ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จเราเดินทางออกจากเมืองลี่เจียง เส้นทางคดเคี้ยวไปตามภูเขาสูงสองข้างทางเป็นหุบเหว หลายๆคนในก๊วนเริ่มออกอาการเมารถแล้วล่ะครับ ต่างก็งัดลูกอมสารพัด ยาดมสาระเพมาแจกกันก่อนที่จะมีใครปล่อยโอ๊กอ๊ากในรถ ไกด์ก็บอกว่ายินดีด้วยตอนนี้เรามาถึงโค้งแรกแล้ว  คนในก๊วนโวยเสียงขรมโค้งแรกไรกัน เนี่ยนสิบๆโค้งจนจะอ้วกอยู่แล้ว ไกด์หัวเราะแล้วบอกว่าเรามาถึงโค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียงกันแล้วครับ รถเข้าจอดเทียบท่าข้างๆทางนั้นเอง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:01:40

ความคิดเห็นที่ 2 ดีครับที่มีจุดจอดรถ พอให้เราได้ลงไปเข้าห้องน้ำห้องท่าเปลี่ยนอิริยาบถกันบ้าง หลายคนออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกว่า ฉันจะอ้วกก็อีตรงเจอห้องน้ำแบบมาตรฐานจีนนี่ล่ะสุดยอดจริงๆ สำหรับลุงใช้วิธีกลั้นหายใจทางจมูกหายใจทางปากเอามีผ้าปิดปากหน่อยก็พอทนครับ  จากนั้นเราก็เดินขึ้นไปด้านบนซึ่งทำไว้เป็นจุดชมวิว เห็นว่าจุดชมวิวนี้เพิ่งทำขึ้นมาทีหลังเพื่อเก็บค่าเข้าชม เมื่อก่อนชมฟรีครับ  แต่ลุง่ว่าจุดตรงนี้มันไกลวิวไปหน่อยเห็นโค้งแม่น้ำอยู่ลิบๆโน่น แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 19:25:17 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:05:49

ความคิดเห็นที่ 3 ลืมภาพอิอิ  ขึ้นบันไดตามลุงมาเลยครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:06:43

ความคิดเห็นที่ 4 ผ่านร้านขายของที่ระลึก ขายสมุนไพรยาจีนทั้งหลายแหล่แต่ไม่มีใครในก๊วนสนใจซื้อ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:08:13

ความคิดเห็นที่ 5 สวยมากครับ  ตามลุงไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:12:06

ความคิดเห็นที่ 6 มาช่วยแบกเป้ครับ คุณลุง จากคุณ : Hero11147 เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:12:31

ความคิดเห็นที่ 7 ในที่สุดลุงก็ขึ้นมาพบ โค้งแรกของแม่น้ำแยงซีเกียง 长江第一弯”      ความสำคัญของโค้งแรกแม่น้ำแยงซีเกียงมีดังนี้ครับ คือมีจุดตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของเมือง จงเตี้ยน ห่างจากเมืองจงเตี้ยน 130กิโลเมตร เป็นการเลี้ยวหักเป็นรูปอักษร V ของแม่น้ำ จินซาเจียง ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำแยงซีเกียง จากแนวไหลเดิมที่จากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ มาเป็นการไหลจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก จนกลายเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของจีน ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดที่ต้นแม่น้ำแยงซีเกียงมีการเปลี่ยนทิศทางการไหลแบบ 180 องศา จนเป็นที่มาของคำว่าโค้งแรกของแม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งหมายถึงโค้งแรกบริเวณต้นน้ำ และโค้งที่สวยเด่นที่สุดของแยงซีเกียงนั้นเองครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:12:36

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมรูปอีกแล้ว จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:13:41

ความคิดเห็นที่ 9 เล็กทาโร่  &  Hero11147 :หยุดยาวแบบนี้ไม่ไปเที่ยวไหนเหรอครับนักปาดมือทองจริงๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:15:42

ความคิดเห็นที่ 10 จุดชมวิวและป้ายที่นักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน วันนี้อากาศไม่หนาวเท่าไรมีแดดอุ่นๆสบายๆครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:18:01

