ความคิดเห็นที่ 1 รวมลิ้งค์รีวีวิวทริป GERMAN AUTUMN LEAVES R I Q U E W I H R : หมู่บ้านมรดกโลก เมืองแห่งไร่องุ่น เมืองริค-เวีย http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11455252/E11455252.html C O L M A R : ลิตเติ้ลเวนิซ เมืองน่ารัก เมืองโกลม่าร์ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11460817/E11460817.html N E U S C H W A N S T E I N : ปราสาทเทพนิยายนอยชวานสไตน์ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11470665/E11470665.html F R A N K F U R T : เมืองหลวงทางการค้าของเยอรมัน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11475687/E11475687.html H E I D E L B E R G : เสน่ห์เมืองโรแมนติค เสน่ห์เมืองไฮเดลแบร์ก http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11479143/E11479143.html F R E I B U R G : เดินละเลียดชมเมืองน่ารัก เมืองไฟรบวร์ก http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11486344/E11486344.html BLACK FOREST : ล่องเรือในทะเลสาบ Titisee, แวะชมทุ่งดอกเรปส์ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11490877/E11490877.html ETTAL ABBEY : เยี่ยมสำนักสงฆ์เอ็ททาล, พาชมโบสถ์แสวงบุญมรดกโลก โบสถ์วีส์ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11495019/E11495019.html O B E R A M M E R G A U  : เดินละเลียดชมหมู่บ้านกำแพงสวย, แวะเยี่ยมปราสาทลินเดอร์โฮฟ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11499685/E11499685.html MUNICH LOVES YOU : เสน่ห์เมืองมิวนิก เมืองที่เคยได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในเยอรมัน http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11501929/E11501929.html N Y M P H E N B U R G Palace : พระราชวัง นึ้มเฟ่นบวร์ก, เดินเที่ยวชมตลาดฟิคทูอาเลี่ยนมาร์คท http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11504803/E11504803.html RESIDENZ MUNCHEN : พระราชวังเรซิเด้นซ์มุ้นเช่น ชมขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งบาเยิร์น http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11508829/E11508829.html ภาพหอคอยโบสถ์วีส์ (Wieskirche) โบสถ์มรดกโลกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมเมื่อมาเที่ยวแคว้นบาวาเรีย แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 55 23:22:21 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:08:47

ความคิดเห็นที่ 2 ไปเยอรมันครั้งนี้ นอกจากจะได้ชมปราสาทที่มีชื่อเสียงในแคว้นบาวาเรียแล้ว ผมได้แวะเที่ยวสำนักสงฆ์เอ็ททาล (Ettal Abbey) ด้วยครับ ซึ่งสำนักสงฆ์เอ็ททาล เป็นวัดเบ็นเนดิคตินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ หนึ่งในไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมเมื่อมีโอกาสมาเยือนดินแดนในแถบบาวาเรีย จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:09:11

ความคิดเห็นที่ 3 สำนักสงฆ์เอ็ททาล (Ettal Abbey) เป็นวัดลัทธิเบ็นนาดิคติน ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านชื่อเดียวกันใกล้กับเมืองโอเบอร์อัมเมอร์เกา (Oberammergau) และเมือง การ์มิช-พาร์เทนเคิร์ทเช็น (Garmisch-Partenkirchen) ในบริเวณบาวาเรีย (Bavaria) ประเทศเยอรมนี จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:09:32

ความคิดเห็นที่ 4 สำนักสงฆ์แห่งนี้ ก่อตั้งเมื่อขึ้นวันที่ 28 เมษายน ปี ค.ศ. 1330 ตรงกับวันสมโภชประจำปีของนักบุญวิทาลลิสแห่งมิลาน (Vitalis of Milan) โดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 4 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หรือลุดวิกบาวาเรียน (Ludwig the Bavarian) ที่หุบเขากราสแวง (Graswang valley) ตามที่พระองค์ได้ให้คำปฏิญาณไว้หลังจากกลับมาจากประเทศอิตาลี ตรงจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางการค้าขายระหว่างประเทศอิตาลีและเมืองออกสเบิร์ก ประเทศเยอรมนี (ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือเที่ยวไม่ง้อทัวร์) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:09:56

