ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนจะเข้าเขตนครวัด นครธม คนขับโมโตตุ๊บได้พาผมไปทำบัตรผ่านเข้าชม  ราคาของบัตร pass 1 วัน  US$20.00 (มากกว่า 1 วันผมไม่รู้ราคา) หลังจากมีบัตรเข้าชมแล้ว  ได้เวลาซิ่งโลด... สถานที่ที่ผมจะไปเข้าชมในวันนี้ มีแค่ 3 ที่ คือ นครวัด ปราสาทบายน และปราสาทตาพรหม  ส่วนตัวแล้ว ผมสนใจแค่ 3 ปราสาทหลักๆเท่านั้น ความจริงยังมีปราสาทอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่เนื่องด้วยข้อจำกัดทางเวลาและสภาพอากาศที่ร้อนจับใจประมาณ 40องศาฯ   (อย่าลืมพกร่ม หมวก ครีมกันแดด แว่นกันแดด และน้ำดื่ม ติดตัวไปด้วย) สถานที่แรกที่ไปเที่ยวชมคือ นครวัด  ซึ่งวันนี้มีผู้คนมาเที่ยวไม่เยอะมากเท่าไหร่ หรืออาจจะยังเช้าตรู่อยู่ก็ได้ กรุ๊ปทัวร์อาจยังไม่ทันลง จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:50:04

ความคิดเห็นที่ 2 สะพานข้ามมายังนครวัด จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:51:35

ความคิดเห็นที่ 3 เดินเข้ามาภายใน ....................... ในรูป...   เพดานในปราสาท จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:53:05

ความคิดเห็นที่ 4 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:54:33

ความคิดเห็นที่ 6 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 55 23:56:18

ความคิดเห็นที่ 7 ช่วงเช้าเป็นเวลาที่ดีมาก(ถึงมากที่สุด)ในการเที่ยวชมเขตนครวัด นครธม เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ค่อยเยอะมากนัก แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 00:01:29 จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:00:46

ความคิดเห็นที่ 8 จากนั้นก็เดินเข้าไปยังตัวปราสาทชั้นใน ตอนที่ผมไปเจ้าหน้าที่กำลังบูรณะซ่อมแซมส่วนหน้า เลยไม่ได้ถ่ายรูปในมุมใกล้ๆมาให้ชม ............................................ นครวัด (Angkor Wat) สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยเป็นศาสนสถานประจำพระนครของพระองค์ ตัวเทวสถานได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เดิมนครวัดเป็นเทวสถานของศาสนาฮินดู ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระวิษณุ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นศาสนาพุทธ นครวัดเป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง และได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา โดยปรากฏในธงชาติ และเป็นจุดท่องเที่ยวหลักของประเทศ ตลอดจนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร (ประวัติย่อมาจากWikipedia) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:05:08

ความคิดเห็นที่ 9 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:08:19

ความคิดเห็นที่ 10 ต้นตาลเยอะมากๆ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:09:38

ความคิดเห็นที่ 11 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:13:09

ความคิดเห็นที่ 12 เดินไปถ่ายรูปไป จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:31:21

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพแกะสลักบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:48:29

ความคิดเห็นที่ 14 ขึ้นมาชั้นบนของตัวปราสาท จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 00:51:30

ความคิดเห็นที่ 15 บริเวณนี้น่าจะเคยเป็นสระเก็บน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคมาก่อน  คาดเดาจากลักษณะ ที่เคยได้เรียนมา จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:03:12

ความคิดเห็นที่ 16 เดินไปถ่ายรูปไป ....................... ในรูป...   นางอัปสรา จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:08:16

ความคิดเห็นที่ 17 เดินและถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว ถึงคิวไปชมปราสาทแห่งที่ 2   คือ ปราสาทบายน จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:10:02

ความคิดเห็นที่ 18 นครวัดตอนเช้า  คนยังไม่เยอะค่ะ  เพราะกรุ๊ปทัวร์ชอบพาไปตอนบ่าย  เนื่องจากถ่ายรูปได้สวยไม่ย้อนแสง   นครวัดหันหน้าไปทางทิศตะวันตก จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:17:19

ความคิดเห็นที่ 19 ระหว่างทางไปปราสาทบายนซึ่งอยู่ในเขตนครธม .................................... แอบถ่ายโมโตตุ๊บข้างๆ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:24:12

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับคุณป้าฟู   ให้เกียรติมาเจิมกระทู้เป็นแรกเลยนะครับ   เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ  ตอนเช้าๆไม่ค่อยมีกรุ๊ปทัวร์มาลง ส่วนใหญ่มีแต่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเอง .................................................... เข้าเขตนครธม จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:29:05

