ความคิดเห็นที่ 1 บริเวณคัปปาโดเกียเป็นดินแดนกว้างใหญ่ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 300 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยหลายเมืองด้วยกัน เมืองหลวงของเขตนี้คือเมืองเนฟเชฮีร์ (Nevshehir) ซึ่งเป็นเมืองใหม่และเมืองใหญ่ เป็นศูนย์กลางการคมนาคม รถบัสจากเดนิซลิจะผ่านเมืองนี้ แต่เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของคัปปาโดเกียคือเมืองโกเรเม (Goreme) มีโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร บรษัททัวร์มากมาย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จะมาพักกันที่นี่ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:09:21

ความคิดเห็นที่ 2 Road to Goreme ถนนที่มุ่งสู่โกเรเม่ก็เริ่มตื่นตาตื่นใจแล้ว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:10:25

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงแล้วครับเมืองโกเรเม (Goreme) แถบนี้ส่วนใหญ่เป็นที่พัก สร้างแบบสมัยโบราณ เจาะเข้าไปในเนื้อหิน ผสมผสานกับส่วนต่อเติมของใหม่ให้กลมกลืน ทริปนี้ขอไม่รีวิวที่พักนะครับ เพราะมีเหตุที่รู้สึกไม่ประทับใจเจ้าของบางประการ จริง ๆ อยากเล่าเหมือนกันว่าพวกเราไปพักที่ที่รีวิวตุรกีส่วนใหญ่ก็ไปพักกัน คงมีคนไปพักแล้วกลับมาทำรีวิว คนหลัง ๆ ไปก็ไปพักตาม ๆ กัน ไปที่นี่เจอคนไทยทุกวันเพราะได้แหล่งข้อมูลเดียวกัน เจ้าของก็บอกว่าช่วงหลังเขาได้ลูกค้าคนไทยเยอะขึ้นมาก สื่ออินเทอร์เน็ตนี่ให้คุณและก็ให้โทษได้จริง ๆ ฉะนั้นจะโพสต์อะไรก็ควรระวัง ผมไม่อยากพูดถึงแง่ไม่ดีที่ทำให้ไม่ประทับใจ เพราะไม่อยากไปทำลายธุรกิจของเค้า แต่เดี๋ยวจะเล่านิดหน่อยทีหลังละกันครับว่าเกิดอะไรขึ้น จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:11:33

ความคิดเห็นที่ 4 ที่นี่ดูคล้ายพื้นผิวดวงจันทร์หรือดาวเคราะห์ดวงอื่นในจักรวาลมากกว่าพื้นผิวโลก เต็มไปด้วยหินรูปทรงแปลก ๆ ไม่มีที่ใดในโลกที่มีภูมิประเทศเหมือนแบบนี้ (จะมีที่คล้าย ๆ ก็ Badlands National Park หรือ Bryce Canyon National Park ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือแพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่ เสาดินนาน้อย จังหวัดน่าน ที่มีต้นกำเนิดคล้ายคลึงกัน แต่ก็ไม่เหมือนทีเดียว) จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:12:22

ความคิดเห็นที่ 5 เสาหินรูปทรงประหลาดกลุ่มนี้เป็นหินทรงกรวย ตอนบนเป็นหินแข็งเหมือนหัวจุกตั้งอยู่บนหินที่อ่อนกว่า ได้รับฉายาว่าปล่องไฟภูติ (fairy chimneys) เพราะคนสมัยก่อนเชื่อว่าเสาเหล่านี้คือปล่องไฟของบ้านของพวกภูติที่อาศัยอยู่ใต้ดิน เสาบางต้นสูงถึง 40 เมตร จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:13:18

ความคิดเห็นที่ 6 จุดหมายแรกของเราคือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งโกเรเม่ ก่อนจะไปเห็นก็นึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร ทำไมพิพิธภัณฑ์ถึงอยู่กลางแจ้ง แถมยังเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก้อีกด้วย ที่แท้ก็คือบ้านถ้ำที่ข้างในใช้เป็นโบสถ์และสำนักสงฆ์ในคริสต์ศาสนามาเป็นพันปี กินเนื้อที่กว้างขวาง มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยทำห้อง ๆ ภายในมีภาพเขียนสีตามผนังเป็นเรื่องราวในคริสตศาสนา จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:13:47

ความคิดเห็นที่ 7 เดี๋ยวผมจะเล่าถึงกำเนิดทางธรณีวิทยาให้ฟังทีหลังนะครับ ตอนนี้เอาประวัติศาสตร์ไปเล็กน้อยก่อน เนื่องจากบริเวณนี้มีเนื้อหินที่อ่อน (ไม่ใช่หินอ่อน) สามารถเจาะเป็นโพรงได้ จึงเป็นที่อาศัยหลบภัยมานานเป็นพันปี โดยเฉพาะคริสตชนยุคแรก ๆ ได้เข้ามาอาศัยหลบภัยจากพวกโรมัน และสร้างโบสถ์ สำนักสงฆ์มากมายขึ้นที่นี่ซึ่งมองไม่ออกเลยจากภายนอก เพื่อหนีศัตรูด้วยและเพื่อปลีกวิเวกด้วย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:14:25