ความคิดเห็นที่ 5 ตามตำนานกล่าวว่าม้าของพระเจ้าลุดวิกผงกหัวสามครั้งตรงที่ที่ต่อมาเป็นที่สร้างวัดเดิม ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่ตั้งรูปปั้นของ พระแม่มารี ที่เรียกกันว่า “Frau Stifterin” หรือ “Ettal Madonna” (เอ็ททาลมาดอนนา) เป็นศิลปะตระกูลปิซาโน (Pisano) ซึ่งเป็นของขวัญที่พระเจ้าลุดวิกทรงมอบให้แก่วัด รูปปั้นนี้กลายมาเป็นวัตถุมงคล ที่นักแสวงบุญนิยมกันมาสักการะ วัดนี้อุทิศให้แก่การอัสสัมชัญของพระแม่มารี จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:10:16

ความคิดเห็นที่ 6 แรกเริ่มเดิมทีตัวโบสถ์สร้างเป็นแบบโกธิก สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1330 ถึงปี ค.ศ. 1370 เป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่ใหญ่นักเมื่อเทียบกับวัดระดับเดียวกันในยุคกลางในบริเวณบาวาเรีย กระทั่งช่วงปี คศ 1710 - 1726 จึงได้ทำการบูรณะและเปลี่ยนไปใช้สไตล์บาร็อกแทน ทว่าสำนักสงฆ์แห่งนี้ก็ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมดในปี คศ 1744 เลยมีการสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นมาใหม่ด้วยสไตล์บาร็อกที่ดูโอ่อ่าโอฬารตระการตา ความใหญ่โตหรูหราของวัดทำให้วัดเพิ่มความสำคัญขึ้นและกลายมาเป็นสำนักสงฆ์ที่สำคัญที่สุดในบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:10:36

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เนื่องจากช่วงระหว่างการปฏิรูป สถาบันคริสต์ศาสนาได้ถูกยุบเมื่อปี ค.ศ. 1803 หลังจากนั้นวัดได้ถูกขายต่อไปเป็นสมบัติส่วนตัวของผู้มีฐานะ โจเซฟ ฟอน เอลบิง (Josef von Elbing) เมื่อปี ค.ศ. 1809 ต่อมาลูกหลานของ โจเซฟ ฟอน เอลบิง ก็ขายให้กับเคาท์ แพพเพ็นไฮม์ (Count Pappenheim) ระหว่างศตวรรษที่ 19 มีการบูรณะสิ่งก่อสร้างย่อยๆ ของวัดโดยเฉพาะด้านหน้าของวัดและหอระฆัง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:10:58

ความคิดเห็นที่ 8 กว่าจะกลับคืนเป็นสำนักสงฆ์ตามเดิมก็ต้องรอถึงปี คศ 1900 โน่น เหตุก็เพราะ บารอน ทีโอดอร์ ฟอน เครเมอร์-เคล็ต (Baron Theodor von Cramer-Klett) เป็นผู้ยกวัดนี้คืนให้กับพระเบ็นนาดิคตินนั่นเอง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:11:30

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อได้สำนักสงฆ์คืนมา ผู้ดูแลจึงได้สร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำ (Gymnasium) เชี่ยวชาญทางมนุษยศาสตร์ และภาษาสมัยใหม่ (modern languages) ขึ้น ก่อนสร้างโรงงานกลั่นเหล้าและทำเบียร์ ร้านขายหนังสือ โรงพิมพ์ โรงแรม โรงงานทำเนยแข็ง และมีโครงร่วมกับธุรกิจอื่นๆด้วย จนปัจจุบันถือเป็นสำนักสงฆ์ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งแห่งเทือกเขาแอลป์ อีกทั้งยังเป็นสำนักสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดของนิกายเบ็นนาดิคอีกด้วย จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:11:50

