ความคิดเห็นที่ 1 ทริปนี้เป็นการเที่ยวแบบจัดกรุ๊ปกันเอง เลือกสถานที่ที่อยากไป จองตั๋วเครื่องบินเอง แล้วซื้อแพ็คเกจทัวร์จากลาดักห์ผ่านบริษัททัวร์ในไทย แต่กว่าจะสำเร็จ ก็ลุ้นกันตัวโก่ง เพราะครั้งแรกจองหางแดงตั้งแต่เดือนตุลา โอนเงินเรียบร้อยแล้ว มกราคมก็ถูกยกเลิกไฟล์ท ทำให้ต้องหาสายการบินใหม่ จาก 11 คน เหลือเป็น 8 คน แล้วมาเพิ่มอีก 1 คนภายหลัง รวมเป็นทั้งหมด 9 ชีวิต  สรุปกันที่ 2 วันแรกลุยเดลลี ทัชมาฮาล  3 วันต่อมาลุยลาดักห์ เลห์  อีก 2 วันลุยแคชเมียร์ และจบที่เดลลี สนนราคาทัวร์รวมค่าวีซ่าอยู่ที่ 25,000.- บาท  ค่าตั๋วเครื่องบิน 5 ไฟล์ทประมาณ  22,000.- บาท ค่าอาหารกับค่าทิปไกด์ ประมาณ 4,000 บาท ถ้าจะรีวิวทั้ง 8 วัน ก็กลัวจะไม่จบ  เลยขอแนะนำแต่ลาดักห์ก่อน  เพราะเป็นจุดหมายที่ต้องการไปมากที่สุด และประทับใจที่สุด ภาพ  :  ทิวทัศน์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในลาดักห์ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 13:44:54

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนจะไปในดินแดนที่สูงกว่าสามพันเมตรจากระดับน้ำทะเล  เลยต้องศึกษาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับพวกเรา ชาวที่ราบลุ่มเจ้าพระยา   เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโรคแพ้ความดันอากาศในที่สูง (Acute Mountain Sickness - AMS)   อาการโรคแพ้ความดันอากาศในที่สูง เกิดจากปริมาณออกซิเจนในอากาศน้อยกว่าในที่ราบ โดยมากจะมีอาการแพ้ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเลตั้งแต่ 3,000 เมตรขึ้นไป ออกซิเจนมีหน้าที่ลำเลียงเลือดไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย  เมื่อออกซิเจนในอากาศน้อยลง ทำให้เลือดหนืดขึ้น ดังนั้น เราต้องเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย โดยการดื่มน้ำมาก ๆ เพราะในน้ำมีออกซิเจน ทำให้เลือดหนืดน้อยลง   ควรดื่มน้ำมากกว่า 2 ลิตรต่อวัน จึงจะทำให้ร่างกายปรับตัวได้ไวขึ้น   การเคลื่อนไหวช้า ๆ ก็ช่วยให้หัวใจไม่ต้องสูบฉีดเลือดมากเกินไป  ทำให้เลือดสูบฉีดไปถึงสมองได้มากขึ้น   หากเลือดไปถึงสมองช้าและน้อยลง จะทำให้มีอาการปวดหัว    ปกติร่างกายทั่วไป ใช้เวลาในการปรับตัวกับความดันอากาศที่เปลี่ยนไปประมาณ 4-7 วัน ภาพ  :  ยอดชางลา (Chang La Pass)  เส้นทางรถยนต์ที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก จุดที่สูงที่สุดของถนนความสูงอยู่ที่ 5,599 เมตรจากระดับน้ำทะเล จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 13:51:34

ความคิดเห็นที่ 3 ติดตามค่ะ จากคุณ : Gabi เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 13:57:28

ความคิดเห็นที่ 4  ความดันสูงต้องกินยาตลอดชีพ นี่ ไปได้ป่าว อยากไปๆ จากคุณ : เสี่ยเหนก เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 13:59:22

