุไปยังถนนอีกเส้นหนึ่งได้ ซอยแคบ ๆ แห่งนี้ยาวขนานกับแม่น้ำ ตามแบบชุมชนเก่าที่จำเป็นต้องอาศัยแหล่งน้ำธรรมชาติ พื้นถนนปูด้วยหินแบบโบราณ ห้องแถวไม้สลับปูนเปิดเป็นร้านค้าหลากหลาย ทั้งตัดเสื้อ ทำผม ซ่อมรถ ขายอาหาร ฯลฯ พอตกเย็นปากซอยเล็ก ๆที่ดูเงียบเหงามาทั้งวันกลับคึกคักด้วยแม่ค้าอาหารสด ที่กระเดียดกระจาด หิ้วตะกร้า ยกกาละมังใส่ของมาขายกัน เป็นสีสันของชีวิตจริง ที่ทั้งแปลกหู แปลกตา และน่าสนุกจนต้องกดชัตเตอร์กันแบบไม่ยั้งมือ ยุคกล้องดิจิตอลก็ดีอย่างนี้แหละ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 53 22:42:41

ความคิดเห็นที่ 26   เวียดนามเป็นประเทศที่ป้าชอบมาก   อยากจะไปอีกหลายๆ ครั้ง เพราะเมืองน่าสนใจ  อยู่ใกล้เมืองไทย  ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง   คนขี้โกงก็เยอะ  สนุกดีค่ะ ขอบคุณนะคะ   วันหลังป้าคงจะมีโอกาสตามรอยบ้าง... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 01:00:17

ความคิดเห็นที่ 27   เข้ามาดู ว่าโดน..รึป่าว?  อ่ะ...ไม่ช่าย เข้ามาเที่ยวด้วยค่ะ กำลังคิดว่า จะไป โฮจิมินห์ ดีรึป่าว ..ยังเข็ดกับซาปา อยู่ อิอิ ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 09:50:47

ความคิดเห็นที่ 28   เวลาไปเที่ยวต่างถิ่นแบบนี้ ถ้าไม่ได้ลองชิมอาหารท้องถิ่นจะรู้สึกเหมือนไปไม่ถึง ร้านอาหารดี ๆ ส่วนใหญ่รสชาติได้มาตรฐาน แต่ไม่น่าประทับใจเท่าร้านประเภทหาบเร่แผงลอย หรือเพิงข้างถนน โดยเฉพาะร้านที่เวียดนามมุงค่ะ ตามเข้าไปมุงด้วยเลย จะได้รู้ว่าอร่อยลิ้นแบบเวียดนามนั้นเป็นฉันใด -บั้นหมี่ เป็นขนมปังดุ้นยาวแบบฝรั่งเศส  (Baguette) อุ่นร้อนๆ ผ่ากลางสอดไส้เนื้อสัตว์และผักสารพัดชนิด ราคาตั้งแต่ 15-40 บาท เป็นเสบียงติดเป้ตลอดการเดินทาง -กาแฟเวียดนาม หอมมาก สีเข้ม น้ำข้น แต่ไม่ขมมาก รสชาติถูกปากจนต้องดื่มวันละไม่ต่ำกว่า 3 แก้ว ทั้งที่ปกติไม่ดื่มกาแฟค่ะ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 09:52:10

ความคิดเห็นที่ 29   คุณแม่ติดเน็ตจะแวะเข้ามาดูว่าโดนโกงหรือเปล่าใช่มั้ยคะ 555 ก็ไม่เชิงค่ะ แค่โก่งราคา และพูดไม่ค่อยตรง แต่โดยรวมถือว่าดีค่ะ เราออกเดินทางจากดาลัทไปยาตรังแต่เช้าค่ะ ถนนคดเคี้ยวไปไปตามไหล่เขาที่สลับซับซ้อนคล้ายทางไป อ.อุ้มผาง จ.ตาก ต่างกันตรงที่บ้านเขามีป่าไม้ แม่น้ำ สลับกับน้ำตกไหลจากหน้าผาให้เห็นตลอดเส้นทาง ส่วนแถวอุ้มผางมีภูเขาหัวโล้นสลับกับไร่ผักให้ดูเป็นระยะ ๆ ถึงยาตรังประมาณเที่ยง ร่างกายปรับอุณหภูมิแทบไม่ทัน จากภูเขาสูง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล อุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซลเซียส ลงมาอยู่ที่เมืองชายทะเล อุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 30 องศาฯ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 10:08:58

