ความคิดเห็นที่ 1   จากตอนที่ 1 เราออกเดินทางจากโรงแรมไปเที่ยวช่วงบ่าย โดยใช้รถบัสที่เรียกว่า SBS transit (ใช่รึเปล่าหว่า) นี่คือป้ายรถเมล์ตลอดการเดินทาง นึกไรไม่ออกให้มาป้ายนี้แล้วนั่งสาย 80 จะไปเที่ยวได้หลายที่ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:19:42

ความคิดเห็นที่ 2   สังเกตง่ายๆ ครับตรงป้ายรถเมล์จะมี seven อยู่ ถ้าผมจำไม่ผิดมันติดกับ watson ด้วย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:20:53

ความคิดเห็นที่ 3   เสร็จแล้วผมนั่งรถบัสสาย 80 เพื่อที่จะไป St.Andrew Cathedral ซึ่งผมถามคนขับแล้วเค้าไม่รู้จัก เลยต้องเปลี่ยนคำถามไปว่าช่วยบอกผมด้วยนะหากถึง Supreme Court แล้วดันรู้จักซะงั้น -.- ----------------------------------------- บรรยากาศบนรถชั้น 2 ครับ ขอบอกว่ารถยูโรบ้านเราแอร์เย็นกว่าที่นู้น (แต่สังเกตว่าไปอยู่ 3 วันไม่มีรถร้อนวิ่งในตัวเมืองอีกแล้ว) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:23:32

ความคิดเห็นที่ 4   บรรยากาศระหว่างทาง ปลูกต้นไม้เยอะดีจริงๆ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:24:15

ความคิดเห็นที่ 5   ถึงแล้วครับโบสถ์ St Andrew’s Cathedral ประวัติ โบสถ์ St Andrew’s Cathedral แห่งนี้เป็นสถาบันอันโดดเด่นและ สง่างามที่ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมือง ออกแบบโดยนายพล โรนัลด์ แมคเพอร์สันในปี 1856 ถูกก่อสร้างขึ้นแทนที่ โบสถ์หลังเก่าที่พังลงเนื่องจากถูกฟ้าผ่าสองครั้งในปี 1852 มีจุดรับนักท่องเที่ยว (Visitor Centre) ที่ปีกด้านใต้ของโบสถ์ ซึ่งเป็นที่จัดแสดงสิ่งประดิษฐ์ รูปภาพ และวิดีโอแสดงประวัติ ของโบสถ์แห่งนี้ มีบริการไกด์นำเที่ยวรอบสถานที่ ที่ตั้ง Coleman Street Singapore 179802 จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:25:27

ความคิดเห็นที่ 6   หันหน้าจากโบสถ์มองไปทางถนน จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:26:23

ความคิดเห็นที่ 7   รูปโบสถ์ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:26:57

ความคิดเห็นที่ 8   รูปโบสถ์อีก แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 53 07:28:35 จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:27:21

ความคิดเห็นที่ 9   รูปโบสถ์รูปสุดท้าย ไหนๆมาทั้งที จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:30:08

ความคิดเห็นที่ 10   ฝั่งตรงข้ามมองไปจะเห็นสนามหลวงบ้านเค้าเรียกว่า Padang ที่คนสิงคฯ ชอบมาเล่น cricket แอบเห็น sg flyer นิดๆ กับ Esplanade จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:31:17

ความคิดเห็นที่ 11   เดินต่อไปยัง Supreme Court ครับ (ศาลฎีกา) เรียนจบกฎหมายแท้ๆ ต้องไปยังแต่ละศาลฎีกาในแต่ละประเทศให้ได้ครับ จะเห็นตึกมากมาย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:32:32

ความคิดเห็นที่ 12   ก่อนไป ต้องข้ามถนนก่อนครับ ในตัวเมืองใหญ่ๆของสิงคโปร์ จะมีเสาแบบนี้ให้กดปุ่มข้ามถนนมากมาย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:33:55

ความคิดเห็นที่ 13   ตามไปเที่ยวด้วยคนน่ะครับ เมื่อคืนนั่งดูถ่ายสดจนดึกข้ามวันกันเลยทีเดียวครับ รีวิวระเอียดมากมายเล่นเอาเจ้าบ้านอย่างผมอายเลยทีเดียว เพราะว่าบางที่ผมยังไม่เคยเดินผ่านไปเลยครับ...555 จากคุณ : fanda เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:34:47

ความคิดเห็นที่ 14   เห็น Hyundai Getz ถ่ายมาซะ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:37:17