ความคิดเห็นที่ 10 เมื่อผ่านประตูรั้วเข้ามาด้านในเราจะพบกับอารามที่เป็นโดมสองชั้นที่มีหอคอยคู่ทั้งซ้ายและขวา ซึ่งออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลี่ยนนามว่า เอ็นริโค ซูคคาลลี (Enrico Zuccalli) ผู้เป็นลูกศิษย์ของจานลอเรนโซ เบร์นินี สถาปนิกสไตล์บาร็อกที่มีชื่อเสียงแห่งกรุงโรมช่วงคริสต์ศวรรษที่ 17 โดยมีรูปปั้นนักบุญ 12 องค์ประทับอยู่ด้านหน้า ทั้งนี้หากมองดูหอคอยคู่ อาจสงสัยว่าทำไมไม่เหมือนกัน เหตุก็เนื่องมาจากหอคอยทั้งสองนี้สร้างคนละสไตล์และคนละช่วงเวลากันนั่นเอง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:12:15

ความคิดเห็นที่ 11 ภายในโดมสองชั้น ถึงแม้ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก แต่ก็โดดเด่นไปด้วยภาพ ผลงานของ โจเซฟ ชมุทเซอร์ (Josef Schmutzer) ช่างปั้นปูนแบบร็อกโคโค ที่ใช้เทคนิคปูนเปียกเฟรสโกสร้างภาพบุคคล 431 คนบนเพดาน ผสมผสานกับการพอกปูนแบบสูงต่ำรอบๆ เน้นความอลังการและความสว่างของสีขาว โดยมีรูปปั้นเทพต่างๆ ตกแต่งเป็นส่วนประกอบได้อย่างกลมกลืน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:12:35

ความคิดเห็นที่ 12 ส่วนการตกแต่งแท่นบูชาและบริเวณที่ทำพิธีรอบแท่นบูชา เป็นผลงานของโยฮันน์ แบ็พทิสต์ สตรอบ (Johann Baptist Straub) เรียกได้ว่าเป็นไปตามคอนเซ็ปของศิลปะแบบบาร็อก ใครได้มาเห็นรับรองต้องตะลึงทุกคนอย่างแน่นอน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:13:01

ความคิดเห็นที่ 13 สำนักสงฆ์แห่งนี้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น. ยกเว้นช่วงประกอบพิธีกรรมจะห้ามเข้า และไม่เสียค่าเข้าชมแต่อย่างใด จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:13:18

ความคิดเห็นที่ 14 เวปไซท์ของสำนักสงห์เอ็ททาล http://abtei.kloster-ettal.de/ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:13:38

ความคิดเห็นที่ 15 ซุ้มประตูทางเข้าสำนักสงฆ์ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:13:58

ความคิดเห็นที่ 16 หอคอยคู่ทั้งซ้ายและขวา ถูกสร้างคนละสไตล์และคนละช่วงเวลากัน จึงทำให้มีลักษณะต่างกัน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:14:18

ความคิดเห็นที่ 17 วัดได้รับความเสียหายมากระหว่างการปฏิรูปศาสนา แต่รอดจากการถูกทำลายระหว่างสงคราม 30 ปี (Thirty Years' War) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:14:37

ความคิดเห็นที่ 18 สำนักสงฆ์เอ็ททาล (Ettal Abbey) วัดเบ็นเนดิคตินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในบริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ในแถบบาวาเรีย จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:14:58

ความคิดเห็นที่ 19 ตามไปเที่ยวชมโบสถ์ต่อครับบบ สวยมากเลย...... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:15:15

ความคิดเห็นที่ 20 ลักษณะเด่นของภาพเขียนภายในโดมสองชั้น ผลงานของ โจเซฟ ชมุทเซอร์ (Josef Schmutzer) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:15:19

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพเขียนบนเพดาน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:15:39

ความคิดเห็นที่ 22 แท่นบูชาภายในโดมอันโอ่อ่า จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:15:58

ความคิดเห็นที่ 23 ยืนตะลึงไปชั่วขณะทุกครั้งเมื่อเข้ามาชมโบสถ์ในยุโรป จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:16:16

ความคิดเห็นที่ 24 ตกแต่งได้สวยงามเกินคำบรรยาย จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:16:38

ความคิดเห็นที่ 25 cc7 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:16:53

ความคิดเห็นที่ 26 cc8 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:17:08

ความคิดเห็นที่ 27 cc9 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:17:22

ความคิดเห็นที่ 28 dd1 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:17:39

ความคิดเห็นที่ 29 dd2 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:17:56