ความคิดเห็นที่ 30   ผมก็ไปมาครับ จาก มุกดาหาร-เข้าลาวปากเซ-ด่านบ่อเกลือ-เข้าที่ราบสูง เวียดนาม-แล้วเข้าเมืองดาลัส นังรถไป 7วันครับกลับทางเมืองดานัง จากคุณ : soo_erc (soo_erc) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:07:13

ความคิดเห็นที่ 31   รูปถ่ายตอนเช้าครับ จากคุณ : soo_erc เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:09:36

ความคิดเห็นที่ 32   งานแสดงดอดไม้เมืองหนาวประจะปี จากคุณ : soo_erc เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:11:15

ความคิดเห็นที่ 33   น้ำตก จากคุณ : soo_erc เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:11:57

ความคิดเห็นที่ 34   วันนี้โชคดีค่ะ ทะเลสวย ฟ้าใส ขับมอเตอร์ไซค์ตากแดดเที่ยวไปทั่วเมืองจนตัวดำ แต่หลังจากเรากลับก็ฝนตกตลอด ยาตรัง (Nha Trang) หรือญาจาง เป็นเมืองชายทะลที่มีชื่อเสียงของเวียดนาม เป็นจุดพักแรมของผู้ที่เดินทางระหว่างฮานอยและโฮจิมินห์ นักท่องเที่ยวไทยไม่นิยมเที่ยวยาตรัง นอกจากใช้เป็นจุดเปลี่ยนรถโดยสาร หรือแวะพักระหว่างการเดินทางเท่านั้น จากการสอบถามนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคน ได้ข้อสรุปว่า ที่คนไทยไม่นิยมเที่ยวยาตรัง เพราะทะเลไทยสวยกว่า แหล่งดำน้ำดูธรรมชาติใต้น้ำบ้านเราสวยกว่ามาก ส่วนอาหารทะเลก็อร่อยกว่ามากๆ 2 วัน 1 คืนที่สัมผัส ทำให้เราค้นพบว่ายาตรังก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองเหมือนกัน จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:36:18

ความคิดเห็นที่ 35   ขอบคุณคุณ soo_erc สำหรับข้อมูลและภาพประกอบ ไปเที่ยวช่วงไหนคะ น้ำตกน้ำเยอะมาก จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 11:38:09

ความคิดเห็นที่ 36   เรือสานเป็นรูปถ้วย ใช้หาปลาในแถบน้ำตื้น หรือพายไปขึ้นเรือที่จอดลอยลำอยู่ไกลออกไป ชายหาดแถวนี้ลมพัดแรง คลื่นสูง เรือทรงกลมมีข้อดีที่หมุนวนไปตามกระแสคลื่น ไม่ต้านน้ำเหมือนเรือยาว ซึ่งน่าจะล่มง่ายกว่า หลังจากนั่งเฝ้าดูเรือสานทรงกลม ๆ อยู่นาน ก็เดาเอาเองแบบมีหลักการมาก 555 เรือแบบนี้เวลาลอยน้ำดูแปลก ๆ ดีค่ะ เพราะไม่มีหัวเรียวยาวสำหรับแหวกน้ำ มันเลยลอยเท้งเต้งเหมือนใบไม้ คงจะทำความเร็วไม่ได้มาก ยาตรังเป็นแหล่งอาหารทะเลสด จึงมีเรือประมงหลากสีจอดเรียงราย และมีชุมชนชาวประมงเป็นต้นทางส่งสินค้าทางทะเลไปขายทั่วประเทศ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 12:01:47

ความคิดเห็นที่ 37   เหมือนได้ตามไปเที่ยวจริงๆ เลยคะ จากคุณ : primcu เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:12:13

