ความคิดเห็นที่ 1   มารอชมค่ะ ดีใจที่เป็นคนแรกในกระทู้นี้ อิอิ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:00:12

ความคิดเห็นที่ 2   แหม..รูปเปิดกระทู้นี่ จะเป็นพานอรามาก็ไม่เชิง เพราะไม่ได้ตั้งใจถ่าย เวลามันน้อยครับ กะจะมาถ่ายตอนขากลับ แต่ก็ไม่มีเวลา เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ข้างในไม่น้อย ครับ ก่อนอื่นก็กางแผนที่ตามสไตล์ นายมิราชช ก่อนนะครับ จะได้ไม่งง ว่าอยู่ๆ มาโผล่ที่นี่ได้อย่างไรหว๋า?   จากตอนที่สอง ผมออกจาก ตัวเมืองเชียงใหม่ มาดอยสะเก็ด แต่ดันอ้อมไปดูร่มที่บ่อสร้างก่อน (แค่ดูตามริมถนนเท่านั้นนะ...ไม่มีเวลา คนเยอะมากๆ) จากแผนที่ข้างล่างนี้จะมองเห็นสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ...แหม จะทำทั้งที ก็อยากให้ได้ใช้ประโยชน์กันมากๆ เลยใส่ลงไปเสียหลายที่  แต่เป้าหมายที่จะไปก็อยู่ในวงกลมสีฟ้าอ่อนๆ นั่นแหละครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:02:55

ความคิดเห็นที่ 3   ตีตั๋วรอแถวหน้าแล้วครับ จากคุณ : Supermop เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:06:06

ความคิดเห็นที่ 4   โอ้โฮ..ขอปรบมือให้คุณ คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน หน่อยนะครับ  มาทักทายตั้งแต่เปิดกระทู้เลย นับถือๆ ที่ได้ความเห็น 1 ไปครองแทน จขกท.... (ผมมัวแต่อัปเดตแผนที่เพียง 16 นาทีเอง เสียที่ 1 ไปแล้ว...ฮา) ขอรายงานสภาพการจราจรก่อน ถนนจาก เชียงใหม่มาดอยสะเก็ด ดีเลิศ เป็นถนนแยกสองด้าน วิ่งสบายไม่เครียด จนมาขึ้นเขา ก็มาเป็นถนนสวนกัน แล้วมาเพิ่มให้ตอนช่วงขึ้นเนิน  อย่าเผลอวิ่งในช่องซ้ายนานๆ แผล๊บเดียวก็หายวับไปกับตาเมื่อถึงจุดสูงสุดของถนน ให้ระวังรถที่ตามมาด้านขวาด้วยนะครับ  พอเข้า อ.เวียงป่าเป้า ก็เป็นถนนใหญ่กว้างมากๆ ข้างละ 3 - 4 ช่องทาง วิ่งสบาย ตั้งแต่ชุมชน ออกไปยาวไกล  พอควร ไม่รู้ว่าหายไปตอนไหน แล้วก็กลับมาเป็นถนนรถวิ่งสวนกัน จนถึง อ.แม่สรวย  ผ่านตัวอำเภอไปนิด ก็ชิดซ้าย เข้าซอย ตามรูปข้างล่างนี้ทันที ต้องขออภัยรูปเล็กไปหน่อย สาเหตุเกิดจาก กล้องคู่ชีพผมเสีย ระหว่างปฏิบัติงานอย่างคาดไม่ถึง ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง เพิ่งส่งเคลม (ยังอยู่ในประกัน) รับเครื่องกลับมาเมื่อบ่ายวันนี้เองครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:15:58

ความคิดเห็นที่ 5   สวัสดีคุณ Supermop : ยินดีครับ คอยติดตามนะครับ  (วันนี้คงยังไม่ครบแน่..ต้องมีต่อวันพรุ่งนี้อีกนะครับ) ตรงทางแยกนั้น มีหลักกิโล อยู่ด้านขวามือ (ฝั่งตรงข้ามกับซอยเข้าไป) บอกว่า อีก 48 กิโล ถึง จ.เชียงราย ครับ   อ้อ..เกือบลืมไป ก่อนถึง อ.แม่สรวยนิดนึง จำเป็นต้องแวะเข้าปั๊มเพื่อปลดปล่อย..เอ๊ย..ผ่อนคลาย ซื้อของกิน อะไรเข้าไปก่อน ตรงหน้าร้านกาแฟอเมซอน พบเห็นต้นไม้ประหลาด ผลสีเหลือง เหมือนต้นไม้เทียม เพื่อนๆ ใครพอทราบบ้างไหมครับ.. ตามรูปข้างล่างนี้นะครับ  ถือว่าช่วยๆ กันคลายความสงสัยหน่อย. จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:22:39

ความคิดเห็นที่ 6   เนื่องจากต้องรีบเดินทาง ทำเวลาเข้าไปให้เร็วที่สุด เพราะตอนเข้าซอยมาก็สี่โมงเย็นกว่าแล้ว ระยะทางเข้าไปก็เป็นเขา สูงๆต่ำๆ คดเคี้ยวตลอด ลาดยางมะตอยตลอด ประมาณ 30 กิโลเมตร ก็มาถึง บ้านญาติของผม ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านชาวเขา ก่อนถึง ตำบลวาวี เกือบยี่สิบกิโลเมตร โชคดีที่เป็นบ้านอยู่ริมถนน เลยหาง่าย  ตามรูปข้างล่างนี้ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:35:04

ความคิดเห็นที่ 7   คนในรูป ไม่ใช่อื่นไกล ก็ญาติๆ ผมนั่นเอง อยู่กรุงเทพฯนั่นแหละ แต่กลับไปเยื่ยมบ้านนะครับ  บ้านทรงนี้ พ่อของเขาเป็นคนออกแบบสร้างเอง ดูคลาสสิค และเอนกประสงค์ดีครับ เดี๋ยวจะพาเข้าไปชมครับ  อีกไม่นานก็จะรื้อปลูกเป็นตึกแล้ว เพราะลูกๆ ซื้อวัสดุก่อสร้างมาเตรียมพร้อมไว้แล้ว ได้ข่าวว่า ตอนนี้เริ่มจะถมดินใกล้ๆ กันแล้วครับ  น่าเสียดาย ถ้าโดนรื้อจริงๆ เพราะนับวันจะหาบ้านพื้นเมืองแบบนี้ได้..... แต่ก็ต้องรื้อในที่สุด เพราะทำด้วยไม้ไผ่ ที่มีอายุการใช้งานจำกัด ครับ ในรูปกำลังเริ่มทำอาหารกินกันครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:41:21

ความคิดเห็นที่ 8   บ้านเขาออกแบบให้มีชายคาที่ยื่นยาวออกไปอย่างมาก ทำให้ร่มเย็น ฝนไม่สาด แต่ต้องหาทางเข้าก่อนนะครับ.... ต้องก้มๆ หน่อย.. จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:49:07

ความคิดเห็นที่ 9   เข้ามาปุ๊บก็เจอ..คุณพ่อตา เลย   อ้อ..ท่านมานั่งพักในนี้ ไม่ได้ออกไปเดินข้างนอก เพราะเพิ่งผ่าตัดหัวใจมาได้ 6 สัปดาห์ แต่ใจรักการท่องเที่ยว และอยากมาดูบ้านเขย กับหลาน ก็เลยอดทนมาด้วยกันครับ สังเกตุดีๆ พื้นบ้าน ตรงด้านซ้าย จะทำด้วยไม่ไผ่มาตีแผ่ให้เป็นแผ่น เวลาเดินก็มีอาการอ่อนตัวเล็กน้อย สร้างความเสียวกับคนที่ไม่เคยเหมือนกัน เลยปูเสื่อซะ จะได้ไม่เสียว เพราะมองเห็นช่องว่างลอดลงไปข้างล่างเหมือนกัน อากาศถ่ายเทดีมาก เหมาะกับหน้าร้อน แต่หน้าหนาวแบบนี้ละ...บรื๋อย์.. ไม่ต้องพูดเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:54:22

