ความคิดเห็นที่ 1 ขอกางแผนที่เดินทางเฉพาะตอนนี้ให้ดู้กันก่อน ว่าพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ในช่วงไหนของประเทศ  อิอิ...ราวกับทำสงครามเลย วันเดินทางยังเป็นวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2555 เหมือนตอนที่แล้วอยู่นะครับ แต่คราวนี้ถือว่าผมได้ลงไปจุดสุดชายแดนใต้ฝั่งตะวันตก (แม้ว่าจะยังไม่ใต้สุดๆ ก็ตาม)  จากในอดีต ผมได้ไปเยือนชายแดนประเทศมาแล้วเกือบครบทุกด้าน  สค.2548 ไป ปราสาทเขาพระวิหาร-ผาแต้ม (ตะวันออกสุด)  เมย.2551 ไป ด่านแม่สาย เชียงราย (เหนือสุด)  พค.2551 ไป ด่านหาดเล็ก ตราด (ตะวันออกเฉียงใต้สุด)  มค.2552 ไป เหมืองปิล๊อค(ตะวันตก)  เมย.2553 ไป ด่านแม่เมย ตาก(ตะวันตกสุด)  เมย.2554 ไป ด่านหนองคาย ข้ามไปสปป.ลาว(ตะวันออกเฉียงเหนือสุด) แทบไม่น่าเชื่อว่า ผมไม่ค่อยมีเวลาว่างยาวหลายวัน อาศัยแค่ช่วงเทศกาลแต่ละปี ก็ค่อยๆ สะสมไปจนครบทิศได้เช่นกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:06:23

ความคิดเห็นที่ 2 ปาดดคะ  อิอิ ขอตามไปเที่ยวด้วยคนคะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:10:44

ความคิดเห็นที่ 3 พี่ครับ ๆ จอดรับด้วยครับ จากคุณ : Jelly&Kiwi เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:18:49

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนนี้  มารออยู่แถว เทศบาล สะเดา ล่ะครับ   มารับด้วย จากคุณ : pa_joke เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:35:08

ความคิดเห็นที่ 5 ไปเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:36:45

ความคิดเห็นที่ 6 มาเริ่มลุยกันเลย จากถนนเพชรเกษม ที่ออกจากหาดใหญ่ มาทาง อ.สะเดานี้ เป็นถนน 4 ช่องทาง ดูใหม่ไร้ริ้วรอยหลุมร่องใดๆ แถมไม่ค่อยมีรถวิ่งมากเหมือนช่วงมาจากกรุงเทพฯเลย เป้าหมายแรกของผมในตอนนี้ (แต่เป็นเป้าหมายที่ 2 ของการท่องเที่ยวในวันนี้) ก็คือ สถานีเก่าศาลาทุ่งลุ่ง อยู่ที่ ต.พะตง   ทางเข้าจะอยู่ทางซ้ายมือ ขณะที่ขับรถล่องใต้จากหาดใหญ่ลงไป ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:45:18

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับทุกๆ ท่านที่แวะเข้ามาปาดกันอย่างรวดเร็ว อย่างครึกครื้นครับ อย่างไรตอนนี้คงสนุกแน่ เพราะจะพาไป 3 แห่งเลยทีเดียว และขอ ขอบคุณ คุณหม่องวิน มอไซ คนรักรถไฟท่านหนึ่ง ที่ผมได้แอบเห็นในเว็บ ว่าท่านได้ไปเที่ยว ปาดังเบซาร์มาแล้ว หลังจากที่ผมไปเพียงเดือนเดียว ถ่ายคลิ๊ปมาด้วย  และภาพนิ่งของคุณ Probass จากในเว็บกิมหยงดอทคอม ที่อัปเดดกว่าผม ไว้ตอนหน้าผมจะนำมาให้ดูเทียบกับภาพของผมที่ไปถ่ายมา ครับ จากภาพข้างล่าง ผมก็เลี้ยวซ้าย(ง่ายๆ) เข้ามายังสถานีเก่าศาลาทุ่งลุ่ง กันแล้ว ซึ่งถ้ามองจากถนนนี้ จะไม่พบข้อความอะไรที่เกี่ยวกับ ศาลาทุ่งลุ่ง เลย  การจะมาสถานที่แห่งนี้ต้องทราบข้อมูลล่วงหน้ามาก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 17:57:57

ความคิดเห็นที่ 8 ผมมาจอดรถตรง ถนนด้านหลังวงเวียน ด้านซ้ายมือ(ในรูปล่าง คห.7) แล้วรีบปฏิบัติการเก็บภาพทันที โดยเริ่มจากด้านข้างวงเวียน หันกลับไปดูถนนที่เข้ามาจะเห็นป้อมริมถนนเพชรเกษมอยู่ไม่ไกลนัก  นับว่าสะดวกอย่างคาดไม่ถึงในการจะแวะมาเที่ยวชมสถานีเก่าแห่งนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:03:47

ความคิดเห็นที่ 9 มองไปทางด้านหลังวงเวียน ก็คือสวนสาธารณะสุขาภิบาลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  พื้นที่ยกสูงข้างหน้าก็คือ พื้นสถานีรถไฟศาลทุ่งลุ่ง นั่นเองครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:08:33

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพซ้าย : เดินมายังป้ายชื่อสวนสาธารณะ จะสังเกตุเห็นว่า พื้นสถานีอยู่สูงกว่าพื้นถนนมากพอสมควร นับเป็นการลดปัญหาน้ำท่วมได้ดี ภาพขวา : ผมขึ้นไปบนพื้นสถานี หลังป้าย แล้วหันมาดูถนนเพชรเกษม แล้วใช้กล้องซูมภาพดึงเข้ามาใกล้ๆ  ดูไม่ไกลเลยนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:11:53

ความคิดเห็นที่ 11 คุณมิราชชคุยกับครอบครัวยังไงครับ ถึงยอมตามไปเที่ยวแบบเที่ยวตามสถานีรถไฟอย่างนี้ ผมชอบนะครับ ไปเมืองไหนมีรถไฟผ่าน ขอได้ไปยืนไปมองที่สถานีนั้นเถอะ แต่คนที่บ้านบอกจะมาทำไม ที่เที่ยวอื่นๆเยอะแยะมาเที่ยวสถานีรถไฟ มีเคืองกันตลอด จากคุณ : antpig เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:13:48

ความคิดเห็นที่ 12 ลองถ่ายภาพแบบมุมกว้าง พาโนรามา บ้าง  บ้านสองด้านของวงเวียนดูสมดุลซ้ายขวาดี  และวงเวียนแห่งนี้ สามารถสังเกตุเห็นจาก ภาพถ่ายดาวเทียมของกูเกิ้ล ได้ชัดเจน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:14:08

ความคิดเห็นที่ 13 ตามมาชมครับ เส้นปาดังเบซาร์ยังไม่เคยไปเลยครับ  เคยแต่นั่งรถไฟไปสุดสุไหงโกลก จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:31:21

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีครับ คุณantpig : เช่นกันครับ หัวอกเดียวกัน ไม่ง่ายนักที่จะยินยอม หรือ อีกนัยหนึ่งก็คือ ทำใจไว้แล้ว ว่ามากับผมต้องเป็นแบบนี้..ฮือๆ  คือนั่งรอในรถให้ผมไปเก็บภาพก่อน เคยนานที่สุด 3 ชั่วโมง เมื่อครั้งไปอุโมงค์ห้วยแม่ลาน โน้น เล่นเอามืด มาถึงรถ มีงอน เลย  โดยเฉพาะท่าน ผบ.ประจำบ้าน  ครั้งนี้ถึงกลับ ปฏิเสธจะไม่มาตั้งแต่แรก  มาคืนแรกก็พูดดักทางจะกลับกันเลยทุกวัน อ้างกลัวกลับมาทำงานไม่ทันหลังเทศกาลสงกรานต์..ฮา   ใจอยากให้พวกเขาไปเดินเล่นรับลม และบรรยากาศที่สถานี แต่คงไม่อยากเดิน เลยนั่งรอในรถไปพลางๆ ดีกว่า     แต่ถึงอย่างไร ผมก็จะหาสถานที่ท่องเที่ยว หรือพาไปไหว้พระ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มารวมเข้าด้วยในทริปเสมอ เป็นการตอบแทน ครับ ก็ทำอย่างไรได้ ใจมันชอบ บรรยากาศทางรถไฟ นี้ก็ช่างเป็นธรรมชาติ ที่เงียบสงบ ดีกว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่คนเขานิยมไปกัน มาต่อกันครับ  บนลานกว้างที่เคยเป็นที่ตั้งอาคารสถานีศาลาทุ่งลุ่ง ปัจจุบันได้ถูกรื้อถอนเตียนโล่งไปหมดแล้ว ไม่เหลือฐานราก ใดๆ อยู่เลย แต่ยังนับว่าโชคดี ที่ ทางสุขาภิบาล เขาได้เข้ามาดูแลจัดการพื้นที่ ปูกระเบื้อง สร้างศาลา ให้สมกับที่เคยมีชื่อ ศาลาทุ่งลุ่ง ด้วย(อิอิ...เป็นเหตุผลของผมเองนะครับ)  ว่าแต่กลางวันนี้แดดร้อนมาก เหมาะกับการมานั่งเล่นตอนเย็นๆ เพราะพื้นที่บนนี้สูง เลยทำให้มองเห็นบริเวณอื่นๆ ได้ดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:32:05