ความคิดเห็นที่ 38   ปราสาทหินโบราณตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของยาตรัง ตัวปราสาทซึ่งเป็นศิลปะแบบจามปา ถูกทิ้งร้างพังทลายมานาน เศียรของเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ประธานในวิหารหลัก ถูกนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในฝรั่งเศส ปราสาทแห่งนี้เพิ่งได้รับการบูรณะ รวมทั้งหล่อเศียรเทวรูปขึ้นใหม่ และมีพิธีเฉลิมฉลองเมื่อไม่นานมานี้ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:35:30

ความคิดเห็นที่ 39   นั่งกระเช้าไฟฟ้าข้ามทะเลไปเที่ยว Vinpearl เกาะมหาสนุก ระหว่างห้อยต่องแต่งก็ได้ชมวิวเมืองยาตรังจากมุมสูง อากาศดี ท้องฟ้าสวย ถ่ายรูปกันเพลินเชียว ใครกลัวความสูงก็นั่งเรือเฟอรีข้ามไปได้ค่ะ ค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 600 บาท รวมเครื่องเล่นทุกอย่างบนเกาะ ใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้หลายชั่วโมง เพราะพื้นที่กว้าง และมีกิจกรรมมากมาย เห็นมีห้องขายตั๋วอยู่ทั่วไป แสดงว่าอนาคตจะต้องเก็บเงินค่าเครื่องเล่นแยกต่างหาก วันที่เราไปไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เดินๆไปแทบจะไม่เจอใครเลย พนักงานบอกว่าปกติก็ไม่ค่อยมีคนแบบนี้ล่ะค่ะ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:49:15

ความคิดเห็นที่ 40   ของเล่นเยอะขนาดนี้ ถ้ามัวแต่กลัวแดดอยู่ก็หมดสนุกแน่ เราแค่เดินถ่ายรูป เล่นเครื่องเล่นไม่กี่อย่าง และไม่ได้เล่นสวนน้ำ ก็ยังใช้เวลากับที่นี่ไปตั้ง 5 ชั่วโมง งงเหมือนกันว่ามัวแต่ทำอะไรอยู่ใช้เวลานานขนาดนั้น แก้ไขเมื่อ 27 ม.ค. 53 16:56:54 จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 16:53:21

ความคิดเห็นที่ 41   สว้สดีครับคุณตะวันชายผมไปเที่ยว๓๐ธค๐๙ถึง๘มค๑๐ครับ ถ่ายรูปตลอดทางได้รูปประมาณ ๒พันกว่ารูปครับใช้cannon40D จากคุณ : soo_erc (soo_erc) เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 21:32:12

ความคิดเห็นที่ 42   สวัสดีค่ะคุณ  soo_erc สงสัยจะสวนทางกัน เราไป 6-13 ม.ค.ค่ะ ไม่ทันดูงานเทศกาลดอกไม้ แต่ถ่ายรูปมาได้มากพอ ๆ กันเลย แฟนใช้กล้องโอลิมปัส e510ค่ะ ไปเที่ยวกันต่อเลยค่า ยามเย็นชาวบ้านจะเดินกันเต็มทางเดินเท้า และขับมอเตอร์ไซค์กันเต็มถนน เพื่อมุ่งหน้ามาพักผ่อนยังชายหาด เห็นครั้งแรกแปลกใจค่ะ นึกว่ามีงานอะไรกัน แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่ชาวยาตรังจะอุ้มลูกจูงหลานออกมารับลมเย็นที่ชายทะเลกันมากมาย จนแทบไม่เห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินปะปนอยู่ พอเริ่มค่ำคนบางตาก็ถึงเวลาพลอดรักของหนุ่มสาว หลายเมืองในเวียดนามที่เราเดินทางผ่านจะเห็นหนุ่มสาวกอดจูบกันอย่างเปิดเผย โดยเฉพาะยามค่ำคืนในสวนสาธารณะ นี่อาจเป็นกลิ่นอายของวัฒนธรรรมฝรั่งเศสที่ยังคงอยู่ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 22:18:11