ความคิดเห็นที่ 30 dd3 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:18:09

ความคิดเห็นที่ 31 dd4 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:18:24

ความคิดเห็นที่ 32 dd5 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:18:39

ความคิดเห็นที่ 33 dd6 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:18:54

ความคิดเห็นที่ 34 dd7 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:19:08

ความคิดเห็นที่ 35 dd8 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:19:23

ความคิดเห็นที่ 36 ออกจากสำนักสงฆ์เอ็ททาล พวกเราไปเที่ยวต่อกันที่โบสถ์วีส์ (Wieskirche) ครับ ภาพตัวโบสถ์วีส์ ถ่ายจากทุ่งนาทางด้านหลัง (ด้านหน้าย้อนแสงครับ) จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:19:43

ความคิดเห็นที่ 37 โบสถ์วีส์ หรือ โบสถ์แสวงบุญวีส์ (ภาษาอังกฤษ: Wies church หรือ Pilgrimage Church of Wies; ภาษาเยอรมนี: Wieskirche หรือ Pfaffenwinkel) ตั้งอยู่ในเมืองโชนเกา อยู่บริเวณเชิงเทือกเขาแอลป์ ใกล้เมืองชไตนการ์เด็น (Steingaden) ในสหพันธรัฐบาเยิร์น ทางใต้ของประเทศเยอรมนี ภาพหอคอยประจำโบสถ์วีส์ (Wieskirche) กับใบไม้เลี่ยนสีสีเหลืองทอง บรรยากาสเข้ากันอย่างลงตัว จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:20:02

ความคิดเห็นที่ 38 ประวัติ วันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1783 เป็นวันแรก ที่มีคำกล่าวอ้างว่า ประชาชนได้เห็นน้ำพระเนตร หลั่งจากพระเนตรของรูปไม้กางเขนแกะสลักไม้ของพระเยซู หรือที่เรียกกันว่าพระมหาไถ่ถูกเฆี่ยน (Scourged Saviour) เรื่องเล่าแห่งปาฏิหาริย์ในครั้งนั้น เป็นเหตุให้มีนักแสวงบุญเดินทางไปจารึกบุญ เยี่ยมชม และอธิษฐานขอพรจากรูปแกะสลักพระเยซูอย่างมากมาย ด้วยความเชื่อที่ว่ารูปแกะสลักนี้สามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ในปีค.ศ. 1740 ได้จัดสร้างชาเปลขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปแกะสลักนี้โดยเฉพาะ แต่เนื่องด้วยขนาดของอาคารที่เล็กเกินกว่าที่จะรองรับจำนวนของนักแสวงบุญที่เดินทางมาจารึกบุญ จึงได้มีการตัดสินใจสร้างโบสถ์วีส์แห่งนี้ขึ้น (ข้อมูลอ้างอิงจาก Wikipedia ครับ) ภาพบรรยากาศภายในตัวโบสถ์ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:20:22

ความคิดเห็นที่ 39 รู้สึกประทับใจโบสถ์วีส์มากๆครับ เพราะโบสถ์นี้อยู่กลางทุ่งนาเลย วิวด้านหลังโบสถ์สวยงามเชียวครับ เป็นบ้านชาวไร่ มีทุ่งหญ้าเลี้ยงวัว และเทือกเขา จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:20:42

ความคิดเห็นที่ 40 โบสถ์วีส์ ได้รับเลือกโดยองค์การยูเนสโกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปีค.ศ. 1983 จากนั้นได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในช่วงระหว่าง ค.ศ. 1985 - ค.ศ. 1991 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:21:01

ความคิดเห็นที่ 42 การตกแต่งภายในออกแบบโดย โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ ผู้เป็นศิลปินสำคัญของสมัยศิลปะโรโคโค และถือกันว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของศิลปินท่านนี้ โดมินิคุส ซิมเมอร์มันน์ได้ทุ่มเทสร้างโบสถ์แห่งนี้ เป็นเวลา 11 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ 1745 จนถึงปี ค.ศ. 1754 ก่อนที่จะเสียชีวิตลง จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:21:39