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีคุณ ยุง บิน ชุม: พบกันอีกนะครับ โอ้โฮ..ไปไกลถึง สุไหงโกลกเลยนะนี่  นั่งรถไฟไปคงไม่ค่อยน่ากลัวเท่า ขับรถยนต์ไปเองนะครับ  สถานีตันหยงมัส เป็นสถานีที่ผมอยากไป เพราะเคยเห็นในรูปภาพอดีต ที่คุณน้าผมที่เคยเป็นทหารไปประจำการที่ภาคใต้ สมัย 40 กว่าปีโน้น ท่านไปยืนแอ็คชั่นกับป้ายชื่อสถานีตันหยงมัสกับเพื่อนๆทหารหลายคน  ผมเห็นทีแรกยังนึกว่าอยู่ต่างประเทศเลย ชื่อแบบเกาหลี แบบนี้  แต่อันที่จริง ผมคิดว่า เส้นทางรถยนต์ไป สุไหงโกลก ทาง จ.นราธิวาส นี้ดูไม่น่ากลัวเท่ากับ เส้นทางไป จ.ยะลา โดยเฉพาะแถวเขื่อนบางลางที่ไป อ.เบตง นั้นเขาว่า เป็นเขาสูงชัน เปลี่ยวกว่าจุดอื่น ขนาดคนพื้นที่ เขายังไม่เอารถไปเอง ต้องนั่งรถตู้โดยสารไป เขาบอกว่า "สงสารรถยนต์"  แต่ถึงอย่างไร โอกาสหน้า ถ้าภาคใต้สงบกว่านี้ คงได้ไปเยือน 3 จังหวัดภาคใต้เต็มๆ ทริปสักครั้ง มาต่อกัน ครับ  ตอนนี้ผมเดินไปจนเกือบสุดลานกว้าง บนพื้นที่เก่าของสถานีรถไฟศาลาทุ่งลุ่งแล้ว ฝั่งตรงข้ามรางรถไฟเป็น สนามฟุตซอล ถัดไปเป็นสวนยางครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:46:24

ความคิดเห็นที่ 16 มาถึงชานชาลาเก่า มองไปทางซ้ายที ขวาที  เป็นรางตรง ดูไกลๆ ไม่ค่อยเห็นอะไรเป็นที่สังเกตุนัก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:49:20

ความคิดเห็นที่ 17 ลองหันกลับมาดูลานโล่งอีกที ข้างหน้าเป็นวงเวียน คิดว่าในอดีตคงมีท่ารถอยู่รอบๆ วงเวียนแห่งนี้ คล้ายกับสถานีรถไฟตะพานหินที่ผมคุ้นเคย ผมคิดว่า ลานโล่งนี้ ตอนเย็นๆ อาจมีการเต้นแอโรบิคแดนซ์ ก็ได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:51:51

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนเด็ก ๆ เคยนั่งรถไฟไปลงสถานีตันหยงมัส แล้วต่อรถแท็กซี่(เบนซ์)ไปนราธิวาสอีกทีครับ ปีที่แล้วนั่งรถยนต์จากหาดใหญ่ไปยะลา ขาไปไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ขากลับเริ่มเย็น ตามด่านก็เริ่มมีทหารมากขึ้น ส่วนเบตง ยังไม่เคยไปซักครั้งเลยครับ  เดี๋ยวนี้ได้ยินว่าจะไปเบตง เค้านั่งรถจากหาดใหญ่ไปออกสะเดาแล้วค่อยตีกลับมาเข้าเบตง ไม่ผ่านยะลาแล้ว จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:52:53

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเดินข้ามรางรถไฟไปยังฝั่งตรงข้ามแล้วหันกลับมาดูลานโล่ง ที่เคยเป็นที่ตั้งสถานีรถไฟเก่า เลยได้เห็นรางหลีก ซ่อนอยู่ในพงหญ้า ห่างออกมาจากรางประธานที่อยู่ติดกับชานชาลาสถานี โดยไม้หมอนถูกดินกลบฝังอยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 18:58:00

ความคิดเห็นที่ 20 คุณ ยุง บิน ชุม : ใช่ครับ ผมลองดูจากแผนที่ พบว่า สถานีรถไฟตันหยงมัส เป็นจุดต่อรถยนต์ไป เมืองนราธิวาส เพราะทางรถไฟไม่ผ่านเมืองนราธิวาส เหมือนกับ เมืองปัตตานี ที่ต้องลงไปต่อรถ ที่สถานีโคกโพธิ์ ครับ (ผมเองก็เพิ่งทราบตอนจัดเตรียมภาพโพสกระทู้ตอนนี้เอง)  ยะลาเป็นเมืองอยู่ริมเขตจังหวัด ทางด้านเหนือติดกับ จ.ปัตตานี การนั่งรถยนต์มาแค่เมืองยะลา ดูไม่น่ากลัว เท่ากับ ต่อลงไป เบตง แถว อ.กรงปินัง กับ อ.บันนังสตา นั้นคุ้นหูในเรื่องความไม่สงบของ 3 จังหวัดภาคใต้ ทำให้การไป อ.เบตง โดยผ่านประเทศมาเลเซีย นั้นเป็นทางเลือกที่น่าสน เพราะ ตำแหน่งของ ด่านสะเดานั้นอยู่สูง(เหนือ) กว่า อ.เบตงมาก เกือบจะพอๆ กับ เมืองยะลาด้วยซ้ำ เพียงแต่ต้องเสียเวลา และค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องข้ามประเทศเท่านั้น ซึ่งผมเองก็คิดอยู่เหมือนกันว่าจะใช้วิธีนี้ ถ้าหากผมได้มีโอกาสขับรถไปเที่ยวมาเลยเซียด้วยตัวเองครับ มาต่อกันครับ  จากบนรางรถไฟ ผมถ่ายภาพมุมกว้างของลานโล่งสถานีรถไฟศาลาทุ่งลุ่ง มาให้ดูกันครับ แล้วลองจินตนากาลดูว่า ถ้ามีอาคารสถานีอยู่จะเป็นอย่างไร บางท่านบอกว่า มีลักษณะคล้ายกับ สถานีคลองแงะ ใครมีภาพเก่าในอดีตของสถานีแห่งนี้ก็ลองนำมาแชร์กันได้นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:10:59

ความคิดเห็นที่ 21 จากบนราง ผมลองหันไปทางเหนือและใต้ เพื่อซูมภาพไกลลิบมาให้ดูกัน ภาพซ้าย :ซ้ายมือทางทิศใต้ ไปสู่ ปาดังเบซาร์ เป็นภาพสะพานเหล็กแบบขึ้นโครง ดูเกรงขาม จนผมต้องนำมาเป็นภาพพื้นเปิดกระทู้เลย ลองวัดระยะทางคร่าวๆจากใน GPS Map ประมาณ 300 เมตร กล้องผมจึงพอจะดึงมาดูได้ชัดๆ ภาพขวา : ขวามือทางทิศเหนือ (อาจดูขัดๆ ไปบ้าง เพราะความรู้สึกผมมักจะให้ทางซ้ายมาจากกรุงเทพฯ)  ที่มาจากหาดใหญ่ มีสะพานเหล็กเล็กๆ อยู่ไกลๆ แต่โดนพงหญ้าขึ้นบัง ลองวัดระยะทางคร่าวๆ ดูได้ประมาณ 700 เมตร ซึ่งระหว่างนี้ มีถนนข้ามรางไปยัง โรงเรียนพะตงประธานคีรีวัฒน์ มีระยะโดยประมาณจากสถานีแห่งนี้ประมาณ 200 เมตรครับ แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 55 21:02:55 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:27:27

ความคิดเห็นที่ 22 ซึ่งผมจำได้ว่า เคยเห็นภาพในเน็ต เป็นของคุณMongwin จากเว็บรถไฟดอทคอม ที่ถ่ายสะพานเล็ก แห่งนี้ได้โดยไม่มีพงหญ้ามาบดบัง (ถ่ายเมื่อปี 2551)  และจากภาพพอจะเห็นคนจูงเด็กข้ามรางรถไฟด้วย ซึ่งพอคาดเดาได้ว่า ตรงนั้นคงเป็นทางข้ามไปยังโรงเรียนพะตงฯ นั่นเอง    แหม..เป็นภาพเดียวกับที่ผมเคยโพสลงในกระทู้ ไปดูอุโมงค์รถไฟภาคเหนือในคห.88 ด้วย http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2398&postdays=0&postorder=asc&start=20 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:32:57