ความคิดเห็นที่ 15   ยินดีครับคุณ fanda ^^ ผมมั่วๆ คลำๆทางเอานะ  เห็นอะไรก็ถ่ายหมด ------------------------------------------------------- ถึงแล้วครับ Supreme Court ประวัติ Supreme Court and City Hall - ศาลฎีกาหลังนี้สร้างขึ้นในปี 1939 เสาแบบคอรินเทียน การออกแบบอย่างคลาสสิก และภายในอันกว้างขวางที่มีจิตรกรรมฝาผนังที่วาดโดยศิลปินชาวอิตาลีที่ชื่อ คาวาลิรี่ โรโดลโฟ นอลลี่ (Cavalieri Rodolfo Nolli) ทำให้สถานที่นี้เป็นอาคารที่วิจิตรที่สุดแห่งหนึ่งที่สร้างขึ้นในระหว่างช่วงเวลาที่อังกฤษยึดครองสิงคโปร์อยู่ ข้างๆศาลฎีกามีอาคารศาลากลางที่สร้างขึ้นในปี 1929 และยังมีจุดที่กองทัพญี่ปุ่นยอมจำนนแก่ลอร์ดเมาท์แบทเท่นในปี 1945 ระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันสถานที่นี้ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว จนกว่าจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง   ที่ตั้ง ถนน St Andrew's Road จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:39:48

ความคิดเห็นที่ 16   สังเกตว่า สถาปัตยกรรมแบบอังกฤษ จะมีเสามากมาย ที่ abac ของผมก็สร้างตึกทำนองนี้หลายที่เช่นเดียวกัน หากคุณอยากหาดู สถาปัตยกรรมสไตล์นี้ในเมืองไทย เชิญที่ abac บางนา ครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:41:30

ความคิดเห็นที่ 17   ป้ายนับถ้อยหลังสู่ youth olympic game จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:42:06

ความคิดเห็นที่ 18   รูปเต็มๆสักรูป Supreme Court จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:46:52

ความคิดเห็นที่ 19   บรรยากาศระหว่างทางใต้ตึกหลังเก่า ซึ่งด้านหลังจะใช้เป็นศาลฎีกาหลังใหม่ในปัจจุบัน จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:49:07

ความคิดเห็นที่ 20   ถึงแล้วครับ Supreme Court หลังปัจจุบัน ใครมันเข้าฝันคนออกแบบเนี่ย จานบิน ufo ผมว่าหลังเก่าสวยกว่ากันเยอะ แต่เดินผ่านไป แอร์ในนั้นเย็นมากๆ (สิงคโปร์หนาวมาก) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:50:54

ความคิดเห็นที่ 21   และแล้วเราก็นั่งรถบัสสาย 80 ประมาณ 3 ป้าย ต่อไปยังวัด Budda Tooth  Relic Temple and Museum ประวัติ วัดและพิพิธภัณฑ์ทันตธาตุพระพุทธเจ้า (The Buddha Tooth Relic Temple & Museum) คืออนุสรณ์ทางวัฒนธรรมที่มีชีวิต ตั้งอยู่ใจกลางไชน่าทาวน์ เป็นที่ประดิษฐานของสิ่งที่ผู้นำของศาสนาพุทธถือว่าเป็นพระ ทันตธาตุของพระพุทธเจ้า ใส่อยู่ในสถูปอัฐิอันงามสง่าซึ่งมีส่วน ประกอบของทองคำหนัก 420 กก.ที่บริจาคโดยผู้มีจิตศรัทธา ทุกๆวันจะมีการเปิดผ้าม่านของห้องชั้นในตามเวลาที่กำหนด เพื่อประกอบพิธีกรรมโดยพระสงฆ์ที่ประจำอยู่ที่นี่และให้ประชาชน ได้ชมสถูปอัฐิ วัดนี้สร้างขึ้นแด่พระศรีอริยะเมตไตย เมื่อเดินเข้าสู่ห้องโถงกลาง ของวัดที่มีความสูงตระหง่านถึง 27 ฟุต ผู้มาเยือนจะมองเห็นพระพุทธ ศรีอริยะเมตไตยที่ทำจากไม้สลักอย่างงดงาม จากความยิ่งใหญ่และ รายละเอียดอันวิจิตรที่เห็นได้ในห้องโถงนี้ ผู้มาเยือนจะสามารถชื่นชม ผลงานของช่างฝีมือผู้อุทิศตนที่ได้แบ่งปันทักษะของตนในการสร้าง วัดแห่งนี้ สถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และประติมากรรมของ สถานที่นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากราชวงศ์ถัง ซึ่งเป็นยุคที่ศาสนา พุทธรุ่งเรืองในประเทศจีน ท่ามกลางยุคทองของความเฟื่องฟูทาง ศิลปะและวัฒนธรรม   สิ่งน่าสนใจอย่างอื่นของที่นี่ก็คือพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมชาวพุทธ (Buddhist Culture Museum), พิพิธภัณฑ์สิงห์ (Eminent Sangha Museum), ห้องพระไตรปิฎก (Tripitaka Chamber), ห้องจัดแสดง (Exhibition Hall) ซึ่งเป็นที่จัดนิทรรศการต่างๆเกี่ยวกับด้านต่างๆของศิลปะศาสนา และวัฒนธรรมของสิงคโปร์อยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีโรงละคร เพื่อการแสดงวัฒนธรรม การปาฐกถา และภาพยนตร์ บนหลังคา ผู้มาเยือนจะได้ชมการบานอันบริสุทธิ์และสวยงาม ของดอกแดนโดรเบียมบุดด้าทูท ซึ่งเป็นสายพันธ์กล้วยไม้ที่ตั้ง ชื่อเป็นพิเศษตามพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อน และเพลิดเพลินกับชาแสนสดชื่นและของขบเคี้ยวมังสวิรัติที่ดีต่อ สุขภาพได้ที่ร้านน้ำชา Lotus Heart Tea House อันอบอุ่นที่ชั้น 2 หรือจะเยี่ยมชมห้องทานอาหารที่ชั้นใต้ดินซึ่งมีการแจกอาหาร มังสวิรัติทุกวัน ส่วนร้านที่ชั้น 1 นักท่องเที่ยวจะสามารถซื้อของ ถวายได้ เช่นดอกกล้วยไม้แดนโดรเบียมบุดด้าทูทและหนังสือ ซีดี งานฝีมือ และของที่ระลึกมากมาย นักท่องเที่ยวควรแต่งกายสุภาพเนื่องจากที่นี่คือศาสนสถาน   ค่าเข้าชม ฟรี เวลาเปิดบริการ 7.00 – 19.00 น. เวลาทัวร์โดยประมาณ 2-3 ชั่วโมง ที่ตั้ง 288 South Bridge Road S(058840) แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 53 07:54:49 จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:53:25