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้ำใหญ่น้อย ใช้เป็นสำนักสงฆ์ ภายในมีภาพวาดฝาผนังเป็นเรื่องราวในศาสนาคริสต์ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมพวกโรมันถึงได้เข่นฆ่าชาวคริสต์ เหตุผลก็คือพวกโรมันนับถือเทพเจ้ามากมาย ขณะที่ศาสนาคริสต์นับถือพระจ้าสูงสุดองค์เดียว พวกคริสต์จึงปฏิเสธที่จะรับถือเทพเจ้าต่าง ๆ ที่คุ้มครองอาณาจักรโรมัน จักรพรรดิโรมันจึงอนุญาตให้เข่นฆ่าชาวคริสต์ได้ พวกนี้จึงต้องหนีมาหลบซ่อนตัว การใช้ชีวิตแบบสมถะโดยไม่จำเป็นต้องสร้างวิหารบูชาใหญ่โตเช่นนี้ ทำให้ศาสนาคริสต์รอดปลอดภัยมาได้ จนเมื่อจักรพรรดิคอนสแตนตินยอมรับนับถือศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำอาณาจักรโรมัน ชาวคริสต์จึงไม่ต้องแอบซ่อนตัวอีกต่อไป จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:15:03

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพเขียนสีภายในหลาย ๆ ภาพจางไปตามกาลเวลาเนื่องจากเคมีที่เอามาผลิตสี บางสีจะติดทนนานกว่า บางสีจะหายเร็วกกว่าโดยเฉพาะเมื่อถูกแสง จริง เค้ามีป้ายห้ามถ่ายภาพ แต่ก็มีคนบอกว่าถ่ายได้ถ้าไม่ใช้แฟลช ก็เลยถ่ายมานิดหน่อย แต่บางห้องเจ้าหน้าที่ก็บอกเลยว่าห้ามถ่าย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:15:47

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพคนขี่ม้าสู้มังกรนี่จะพบเยอะมากในหลาย ๆ ห้อง คนที่ขี่ม้าขาวคือเซนต์จอร์จ (St.George) เป็นนักบุญในตำนาน เกิดในคัปปาโดเกียนี่แหละ ท่านได้เดินทางไปจนถึงเมืองหนึ่ง ซึ่งมีมังกรร้ายคอยจับสัตว์กินจนหมด เมื่อไม่มีสัตว์เหลือก็จับคนกินเป็นอาหาร ชาวเมืองจึงตกลงว่าแต่ละวันให้ทุกบ้านไม่ว่ารวยหรือจนต้องจับฉลาก ใครโดนก็ให้ส่งลูกบ้านนั้นไปให้สังเวยมังกร เซนต์จอร์จผ่านมาพอดีซึ่งเป็นคราวของเจ้าหญิงพระธิดาของกษัตริย์ต้องถูกสังเวย เซนต์จอร์จจึงได้เข้าต่อสู้กับมังกรและพิชิตมังกรลงเป็นผลสำเร็จด้วยพลังความช่วยเหลือจากพระเจ้า เซนต์จอร์จเป็นสัญลักษณ์ของนักบุญที่เป็นอัศวิน ขี่ม้าขาว ถือโล่ตรงกลางเป็นกากบาทสีแดงที่กลายเป็นสัญลักษณ์บนธงของหลายชาติในยุโรป มักวาดภาพของท่านขี่ม้ามือถือหอกตรึงมังกรอยู่กับพื้น หรือใช้ดาบสังหารมังกร มังกรเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายเพราะหมายถึงงูในสวนอีเดนที่ล่อลวงให้อาดัมกับอีฟกินผลแอปเปิ้ล เรื่องราวของเซนต์จอร์จจึงกล่าวถึงการตู่สู้ระหว่างความถูกต้องดีงามและความชั่วร้าย ตำนานของท่านได้แพร่ไปสู่ทางตะวันตกจากอัศวินที่ไปสู้รบในสงครามครูเสด ท่านได้กลายเป็นนักบุญผู้พิทักษ์ประเทศอังกฤษ อีกท่านที่ขี่ม้าแดงเป็นนักบุญอีกท่านที่ต่อสู้มังกรเช่นเดียวกันเลยมักวาดไว้คู่กัน ชื่อว่าเซนต์ทีโอดอร์ (St.Theodore) แต่เรื่องราวไม่โดดเด่นเท่าของเซนต์จอร์จ (ขอแก้ไขสะกดผิดครับ เยอะเกิน) แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 00:38:10 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 00:35:41 จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:16:20

ความคิดเห็นที่ 11 ตามมาชมภาพสวยๆด้วยครับ จากคุณ : Hero11147 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:16:46

ความคิดเห็นที่ 12 ไฮไลต์สำคัญของ Open Air Musseum คือโบสถ์มืด (Dark Church) ห้องนี้ไม่มีหน้าต่างทำให้แสงเข้าไปน้อย ภาพเขียนจึงมีสภาพดีอยู่มาก จะเห็นว่าแสงเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ภาพฝาผนังเหล่านี้ซีดลง เขาจึงห้ามถ่ายภาพเพราะกลัวแสงแฟลชจะไปทำลายภาพเขียนเหล่านี้ ชมภาพจากโปสการ์ดไปแทนละกันครับ ภาพวาดเหล่านี้เป็นศิลปะแบบไบแซนไทน์ เป็นภาพพระเยซูประทับนั่งตรงกลาง พระหัตถ์ขวาจีบนิ้วนาง นิ้วก้อย และนิ้วโป้งเข้าหากัน พระหัตถ์ซ้ายถือพระคัมภีร์ ภาพพระเยซูลักษณะแบบนี้เป็นภาพวาดที่พบ่อยที่สุดในโบสถ์ของนิกายกรีกออร์โทดอกซ์ บ่อยครั้งจะขนาบด้วยพระแม่มารี พระมารดาของพระเยซู และเซนต์จอห์นแบปทิสต์ (St.John the Baptist) เอาไว้ถึงตอนอิสตันบูลจะพาไปชมภาพโมเสกอลังการแบบเดียวกันในมหาวิหารฮาเกียโซเฟีย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:17:03

