ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากตัดสินใจว่าจะไปเที่ยวนครพนมแล้วก็เริ่มหาข้อมูลการเดินทาง โดยตัดสินใจเลือกการเดินทางจากเวลาที่มีทั้งหมด 3 วัน ก็เลยตัดสินใจว่าจะใช้การเดินทางทางอากาศเพราะน่าจะประหยัดเวลาในการเดินทางและดูไม่เหนื่อยจนเกินไปนัก สายการบินที่ให้บริการไปนครพนมตอนนี้จะมีเพียงสองสายการบินคือ แอร์เอเชีย(1เที่ยว/วัน) และนกแอร์(2เที่ยว/วัน) ถ้าใครอยากเดินทางโดยวิธีนี้ก็เลือกราคาและช่วงเวลาเอาตามใจชอบได้เลยครับ ส่วนวันนั้นผมเลือกไปกับหางแดงด้วยเหตุผลหลักคือราคาตั๋วช่วงวันนั้นถูกกว่านกพอสมควร ถึงแม้เวลาที่เที่ยวบินไปถึงจะเป็นช่วงบ่ายๆแล้วก็ตาม(14.25น.) หรือใครจะเลือกเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ได้เช่นกัน แต่อาจจะเหนื่อยในการเดินทางหน่อยเพราะระยะทางจากกรุงเทพฯมานครพนมประมาณ 740 กิโลเมตรเลยทีเดียว หรือถ้าใครอยากจะมาเที่ยวแบบ Backpack ก็สามารถใช้รถโดยสารประจำทางโดยขึ้นรถจากหมอชิต2 มาได้เหมือนกันครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:50:34

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงที่เดินทางไปเป็นช่วงที่กรุงเทพกำลังร้อนมากแถมฟ้าขมุกขมัวอีกตะหากครับ ผมแอบกังวลพอสมควรว่าไปถึงจุดหมายแล้วอากาศจะเป็นยังไงบ้าง เห็นท้องฟ้าบนเครื่องบินก็แอบภาวนาให้อากาศที่นครพนมดีๆ กลัวว่าจะเที่ยวไม่สนุกถ่ายรูปไม่สวย จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:52:14

ความคิดเห็นที่ 3 ใช้เวลาเดินทางแค่ชั่วโมงนิดๆผมก็มาถึงสนามบินนครพนมแล้วครับ ท้องฟ้าสดใสทำให้ใจชื้นขึ้นเป็นกองเลยล่ะฮะ ภาพนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากคนข้างตัวมาเป็นนางแบบให้ ดูสิครับเล่นใส่เสื้อสกรีนยันต์ 9 ยอดมาเที่ยวนครพนมกันเลยทีเดียว ปล.รูปที่สี่ก็เริ่มเอียงแล้วฮะรีวิวผม (แซวตัวเองก่อนเดี๋ยวจะโดนคนแถวๆนี้แซว) จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:54:08

ความคิดเห็นที่ 4 มาเที่ยวนครพนมทั้งทีก็เอาแผนที่มาให้ทำความรู้จักกันคร่าวๆก่อน “พระธาตุพนมค่าล้ำ วัฒนธรรมหลากหลาย เรณูผู้ไท เรือไฟโสภา งามตาฝั่งโขง” “นครพนม” เป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคอีสานตอนบน ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบสูง เป็นจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ด้านตะวันออกติดกับประเทศลาวโดยมีแม่น้ำโขงเป็นแนวกั้นเขตแดน ด้านทิศเหนือติดกับจังหวัดบึงกาฬ(แต่เดิมเป็นจังหวัดหนองคาย) ทิศใต้ติดจังหวัดมุกดาหาร และทิศตะวันตกติดจังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม เป็นจังหวัดที่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์มาแต่โบราณกาล ในฐานะเมืองเก่าเคียงคู่อยู่กับอาณาจักรศรีโคตรบูรณ์ ซึ่งแต่แรกเริ่มเดิมทีนั้น มีพื้นที่อยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และต่อมาก็ได้ย้ายมาอยู่ฝั่งขวาสลับกันหลายครั้ง ตำนานแห่งประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ตีเมืองเวียงจันทน์ได้ ชื่อของดินแดนนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น "มรุกขนคร" และต่อมาได้โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเป็น "นครพนม" เพื่อความเหมาะสมตามสภาพพื้นที่ด้วย ด้วยความเป็นอาณาจักรที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาเก่าก่อน ประกอบกับแม่น้ำโขงเป็นแหล่งวัฒนธรรมของคนหลายชนเผ่าดังนั้น นครพนมจึงมีโบราณสถาน มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อยู่มาก เขตการปกครองออกเป็น 12 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครพนม อำเภอท่าอุเทน อำเภอธาตุพนม อำเภอนาแก อำเภอนาหว้า อำเภอบ้านแพง อำเภอปลาปาก อำเภอโพนสวรรค์ อำเภอเรณูนคร อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาทม และอำเภอวังยาง ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนั้นเดี๋ยวผมจะพาไปเที่ยวกันต่อไปครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:57:28

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากเข้ามาภายในตัวอาคารสนามบินแล้วผมก็เดินออกมาหาบู้ทรถเช่าที่ได้โทรติดต่อกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว หาไม่ยากครับเพราะอาคารสนามบินไม่ใหญ่มากเดินออกประตูมาก็เจอเลย ที่ตัดสินใจเช่ารถขับเองเพราะจากการวางแผนเวลาการเที่ยวแล้ว ถ้าจะทำให้ได้ตามโปรแกรมที่วางไว้ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งผมก็ได้ข้อมูลจากในบีพีเนี่ยล่ะครับว่าที่นี่มีรถเช่าขับเองอยู่เจ้านึงให้บริการอยู่ที่สนามบินเลย ให้บริการทุกอย่างทั้งรถเช่าขับเอง(1,500/วัน)(เก๋ง,กระบะมีหลายยี่ห้อ) รถตู้เช่ามีคนขับ(1,800/วัน) รถตู้เข้าเมืองก็มีบริการ(100บาท/คน) การเช่าขับเองก็ง่ายๆแค่มีสำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาใบขับขี่เตรียมไปเอง 1 ใบและต้องวางมัดจำเป็นเงินสดไว้ 10,000 บาท(ตอนคืนรถก็หักค่าเช่าจากเงินตรงนี้เลยครับ) เบอร์ติดต่อก็ 081-8721215, 089-5736324, 042-522220, 042-522707 ติดต่อเจ๊ขำ (ผู้หญิงในรูปนั่นล่ะครับ) (เห็นว่าคงมีประโยชน์สำหรับคนที่จะไปเที่ยวที่นั่นเลยขอลงไว้ให้แล้วกันฮะ) จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 12:59:37