ความคิดเห็นที่ 22   รูปต่อไปในวัดไม่ขอบรรยายหละกันนะครับ เชิญซึมซับบรรยากาศชาวพุทธกันเองเลย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:56:10

ความคิดเห็นที่ 23   1. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:57:24

ความคิดเห็นที่ 24   2. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:57:53

ความคิดเห็นที่ 25   3.ชั้น 1 จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:58:18

ความคิดเห็นที่ 26   4. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:58:46

ความคิดเห็นที่ 27   5. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:59:16

ความคิดเห็นที่ 28   6. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:59:36

ความคิดเห็นที่ 29   7. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 07:59:57

ความคิดเห็นที่ 30   8. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:02:05

ความคิดเห็นที่ 31   9. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:02:26

ความคิดเห็นที่ 32   10. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:03:35

ความคิดเห็นที่ 33   11. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:03:54

ความคิดเห็นที่ 34   12. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:04:15

ความคิดเห็นที่ 35   13. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:05:14

ความคิดเห็นที่ 36   14. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:05:33

ความคิดเห็นที่ 37   15. จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:05:58

ความคิดเห็นที่ 38   และรูปสุดท้ายของวัดนี้ พระแก้วมรกตที่ชาวพุทธเราเคารพบูชา จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:06:32

ความคิดเห็นที่ 39   เสร็จจากวัด Buddha Tooth เราไปหาซื้อของที่ระลึกกันที่ Pagoda St. ย่าน Chinatown ครับ ของที่นี่ถูกมาก (แต่ต้องซื้อร้านแถวถนนซอยเลยถูกกว่าในซอยนะ  ให้เดานะครับในซอยมันใกล้ MRT กว่ามั้ง) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:08:04

ความคิดเห็นที่ 40   Chinatown Heritae Centre จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:08:26

ความคิดเห็นที่ 41   MRT Chinatown ลึกสุดในซอย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:08:57

ความคิดเห็นที่ 42   เสร็จแล้วเราก็ไปไหว้วัดแขกแถว Chinatown แต่ขอโทษมันปิดปรับปรุงครับ เลยได้แต่ถ่ายรูปพระด้านในมา ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับวัดแขกซะเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:09:56

ความคิดเห็นที่ 43   เสร็จจากวัดแขก ก็มาหาของกินมื้อเย็นกันที่ Maxwell food centre ชื่อดังของสิงคโปร์ ซึ่งมีร้าน tian tian อยู่ (maxwell เนี่ยอยู่ตรงข้ามวัด Buddha tooth เลย) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:11:08

ความคิดเห็นที่ 44   จากนั้นเราก็ตระเวนหาร้าน tian tian ข้าวมันไก่ชื่อดังของสิงคอีกเจ้าหนึ่ง หาไปหามา ทำไมไม่เจอซะที (เพิ่งรู้ว่ามันมีหลายล็อค) เจอแล้วครับ คนต่อแถวยาวมาก มีคนขายพูดไทยได้ซะด้วย จำได้ว่า จานธรรมดา 2.80 sgd เค้าพูดเลยว่า 2 เหรียญ 80 (พิเศษ 3.30 sgd นะ) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:12:41