ความคิดเห็นที่ 43 ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก็มีข่าวลือว่าทางรัฐบาวาเรียจะขายหรือทุบวัดทิ้งระหว่างสมัยการปฏิรูปที่ดิน ที่โบสถ์รอดมาได้ก็เพราะการประท้วงจากชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนั้น แต่หลักฐานเท่าที่หลงเหลืออยู่พบว่าคณะกรรมการผู้พิจารณาการยุบอารามตั้งใจจะรักษาเอาวัดแสวงบุญนี้ไว้แม้ว่าแอบบอตของแอบบีไสตน์การ์เดนจะประท้วงเรื่องค่าใช้จ่ายก็ตาม จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:22:04

ความคิดเห็นที่ 44 ในช่วงเดือนพฤษภาคม - เดือนกันยายน ของทุกปี จะมีการจัดแสดงดนตรีคลาสสิก ที่โบสถ์วีส์ เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชนโบสถ์แห่งนี้ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:22:25

ความคิดเห็นที่ 45 แท่นบูชา จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:22:56

ความคิดเห็นที่ 46 ศิลปะการตกแต่งของเค้าทำได้งามจริงๆ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:23:15

ความคิดเห็นที่ 47 ไม้กางเขนที่ห้อยลงมาจากเพดานด้านบนงดงามมากๆครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:23:35

ความคิดเห็นที่ 48 เพื่อนๆที่ไปเที่ยวแคว้นบาวาเรีย อย่าลืมแวะเที่ยวโบสถ์มรดกโลกแห่งนี้ร่ะครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:23:57

ความคิดเห็นที่ 49 ff5 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:24:14

ความคิดเห็นที่ 50 ff6 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:24:31

ความคิดเห็นที่ 51 ff7 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:24:46

ความคิดเห็นที่ 52 ff8 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:25:01

ความคิดเห็นที่ 53 ff9 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:25:17

ความคิดเห็นที่ 54 gg1 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:25:33

ความคิดเห็นที่ 55 gg2 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:25:49

ความคิดเห็นที่ 56 gg3 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:26:04

ความคิดเห็นที่ 57 gg4 จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:26:19

ความคิดเห็นที่ 58 ขอปิดท้ายรีวิวด้วยภาพ ใบไม้สีเหลืองทองกับยอดหอคอยโบสถ์วีส์ครับ   ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่เข้ามาและชมรีวิว และแสดงความคิดเห็นครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:26:44

ความคิดเห็นที่ 59 คุณ สายลมแห่งวิงค์ ................. ขอบคุณครับที่เข้ามาเที่ยวเป็นเพื่อน จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:28:52

ความคิดเห็นที่ 60 งดงามมากเลยครับ ดีใจที่ได้ดูพรีวิวก่อนไปเที่ยวจริง แต่ฝีมือถ่ายรูปคงทาบไม่ติดอ่ะครับ  สงสัยนิดนึงครับ ว่าภาพเหล่านี้HDRมารึเปล่าครับ หรือเป็นสีธรรมชาติจากกล้องครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 19:52:29

ความคิดเห็นที่ 61 อากาศดี. ภาพงามมาก ในโบสถ์อลังการมาก. เสียดายไม่ได้แวะชม คุณช้างน้อย mordek1.  ย้ายค่ายมาเล่นหนอนเถอะ เห็นภาพพี่จิโร่แล้ว กิเลสจับจริงๆ จากคุณ : ฟองสบู่ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:05:12

ความคิดเห็นที่ 62 ขอติดตามแก้งค์นี้ เที่ยวด้วยคน วัยเกือบๆทันรุ่นๆกัน...แหะ แหะ ถ่ายภาพชัด+สวยมากๆคะ จากคุณ : แมงซุ่มมืด เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 20:34:36

ความคิดเห็นที่ 63 สวยมาก ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ  แอบไปติดตามกระทู้เดิมมาด้วย ละเอียดยิบเลย  ภาพปราสาทนอยส์จากกระทู้ก่อนนั้นเป็นปราสาทนอยส์ที่สวยที่สุดเท่าเคยเห็นภาพถ่ายมาเลยค่ะ ไว้ปีหน้าจะไปเที่ยวตามรอยค่ะ จากคุณ : ฮิวเยียก เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 21:47:53