ความคิดเห็นที่ 10   นั่งบนเตียงแล้วมองกลับออกมาตรงประตู จะเห็นดังในภาพข้างล่างว่า แดดหรือฝนก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เลย น่าจำเอาไปเป็นแบบสร้างบ้านของเรานะ...  แต่ข้อเสีย ก็คือมองเห็นไม่ไกล แค่ระยะไม่กี่ก้าวเอง จะดูคนข้างนอก ต้องออกมานอกบ้าน หรือไม่ก็ไปนั่งนอกชานตรงหลังบ้าน (ในรูปคห.6, 7) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 19:57:44

ความคิดเห็นที่ 11   อยากมีบ้านญาติแบบนี้จังเลยค่ะ....เสียดายที่จะรื้อเสียแล้ว... คุณพ่อตาเก่งจริงๆ ...นับถือๆๆ.... ขอให้แข็งแรงในเร็ววันนะคะ... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 20:44:08 A:70.174.23.141 X: TicketID:232521

ความคิดเห็นที่ 12   หันเข้าไปดูในบ้านอีกด้านหนึ่ง เป็นครัวครับ แต่ต้องตะลึงกับ เตาในบ้าน ใช้ก่อแก้หนาวเป็นฮีทเตอร์ได้อีกด้วย  เป็นเตาฟืนครับ และข้างๆ ก็มีเตาถ่านมาวางเพิ่มให้อีกอันหนึ่ง  บ้านเป็นไม้ หลังคามุงจาก เขาไม่กลัวความร้อนจากไฟ หรือประกายไฟเลย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 20:48:33

ความคิดเห็นที่ 13   ดูเป็นธรรมชาติดีครับ ได้บรรยากาศเหมือนโฮมสเตย์ หุหุ จากคุณ : Vavavoomzz เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 20:59:48

ความคิดเห็นที่ 14   สวัสดีครับ คุณป้าฟู : ตามมาชมกันต่อ ขอบคุณที่อวยพรให้คุณพ่อตา ครับ ในวันนี้ ท่านก็หายดีขึ้นมากแล้ว ยังเหลือแผลบางส่วนที่ยังไม่หายสนิท และข้างในหน้าอกยังคงเจ็บบ้างเล็กน้อย เวลาเดิน  คุณหมอบอกว่า อีกสัก 3 เดือนก็จะหายปกติ  แต่กลับมีปัญหาใหม่ คือตาเริ่มมองไม่ค่อยเห็น คาดว่าเป็นต้อกระจก หมอนัดเร็วๆ นี้ แต่ที่กลัวคือเบาหวานขึ้นตา ครับ แหงนขึ้นไปข้างบนหลังคา ตรงเหนือเตา จะพบว่ามีแผ่นไม้บังความร้อนมิให้เลยขึ้นไปบนหลังคา ตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเขม่าดำๆ และใช้เป็นที่วางของได้เล็กน้อยครับ ชายในรูปต้องทำเซนเซอร์ไว้ เพราะเป็นการถ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ ภาพที่ออกมาเลยอาจไม่หล่อเท่าที่ควร..ฮิฮิ  ก็กะจะถ่ายเตานี่นา แต่มันมืดเลยออกมาเป็นแบบนี้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:00:13

ความคิดเห็นที่ 15   สวัสดีครับ คุณ Vavavoomzz : ผมเองก็คิดแบบนั้นครับ ตอนแรกๆ ก็กลัวว่าจะไม่อิสระ กลัวผิดผี เอ๊ย..ผิดประเพณี อะไรของเขา  ไหนภาษาจะพูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องนัก เกือบลืม อธิบายภาพไป  ตอนนี้ กำลังทำอาหารครับ เจ้าของบ้านมานั่งคุยกันอย่างเป็นกันเอง ในแบบฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง คละๆกันไป..  แต่อบอุ่นดีนะครับ บ้านแบบนี้ ทุกอย่างรวมอยู่ในห้องเดียวกันเลย  (แต่ที่จริงเขามีห้องลับอีก 2 ห้อง ซึ่งผมไม่ทันสังเกตุ มารู้สึกแปลกๆ ตอนเช้าอีกวันครับ) แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 53 21:07:41 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:03:02

ความคิดเห็นที่ 16   ส่วนตรงนี้เป็นที่วางของในครัว เป็นชั้นซึ่งยื่นออกไปนอกผนังบ้าน ดูแปลกดี รู้สึกว่า คนออกแบบเขาใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของบ้านเลยนะนี่... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:10:16

ความคิดเห็นที่ 17   ตรงนี้เป็นนอกชาน ตามภาพในคห.6,7  แฟนผมและแม่แฟนกำลังเตรียมอาหารเช่นกัน  ตรงนี้เป็นชัยภูมิเหมาะจริงๆ นั่งแล้วสบาย ลมเย็น มองเห็นรถวิ่งผ่านไปมา ได้เลย  เหมาะกับพวกนักดื่ม ตอนเย็นๆ ล้อมวงตรงนี้เลย พอค่ำแล้วค่อยย้ายเข้าไปในบ้าน.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:15:29

ความคิดเห็นที่ 18   แต่เวลาเดินตรงนี้ต้องระวังหน่อย นะครับ รูมันเยอะ อายุบ้านเขาก็นานโข.... เดี๋ยวขาเดี้ยงจะขับรถกลับกรุงเทพฯไม่ไหว...ฮา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:17:10

ความคิดเห็นที่ 19   เจ้าหนูขวัญใจของทุกคน กำลังทำอะไรกับพี่สาวนี่...  ก็เพราะหนูนี่แหละ ทริปนี้เลยเกิดขึ้นมา (ทั้งๆ ที่ตอนแรก คุณพ่อตากะไม่ไปไหนอยู่แล้ว ผมก็กะจะไปหนองคาย แต่พอเปลี่ยนมาหาเจ้าหนู ใครๆ ก็มากันเต็มรถเลย....ผมก็เลยแทรกทริปด้วย "ค้นหาสะพานข้ามเหวขุนตาน" เสียเลย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:21:49

ความคิดเห็นที่ 20   อ๋อ..พวกเด็กๆ เตรียมไปเดินเล่นแถวๆ หมู่บ้านข้างล่าง (เดินย้อนไปทางที่เข้ามา)    ตอนนั้นยังไม่มืด ครับ แค่ห้าโมงเย็นครึ่งเท่านั้น  แต่ผมไม่ไป เพราะสาละวนกับเรื่องที่พักคืนนี้ ว่ามากันหลายคน จะไปนอนที่ไหน เขาบอกว่ามีรีสอร์ทอยู่ข้างบน แต่ไกล และกลัวคนเยอะ เลยไม่ได้ขึ้นไป  เลยได้เพื่อนบ้านใกล้ๆ  เขาเปิดบ้านให้นอนครับ  (อัธยาศัยดีมาก แต่พูดฟังกันไม่ค่อยรู้เรื่อง...ฮา) แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 53 21:27:32 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:26:08