ความคิดเห็นที่ 45   หน้าตารูปร่างข้าวมันไก่ ผมว่ามันอร่อยกว่าที่คิดจริงๆด้วย (ราดซอสอะไรไปที่ไก่ด้วยนะ) ไม่เหมือนไก่เมืองไทยครับ แต่ถ้าได้น้ำจิ้มเมืองไทยจะดีมาก จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:13:48

ความคิดเห็นที่ 46   เสร็จแล้วผมย้อนกลับไปนั่ง MRT Chinatown เพื่อไปยัง MRT Raffle Place ครับ ผมลืมถ่ายป้ายหน้า Pagoda St. มาให้ถ่ายซะเลย (จริงๆวางแผนจะลง Clark quay แต่เนื่องด้วยไม่มีแรงขาเหลือแล้ว ทะลุไป Merlion Park เลยหละกัน) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:15:02

ความคิดเห็นที่ 47   ติดตามผลงานอย่างใกล์ชิดครับ จะเดินทางไปต้นเดือน กพ นี่ครับ... จากคุณ : be Ambitious เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:16:40

ความคิดเห็นที่ 48   พอโผล่ออกมาจาก MRT จะเป็น UOB plaza building ครับ ถ่ายซะหน่อย ว่ามาถึง Raffle Place แล้ว จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:16:41

ความคิดเห็นที่ 49   -คุณ be Ambitious ยินดีครับ ตามติดมาเลย ------------------------------------------------------ หากสงสัยว่าจาก UOB ไปแถว Fullerton ยังไง ให้เดินไปด้านหลังซอยเล็กๆข้าง UOB ครับจะเจอแม่น้ำ sg เลย ระหว่างทางเจอไอติม 1 เหรียญเอาซะหน่อย รสมะม่วงอร่อยมาก รสอื่นกินมาหลายรสวันหลังๆไม่ถูกปากเลย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:19:23

ความคิดเห็นที่ 50   และแล้วเราก็เห็นสะพาน cavenarh bridge ยามค่ำคืน จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:20:18

ความคิดเห็นที่ 51   มาถ่ายหน้า fullerton แบบนี้จะต้องถ่าย people of the river แน่นอนครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:23:39

ความคิดเห็นที่ 52   อีกรูป จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:24:04

ความคิดเห็นที่ 53   โรงแรมสุดหรูของ Singapore (The fullerton hotel) ถ้าเปรียบกับเมืองไทยคือ ดุสิตธานีครับ (แต่จริงๆแล้ว ที่หรูกว่าดุสิตยังมีอีกเยอะ แต่ดุสิตอาจจะคลาสสิคที่สุด) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:26:07

ความคิดเห็นที่ 54   แบบไม่เปิด flash จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:26:32

ความคิดเห็นที่ 55   รูปปั้นเด็กเล่นน้ำ ซึ่งผมลืมถ่ายตอนกลางวัน -.- จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:27:19

ความคิดเห็นที่ 56   ถ่ายบนสะพาน cavenargh จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:27:57

ความคิดเห็นที่ 57   เดินข้ามมาอีกฝั่งถ่ายย้อนไปโรงแรม fullerton ของจริงสวยกว่าในรูปเยอะครับ ต้องไปสัมผัสด้วยตาตนเอง จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:28:44

ความคิดเห็นที่ 58   อีกสักรูป มันทองอร่ามจริงๆ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:29:10

ความคิดเห็นที่ 59   เสร็จแล้วเราเดินลงไปลอด underpass ทะลุไปยัง esplanade (ซึ่งจริงๆ ผมว่าผิดทาง มันต้องไม่ข้ามสะพานแล้วเดินไปยังฝั่งด้านหน้า fullerton ติดถนนแล้วข้ามไป merlion park ต่างหาก) -*- จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:30:10

ความคิดเห็นที่ 60   เห็น esplanade ไกลๆแล้วครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:30:39

ความคิดเห็นที่ 61   ถึงแล้วครับ esplanade แบบไม่เปิด flash จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:31:23