ความคิดเห็นที่ 6 ถึงจะเตรียมข้อมูลในการเที่ยวมาพอสมควรแล้วก็ตาม แต่เนื่องจากเป็นการมาเที่ยวนครพนมครั้งแรกของผมและคนข้างๆเลยยังไม่ค่อยมั่นใจในการเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆนัก ที่สนามบินก็ไม่มีแจกแผนที่หรือเอกสารเหมือนกับสนามบินใหญ่ๆที่อื่น ก็เลยตัดสินใจขับรถเข้าเมืองไปที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครพนมก่อนเพื่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวที่ผมวางแผนมา แผนของผมคือตั้งใจว่าจะมาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดให้ครบทั้ง 7 องค์และถ้าพอมีเวลาก็จะเที่ยวตามที่ท่องเที่ยวต่างๆด้วย ททท.นครพนม ตั้งอยู่บริเวณถนนสุนทรวิจิตรหรือถนนเรียบเขือนริมแม่น้ำโขงครับ  การขับมาก็หาไม่ยากครับ จากสนามบินตรงเข้าเมืองมาจนถึงถนนริมแม่น้ำโขงก็เลี้ยวซ้าย ขับตรงมาอีกซักพักก็จะเจอกับสำนักงานครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:03:11

ความคิดเห็นที่ 7 ตามไปด้วยจ้า จากคุณ : ColaGirl เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:05:08

ความคิดเห็นที่ 8 ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผมที่เข้ามาขอข้อมูลจากทางททท.ก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลพร้อมกับมอบหนังสือท่องเที่ยวนครพนม คู่มือไหว้พระธาตุประจำวันเกิด รวมถึงคู่มือเที่ยวกลุ่มสนุก แซบสกล ผจญภัยมุก สนุกนคร ซึ่งเป็นแคมเปญ “แซบ@สนุก” ของททท.ที่แนะนำให้มาเที่ยว 3 จังหวัดในความดูแลได้แก่สกลนคร,มุกดาหารและนครพนม ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทางททท.มากครับที่อำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลในการมาเที่ยวครั้งนี้   [สำนักงานททท.นครพนมเปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.30-16.30น. โทร.042-513 490-1] หลังจากได้ข้อมูลและวางแผนการท่องเที่ยวเรียบร้อยก็ไปกันต่อได้ครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:05:59

ความคิดเห็นที่ 9 ตามไปเที่ยวนครพนมกับคุณบอยด้วยคนครับ ... เคยไปทำงานแล้วก็ประทับใจกับเมืองนี้นะครับ โดยเฉพาะถนนเลียบน้ำโขงนี่ชอบมาก ... จากคุณ : ผู้ก่อการร้ายทางความคิด เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:07:22

ความคิดเห็นที่ 10 ตามไปเที่ยวด้วยคนคร๊าบบบ จากคุณ : numsiam เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:08:13

ความคิดเห็นที่ 11 อุ๊ย!! มีสาวโค้กมาเจิมให้คนแรกเลย ********************************************************** ก่อนอื่น กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ลงเครื่องมาก็บ่าย2กว่าแล้ว ไหนจะไปขอข้อมูลมาอีก แวะร้านอาหารที่ได้จากลายแทงในบีพีเติมพลังกันก่อนดีกว่า ร้านนี้ชื่อว่าร้าน “วิวโขง” ครับอยู่ทางท้ายเมืองหรือถ้าขับรถเลาะถนนริมเขื่อนลงมาทางใต้เรื่อยๆก็จะเจอร้านนี้อยู่ติดกับโรงแรมวิวโขงครับ แค่ชื่อก็บอกได้แล้วว่าจุดเด่นของร้านอยู่ที่อะไร ใจอยากนั่งชมวิวสวยๆไปด้วยแต่เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวเลยเลือกจะเข้าไปนั่งในห้องปรับอากาศดีกว่า จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:09:25

ความคิดเห็นที่ 12 คุณเยี่ยม ผมยังอยากกลับไปอีกเลยฮะ เมืองนี้น่ารักนะ ทั้งผู้คน บรรยากาศ ที่เที่ยวได้หมดเลย คุณnumsiam แหมนอนสบายบนรถมาขนาดนั้นไม่ให้ตามไปเที่ยวได้ไงฮะ ********************************************************** แน่นอนว่ามาถึงริมแม่น้ำโขงจะไม่ทานปลาน้ำโขงก็จะกระไรอยู่ เลยสั่งปลาคังลวกจิ้ม ปลาบึกผัดฉ่า แล้วก็ยำหมูยอ อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของนครพนมมาทาน ส่วนคนข้างๆทานปลาพวกนี้ไม่เป็นก็ให้ทานยำกะข้าวหมูทอดกระเทียมไปแล้วกัน อาหารรสชาติอร่อยฮะ สมกับเป็นร้านแนะนำตามลายแทงของบีพี ราคาอาหารคิดออกมาก็หกร้อยกว่าบาท ดูเหมือนแพงแต่เพราะว่าอาหารจานใหญ่มาก ทานสองคน5ถึงกับจุกกันทีเดียว จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:13:33

ความคิดเห็นที่ 13 มาให้กำลังใจจ๊ะ ตามไปเที่ยวด้วยเด้ออ้ายยย จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:13:35

ความคิดเห็นที่ 14 ลุงเอก ขอบคุณมากๆฮะ ผมก็เพิ่งรู้ว่าลุงไปเที่ยวยโสธรมาไม่งั้นจะนัดไปพร้อมๆกันซะเลย ********************************************************** ภาพวิวริมแม่น้ำโขงถ่ายจากที่ร้านนี้ครับ วิวแบบนี้ล่ะครับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผมเลือกที่จะมาเที่ยวที่นี่ วิวแม่น้ำโขงที่ฉากหลังเป็นดินแดนประเทศลาวมีเทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นแนวยาวเพิ่มความงาม หาสถานที่แบบนี้ไม่ได้ง่ายๆเลยนะครับ หลังจากอิ่มหนำกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อครับ โดยจุดหมายสุดท้ายของวันนี้ผมเลือกที่จะล่องใต้ลงมาที่อำเภอธาตุพนม โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 212 ซึ่งระยะทางห่างจากตัวเมือง 50 กว่ากิโลเมตรฮะ ปล.สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเดินทางไปอำเภอธาตุพนมได้โดยมีรถโดยสารจากสถานีขนส่งในตัวเมืองครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:17:56

ความคิดเห็นที่ 15 ใช้เวลาขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็ถึงแล้วครับ เมื่อมาถึงอำเภอธาตุพนมสิ่งแรกที่ต้องทำคือแวะ "วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร" เพื่อไปนมัสการ “พระธาตุพนม” พระธาตุที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเคารพสักการะของคนไทยรวมไปถึงชาวลาว ที่มีไม่กี่คนที่จะไม่รู้จัก จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:23:17

ความคิดเห็นที่ 16 ตามไปเที่ยวนครพนมด้วยคนค่ะ ทริปนี้ฟ้าเป็นใจจัง จากคุณ : Princess of Napier เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:28:27