ความคิดเห็นที่ 21   ผมเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง แล้วหันมาถ่ายวิวภูเขาไกลๆ หลังบ้านครับ โอ้โฮ..สวยไม่น้อย อยู่ที่นี่ เรียกว่าตื่นมาก็เห็นทิวทัศน์กันแบบนี้เลย  พวกเขาคงชินตา และรู้สึกเบื่อๆ ไม่เหมือนเราคนกรุงเทพฯ นานๆ ทีเห็นก็ต้องตื่นเต้นกันหน่อย บ้านที่ผมไปนอนพักนั้น อยู่เลยขึ้นไปทางซ้ายมือครับ  น่าเสียดายที่ไม่ได้ถ่ายภาพมา เพราะตอนแรกไม่กล้า กลัวว่าจะเป็นการละลาบละล้วง เพิ่งมาก็ถ่ายภาพเลย นั่นเป็นบ้านส่วนตัวเขาไม่ใช่รีสอร์ท หรือบ้านญาติเราด้วย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:33:23

ความคิดเห็นที่ 22   หันกล้องลงไปข้างล่างอีก (ด้านเข้ามา เหมือนในรูปคห.20) วิวตรงนี้ก็สวยไม่น้อย  ภูเขาที่เห็นไกลๆ ดูเหมือนครีบปลาเลย  น่าไปเดินเล่นจังเลย.. ข้างล่างเป็นบ้านใครก็ไม่รู้ จะเห็นว่ามีบ้านสมัยใหม่ปลูกแซมขึ้นมาเยอะเหมือนกัน  ส่วนใหญ่ก็ได้ดิบได้ดีมาจากในเมือง คือส่งลูกไปทำงานที่เชียงใหม่บ้าง กรุงเทพฯบ้าง ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:37:49

ความคิดเห็นที่ 23   เอาล่ะ..ตอนนี้ถึงเวลาหม่ำข้าวแล้ว  หลานผมรีบโซ้ยข้าวก่อนใครๆ อาหารมื้อนี้ พวกเราทำเองนะครับ เลยกินได้สบายๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเจอดี อาหารพื้นเมือง กินแทบไม่ได้เลย  ผมโดนเดียวด้วย เดี๋ยวจะเล่าต่อไปให้ฟัง ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:41:20

ความคิดเห็นที่ 24   อีกวงหนึ่ง ก็เน้นเหล้ามากกว่าข้าวครับ  ญาติๆ และเพื่อนบ้าน คนที่นั่นทั้งนั้น คุยกันสนุก ภาษากลางคละกับภาษาท้องถิ่น ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:44:11

ความคิดเห็นที่ 25   คุณพ่อตาท่านก็สนุกไปด้วย คุยกันออกรส ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทานข้าว ส่วนคุณแม่ยายก็ดูทีวีเพลิน  ที่นั่นถึงห่างไกลความเจริญแต่ก็มีทีวีนะครับ แถมเป็นทีวีดาวเทียมด้วยยี่ห้อ Star อะไรนี่ (จำไม่ได้) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 21:50:21

ความคิดเห็นที่ 26   นี่เป็นจานดาวเทียม ใช้เป็นที่ตากอาหารแห้งได้ด้วย...คุ้มจริงๆครับ  ป้ายชื่อดาวเทียมของเขาไปพิมพ์ไว้ที่เก็บน้ำ บังเอิญถ่ายมาไม่เห็น(ใช้กล้องมือถือ) ใครพอทราบบ้างไหมครับ มีสัญญลักษณ์กากะบาทของดวงดาวไว้ด้วย โชคไม่ดีของผมครับ ถ่ายภาพในบ้านได้ 3 ภาพ กล้องก็มีอันเปลี่ยนสีครับ เป็นสีม่วงๆ แถมริ้วยาวๆ เรียงกันลงมาจากด้านบน เต็มไปหมด จนถ่ายภาพไม่ได้ เลยอดถ่ายภาพตอนกลางคืน  ทั้งๆ ที่มีงานรื่นเริง ร้องรำ ตีกลองอยู่ไม่ไกล ผมเลยนอนไม่ได้ไปร่วมด้วย เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ต้องนอนเอาแรงไว้ให้มากหน่อย...  แถมอากาศก็หนาวสุดๆ เสียนี่กระไร เด็กๆ ยังไม่นอน เดินไปดูการแสดง แล้วก็กลับมานั่งผิงไฟจนเกือบเที่ยงคืน ผมนอนไปงีบ แล้วก็ออกไปดูเด็กๆ กัน แล้วก็กลับมานอนต่อครับ  วันนี้ผมก็ขอพักกระทู้ไว้หน่อย เพราะดึกแล้วจะกลับบ้านครับ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกัน ที่ดอยวาวี รีสอร์ทไร่ชา กับวิวเส้นทางที่เข้ามาครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 22:01:59

ความคิดเห็นที่ 27   ตอนเด็กๆ เวลาไปเยี่ยมบ้านยายที่บ้านนอก ตกกลางคืนเด็กๆ ก็นั่งล้อมวงให้ผู้ใหญ่เล่าเรื่องผีให้ฟัง แล้วก็พยายามนั่งตัวลีบเก็บแขนเก็บขาให้อยู่บนกระดานแผ่นเดียว เพราะกลัวผีจะเอานิ้วมาแหย่ตรงร่องกระดาน แล้วพื้นบ้านแบบนี้ถ้ามีใครเล่าเรื่องผี ต้องขอวิ่งไปขี่คอซะแล้ว...อิอิอิ.. ชอบบ้านแบบนี้มากค่ะ... อยากจะไปถ่ายรูปไว้ทุกซอกทุกมุมเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานดู.... บ้านนี้ทำให้ป้าเกิดแรงบันดาลใจ ถ้ามีโอกาสได้ขับรถไปตามชนบทเห็นบ้านสวยๆ แบบนี้ คงต้องขอเข้าไปถ่ายรูปภายในซะหน่อย คงจะมีบางหลังที่ยอมให้เราบุกบ้านบ้างล่ะ... คนไทยใจดีอยู่แล้ว... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 00:59:28 A:70.174.23.141 X: TicketID:232521

ความคิดเห็นที่ 28   ขอบคุฯที่รีวิวให้ดูค่ะ  สนุกดี เป็นธรรมชาติ จากคุณ : น้องหนูสาลี่ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 02:46:05

ความคิดเห็นที่ 29   เข้ามาชมครับ ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:22:37

ความคิดเห็นที่ 30   รอชมอยู่น่ะครับ ชอบๆ จากคุณ : ลูกสาวน่ารัก เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:58:27