ความคิดเห็นที่ 21 ปราสาทบายน (Bayon) เป็นปราสาทหินของอาณาจักรเขมร อยู่ในบริเวณของใจกลางนครธม สร้างขึ้นเป็นวัดประจำสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ก่อสร้างในราวปี พ.ศ. 1724-พ.ศ. 1763[1] หลังจากที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7ทรงได้ชัยชนะจากการขับไล่กองทัพอาณาจักรจามปา นับเป็นศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีความซับซ้อนทั้งในแง่โครงสร้างและความหมาย เนื่องจากผ่านความเปลี่ยนแปลงด้านศาสนาและความเชื่อมาตั้งแต่คราวนับถือเทพเจ้าฮินดู และพุทธศาสนา อาคารมีลักษณะพิเศษ เนื่องจากส่วนของหอเป็นรูปหน้าหันสี่ทิศ จำนวน 49 หอ ปัจจุบันคงเหลือเพียง 37 หอ ลักษณะโดยทั่วไปจะมี 4 หน้า 4 ทิศ แต่บางหออาจมี 3 หรือ 2 แต่บริเวณศูนย์กลางของกลุ่มอาคาร จะมีหลายหน้า ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะพยายามนับว่ามีกี่หน้า ลักษณทางสถาปัตยกรรมของบายนก็เช่นเดียวกับเรื่องความเชื่อ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงมาในหลาย ๆ สมัย กษัตริย์ในยุคหลัง ๆ พบว่าเป็นการง่ายกว่าที่จะปรับปรุงวัดแห่งนี้ แทนที่จะรื้อสร้างใหม่เช่นที่ทำกัน และใช้เป็นวัดประจำสมัยต่อเนื่องกันมา   (ประวัติย่อมาจากWikipedia) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:30:47

ความคิดเห็นที่ 22 เดินเข้าไปชมข้างในปราสาท (ไม่แน่ใจว่าใช่ทางเข้าหลักหรือเปล่า?  เพราะว่าผมเดินลัดเข้าตรงช่องทางเล็กๆ) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:34:09

ความคิดเห็นที่ 23 สวยแบบขลังค์ๆลึกลับมีเสน่ห์เหมือนในหนังผจญภัยตามหาขุมทรัพย์ยังไงยังงั้น จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:36:07

ความคิดเห็นที่ 24 รูปแกะสลักจารึกตามฝาผนัง จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:40:41

ความคิดเห็นที่ 25 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:41:49

ความคิดเห็นที่ 26 จุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของปราสาทบายน สถูปหน้าเทวรูปหันหน้ารอบสี่ทิศ แก้ไขเมื่อ 03 ธ.ค. 55 01:46:22 จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:45:26

ความคิดเห็นที่ 27 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:48:32

ความคิดเห็นที่ 29 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 01:49:58

ความคิดเห็นที่ 30 ความสวยงามอลังค์การและมีเสน่ห์ของตัวปราสาท ต่อให้แดดจะร้อนแรงแค่ไหน มิได้เป็นอุปสรรคต่อการเดินเที่ยวชมเลยแม้แต่น้อย จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:09:34

ความคิดเห็นที่ 31 เดินไปถ่ายรูปไปใช้เวลาทั้งหมดชั่วโมงกว่า สำหรับการชมความสวยงามอลังค์การของปราสาทแห่งนี้ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:10:43

ความคิดเห็นที่ 32 ปราสาทอีกแห่ง(จำชื่อไม่ได้)ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับปราสาทบายน จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:11:58

ความคิดเห็นที่ 33 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:12:49

ความคิดเห็นที่ 34 ได้เวลาล้อหมุนไปยังปราสาทตาพรหม จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:14:03

ความคิดเห็นที่ 35 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:14:51

ความคิดเห็นที่ 36 ออกจากเขตนครธม จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:15:51

ความคิดเห็นที่ 37 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:16:48

ความคิดเห็นที่ 38 วิวสองข้างทาง จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:18:32

ความคิดเห็นที่ 39 คนขับกำลังรอให้รถคันข้างหน้าข้ามสะพานไปก่อน เพื่อความปลอดภัย เพราะสะพานรองรับน้ำหนักของยวดยานพาหนะทีละมากๆไม่ได้ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:19:49

ความคิดเห็นที่ 40 มองลงไปใต้สะพาน จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:20:48