ความคิดเห็นที่ 17 วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง ต.ธาตุพนม เป็นที่ประดิษฐานของ “พระธาตุพนม” พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของเมืองนครพนม ทั้งยังเป็นที่เคารพสักการะของชาวนครพนมและประชาชนไทย-ลาวมาอย่างยาวนาน พูดถึงเรื่องการมาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดทั้ง 7 องค์ หลายคนคงอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องมาไหว้กันที่นครพนม ถ้าจะเล่ากันคร่าวๆตามเรื่องราวของชาวอีสานและพงศาวดารของชาวภาคเหนือก็คือ คติความเชื่อของการบูชาพระบรมธาตุกล่าวว่า ณ ที่ใดที่เป็นที่ประทับของพระธาตุหลัก บริเวณรายล้อมก็จะมีพระธาตุบริวารเกิดขึ้น เชื่อว่าเป็นพระธาตุที่แตกตัวมาจากพระบรมสารีริกธาตุ โดยมีเทพเทวดาและดาวนพเคราะห์ประจำวันคอยปกปักรักษา และที่นครพนมก็มีพระธาตุที่ว่านี้กระจายไปตามอำเภอต่างๆถูกต้องตามหลักของพงศาวดารที่กล่าวๆกันมาด้วย “พระธาตุพนม” พระธาตุองค์แรกที่ผมพามาสักการะนี้เป็นพระธาตุหลัก อำเภอรอบนอกเลยมีพระธาตุบริวารอยู่อีก 6 องค์กระจายกันไป พระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันอาทิตย์อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรวอกตามคติความเชื่อของชาวล้านนาอีกด้วย จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:28:42

ความคิดเห็นที่ 18 เตย ใช่จ้า แต่จะบอกว่าพี่ภาวนาแล้วภาวนาอีกถึงขนาดฝนตกทะมึนไล่หลังมาก็มรแต่โชคดีมากที่โดนแค่หางๆนิดหน่อยอ่ะ สงสัยฟ้าจะรู้ว่าเราไปเที่ยวไหว้พระธาตุ ********************************************************** ตามประวัติพระธาตุพนมนั้นถ้าจะให้เล่าทั้งหมดก็คงจะเสียพื้นที่รีวิวเยอะเพราะประวัติยาวมากและคงขี้เกียจจะอ่านกันไปซะก่อน เลยจะขอเล่าพอเป็นสังเขปดังนี้ครับ “พระธาตุพนม” นี้ตามตำนานกล่าวไว้ว่าท้าวพญาทั้ง 5 ผู้ครองแคว้นนครต่างๆได้แก่ 1 พญาจุลณีพรหมฑัต ครองแคว้นจุลณี 2 พญาอินทปัตนคร ครองเมืองอินทปัตนคร หรือแคว้นกัมพูชาโบราณ 3 พญาคำแดง ครองเมืองหนองหานน้อย (อำเภอหนองหาน อุดรธานีในปัจจุบัน) 4 พญานันทเสน ครองเมืองศรีโคตรบูร (จังหวัดนครพนมในปัจจุบัน) 5 พญาสุวรรณพิงคาร ผู้ครองเมืองหนองหานหลวง (จังหวัดสกลนครในปัจจุบัน) อีกทั้งยังมีพระอรหันต์อีก 500 องค์อันมีพระมหากัสสปะเถระทรงเป็นประมุข ได้ร่วมกันสร้างเมื่อราว พ.ศ.8 (พระพุทธเจ้าปรินิพพานได้ 8 ปี) จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:32:19

ความคิดเห็นที่ 19 ไปเที่ยวด้วยคนครับคุณบอย   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:32:37

ความคิดเห็นที่ 20 โดยการก่อสร้างในสมัยนั้นใช้ดินดิบก่อเป็นรูปเตาสี่เหลี่ยมแล้วเผาให้สุกภายหลัง ข้างในขุดเป็นอุโมงค์ มีประตูเปิดทั้ง 4 ด้าน เมื่อสร้างแล้วเสร็จก็ได้อัญเชิญ "พระอุรังคธาตุ"(กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระพุทธเจ้าที่พระมหากัสสปะอัญเชิญมาจากอินเดียเข้าประดิษฐานไว้ด้านใน หลังจากนั้นก็ปิดประตูทั้ง 4 ด้าน แต่ก็ไม่ได้ปิดตายยังให้ผู้คนเข้าไปสักการะได้ในบางโอกาส ซึ่งยังถือว่ายังสถาปนาไม่สมบูรณ์ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:34:32

ความคิดเห็นที่ 21 น้าเล็ก ยินดีเลยครับ ภาพเยอะมากๆรอชมหน่อยนะครับ ********************************************************** จนถึงเมื่อราว พ.ศ.500 พญาสุมิตธรรมวงศา เจ้าเมืองมรุกขนคร(นครพนม)และพระอรหันต์ 5 องค์เป็นประธาน ร่วมกันบูรณะและได้ต่อเติมองค์พระธาตุให้สูงขึ้นกว่าเดิม จากนั้นได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุออกจากอุโมงค์เดิมขึ้นประดิษฐานบนใจกลางพระธาตุชั้นที่ 2 ที่สร้างขึ้นใหม่พร้อมทั้งปิดประตูทั้ง 4 ด้านจนมิดชิด ถือเป็นการสถาปนาพระธาตุไว้อย่างสมบูรณ์ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:37:08

ความคิดเห็นที่ 22 ในการบูรณะครั้งที่ 3 (พ.ศ.2236-2245) เจ้าราชครูหลวงโพนสะเม็ก แห่งนครเวียงจันทน์เป็นประธาน ได้ใช้อิฐต่อเติมองค์พระธาตุให้สูงขึ้นจากเดิมอีก และปรับปรุงที่ประดิษฐานพระอุรังคธาตุใหม่ โดยสร้างอูบสำริดครอบเจดีย์ศิลาอันเป็นที่บรรจุบุษบกและผอบพระอุรังคธาตุไว้อย่างแน่นหนา มีการบรรจุของมีค่าทั้งภายในและภายนอกอูบสำริดไว้มากมาย มีจารึกพระธาตุพนมไว้ว่า “ธาตุปะนม” หลังจากนั้นก็ได้มีการบูรณะปฎิสังขรณ์องค์พระธาตุพนมเรื่อยมา จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:38:20

ความคิดเห็นที่ 23 มาจนถึงวันที่ 11 สิงหาคม 2518 องค์พระธาตุพนมได้ล้มลงทั้งองค์ เนื่องมาจากฐานองค์พระธาตุชั้นแรกเก่าแก่มาก และการบูรณะครั้งต่อๆมาก็ได้มีการต่อเติมองค์พระธาตุมาตลอดทำให้ฐานชั้นแรกรับน้ำหนักไม่ได้ จนพังทลายลงมา (รูปด้านล่างเป็นรูปตอนที่พระธาตุล้มครับ) จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:39:11

ความคิดเห็นที่ 24 หลังจากนั้นได้ไม่นานจึงเริ่มมีการรื้อถอนและย้ายซากปรักหักพังขององค์พระธาตุเก่าออกเพื่อที่จะก่อสร้างองค์พระธาตุพนมขึ้นมาใหม่ ในการรื้อถอนได้มีการพบวัตถุโบราณ พระเครื่อง ทรัพย์สินมีค่ามากมายเป็นหมื่นชิ้นบรรจุอยู่ภายในองค์พระธาตุด้วย การพังทลายขององค์พระธาตุพนมสร้างความเศร้าโศกเสียใจกับผู้คนที่ทั้งไทยและลาวจำนวนมาก ถึงขนาดมีการร่วมกันบริจาคเงินและทรัพย์สินเพื่อเป็นทุนให้รัฐบาลก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:41:28