ความคิดเห็นที่ 23 เนื่องจากมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถนั่งรถไฟเที่ยวในประเทศไทยได้ แอบอิจฉา จขกท ได้นั่งไปเที่ยวหลายเส้นทางเลย ขอเกาะติดรีวิวนี้ไปเที่ยวทางรถไฟด้วยคนนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:39:44

ความคิดเห็นที่ 24 เกือบลืม สืบค้นเรื่องชื่อสถานี "ศาลาทุ่งลุ่ง" ที่ดูแปลกๆ ไปแล้ว จากเว็บของเทศบาลตำบลพะตง http://www.patong.go.th/index.php?options=photo_legend&mode=detail&id=11 ได้พอสรุปที่มาของชื่อนี้ได้ 2 แนวทางคือ 1.มาจากการที่ชาวบานเดินทางมาตลาดนัดนางเฉลียว ที่อยู่ไกล ต้องออกเดินทางในตอนกลางคืน และมาสว่างพอดี ที่นี่ คำว่า "รุ่ง" ภาษาใต้จะหมายถึง สว่าง หรือเช้า และสถานที่แห่งนี้เป็นทุ่ง เลยเรียกว่า "ทุ่งรุ่ง" นานไป ก็เพี้ยนเป็น ทุ่งลุ่ง 2.มาจากการที่ตรงนี้มีต้นลุงขนาดใหญ่อยู่ เลยเรียกว่า ทุ่งลุง แต่คนใต้เวลาพูดคำว่า "ลุง" ก็มักจะมีสำเนียงคล้ายกับคำว่า "ลุ่ง" พอมาสะกดเป็นภาษากลางเลยต้องใส่วรรณยุกต์เอก ให้ออกเสียงอย่างที่คุ้นเคย "ทุ่งลุ่ง" ส่วนชื่อสถานีที่มีคำว่า ศาลา นำหน้าทุ่งลุ่ง ก็เพราะในอดีตก่อนสร้างสถานีรถไฟคงเคยมี ศาลาพักร้อน  คล้ายกับ ศาลายา ศาลาธรรมสพน์(อดีตเป็น ศาลาทำศพ จริงๆ) และศาลาแม่ทา เป็นต้น ภาพซ้าย : ผมเริ่มเดินมาทางป้ายชื่อสถานีทางทิศใต้ก่อน แต่เนื่องจากไม่ได้ใช้ซูม สะพานเหล็ก เลยดูเล็กนิดเดียว ไม่น่าสนใจ  (นี่แหละ พลังของการซูมภาพ ที่สามารถปรับขนาด ความสนใจ วัตถุในภาพได้) ภาพขวา : หันหลังกลับไปดู รางทางด้านเหนือ ที่เดินข้ามมา จะสังเกตุเห็นว่า พงหญ้าได้หมกรางหลีกได้สนิทจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:52:17

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับ คุณสามแซ่ : นี่แหละครับ คือวัตถุประสงค์ของผม ที่มารีวิวตั้งกระทู้ ถ่ายภาพมุมมองบรรยากาศเสมือนได้ไปจริงครับ นอกจากจะได้ช่วยให้ คนหลายคนที่ไม่ได้มีโอกาสไปเยือนสถานีที่ต่างๆ ที่ผมได้ไป แล้วยังช่วยอ้างอิงเชิงประวัติศาสตร์ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆด้วย ว่าสถานที่แห่งนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร หรือบางท่านอาจนำภาพผมไปอ้างอิง สืบค้นข้อมูลบางอย่างได้ด้วย เดินเลยชานชาลาสถานีไปทางใต้อีก เป็นสนามเด็กเล่น และสวนสุขภาพ ครับ  น่าอิจฉาชาวบ้านแถวนี้ ที่มีของดีๆ แบบนี้ให้ใช้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:57:44

ความคิดเห็นที่ 26 อยากจะขับรถล่องใต้แวะไปเรื่อยๆ เหมือนกันค่ะ     ยังไม่มีโอกาสก็ขอตามคุณมิราชมาเที่ยวก่อนก็แล้วกัน... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 19:59:08

ความคิดเห็นที่ 27 หันหลังกลับไปดูป้ายชื่อสถานีด้านใต้ อีกด้าน จะดูสมบูรณ์ครบองค์ประกอบถ้าหากมีอาคารสถานีอยู่ด้วย  แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าจะมองศาลาพักร้อน ตรงกลางสถานี เพื่อสื่อให้เป็น ศาลาแห่งทุ่งลุ่ง ก็เหมาะสมดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:00:13

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีครับ คุณป้าฟู : ด้วยความยินดี และขอบคุณที่ติดตามมาตลอดครับ  สำหรับผมแล้วก็รู้สึกอิจฉาคุณป้าฟูเช่นกันที่ได้ไปเที่ยวต่างประเทศไกลๆ เช่นอเมริกา โดยที่ผมเองไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสไปกับเขาหรือเปล่า เพราะนอกจากจะระยะทางไกล นั่งเครื่องบินหลายชั่วโมงแล้ว ยังต้องใช้เงินมาก ครับ ภาพซ้าย : ผมเดินกลับมาทางสถานี เพื่อไปถ่ายภาพป้ายชื่อสถานีด้านเหนือบ้าง ตรงนี้เป็นชานชาลาด้านใต้ ที่ข้างหลังมีสนามเด็กเล่นและ ถังน้ำประปาสูงๆ ภาพขวา : กำลังจะผ่านสถานี...โอ้..ผมจินตนาการไปเอง.. ผ่านศาลาพักร้อน นับเป็นมุมมองคล้ายกับที่มองมาจากโบกี้รถไฟเลยครับ  ฉึก..ฉัก  ฉึก..ฉัก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:05:33

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพซ้าย : เดินผ่านหน้าสถานีเก่า(ที่รื้อไปหมดแล้ว) มาถึงชานชาลาด้านเหนือแล้ว  ก็อย่างที่เคยบอกไว้ว่า ดูขัดๆ ตาเหมือนกัน คือถ้านั่งรถไฟมาจากหาดใหญ่ สถานีเก่าแห่งนี้จะอยู่ด้านขวามือ แต่ผมกลับพาเพื่อนๆ ดูทางด้านซ้าย  คือทำนองว่า นั่งรถไฟมาจาก ปาดังเบซาร์ ครับ ภาพขวา : ผมเดินถึงป้ายชื่อสถานีด้านเหนือ แล้วหันไปดู พื้นที่ ฝั่งตรงข้ามราง ที่เป็นสนามฟุตซอล อีกที (จะได้หลากหลายมุมมองหน่อย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:09:38

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพซ้าย : ข้างหน้าผมตอนนี้ก็คือ ป้ายชื่อสถานีศาลาทุ่งลุ่งเก่า ที่สีตัวอักษรดูเลอะเทอะไปหน่อย เคยเห็นภาพเก่าๆ ของคุณ Mongwin (คห.22)  ตัวอักษรไม่มีสีเลย คงมีการทาใหม่ในภายหลัง แต่ก็ทนน้ำฝนไม่ได้เลยละลาย ไหลลงมาเปรอะป้ายทั้งหมด อย่างที่เห็นครับ ภาพขวา : มองเลยไปทางเหนือ ริมรางเป็นสนามเด็กเล่น (ต้องขออภัยที่ภาพไม่ชัด เพราะรีบเร่งถ่ายกันมากไปหน่อย) ซูมภาพระยะไกล เพื่อให้ได้เห็นสะพานเล็ก ด้านเหนือ แต่ก็โดนพงหญ้าบังหมด จะเห็นชัดหน่อยก็ถนนตัดข้ามรางหน้าโรงเรียน พะตงประธานคีรีวัฒน์ (แหม..ชื่อยาวจัง ลองเข้าไปค้นหาประวัติที่มาของโรงเรียนแห่งนี้ในเน็ตดู พบว่า มาจากชื่อผู้บริจาคที่ดินคือ นายนิกร ประธาน-ราษฎร์นิกร และ นายวีระ คีรีวัฒน์) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:53:15

ความคิดเห็นที่ 31 หันกลับไปดูป้ายชื่อสถานีด้านเหนือ อีกด้าน มุมมองนี้แหละ ถ้านั่งรถไฟมาจากหาดใหญ่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:55:04