ความคิดเห็นที่ 41 ไม่กี่อึดใจ โชเฟอร์ก็มาส่งผมที่ประตูทางเข้าด้านหลัง พร้อมทั้งนัดแนะบอกว่าพอเดินชมปราสาทเรียบร้อยแล้ว ให้ไปเจอเขาตรงเข้าทางด้านหน้า จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:22:13

ความคิดเห็นที่ 42 ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เป็นปราสาทหินในยุคท้ายๆ ของอาณาจักรเขมร ปราสาทเหล่านี้ถือว่าเป็นสถานที่ของพระพุทธศาสนาที่สมัยนั้นมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เพราะสมัยนั้นกษัตริย์ที่สนับสนุนให้มีการสร้างปราสาทนี้เป็นวัดในศาสนาพุทธ การดูแลปราสาทต่างๆนั้นรัฐบาลได้ทำการตัดต้นไม้ออกจากปราสาทอื่นๆ เพราะกลัวว่าประสาทจะล้มลงหากต้นไม้ใหญ่โตมากๆ แต่สำหรับปราสาทตาพรมนั้น รัฐบาลมีแนวคิดที่จะคงต้นไม้ไว้เหมือนโบราณที่มีต้นไม้ขึ้นบนปราสาทแทบทุกปราสาทจึงกลายเป็น ลักษณะเด่นของปราสาทตาพรหมคือมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นคลุมตัวปราสาทเป็นจำนวนมาก ไปในตอนหลัง ปราสาทตาพรมนั้น ในรัชกาลที่กษัตย์นิยมฮินดูได้อำนาจคือนจากกษัตริย์นับถือพุทธ จึงให้มีการทำลาย และมีร่องรอยการทำลายมากที่สุด เพราะความต่างของการนับถือศาสนา ปราสาทตาพรมจึงไม่หลงเหลือศิลปะให้ได้เห็นมากนัก (ประวัติย่อมาจากWikipedia) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:33:43

ความคิดเห็นที่ 43 ปราสาทแห่งนี้มีต้นสมปรงขึ้นปกคลุมทั่วปราสาท ทำให้ปราสาทแห่งนี้สวยงามมากยิ่งขึ้นและมีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:45:37

ความคิดเห็นที่ 44 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:48:00

ความคิดเห็นที่ 46 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:49:30

ความคิดเห็นที่ 47 เดินไปเดินมา จนมาถึงมุมยอดฮิตของนักเที่ยวที่มาเยือนปราสาทแห่งนี้  ชนิดที่ต้องต่อคิวถ่ายรูปกันเลย (เวลานี้คิวยังไม่ค่อยยาวมากเท่าไหร่ เพราะกรุ๊ปทัวร์ใหญ่ๆยังมาไม่ถึง)  จุดนี้เคยให้ที่ถ่ายทำภาพยนต์Hollywood ชื่อดังเรื่อง “Lara Croft : Tomb Raider” จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:51:14

ความคิดเห็นที่ 48 ถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาเดินไปหาโชเฟอร์ตามที่นัดไว้ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:52:51

ความคิดเห็นที่ 49 ระหว่างทางขากลับ จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:54:05

ความคิดเห็นที่ 50 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:55:05

ความคิดเห็นที่ 52 :) จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:56:15

ความคิดเห็นที่ 53 ทริปนครวัด นครธม ของผมในวันนี้ บอกได้คำเดียวว่า "สุดยอดแห่งความประทับใจ"  มากๆถึงมากที่สุด จากคุณ : รัฐฎาวิมานประเทศ เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 02:57:37

ความคิดเห็นที่ 54 สวยจังคะ อยากไปมั่ง.. จากคุณ : คุณนายบาบาร่า เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 55 09:52:44

ความคิดเห็นที่ 55 เห็นมีรถ บขส ไปถึง เสียมราฐ ถ้าเจี๊ยบจะไปคนเดียว ปลอดภัยไหมคะ ออกจาก กทม 06.00 ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ไปถึงจะหาที่พักที่ปลอดภัยได้ไหม วันที่ 2 เที่ยวนครวัต นครธม ปราสาทที่มีต้นไม้ (วันแรกที่ไปถึงต้องติดต่อรถตุ๊กไว้ใช่ไหม) กลับเช้าวันที่ 3 ได้ ช่วยดูให้หน่อย ตามนี้ได้ไหมคะ  ของกินหายากไหม มีเซเว่นเหมือนบ้านเราหรือเปล่า จากคุณ : ่juthathipsiri เขียนเมื่อ : 18 ธ.ค. 55 10:05:50