ความคิดเห็นที่ 5 อาการ - เกิดได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่เหนื่อยง่าย  หายใจไม่สุด ปวดหัว ทานยาก็ไม่หาย อาหารไม่ย่อย ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน นอนไม่หลับ นอนราบไม่ได้ ง่วงนอนตลอดเวลา  มือเท้าบวม  เลือดกำเดาไหล  หากเป็นหนักจะต้องนำลงสู่พื้นที่ต่ำ    การป้องกัน   นอกจากการดื่มน้ำมาก ๆ แล้ว ยังมียกแผนปัจจุบันที่ช่วยป้องกันได้ คือ  1 )  Acetazolamide  ชื่อทางการค้าคือ DIAMOX  ยานี้ช่วยเพิ่มอัตราการหายใจ ควรทานก่อนขึ้นที่สูงประมาณ 24 ชั่วโมง  วันละ 2 ครั้ง ๆ ละ ครึ่งเม็ด  ผลข้างเคียงที่อาจเกิดคือ ชาที่ริมฝีปาก ปลายนิ้ว การรับรสเปลี่ยน  2 )  Dexzmethazone เป็นยาลดการบวมของสมองและร่างกายจากภาวะแพ้ความสูง  ทานครั้งละ 4 ม.ก.(2เม็ด) วันละ 2 ครั้งหลังอาหารทันที  แต่ยานี้เป็นยาควบคุม หาซื้อยากหน่อย วิธีป้องกันโรคแพ้ความสูงแบบชาวหิมาลัย - ชาวเนปาลใช้วิธีทานกระเทียมสด - ชาวอินเดียทานขิง - ชาวทิเบต ทานผลิตภัณฑ์จากวัวและจามรี เช่น นม เนย ชีส เนื้อวัว เนื้อแพะ จะช่วยเสริมพลังให้ร่างกายสามารถต่อต้านโรคแพ้ความสูงได้   สำหรับผม ได้ซื้อ DIAMOX มาทานตั้งแต่คืนก่อนเดินทางไปอินเดีย (เม็ดละ 5 บาท) เล่นเอานอนแทบไม่หลับเพราะเกิดอาการชาที่ปลายนิ้วมือนิ้วเท้า  แต่วันถัดไปก็ไม่เกิดผลข้างเคียงอะไร  และตอนอยู่ที่ลาดักห์ ก็พกน้ำไว้จิบตลอดเวลา เลยไม่มีอาการแพ้    ภาพ :  เพื่อนร่วมทริปเกิดอาการแพ้ความกดอาการสูง มีอาการปวดหัวและหายใจไม่สะดวกทันทีที่เริ่มถึงสนามบินที่เลห์  นั่งลงอาเจียนที่ทะเลสาปปันกอง จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 13:59:48

ความคิดเห็นที่ 6  สวัสดีครับ คุณGabi  ตามมาเลยครับ  สวัสดีครับเสี่ยเหนก  ความดันทุรังสูงอย่างเสี่ย ไปได้อยู่แล้วครับ ------------------------------------------------------------------------------------- ต้องออกจากโรงแรมในเดลลีตอนตีสาม ทั้งทีเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเที่ยงคืน เพราะระหว่างทางที่ไปทัชมาฮาล เกิดเจอม๊อบชาวนาปิดถนน กว่าจะเคลียร์กันได้ก็เกือบ 2 ชั่วโมง เครื่องออกจากสนามบินอินทิราคานธี เวลา 5.40 น. จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:03:54

ความคิดเห็นที่ 7 รูปเปิดนี่ใช่   โกปี้ ,น้าเปิ๊ยก ,น้าม่วง ,ตาป้อม  ตอนเด็กรึเปล่า เข้าใจผิดมาตลอดว่า 4 คนนี้ เกิดขึ้นมาก็แก่เลยอ่ะ   จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:05:47

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 20 นาที จะถึงที่เลห์ตอนเจ็ดโมงเช้า โชคดีที่ได้ที่นั่งติดหน้าต่างและก็ไม่ติดปีกเครื่องบิน  พระอาทิตย์เริ่มขึ้น ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้ถึงเมืองเลห์  ทำให้ได้ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นเบื้องล่าง จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:06:32

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพสวย มาก ๆ ค่ะ อยากไปจัง ขอละเอียดเลยนะคะ พี่เสือ จากคุณ : ซี-love เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:10:07

ความคิดเห็นที่ 10  สวัสดีครับพี่เถียน  คิดว่าไม่น่าจะใช่นะ เพราะเหล่าลามะน้อยน่ารักเกินกว่าที่จะโตมาแล้วเกรียนได้ขนาดนี้  แต่ถ้าใช้ ผมจะยอมติดคุกเมืองเลห์ ผลัก 4 คนนี้ให้ตกเขาเลย ------------------------------------------------------------------------------------- ตอนแรกว่าจะไม่นำกล้องถ่ายรูปขึ้นเครื่องบินด้วย เพราะคู่มือที่บริษัททัวร์ให้มา บอกว่าสนามบินเข้มงวดในการตรวจสัมภาระขึ้นเครื่องมาก  ถึงกับจะถอดแยกเลนส์ออกมาดู   แต่จริง ๆ แล้วไม่ถึงขนาดนั้น แค่เห็นว่าเป็นกระเป๋ากล้อง ก็ไม่ได้ตรวจอะไรมากมาย แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 22:36:26 จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:11:34

ความคิดเห็นที่ 11 สวยมากกกกกก  ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะพี่เสือ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 14:17:36 แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 14:17:09 จากคุณ : บูตะ กะ กิมจิ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:12:20

ความคิดเห็นที่ 12 ตามไปด้วยค่ะ   พอจะทราบไหมค่ะ มิย กค น่าเที่ยวเหมือนเมษาหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : sueko เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:13:16