ความคิดเห็นที่ 62   เราลองมาเปิด flash กันดูบ้าง เอาให้เห็นสีทองกันไปเลย ลืมเล่าประวัติครับ เอสพลานาด - โรงละครบนชายหาดเป็นหนึ่งในศูนย์แสดงศิลปะที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง เปิดตัวอย่าง เป็นทางการเมื่อ 12 ตุลาคม 2002 เอสพลานาดเดิมนั้นเปิดในปี 1943 โดยตั้งอยู่บนสวนซึ่งตอนนี้นั้นมี พื้นที่ 2.4 เฮคเตอร์ (ประมาณ 24,000 ตารางเมตร) ริมถนนคอนนอ ท (Connaught Drive) โดยตั้งอยู่ตรงข้ามซิตี้ ฮอลล์ (City Hall) ในปี 1985 รัฐบาลได้มีโครงการที่จะสร้างศูนย์แสดงศิลปะขึ้นใน สิงคโปร์และลงความเห็นว่าเอสพลานาดนั้นเป็นสถานที่ที่เหมาะสม ที่สุด เอสพลานาดในรูปแบบเดิมจึงถูกปรับปรุงใหม่ในปี 1991 เพื่อ ความสวยงามของเขตซิวิค ดิสตริก (Civic District) และเพื่อเป็น ศูนย์แสดงศิลปะ ในปี 1992 ทีมงานสถาปนิกซึ่งประกอบด้วยบริษัท DP อาร์คิเทค (DP Architechs) (สิงคโปร์) และ ไมเคิล วิลฟอร์ด แอนด์ พา ร์ทเนอร์ (Michael Wilford & Partners) (สหราชอาณาจักร) ได้ ถูกเลือกมาให้ออกแบบศูนย์นี้ เพื่อเป็นสัญลักษ์แห่งการเชื่อมต่ออัน ทรงคุณค่าระหว่างอดีตและปัจจุบัน ศูนย์แสดงศิลปะแห่งนี้จึงถูก เรียกว่าเอสพลานาด - โรงละครบนหาดทราย   ในปัจจุบัน สัญลักษณ์แห่งสถาปัตยกรรมที่มีรูปแบบเหมือนหอยเชลล์สองตัวแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ในเขตซีวิค ดิสตริก (Civic District) ของสิงคโปร์ อยู่เคียงข้างกับอ่าวมาริน่า เบย์ที่ปากแม่น้ำสิงคโปร์ เอสพลานาดนั้นประกอบไปด้วย ห้องแสดงขนาดใหญ่สองห้อง คือห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาด 2,000 ที่นั่ง และขนาด 1,600 ที่นั่ง และมีสตูดิโอขนาด เล็กอีกสองห้องทั้งในและนอกอาคาร โดมที่เป็นโรงละครและ ห้องแสดงคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ทั้งสองห้องนี้ถูกออกแบบมา ให้สร้างขึ้นด้วยกระจกเพื่อสื่อถึงความรู้สึกแห่งความเปิดกว้าง เพื่อทำให้ศูนย์แห่งนี้เย็นสบายจากอากาศในเขตร้อน ได้มีการติดตั้งแผ่นบังแดดที่ทำจากอลูมิเนียมและกระจก เคลือบสองชั้นเข้ากับโครงหลังคาที่ทำจากเหล็ก ทำให้ศูนย์แห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม ที่มีความโดดเด่นตัดกับเส้นขอบฟ้าของสิงคโปร์เป็นอย่าง มาก เหล็กแหลมที่ปกคลุมศูนย์แห่งนี้ทำให้มันได้รับการ เรียกขานตามชื่อของผลไม้ยอดนิยมของสิงคโปร์ว่า เดอะ ดูเรียน (ทุเรียน) จุดประสงค์ของเอสพลานาดคือการเป็นศูนย์แสดงศิลปะสำหรับทุกคน และรายการแสดงต่างๆ นั้นก็มีความหลากหลายเพื่อให้เหมาะสม กับผู้เข้าชมทุกประเภท การจัดรายการแสดงได้เน้นที่ความหลากหลาย ของดนตรี การเต้นรำ ละคร และทัศนศิลป์ทุกประเภทโดยเน้น ที่วัฒนธรรมของเอเซียเป็นพิเศษ สถานที่ เอสพลานาดนั้นตั้งอยู่ระหว่างถนนราฟเฟิล (Raffles Avenue) และถนนเอสพลานาด (Esplanade Drive) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:33:40

ความคิดเห็นที่ 63   จาก Esplanade เราก็เดินมาตามทางที่เรียกว่า Esplanade drive จนมาถึงอีกฝั่งจะเห็นฝั่งตรงข้ามเป็น fullerton ครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:36:12

ความคิดเห็นที่ 64   และแล้วเราก็ถึงแล้วครับ สิ้นสุดการรอคอย ตามหากันมานาน landmark ของสิงคโปร์ Merlion จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:37:01