ความคิดเห็นที่ 43   เป็นรสนิยมส่วนตัวค่ะ ที่จะต้องเสาะหาชิมอาหารท้องถิ่นในทุกแผ่นดินที่ได้ไปเยือน -มื้อเช้าที่ยาตรังเราเลือกร้านอาหารในตึกแถวเล็กๆ ที่มีชาวบ้านเดินเข้าออกไม่ได้ขาด น้องชายเจ้าของร้านเป็นนักศึกษาจากออสเตรเลียมาแนะนำ  แจ๊วหล่อง หรือเป็นข้าวต้มเครื่องในหมู อร่อยดี -เฝอ ร้านดังที่มีสาขามากมาย เฝอ24 ร้านสวยเก๋และสะอาด รสชาติมาตรฐานแฟรนไชส์ -ซีฟู้ดลวกจิ้มริมถนน จานละ 20 บาท ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่มีอาหารทะเลชนิดอื่น นอกจากหอย หอย และหอย เกือบ 10 ชนิด -น้ำอ้อย ตั้งร้านโดยกางเก้าอี้ชายหาดล้อมรอบโต๊ะเล็ก ๆ ริมทางเดิน วัยรุ่นนิยมมานั่งเล่นเป็นกลุ่ม ๆ และแอบสูบบุหรี่เหมืิอนวัยรุ่นไทยเลย ร้านนี้เราได้ชิมน้ำอ้อยกลิ่นมะนาว นึกว่าเป็นสูตรเวียดนาม สรุปว่าเขาคงไม่ได้ล้างแก้วน่ะ กลิ่นมันเลยกลบกลิ่นน้ำอ้อยเสียสนิท -ข้าวแกง ลองทานมาหลายร้านหลายเมือง มีแต่อาหารประเภททอดและผัดค่ะ ไม่มีร้านไหนขายแกงเลย คาดว่าอาจจะไม่มีเครื่องแกงแบบไทย -Hot Pot ร้าน Pho Bien เป็นร้านใหญ่ระดับภัตตาคารประจำท้องถิ่น มีชาวเวียดนามแต่งตัวสวยงามมาทานอาหารและสังสรรค์กัน แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวสักคน รสชาติดี ราคาไม่แพง อาหารทะเลสดมาก *ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของเราที่แค่เดินทางผ่านไปเยือนเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถนำไปอ้างอิงได้ หรือถ้าไปทานตามลายแทงนี้แล้วท้องเสีย เราไม่รับผิดชอบเน้อ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 27 ม.ค. 53 22:47:46

ความคิดเห็นที่ 45   ที่ยาตรังมีเรื่องประทับใจคือ มอเตอร์ไซค์ที่เช่าไปเกิดเบรคพังกลางทาง ใกล้ๆ ชุมชน ชาวบ้านพาไปบ้านช่างซ่อมรถในตรอกแคบ ๆ ใช้เวลาซ่อมเป็นชั่วโมง ตั้งแต่เย็นจะเริ่มมืด เรานั่งรอไปลุ้นไปว่างานนี้จะโดนฟันไปเท่าไหร่ เพราะทั้งตรอกไม่มีใครพูดภาษาอังกฤษได้เลย ส่งภาษามือลูกเดียว พอซ่อมเสร็จพี่เขายิ้มหวาน กดเครื่องคิดเลข คิดเป็นเงินไทยประมาณ 100 บาทค่ะ ถูกกว่าที่คาดไว้มาก เลยให้แบงค์ยี่สิบบาทไทยไปเป็นที่ระลึก 1 ใบ หมดเวลาเที่ยวยาตรังแล้ว ไปฮอยอันกัีนต่อเลยค่ะ รถนอนคันนี้ของบริษัท T.M.Brother เป็นรถนอนคุณภาพดี เสียแต่ผู้โดยสารเท้าเหม็นกันทั้งคันรถ ทั้งไทยทั้งฝรั่งไม่มีใครยอมใครเลยสิน่า จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 53 16:57:45

ความคิดเห็นที่ 47   จากยาตรังไปฮอยอัน เป็นถนนสองเลนถนนลัดเลาะไปตามภูเขาสูงและมืดตึ๊ดตื๋อ เสียดายเดินทางกลางคืนมองไม่ค่อยเห็นอะไร ทางข้างหน้ามีอุบัติเหตุรถชนกันขวางถนน รถจอดติดยาวหลายกิโลเมตร ผู้โดยสารออกมาเดิน ๆ นั่ง ๆ รออยู่ชั่วโมงกว่าก็เดินทางต่อได้ คราวนี้พี่โชเฟอร์เขาเหยียบคันเร่งแบบไม่คิดชีวิต ที่พักในฮอยอันย่านเมืองเก่าราคาค่อนข้างแพง ถัดออกมาอีกไม่กี่ถนน ราคาถูกกว่ามาก เราเช่าจักรยานขี่ก็สะดวกดี เพราะเมืองเล็ก ขี่วนไปวนมาไม่กี่รอบก็จำทางได้ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 22:03:11