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพซ้าย : ลองหาภาพมุมแปลกๆ ดูบ้าง เอาที่ระดับราง มุมมองของแมว มองไปทางใต้ ใช้กล้องซูมช่วยด้วย (ป้ายสถานีที่เห็นเป็นป้ายทางด้านใต้) ภาพขวา : เสร็จแล้วก็เดินกลับไปลานโล่งสถานี ระหว่างผ่านชานชาลาด้านเหนือ มองข้ามรั้วต้นไม้ลงมา เป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น คุณพ่อตา ท่านลงมาเดินยืดเส้นยืดสาย ระหว่างรอผมถ่ายภาพอยู่  จะเห็นบันไดด้านข้างสถานี ที่ลงมายังสวนแห่งนี้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 20:59:20

ความคิดเห็นที่ 33 เพื่อประกอบความเข้าใจของพื้นที่โดยรอบ สถานีเก่าศาลาทุ่งลุ่ง แห่งนี้ ขอนำภาพถ่ายดาวเทียม กูเกิ้ล มาให้ชมกันครับ ซึ่งเส้นสีน้ำเงิน ก็คือ การเดินทางของผม ที่วนกลับไปเป็นวงกลม เพราะไปจอดรถตรงที่ร่มๆ ที่หันหน้ารถกลับไปทางเหนือ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:02:08

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพซ้าย : ผมเดินกลับมาที่รถแล้วหันกลับไปดูวงเวียนอีกครั้ง ผมขี้เกียจถอยหลังรถไปวนอ้อมหลังวงเวียน เพื่อออกไปถนนเพชรเกษม ภาพขวา : เลยเดินหน้ารถไปตามถนนเลียบรางรถไฟ ที่บ้านเรือน แบบห้องแถวไม้สมัยก่อน ที่ผมเคยอยู่ตอนเด็กๆ ไปวนกลับออกถนนเพชรเกษม ตามแผนที่ คห.33 ข้างบนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:05:55

ความคิดเห็นที่ 35 แต่ก่อนออกรถ ขอถ่ายภาพป้ายชื่อถนนไว้อ้างอิงหน่อย ข้างหลังเป็นสวนสาธารณะร่มรื่น ที่ผมเห็นจากบนชานชาลาในรูปขวาของ คห.32 นั่นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:07:11

ความคิดเห็นที่ 36 เจ้าตัวเล็กอยู่ในรถ เห็นผมกลับมาก็อยากให้พาไปเดินเล่นบ้าง เพราะเห็นรูปปั้นสัตว์ต่างๆ ในสวนสาธารณะข้างรถ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:08:23

ความคิดเห็นที่ 37 เริ่มจากเจ้ากบตัวนี้ ยืนอ้าปากอยู่ใกล้รถผมมากที่สุด มองเข้าไปในปาก เห็นโล่งๆ อยู่ข้างหลัง ผมนึกสงสัยว่าเป็นอะไร ลองเดินอ้อมไปข้างหลัง เลยทราบว่า เป็นที่วางถังขยะ เข้าใจคิดออกแบบจริงๆ ดูกลมกลืนกับ สวนสาธารณะมาก แก้ไขเมื่อ 12 ก.ค. 55 21:11:14 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:10:19

ความคิดเห็นที่ 38 ลองหาโลเกชั่น ถ่ายภาพเจ้าตัวเล็กดูสักภาพ เห็นรูปปั้นไดโนเสาร์ เลยนึกสนุกให้ขึ้นไปขี่ แต่เขากลัวตก คุณตาเลยต้องอยู่ใกล้ตลอด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:12:49

ความคิดเห็นที่ 39 ในที่สุด ก็เลยได้ภาพออกมาแบบนี้ ดูคุณตามีความสุขมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:13:34

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพซ้าย : เลยสวนสาธารณะไป ก็เป็นรางรถไฟ ที่อยู่สูงกว่าพื้นสวน  รางด้านนี้มาจากหาดใหญ่ (ผมชอบคิดเอาเองว่า ด้านนี้ลงใต้ทุกที....) ภาพขวา : หันมามองทางขวามือ ที่เคยเป็นสถานีเก่า จะเห็นว่าระดับพื้นสถานีอยู่สูงกว่ามาก  พื้นที่ตรงนี้แต่ก่อน น่าจะเป็นบ้านพักพนักงาน หรือไม่ก็ที่จอดรถด้านข้างสถานี ใครเคยมาตอนสมัยที่ยังมีสถานีก็ช่วยเพิ่มเติมด้วยนะครับ ผมลองพยายามค้นหาประวัติสถานีแห่งนี้ว่าถูกยุบเมื่อใดก็ไม่พบ ถ้าให้เดา ก็น่าจะอยู่ในช่วงปี พ.ศ.2525 - 2530 ซึ่งก่อนหน้านี้มีสถานีอื่นๆ ที่อยู่เรียงรายบนเส้นทาง หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์อีกหลายแห่ง เช่น บ้านพรุ, คลองรำ และท่าข่อย  โดย สถานีบ้านพรุ อยู่ระหว่าง หาดใหญ่ กับ ศาลาทุ่งลุ่ง  ส่วนสถานีคลองรำ และท่าข่อยนั้นอยู่ระหว่าง คลองแงะ กับ ปาดังเบซาร์ ครับ วันนี้ขอพักกระทู้ไว้ตรงนี้ก่อน พรุ่งนี้จะมาต่อกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 21:44:18

ความคิดเห็นที่ 41 เข้ามาชมด้วยคนค่ะ ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 23:11:27

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณครับสำหรับรีวิว แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 00:49:37 จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 55 23:41:27

ความคิดเห็นที่ 43 ตั้งแต่ปี 51 ที่เข้าไป ก็ไม่ได้ไปอีกเลยครับ อดีตสถานีศาลาทุ่งลุ่ง ขอบคุณคุณมิราชชมากครับที่เก็บภาพล่าสุดมาให้ชมกันอย่างละเอียด จุใจ รอติดตามชมต่อครับ/ Mongwin จากคุณ : หม่องวิน มอไซ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 06:30:28

ความคิดเห็นที่ 44 รออยู่นะคะ มาต่อเร็วๆค่ะ :D จากคุณ : beebae_candy เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 09:52:43

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีครับ คุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ และ คุณ Low Batt : ด้วยความยินดีครับ ขอบคุณที่คอยติดตามชมอย่างต่อเนื่อง สวัสดีครับ คุณหม่องวิน มอไซ : ด้วยความยินดีครับ และขอบคุณเช่นกันที่ เคยนำเสนอภาพ สถานีเก่า ช่วง หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ มาไว้ให้ดูก่อนหน้าที่ผมจะไป คุณเป็นคนพื้นที่ในภาคใต้หรือเปล่าครับ เพราะเคยเห็นหน้าตาจากในคลิ๊ปของคุณ ดูดุ น่ากลัวเหมือนกัน.. มาต่อกันครับ....เรากลับออกมาที่ถนนเพชรเกษมเช่นเดิม มุ่งหน้าลงใต้ต่อไป ภาพบน : ข้างหน้าเป็นโค้งซ้ายก่อนถึง ต.คลองแงะ สังเกตุเห็นมีห้างโลตัสอยู่ตรงหัวโค้งพอดี ภาพกลาง : เห็นป้ายระวังรถไฟแล้ว ข้างหน้าทางรถไฟจะย้ายข้าง จากซ้ายมือไปขวามือ แบบทะแยง ต้องใช้ความระมัดระวังกันหน่อย นะครับ ภาพล่าง : ผ่านสามแยกฝั่งขวา ก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ สังเกตุเห็นศาลเจ้าจีน GPS Map บอกว่า เป็น "ศาลเจ้าฮกเต็กแป๊ะกง" จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 09:56:32

ความคิดเห็นที่ 46 สวัสดีครับ คุณbeebae_candy : ด้วยความยินดีครับ ภาพบน : เลยสามแยกขวา ก็ยังไม่ถึงทางรถไฟ  ข้างหน้ามีจุดเล่นน้ำริมถนนที่ไม่ค่อยเห็น บนถนนสายนี้ ภาพกลาง : เจอป้ายทางไปสถานีคลองแงะ ฝั่งขวามือ เริ่มสังเกตุเห็นเครื่องกั้นรถไฟแล้ว เลยทางตัดรถไฟไป ก็เป็นแยกซ้าย ที่สามารถลัดไป วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี ได้ ภาพล่าง : ตรงจุดตัดข้ามทางรถไฟ(แบบทะแยงๆ) มีซอยเล็กๆ แยกไปทางขวา ขนานกับทางรถไฟ เลี้ยวไปทางนั้น มองดี จะเห็นหลังคาชานชาลาสถานีคลองแงะอยู่ลิบๆ ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 10:06:15

ความคิดเห็นที่ 47 เลี้ยวขวาเข้ามาประมาณ 200 เมตร ก็จะเห็นสถานีรถไฟคลองแงะ อยู่ซ้ายมือ ถนนเส้นนี้ สามารถลัดไปยัง ปาดังเบซาร์ได้ นับเป็นเรื่องบังเอิญที่ เข้ามายังถนนเส้นนี้ ที่เลียบทางรถไฟไปถึง ปาดังเบซาร์  แต่ผมไม่กล้าไปทางนี้ กลัวเป็นทางเปลี่ยว อันตรายและหลงได้  เอาไว้ตอนขากลับจาก ปาดังฯ  จะวิ่งทางนี้มาออกที่นี่ดู จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 10:13:07