ความคิดเห็นที่ 65   ใครมาถึงสิงคโปร์ แล้วไม่มีภาพ Merlion กลับไป ถือว่าคุณพลาดอย่างแรงครับ ---------------------------------------------------- ประวัติ ตอนแรกนั้น สิงโตทะเล (Merlion) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของคณะกรรมการการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) ในปี 1964 – รูปปั้นนี้มีหัวเป็นสิงโต ร่างเป็นปลา ยืนอยู่บนยอดคลื่น ต่อมาไม่นานทั่วโลกก็ถือกันว่าสิงโตทะเลตัวนี้คือเครื่องหมายประจำชาติสิงคโปร์ แต่เดิมรูปปั้นนี้ตั้งอยู่ที่สวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างๆสะพานเอสพลาเนด (Esplanade Bridge) แม่สิงโตและลูกสิงโตได้กลายเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว มีการจัดพิธีติดตั้งสิงโตทะเลในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ.1972 โดยมีประธานในพิธีคือนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ณ เวลาดังกล่าว ซึ่งก็คือ นายลีกวนยู   ปัจจุบัน รูปปั้นสิงโตทะเลได้บ้านใหม่ซึ่งอยู่ห่างไปจากที่เดิมเป็นระยะทาง 120 เมตร ติดกับ One Fullerton สิงโตตัวนี้สูง 8.6 เมตร มีน้ำหนัก 70 ตัน ทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ โดยช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ผู้เสียชีวิตไปแล้วที่ชื่อนายลิมนังเซ็ง ส่วนรูปปั้นสิงโตทะเลตัวที่สองจะมีขนาดเล็กกว่า ขนาดสูงสองเมตรและหนักสามตัน ก็ถูกสร้างขึ้นโดยนายลิมเช่นกัน ตัวสิงโตทำจากวัสดุจำพวกซีเมนต์ ผิวหนังทำจากแผ่นกระเบื้อง และตาทำจากถ้วยชาสีแดงขนาดเล็ก  ผู้ออกแบบคือนายฟราเซอร์ บรูนเนอร์ (Mr Fraser Brunner) เป็นผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแวนคลีฟ หัวรูปปั้นเป็นสิงโตหมายถึงสิงโตที่เจ้าชายซางนิลาอุตามะเคยเห็นตอนที่พระองค์พบเกาะสิงกะปุระในปี ค.ศ. ที่ 11 ตามบันทึกของชาวมาเลย์ (Malay Annals) ส่วนหางที่เป็นปลาคือสัญลักษณ์ของเมืองโบราณเทมาเซ็ค (หมายความว่า "ทะเล" ในภาษาญี่ปุ่น) ซึ่งสิงคโปร์ถูกค้นพบมาแล้วก่อนที่เจ้าชายนิลาจะตั้งชื่อเกาะนี้ว่า "สิงกะปุระ" (หมายความว่า "สิงโต" (สิงห์) และ "เมือง" (ปุระ) ในภาษาสันสฤต) นอกจากนี้ยังหมายถึงจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อยของสิงคโปร์ที่ในอดีตเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:39:17

ความคิดเห็นที่ 66   ถ่าย sg flyer แบบเบลอๆ ขนาดใช้ขาตั้งนะเนี่ย กล้องมันห่วย คนถ่ายก็ห่วย -.- จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:40:07

ความคิดเห็นที่ 67   ใกล้ๆ merlion จะมีผับที่ชื่อว่า One fullerton ให้นั่ง drink ครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:40:47

ความคิดเห็นที่ 68   ตรง merlion park มีสิงโต 2 ตัวนะ ตัวหนึ่งตัวแม่พ่นน้ำยิงไกล อีกตัวตัวลูก พ่นได้นิดหนึ่ง(เพิ่งฝึกพ่น) ผมลืมบอกไปการออกเสียง merlion ให้ออกเสียงว่า เมอร์-ไล-เย่อน มิใช่ออกเสียงว่า เมอร์-ไล-อ่อน หรือ เมอร์-ไล-เอ่อน แบบที่คนไทยออกครับ คนสิงคโปร์ฟังแล้วไม่เข้าใจ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:42:21

ความคิดเห็นที่ 69   เสร็จแล้วก็นั่งรถกลับโรงแรมครับ พอถึงโรงแรม เข้าไปลองซื้อมันบด Mash Potato 1 เหรียญใน seven หน้า lor ชิมซะหน่อย จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:44:08

ความคิดเห็นที่ 70   บรรยากาศหน้า lor 6 ครับ จะเห็นว่าพวกแนวนั้นมีน้อย ไม่เหมือนซอยปลายๆ (แต่หมวยจีน สวยจริงๆแหะไม่น่าเชื่อจะเป็นพวกแนวนั้น) จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:45:11

ความคิดเห็นที่ 71   รูปสุดท้ายสำหรับรีวิววันแรกนี้ครับ กับ ชา Mango Tea ตรา pokka ราคา 1 เหรียญอร่อยมาก (seven ลดจาก 2 เหลือ 1 เหรียญ) แล้วเจอกันในรีวิววันต่อไปนะครับ อย่าลืมติดตามชมกัน จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 08:46:18

ความคิดเห็นที่ 72   เข้ามาเก็บข้อมูล ...อิอิ ขอบคุณนะคะ ลอกทั้งการบ้าน แล้วยังจะลอกมุมถ่ายรูปอีก จากคุณ : ฮุยเฉง เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 09:25:24