ความคิดเห็นที่ 48   ฮอยอันเคยเป็นเมืองท่ีาที่สำคัญของเวียดนามมานานนับร้อยปี มีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าทางเรือกับญี่ปุ่น จีน รวมทั้งชาติตะวันตก เมื่อแม่น้ำตื้นเขินและเปลี่ยนทิศทาง เมืองท่าจึงย้ายไปอยู่ที่ดานัง ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของวัฒนธรรมต่างชาติที่เคยเข้ามามีอิทธิพลในฮอยอัน เห็นได้จากตีกเก่าแบบฝรั่ง วัด และศาลเจ้าแบบจีนและญี่ปุ่น จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 22:26:55

ความคิดเห็นที่ 49   เมืองเล็ก ๆ ที่สงบและมีเสน่ห์ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 22:29:46

ความคิดเห็นที่ 50   การเที่ยวเมืองฮอยอันต้องซื้อบัตรจากซุ้มขายบัตร 1 ใบเลือกเที่ยวได้ 5 ที่ ถ้าศึกษาข้อมูลไปก่อนก็เลือกเที่ยวสถานที่ที่เราสนใจได้เลยค่ะ เช่น บ้านโบราณเลือกเข้าชมได้ 1 หลัง นอกจากนี้ก็มี วัด สะพานญี่ปุ่น และการแสดงพื้นบ้าน จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 22:36:02

ความคิดเห็นที่ 51   ในย่านชุมชนโบราณ เราขี่จักรยานไปบนถนนแคบ ๆ สองข้างทางมีอาคารบ้านเรือนสวย ๆ เรียงรายกันตลอดเส้นทาง แต่ด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยว ทำให้บ้านทุกหลังพร้อมใจกันเปิดเป็นร้านขายของที่ระลึกละลานตา ใครใจไม่แข็งพอคงต้องเสียเงินช้อปปิ้งที่ฮอยอันแน่ๆ ของที่ระลึกจากฮอยอันราคาค่อนข้างแพง เสื้อยืดและเป้บอกราคาสูงกว่าทุกเมืองที่เราผ่านมา ใครรักการช้อปปิ้งอดใจไปที่เว้จะถูกกว่าเยอะค่ะ นอกจากงานศิลปะ เช่น ภาพวาด และงานปักที่อาจหาซื้อจากเมืองอื่นไม่ได้ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 22:49:46

ความคิดเห็นที่ 52   ชาวฮอยอันโดยเฉพาะในย่านเมืองเก่าคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวดี แม้แต่คุณยายขายนกหวีดดินเผาที่นั่งอยู่ริมถนนก็สื่อสารภาษาอังกฤษได้ ถ้าูถูกต่อราคาสินค้าล่ะก็ แกพูดโต้ตอบภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อเชียวค่ะ แต่เวลาถามนอกเรื่อง ยายจะงง ๆ ถ้ายกกล้องขึ้นมาถ่ายรูป แกจะเรียกร้องเงินทันที การเรียกร้องเงินค่าถ่ายรูปนี่เป็นอา่จจะเป็นธรรมเนียมที่นักท่องเที่ยวมาสร้างไว้ เพราะไม่ว่าจะยกกล้องเล็งไปทางไหน คนพายเรือ แม่ค้าหาบเร่ รถซิกโคล่ เป็นต้องร้องมันนี่ ๆ กันทั้งนั้น เราอาศัยแอบถ่ายอย่างเดียว จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 23:04:21