ความคิดเห็นที่ 31   สวัสดีครับ ป้าฟู : คิดเหมือนผมเลย ว่าดูคลาสสิค ภูมิปัญญาชาวบ้าน ตอนที่ถ่ายไม่ได้คิดดูถูก ว่าเป็นกระท่อมเลย ในทางตรงกันข้ามอยากเอามาเผยแพร่ ถึงสถาปัตยกรรมท้องถิ่นแบบนี้ครับ  ใช้วัสดุที่หาได้จากในป่าล้วนๆ มาประกอบด้วย ความรู้ทางวิศวกรรมแบบชาวบ้าน เพื่อให้บ้านคงทน ป้องกันฟ้าฝน ได้  ผมชอบตรงที่มีเตากลางบ้าน เวลาหน้าหนาวไม่ต้องออกไปนั่งผิงไฟนอกบ้าน อุ่นมากๆ (เพียงแต่ต้องมีคนดูไฟตลอดคืน) สวัสดีคุณ น้องหนูสาลี่, ม่วงมหากาฬ, ลูกสาวน่ารัก : ยินดีครับ เมื่อคืนดึกไปหน่อย วันนี้เลยมาเริ่มเอาเสียเที่ยงวัน เดี๋ยวสักพักก็ต้องไปทานข้าว  ชอบรูปภาพควายเขายาวโค้ง ของคุณม่วงมหากาฬ ครับ เสียวเด็กที่นั่งจะลื่นลงไปโดนปลายเขาควาย... (ภาพนี้ ย้อนไปที่สถานีขุนตานยามค่ำคืน  ผมไม่อยากไปสังเกตุอะไรมากที่ข้างหลัง กลัวมีแขกไม่รับเชิญโผล่ขึ้นมา  ตอนที่ถ่ายนั้นยืนคนเดียว ตั้งกล้องบนขาตั้ง...บรื๋อย์ยย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:22:58

ความคิดเห็นที่ 32   มาต่อกันเลย จากเมื่อคืน ที่หนาวทั้งคืน ทำให้ผมต้องเข้าห้องน้ำทั้งคืน รวมเป็นสิบครั้ง  คงเป็นปัญหาเรื่องไตทำงานมากเวลาเจออากาศเย็นเจี๊ยบๆ แบบนี้ เรียกว่า ฉี่เสร็จปุ๊บก็สามารถสั่งฉี่ต่อได้เลย รู้สึกปวดท้องฉี่เกือบตลอดเวลา แม้ว่าผมจะงดน้ำไปตั้งนาน ก็ต้องทนคอแห้งกันไป ไม่งั้น ก็ต้องต่อท่อสวนแบบในโรงพยาบาลแล้วละ... เช้าแล้ว (ที่จริงก็ 9 โมงเช้า) ก็ออกมาดูหมอกกัน... ฮี่ๆ หนาวจะตายไป ตื่นม่ายหวาย....  ภาพด้านหน้าบ้าน มองไปทางภูเขาด้านที่เข้ามา(เหมือนในรูปคห.20) ก็เป็นดังที่เห็น แดดจ้ามาก ดังบนยอดเขาเอเวอเรส (ว่าเข้านั่น เคยเห็นในทีวี ว่าหนาวจัดแต่ผิวไหม้ เพราะรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:31:48

ความคิดเห็นที่ 33   หันกลับหลังไปดู เนินเขาด้านบนบ้าง เห็นมีต้นไม้เรียงราย รู้สึกว่าจะเป็นต้นสนสามใบ ที่ปลูกในแม่สลองรีสอร์ทบนดอยแม่สลอง  แหม..แดดจ้า ท้องฟ้าสีสดใสจัง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:39:12

ความคิดเห็นที่ 34   เอ๊ะ..มีรถตู้มาจอดทำอะไรตรงนั้น คงจะแวะซื้อของอะไร ถึงไปจอดฝั่งโน้น  ผมสังเกตุเห็นปั้มหลอดอยู่ข้างๆ ด้วย  วิวนี้สวยไม่เบา  วิวหน้าบ้านญาติเลยนะครับไม่ต้องไปไหนไกล จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:44:35

ความคิดเห็นที่ 35   หันกล้องมาดูฝั่งบ้านญาติบ้าง (มุมเดียวกับ คห.21) แดดจ้าๆ เลยสังเกตุเห็นว่า ต้นไม้บนภูเขาสีออกชมพูๆ ไม่รู้ว่าเป็นซากูระหรือเปล่านะ ถ้ามีเวลาอยากลุยขึ้นไปบนโน้นจัง  แหม... หาวิวง่ายๆ ตามหลังคาบ้านนี่แหละครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:49:04

ความคิดเห็นที่ 36   มาถึงตอนสำคัญแล้วครับ คือ ตอนตื่นนอนใหม่ๆ เจ้าของบ้านที่ไปพักเขามาชวนไปกินข้าว ที่เพื่อนบ้านไม่ไกลนัก  ด้วยภาษาที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ผมก็งงๆ คิดว่า เขาคงจะจัดเลี้ยงพวกเราทั้งคณะ แต่ไม่ใช่  เขาพาผมไปคนเดียวครับ...  พาไปบ้านคนหนึ่งเขามีเปิดเพลงด้วย มีการจัดสำรับอาหารเลี้ยง คิดว่า น่าจะเป็นการเลี้ยงปีใหม่นี่แหละ   ตอนแรกๆ ก็คิดว่า เขาจะทำอะไรกับผมนะ ดูเป็นพิธีรีตองเหมือนกัน   ให้ผมไปนั่งรอในบ้านหลังหนึ่ง เงียบๆ คนเดียว สักพักก็มีชาวบ้านมานั่งทีละคน มาทักทายคุยกับผมด้วยภาษากลางปนภาษาท้องถิ่น  คนที่พาผมไป(เจ้าของบ้านที่ไปพัก) เขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นด้วย เก้ๆ กังๆ เด๋อๆ ด๋าๆ อยู่พักใหญ่ ก็มีการนำเอาถาดอาหารมาวาง แต่ตามมารยาท เราก็กินไม่ได้ ต้องรอทุกคนให้พร้อมก่อน  พอคนมาครบก็มีการกล่าวคำขอบคุณพระเจ้า และสงบนิ่งพักหนึ่งก่อนแล้วจึงเริ่มทานอาหารกัน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:59:00

ความคิดเห็นที่ 37   จากรูปข้างบน จะสังเกตุเห็นว่า วงอาหารของผู้หญิงเขาจะแบ่งต่างหากไว้ ดูแล้วมีแต่ผู้ใหญ่ ไม่มีเด็กๆเลย (เห็นร้องคาราโอเกะอยู่หน้าบ้าน ตอนเดินเข้าไป)  ดูเป็นพิธีจัง ผมเลยเกร็ง  วงผมเขาเสริฟเหล้า....อ้า.  ผมไม่ชอบทาน และต้องขับรถทั้งวันเลยต้องพยายามหาวิธีหลีกเลี่ยง พูดภาษาเราเขาก็ไม่ค่อยรู้ ทำอย่างไรดีหว๋า...... ไปคนเดียวด้วย... จะขอน้ำเปล่าหรือโค๊กก็พูดไม่เป็น กลัวเขาจะคิดเป็นอื่น เพราะในวงผมมีแต่ผู้ใหญ่  ผมเลยเลี่ยงไปทานน้ำซุป ผัก ที่เขานำมาเสิร์ฟให้หลังจากภาพข้างล่างนี้ครับ อาหารจากภาพข้างล่างนี้ ผมทานไม่ได้เลยสักอย่าง แต่พอชิมได้เล็กน้อย ซึ่งก็กลัวท้องเสีย เนื่องจากต้องเดินทางทั้งวัน...  ใครเคยทานบ้างไหมครับ อาหารในรูปนี้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:04:48