ความคิดเห็นที่ 13 เนื่องจากห้องนี้เป็นห้องที่เปราะบางต่อความเสียหาย จึงต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อเข้าไปชม เหตุผลหนึ่งก็เพื่อเอาเงินไปทำนุบำรุง แต่อีกเหตุผลก็คือการคิดเงินเพิ่มจะเป็นการลดจำนวนนักท่องเที่ยวลง เพราะนักท่องที่ยวที่นี่มากจริง ๆ บางห้องมีขนาดแคบและเล็ก ต้องต่อคิวกันหลายสิบนาทีกว่าจะได้เข้าชม ถ้ามีโอกาสไปก็อย่าเสียดายเงินนะครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:17:49

ความคิดเห็นที่ 14 Hero11147 - สวัสดียามดึกครับ เราใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงใน Open Air Museum ออกมาก็บ่ายกว่า ได้เวลาอาหารเที่ยง แถวนั้นมีตลาดขายอาหารและของที่ระลึก มื้อนี้ขอลองแพนเค้กแบบตุรกี รสชาติใช้ได้ เปลี่ยนจากกินแต่พวกคาบับมั่ง เบื่อแล้ว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:18:49

ความคิดเห็นที่ 15 น้ำส้มหรือน้ำทับทิม คั้นสด ๆ จ้า ป.ล. เพิ่งรู้ว่าทับทิมภาษาอังกฤษเรียกว่า pomegranate จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:19:59

ความคิดเห็นที่ 16 ทางขวาเป็นน้ำทับทิม เปรี้ยวจี๊ดจ๊าดดีแท้ ทางซ้ายผสมระหว่างน้ำส้มกับน้ำทับทิม รสชาตินุ่มนวลกว่า จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:20:31

ความคิดเห็นที่ 17 ออกมาเห็นไอศครีมตุรกี คนขายมีลูกเล่นสารพัด กว่าจะได้กินโดนหลอกแล้วหลอกอีกโดยเฉพาะผู้หญิงจะถูกจัดเต็มให้เป็นพิเศษ เห็นคนก่อนหน้าเป็นนักท่องเที่ยวคงไม่ชิน โดนลีลาเยอะมาก ๆ จะเลิกซื้อเลย คนขายต้องรีบปิดเกม 555 จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:21:11

ความคิดเห็นที่ 18 Can you believe it is icecream! เชื่อหรือไม่ว่านี่คือไอศครีม จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:21:50

ความคิดเห็นที่ 19 หน้าตาไอศครีม รสชาติใช้ได้ทีเดียว แต่ถ้าให้อร่อยต้องไอศรีมยี่ห้อมาดู (Mado) เอาไว้จะพาไปชิมในโอกาสต่อไปนะครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:22:45

ความคิดเห็นที่ 20 ลูกเล่นของคนขายอย่างที่เห็นคงเป็นจุดขายของไอศครีมตุรกี เห็นทุกที่แม้แต่ในเมืองไทย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:23:30

ความคิดเห็นที่ 21 หลังอาหารก็เดินช้อปปิ้งของกันเล็กน้อย (แต่ใช้เวลาเยอะ) แล้วเดินกลับมาที่ใจกลางเมือง หารถบัสไปเมืองอุชิซาร์ (Uchisar) ซึ่งเมื่อเช้านั่งรถผ่าน มีภูเขาลูกใหญ่อยู่กลางเมืองดูเด่นเป็นสง่ามาก มีรถบัสจากโกเรเม่ไปเนฟเชฮีร์ทุกครึ่งชั่วโมง ซึ่งผ่านอุชิซาร์ด้วย เราก็บอกคนขับว่าถ้าถึงอุชิซาร์ให้บอกด้วย นั่งมาไม่นานประมาณ 10 นาที คนขับรถก็ปล่อยลงข้างถนนตรงยอดเขา แล้วเดินต่อด้วยเท้าอีกประมาณ 500 เมตรก็เห็นวิวนี้ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:24:18

ความคิดเห็นที่ 22 ตอนนี้จะขอย้อนไปเล่าถึงธรณีวิทยาของแถบนี้ให้ฟังก่อน เมื่อหลายล้านปีก่อนแผ่นเปลือกโลกแอฟริกาและแผ่นยูเรเชีย (ทวีปยุโรปและเอเชียเป็นแผ่นเปลือกโลกเดียวกัน) เคลื่อนเข้าหากัน คาบสมุครอาหรับช้อนคาบสมุทรอนาโตเลียขึ้นทำให้เกิดภูเขาไฟใหญ่หลายลูก แถบนี้จึงมีแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง ภูเขาไฟมีการปะทุสามครั้ง สองครั้งแรกพ่นพวกขี้เถ้าลาวา (ash) ซึ่งเป็นหินดินอ่อน ครั้งสุดท้ายเป็นหินแข็ง ภูมิประเทศแถบนี้หน้าร้อนอากาศร้อนจัด หน้าหนาวก็หนาวจัดมีหิมะตก การเปลี่ยนแปลงของอากาศอย่างสุดขั้วเช่นนี้ทำให้เกิดการผุกร่อนจากน้ำ ลม หิมะ และอุณหภมิความร้อน เนื่องจากด้านล่างเป็นดินอ่อนจึงผุพังและถูกกระแสน้ำพัดพาไปเร็วกว่าชั้นบน ส่วนที่ผุงพังไปมาก ๆ ก็กลายเป็นเสาหินบ้าง หินรูปเห็ดบ้าง มีรูปกรวยบ้าง ส่วนที่ตอนบนยังไม่ผุงพังก็ขุดเจาะเป็นเมืองใต้ดิน ซึ่งขุดลงไปหลายชั้น จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:25:06