ความคิดเห็นที่ 48 ลงรถเดินเท้าดีกว่า แม้หน้าสถานีจะเป็นลานกว้าง แต่แดดจ้า  หาร่มเงาให้กับ คนที่นั่งรอในรถ ผมยอมเดินไกลๆ ดีกว่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 10:15:45

ความคิดเห็นที่ 49 ภาพบน : ไปยืนตรงลานกว้างหน้าสถานี ถ่ายภาพหน้าตรง ที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นหลังคาชานชาลาสถานี ที่สร้างใหม่ ภาพล่าง : หันหลังกลับมาดูถนนหน้าสถานี จะเห็นว่ามีซอยเล็กๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีพอดี  (ถ้าดูในแผนที่ จะพบว่า ซอยนี้อยู่แนวเดียวกับถนนด้านหลังสถานี และตรงกับซอยฝั่งตรงข้ามถนนเพชรเกษมด้วย โดยอาคารสถานีไปตั้งขวางซอยพอดี) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 12:04:24

ความคิดเห็นที่ 50 คุณมิราชชครับ หากเป็นท่านในคลิปที่เป็นนักจักรยาน เข้าไปถ่ายทางรถไฟที่ชายแดนปาดังเบซาร์นั้น ไม่ใช่ผมครับ :D ผมเป็นคนสงขลา  หน้าตาใจดี ไม่ดุครับ ถามสมาชิกรถไฟไทยดอทคอมได้เลยครับ ติดตามชมต่อครับ จากคุณ : หม่องวิน มอไซ เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 12:08:59

ความคิดเห็นที่ 51 เนื่องจาก ทางเข้าสถานีแห่งนี้ ในภาพล่าง คห.46 ดูงงๆ ขอแสดงภาพถ่ายดาวเทียมกูเกิ้ล บริเวณรอบๆ สถานีรถไฟคลองแงะ ให้ดูกัน ว่าถนนที่แยกเข้ามา กับ ลักษณะจุดตัดทางรถไฟแบบทะแยงๆ เป็นแบบใด  และ แนวถนนซอยที่ ทอดยาวจาก ฝั่งตะวันออกของ ถนนเพชรเกษม ข้ามถนนเพชรเกษม ตรงมาอาคารสถานีคลองแงะพอดี แล้วผ่านทางรถไฟ ไปตัดถนนที่เข้ามายังสถานี นั้น มีลักษณะเช่นใด (เห็นเป็นถนนลูกรังสี ขาวปนน้ำตาลแดง) นอกจากนี้ ทางด้านใต้ จะเห็นถนนอีกสาย ที่ตัดข้ามทางรถไฟ ซึ่งเป็นถนนที่ลัดไปยัง ปาดังเบซาร์นั่นเอง แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 12:15:46 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 12:13:56

ความคิดเห็นที่ 52 ภาพบน : เป็นภาพสถานีคลองแงะ ก่อนที่จะมีการสร้างชานชาลาใหม่ จะเห็นตัวอาคารเต็มๆ ถ่ายภาพโดยคุณ Mongwin ลงในเว็บรถไฟดอทคอม ช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2551 ปัจจุบันตัวอาคารเองก็ได้มีการปรับปรุงใหม่ โดยเปลี่ยนบานประตู หน้าต่างเป็นอลูมิเนียมเกือบทั้งหมด แถมติดบานกระจกด้วย แต่ไม่เห็นเครื่องปรับอากาศ ภาพล่าง : เป็นภาพนักขี่จักรยานที่ คุณหม่องวิน มอไซ นำมาลงในเว็บ gimyong.com เลยพาให้เข้าใจว่าเป็นรูปของคุณหม่องวินเอง...ฮา  ทีแรกก็งง ว่าใช่นักขี่จักรยานหรือไม่ กลับมาดูอีกที เห็นรถจักรยานเขาจอดอยู่ฝั่งไทย และเห็นชื่อผู้นำลงที่ดูคล้ายกับเป็นชาวมาเลเซีย  นี่แหละครับ คนเรามักสรุปง่ายๆ โดยอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง และชื่อล๊อคอินเนมของคุณหม่องวิน ก็ชวนให้คิดว่าหน้าตา ต้องเป็นแบบนี้ แม้จะไม่เคยเห็นคลิ๊ปนี้มาก่อนก็ตาม... ต้องขอโทษ ที่เข้าใจผิดมา ณ ที่นี้ด้วย..ฮิฮิ  ว่าแต่ คุณหม่องวิน เองไม่รู้ว่าเคยลงภาพตัวท่านเอง มาด้วยหรือเปล่า เป็นคนสงขลา ก็อาจผิวขาวได้ เพราะคนจีนมาอยู่ที่สงขลาก็มาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 13:00:08

ความคิดเห็นที่ 53 ก้าวเข้ามาในรางนอก หันไปมองทั้งสองด้าน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 14:48:42

ความคิดเห็นที่ 54 ลองถ่ายภาพสถานี ในมุมเฉียงดูบ้าง จะเห็นตัวอาคาสถานีเดิมซ่อนอยู่หลังชานชาลาหลังใหม่ ที่สร้างคล้ายกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 14:51:13

ความคิดเห็นที่ 55 ภาพซ้าย : เป็นห้องทำงานนายสถานี ดูใหม่ เพราะคงปรับปรุงมาไม่นาน ภาพขวา : ท่านนายสถานีเห็นผม ได้เชิญเข้าไปถ่ายภาพ หัวรถจักรไอน้ำจำลอง อย่างมีอัธยาศัยดี และคาดไม่ถึงว่า คนทางใต้ดูแล้วน่าจะดุๆ แต่กลับใจดีมาก ผิดกับสถานีทางเหนือ บางแห่งที่ไม่อยากมายุ่งกับเรา  ผมเลยขออณุญาตถ่ายภาพ เครื่องตราทางสะดวก ที่ตั้งเด่นกลางห้องมาให้ดู นับเป็นอุปกรณ์เก่ายังสามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน ประตูด้านหลัง ที่เห็นสว่างจ้าๆ ก็คือ ด้านที่หันออกไปทางถนนเพชรเกษม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 14:58:51

ความคิดเห็นที่ 56 ผมเลยเก็บภาพหัวจักรไอน้ำที่วางในห้องมาให้ดูกันชัดๆ เป็นรุ่นมิกาโด้ ล้อ 2 - 8 - 2 เลขที่ 921  เคยมีอยู่จริง ปัจจุบันไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน (พยายามค้นหาข้อมูลในเน็ตไม่เจอ เจอแต่ขบวนเลขที่ 921 ที่ไปเขื่อนป่าสัก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:10:32

ความคิดเห็นที่ 57 ภาพซ้าย : เสร็จแล้วก็ขอตัวออกมาเก็บภาพข้างนอกต่อ เลยขอภาพตัวเองไว้เป็นที่ระลึกสักภาพครับ (หลานชายผมพอดีเดินมาเข้าห้องน้ำ เลยให้ถ่าย) ภาพขวา : เดินมาทางขวามือ ด้านใต้ของอาคารเป็นส่วนที่พักผู้โดยสาร ที่คงเหลือแค่นี้หลังปรับปรุงอาคาร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:14:06

ความคิดเห็นที่ 58 ภาพซ้าย :  เดินเข้าไปในห้องพักผู้โดยสาร(แบบเปิดโล่ง) ด้านผนังอาคารมีการจัดวางสวนประดับเล็กๆ โดยใช้เครื่องชั่งแบบโบราณ วางเป็นประธาน ดูแล้วเก่ากว่าที่เห็น ที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ภาพขวา : ที่ผนังมีแผ่นโปสเตอร์ ตารางเดินรถอยู่ ดูเผินๆ เหมือนกับว่ามีขบวนรถผ่าน และจอดที่สถานีนี้เยอะ แต่พออ่านรายละเอียดพบว่ามีเพียงขบวนเดียวที่จอด คือ ขบวน 35 กรุงเทพฯ - บัตเตอร์เวอร์ส กับ ขบวน 36 บัตเตอร์เวอร์ส - กรุงเทพฯ นอกนั้นเป็นสายสุไหงโกลก (มีเฉพาะขบวน 169 และ 170 ที่ไปแค่ยะลา)   แต่สังเกตุ ดีๆ จะพบว่า เวลาในตารางนั้นระบุที่ หาดใหญ่ กับ กรุงเทพฯ สถานีแห่งนี้คงใช้สำหรับการจองรถไฟโดยไปขึ้นที่หาดใหญ่ นะครับ   อ้อ..ถ้าหากต้องการจะดูรถไฟมาจอดที่นี่ คงต้องเป็นช่วงเช้า กับเย็นนะครับ ในอันที่จริงยังมีอีกขบวนที่วิ่ง ก็คือ รถลังกาวี ที่เรียกเป็นทางการว่า หาดใหญ่ - กัวลาลัมเปอร์ เลขที่ 953 ผ่านสถานีนี้เวลาประมาณ สี่โมงเย็นครึ่ง และเที่ยวกลับ กัวลาลัมเปอร์ - หาดใหญ่ เลขที่ 954 ผ่านสถานีนี้ประมาณ 9 โมงเช้า โดยสองขบวนนี้ไม่จอดที่สถานีนี้ วิ่งผ่านเฉยๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:26:30