ความคิดเห็นที่ 38   หลังจากทานอิ่ม เริ่มมีคนลุกบ้างแล้ว วงผมยังคุยกันสนุกในภาษาพื้นเมือง ผมก็อยากไปห้องน้ำบ้าง ไหนจะต้องทำเวลาเพื่อการท่องเที่ยว เพราะวันนี้ก็จะต้องกลับกรุงเทพฯ วันรุ่งขึ้นมีงานต้องทำด้วย ไม่ไปก็ไม่ได้  คืนนี้คงต้องขับรถทั้งคืนอีกแน่แท้ เพราะระยะทางจากที่นั่น เปรียบได้สบายๆ จาก เชียงรายไป กรุงเทพฯ โดยผ่านเชียงใหม่อีกด้วย.... หลังจากทำธุระส่วนตัว เตรียมของในกระเป๋ารอขึ้นรถตอนขากลับ  ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวรีสอร์ทบนดอยวาวี ไหนๆ ก็มาทั้งที คนที่นั่นเขาก็ชวนให้ขึ้นไปดูด้วย ทีแรกคิดว่าไม่ไกล แต่ที่ไหนได้ประมาณ 20 กิโลเมตรบนเขา ที่คดเคี้ยวทำเวลาไม่ได้อีก   ปัญหาเดิมกลับมาเล่นงานผมอีก คือ กล้องถ่ายภาพเสีย ครับ  เสียตอนที่ถ่ายในบ้านญาติ (เหมือนตอนแรกที่เสียเมื่อคืนเปี๊ยบเลย) ไม่รู้ว่ามีอาถรรพ์อะไรหรือเปล่า   เพราะเมื่อเช้ายังใช้ได้อยู่เลย ไม่น่าเข้าไปถ่ายในบ้านญาติเลย... ผลคือ จะไม่มีกล้องถ่ายภาพในวันนี้ ทั้งๆ ที่มาอยู่บนที่ ที่ห่างไกล ต้องการนำภาพกลับไปให้เพื่อนๆดู (ตอนนั้นคิดว่าหลายคนคงยังไม่รู้จัก เพราะผมเองก็ยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย)  พอดีแฟนผมเขามีโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภาพได้ เลยเอามาแก้ขัดไปก่อน ถ่ายภาพแรกๆก็โอเวอร์จ้าไปหมด ต้องปรับแก้ไขสักพักจึงถ่ายได้  ดูที่หน้าจอโทรศัพท์ชัดมาก แต่พอมาโหลดลงคอม ชัดแต่เล็กมาก แถมออกจะคอนทราสสูงมากไปอีก  แต่ก็ดีกว่าไม่มีกล้องใดๆ เลย ภาพแรกนี้ก็คือ ทางเข้า "เลาลีฮิลล์รีสอร์ท"  และป้ายชื่อตรงลานจอดรถครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:27:31

ความคิดเห็นที่ 39   นี่เป็นทางเข้ามา รีสอร์ทจะอยู่สูงกว่าถนน เลี้ยวขวาเข้ามาก็เป็นลานจอดรถเล็กๆ ไม่กว้างนัก แต่ยาวตลอดไปจนถึงป้ายชื่อเลยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:44:31

ความคิดเห็นที่ 40   ทางซ้ายมือ ก็จะเป็นป้ายชื่ออีกแห่ง ซึ่งอยู่ตรงทางออกพอดี    ตรงหน้าผมก็คือ ป้อมเอ๊ยบ้านหลังคามุงแฝก ตั้งอยู่สูงเลยทีเดียว ผมจอดรถตรงนี้ เพราะข้างในเต็ม ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:50:31

ความคิดเห็นที่ 41   รอบๆ ลานจอดรถนี่ก็มีบ้านพักครับ  เดินเข้าไปหน่อยก็จะเห็นอาคารปิดทึบ น่าจะเป็นร้านอาหารนะครับ (บังเอิญจำไม่ได้ และภาพที่ถ่ายจากโทรมือถือนั้นเล็กอ่านข้อความใดๆ ไม่ได้)   ที่จริงสองอาคารนี้อยู่ทางซ้ายมือขณะเดินเข้ารีสอร์ท แต่ผมถ่ายตอนเดินกลับออกมาเลยมองเห็นว่าอยู่ขวามือไปเสียนี่.... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:10:27

ความคิดเห็นที่ 42   ทางด้านขวามือเวลาเดินเข้าก็จะเป็นสวนอาหารแบบเปิดโล่ง (Open Air) ครับ  (ในรูปถ่ายตอนเดินกลับออกมาเลยดูเหมือนอยู่ทางซ้ายมือ)  น่าเครียดเหมือนกันตอนโพสนี้ เพราะรูปที่ได้มีขนาดเท่านี้จริงๆ ไม่สามารถขยาย ปรับแต่งอะไรได้เลย  พูดง่ายๆ ก็คือไม่จุใจ  นี่แหละน๊า....กล้องเสีย แล้วไม่มีสำรอง  มีแต่กล้องจากโทรมือถือ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:15:54

ความคิดเห็นที่ 43   ตอนนี้เดินผ่านป้ายในรูปคห.39 เข้าไปแล้วครับ ทางด้านซ้ายจะเป็นทางเดินที่มีเต้นท์พักแรมกางไว้เรียงราย  ด้านขวามือคือ ร้านจำหน่ายชา ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:27:02

ความคิดเห็นที่ 44   จากรูปบนซ้าย ผมไปยืนตรงเต้นท์ แล้วหันกลับมาถ่ายภาพ   จะเห็นลานเล่นรอบกองไฟอยู่ใกล้ๆ กับ เต้นท์ มีเก้าอี้นั่งสบายๆให้พร้อม ครับ  ตอนกลางคืนคงสวย และอบอุ่นที่สุดสำหรับตรงนี้   ร้านจำหน่ายชาจะถูกวางให้เป็นจุดศูนย์กลางของการไปที่ต่างๆ ครับ  คือถ้าเดินตรงไปจากทางเข้า ผ่านร้านจำหน่ายชาก็คือลงไปไร่ชา ครับ ซึ่งเดี๋ยวผมจะพาไปชม เขาจัดได้สวยมาก ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:36:14

ความคิดเห็นที่ 45   อ้อ..ตรงนี้ ถ้าหากมองเข้าไปอีก ให้สุดทางเดินก็จะพบกับ บ้านทรงสามเหลี่ยม จำไม่ได้อีกว่ามีไว้ทำอะไร (กล้องไม่ชัด อาศัยอ่านไม่ได้อีกเช่นเคย)  ถ้าเพื่อนได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยว แล้วค่อยมาบอกอีกทีนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:40:03

ความคิดเห็นที่ 46   กลับมายืนตรงทางแยก ติดร้านจำหน่ายชา จะมีบันไดลงไปไร่ชาข้างล่างครับ  เชิงบันไดข้างล่างจะมีทางแยกไป บ้านพักแบบกระท่อมครับ  (เราสามารถเดินกลับขึ้นมาที่ร้านจำหน่ายชา อีกทาง โดยผ่านหน้ากระท่อมได้) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:45:40

ความคิดเห็นที่ 47   ตรงเชิงบันได เดินลงไปเล็กน้อย ก็จะมองเห็น....อะไร อู๊ว....ไม่เคยเห็นแบบนี้ ต้นชาถูกปลูกเป็นแถวเรียงกัน เป็นระดับ ลดหลั่นลงไปทรงกรวย เหมือน ที่นั่งห้องประชุมใหญ่  แล้วมีศาลากลางน้ำอยู่ตรงกลาง ช่างเหมาะเจาะจริงๆ  เดี๋ยวต้องลงไปดูใกล้ๆ แล้วละ  แต่ท่าทางไกลไม่น้อย คงต้องเหนื่อยกันหน่อยละครับงานนี้ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:52:08