ความคิดเห็นที่ 23 พวกเราเดินตามทางจากบนยอดเขาลงมาข้างล่าง จะผ่านหินรูปจอมปลวกที่เจาะทำเป็นที่อยู่อาศัย ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ดีจริง ๆ รู้สึกคิดถูกที่ตัดสินใจมา จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:25:43

ความคิดเห็นที่ 24 บ้านจอมปลวก ปัจจุบันยังมีคนอาศัยอยู่ เห็นแล้วนึกถึงมนุษย์หินฟลินสโตนมั้ยครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:26:51

ความคิดเห็นที่ 25 เส้นทางนี้ทำให้เห็นวิถีชีวิตชาวบ้านจริง ๆ ไม่ต้องปรุงแต่งสำหรับนักท่องเที่ยว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:27:46

ความคิดเห็นที่ 26 มองเห็นผมไหมครับ (ยอมพลีชีพออกสื่อเป็นครั้งแรก) จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:28:30

ความคิดเห็นที่ 27 จุดนี้เป็นจุดที่สวยสุดเลย เป็นวิวแบบพานอรามา มองไปมีแต่บ้านจอมปลวกรอบด้าน ราวกับหมู่บ้านฟลินซโตน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:30:10

ความคิดเห็นที่ 28 บางหลังก็เปิดเป็น guesthouse ขอย้ำว่าถ้ามาคัปปาโดกีย ไม่ควรพลาดเมืองอุชิซาร์อย่างยิ่ง สวยงามและยังคงสภาพไว้ได้เป็นอย่างดี แถมไม่มีนักท่องเที่ยวมากวนใจเวลาจะถ่ายรูป จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:32:31

ความคิดเห็นที่ 29 คอนโดธรรมชาติ มีหลายอาคาร ไม่รู้ต้องจ่ายค่าส่วนกลางหรือเปล่า จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:33:16

ความคิดเห็นที่ 30 ผู้รู้บอกว่าดูจากเนื้อหินแล้วเป็นหินอัคนีจำพวก Pyroclastic พวกหินกรวดภูเขาไฟ จึงทนทานไม่พังลงมาง่าย ๆ รายละเอียดกว่านี้ผมก็ไม่ทราบแล้ว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:33:49

ความคิดเห็นที่ 31 หมู่บ้านฟลินซโตน สนใจซื้อซักหลังไหมครับ แต่ไม่รู้เจ้าของจะยอมขายหรือเปล่านะ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:34:45

ความคิดเห็นที่ 32 มีหลังหนึ่งเปิดเป็นร้านกาแฟ ขายเครื่องดื่มและของที่ระลึก เลยขอเข้าไปชมด้านในเป็นบุญตา จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:35:46

ความคิดเห็นที่ 33 จัดเป็นมุมไว้รับแขก จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:37:02

ความคิดเห็นที่ 34 มีนักท่องเที่ยวนั่งเล่น blackgammon อยู่มุมหนึ่ง จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:37:54

ความคิดเห็นที่ 35 มาถึงไฮไลต์อีกอย่างของทริปนี้ ชาแอปเปิ้ล ตั้งแต่มาถึงที่พักวันแรก เจ้าของก็เสิร์ฟชาแอปเปิ้ลให้ก่อน ไปไหนก็มีคนชวนไปนั่งในร้านชงชาแอปเปิ้ล เขาบอกว่ามีสำนวนตุรกีว่าชาแก้วหนึ่งหมายถึงมิตรภาพ 10 ปี ก็คือเอาชาแลกมิตรภาพนี่แหละ รสชาติชาแอปเปิ้ลช่างหวานหอมอร่อย ที่สำคัญต้องกินกับแก้วทรงทิวลิปแบบนี้ ลองซื้อชามาชงกินเองที่บ้านใส่แก้วธรรมดา มันไม่อร่อยเหมือนกินกับแก้วทิวลิปแบบนี้จริง ๆ เสียดายไม่ได้ซื้อมาด้วย ชาภาษาตุรกีเรียกว่าชาย (cay) จะเป็นภาษาไหนก็ออกเสียงคล้าย ๆ กันหมดนะครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:39:03

ความคิดเห็นที่ 36 ขากลับลังเลระหว่างเดินกลับหรือหารถบัสกลับโกเรเม่เพราะต้องทำเวลาแข่งกับพระอาทิตย์ตก ขืนเดินป่าแล้วมืดกลางทางไฟฉายก็ไม่มี จะเกิดอะไรขึ้น แต่สุดท้ายก็เลือกเดินกลับทาง Pigeon Valley เพราะพระอาทิตย์ตกช้า น่าจะยังทัน ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เพราะตลอดเส้นทางนี้ได้ชมวิวสองข้างทางที่สวยงาม สงบ ไม่เจอผู้คนหรือนักท่องเที่ยวเลย (แล้วถ้าหลงนี่จะมีใครมาช่วยออกไปมั้ยเนี่ย) ได้เห็นวิวัฒนาการทางธรณีวิทยาการเกิดภูมิประเทศของคัปปาโดเกีย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:39:52

ความคิดเห็นที่ 37 รูปนี้แสดงความทนทานต่อการกัดกร่อนและพุพังต่างกัน เพื่อนนักธรณีวิทยาชอบภาพนี้มาก จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:40:32