ความคิดเห็นที่ 13  สวัสดีครับ คุณซี-love  วันนี้ขอรีวิวแบบไฮไลท์ก่อนครับ เพราะกลัวจะไม่จบ ------------------------------------------------------------------------------------ จากเห็นยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ พอใกล้ถึงเมืองเลย์ วิวก็จะเปลี่ยนเป็นเหมือนหุบเขาสีน้ำตาล จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:15:23

ความคิดเห็นที่ 14 รีวิวรวดเร็วทันใจจริงๆ มาไว้พระอยู่ กลับไปจะไปดูอีกรอบ ^^ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:15:56

ความคิดเห็นที่ 15 รูปสวยเชียว  ไปเที่ยวด้วยคนครับคุณเสือ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:20:07

ความคิดเห็นที่ 16  สวัสดีจ้าน้องกิมจิคนสวย  วิ่งตามมาเลย      สวัสดีครับ sueko  เดือนมิถุนาถึงสิงหาคม เป็นช่วงไฮของที่นี่เลยครับ จะเริ่มมีดอกไม้บาน อากาศไม่หนาวจัด แต่อาจจะไม่มีหิมะบนยอดเขาบางลูก  และเดือนมิถุนายนจะมีงานเทศกาลระบำหน้ากาก ซึ่งเป็นงานที่น่าไปร่วมชมมาก ส่วนสิงหาคม ต้นแอปริคอตจะออกผลให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มรสความหวานฉ่ำ --------------------------------------------------------------------------------------- เมื่อได้เห็นความยิ่งใหญ่ของภูเขา  กลับมีความคิดว่า ถึงธรรมชาติจะยิ่งใหญ่ แห้งแล้ง หรือโหดร้ายแค่ไหน  มนุษย์ตัวเล็ก ๆ กลับหาหนทางในการต่อสู้ดำรงชีวิตให้อยู่กับธรรมชาติเหล่านั้นได้ อดคิดถึงตัวเองว่า ถ้าเรามาเกิดในดินแดนแถบนี้ เราจะอยู่กับมันได้หรือเปล่า จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:21:24

ความคิดเห็นที่ 17  สวัสดีครับป้าติ๊ก  ไปไหว้พระหรือไปแอบจิ๊กเงินบริจาคครับ  สวัสดีครับอาหนิง  ตามมาเลยครับ ---------------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:23:14

ความคิดเห็นที่ 18 เที่ยวบินนี้มีเหล่าทหารนั่งมาด้วยกว่ายี่สิบคน ทำให้บรรยากาศดูตื่นเต้นดี  เวลา 7.00 น. ก็ถึงสนามบินคูชอคบากูลา รินโปเช (LEH KUSHOK BAKULA RINPOCHE AIRPORT)  เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้เข้มงวดเหมือนกับที่บริษัททัวร์ขู่ไว้  (แต่ถ้าเป็นที่แคชเมียร์ จะถูกตรวจอย่างละเอียดมาก)   พวกเราต้องกรอกข้อมูลในด่านตรวจอีกครั้ง จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:27:37

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าหน้าที่บริษัททัวร์มารับที่สนามบิน  วันนี้ฟ้าใสแดดแรง แต่อากาศก็เย็นมาก จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:28:41

ความคิดเห็นที่ 20 จุดหมายแรกคือนำสัมภาระไปเก็บที่ห้องพัก และรับประทานอาหารเช้าของโรงแรม โรงแรมที่เราพักชื่อ Hotel Lasermo เป็นโรงแรมที่น่ารักดี อยู่กลางใจเมืองเลห์  พนักงานอัธยาศัยดีกันทุกคน เวปของโรงแรม เผื่อใครสนใจ  www.hotellasermo.com  และ www.hotellasermo.in จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:32:33

ความคิดเห็นที่ 21 โรงแรมเป็นเหมือนรูปตัว n  ผมได้ห้องที่ชั้น 3  เนื่องจากไม่มีลิฟท์ เดินขึ้นห้องแต่ละครั้งเล่นเอาหอบเหมือนกัน จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:34:45

ความคิดเห็นที่ 22 ว้าววววววว มาแล้วลาดัก มาชมภาพสวยๆ และเก็บข้อมูลค่ะ จากคุณ : นางมารชุดส้ม เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:35:27

ความคิดเห็นที่ 23 แต่บนชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ก็มีระเบียงให้ชมวิวสวย ๆ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:36:02

ความคิดเห็นที่ 24  สวัสดีครับน้องมารฯ  ต้องไปให้ได้นะครับ ลาดักห์สวยจริง ๆ --------------------------------------------------------------------------- หลังจากเก็บสัมภาระที่โรงแรม ทานอาหารเช้า พักผ่อนกันสักครู่ ก็เริ่มออกเดินทาง โดยจุดหมายวันนี้ (15 เมษายน 2555) คือ วัดเฮมิส - พระราชวังเชย์  -  วัดธิคเซย์  -  เจดีย์สันติภาพ ภาพ :  บริเวณลานจอดรถของวัดเฮมิส ซึ่งจะทำรู้ว่าวัดแห่งนี้ได้สร้างอยู่ท่ามกลางหุบเขา จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:39:35