ความคิดเห็นที่ 59 ภาพซ้าย : ผมเดินทะลุมายังด้านหลังสถานี แล้วหันกลับไปถ่ายภาพสถานีฝั่งห้องพักผู้โดยสาร ดูๆ แล้วก็ยังคงความคลาสสิคไว้ ภาพขวา : หันหน้าเดินต่อไปข้างหน้า เป็นถนนเพชรเกษม ตอนนั้นผมยังรู้สึกประหลาดใจว่า อยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ นึกว่าเข้ามาลึก หรือมีเนินเขาขวางไว้เหมือนสถานีช่องเขา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:29:56

ความคิดเห็นที่ 60 เดินถอยห่างสถานีคลองแงะออกมา เพื่อเก็บภาพอาคารสถานีด้านหลังเต็มๆ สักภาพ แต่ก็มีต้นไม้และอาคารไม้มาบดบังบางส่วนอยู่  แต่มุมมองนี้ ก็เป็นภาพที่คนมาใช้บริการเห็นเป็นประจำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:32:34

ความคิดเห็นที่ 61 ผมเดินออกมาถึงถนนเพชรเกษม หันไปเก็บภาพสถานีคลองแงะ ที่มองเห็นจากริมถนนเลย โดยมองไปทางเหนือ ที่ไปหาดใหญ่  จะสังเกตุเห็นป้ายรถเมล์อยู่ตรงปากซอยด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:35:25

ความคิดเห็นที่ 62 ย้ายมายืนปากซอยด้านเหนือบ้าง แล้วหันกลับไปมองด้านใต้ที่ลงไป อ.สะเดาบ้าง จะเห็นปากซอยฝั่งตรงข้ามอยู่ตรงกับ ทางเข้าสถานีพอดี  ตรงทางเข้าสถานีนี้ ยังไม่ถึงทางแยกลัดไป วัดช้างไห้ปัตตานีนะครับ  ถ้าเพื่อนๆ มาจากหาดใหญ่ ถึงทางแยกไปวัดช้างไห้ ก็ถือว่าเลยทางเข้าสถานีแล้วครับ แต่ง่ายๆ ให้เลี้ยวขวาตรงทางรถไฟ จะแน่นอนกว่าครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:38:27

ความคิดเห็นที่ 63 เดินกลับมายังชานชาลาสถานี มองไปทางด้านเหนือ ตรงนี้จะเห็นลานจอดรถหน้าสถานีด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:40:15

ความคิดเห็นที่ 64 เดินไปถ่ายภาพป้ายชื่อสถานีตามประเพณีปฏิบัติของการมาเยือนสถานีรถไฟ เริ่มจากด้านเหนือก่อน ชานชาลาทางเดินนี้ ดูสวยสด เมื่อรวมกับต้นไม้ ดอกไม้ในกระถาง ดูหวานแหวว  เหมือนที่สถานีสวีเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:43:21

ความคิดเห็นที่ 65 ภาพขวา : เดินผ่านป้ายบอกชื่อสถานีใกล้เคียง ไม่มีตัวเลขบอกระยะทางระหว่างสถานี ผมเลยไปค้นหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ครับ  เห็นตัวเลขกิโลเมตรเยอะๆ ไม่ต้องแปลกใจ เพราะสถานีย่อยๆ ที่เคยมีระหว่างหาดใหญ่ กับ ปาดังเบซาร์ ได้ถูกยกเลิกไปนานแล้ว ระยะทางระหว่างสถานีเลยไกลมาก และที่สำคัญ สถานีแห่งนี้เป็นสถานีสุดท้ายของประเทศไทย ของปลายรางด้านนี้ ภาพซ้าย : ป้ายชื่อสถานีด้านเหนือ สังเกตุลักษณะตัวอักษรจะดูทันสมัยกว่าแห่งอื่น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:48:30

ความคิดเห็นที่ 66 เดินเลยชานชาลาไปถ่ายภาพอีกด้านของป้ายด้านเหนือ ที่มีชานชาลาสถานีรวมด้วย แต่ต้นไม้ขึ้นสูงไปหน่อย เกือบบังป้ายนะครับ (มาเห็นอีกด้าน จึงทราบว่าเป็นรูปแบบกำแพงต้นไม้ ไม่ใช่ปล่อยให้ต้นไม้ขึ้นรกโคนป้าย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:51:07

ความคิดเห็นที่ 67 ภาพซ้าย : จากป้ายสถานีด้านเหนือ ผมมองข้ามรางไปยังรถผมที่จอดรออยู่ในร่ม ภาพขวา : ลองซูมภาพรางด้านเหนือดู ที่เป็นตัดกับถนนเพชรเกษม โดยที่ประแจรวมรางอยู่ก่อนถึงจุดตัดกับถนน (ไม่งั้นคงยุ่ง ถ้าหากมีรถมาจอดหลีกขวางถนนเพชรเกษม) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:55:54

ความคิดเห็นที่ 68 ยังพอมีเวลา ไปถ่ายภาพป้ายสถานีด้านใต้บ้าง ทางเดินสีสดใสเช่นกัน ระหว่างทางก็มีป้ายบอกชื่อสถานีใกล้เคียง ที่มีสภาพเก่าไม่แพ้ทางด้านเหนือ สุดชานชาลาก็คือป้ายชื่อสถานีที่ต้องการ สังเกตุว่า ทั้งด้านเหนือและใต้จะมีกล้องวงจรปิด เอาไว้ดูรถไฟไกลๆ ด้วยครับ (เข้าใจนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ร่วมกัน ไม่ต้องออกมาชะโงกดูรถไฟ ตอนสับประแจรางให้ลำบากแล้ว) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 15:59:44

ความคิดเห็นที่ 69 เดินเลยชานชาลาด้านใต้ไปนิด เพื่อเล็งป้ายด้านใต้อีกด้านเช่นเคย  สังเกตุกำแพงต้นไม้ ที่อยู่โคนป้าย ด้านนี้มีการตัดแต่งแล้ว แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 16:02:05 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 16:01:09

ความคิดเห็นที่ 70 ภาพซ้าย : ผมออกไปที่ราง 2 เพื่อซูมภาพสถานีคลองแงะจากระยะไกล  ดูจะเป็นภาพแนวเฉียงอีกด้านกับภาพในคห.54 นะครับ ภาพขวา : หันไปมองรางด้านใต้ต่อไป ที่มุ่งไปปาดังเบซาร์ สังเกตุเห็นป้ายขาวๆ ตรงปลายรางไกลๆ นั่นแหละคือจุดตัดกับถนนที่ลัดไปปาดังเบซาร์ ตามแผนที่ ในคห.51 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 16:06:49

ความคิดเห็นที่ 71 เสร็จแล้ว ผมก็รีบขับรถออกจากสถานีคลองแงะทันที แต่มุ่งลงใต้ไปตามถนนเพชรเกษม เพราะไม่แน่ใจเส้นทางลัดไป ปาดังเบซาร์ กลัวเปลี่ยว ถนนเล็ก ก็ใช้ถนนเลียบทางรถไฟมาประมาณ 300 เมตรก็เลี้ยวซ้าย ข้ามทางรถไฟกลับมายังถนนเพชรเกษม ภาพบน : เป็นจุดตัดทางรถไฟ ก่อนจะถึงปากซอย ถนนเพชรเกษม (ต้องไปกลับรถ เพื่อไป สะเดาด้านขวามือ ภาพล่างซ้าย : เนื่องจากผมไม่ได้จอดรถลงไปถ่ายภาพ เพราะไม่มีเวลาพอ เลยขอนำภาพของคุณ Mongwin ที่ถายไว้ในเว็บรถไฟดอทคอม (คห.22) ที่หันไปทางสถานีคลองแง มาให้ดู พอดีมรถไฟกำลังมาเลยบังสถานีไป เห็นแต่ต้นไม้ใหญ่ริมทาง ที่เห็นจากภาพขวา คห.70 ภาพล่างขวา : เช่นกันขอภาพคุณ Mongwin มาให้ดูกัน ว่าจากจุดตัดทางรถไฟ(น่าจะใช้) หันไปมองทางใต้ จะเห็นสะพานใกล้ๆ กัน 2 จุด เป็นแบบขึ้นโครง กับ แผงขึ้น คล้ายกับที่สถานีศาลาทุ่งลุ่ง เพียงแต่ที่นี่  2 สะพานตั้งอยู่ใกล้กันเลย เพื่อข้ามคลองลำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 16:36:54