ความคิดเห็นที่ 38 ด้านล่างเป็นธารน้ำลอด ไม่แน่ใจว่าเกิดเองตามธรรมชาติหรือมนุษย์ไปขุดไว้ เส้นทางนี้ขอแนะนำอย่างยิ่ง เป็นอีกหนึ่งจุดที่ประทับใจมาก เป็นความทรงจำดี ๆ อีกหนึ่งอย่างสำหรับทริปตุรกี จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:41:01

ความคิดเห็นที่ 39 รีบจ้ำกันกลับโกเรเม่ มาถึงฟ้าก็มืดพอดี เห็นโรงแรมหรูในเมืองโกเรเม่ น่าพักเหมือนกันแฮะ ไม่รู้แพงหรือเปล่า จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:41:30

ความคิดเห็นที่ 40 เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นเรามีนัดขึ้นบอลลูน ที่คัปปาโดเกียเป็นจุดปล่อยบอลลูนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ครั้งหนึ่งในชีวิตเนาะ จัดไปเต็ม ๆ ราคาค่าขึ้นบอลลูน 1 ชั่วโมงประมาณ 100 ยูโรนิด ๆ ขึ้นอยู่กับการต่อรองราคากัน ราคา 4 พันกว่าบาทกับประสบการณ์บอลลูน ถือว่าคุ้มครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:42:24

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนเช้ารถตู้จะแวะไปรับนักท่องเที่ยวจากโรงแรมต่าง ๆ แล้วพามาที่บริษัท มีขนมปัง คุกกี้ ชา กาแฟ เสิร์ฟเป็นอาหารเช้า แล้วรถก็พามาจุดปล่อยบอลลูน เหมือนงานเทศกาลบอลลูนเลย แต่ที่นี่เป็นปกติทุกวันที่อากาศดี วันไหนอากาศไม่ดีก็จะงดบอลลูน นักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วไว้สามารถใช้บริการได้วันถัดไป ถ้าสองวันอากาศไม่ดีเค้าจะคืนเงินให้ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:43:22

ความคิดเห็นที่ 42 บริษัทบอลลูมีหลายบริษัท แต่ละบริษัทจะมีลวดลายบนบอลลูนแตกต่างกัน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:43:52

ความคิดเห็นที่ 43 ลอยแล้ว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:44:15

ความคิดเห็นที่ 44 บอลลูนแต่ละลำสามารถบรรจุคนได้ประมาณ 12-16 คน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:44:45

ความคิดเห็นที่ 45 จริง ๆ วันนี้ก็อากาศไม่ดีเท่าไหร่ ฟ้าปิดสนิท จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:45:17

ความคิดเห็นที่ 46 ลอยขึ้น ๆ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:47:31

ความคิดเห็นที่ 47 ขึ้นอีก ๆ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:48:13

ความคิดเห็นที่ 48 ... จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:49:09

ความคิดเห็นที่ 49 ปล่อยให้ชมแบบเงียบ ๆ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:50:28

ความคิดเห็นที่ 50 *** จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:51:27

ความคิดเห็นที่ 51 ยิ่งกว่าเทศกาลบอลลูนเสียอีก ตื่นเต้นน้ำตาแทบไหล จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:52:46

ความคิดเห็นที่ 52 มาชมด้วยคน.......ขอบคุณครับ จากคุณ : low batt. เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:53:15 A:223.206.166.211 X: TicketID:329936

ความคิดเห็นที่ 53 ภาพออกมานอยส์กระจาย ก็เช้าตรู่ ฟ้าปิด แถมบอลลูนเคลื่อนที่ตลอดเวลา ได้ขนาดนี้ก็โอแล้วเนอะ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:54:53

ความคิดเห็นที่ 54 low batt. มา ๆๆ ขึ้นบอลลูนด้วยกันทันเวลาพอดีครับ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:55:46

ความคิดเห็นที่ 55 คนคุมบอลลูนก็เรียกว่า pilot เป็นคนคุมทิศทางลม คนขวาคือผู้ช่วย มีหน้าที่คุมแก๊สเข้าบอลลูนให้ลอยสูงขึ้น จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:57:03

ความคิดเห็นที่ 56 มองไปเห็นอุชิซาร์ที่ไปเดินเมื่อวานอยู่ที่ขอบฟ้าไกล ๆ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:57:50

ความคิดเห็นที่ 57 ลอยต่ำเพื่อจะได้สัมผัสความงามของหินผาแห่งคัปปาโดเกีย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:58:27

ความคิดเห็นที่ 58 แทบจะแตะยอดหินกันเลยทีเดียว จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 00:59:08

ความคิดเห็นที่ 59 บอลลูนสองลำกำลังหยอกล้อเคลียคลอชื่นชมธรรมชาติชี้ชวนกันดูปล่องไฟนางฟ้า จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:00:32

ความคิดเห็นที่ 60 นักบินกำลังหาที่ลงจอดบอลลูน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:01:20

ความคิดเห็นที่ 61 ประทับใจภูมิประเทศที่นี่เช่นกันค่ะ unique จริงๆ ขึ้น hot air balloon เป็นครั้งแรกก็ที่นี่ค่ะ คุณ Cherokee1 ถ่ายรูปสวยมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 01:03:30 จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:01:22

ความคิดเห็นที่ 62 เตรียมตัวลงจอด ทุกคนนั่งยอง ๆ ก้มหัวให้พ้นขอบตะกร้า อวัยวะทุกส่วนอยู่ภายใน จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:02:50

ความคิดเห็นที่ 63 Miss_Behaving - ขอบคุณที่แวะมาชมยามดึกนะครับ ตอนลงลมแรง นักบินพยายามหาที่โล่ง เลยมาลงที่ฟาร์มชาวบ้าน กระเช้าล้มทับเสาจนเอียง ต่อหน้าต่อตาระยะไม่ถึงหนึ่งเมตร ทำให้กระเช้าคะมำไปอีกข้าง จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:04:19