ความคิดเห็นที่ 48   งานนี้เพื่อให้ดูแล้วสมจริงหน่อย ก็เลยต้องนำภาพมาต่อกันโดยไม่ได้วางแผนไว้ก่อน กล้องผมที่จริงถ่ายพานอรามาได้ แต่เสีย เลยต้องใช้กล้องโทรมือถือแทนไปก่อนครับ  นี่ถ้าใช้กล้องดีๆ ถ่ายสวยมากๆ ครับ ตอนนี้เดินลงไปเล็กน้อย ก็จะมองเห็นศาลากลางน้ำชัดขึ้น ตื่นเต้นเหมือนกัน ที่ดอยแม่สลอง บนแม่สลองรีสอร์ทก็มีศาลาอยู่กลางสวนดอกไม้ แต่ที่นี่อยู่กลางสระน้ำเลย แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 17:06:05 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:59:02

ความคิดเห็นที่ 49   ตรงนี้หันกลับขึ้นไปมองที่พักแบบกระท่อมและทางที่เดินลงมา จะเห็นลำดับชั้นของไร่ชา สวยเป็นทิวแถวครับ  ต้องขออภัย พานอรามาจำเป็นครับ เลยไม่ค่อยสนิท แต่ถ้ามองด้วยตาจริงๆก็เป็นแบบนี้นะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:10:10

ความคิดเห็นที่ 50   ค่อยๆ เดินลัดเลาะไปทางขวาเรื่อยๆ เกือบถึงถนนข้างนอกเลย ก็จะเห็นบันไดทางเดินลงไปข้างล่างแล้วครับ โอ..สูงชันไม่น้อยเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:15:41

ความคิดเห็นที่ 51   ตรงนี้สวยดี ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกหน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:18:11

ความคิดเห็นที่ 52   เดินผ่านบันไดยาวลงมา ก็ใกล้จะถึงสระน้ำแล้ว หันกลับไปมองบันไดที่เดินลงมา โฮ...สูงเหมือนกันนะ  ตอนเดินกลับผมทำเก่ง วิ่งขึ้นไปเลย เล่นเอาขาตึงเล็กน้อยเหมือนกัน สนุกดีครับ  บังเอิญผมออกกำลังกายวิ่งเป็นประจำเลยไม่เหนื่อยเท่าใดครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:23:47

ความคิดเห็นที่ 53   มาถึงแล้วครับ ศาลากลางน้ำ  เป็นสระบัว ลูกๆ ผมนำไปก่อน ไป แอ๊คท่ากลางศาลาโน้นแล้วครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:38:32

ความคิดเห็นที่ 54   มาดลูกผมเหลือรับประทานครับ  ส่วนคนหล่อๆในรูปขวานี้ก็ผู้นำทาง คนพื้นที่ เกิดที่นี่ เคยทำงานที่นี่ และเป็นเขยของครอบครัวแฟนผมครับ  ตอนนี้ทำงานที่เชียงใหม่ครับ เป็นไกด์จำเป็นไม่สามารถบอกรับทั่วไปได้...ฮา จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:05:09

ความคิดเห็นที่ 55   ผมขอมั่งสักรูป บังเอิญที่นั่งตรงข้ามว่าง เลยเอามาแปะเล่นๆ ให้ดู (ศาลาที่จริงกว้างกว่านั้นนะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:12:29

ความคิดเห็นที่ 56   น้ากับหลานยืนคุยกัน ริมสระ....  คงคอยหาดูกบบนใบบัวกระมัง...ฮิฮิ.. มองไปข้างบน ก็จะเห็นทางขึ้นไปข้างบนครับ  ให้สังเกตุเสาไฟฟ้าด้านบนขวามือของรูปขวามือ นั่นคือถนนหน้ารีสอร์ท   ไร่ชาล้อมศาลาสวยๆ แห่งนี้อยู่ติดริมถนน แต่เนื่องจากอยู่ต่ำกว่าระดับถนน จึงมองไม่เห็น เห็นเพียงบ้านพักบนเนินเท่านั้น  ตอนนี้ ถ้ามาอีก ก็จะสามารถลงมาดูไร่ชา ได้โดยไม่ผ่านรีสอร์ทให้เมื่อยขา ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:20:45

ความคิดเห็นที่ 57   นี่ก็เป็นรูปส่งท้ายของ ไร่ชาที่นี่ครับ  สวยไหมครับ  (เสียดายถ้าเป็นกล้องใหญ่ก็จะสวยกว่านี้เยอะครับ เอาไว้คราวหน้าครับ ถ้ามาอีกจะได้ถ่ายแก้ตัว) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:23:52

ความคิดเห็นที่ 58   ลองเปลี่ยนมาขึ้นบันไดอีกด้าน เจอต้นไม้เหมือนสับปะรดขนาดยักษ์เลย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:27:38

ความคิดเห็นที่ 59   นี่เป็นบรรยากาศสวนหย่อมหน้า ร้านจำหน่ายชาครับ ร่มรื่นดี   ตรงหน้าร้านมีลานกางเต้นท์กลมๆ ด้วย (คนละที่ กับลานในคห.43) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:33:16

ความคิดเห็นที่ 60   ตอนขับรถกลับออกมา  ที่เหวข้างล่างมักจะมีวิวสวยๆ (ขออภัย กล้องโทรมือถือ ถ่ายไม่สวยครับ) ให้เกือบตลอดทางครับ อย่างไรจอดให้ดี ล๊อคเบรคมือก่อนคว้ากล้องออกมาถ่ายนะครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:37:58

ความคิดเห็นที่ 61   จากแผนที่ในคห.2 นี่ ผมขอตัดเอามาเฉพาะที่สำคัญนะครับ ว่า หลังจากผมออกจาก เลาลีฮิลล์รีสอร์ทแล้ว ก็ย้อนกลับมา คุณพ่อตาบอกอยากทานข้าวแล้ว แต่ก่อนจะถึง หมู่บ้านวาวี มีทางแยกขวาเล็กน้อย อยู่ๆ ไกด์รูปหล่อนำทางของเราก็เลี้ยวขวาเข้าทางลูกรังไปอย่างไม่บอกล่วงหน้า ผมก็เลยต้องขับตามไปเรื่อยๆ งานนี้ถ้าเป็นรถ Open Air คงได้หัวขาวกันทั่วทุกคน จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:43:45

ความคิดเห็นที่ 62   นี่แหละครับ สภาพทางที่เข้าไป เกือบเหมือนทางที่ไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเลย เพียงแต่ไม่มีรถเข้าออกเท่าใดนัก เลยดูเหมือนไม่มีฝุ่นฟุ้งขึ้นมา แต่ถ้าหันหลังไปดู จะร้องโอ๊ก...ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:46:48

ความคิดเห็นที่ 63   อ้อ..เกือบลืมบอกไปว่า ไกด์ไม่ได้นั่งรถมาด้วยกัน เขาขี่มอเตอร์ไซด์นำไปครับ ไปกับเพื่อนๆชาวบ้านอีก 1 คน จอมซิ่งกลางฝุ่นจริงๆ ตอนนี้เริ่มตามทันแล้ว สอบถามได้ความว่า จะไปเยี่ยมอาเขาหน่อย ทำงานอยู่ในนี้ (ที่ไหน ไกลมากน้อยเท่าใดก็ไม่ทราบ ก็คงต้องตามกันต่อไป) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:51:57

ความคิดเห็นที่ 64   ใกล้ถึงแล้ว มีแม่น้ำเล็กๆ เลียบถนนด้วย สวยมากจริงๆ ครับ  แต่ทางเข้ามาเล็กจริงๆ ถ้ามีรถสวนมาก็คงต้องหาที่หลีกกันให้ยุ่งเหมือนกัน... ภาพข้างล่างนี้ผมถ่ายตอนกลับออกไปนะครับ เพราะตอนเข้ามา ไม่มีเวลาจอด ต้องรีบขับตามไกด์ นักบิดตัวเก่ง  (ยังคุยว่า บิดรถมาจากเชียงใหม่ ไม่ถึง 2 ชั่วโมง!) ผมล่อไปเกือบ 4 ชั่วโมง (รวมเวลาเข้าปั๋มด้วย) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 18:58:26