ความคิดเห็นที่ 11 ตามชมยาวๆ ด้วยคนครับ จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:21:10

ความคิดเห็นที่ 12 ถ่ายรูปที่จุดชมวิวกันพอประมาณแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ ก่อนขึ้นรถเราซื้อสตอเบอรี่ที่ชาวบ้านเก็บมาขายกันสดๆ จานละสิบหยวน รสชาติดีมากครับหวานอมเปรี้ยว ไม่ใช่เปรี้ยวๆจืดๆเหมือนสตอเบอรี่บ้านเรา ทริปแชงนี้อาหารหลักของลุงคือผลไม้ แอปเปิ้ล กะสตอเบอรี่ ผบทบลุงซื้อติดรถติดกระเป๋าไว้ตลอด ช่วยให้ไม่เบื่ออาหารจีนจนเกินไปบางมื้อ ผบทบลุงทานแอปเปิ้ลแทนข้าวเลยทีเดียวครับ ระบบขนส่งของเสียในร่างกายทำงานดีมากไม่มีปัญหาท้องผูกเหมือนหลายๆคน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 22:30:06 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:23:05

ความคิดเห็นที่ 13 the Sixth Floor:เจ้าพ่อนักถ่ายรูปมือฉมังก็มาเชิญเที่ยวไปด้วยกันครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:24:34

ความคิดเห็นที่ 14 สองข้างทางเป็นเรือกสวนไร่นาสลับขุนเขา แปลงสตอเบอรี่มีให้เห็นกันติดถนนเลยทีเดียว นี่ก็กำลังเก็บกันสดๆจากไร่เลยครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 19:27:20 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:26:33

ความคิดเห็นที่ 15 ขายกันข้างทางสดๆ จริงๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:27:19

ความคิดเห็นที่ 16 ที่จริงจากที่สังเกตแม้จะใกล้น้ำแต่ ผืนดินแถวนี้แห้งและแข็งมากทำไมนะพืชผักต่างๆถึงได้งามนัก สังเกตดีๆเห็นกองปุ๋ยกองโตๆเรียงรายเป็นจุดๆไกด์บอกว่านี่ล่ะปุ๋ยหมักจากธรรมชาติ ปลูกอะไรก็ขึ้นก็งามไปหมด แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 19:28:40 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:29:30

ความคิดเห็นที่ 17 ดีใจจัง คุณลุงมาแล้ววววว.... เมื่อเช้ายังนึกถึงรีวิวภาค 2 อยู่เลย แต่เห็นเป็นวันหยุดยาว คิดว่ายังไงๆคงไม่ได้ดูรีวิวต่อในช่วงนี้แน่ ขอบคุณคะ ที่มารีวิวต่อวันนี้ ( เพราะเสาร์-อาทิตย์นี้ หาคนรีวิวยากเหลือเกิน เฉาจริงๆ) จากคุณ : สิบล้อชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:30:32

ความคิดเห็นที่ 18 วิวทิวทัศน์สองข้างทาง ก่อนเข้าสู่เขตแชงกรีล่าครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:30:55

ความคิดเห็นที่ 19 ลุงเรียกผมแบบนั้นผมเขินแย่ฮะ ยังไม่เป็นเจ้าพ่อสะหน่อย เส้นแชงกรีล่า ต้าลี่ ลี่เจียง นี่เป็นอีกเส้นที่อยากไปมากฮะ รอจังหวะดีๆ เดี๋ยวจะตามรอยลุงไปบ้างฮะ จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:31:51

ความคิดเห็นที่ 20 สิบล้อชอบเที่ยว;ขอบคุณที่ติดตามครับลุงก็พยายามทำรีวิวนี้ให้สำเร็จเหมือนกัน Sixth Floor : อย่าถล่มตัวครับจะกระซิบบอกใ้ห้ว่า ผบทบลุง ยกให้ใครหลายต่อหลายคนรวมทั้งคุณเป็นไอดอลด้านการถ่ายภาพของเธอทีเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 16:35:15 แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 16:34:23 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:32:04