ความคิดเห็นที่ 64 Hard landing! ขาลงกระแทกพื้นแรงมาก จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:05:53

ความคิดเห็นที่ 65 หนแรกที่บอลลูนพยายามจะลงหัวก็กระแทกฟาดกับกระเช้า ก็รู้สึกตกใจว่าลงแรงจัง แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซักพักบอลลูนก็ลอยขึ้นอีกหน แล้วกัปตันก็พยายามจะลงจอดใหม่อีกรอบอย่างที่เห็น ตกใจมากเพราะหน้าคะมำและเห็นเสากั้นรั้วฟาร์มอยู่ตรงหน้าไม่ถึง 1 เมตร ดีที่อวัยวะทุกอย่างอยู่ในกระเช้าหมด ไม่อย่างงั้นคงได้ฟาดกับเสาแน่ ๆ เมื่อรู้ตัวอีกครั้งก็เจ๊บแปลบที่ขาขวาเหมือนขยับไม่ได้ เค้าก็บอกให้คลานออกมาจากกระเช้าได้แล้ว แต่รู้ตัวว่าขาไม่มีแรงแน่ ๆ เค้าก็ถามว่า Problem? พอบอกว่า Yes เค้าก็เลยมาอุ้มออกจากกระเช้า เดินไม่ได้เลย กลัวว่าจะมาขาหักระหว่างเที่ยวคงกร่อยแน่ ๆ จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:06:44

ความคิดเห็นที่ 66 จริง ๆ ควรจะลงนิ่มนวลแบบนี้ ลำนี้ลงบนรถ truck ที่มาจอดรอรับเลย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:08:24

ความคิดเห็นที่ 67 เขาบอกว่าคนที่เป็น pilot คุมบอลลูนได้หายาก พวกนี้เงินเดือนสูงมาก ไม่ใช่ใคร ๆ ก็เป็นได้ เค้าบอกว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อาจจะมีปีละหนเท่านั้นเอง ถือว่าเป็นวันโชคร้ายของผม อ่านรีวิวพันทิบของเพื่อนทางหนึ่งที่ไปหลังผมไม่กี่วัน อากาศดีฟ้าใสกว่านี้วันนั้นยังไม่ปล่อยบอลลูนเลย แสดงว่าคงกลัวมีปัญหาอีกถ้าไม่แน่ใจว่าปลอดภัยจริง ๆ ผมว่าบริษัทก็คงไม่กล้าเสี่ยงเอาชื่อเสียงมาทำเสียหายหากเกิดข้อผิดพลาดแบบวันนั้นอีก จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:08:47

ความคิดเห็นที่ 68 ลงมาก็มีการฉลองด้วยแชมเปญ แต่เจ็บคอดดด ยืนขาสั่นผั่บ ๆๆ แทบไม่ไหว ต้องเกาะข้างรถ ซักพักพอพิธีการจบลง บริษัทก็เอารถเก๋งมารับไปส่งโรงพยาบาล จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:09:38

ความคิดเห็นที่ 69 เสร็จแล้วให้เค้าพามาโรงพยาบาลที่เนฟเชฮีร์ เช็คดีกว่าเผื่อเป็นไรมาก หมอก็จับเอกซเรย์ โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมากไม่มีอะไรหักไม่มีอะไรเคลื่อน (no fracture, no dislocation) แค่ข้อเท้าพลิก แต่ก็บวมเป่งเลย หมอบอกว่าให้ปฏิบัติตาม standard RICE procedure คือ R - rest พักเยอะ ๆ I - ice ประคบน้ำแข็ง 4-5 วันแรก C - compress พันผ้าไว้ E - elevate ยกขาสูง หมดค่าหมอไปประมาณ 7 พันบาท ทางบริษัทบอลลูนถามว่าผมมีประกันหรือเปล่า พอบอกว่ามีเค้าก็เอาไปเช็คปรากฏว่าผมเบิกได้ เค้าเลยให้กลับมาเบิกบริษัทประกันที่ทำไปจากเมืองไทย คิดว่าวันนั้นเค้าคงต้องรับผิดชอบหลายรายอยู่ มีอีกคนที่ไปด้วยกัน ได้ยินว่าต้องกลับประเทศไปผ่าตัดเลย ฟังแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แต่แค่นี้ก็ทำให้อีกครึ่งที่เหลือของทริปขาดรสชาติไปไม่น้อย จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:10:41