ความคิดเห็นที่ 73   ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ จากคุณ : winnie20f เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 09:36:22

ความคิดเห็นที่ 74   เที่ยวเยอะมากเลยค่ะ คุ้มจริงๆๆๆ ข้าวมันไก่แถวบ้านเราก็อร่อยน่ะ ข้าวมันไก่สิงคโปร์เหมือนเขาราดซ้อสแบบน้ำๆๆอะไรไม่รู้ อร่อยเนาะ จากคุณ : kizz_j เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 10:16:09

ความคิดเห็นที่ 75   แวะมาชมครับ ตามไปเที่ยวสิงคโปร์ด้วยคนนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 10:47:29

ความคิดเห็นที่ 76   ไปเที่ยวเหมือนกัน แต่ตกมืดหลับตลอดเลยสลบ อิอิ จากคุณ : natz เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 12:57:39

ความคิดเห็นที่ 77   ตามไปเที่ยวด้วยครับ อยากกินปูๆๆๆๆ เดี๋ยวเดือนหน้าไปมั่งดีก่า จากคุณ : ทนายอ้วน เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 13:12:09

ความคิดเห็นที่ 78   ตามมาเที่ยวสิงคโปร์ต่อครับ อิอิ อยากไปบ้างอ่า รูปสวยจังเลย จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 14:51:33

ความคิดเห็นที่ 79   รูปสวยจังเลย ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : กอกี้ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 15:16:25

ความคิดเห็นที่ 80   ตามมาอ่านครับ และขอบคุณสำหรับคำตอบ จากคุณ : เด็กหัวตะเข้ (toto-f22raptor) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 15:50:46

ความคิดเห็นที่ 81   มาชมค่ะ จากคุณ : อ า ร์ ต ตั ว แ ม่ เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 17:12:12

ความคิดเห็นที่ 82   เพิ่งไป สิงคโปมาเหมือนกันค่ะ 12-13JAN10 พักที่ Fragrance Emerald ตามสูตรเหมือนกันเลยคะ การเดินทางครั้งแรก เดินตามรอยรีวิวิ walk-in อย่างเดียวค่ะ ไม่มีการจองหรือวางแผนอะไรเลย หยิบคู่มือที่สนามบินแล้วเดินมั่วอย่างเดียว เหนื่อยมากๆค่ะ แต่สนุกไปอีกแบบ ปล. ปกติโรงแรมที่สิงคโป เค้าให้ check-in 15.00 น. แต่วันนั้นไปถึง 10.00 น. ต้องจ่ายค่า check-in ก่อนเวลา 32 SGN มหาโหดจริงๆ จากคุณ : AnimAok เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 18:48:13

ความคิดเห็นที่ 83   -โอ้ คุณ AnimAok ค่า check in ของ Fragrance Emerald ก่อนเวลา 32 sgd ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม 700 กว่าบาทเลยนะนั่น -.- ราคาครึ่งหนึ่งของค่าห้องพักเลยนะครับ จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 19:08:07

ความคิดเห็นที่ 84   -คุณแม่แจง ข้าวมันไก่ของคุณแม่แจงนั่นใช่แถว woodland รึเปล่าครับ เดี๋ยววันหลังถ้ามีโอกาสไปอีกจะลองตามไปกินดู หรือบ้านคุณแม่แจงในกรุงเทพ -*- (ได้ข่าวว่าคุณแม่แจงเพิ่งกลับจากฮ่องกง ช่วยจัดทริป มาเก๊า-ฮ่องกงให้หน่อยสิครับ พอดีจองตั๋วแอร์เอเชียไปแล้วรอบ 0 บาท ไปเดือน มิ.ย. ยังไม่รู้จะมีเงินทันอะเปล่า 55+) -ขอบคุณท่านอื่นที่เข้ามาชมรีวิวนะครับ แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 53 19:11:32 แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 53 19:10:57 จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 19:10:00

ความคิดเห็นที่ 85   ใช่ๆๆ เด่ยวซื้อไปฝาก เด่ยวไปคิดมาเก๊ากอ่นน่ะค่ะ ไปสี่รอบแล้วละ จากคุณ : kizz_j เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 19:15:17

ความคิดเห็นที่ 86   ฟังไม่ผิดค่ะ 32 SGN วันนั้นแบกโน้ตบุ้คมาด้วยอยากเอาไปเก็บก่อนก็เลยยอมจ่าย เค้าบอกให้รอประมาณ 15 นาที ห้องถึงจะว่าง รอจน 30 นาทีก็แล้ว ยังไม่ได้ห้องสักที ก็เลยขอยกเลิกค่ะ กะจะยกเลิกหมดเลยนะค่ะ รวม 63+32 SGN แต่พนักงานบอกค่าห้องยกเลิกไม่ได้ คืนได้ 32SGN เท่านั้น แล้วให้ check-in ก่อนเวลาแทนเป็น 13.00 สุดท้ายไปเที่ยวกลับมา check-in อีกที 22.30 ไปแล้ว จากคุณ : AnimAok เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 19:58:44