ความคิดเห็นที่ 53   อาหารแนะนำประจำเมืองฮอยอันคือเกาเหลา เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้ง มีร้านขายเกาเหลาอยู่ทั่วไป มีร้านอร่อยและเก่าแก่อยู่ในย่านเมืองเก่า ร้านอาหารริมแม่น้ำทูโบนมีอยู่หลายร้าน บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก แต่ที่นั่งดี ๆ บนระเบียงชั้นสองมักจะเต็มเร็วค่ะ ต้องรีบไปจับจอง ตอนกลางคืนในย่านเมืองเก่ามีร้านอาหารหลายร้านตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์ทรงโบราณ ตกแต่งสวย บรรยากาศดี ร้านที่เราไปนั่งนั้นเบเกอรี่อร่อยมากกก ราคาไม่แพง เลยต้องซื้อตุนไปอีกถุงใหญ่ ไปเที่ยวเวียดนามนี่เปลืองค่ากาแฟหน่อยค่ะ ตั้งแต่นั่งเก้าอี้พลาสติกข้างถนนไปจนถึงร้านสวย ทดสอบวันละหลายแก้ว สรุปว่ารสชาติดีได้มาตรฐาน จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 23:18:25

ความคิดเห็นที่ 54   เมืองสุดท้ายแล้วค่ะ เว้่ นั่งรถนอนออกจากฮอยอันแต่เช้า รถแวะให้เที่ยวภูเขาหินอ่อน มีของที่ระลึกทำจากหินอ่อนขายเยอะ บอกราคาค่อนข้างแพง แต่ยังไม่ได้ต่อค่ะ น่าจะลดได้เยอะ ประทับใจห้องน้ำสาธารณะ เขามีให้เลือก 2 ราคาค่ะ แบบไม่มีประตู สะอาดดี ราคา 1,000 ด่อง 2 บาทไทย ถ้ามีประตูจ่ายมา 2,000 ด่อง แต่ไม่ค่อยสะอาดแฮะ รถแล่นเลาะชายทะเลไปตลอดทาง เสียดายฝนตกจนฟ้าและทะเลดูหม่นไปหมด รถแล่นผ่านดานัง เมืองท่าที่สำคัญของเวียดนาม ก็ได้แต่ชะโงกหน้าดู ถึงเว้บ่าย ฝนตกปรอย ๆ ต้อนรับ ชาวบ้านบอกว่าอากาศแบบนี้ฝนจะตกไปอีกประมาณ 3 วัน คงจะจริง เพราะมีฝนปรอยตลอดเวลาเกือบ 24 ชั่วโมงที่เราอยู่ที่นี่ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 11:37:39

ความคิดเห็นที่ 55   พอได้ที่พักก็รีบเช่ามอเตอร์ไซค์ ขับชมเมืองกันเลยดีกว่า มีเวลาน้อยค่ะ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 11:39:33

ความคิดเห็นที่ 56   เว้ เป็นอดีตเมืองหลวงที่รุ่งเรืองมากของเวียดนาม พระเจ้ายาลองทรงย้ายเมืองหลวงจากฮานอยมาสร้างเว้ให้เป็นราชธานีที่สวยงามที่สุด และเป็นศูนย์กลางของศิลปวัฒนธรรมชั้นสูง เมื่อเกิดสงครามภายในประเทศ โบราณสถานจำนวนมากถูกทำลาย  แต่เราก็ยังรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของสถานที่ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 12:03:14 จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 11:57:42

ความคิดเห็นที่ 57   จักรพรรดิเวียดนามนั้น เมื่อขึ้นครองราชย์ก็จะสร้างสุสานประจำพระองค์ไว้ ตามความเชื่อว่าเมื่อสิ้นพระชนม์แล้ววิญญาณจะวนเวียนอยู่ สุสานจึงต้องยิ่งใหญ่และตกแต่งอย่างสวยงาม จักรพรรดิตือดึ๊กทรงครองราชย์ยาวนานถึง 35 ปี  สุสานแห่งนี้จึงมีสิ่งก่อสร้างมากมาย เช่น ตำหนัก โรงละคร ทะเลสาบ ฯลฯ ทรงร่างคำจารึกสดุดีพระองค์เองบนแผ่นหิน เนื่องจากไม่ทรงมีทายาทที่จะจารึกให้หลังสิ้นพระชนม์ตามประเพณีโบราณ บริเวณสุสานมีที่เก็บพระศพจำลอง ไม่มีใครทราบว่า แท้จริงแล้วพระศพของจักรพรรดิตือดึ๊กถูกฝังอยู่ที่ใด เพราะผู้ฝังถูกประหารจนสิ้น เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลาย จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 15:38:09