ความคิดเห็นที่ 70 วันนั้นพวกเราซื้อเดย์ทัวร์ล่วงหน้าไปแล้ว เนื่องจากที่นี่มีอาณาเขตกว้างขวางหลายร้อยตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื่นที่หลายเมือง เรามีเวลาสองวัน เลยเลือกวันนึงอยู่แถวที่พัก ส่วนอีกวันซื้อทัวร์ไปชมจุดที่อยู่ไกลออกไป ที่คัปปาโดเกียจะเดย์ทัวร์ให้เลือกหลายรายการ เรียกเป็นสี ๆ ว่า Red Tour, Green Tour, Brown Tour, Blue Tour ไม่ว่าจะบริษัทไหนก็เรียกแบบนี้เหมือนกัน พวกเราเลือก Green Tour ไฮไลต์หลักคือเมืองใต้พิภพที่ขุดลงไปอยู่ใต้ดินลึกเป็นร้อยเมตร มองจากด้านบนจะไม่ทราบเลย แต่ด้านล่างสามารถจุคนได้เป็นหมื่น ๆ คน ในคัปปาโดเกียมีเมืองใต้ดินถึง 35 เมือง แต่เมืองที่สมบูรณ์ที่สุดและขุดลงไปลึกที่สุดคือที่ Derinkuyu ถือเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกด้วยเช่นเดียวกัน ขอเล่าเหตุการณ์หลังจากโรงพยาบาลให้ฟังอีกหน่อย ตอนไป รพ.เนื่องจากรถเก๋งที่นั่งไม่พอ เลยมีเพื่อนไปกับผมคนนึง ที่เหลือกลับไปรอฟังข่าวที่โรงแรม พอดีเจอกับคณะคนไทยที่พักที่เดียวกัน เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนประสบอุบัติเหตุจากบอลลูน เจ้าของโรงแรมได้ยินแทนที่จะถามด้วยความเป็นห่วงก็พูดว่าเห็นมั้ยไปซื้อทัวร์บอลลูนจากบริษัทอื่นไม่มีคุณภาพ ไม่ professional ไม่ยอมซื้อจากเขาก็แบบนี้แหละ เพื่อนฟังแล้วจี๊ดมาก ทั้งที่บริษัทบอลลูนก็บริษัทเดียวกัน เพียงแต่ว่าเราซื้อเป็น package มีบอลลูน มีเดย์ทัวร์ และก็มีดินเนอร์พร้อมการแสดงในราคาที่ถูกมาก จริง ๆ เรื่องยาวกกว่านี้แต่คงไม่เหมาะจะเล่าผ่านหน้ากระทู้ เอาเป็นสรุปก็คือเจ้าของโรงแรมเป็นนายหน้าขายทัวร์ด้วย บริษัททัวร์ก็ไม่พอใจเพราะถือว่ามาแย่งธุรกิจกัน เลยมีการปาดหน้าช่วงชิงลูกค้าเกิดขึ้น เจ้าของโรงแรมคงไม่พอใจเลยพูดแบบนั้นออกมา จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:11:43

ความคิดเห็นที่ 71 ภายในสร้างลึกลงไป 120 เมตร มี 8 ชั้น มีส่วนพักอาศัย โรงครัว ห้องเก็บของ คอกม้า โบสถ์ มีช่องระบายอากาศ มีประตูเปิดปิดแน่นหนา สามารถหลบซ่อนตัวนานเป็นเดือน เดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ซ่อนตัวจากอันตราย ต่อมาพวกที่นับถือศาสนาคริสต์ในตอนต้นซึ่งหลบหนีการข่มเหงจากพวกโรมันได้เข้ามาอาศัย ภายหลังยังใช้เป็นที่ซ่อนตัวจากพวกอาหรับที่เข้ามารุกราน ผมไม่ได้ลงไปหรอก ปล่อยให้เพื่อน ๆ ลงไปเก็บรูปมาให้ชมกัน เอามาให้ชมกันซักรูปพอให้เห็นภาพ ใครเคยไปพวกอุุโมงค์วินม็อกหรือกู๋จีในเวียดนามคงพอนึกบรรยากาศออก แต่ที่นี่กว้างใหญ่และลึกกว่ามาก ขอเล่าเหตุการณ์หลังจากโรงพยาบาลต่อนะครับ ฝ่ายที่กลับไปรออยู่ที่โรงแรมก็ใจไม่ดี อยากมาเยี่ยมเพื่อน แต่พอผมรู้ว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมากก็ไม่อยากให้เพื่อน ๆ เสียเที่ยว ไหน ๆ ก็จ่ายเงินมาแล้ว เลยให้คนที่พามาติดต่อบริษัทเดย์ทัวร์แล้วนัดให้ไปเจอกันกลางทาง คนตุรกีนี่แค่บอกว่าต้องการอะไร เค้าสามารถติดต่อถึงกันได้หมด ฝ่ายบริษัทบอลลูนก็โทรถามไกด์ทัวร์ว่าอยู่ถึงไหนแล้ว แล้วก็ขับไปดักเจอกัน วันนั้นส่วนใหญ่ผมจะนั่งอยู่ในรถให้เพื่อน ๆ ลงไปเที่ยวเก็บรูปมาฝากกัน แต่เพื่อนก็บอกว่าจริง ๆ ก็คล้าย ๆ ที่เราเดินเองเมื่อวาน แถมสวยน้อยกว่าด้วย ไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้ลงไป คุณไม่ได้พลาดอะไรมาก (ไม่รู้แอบปลอบใจหรือเปล่า) จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:12:31

ความคิดเห็นที่ 72 และแล้วก็ขอจบพาเที่ยวตุรกีตอน 3 แต่เพียงเท่านี้ครับ หวังว่าผู้อ่านคงได้รับสาระและความบันเทิงจากกระทู้นี้ตามสมควรนะครับ คราวหน้าผมยังตัดสินใจอยู่ว่าจะพาข้ามไปอิสตันบูลก่อน หรือว่าจะไปทางตุรกีตะวันออกก่อนดี ยังไงติดตามชมตอนหน้าซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่นะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับมาถึงกระทู้ที่สามนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 01:17:05 จากคุณ : Cherokee1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:16:33

ความคิดเห็นที่ 73 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ วิวสวยมาก จากคุณ : Thareerat เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:17:10

ความคิดเห็นที่ 74 ทำไมประเทศนี้มีอะไรให้เที่ยว ให้ชมเยอะแยะน่าสนใจขนาดนี้ ตอนเย็นเพิ่งดูรายการ 3D Planet พาเที่ยวตุรกีพอดีเลยค่ะ  อยากไปมากๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ แก้ไขเมื่อ 03 ต.ค. 54 01:56:35 จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:22:31