ความคิดเห็นที่ 25 สวยมากมายเลยค่ะ ขอเก็บข้อมูลด้วยนะคะ จากคุณ : Blue Whale เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:40:07

ความคิดเห็นที่ 26  สวัสดีครับคุณ Blue Whale  ขอบคุณครับ ------------------------------------------------------------------ วัดเฮมิส (HEMIS MONASTERY)   วัดเฮมิส เป็นวัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองลาดักห์ สร้างเมื่อปี ค.ศ.1630 โดยพระเจ้าเซงกีผู้สร้างพระราชวังเลห์ และได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1998   ที่นี่เป็นวัดทิเบตนิกายหมวกแดง เป็นที่เก็บผ้าทังก้า(หรือผ้าพระบฏ)พระปทุมสมภพอายุมากกว่า 300 ปี ซึ่งเป็นสมบัติลำค่าของชาวลาดักห์ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:41:37

ความคิดเห็นที่ 27 อู้หูววว จากคุณ : keep it up เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:42:21

ความคิดเห็นที่ 28 ภายในอาคารส่วนแรก จะพบห้องสวดมนต์ขนาดใหญ่ ภายในแสงสลัว จะพบภาพพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ พระโพธิสัตว์ และผ้าทังก้าโบราณ และด้านในสุด จะเป็นส่วนของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งรวบรวมสิ่งของมีค่าต่าง ๆ ไว้ แต่ห้ามนำกล้องเข้าไปในพิพิธภัณฑ์โดดเด็ดขาด   ทางเข้าจะมีขายของที่ระลึก ภาพ :  ห้องสวดมนต์ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:44:56

ความคิดเห็นที่ 29  สวัสดีครับน้าตุ๋ม  ร้องยังจะเจอสาวนุ่งบิกินี่ ------------------------------------------------------------------     ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นฤดูร้อน ที่นี่จะมีงาดวัดประจำปีที่เรียกว่า เฮมิส-เตชู  ซึ่งจะเป็นงานบุญอันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน  เหล่าพระลามะจะพากัน แต่งกายด้วยชุดสัญลักษณ์ต่าง ๆ หรือสวมหน้ากากเทพ-มาร ออกมาร่ายรำโดยต้องกำหนดจิต นำพาตนเองเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับหน้ากากเทพที่สวมใส่อยู่ อีกทั้งยังต้อง เพ่งสมาธิให้เกิดนิมิตต่าง ๆ เพื่อให้เกิดดวงตาแห่งธรรมอันพิสุทธิ์   ภาพ :  ลามะน้อยแห่งวัดเฮมิส จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:46:55

ความคิดเห็นที่ 30 วัดธิคเซย์ (THIKSEY MONASTERY)  วัดธิคเซย์ เป็นอารามเก่าแก่เกือบ 600 ปี  สถาปนาขึ้นครั้งแรกต้นศตวรรษที่ 14 โดย ท่านเซรัป ซังโป (SHERAB ZANGPO) แห่งสต็อดในหุบเขาซันสการ์ รูปทรงของวัดคล้ายกับพระราชวังโปตาลาในทิเบต  จนได้รับฉายาว่า MINI POTALA จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:48:20

ความคิดเห็นที่ 31 โอ้ววววว อลังการ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:48:37

ความคิดเห็นที่ 32   สวัสดีครับน้าม่วง   ก็น้าคุ้นแต่ของเล็ก ๆ ล่ะซิ ------------------------------------------------------------------------------ พวกเราทานอาหารกลางวันกันที่วัด  สั่งผัดหมี่กันคนละชาม ปรากฎว่าชามใหญ่มาก ทานกันไม่หมด จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:51:10

ความคิดเห็นที่ 33 ไม่ยอมไป nz ด้วยกัน สุดท้ายชิ่งไปอินเดียนะพี่เสือ Fit เว่อ รีวิวไวมากก เอามาแข่งกะรีวิวตุ๊กตาเลยดีไหม 55 จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:52:18

ความคิดเห็นที่ 34 วัดธิคเซย์มีอารามทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ทาด้วยสีแดงและขาวนับร้อยหลัง เรียงรายไล่ระดับตามเนินเขาที่สูงเกือบ 3,600 เมตรจากระดับน้ำทะเล ประกับกันเข้าเป็นป้อมปราการ  เพื่อปกปักรักษาพุทธศาสสนาให้ยืนยาว มีกุฎิรายล้อมอารามหลักสูง 12 ชั้น  หลังจากอิ่มก็เดินขึ้นไปชมด้านบน   เจอสุนัขวัดตัวนี้นอนทอดอารมณ์บนขอบกำแพงวัดด้านบน จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:55:01

ความคิดเห็นที่ 35 สวยงามสมกับที่รอคอยเลยค่ะ กิฟท์ขอติดไว้วันอังคารนะคะ จากคุณ : เอ เองค่ะ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:56:10