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาชมครับ ขอตามไปเที่ยวด้วยคน ภาพสวยมากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 54 22:53:41

ความคิดเห็นที่ 65 สวยมากๆ ค่ะ ประเทศนี้เห็นอยากไปทุกที  กิ๊ฟหมดแล้ว เอาหัวใจไปแทนนะคะ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 00:05:05

ความคิดเห็นที่ 66 คุณพี่ฟองสบู่ครับ  ผมไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนค่ายแล้วจะสวยเหมือนของคุณพี่จิโร่สิครับ มันอยู่ที่ฝีมือด้วยครับ อิอิ   แต่ดูรีวิวของคุณพี่แล้วทำให้เกิดความลังเลว่าเราไปถูกฤดูกาลรึเปล่า คงไม่ได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆเหมือนของพี่เค้าอ่ะครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 08:07:13

ความคิดเห็นที่ 67 คุณ mordek1 สวัสดีตอนเช้าครับ แหมรูปของคุณ mordek1 ก็สวยครับ ได้เข้าไปชมกระทู้เขาใหญ่มาแล้ว คุณ mordek1 ใช้นิคอนใช่ไหมครับ สีสรรจะสดใสกว่าหนอนน่ะครับ ของผมเวลาถ่ายภาพวิวเลยต้องปรับเป็นโหมด Landscape อ่ะครับ และถ้าเจอฟ้าเปิดเมื่อไหร่ก็จะใส่ CPL ฟิลเตอร์ช่วยด้วย ไม่งั้นสีสู้นิคอนไม่ได้ครับ รวมถึงถ่ายคนด้วยผมก็ใช้โหมด Landscape เหมือนกัน เพราะขี้เกิยจปรับกลับไปมาครับ เกี่ยวกับเรื่อง HDR ไม่ทราบว่าหมายถึงว่า เราถ่ายมาหลายๆรูปด้วยความไวซัตเตอร์ที่ที่แตกต่างกัน แล้วนำมาให้ คอมพิวเตอร์รวมเป็นรูปเดียวให้ใช่ไหมครับ บอกตามตรงว่าเวลาไปเที่ยวไม่มีเวลามานั่งคิดหรือว่าทำแบบนั้นได้อ่ะครับ เพราะต้องรีบถ่ายรูปให้เพื่อนๆด้วย คือไม่มีสมาธิมานั่งทำแบบนั้นได้อ่ะครับ ขนาดถ่ายมาหลายๆรูปเพื่อมาทำเป็นภาพพาโนราม่ายังขี้เกียจทำเลยครับ การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยก็ทำบ้างครับ เช่นรูปที่ถ่ายมาแล้วมันมืดไปเราก็ปรับส่วนมืดให้สว่างขึ้น หรือว่ารูปที่ถ่ายมามันมีส่วนที่รกรุงรัง เราก็นำมา ครอป ส่วนที่ไม่ต้องการออกไปน่ะครับ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ทำกันอยู่ครับ ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเที่ยวและแชร์ประสบการณ์ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 08:56:18

ความคิดเห็นที่ 68 คุณ ฟองสบู่ ..............ไม่ได้แวะท้งสองโบสถ์เลยเหรอครับ เสียดายแทนเหมือนกัน ผมเองตั้งใจไปแวะแค่สำนักสงฆ์เอ็ททาลที่เดียว ส่วนโบสถ์วีส์ ไกด์พาไปแวะครับ คุณแมงซุ่มมืด......................  ขอบคุณและยินดีรับเข้าแกงค์ สว ครับ ขาชอบเที่ยวเหมือนกัน อิอิ คุณ ฮิวเยียก ..................ขอบคุณมากครับที่คอยติดตามรีวิวครับ ยินดีครับตามรอยได้เลย เยอรมันน่าเที่ยวมากๆครับ คุณ กัปตันลูกชุบ.................... ยินดีเช่นกันครับ คุณ.Bpearl.............. ยืนยันว่าเยอรมันน่าเที่ยวมากๆครับ ยิ่งออกไปตามชนบทเมืองน่ารักเยอะมากครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 09:03:25