ความคิดเห็นที่ 25 หลังพระธาตุล้มสัก 2 เดือนจึงได้พบพระอุรังคธาตุ จึงได้มีการจัดงานสมโภชขึ้นถึง 7 วัน 7 คืน ซึ่งในงานนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีอีกด้วย จนถึงเมื่อเดือน มีนาคม 2522 พระธาตุองค์ใหม่ก็แล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในการบรรจุพระอุรังคธาตุกลับเข้าพระธาตุพนมอีกด้วย จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:43:20

ความคิดเห็นที่ 26 ตามไปเที่ยวด้วยคนน่ะค่ะ ภาพสวยจังเลยคะ จากคุณ : น้ำปูปลา เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:44:31

ความคิดเห็นที่ 27 นี่ก็เป็นประวัติย่อๆของพระธาตุพนมครับ นับจากนั้นมาพระธาตุพนมก็ตั้งสง่าเป็นที่เคารพสักการะและศูนย์รวมจิตใจของชาวไทย-ลาวมาจนถึงทุกวันนี้ ตอนช่วงเย็นๆค่ำๆแบบวันที่ผมไป บริเวณองค์พระธาตุก็จะเห็นคนมานั่งสมาธิบ้าง เดินจงกลมบ้าง แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่คนทั่วๆไปมีต่อองค์พระธาตุพนมได้เป็นอย่างดี จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:44:37

ความคิดเห็นที่ 28 คุณน้ำปูปลา ยินดีครับ ขอบคุณมากๆสำหรับคำชมนะฮะ ********************************************************** เนื่องจากผมไปถึงเอาเย็นมากแล้วก็เลยไม่ได้เข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ของทางวัดเลยครับ ซึ่งภายในก็จะมีพวกวัตถุโบราณและของมีค่าต่างๆให้ชมมากมาย รวมไปถึงวัตถุโบราณบางส่วนที่นำออกมาจากองค์พระธาตุตอนล้ม อูบสำริดเก่าที่เคยใช้บรรจุพระอุรังคธาตุ ฉัตรยอดพระธาตุเก่า พระเครื่อง เครื่องใช้โบราณ ฯลฯ แต่พอดีเห็นสามเณรหลายสิบรูปกำลังนั่งฟังพระสงฆ์ให้คำสอนอยู่ก็เลยเดินไปเก็บภาพมาซะหน่อย จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:46:41

ความคิดเห็นที่ 29 หลังจากเดินอยู่ภายในบริเวณองค์พระธาตุไม่นานก็ได้เวลาเข้าที่พักแล้วฮะ สำหรับที่พักที่อำเภอธาตุพนมเท่าที่ลองขับรถวนดูก็เห็นมีโรงแรมหลายๆแห่งเลยครับส่วนใหญ่ก็เป็นโรงแรมขนาดเล็กรวมไปถึงโฮมสเตย์ครับ ส่วนที่พักของผมคืนนี้ผมได้โทรมาจองไว้ตั้งแต่ก่อนวันเดินทางแล้วฮะ โรงแรมชื่อ “ธาตุพนม ริเวอร์วิว” เป็นโรงแรมขนาดกลางระดับ 3 ดาวเปิดใหม่ได้ไม่นาน ห้องพักกว้างขวางสะอาดสะอ้านปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วน ประตูเป็นแบบคีย์การ์ด ห้องพักมีทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ ที่สำคัญมีอินเตอร์เน็ตให้เล่นฟรีครับ ราคาห้องพักอยู่ที่ 750 บาท ก็ถือว่าไม่แพงไปนักสำหรับโรงแรมใหม่ในต่างจังหวัดแบบนี้ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:47:20

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วนของห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง และโถชักโครกมีสายชำระ(อันนี้สำคัญมากที่ผมต้องบอกในทุกๆรีวิว) ส่วนเรื่องอาหารการกิน เป็นธรรมดาของเมืองเล็กๆที่มักจะหาของกินยากมากหลังจากช่วงเวลา 2 ทุ่มไปแล้ว ถ้าไม่ทานที่โรงแรมก็คงต้องไปหาทานแถวใกล้ๆวัดพระธาตุพนมครับ ถ้าวันไหนมีตลาดนัดกลางคืนก็โชคดีหน่อย แต่ถ้าไม่มีก็ยังพอมีร้านก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ข้าวมันไก่ หรือร้านหมูกระทะให้ทานอยู่บ้าง แต่ถ้าดึกกว่านั้นก็ไม่แน่ใจจะหาอะไรทานได้หรือเปล่านะฮะ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:48:00

ความคิดเห็นที่ 31 ขอตามไป "ไหว้พระ" และ "ท่องวิถีโขง" ด้วนคนครับ ชมแล้วแล้วคิดถึง "สายน้ำแห่งมิตรภาพ" จริงๆครับ จากคุณ : ชายคาตะวัน เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:48:10

ความคิดเห็นที่ 32 ตามไปเที่ยวค่ะ เคยไปแต่วัดพระธาตุพนม ยังไม่เคยไปวัดอื่นๆเลย จากคุณ : โมริชิตะอากาเนะ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:48:21

ความคิดเห็นที่ 33 เช้าวันรุ่งขึ้นผมย่ามใจไปหน่อยฮะ ตั้งใจว่าจะตื่นมาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นริมฝั่งโขง เพราะว่าที่พักอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงเลยฮะ (เมื่อคืนมองวิวไม่เห็นเพราะเข้าโรงแรมมาค่ำแล้ว) แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะความไม่เตรียมพร้อม ผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 5.50น. กะว่ายังไงก็ตื่นทันเห็นพระอาทิตย์ขึ้นแต่ที่ไหนได้ ตื่นมาปุ๊บหยิบกล้องออกจากห้องที่อยู่ชั้น 3 เดินขึ้นบันไดไปอีกชั้นนึงที่เป็นดาดฟ้าโรงแรมภาพที่เจอพระอาทิตย์ก็ขึ้นมาขนาดนี้แล้วครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:49:08

ความคิดเห็นที่ 34 พี่แซงค์ คนแถวนี้น่ารักมากครับพี่แซงค์ เมืองหน้าอยู่ เรียบง่าย มองไปทางไหนก็หลงรัก ผมว่าเมืองริมโขงมีอะไรให้ค้นหาแบบนี้ทุกๆเมืองเลยจริงๆฮะ คุณโมริชิตะอากาเนะ งั้นตามมาเลยฮะ ยังมีอีกหลายวัดมากที่ผมจะพาไปเที่ยว ********************************************************** สิ่งแรกที่ผมลืมไปเสียสนิทเลยคือ เดือนพฤษภาคมซึ่งถือว่ากำลังจะเข้าหน้าฝนพระอาทิตย์จะขึ้นเร็วกว่าช่วงหน้าหนาวอย่างเดือนมกราคม อย่างที่สองที่นี่ ”นครพนม” ไม่ใช่ “กรุงเทพฯ” พระอาทิตย์ที่นี่ต้องขึ้นไวกว่ากรุงเทพฯสิ มาเช็คภายหลังเมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯว่าวันนั้นพระอาทิตย์ที่นครพนมจะขึ้นเวลา 5.37น. แล้วถ้าเป็นที่กรุงเทพฯจะขึ้นช้ากว่าตั้ง 18 นาทีแน่ะ แล้วตื่นเอาเกือบๆ 6 โมงมันจะทันได้ยังไง จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:53:08