ความคิดเห็นที่ 58   ขับรถชมเมืองต่อค่ะ ทั้งฝน ทั้งหนาว เสียดายจะต้องเดินทางต่อแล้ว เลยไม่มีเวลาไปชมสุสานของจักพรรดิพระองค์อื่นอีก จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 15:40:32

ความคิดเห็นที่ 59   ตลาดดองบา แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม แม่ค้าตลาดนี้หลายร้านพูดไทยได้คล่อง และชอบรับเงินบาท เพราะได้ราคาดีกว่ารับเงินด่อง เป้ที่นี่ราคาถูกกว่าฮอยอันครึ่งนึงเลยค่ะ คนใจร้อนรีบซื้อมาก่อนเซ็งเลย น้ำหอมขวดแก้วรูปสาวเวียดนามสวมชุดอ๋าวหญ่ายที่โฮจิมินห์บอกว่า 10 usd ที่ตลาดดองบา ร้านแรกบอก 120 บาท ยังไม่ทันต่อ ร้านใกล้ ๆ ตะโกนบอกราคาถูกกว่าเหมือนประมูลกันเลย ตะโกนเกทับกันไปมา ตกลงเหลือขวดละ 40- ทั้งที่ลูกค้ายังไม่ได้เอ่ยปากต่อสักคำ เอากะเขาสิ ราคาของที่พวกเราซื้อมา หมวกดาวแดง 5 ใบ 100 บาท เป้ north face 55ลิตร 160- เป้ 80 ลิตร 400 บาท  เสื้อยืดตัวละ 45- ถูกกว่าทุกเมืองที่ผ่านมา เลยช้อปกระจาย เพราะเงินด่องเหลือเยอะ แลกคืนไม่คุ้มค่ะ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 16:17:50

ความคิดเห็นที่ 60   อาหารการกินที่เว้ถูกปากคนไทยค่ะ รสชาติจัดจ้าน หลายมื้อที่ได้ทานช่วยให้หายคิดถึงอาหารไทยได้เยอะเลย กาแฟร้อนที่เว้นิยมเสิร์ฟมาในถ้วยใส่น้ำร้อนค่ะ คงเพราะอากาศเย็น เลยต้องทำให้แก้วกาแฟอุ่นอยู่ตลอด ถ้านั่งนาน ๆ บางร้านจะมาเปลี่ยนน้ำร้อนในถ้วยให้ด้วย จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 16:38:47

ความคิดเห็นที่ 61   ร้านนี้ยกให้เป็นร้านอร่อยอันดับ 1 ในทริปนี้เลยค่ะ เป็นเส้นขนมจีน โปะหน้าด้วยหมูผัดกระเทียมชิ้นโต ๆ ราดซอสและพริกน้ำส้ม โรยถั่วลิสงคั่ว รสชาติกลมกล่อมลงตัวสุด ๆ สังเกตได้จากเวียดนามมุงคับคั่งท่ามกลางสายฝน อาหารชนิดนี้ไม่ทราบชื่อเพราะถามแล้วไม่มีใครตอบ ร้านเป็นหาบเร่ตั้งอยู่ริมฟุตบาทหน้าตลาดดองบา  มีเก้าอี้พลาสติกเตี้ย ๆ วางอยู่ไม่กี่ตัว ต้องนั่งยอง ๆ กินหรือยืนรอบ ๆ หาบ ราคาชามละ 20 บาทเท่านั้น จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 16:52:17

ความคิดเห็นที่ 62   นั่งเครื่องบินจากเว้ไปโฮจิมินห์ เครื่องเวียดนามแอร์ไลน์ค่ะ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:05:10

ความคิดเห็นที่ 63   บอกผิด สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ แต่เครื่องคอมโบเดียแอร์ไลน์ค่ะ มีภาษาเขมรเป็นหลักฐานด้วย ตอนจะลงสนามบินโฮจิมินต์เครื่องสั่น ปีกกระพือพั่บ ๆ เหมือนนกเลย คาดว่าลมแรง จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:09:03