ความคิดเห็นที่ 69 วิวด้านหลังโบสถ์สวยงามมาก อยากมีบ้านอยู่กลางทุ่งนาแบบนี้สักหลังไว้อยู่ตอนแก่ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 09:33:39

ความคิดเห็นที่ 70 ดูสวยอลังการณ์มากเลยครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 12:43:28

ความคิดเห็นที่ 71 ทั้งธรรมชาติและงานประดิษฐ์จากฝีมือมนุษย์สวยงามมากจริงๆ ขอบคุณอีกครั้งเลยค่า จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 12:49:19

ความคิดเห็นที่ 72 สวยงามมากเลยครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 16:28:08

ความคิดเห็นที่ 73 งดงามมากครับ   ขอเก็บไปฝันนะครับสำหรับทริปสวยๆแบบนี้ นายแบบนางแบบลัลล้ากันมากๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 19:07:29

ความคิดเห็นที่ 74 งดงามอลังการมากครับ สุดยอดเลย ^^ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 22:54:09

ความคิดเห็นที่ 75 สวยสุดๆเลยครับ จากคุณ : พญาปลวก เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 19:51:30

ความคิดเห็นที่ 76 คุณCoffee Blended ............ คิดเหมือนกันเลยครับ คงมีความสุขไม่น้อยถ้าได้มีบ้านแบบนี้สักหลังน่ะครับ คุณ Destiny-Boy ..............โบสถ์ทั้งสองสวยมีเสน่ห์มากๆครับ ถ้ามีโอกาสไปแถวนั้นอย่าลืมแวะเข้าไปเที่ยวน่ะครับ คุณ teddy bear in the box ................เป็นความงดงามที่ลงตัวของธรรมชาติกับสิ่งก่อสร้างน่ะครับ ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวครับ คุณ เล็กทาโร่ ...............ยินดีครับ คุณ ลุงแบกเป้................ ขอบคุณครับที่มาให้กำลังใจ คุณ แมลงภู่บนหูกระต่าย .................ขอบคุณครับที่เข้ามาเที่ยวด้วยกัน คุณพญาปลวก ..................ขอบคุณที่เข้ามาเที่ยวครับ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:30:29

ความคิดเห็นที่ 77 สวยมากๆค่ะ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 10:20:06

ความคิดเห็นที่ 78 ชอบภาพเขียนในโบสถ์จังค่ะคุณจิโร่ ^_^ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 13:55:27

ความคิดเห็นที่ 79 คุณ สามแซ่ ..............ขอบคุณเช่นกันครับที่แวะมาเที่ยว คุณ kungtalay ............... เข้าโบสถ์ในยุโรปเมื่อไหร่ จะเกิดความรู้สึกตะลึงไปกับความงดงามวิจิตรบรรจงของศิลปะแบบนี้ครับ ชมได้แบบไม่มีเบื่อ ขอบคุณครับที่มาให้กำลังใจ จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 15:11:53

ความคิดเห็นที่ 80 รูปสวยจริงๆ ค่ะ เมืองก็น่าไป ที่สำคัญนางแบบทริปนี้สวยมากเหมือนเดินอยู่บนแคทวอล์คเลยค่ะ อิอิ จากคุณ : KanYn เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:51:24

ความคิดเห็นที่ 81 ตามมาเที่ยวช้าอีกแล้ว นางแบบสวยมากๆ ค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 54 05:22:19

ความคิดเห็นที่ 82 ใบไม้เปลี่ยนสี ชมกี่ทีไม่มีเบื่อเลยค่ะ จากคุณ : SOYU_K เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:30:39

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาเที่ยวช้าไปหน่อยนะครับ สวยงามเช่นเคยเลย จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:43:36

ความคิดเห็นที่ 84 สวัสดีปีใหม่ครับ เพื่อนๆทุกคน คุณ KanYn............ ขอบคุณแทนนางแบบด้วยครับ คุณ สาวหน้าใส ........... ไม่ช้าหรอกครับ ยินดีครับ คุณ SOYU_K ............. เป็นฤดูที่พวกเราชื่นชอบกัน คุณ Koon Shy_Tour Dee .............. ขอบคุณมากครับที่มาเที่ยว จากคุณ : Chris Evert เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 09:06:25