ความคิดเห็นที่ 35 เช้าๆแบบนี้ภาพที่คนแถวนี้เค้าเห็นกันจนคุ้นเคยคือภาพเรือจากฝั่งลาวบรรทุกคนและสินค้าข้ามมายังฝั่งไทย ภาพนี้ฝั่งตรงข้ามคือเมืองหนองบก แขวงคำม่วนครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:54:33

ความคิดเห็นที่ 36 ขอมารับอรุณรุ่งที่ริมโขง นครพนมด้วยคน............ขอบคุณครับ   แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 13:55:46 จากคุณ : Low Batt เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:55:24

ความคิดเห็นที่ 37 รีวิวนี้ที่รอคอย ขอบคุณคุณบอยนะคะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:55:32

ความคิดเห็นที่ 38 บรรยากาศยามเช้าแบบนี้มีลมเย็นๆพัดเอื่อยๆมาปะทะหน้าสดชื่นมากๆครับ ช่างต่างกับช่วงเที่ยงๆที่ร้อนสุดๆโดยสิ้นเชิง ผมใช้เวลาบนนี้อยู่พอสมควรกว่าจะลงไปที่ห้องพักอีกครั้ง จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:56:46

ความคิดเห็นที่ 39 ตามไปเที่ยววันหยุดด้วยครับ (แต่ผมนั่งทำงานอยู่) กำลังอยากจะไปอยู่พอดี อยากได้ข้อมูลรถเช่าอยู่พอดี ขอบคุณครับ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:59:21

ความคิดเห็นที่ 40 คุณLow Batt ยินดีมากๆเลยครับ วิวแบบนี้คงต่างจากที่พัทยาลิบลับเลยนะฮะ ที่นั่นคงได้ดูแต่พระอาทิตย์ตกทะเลจนชินตากันแล้ว คุณแอน แหมยังไม่ได้ไปตามเลยนะฮะ รู้ตัวก่อนซะแล้ว ********************************************************** นอกจากวิวของแม่น้ำโขงแล้ว อีกด้านของโรงแรมเราก็สามารถมองเห็นยอดขององค์พระธาตุพนมได้เช่นกัน จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:59:58

ความคิดเห็นที่ 41 คุณหน่อง ผมก็หาข้อมูลรถเช่าจากในนี้เช่นกันฮะ ถ้าจะไปยังไงลองโทรไปดูฮะเจ๊แกใจดีแถมชอบอ่านรีวิวห้องบีพีอีกตะหาก ********************************************************** ได้เวลาพาไปสำรวจด้านล่างของโรงแรมและทานอาหารเช้ากันด้วยฮะ โรงแรมอยู่ไม่ไกลจากพระธาตุพนมเลยครับ ถ้ามาจากองค์พระธาตุก็ตรงออกมาทางริมแม่น้ำโขงจนสุดถนนให้เลี้ยวซ้ายตามถนนริมน้ำมาอีกไม่เกิน 300 เมตรก็ถึงโรงแรมฮะ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:03:33

ความคิดเห็นที่ 42 อาหารเช้าก็ทานตรงห้องอาหารหน้าโรงแรมนี่ล่ะครับ จะเห็นว่าโรงแรมมีลักษณะเป็นอาคาร 3 ชั้นรูปตัว L มีที่จอดรถทั้งด้านหน้าและหลังโรงแรม ห้องพักมีสองฝั่งทั้งฝั่งที่เห็นวิวแม่น้ำโขงและฝั่งที่เห็นองค์พระธาตุพนมครับ ส่วนอาหารเช้าก็มีตามมาตรฐานโรงแรมทั่วๆไปครับ ขนมปัง ชา กาแฟ ABF และอาหารหนักหน่อยก็มีครับ(วันนั้นมีหมูทอดกระเทียม,ผัดผักรวม,ต้มฟักไก่) จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:04:20

ความคิดเห็นที่ 43 “เช้านี้ผมมีนัด” จริงๆแล้วผมตั้งใจที่จะมานอนที่อำเภอธาตุพนมในคืนแรกเพราะว่าตื่นเช้ามาวันนั้นจะเป็นวันพฤหัสฯ เป็นวันที่มีตลาดการค้าผ่อนปรนชายแดนไทย-ลาวครับ ถามพนักงานโรงแรมว่าตลาดอยู่ตรงไหน เค้าบอกว่าอยู่ไม่ไกลโรงแรมมากครับขับรถเลี้ยวซ้ายไปตามถนนหน้าโรงแรมน่าจะซัก 500 เมตรก็ถึง จริงๆถ้าไม่กลัวเมื่อยก็เดินเอาได้สบายๆครับ มาถึงตลาดก็จะเริ่มเห็นชาวบ้านจอแจกันทีเดียวฮะ (ไม่ลืมที่จะเก็บภาพรถสกายแล็ป รถที่คนที่นี่เค้าใช้เดินทางไปไหนมาไหนกัน) จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:05:22

ความคิดเห็นที่ 44 ตลาดการค้าผ่อนปรนธาตุพนม เป็นตลาดที่ใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันระหว่างประชาชนไทย-ลาว (อาจจะรวมถึงเวียดนามด้วย) ตลาดนี้จะเปิดเฉพาะวันจันทร์และวันพฤหัสฯเท่านั้น จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:06:07

ความคิดเห็นที่ 45 เท่าที่ผมเดินสังเกตดูสินค้าส่วนใหญ่ที่ชาวลาวเอามาขายก็จะเป็นพวกผลหมากรากไม้เสียเป็นส่วนใหญ่ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:06:48

ความคิดเห็นที่ 46 นอกจากนี้ก็ยังมีพวกอาหารที่ขาดไม่ได้คือ ปลาร้า ของพื้นบ้าน อาหารและสัตว์แปลกๆ แมลงสารพัดชนิดทั้งแบบทำสำเร็จพร้อมกินและแบบสดๆเอาไปจัดการกันเองก็มี จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:07:29

ความคิดเห็นที่ 47 ผมไปสะดุดตากับสินค้าชนิดนึงที่แม่ค้าเอามาวางแบกะดินขาย เคยเห็นมั๊ยฮะว่านี่คืออะไร และเรียกกันว่าอะไร ?? จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:08:02

ความคิดเห็นที่ 48 เดินลึกเข้ามาอีกนิดก็เจอกับป้ายนี้เข้า รู้สึกแปลกก็แปลกตลกก็ตลก สงสัยคนแถวนี้นอกจากไม่อายผีสางเทวดาแล้วยังไม่อายคนด้วยกันเองอีกด้วย จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:10:07

ความคิดเห็นที่ 49 ตามมากราบนมัสการ พระธาตุพนม ด้วยคนค่ะ...ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที ^^ จากคุณ : Sergeant Keroro เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:10:49