ความคิดเห็นที่ 87   เห็นรีวิวสิงคโปร์แล้วคิดถึงเมื่อตอนไปเที่ยวที่นี่เมื่อกลางปีที่แล้ว ไปกันแค่3คนแม่ลูก ซื้อทัวร์ แต่เที่ยวเฉพาะเรา3คน มื้อเที่ยงใน เซ็นโตซ่า เราพูดกับไกด์เป็นภาษาอังกฤษว่าเราเป็นคนจ่ายเองหรือเปล่า ไกด์ รีบNO NO (ขอไม่บอกว่าพูดว่ายังไง อายค่ะ)     ทานอาหารเสร็จ กำลังจะเดินออกจากร้าน เด็กในร้านเรียกให้ ไปจ่ายเงินซะดังไปทั้งร้าน  รู้สึกวูบจากหน้า ปั่นป่วนไปถึงลำใส้เลยทีเดียว ตาย เอาหน้ามาขายไกลถึงสิงคโปร์แล้วเรา     ขอแนะนำการไปเที่ยว  สิงคโปร์ฟลายเออร์ ค่ะ รีบไปแต่เช้าทั้งตู้จะ มีแต่เราครอบครองผู้เดียว รู้สึกดีมากเลยค่ะ จากคุณ : mamasister เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 19:58:50

ความคิดเห็นที่ 88   ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ แหมๆ สงสัยตอนไป ผมคงต้องเดินไปซอยลึกๆซะแล้ว 555 ก็ยังไง ถ้าจะขอยืม Ez link จะได้ไหมครับ พอดีจะไปเหมือนกันครับ ไปกัน 4 คน ถ้าใครมี ก็ขอยืมหน่อยนะครับผม ขอบคุณมา ณ โอกาสนี้นะครับ จากคุณ : doxy เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 20:14:06

ความคิดเห็นที่ 89   ขอบคุณที่พาเที่ยวสิงคโปร์นะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 20:46:45

ความคิดเห็นที่ 90   คุณ doxy ไม่ต้องเดินไปซอยลึกหรอก หน้า hotel6 ตรงข้าม fragrance Emerald น้องๆ เขาก็หาเพื่อนคุยอยู่ แต่หน้า fragrance Emerald ไม่มีนะ สงสัยสว่างไปหน่อย จากคุณ : taoru เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 22:17:00

ความคิดเห็นที่ 91   กวาดสายตาอ่านคร่าวๆ ขอแนะนำแก้ไขนิดหน่อยครับ โรงละครเอสพลานาด บนชายหาด น่าจะเปลี่ยนเป็น โรงละครเอสพลานาด บนอ่าว เพราะมาจากคำว่า Esplanade - Theatre on the Bay เพราะคำว่า Bay แปลว่าอ่าว และตรงนั้นไม่มีทางมีสภาพเป็นชายหาด (beach) ไปได้ครับ คำว่า Temasek ไม่น่าจะมาจากภาษาญี่ปุ่นครับ เป็นภาษาชวา(มะลายู)มากกว่าครับ ผมคิดว่าอาจจะมีการแปลผิดพลาด หรือคนแปลเบลอ ตาลาย มองคำว่า Javanese คิดว่าเป็น Japanese จากคุณ : ทองเอก (ผมชอบกิน Nasi Lemak) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 00:15:39

ความคิดเห็นที่ 92   เมื่อกี้นึกตะหงิดๆ เลยเข้าไปค้นที่เว็บของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ เลยเจอต้นตอแล้วครับ http://www.visitsingapore.com/publish/stbportal/th/home/what_to_see/landmarks_and_memorials/merlion_park.html ต้นฉบับภาษาอังกฤษเขียนไว้ชัดเจนว่า "Javanese" http://www.visitsingapore.com/publish/stbportal/en/home/what_to_see/landmarks_and_memorials/merlion_park.html จากคุณ : ทองเอก (ผมชอบกิน Nasi Lemak) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 00:32:30

ความคิดเห็นที่ 94   ขอบคุณคุณทองเอก สำหรับการช่วยแก้ไขครับ Javanese กับ Japanese -*- มันทำไปได้ ----------------------------- เห็นด้วยกับคำว่า Esplanade theatre on the bay >> bay น่าจะแปลว่าอ่าวถูกต้องแล้วครับ ชายหาด มันก็ต้อง beach สิ Marina Bay ยังแปลว่า อ่าวมารีน่าเลย หรือ Repulse bay ที่ฮ่องกงก็เช่นเดียวกันหละมั้ง จากคุณ : ทนายเจ้าหนูนัท เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:21:32