ความคิดเห็นที่ 36 ไปด้วยนะ น้าเสือ จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:57:31

ความคิดเห็นที่ 37 โอ้.... สวยงามอลังการงานสร้างมากเลยค่ะ จากคุณ : petsoon เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:58:07

ความคิดเห็นที่ 38   สวัสดีครับโกปี้  พอดีพี่ไม่ชอบแกล้งเด็กเหมือนบางคน เลยมานี่ดีกว่า ส่วนเรื่องฟิตก็คงจะจริง เพราะเป็นคนสุขภาพแข็ง แรงมาก -------------------------------------------------------------------------------------- พระศรีอาริยเมตไตรย (The Future Buddha) ความสูง 15 เมตร เท่ากับอาคาร 2 ชั้น  เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในหุบเขาลาดักห์  ถูกดำริให้สร้างขึ้นโดยดาไลลามะองค์ที่ 14   เมื่อปี ค.ศ.1980 โดยช่างชื่อ Nawang Tsering ซึ่งใช้เวลาราว 2 ปี จึงจะเสร็จสมบูรณ์  ซึ่งชาวพุทธมหายานเชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์องค์ต่อไปที่จะคอยช่วยเหลือมนุษย์ สามารถถ่ายภาพองค์พระได้ แต่ห้ามไปยืนหรือนั่งถ่ายร่วมกับองค์พระ เพราะถือว่าเป็นการไม่สมควร จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 14:58:42

ความคิดเห็นที่ 39  สวัสดีครับน้องเอ  การดูภาพอาหารแล้วไม่อิ่มฉันใด  การดูแต่รีวิวก็ไม่ได้รับอิ่มใจที่แท้จริงฉันนั้น  รีบไปอ้อนเพื่อนจอกให้พาไปเที่ยวบ้างเหอะ จะเก็บเงินไว้ซ่อมบ้านอย่างเดียวรึไง  สวัสดีครับท่านประธาน สวยสู้เมืองจีนได้ป่ะ  สวัสดีครับ petsoon   ขอบคุณครับ --------------------------------------------------------------------------------------- พระราชวังเชย์ (Shey Palace)  พระราชวังเชย์ สร้างโดยกษัตริย์ Deldan Namgyal เพื่อระลึกถึงผู้เป็นพระบิดา  ก่อสร้างเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์แห่งลาดักห์ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:05:04

ความคิดเห็นที่ 40 วิวฝั่งตรงข้ามถนน จะเป็นเหมือนบึงขนาดใหญ่ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:06:17

ความคิดเห็นที่ 41 ภายในพระราชวังเชย์ มีรูปปั้นของพระศากยมุณี ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:07:22

ความคิดเห็นที่ 42 เจดีย์แห่งสันติภาพ (Shanti Stupa)   เจดีย์แห่งสันติภาพ หรือ Shanti Chorten ในภาษาของชาวลาดักห์  ตั้งอยู่บนยอดเขาห่างจากตัวเมืองเลห์ประมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อได้ขึ้นไปยืนอยู่ด้านบน จะได้เห็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นตัวเมืองเลห์ได้แบบ 360 องศา      เจดีย์นี้ถูกสร้างเมื่อปี ค.ศ.1917 โดยพระสงฆ์ชาวญี่ปุ่น ชื่อ นิชิดัทสุ ฟูจิอิ จากองค์กรพุทธศาสนาแห่งญี่ปุ่น   เจดีย์แห่งสันติภาพ ถูกสร้างขึ้นในหลายประเทศ เช่น เนปาล ออสเตรเลีย โปแลนด์ เกาหลี อังกฤษ ฯลฯ แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 15:12:55 จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:08:28

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาดูครับ  ภาพสวยสุดๆเลยครับ มีโอกาสต้องตามรอยมั่งครับ จากคุณ : แม่ประนอม (luie2539) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:09:34

ความคิดเห็นที่ 44 บนนี้ลมแรงและอากาศหนาวมาก  ด้านบนเจดีย์จะมีรูปปูนปั้นพุทธประวัติอยู่ 4 ด้าน จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:09:43

ความคิดเห็นที่ 45  สวัสดีครับเสี่ยลุ้ย  ต้องพาแม่ประนอมมาให้ได้นะครับ ---------------------------------------------------------------------------- เนื่องจากอากาศปิด เลยไม่เห็นบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน  แต่ก็เห็นเมืองเลย์ได้ทั้งหมด จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:11:55

ความคิดเห็นที่ 46 สวยมากคร้าบบบบบ พี่เสือ สู้ได้เหลือๆ จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:11:58

ความคิดเห็นที่ 47  จริงเหรอท่านประธาน  แต่ไม่มีนางแบบสวย ๆ แบบของท่านประธานอ่ะดิ ------------------------------------------------------------- โปรแกรมวันที่สอง(16 เมษายน 2555)   เมืองบาสโก - วัดอัลชิ - วัดลามายูรู ภาพ :  นักเรียนยืนรอรถโรงเรียนมารับในตัวเมืองเลห์ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:15:57