ความคิดเห็นที่ 64   นั่งลำนี้กลับกรุงเทพฯค่ะ ลงปุ๊บ รอแป๊บ ขึ้นต่อได้เลย เร็วกว่ารถสองแถวปา่กซอยบ้านเราอีก แต่ราคาถูกกระเป๋า ถูกใจมากค่ะ สรุปค่าเสียหาย กินดีนอนสบาย 8,000 บาท ไม่รวมช้อปปิ้ง ค่าเครื่องบินไปกลับแอร์เอเชีย 1,800 บาท รวมค่าโหลดกระเป๋า ค่าเครื่องบิน เว้+โฮจิมินต์ประมาณ  2,000 กว่านิด ๆ จำราคาไม่ได้แล้วค่ะ จบแล้วค่ะ ทริปแบกเป้ตะลุยเวียดนาม 8 วัน จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:33:10

ความคิดเห็นที่ 65   สวัสดีครับน้องตะวันชาย ดีใจที่เห็นรีวิวดีๆนะครับ น้องตะวันชายเป็นนักเขียนหนังสือ ส่วนคนใกล้ตัวน้องตะวันชาย ชื่อน้องต้นน้ำปายเป็นเจ้าของร้านจำเลยรัก ร้านดังเชียงคาน เป็นชุมทางbackpacker เมืองไทย ฝากเพื่อนๆไว้ด้วยนะครับ จากคุณ : back room เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 19:43:46

ความคิดเห็นที่ 66   แบบนี้สิครับถึงจะเรียกว่าเที่ยวจริงๆ ได้กินอย่างคนท้องถิ่นเค้ากินกัน อร่อยมั่งไม่อร่อยมั่ง ดีมั่งโกงมั่ง ชีวิตก็เป็นแบบนี้แหละครับ จากคุณ : mie-mien เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 15:55:53

ความคิดเห็นที่ 67   มาเก็บข้อมูลครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : nucleon เขียนเมื่อ : 10 มี.ค. 53 11:34:09

ความคิดเห็นที่ 68   โหย ทู้นี้มีประโยชน์เรื่องของกินจริงๆ จดๆๆ จากคุณ : ดวงดาว หัวใจ ดอกไม้ ชายทะเล เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 53 17:18:38

ความคิดเห็นที่ 69   ได้เก็บข้อมูลเพียบเลย...มิน่าเล่าได้กระชับ ฉับไวจริง ๆ.. จากคุณ : finaldevil เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 53 23:03:31 A:114.128.192.244 X: TicketID:193636

ความคิดเห็นที่ 70   โอวววววว น่าไปมาก ตามๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : FeeLin' so GoOd เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 14:58:08

ความคิดเห็นที่ 71   อยากปายยยยย ปายอีกป่าว ไป ด้วยๆๆๆ จากคุณ : หมูตัวนี้ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 20:25:22

ความคิดเห็นที่ 73 จะตามรอยคะ .. ว่าแต่ทำไมไม่เข้าไปฮานอยต่อ แล้ว นั่งนกแอร์กลับมาจาก ฮานอยคะ จากคุณ : แนนนี่ (playboybkk) เขียนเมื่อ : 17 ก.พ. 55 17:55:46

ความคิดเห็นที่ 74 น้ำอ้อยที่ว่ามีกลิ่นมะนาวน่ะ ไม่ใช่เค้าลืมล้างแก้วนะครับ แต่น้ำอ้อยที่เวียดนิยมบีบน้ำมะนาวลงไปด้วย บางที่ก็ฝานมะนาวเป็นแว่นใส่ลงไปเลย จากคุณ : โยโย่ เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 14:41:17 A:223.205.163.135 X: TicketID:139451

ความคิดเห็นที่ 75 น้ำอ้อยแก้วของเรามีกลิ่นมะนาว แต่แก้วของแฟนไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าตามสูตรเขามันเป็นยังไงกันแน่ จากคุณ : ตะวันชาย เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 10:47:30

ความคิดเห็นที่ 76 ไปได้เยอะมากกกก 8 วัน อยากไปบ้างอะไรบ้าง จากคุณ : รองเท้าผ้าใบสี่ขา เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 21:45:42