ความคิดเห็นที่ 75 โอ้... คิดซะว่าอย่างน้อยก็โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมากไปกว่าข้อเท้าพลิกนะคะ จะรอติดตามตอนต่อไปค่ะ จากคุณ : Miss_Behaving เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 01:37:41

ความคิดเห็นที่ 76 ที่พัก สร้างแบบสมัยโบราณ เจาะเข้าไปในเนื้อหิน แปลกตาตื่นตา ตื่นใจจริงๆ เลยค่ะ    จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 02:15:54

ความคิดเห็นที่ 77 มานั่งเกาะขอบจอ อยากทัวร์บอลลูนบ้าง มันจะมี web ที่ขายคูปองถูกๆเป็นช่วงๆนะคะที่ตุรกี http://www.sehirfirsati.com/ อย่างบอลลูนจะมีมาบ่อยเรื่อยๆ เราเคยเห็นลดถูกๆจะเกือบๆ 2000 พันบาท ใครที่มีแพลนจะไปตุรกี ลองเข้าไปสมัครทิ้งไว้ก็ได้ค่ะ และทุกวันทางเว็บจะส่งโปรโมชั่นมาให้เรื่อยๆว่าเมืองไหนมีส่วนลดอะไรบ้าง ภาษาเป็นตุรกิช ซึ่ง copy ไปใช้กับ google translate ได้แต่ให้แปลเป็นอังกฤษนะคะ แปลเป็นไทยอาจจะงงเต๊กทีเดียว แต่ถ้าไม่แน่ใจจริงๆหรือเวลาจะซื้อคูปองหลังไมค์มาถามเราได้ค่ะ จะช่วยแปลให้ เราซื้อคูปองหลายหนอยู่และที่นี่(ตุรกี)คูปองหรือไม่คูปองก็ได้รับบริการที่เท่าเทียมกัน (แต่ถ้าเป็นพวกโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวจะต้องจองล่วงหน้านะคะ). ถือว่าเป็นตัวเลือกอีกทางแล้วกันเนอะ :) ขอบคุณภาพสวยๆอีกรอบค่ะ ทำให้เกิดกิเลสอยากไปจริงๆ 555 เสียดายแทนจขกท.จังค่ะที่ขาเจ็บ แต่ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก จะรอติดตามชมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : ท่านหญิงแพรวพรรณราย เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 02:46:44

ความคิดเห็นที่ 78 เสียใจด้วยที่ไม่สบายขาเดี้ยงที่แคปปาโดเกียนะค้า ตอนที่ไปตุรกีก็ไปนอนที่โกเรเม่สามคืนค่ะ ชอบมากกกกโดยเฉพาะไท ตอนเย็นๆก่อนกินข้าว แค่เดินออกมานอกเมืองนิดเดียวจะมีถ้ำร้างเยอะแยะเลย ไทจะเข้าไปสำรวจโน่นนี่(มีพ่อมันตามไปอารักขา) เล่นได้เป็นชั่วโมงๆ ประทับใจมากๆค่ะ จากคุณ : flymom เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 03:02:30

ความคิดเห็นที่ 79 อยากไปมากมาย จากคุณ : marzo เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 03:14:39

ความคิดเห็นที่ 80 อุ้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ  ต้องรีบไปย้อนอ่านสองตอนแรกซะแล้วเรื่องราวน่าสนใจมาก ๆครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 06:32:15

ความคิดเห็นที่ 81 ภูมิประเทศสวยมากมาย ไม่เคยนึกถึงที่นี่เลย จนมาชมรีวิวของคุณเชอ หลายๆกระทู้ ขอบคุณที่พาเที่ยว จากคุณ : SkylineKip เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 06:40:28

ความคิดเห็นที่ 82 เข้ามาขอบคุณไว้ก่อน...เด๋วค่อยมาตามอ่านอีกทีครับ...รูปสวยครับ จากคุณ : mordek1 เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:15:28

ความคิดเห็นที่ 83 สวยมากครับ อยากไปอยู่บนบอลลูนมั่งจัง จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:23:09

ความคิดเห็นที่ 84 ตามมาลงชื่อเข้าชมรีวิวต่อครับ เด๋วขอขึ้นไปอ่าน พร้อมกับชมภาพสวยๆก่อนนะครับ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:24:21

ความคิดเห็นที่ 85 ที่พักที่เป็นหิน แปลกตามากๆ ครับ แต่วิวสวยมากๆ แถมได้ขึ้นบอลลูนยักษ์ ด้วย  คงตื่นเต้นน่าดูนะครับ แต่เสียดายที่ลงกระแทกไปหน่อยนะครับ รอชมรีวิวหน้านะครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:46:41

ความคิดเห็นที่ 86 มาเที่ยวบ้านฟลินท์สโตนด้วยคนค่ะ โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก เห็นความสำคัญของการทำประกันตอนเดินทางเลย จากคุณ : Pat :o) เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 07:49:43

ความคิดเห็นที่ 87 เมืองยุคหินดูอัศจรรย์มากครับ เคยเห็นแต่ในหนังสือนำเที่ยว เพิ่งได้เห็นแบบสมบูรณ์นี่แหล่ะครับ งามแปลกตาจริงๆ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 08:25:55

ความคิดเห็นที่ 88 ได้ติดตามสถานการณ์ว่าพี่เชอร์ได้รับอุบัติเหตุจากบอลลูน และดีใจที่เห็นว่าไม่เป็นอะไรมากค่ะ ^^ จากคุณ : กิ๊บส์ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 54 08:29:50