ความคิดเห็นที่ 48 ระหว่างทาง รถมาจอดริมหน้าผาสูงชัน เพื่อให้พวกเราได้ลงมาชื่นชมและถ่ายรูปแม่น้ำสองสีมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำซันสการ์ สีฟ้าเทอร์ควอย์ กับแม่น้ำสินธุ สีน้ำตาลปนเทา จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:16:52

ความคิดเห็นที่ 49 สวยครับแต่ไม่กล้าไปอะ แค่ขึ้นจุงฟราวแบบ มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมยังหายใจเหนื่อยโคตรเลย 3 พ่อแม่ลูก จากคุณ : tan_www เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:19:16

ความคิดเห็นที่ 50  สวัสดีครับ tan_www   ถ้าแพ้ความกดอากาศสูง ก็ไม่ควรจะเสี่ยงครับ --------------------------------------------------------------------------- เมืองบาสโก (Basgo) เมืองนี้เคยเป็นเมืองศูนย์กลางสำคัญทางวัฒนธรรมและการเมือง จนมักถูกเรียกว่า เป็นบันทึกแห่งลาดักห์ เมืองศตวรรษที่ 15 เคยมีการสร้างพระราชวังที่นี่ด้วย มีวัดบาสโกที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1680 ภาพ :  ทางเดินไปชมพระราชวังและวัดบาสโก  ด้านซ้ายมือเป็นพระราชวัง ด้านขวาเป็นวัด แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 15:22:15 จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:20:14

ความคิดเห็นที่ 51 เดินไปชมส่วนของพระราชวังก่อน สำหรับคนกลัวที่สูง คงจะเดินลำบากหน่อย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:24:05

ความคิดเห็นที่ 52 เมื่อมองไปยังเบื้องล่าง มีความรู้สึกเหมือนกับได้ดูหนังเรื่อง Star Wars จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:25:02

ความคิดเห็นที่ 53 ... จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:26:15

ความคิดเห็นที่ 54 จากนั้นก็เดินลัดเลาะไปยังตัววัดบาสโก  ได้พบกับชาวลาดักห์กลุ่มหนึ่ง พาลูกหลานมาไหว้พระที่วัด จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:27:43

ความคิดเห็นที่ 55 พระพุทธรูปภายในวัดบาสโก จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:28:39

ความคิดเห็นที่ 56 จุดหมายต่อไปคือ วัดอัลชิ เส้นทางไปวัดอัลชิขับเลียบแม่น้ำ ทำให้ได้เห็นสีเขียว ๆ กันบ้าง จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:31:32

ความคิดเห็นที่ 57 รีบรีวิวจนลืมกฎของพันทิปเปล่าเพื่อนเสือ เดี๋ยวก็ได้กินมาม่าอีกหรอก อ้าว งง ๆ ก็ไม่ได้ใส่ SR / CR ไงคร๊าบบบบบ อ้อ เรื่องซ่อมบ้านอันนั้นไม่ต้องเก็บครับ เคยบอกแล้วจำไม่ได้ เฮ้อ แก่แล้วก็อย่างนี้ล่ะนะ จากคุณ : จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:32:44

ความคิดเห็นที่ 58 แต่ถนนบางช่วงกำลังปรับปรุงซ่อมแซมอยู่ ต้องมีการรอบ้าง จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:32:51

ความคิดเห็นที่ 59 สะพานข้ามแม่น้ำที่นี่จะถูกประดับไปด้วยธงมนต์ ตามความเชื่อของชาวทิเบตที่ว่า ธงโบกสะบัดหนึ่งครั้ง เหมือนการได้สวดมนต์หนึ่งจบ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:34:18

ความคิดเห็นที่ 60 พี่เสือเร็วมากครับ คุณเปี๊ยกสู้ไม่ได้เลย ว่าแต่รีวิวชุดนี้ใช้เลนส์ตัวที่ซื้อใหม่หรือเปล่าครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:35:34

ความคิดเห็นที่ 61 ยังตามดูอยู่นะครับ  อย่าเพิ่งรีบจบ  ลงให้เยอะนะครับ เดี๋ยวพาลูกๆไปทานข้าวก่อน  แลับมาจะมาดูต่อนะครับคุณเสือ  ขอยาวๆนะครับ จากคุณ : แม่ประนอม (luie2539) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:36:08

ความคิดเห็นที่ 62  สวัสดีครับเพื่อนจอก  บ่นเป็นตาแก่เฝ้าบ้านเลยนะ  ก็ไม่ชอบใส่ SR CR มันคับ ใส่แล้ววิ่งไม่ถนัด  และอีกอย่างไม่ได้รีวิวโรงแรม  ลามะท่านคงไม่เอาเงินบริจาคมาเป็นสปอนเซอร์ให้หรอก -------------------------------------------------------------------------------------- ชมวิวข้างทางเพลินเลย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:38:04