ความคิดเห็นที่ 65   มองไปบนเนิน เหนือแม่น้ำแห่งนี้ เจอปฏิมากรรมสวนไร่ชาอีกแล้ว สวยมากเหมือนลายเส้นแสดงระดับความสูงในแผนที่เลย แต่ถนนข้างหน้านี่ซิ เล็กจริงๆ น่าคิดว่าถ้าถ่ายภาพแล้วไม่จอดรถให้ดีก่อนจะเป็นอย่างไรนะ..... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:03:01

ความคิดเห็นที่ 66   มาถึงแล้วครับ ซุ้มประตูปราบเซียน (อย่างผม..ฮี่ๆ) สวยแต่แฝงไว้ด้วยอันตรายครับ ตั้งแต่เล็กแคบ  เป็นทางโค้ง ลาดชันลงไป แถมตบท้ายด้วยร่องระบายน้ำ เบรคด้วยตอไม้ เป็นผลให้รถผมต้องก้นเป็นรูมาจนทุกวันนี้ ตอนขาออก เดี๋ยวจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังครับ ว่าสุดยอดอย่างไร....ฮือๆ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:08:33

ความคิดเห็นที่ 67   ตอนเข้าไปไม่มีปัญหา เป็นทางลาดลง ค่อยๆ ตีวงเลี้ยวหลบให้ดี ก็พ้น อ้าว..ทำไมทางเข้ามันเล็กอย่างนั้นล่ะ  ไกด์เขาขี่มอเตอร์ไซด์ ก็ผ่านเข้าไปได้เฉย ผมเกือบเผลอขับตามเข้าไปแล้ว.... ไม่บอกกันเลย อยู่ๆ ก็หายเข้าไปอย่างในเงียบเลย... จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:11:56

ความคิดเห็นที่ 68   ตอนนี้รถผมก็เลยต้องมีอันจอดสนิทไว้ตรงหน้าอาคารหลังใหญ่หลังนี้  อย่างไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน... ต้องคอยดูห่านวิ่งไปมาหน้ารถ (สมาชิกบางคนรู้สึกกลัวห่าน เลยไม่กล้าลงมา)  สักพัก ไกด์ก็ส่งตัวแทนมาบอกว่า มาเยี่ยมคุณอา ผมเลยลงรถตามไปดู ครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:15:33

ความคิดเห็นที่ 69   พ้นโค้งเล็กๆในรูป คห.67 ก็มองเห็นครับ มีเรือนแถวอยู่ข้างบน เขาอยู่ข้างบนกัน เลยต้องลุยปีนขึ้นไปดูความเป็นอยู่เขาหน่อย ครับ วิวดีครับอยู่บนโน้น จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:19:50

ความคิดเห็นที่ 70   มีอ่างเก็บน้ำเล็กอยู่ข้างล่าง ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:21:57

ความคิดเห็นที่ 71   คุยกันพักหนึ่งแล้วก็จะลากลับละ   ไกด์ตัวเก่งนึกสนุก เอาลูกตัวน้อยขึ้นนั่ง แล้วปล่อยรถลงมาจากเนิน เสียวแทนครับ คงกะจะฝึกให้ลูกชินกับอะไรที่เสียวๆ กระมังครับ...  เขาคนพื้นที่ คงเคยชินกับการขี่รถขึ้นลงเนินเลียบหน้าผาแบบนี้นะครับ เราคนกรุงเทพฯ ไม่คุ้นเคย (แต่สำหรับผม เคยอยู่เชียงใหม่ ขี่มอเตอร์ไซด์ขึ้นลงดอยมานับไม่ถ้วนแล้ว ยังรู้สึกเสียวๆ เหมือนกัน คงแก่แล้วกระมัง ไม่หนุ่มคะนองเหมือนตอนนั้น) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:28:28

ความคิดเห็นที่ 72   ตอนนี้กลับออกมาแล้ว ได้เจอปัญหาที่คาดไม่ถึงตรงหน้าประตูเข้าแห่งนี้ทันที คือ รถขึ้นเนินไม่ไหว!......  ไม่สามารถเข้าเกียร์หนึ่งออกตัวได้ ต้องค่อยๆ ปล่อยไหลลงไปทีละน้อย โค้งนิดๆ ให้พ้นขอบประตูรั้ว  ปล่อยเบรคเมื่ดใดรถก็ยังไหลอยู่ เพราะยังไม่พ้นทางลาดชัน ปล่อยอีกนิด โครม!  กันชนท้ายโดนตอไม้เข้าไปเต็มที่ ทั้งๆ ที่ไหลลงเบาๆจากจอดรถแค่ระยะฟุตเดียว  อ๋อ...มีร่องน้ำโค้งๆ ดักไว้หน้าประตูอีกด้วย เจ๋งจริงๆ ครับ  คราวนี้ให้มวลสมาชิกลงรถกันให้หมด (ยกเว้นคุณพ่อตาคนเดียวกับผม)  รถขึ้นไม่ได้ เพราะล้อหลังตกร่อง ใส่เกียร์ 4D เลย ทีแรก 4H ยิ่งไม่มีแรงใหญ่เลย หวืดๆ ทำไงหว๋า ต้องไปหารถมาช่วยดึงแล้วกระมัง   แหมจะถอยให้ถึงทางราบแล้ววิ่งส่งแรงขึ้นมา ก็ทำไม่ได้  ลองเปลี่ยนเกียร์เป็น 4L ดูซี  อึบ!.... ตึงงง รถกระโดดออกจากร่องได้อย่างมหัศจรรย์  ไปจอดอยู่หน้าประตูอย่างงวยงง  ผมเพิ่งทราบว่า เกียร์ 4L มันแรงกว่า 4H  คราวนี้เอง... ใช้รถมาตั้ง 2 ปีแล้ว เพิ่งทราบ ทั้งๆ ที่มีเน็ตก็ไม่ค้นคว้า  กลับมาบ้าน มาค้นหาข้อมูลก็เลยทราบว่า เกียร์ 4L เขาทดให้อีกเท่าตัวกว่าๆ  ในขณะที่เกียร์ 4H ไม่ได้ทดอะไรเลย เพียงแต่ส่งแรงเครื่องไปยังล้อคู่หน้าเท่านั้น และล้อคู่หน้าก็ไม่ได้มีระบบ Differential (หมุนอิสระ เพื่อการเลี้ยว) เลยทำให้ขับแล้วฝืนๆ เลี้ยวยากมาก  แต่เดิมคิดว่า 4L ล๊อคดิฟ  4H ไม่ล๊อคดิฟ ผิดครับ 4H ล๊อคดิฟ (คือล้อหน้าหมุนไปพร้อมๆกัน) เหมือน 4L เพียงแต่ไม่มีทดแรงอีกเท่าตัว   คราวนี้สบายล่ะ ไม่กลัวทางเนินอีกต่อไป....   เนี่ยแหละ ค่าครู ต้องโดนเจาะท้ายก่อนถึงทราบ....ฮือๆ  จนวันนี้ยังไม่ได้อุดเลย ไม่รู้ว่าจะปล่อยให้เป็นอนุสรณ์แห่งประสบการณ์ไปตลอดหรือไม่ (กันชนผมแปลก แทนที่จะบุบ หรือบิดเบี้ยว แต่กลับทะลุเป็นรูเสียนี่ ไฟเบอร์คงเป็นแบบนี้นะครับ ต้องเปลี่ยน อย่างเดียว หรือว่ามีวิธีอุดแบบไหน ใครทราบก็ลองบอกผมด้วยนะครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:59:23