ความคิดเห็นที่ 72 ตั้งแต่เกิดมา  ยังไม่เคยนั่งรถไฟจากหาดใหญ่ลงไป ปาดังเลย  ได้แต่นั่งรถ มองผ่านสถานี ต่างๆ  อืม  เก่าได้ใจ จากคุณ : pa_joke เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 17:26:33

ความคิดเห็นที่ 73 คุณpa_joke : ไม่แปลกครับ เพราะรถไฟท้องถิ่น สายหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ ได้ยกเลิกการเดินรถไปกว่า 20 ปีแล้ว  ปัจจุบันมีแค่รถไฟด่วนพิเศษไป มาเลเซีย 2 ขบวนเท่านั้นครับ  และนี่เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ผมมาสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เพื่อค้นหาข้อมูลนี้ด้วยตัวเอง ก่อนออกจาก คลองแงะ ขอกางแผนที่ให้ดูว่า ทางลัดไปวัดช้างไห้ จ.ปัตตานี นั้นไปจาก คลองแงะได้อย่างไร  เพราะปกติจะไปจากหาดใหญ่ ตามถนนสาย 43 ที่เป็นถนนเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ด้านใต้ ไป อ.จะนะ, อ.เทพา และ อ.หนองจิกแล้วเลี้ยวขวาลงใต้มายัง อ.โคกโพธิ์ แล้วตรงมายังวัดช้างไห้ หลวงปู่ทวด   ซึ่งทางลัดจาก คลองแงะ นี้จะไป ทาง อ.นาทวี ตรงไป อ.โคกโพธิ์เลย แต่ดูลักษณะเส้นทางแล้วหยักๆ ไม่เรียบ แสดงว่า มีทางโค้งมาก เป็นถนนเล็กไม่เหมือนสาย 43 ที่ดูเป็นเส้นตรงครับ ส่วนทางรถไฟนั้น สะดวกมาก จะผ่าน อ.จะนะ, อ.เทพา, อ.โคกโพธิ์ แล้วก็จอดที่วัดเลย  สถานีรถไฟช้างไห้ เป็นสถานีที่ตั้งใหม่ (ประมาณว่า หลังจากยุบเลิกสถานีรายทางไป ปาดังเบซาร์ แล้วด้วยซ้ำ) มีรถไฟจอดถึง 4 ขบวน คือ รถเร็ว 1 ขบวน 171 กรุงเทพฯ - สุไหงโกลก กับ รถธรรมดา อีก 3 ขบวน คือ  141 ชุมทางเขาชุมทอง - สุไหงโกลก, 447 สุราษฎร์ธานี - สุไหงโกลก, 455 ชุมทางเขาชุมทอง - ยะลา และ 463 พัทลุง - สุไหงโกลก ครับ แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 55 19:43:34 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 17:54:01

ความคิดเห็นที่ 74 ภาพบน : ตอนนี้เรากลับมาอยู่บนถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าลงใต้ต่อไป ถนนช่วงนี้ดีมากๆ มีต้นไม้สวยๆ บนเกาะกลาง ภาพกลาง : กำลังจะผ่านมัสยิดสวยริมถนน ข้อมูลใน GPS Map ระบุชื่อว่า "มัสยิดมูฮิบบีน" ภาพล่าง : เส้นทางเรียบ โล่งกว้าง น่าวิ่งรถ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 17:58:34

ความคิดเห็นที่ 75 ภาพบน : ผ่านวัดหัวถนนฝั่งขวามือ หันไปดู โอ้โฮ.. มีพระองค์โต งดงามมากอยู่ด้วย ไม่เคยทราบมาก่อนเหมือนกัน ภาพล่าง : ถัดมาเล็กน้อย ก็จะข้ามคลองสะเดา มีป้ายบอก เข้าเขตเทศบาลเมืองสะเดาแล้ว  คลองสะเดานี้ ใน GPS Map ระบุชื่อว่า เป็นคลองอู่ตะเภา ผมเลยค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ตพบว่าเป็นคลองเดียวกัน ที่ไหลจาก ลุ่มน้ำทางตะวันออกของ อ.สะเดา ซึ่งตรงนั้นได้มีการสร้างเขื่อนคลองสะเดา แล้วยังมี น้ำตกหลายแห่ง เช่น น้ำตกโตนดาดฟ้า น้ำตกโตนลาด น้ำตกวังหลวงพรหม และแถมด้วยอุโมงค์ เขาน้ำค้าง มีเขตอุทยานแห่งชาติ เขาน้ำค้างด้วย สามารถเดินทางไปได้โดยถนนสาย 4243 จากสี่แยก กลางเมืองสะเดา ไปเป็นระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 18:21:02 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 18:17:56 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 18:16:12

ความคิดเห็นที่ 76 ก่อนเข้า อำเภอสะเดาขอกางแผนที่ให้ดู ว่าสถานที่ต่างๆ ที่ผ่านมาอยู่ตรงไหนบ้าง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 18:29:01

ความคิดเห็นที่ 77 โดยเฉพาะทางแยกไป ปาดังเบซาร์ นั้น มีถึง 3 จุด อาจทำให้งงได้ (ตอนที่ผมไปยังแปลกใจว่าทำไมมีหลายทางจังเลย เพราะ GPS Map ผมไม่ได้ Update ข้อมูลถนนเลี่ยงเมืองสะเดา มีแค่ ถนนสาย 4054 ที่แยกไปปาดังฯ ตรงกลางเมืองเท่านั้น) เพราะปัจจุบันมีการสร้างถนนเลี่ยงเมืองเหมือนถนนวงแหวนที่กรุงเทพฯ ไปเชื่อมกับ ถนนสาย 4054 ที่ไป ปาดังฯ เลยทำให้ได้รับความสะดวกไม่ต้องวิ่งผ่านเมือง  ถนนเลี่ยงเมืองด้านใต้นี้ เป็นการขยายถนนอิสลามบำรุงบางส่วน แล้ววกไปออก ถนนเพชรเกษม โดยที่ ถนนอสิลามบำรุงเดิม ก็ทอดยาวลงไปอีกไกล กว่าจะไปออกถนนเพชรเกษม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 18:37:23

ความคิดเห็นที่ 78 กลับเข้ามาเดินทางต่อ ภาพบน : เริ่มเข้ามาในเขตเทศบาลเมืองสะเดา ต้นไม้เกาะกลาง ดูสวยดี ภาพกลาง : มองเห็นป้ายบอกทางแยกขวา เข้าถนนเลี่ยงเมืองด้านเหนือ ไปได้หลายสถานที่ ภาพล่าง : มาถึงแยกแรก ที่ไปปาดังเบซาร์ได้แล้ว แต่ผมจะยังไม่เลี้ยวไปตอนนี้ ขอตรงไปก่อน ให้สุดด่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่ ด่านสะเดาครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 18:41:56

ความคิดเห็นที่ 79 ภาพบน : เข้ามาถึงสามแยกกลางเมืองสะเดาแล้ว มีป้ายบอกทางไป ปาดังเบซาร์ข้างหน้า ภาพล่าง : กำลังผ่านสามแยกไป ปาดังฯ ตรงหัวมุมถนนขวามือ เป็นอาคารใหม่ ขนาดใหญ่ ค้นข้อมูลดู ระบุว่า เป็นของ ตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.)  ถนนที่แยกไป ปาดังเป็นถนนสาย 4054 เป็นถนน 4 ช่องทาง เหมือนถนนเพชรเกษมเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 18:50:17

ความคิดเห็นที่ 80 ภาพบน : ตรงลงใต้มาเรื่อยๆ กำลังผ่านหน้าโรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์ (ชื่อโรงเรียนแถวนี้ ทำไมยาวจัง) เจอป้ายบอกทางแยกไปปาดังฯ อีกจุด ทางถนนเลี่ยงเมืองด้านใต้ ภาพกลาง, ภาพล่าง : ผมตรงดิ่งลงใต้ต่อไป เป็นสวนยางพารามากมาย ถนนดีมาก แทบไม่น่าเชื่อว่าอยู่ห่างจากชายแดนไม่กี่สิบกิโลเมตร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:05:53