ความคิดเห็นที่ 63 ตามไปเที่ยวด้วยคนคะ จากคุณ : กระจ่างเนตร เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:40:55

ความคิดเห็นที่ 64  สวัสดีครับคุณชายป้อม  คืนนี้นอนคนเดียวรึเปล่า    น้าเปี๊ยกแกลูกเยอะเมียแยะ เลยไม่มีเวลาทำรีวิวหรอก  ส่วนเลนส์ตัวใหม่ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะมันถ่ายภาพขณะรถเคลื่อนไหวได้ไม่ดีเลยอ่ะ  ทานเผื่อด้วยนะครับเสี่ยลุ้ย  ฝากบอกแม่ประนอมอย่าทานเยอะ เดี๋ยวจะนั่งพับเพียบไม่ไหว ----------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:43:10

ความคิดเห็นที่ 65  สวัสดีครับคุณกระจ่างเนตร   ตามมาเลยครับ ---------------------------------------------------------------------- วัดอัลชิ เป็นวัดที่สงบเงียบ ไม่ใหญ่โต สร้างขึ้นบนพื้นที่ราบ สร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1020 -1035 (พ.ศ. 1563 - 1578) สถาปัตยกรรมและศิลป์เก่าแก่ของวัดล้วนเป็นฝีมือของช่างศิลป์จาก แคชเมียร์ และธิเบต ภายในวัดแห่งนี้แบ่งออกเป็นห้องเล็ก ๆ หลายห้อง แต่ละห้องเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปหลายห้องและสิ่งของมีค่าทางศาสนานั้น ถูกล็อกกุญแจเอาไว้เพื่อป้องกันขโมย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:44:56

ความคิดเห็นที่ 66 ข้างในอาคารห้ามถ่ายภาพ งั้นมาชมดอกแอปริคอตในวัดดีกว่า  สีสันเหมือนนางพญาเสือโคร่งบ้านเราเลย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:47:18

ความคิดเห็นที่ 67 จุดหมายต่อไปคือวัดลามายูรู เส้นทางนี้ไกลพอสมควร จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:48:52

ความคิดเห็นที่ 68 แวะทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้าน Khaltse  ชื่อร้าน Indus Restaurant หน้าร้านมีเมนูหลากหลาย พอเข้ามานั่งก็เจอเพียงแค่แกง 2 หม้อ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:49:50

ความคิดเห็นที่ 69 ทำไมเหรอครับ ถ้านอนคนเดียวพี่เสือจะมานอนด้วยเหรออออออ.... อุตส่าห์ซื้อใหม่เอาไปก็ไม่ค่อยใช้ คุ้มไม๊ครับเนี่ย ตัวนึงตั้งหลายหมื่น จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:53:13

ความคิดเห็นที่ 70 อาหารชาวลาดักห์ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวราดแกง ไม่ค่อยมีเนื้อสัตว์หรือไข่ เพราะไก่คงทนความหนาวของลาดักห์ไม่ไหว  ไข่ไก่ที่ทานในโรงแรมมีเปลือกสีขาว ไข่แดงสีเหลืองอ่อน  ถามไกด์ดูไกด์บอกว่าเป็นไข่ปลอม (fake egg) เล่นเอาฮือฮากันทั้งคณะ แต่ทานยังไงรสชาติก็เหมือนทานไข่ไก่บ้านเรา มื้อนี้เป็นเหมือนแกงมัสมั่นแต่ไม่ค่อยหวานและมีแต่มันฝรั่ง กับแกงถั่วที่มีกลิ่นเครื่องเทศแบบอินเดีย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:55:57

ความคิดเห็นที่ 71  คงไม่ไหวหรอกครับตาเผือก...กลัวคัน  แล้วเลนส์สนใจจะซื้อต่อรึเปล่า ขายถูก ๆ --------------------------------------------------------------------------- ทานข้าวไม่หมด เลยซื้อ kit kat มากิน  เจอเจ้า 2 ตัวนี้อยุ่ริมถนน ตอนแรกโยน kit kat ให้ ทำเป็นดมดมเหมือนจะไม่กิน แต่พอลองชิมแล้ว ก็เดินตามมาไม่เลิก จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:59:46

ความคิดเห็นที่ 72 แวะซื้อของฝากร้านใกล้ ๆ ร้านอาหาร  ขายพวกผลแอปริคอตแห้ง เมล็ดอัลมอลต์ ลูกวอลนัท   ภาพ :  ลูกชายเจ้าของร้าน โดยความหนาวกัดจนคางเป็นแผล จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:04:53

ความคิดเห็นที่ 73 เดินทางต่อแล้วครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:06:02

ความคิดเห็นที่ 74 ขอตามไปเที่ยวทริปในฝันด้วยคนค่ะ ^^ จากคุณ : lovetree เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:06:55

ความคิดเห็นที่ 75 Wow...incredible india เห็นรูปแล้วอยากไปทริปแบบนี้จังค่ะ วิถีชีวิตของเค้าดูมีเสน่ห์มั่ก ๆ จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชาย เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:07:18