ความคิดเห็นที่ 73   ขับรถออกมาถึงถนนใหญ่แล้วละครับ ระยะทางเข้าไปเกือบสองกิโลเมตรเลย(ไกลกว่าไป เลาลีฮิลล์รีสอร์ต)  ก็ขับออกมาเกือบ 3 กิโลเมตรก็ถึง ตำบลวาวี ที่มีบ้านเรือนเยอะแยะบนเนินเขา และดูสภาพอาคารค่อนข้างทันสมัยเป็นคอนกรีต ตึกก็เยอะ หลังคามุงกระเบื้องทั้งนั้น มองเห็นได้แต่ไกล  ทางเข้าก็มีปั้มน้ำมันเล็กๆ อยู่  จากภาพข้างล่าง ถ่ายตอนกลับออกมาแล้ว หันกลับไปดูทางเข้าอีกครั้ง (เป็นมุมเดียวกับตอนที่มาจากข้างนอกครับ คืออยู่ทางซ้ายมือเวลาขับรถเข้าไปรีสอร์ท) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:10:46

ความคิดเห็นที่ 74   ทางเข้ามีสองทาง ผมไปเข้าทางแยกที่สอง เลยไปเจอทางเข้าทางแรกที่เฉียงมาตัดหน้า แถมทางของผมเป็นทางลาดชันลงไปอีก ต้องระวังๆ เลี้ยวขวาหักฉากกับซอยแคบๆ หน่อยนะครับ.... เลี้ยวขวาไปแล้วก็จะเห็นตลาดอยู่ข้างหน้าครับ  ร้านจำหน่ายชาอยู่ด้านขวา  มีสะพานข้ามน้ำอยู่เลยไปนิด พอพ้นสะพานนี้ ผมก็เลี้ยวซ้ายหาที่จอดรถเลย จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:19:12

ความคิดเห็นที่ 75   จอดรถเสร็จแล้วก็เดินหาร้านอาหาร ไม่พบที่ถูกใจ บางร้านก็ปิดอีก เลยเดินมาจนถึงทางแยกที่รถลงมานั้นแหละ  ผมเลยถ่ายหลานมาให้ดู ว่าทางลาดชันแค่ไหน ถ้าเบรคไม่ดี ก็มีหวังไหลมาโดนรถที่วิ่งข้างหน้าได้สบายๆ  เพราะดันมาเจอทางตรงขวางอยู่ข้างล่างพอดีครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:25:50

ความคิดเห็นที่ 76   งานนี้ หิวมาตั้งแต่บนรีสอร์ทแล้ว ก็เลยหวานคอแร้ง มีทั้งอาหารสั่ง ก๋วยเตี๋ยว และข้าวราดแกง เลือกได้ตามใจจริงๆ  แถมราคาท้องถิ่นอีก ประหยัดจริงๆ ครับ กินกันเป็นสิบคน จ่ายประมาณ 300 บาทเอง จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:34:18

ความคิดเห็นที่ 77   ทานเสร็จก็บ่ายสองกว่าๆ เดินกลับมายังรถ มองเห็นร้านขายชา มีให้ชิมด้วย เป็นตึกใหญ่ๆ  มีภาพสัญญลักษณ์หม้อชงชาด้วย  ใครเคยไปคงทราบครับ ร้านนี้อยู่ตรงเชิงสะพานข้ามน้ำพอดี มีลานจอดรถอยู่ข้างๆ ด้วยครับ แต่เนื่องจาก จะต้องรีบกลับกรุงเทพฯ เลยไม่ได้แวะเข้าไปชิมชา เหมือนที่ ดอยแม่สลองครับ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 53 14:29:05 จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:44:21

ความคิดเห็นที่ 78   เดินข้ามสะพานมา ก็จะเป็นตลาดสด อยู่ตรงข้ามกับที่ผมไปจอดรถพอดีครับ  ถ้ามีเวลามากกว่านี้ คงได้เดินสำรวจตลาดแบบ ตลาดเก้าห้อง หรือ ตลาดสามชุก แน่นอนครับ จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:46:45

ความคิดเห็นที่ 79   ตอนนี้กลับออกมาจาก ตลาดบ้านวาวีแล้วครับ เจอซุ้มประตู (ตอนขาไปไม่ได้จอดถ่าย) เลยจอดรถถ่ายมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังครับสวยดีครับ (ภาพด้านหลัง ถ่ายย้อนแสงไปหน่อย)  แต่ด้วยคุณภาพกล้องโทรมือถือเลยออกมาอย่างที่เห็นครับ  (น่าเสียดาย ทีหลังคงต้องหากล้องไว้สำรองอีกสักตัวแล้วละครับ เพราะไม่ง่ายที่ได้ไปเที่ยวแต่ละที่ โดยเฉพาะสถานที่ไกลๆ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 20:54:38

ความคิดเห็นที่ 80   เส้นทางที่ไปก็เป็นแบบนี้แหละครับ คดเคี้ยวขึ้นเขาลงเขา ชมวิวข้างทางตลอด  ระหว่างทางพบป้ายภาษาจีน บอกทางไปหมู่บ้าน...จำชื่อไม่ได้ (ไม่สามารถดูรายละเอียดจากภาพได้อีกแล้ว) จนมาถึงบ้านญาติผมครับ ผมขอพักก่อนนะครับ ลุยกันมาเต็มที่เลยวันนี้  งานนี้เสียหลายอย่าง กล้องเสีย  กันชนรถเป็นรู แถม ขับๆมา ได้ยินเสียงเคร้งๆ เวลาเจอทางขรุขระ ผมก้มลงไปมองข้างล่างใต้รถ  ว้าว...โช๊คอัพหลุด! ครับ  เพิ่งทำมาได้ ไม่นาน หลังจาก หูโช๊คฉีกไป จนต้องเปลี่ยนโช๊คอัพหลังใหม่  (ทำอะไรไม่ได้ไม่มีเครื่องมืดถอดโช๊คออก ต้องขับระวังๆ ไปจนออกถนนใหญ่  อ.แม่สรวย แล้วหาอู่รถ ถอดโช๊คเพื่อนำไปติดใหม่ ที่กรุงเทพฯ ครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:04:55

ความคิดเห็นที่ 81   วันนี้มาต่อกันในตอนสี่ กระทู้ข้างล่างนี้นะครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8791103/E8791103.html จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 11:16:32

ความคิดเห็นที่ 82   ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 08:52:05

ความคิดเห็นที่ 83   เฮ้อ...  อ่านไปลุ้นไปค่ะ.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 14:20:35

ความคิดเห็นที่ 84   สวัสดีครับคุณ Mr. Fusion และคุณ ป้าฟู : งานนี้ก็สนุกแบบไม่ได้วางแผนไว้ก่อน เพราะทีแรกตั้งใจมาเที่ยวบ้านญาติเฉยๆ สถานที่เที่ยวก็เป็นของแถมครับ (เพราะผมเองได้แอบแทรก การท่องเที่ยวที่ขุนตานไว้ในตอนแรกแล้วครับ) จากคุณ : มิราชช (vilaithong) เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 14:34:04