ความคิดเห็นที่ 50 จริงๆป้ายนั้นก็อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือที่คนลาวใช้ขึ้นฝั่งเท่าไหร่หรอกฮะ เท่าที่เห็นนอกจากคนลาวทั่วไปที่ตั้งใจข้ามฝั่งมาเดินตลาดหรือเข้ามาทำธุระอย่างอื่นด้วย ก็ยังมีการขนสินค้าซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ ของป่าขึ้นมาจากเรือด้วย จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:10:51

ความคิดเห็นที่ 51 คุณSergeant Keroro ยังมีอีกหลายองค์เลยฮะที่ผมจะพาไปนมัสการ รอชมต่อให้จบนะครับ ********************************************************* นานๆจะได้เก็บภาพถ่ายแนวนี้ซักครั้งเลยใช้เวลาตรงนี้อยู่นานพอสมควร **แก้ไขข้อความฮะ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 14:18:04 จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:12:46

ความคิดเห็นที่ 52 มาเสริมให้ครับ พระธาตุพนมยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดคนปีวอกด้วยนะฮะเสี่ย จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:12:49

ความคิดเห็นที่ 53 รอชมจร้า กำลังจะไปอยู่พอดี ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ ^^ จากคุณ : beebae_candy เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:18:55

ความคิดเห็นที่ 54 ดีบุก ขอบคุณฮะเยี่ยมมากเลย เตรียมข้อมูลไว้แบบนี้แล้วเมื่อไหร่ถึงจะไปเที่ยวล่ะเห็นว่าจองตั๋วนครพนมไว้หลายเที่ยวอยู่นี่ ********************************************************** ไม่แน่ใจว่าในกระสอบเป็นอะไร รู้แต่คนหาบของพวกนี้ทรหดมากครับ เดินขึ้นเดินลงยั่งกะคนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย วันๆนึงเค้าจะได้ค่าหาบของคนละเท่าไหร่นะ .. จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:21:05

ความคิดเห็นที่ 55 มาแล้วพี่บอยยย ทันปะครับ จากคุณ : we_zeal เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:23:05

ความคิดเห็นที่ 56 คุณbeebae_candy ยินดีเลยฮะ นครพนมน่าเที่ยวมากจริงๆรับรองว่าไปแล้วไม่ผิดหวังแน่ๆครับ ********************************************************** แอบส่องแม่สาวชาวลาวกันบ้าง ดูจากการแต่งตัวคนนี้คงตั้งใจจะมาเที่ยวแน่ๆ พอเดินขึ้นมาด้านบนก็จะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหลายคนคอยอยู่เพื่อตรวจบัตร(คงเป็นบัตรผ่าน) และตรวจค้นก่อนให้ผ่านเข้ามาครับ นับเป็นตลาดที่น่าเดินชมบรรยากาศและดูวิถีชีวิตของผู้คนสองฝั่งโขงมากๆครับ แต่ถ้าใครถามว่าผมซื้ออะไรที่นี่มาบ้างผมบอกเลยว่าไม่ได้ซื้อฮะ ของมันแปลกซะจนคนกรุงเทพฯแบบผมได้แต่เดินแบบงงๆว่าเค้าซื้อไปทำอะไร? ไอ้นี่เค้าเอาไปกินกันด้วยหรอ?? ของแบบนี้มันจะมีขายที่อื่นอีกมั๊ย??? หลังจากใช้เวลาเดินเที่ยวตลาดอยู่พอสมควรก็กลับมาอาบน้ำแต่งตัวที่โรงแรมเพื่อเตรียมออกเดินทางต่อไป จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:23:32

ความคิดเห็นที่ 57 ก่อนจากอำเภอธาตุพนมไปก็ขอเก็บตกที่เที่ยวอีกนิด ที่เห็นคือ “ซุ้มประตูเรืองอร่ามรัษฎากร” สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2467 เป็นชื่อที่ตั้งตามชื่อขุนอร่ามรัษฎากร ท่านเป็นคนสร้างซุ้มประตูนี้รวมทั้งถนนจากหน้าวัดพระธาตุตรงมาทางแม่น้ำโขง มียักษ์เฝ้าซุ้มประตูอยู่ด้วย 2 ตน จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:25:26

ความคิดเห็นที่ 58 ระหว่างซุ้มประตูเรืองอร่ามรัษฎากรกับองค์พระธาตุจะมีบึงน้ำอยู่ เป็นที่ตั้งของ ”สถูปอิฐพระธาตุพนมองค์เดิม” จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:32:51

ความคิดเห็นที่ 59 ซึ่งได้ทำการขนย้ายอิฐเก่าขององค์พระธาตุที่ล้มเมื่อปี 2518 มาเก็บไว้ที่นี่ ตอนหลังจึงมีการก่อสร้างขึ้นเป็นสถูปโดยใช้อิฐพระธาตุเก่ามาทำนั่นเอง ถ้าใครนึกภาพของพระธาตุยุคแรกที่มีการก่อสร้างไว้ไม่ออกก็ดูได้จากสถูปองค์นี้เพราะสร้างตามแบบเก่าแก่แต่เดิมเลยครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:34:13

ความคิดเห็นที่ 60 ในช่วงวันขึ้น 10 ค่ำถึงแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกๆปี จะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุพนม ถือเป็นงานประจำปีงานใหญ่ของจังหวัดครับ เชื่อกันว่าการได้มานมัสการพระธาตุพนมจะได้รับอานิสงส์มีบุญบารมีและมีผู้คนให้ความเคารพนับถือครับ ผมเองรู้สึกดีใจมากที่ได้มากราบสักการะพระธาตุพนม ถึงแม้จะไม่ใช่คนที่เกิดวันอาทิตย์หรือว่าเกิดปีวอก เป็นเพราะเคยได้ยินชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กๆว่าเป็นพระธาตุที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ ว่ากันว่าการได้มาไหว้พระธาตุพนมแม้แค่ครั้งเดียวก็ถือเป็นมงคลสูงสุดของชีวิตแล้วครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:35:29

ความคิดเห็นที่ 61 วีวี่ พี่เกือบไม่เห็นคอมเม้นท์แล้วมั๊ยล่ะ ยังทันฮะนี่เพิ่ง 25% ของรีวิวเอง ********************************************************** ก่อนจะจากอำเภอธาตุพนม ก็แวะหาของฝากกันก่อน ของขึ้นชื่อของอำเภอธาตุพนมคงหนีไม่พ้นขนมกาละแม ร้านของฝากมีหลายเจ้าให้เลือกซื้อ อยู่แถวๆถนนริมแม่น้ำโขง หรือไม่ก็บริเวณใกล้ๆวัดพระธาตุพนมครับ ต่อไปจะพาไปไหว้พระธาตุองค์ที่สองกันต่อ วันนี้ผมตั้งใจว่าจะขับรถไปไหว้พระธาตุให้ครบทุกองค์ หรือไม่ก็อาจจะไหว้พระธาตุรอบนอกให้หมดแล้วค่อยไปไหว้พระธาตุองค์สุดท้ายตามแผนที่วางเอาไว้ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอเมืองในวันพรุ่งนี้ เลยรีบขับรถออกจากอำเภอธาตุพนมเกือบๆ 10 โมงเช้า จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:38:18