ความคิดเห็นที่ 76 ไกด์บอกว่าเดี๋ยวรถจะวิ่งผ่าน MOON LAND  ผมคิดในใจว่าแล้วไอ้ที่ผ่านมานี่มันยังไม่เหมือนพื้นผิวดวงจันทร์อีกเหรอ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:07:28

ความคิดเห็นที่ 77 ภาพสวยมากค่่ะ กำลังสนใจอยากจะไปอยู่พอดี ขอชื่อทัวร์หลังไมค์ได้มั้ยคเ ขอบคุณคะ จากคุณ : vejmon เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:08:40

ความคิดเห็นที่ 78  สวัสดีครับ lovetree ถ้าเป็นทริปในฝันก็ขอให้ได้ไปในเร็ววันนะครับ ที่นี่สวยงามและสงบมาก อยากให้ได้ไปจริง ๆ  สวัสดีจ้าหนูกิต  รีบเก็บเงินแล้วไปเลย หนับหนุนเต็มที่ ------------------------------------------------------------------------- ถนนตัดผ่านหุบเขาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแต่หิน แทบจะไม่มีต้นไม้ขึ้นเลย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:11:09

ความคิดเห็นที่ 79 อยากไปเที่ยวบ้างครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Travelmax เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:15:17

ความคิดเห็นที่ 80  สวัสดีครับ vejmon  ได้ครับ แล้วจะส่งชื่อทัวร์ไปให้  แต่ถ้าจะเที่ยวแบบไปลาดักห์โดยตรง ลองเข้าไปดูที่เวปของ www.adventurezanskar.com   ---------------------------------------------------------------------------------- ของจริงนี่ดูยิ่งใหญ่อลังการเหมือนอยู่บนดาวอังคารหรือดวงจันทร์จริง ๆ  สมกับฉายา Moon Land จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:16:59

ความคิดเห็นที่ 81 อยากได้ความเย็นของอากาศมาเฉลี่ยกับอากาศกทม.จัง จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:18:25

ความคิดเห็นที่ 82  สวัสดีครับ Travelmax  ถ้ามีโอกาสต้องไม่พลาดนะครับ ลาดักห์สวยจริง ๆ --------------------------------------------------------------------------- จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:18:26

ความคิดเห็นที่ 83 ว้าว...ไปสงกรานต์ต่างแดนมานี่เอง แต่เห็นรูปที่น้องเสือเอามาแปะแล้ว แม้เกิดกิเลสสสสสสสสสปานใด ปร้าก็ไม่อาจเอื้อม เพราะจะเป็นการส่งเสริมฟามสุขของตาลุงทางอ้อมอ้ะจิ จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:18:30

ความคิดเห็นที่ 84  สวัสดีครับ Civict2003   ถ้าเฉลี่ยได้ก็ดีเน๊อะ  36+6 / 2 = 21 องศา กำลังสบาย -------------------------------------------------------------- เจอ นีล อาร์มสตรองและคณะสำรวจดวงจันทร์ด้วย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:21:34

ความคิดเห็นที่ 85  สวัสดีครับปร้าเตี้ย  คิดถึงจังเลย  ป้าไปได้อยู่แล้ว แต่จะกลับมาได้รึเปล่านี่อีกเรื่องนึง ---------------------------------------------------------------------- ถึงวัดลามายูรูแล้ว จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:24:31

ความคิดเห็นที่ 86 รีวิวสวยงามมากคะ การบรรยายพร้อมรูปถ่าย ทำให้ได้บรรยากาศมากคะ อยากให้กิ๊ฟมากกกกก แต่เดือนนี้หมดแล้วอะคะ ไว้วันอังคารจะมาให้กิ๊ฟรูปที่ประทับใจและความเห็นที่ 62 คะ (เห็นด้วยอย่างแรง 5555) ขอบคุณมากนะคะ รอชมต่อไป จากคุณ : ForasU เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:24:50

ความคิดเห็นที่ 87  สวัสดีครับForasU  ขอบคุณครับสำหรับคำชม  นาน ๆ จะมีคนชมว่าผมบรรยายดี ปกติมีแต่เข้ามาด่า ----------------------------------------------------------------------- วัดลามายูรู  หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดยุงตรุง ทาปาลิง กอมปา  เป็นวัดที่อยู่ในภูมิประเทศแบบพื้นผิวดวงจันทร์ (moon landscape)  จึงเป็นวัดที่มีสถานที่แปลกตาและดูลึกลับมาก ภาพ :  มองลงไปจากวัด เบื้องล่างจะเป็นหมู่บ้านที่สร้างได้กลมกลืนกับวัด แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 55 16:29:11 จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:25:49

ความคิดเห็นที่ 88 พวกเราเดินชมตัววัดด้านล่าง ส่วนอาคารบนภูเขา เป็นที่สำหรับเหล่าลามะใช้ศึกษาพระธรรม จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:30:41