ความคิดเห็นที่ 81 ภาพบน : เกือบถึงชายแดนแล้ว ความฝันกำลังเป็นจริง เคยไปแต่ชายแดนเหนือ และอีสานที่ว่าไกล แต่ภาคใต้ไม่เคย แถมยังดูเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย เกือบไม่ได้มา เพราะระเบิดที่หาดใหญ่แล้ว  ข้างหน้าเป็นป้ายบอกว่าด่านอยู่ข้างหน้า ภาพกลาง : มาถึงหน้าที่ทำการด่านสะเดา พบเครื่องกั้นถนนข้างหน้า อ้าว... แล้วจะไปต่ออย่างไรกัน เพราะผมไม่ได้ต้องการนำรถออกนอกประเทศหน่อย จะเข้าด่านไปทำไมกัน ยังไม่ถึงตลาดชายแดนเลย ภาพล่าง : เลยจอดดูว่าเขาไปกันอย่างไร เห็นรถมอเตอร์ไซด์วิ่งอ้อมเกาะเข้าไป เลยลองทำตามดู...... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:10:03

ความคิดเห็นที่ 82 ปรากฏว่าไม่เป็นผล อ้อมเกาะมาออกถนนใหญ่ก็เจอเครื่องกั้นอีกชุด แต่มีช่องเล็กๆ ให้รถมอเตอร์ไซด์วิ่งลอดไปได้ อ้าว..แล้วรถยนต์จะทำอย่างไร ก็เลยต้องถามชาวบ้านแถวนั้น เขาตอบว่า ให้เลี้ยวเข้าด่านเลย ด่านยกเลิกแล้ว ไม่มีการตรวจเอกสารอะไร ผมก็เลยเลี้ยวกับมาเข้าด่านตามระเบียบ ด่านโล่ง ไร้ เจ้าหน้าที่ใดๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:14:07

ความคิดเห็นที่ 83 ด่านโล่ง วิ่งฉลุย เห็นมีแต่รถมาจอดหลบแดดเท่านั้น พ้นออกมา ก็เข้าสู่ถนนเดิม เลี้ยวซ้ายตรงไปยังพรมแดนไทย-มาเลเซีย ด้วยระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:25:46

ความคิดเห็นที่ 84 ภาพบน : เข้าสู่เขตบ้าน "ไทย-จังโหลน" ดูเหมือนพื้นที่ร่วมระหว่างไทย-มาเลเซียเลย ยิ่งมาเห็นรถที่จอดข้างหน้า แผ่นป้ายทะเบียนมาเลเซียอีก ตกลงเป็นแผ่นดินไทยหรือเปล่านี่... ภาพกลาง : เริ่มเข้าเขตชุมชนแล้ว มองเห็นด่านอยู่ลิบๆ สุดถนนข้างหน้า ภาพล่าง : ด่านสะเดามีตึกรามบ้านช่องเยอะ เจริญขนาดนี้เชียวหรือนี่ ? หรือเป็นเพราะว่า คนไม่ค่อยนิยมไป มาเลเซียทาง ด่านสุไหงโกลก เพราะต้องผ่านพื้นที่เสี่ยงภัย (หรือแม้แต่ การไป อ.เบตง ก็นิยมผ่านมาเลเซีย เข้าทางนี้) เลยทำให้ ชุมชนหน้าด่านสะเดาเจริญเติบโตได้ขนาดนี้  มองเห็นหอนาฬิกาอยู่ไกลๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:32:21

ความคิดเห็นที่ 85 ภาพบน : ใกล้ถึงด่านแล้ว อาคารด่านมีลักษณะที่คุ้นตา เหมือนด่านเก็บเงินค่าทางด่วน ดูอีกทีก็เหมือนมีถนนวิ่งข้ามอยู่ข้างบน..อิอิ ภาพล่าง : ผมขับรถมาได้แค่นี้ ต้องเลี้ยวกลับ รีบถ่ายภาพจากในรถอย่างรวดเร็ว พอดีไม่มีรถตามหลังมา  เดี๋ยวต้องลงไปหาข้อมูลการนำรถออกจากประเทศไทย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:34:59

ความคิดเห็นที่ 86 ถ้าอีก 5 ปีข้างหน้า หาก จขกท มาที่สะเดาอีก อาจได้สัมผัสถนนมอเตอร์เวย์ หาดใหญ่-สะเดาครับ มีโครงการที่จะก่อสร้างในอีก 2 ปีนี้แล้ว เนื่องจากสภาพการจราจรที่แออัดของถนนสายนี้ซึ่งจากการศึกษามีรถผ่านเข้าออกด่านชายแดนนี้ระหว่างหาดใหญ่-สะเดา มากกว่า 3 แสนคันต่อวัน ทางรัฐบาลจึงกำหนดให้ดำเนินการก่อสร้าง ประกอบกับด่านสะเดาสร้างรายได้เข้าประเทศมากท่สุดในบรรดาด่านทั่วประเทศทั้งหมด ซึ่งสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปีครับ  รวมถึงรองรับ AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจังหวัดสงขลาเป็นเจ้าภาพในการเป็นประตูสู่อาเซียนในอีก 3 ปีข้างหน้าครับ ส่วนถนนที่เห็นว่าดี จริงๆแล้ว ถ้าเทียบกับมาเลเซีย เราเองยังอับอายขายขี้หน้ามากครับ ในบรรดาประเทศในเขตอาเซียน มาเลเซีย ถนนดีที่สุดแล้วครับ คนมาเลเซียที่มาเที่ยวหาดใหญ่พอผ่านเขตประเทศเค้า ก็คงจะสัมผัสสภาพพื้นผิวถนนได้ครับว่าแตกต่างกันมาก นี่จึงเป็นเหตุผลนึงในการก่อสร้างมอเตอร์เวย์นี้ครับ ในการนี้จึงขอแนบโครงการที่ สนข ดำเนินการก่อสร้างมาให้ชมด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 19:49:39 แก้ไขเมื่อ 13 ก.ค. 55 19:38:30 จากคุณ : jamekoong เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:36:36

ความคิดเห็นที่ 87 ปรากฏว่าหาที่จอดรถแถวๆ หน้าด่านไม่ได้เลย ไม่มีแม้แต่สถานที่จอดรถเก็บเงินแบบด่านแม่สาย ต้องขับรถย้อนกลับออกมาไกลประมาณครึ่งกิโลเมตร ถึงจะพอมีช่องว่างหน้าร้านอาหาร ภาพบน : ลงรถมองย้อนกลับไปที่ด่าน อู้ฮู..ไกลน่าดูเหมือนกัน ภาพล่าง : หันมามองหน้ารถ อยู่ตรงปากซอย 13 พอดี (ชื่อซอย ดูแปลก ที่เอาชื่อ บ้านไทย-จังโหลนไว้ข้างหน้าก่อน แทนที่จะใช้ชื่อว่า ไทย-จังโหลน 13 ไปเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:40:04

ความคิดเห็นที่ 88 สวัสดีครับ คุณjamekoong : ต้องขอบคุณที่นำข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ ถนนมอเตอร์เวย์ แสดงว่าเป็นถนนปิด มีรั้วรอบขอบชิดเหมือนสาย ลาดกระบัง - ชลบุรี คงต้องเสียเงินค่าผ่านทางแน่นอน..เสียดายที่ผมไม่ได้ข้ามไป มาเลเซีย อาจได้สัมผัสถนนดีๆ กับเขาบ้าง จะว่าไปแล้ว ถนนรอบนอก ในเขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี นี้ผมก็คิดว่าสุดยอดแล้วนะครับ สำหรับประเทศไทย อ้อ..และตอนนี้ถนนสายเอเชีย บางปะอิน - นครสวรรค์ก็ได้ปรับปรุงไปเป็นข้างละหลายๆ เลน วิ่งสะดวกมากๆ   ส่วนถนนที่ควรปรับปรุงเพิ่มช่องทางก็คือถนนเพชรเกษมสายใต้ ช่วง หัวหิน ไปถึงทุ่งสง นี่แหละ ที่ยังมีแค่ 2 ช่องทางต่อด้าน ทำให้รถติด ขับยากมากในช่วงเทศกาลหยุดยาว ครับ แต่การพัฒนาถนนช่วง หาดใหญ่ - สะเดา นี้ พูดตรงๆ ก็คือเอาใจ นักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากมาเลเซีย เพราะนิยมมาหาดใหญ่มากจริงๆ เกือบจะเรียกว่ามีคนไทยน้อยกว่าคนมาเลเซียในช่วงเทศกาลเลยก็ว่าได้ มาต่อกัน ครับ ในเมื่อจอดรถหน้าร้านเขาก็ต้องเข้าไปอุดหนุนกันหน่อย เพราะกว่าผมจะไปทำภาระกิจถ่ายภาพหน้าด่าน ก็คงใช้เวลานาน เพราะระยะทางที่เดินไปถึงด่าน ก็ประมาณครึ่งกิโลเมตรแล้ว  ท้องก็เริ่มหิวด้วย กลัวไปปาดังเบซาร์ แล้วจะไม่มีร้านอาหารไทยทานกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 13 ก.ค. 55 19:51:54