ความคิดเห็นที่ 62 เพราะรีวิวนี้ทำให้ผมต้องเดินทางไปธาตุพนมเดี๋ยวนี้แล้วครับ   ขออภัยที่ชมไม่จบนะคุณบอย  แฟนผมอยากไปกระทันหันเพราะรีวิวคุณแท้ๆเลย   จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:38:32

ความคิดเห็นที่ 63 ขับรถกลับมาตามเส้นทางเดิม(212)ที่มาจากอำเภอเมือง ไม่นานก็จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2031 ตรงบ้านหลักศิลาไปอำเภอเรณูนคร ไม่นานนักก็จะถึงตัวอำเภอเรณูนคร ขับรถตามป้ายซึ่งสังเกตุได้ไม่ยาก เราจะแวะไหว้พระธาตุองค์ที่สองกันที่ ”วัดพระธาตุเรณู” ครับ (ระยะทางจากพระธาตุพนมมาถึงพระธาตุเรณูประมาณ 20 กิโลเมตรครับ) ปล.ป้ายบอกเส้นทางท่องเที่ยวของ ททท. จะพบเห็นได้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของทางจังหวัดครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:41:33

ความคิดเห็นที่ 64 น้าเล็ก โห!! เจอคำสั่งของผบ.ทบ.ให้รีบพาไปเลยหรอฮะ ผมจะดีใจหรือว่าต้องขอโทษดีครับเนี่ย ถ้าต้องไปจริงๆก็เดินทางปลอดภัยนะฮะ ********************************************************** วัดพระธาตุเรณู เป็นวัดสำคัญและอยู่คู่เมืองเรณูนครมาช้านาน ภายในวัดประดิษฐาน “พระธาตุเรณู” พระธาตุคู่เมืองเรณูนคร เป็นพระธาตุประจำวันเกิดของผู้เกิดวันจันทร์ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:45:45

ความคิดเห็นที่ 65 ไปเที่ยวนครพนมด้วยคนนะครับ จากคุณ : coffee krem เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:47:04

ความคิดเห็นที่ 66 คุณcoffee krem ยินดีเลยฮะ แวะพระธาตุพนมก่อนแล้วรีบตามมาเลยนะครับ ********************************************************** องค์พระธาตุมีลักษณะงดงาม สร้างโดยพระอุปัชฌาย์อินภูมิโยเมื่อปี พ.ศ.2461 โดยสร้างตามแบบพระธาตุพนมองค์เดิมแต่มีขนาดเล็กกว่า จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:48:55

ความคิดเห็นที่ 67 ภายในเป็นโพรงบรรจุพระไตรปิฎก พระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปเงิน ของมีค่า และเครื่องกกุธภัณฑ์ของพระยาและเจ้าเมือง รวมถึงของมีค่าที่ชาวบ้านนำมาบริจาค จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:49:21

ความคิดเห็นที่ 68 ภายในพระอุโบสถยังประดิษฐานพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวเรณูนครชื่อว่า “พระองค์แสน” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำศิลปะแบบลาว ปางสมาธิ มีพุทธลักษณะงดงาม จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:50:21

ความคิดเห็นที่ 69 พระธาตุองค์นี้เชื่อกันว่า ผู้ใดที่ได้มาสักการะจะได้รับอานิสงส์ส่งผลให้มีวรรณะงดงามผุดผ่องดังแสงจันทร์ สมแล้วที่เค้าพูดกันมาว่าเรณูนครเป็นเมืองคนงาม จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:52:28

ความคิดเห็นที่ 70 “เรณูนคร” ถือเป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งอำเภอของจังหวัดนครพนม มีชื่อเสียงเรื่องหญิงสาวที่สวยงาม เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวผู้ไท ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้อย่างดี เช่น ธรรมเนียมต้อนรับด้วยการบายศรีสู่ขวัญ การเลี้ยงอาหารแบบพาแลง(การกินข้าวเย็นแบบล้อมวงโดยมีกับข้าววางรวมอยู่ในถาด) การฟ้อนรำผู้ไทย ฯลฯ ส่วนของฝากที่ขึ้นชื่อของเรณูนครคือ "อุ" (เหล้าไห) หลังจากไหว้พระธาตุเรณูเสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อทันที โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 2033 จุดหมายต่อไปอยู่ที่อำเภอนาแกซึ่งห่างจากพระธาตุเรณูไป 27 กิโลเมตร เพื่อไปไหว้พระธาตุประจำประจำวันเกิดองค์ที่ 3 จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:54:59

ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อมาถึงอำเภอนาแกก็จะมีป้ายบอกทางเข้า “วัดพระธาตุศรีคูณ” พระธาตุที่เราตามหาอยู่ที่นี่ครับ “พระธาตุศรีคุณ” พระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันอังคาร ปูชณียสถานคู่บ้านคู่เมืองของประชาชนชาวนาแก  พระธาตุองค์นี้ถูกค้นพบเมื่อประมาณ พ.ศ. 2340 จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:55:35

ความคิดเห็นที่ 72 ภายในบรรจุพระอรหันต์ธาตุของพระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร พระอัครสาวกซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า และพระสังกัจจายนะ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:56:03

ความคิดเห็นที่ 73 ตามตำนานของพระธาตุองค์นี้มีกษัตริย์นักรบเป็นผู้ก่อสร้าง ตรงกับลักษณะของคนที่เกิดวันอังคารซึ่งจะเป็นนักต่อสู้ มีน้ำอดน้ำทนเป็นเยี่ยม จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:56:28

ความคิดเห็นที่ 74 เชื่อว่าหากใครได้ไปสักการะจะได้อานิสงส์ มีศักดิ์ศรีทวีคูณ และจะเสริมพลังนักสู้ให้มีจิตใจเข้มแข็งขึ้น จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:57:05

ความคิดเห็นที่ 75 ที่จริงพระธาตุองค์ที่เห็นนี้เพิ่งจะมีการก่อสร้างขึ้นใหม่ โดยสร้างครอบพระธาตุองค์เดิม เพราะมีผู้มีจิตศรัทธาและประชาชนชาวนาแกอยากจะสร้างให้พระธาตุองค์ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ตามความคิดของผมนั้นพระธาตุองค์นี้สวยงามมากทีเดียวครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:57:54

ความคิดเห็นที่ 76 อาจจะด้วยเพราะลวดลายอันวิจิตรแปลกตากว่าพระธาตุองค์อื่นๆ รวมถึงลักษณะรูปทรง และลวดลายของพระธาตุองค์ใหม่นี้ที่คัดลอกเอาลวดลายส่วนยอดของพระธาตุพนมมาตกแต่งไว้อย่างสวยงามมากทีเดียว ตอนที่กำลังเดินเก็บภาพของพระธาตุอยู่จากเมฆที่กำลังสวยๆก็เริ่มมีเค้าเมฆฝนเกิดขึ้น ผมเองก็เลยอธิฐานจิตต่อหน้าพระธาตุว่าขออย่าให้ฝนตกเลยเพราะว่าผมเองยังต้องขับรถไปไหว้พระธาตุอีกหลายแห่ง เดี๋ยวจะลงไปสักการะและเก็บภาพถ่ายไม่ได้ เสร็จแล้วผมก็ออกเดินทางต่อไปยังพระธาตุประจำวันเกิดองค์ที่ 4 ต่อไป จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:58:40

ความคิดเห็นที่ 77 หลังจากแวะเติมพลังตามร้านอาหารริมทางเรียบร้อย ผมก็มุ่งหน้าสู่อำเภอปากปลาโดยขับรถย้อนกลับเส้นทางเดิมซักเกือบๆครึ่งทางแล้วให้สังเกตทางแยกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอปากปลาเพื่อไปสักการะพระธาตุประจำวันเกิดของคนเกิดวันพุธ การเดินทางช่วงนี้อาจจะต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางมากหน่อยเพราะถ้าไม่ระวังอาจจะหลงทางได้เพราะมีทางแยกหลายแห่ง เมื่อถึงตัวอำเภอปากปลาก็ให้ขับรถตรงออกไปยังทางหลวงหมายเลย 22 (สายนครพนม-สกลนครหรือสายเดียวกับที่ผ่านหน้าสนามบินนครพนม) แล้วให้เลี้ยวไปทางจังหวัดสกลนคร ขับต่อมาอีกไม่นานนักก็จะเจอป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปที่ ”วัดพระธาตุมหาชัย” ซึ่งอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 2 กิโลเมตรครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:59:13

ความคิดเห็นที่ 78 จากวัดพระธาตุศรีคูณมาถึงวัดพระธาตุมหาชัยมีระยะทาง 34 กิโลเมตรฮะ วัดนี้เป็นที่ประดิษฐานของ ”พระธาตุมหาชัย” พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวปากปลาครับ วันมหาชัยนี้ถือเป็นวัดดังแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม เนื่องจากเคยเป็นที่จำพรรษาของหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิสายวิปัสสนาที่มีชื่อเสียงองค์หนึ่งของภาคอีสานจวบจนท่านมรณภาพ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 14:59:43

ความคิดเห็นที่ 79 “พระธาตุมหาชัย” เริ่มก่อสร้างเมื่อปีพ.ศ. 2495 องค์เดิมสร้างจากดำริของหลวงปู่คำพันธ์ที่อยากจะสร้างพระธาตุไว้เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของพุทธ โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านแถวนั้นนำดินและหินลูกรังมากองรวมกันเพื่อให้เป็นฐานพระธาตุ หลังจากนั้นก็มีการก่อสร้างมาเรื่อยๆหลายปี จนแล้วเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2518 จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:00:54

ความคิดเห็นที่ 80 ยังติดตามอยู่ตลอดนะคะ แต่แอนคงพักในตัวเมือง จองที่พักไปเรียบร้อยแล้ว 2 คืน แล้ววันรุ่งขึ้นนั่งรถประจำทางไปไหว้พระธาตุพนม เกิดวันอาทิตย์พอดีเลยค่ะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:01:49

ความคิดเห็นที่ 81 พระธาตุมหาชัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนพระธาตุองค์ก่อนๆที่ได้ไปสักการะมาเลยครับ เพราะพระธาตุองค์นี้มีฐานเป็นรูปทรง 8 เหลี่ยม ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุของพระอัญญาโกณฑัญญะ พระสารีบุตร และพระอนุรุทร โดยเมื่อวันวิสาขบูชา ปีพ.ศ.2518 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ที่องค์พระธาตุมหาชัย และทรงเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุด้วยพระองค์เอง จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:02:03

ความคิดเห็นที่ 82 ต่อมาในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงครองราชย์ครบ 50 ปี ในปี พ.ศ.2539 หลวงปู่ได้มีดำริที่จะสร้างพระธาตุองค์ใหม่เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จึงมีการทำหนังสือไปที่สำนักพระราชวังเพื่อขออนุญาตก่อสร้างพระธาตุองค์ใหม่ครอบพระธาตุองค์เดิม พระธาตุองค์ที่เห็นในปัจจุบันก็คือพระธาตุองค์ใหม่แล้วนั่นเองครับ เนื่องจากคนข้างๆเป็นคนเกิดวันพุธก็เลยให้เค้าสักการะพระธาตุองค์นี้เป็นพิเศษหน่อยครับ เพราะโอกาสจะมาไหว้พระธาตุประจำวันเกิดของตัวเองแบบนี้คงไม่ได้มีมาบ่อยๆ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:03:22

ความคิดเห็นที่ 83 กำลังอยากไปนครพนมอยู่พอดีเลย ^^ ขอบคุณสำหรับ Review ค่ะ จากคุณ : i_am_fah เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:05:11

ความคิดเห็นที่ 84 คุณแอน พักในเมืองก็สบายดีฮะ ที่อยู่ที่กินสบายเลย ที่เที่ยวก็เยอะครับ จะหาร้านเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือว่าเช่ารถจักรยานขี่ชมเมืองก็สะดวกดีฮะ หรือไม่งั้นก็เรียกรถสกายแล็ปที่ผ่านมาให้ไปส่งตามที่ต่างๆได้เลยราคาไม่น่าจะแพงมากครับ ********************************************************** ที่ผมรู้มานอกจากองค์พระธาตุมหาชัยแล้ว ภายในพระอุโบสถยังมีสิ่งที่น่าสนใจคือพระพุทธรูปปางห้ามญาติแกะสลักจากไม้ต้นสะเดาหวานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีภาพเขียนฝาผนังอุโบสถแสดงพุทธประวัติที่งดงาม หาชมได้ยากยิ่งในภาคอีสาน แต่เสียดายที่วันที่ไปไม่ได้มีการเปิดให้เข้าไปชมครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:12:32

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ i_am_fah ยินดีมากเลยครับ นครพนมเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากฮะไปแล้วรับรองว่าจะำไม่ผิดหวังครับ ********************************************************** นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังมีสิ่งน่าสนใจอีกหลายอย่างเช่น หอพิพิธภัณฑ์พระครูสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ) เป็นต้น จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:14:57

ความคิดเห็นที่ 86 พระธาตุองค์นี้เชื่อกันว่าผู้ที่ไปนมัสการจะประสบแต่ชัยชนะในชีวิต จะเป็นนักประสานสิบทิศ โอภาปราศรัยดี ค้าขายคล่อง พูดจามีคนเชื่อถือ หลังจากนมัสการพระธาตุมหาชัยเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาออกเดินทางต่อไปยังพระธาตุองค์ต่อไปซึ่งจะเป็นองค์ที่ 5 แล้วครับ การเดินทางก็ให้ขับรถออกไปตามทางเดิม พอออกถนนใหญ่ก็เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางจังหวัดสกลนคร ช่วงนี้เป็นช่วงที่จะต้องอยู่บนรถนานที่สุดแล้วครับ เพราะระยะทางไปถึงจุดหมายต่อไปไกลถึง 81 กิโลเมตรเลยทีเดียว จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 15:16:10