ความคิดเห็นที่ 21 รถขับเลียบมาตามแม่น้ำ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:36:36

ความคิดเห็นที่ 22 ข้ามสะพานนี้ก็คือพ้นเขตลี่เจียงเข้าสู่เขตแชงกรีล่าแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 16:38:11 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:37:49

ความคิดเห็นที่ 23 ประตูเมืองเข้าเขตแชงกรีล่าครับ แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 54 13:13:37 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:39:24

ความคิดเห็นที่ 24 เริ่มเห็นบ้านเรือนสองข้างทาง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:40:22

ความคิดเห็นที่ 25 คงเป็นชุมชนเล็กหน้าด่านประตูแชงกรีล่าครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:41:30

ความคิดเห็นที่ 26 สภาพภูมิประเทศล้อมรอบด้วยภูเขาสูงทะมึนข้างทางจากนี้ไปเป็นหุบเหวลึกมีสายน้ำเชี่ยวกรากอยู่เบื้องล่าง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:42:59

ความคิดเห็นที่ 27 ภูเขาบางลูกเป็นหินทั้งลูกแต่ก็ยังมีหนึ่งชีวิตดิ้นรนเพื่ออยู่รอด ต้นไม้นี้ชื่ออะไรมิทราบแต่ลุงชอบมันมาก ที่มันพยายาม อดทนเหลือเกินในการที่จะยืนหยัดมีชีวิตรอดเปรียบเหมือนคนจีนที่มีความขยัน ทรหดอดทนเป็นเลิศ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 16:45:52 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:45:11

ความคิดเห็นที่ 28 เรากำลังเดินทางเข้าใกล้จุดชมวิวที่หุบเขาช่องแคบเสื้อกระโจน ใครที่กลัวความสูงหลับตาได้ครับ แต่ส่วนใหญ่ต่างเฮละโลมาชมวิวกันจนลุงเกรงรถจะเอียงกะเท่เร่นั่นซิหวาดเสียวก็อีตรงนี้ล่ะ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:48:47

ความคิดเห็นที่ 29 ที่เห็นลิบๆคือฝั่งทางเชตลี่เจียงนะครับมีถนนลัดเลาะเลียบภูเขาไปที่จุดช่องแคบเสือกระโจนเช่นกัน จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:50:53

ความคิดเห็นที่ 30 ใกล้ถึงช่องแคบเสื้อกระโจนแล้วครับนี่เป็นจุดชมวิวด้านบน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 16:52:29 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:51:59

ความคิดเห็นที่ 31 อึกมุมมองจากด้านบน ลึกมากแค่ไหนชมกันเอาเองครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 16:54:22 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:53:43

ความคิดเห็นที่ 32 สัญลักษณ์ที่เห็นมาแต่ไกล จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:55:30

ความคิดเห็นที่ 33 ถึงจุดจอดรถแล้วนะครับ ทีนี้ก็ชั่งใจกันเอาเองว่าจะลงไปชมวิวด้านล่างหรือไม่ถ้าลงจะเดินลงไปเองตามขั้นบันไดหรือจะนั่งเกี้ยวให้เค้าแบกไป จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 16:57:22

ความคิดเห็นที่ 34 อย่างลุงมีหรือครับมาถึงแล้วจะไม่ลง แต่ลุงเลือกเดินลงไปเอง ใครที่คิดว่าขึ้นลงไม่ไหวมีบริการเกี้ยวนะครับขึ้นลง ร้อยหยวนครับ หรือใครจะนั่งแค่ขาขึ้นก็แปดสิบหยวนครับ  มีพี่ในกลุ่มเข่าไม่ดีเลือกนั่งเกี้ยว บอกว่าเสียวสุดๆกลัวคนแบกจะเปลี่ยนใจโยนผู้โดยสารทิ้งข้างทาง หรือไม่ก็กลัวคนแบกจะก้าวพลาดหกล้มขึ้นมาล่ะก็คงดูไม่จืดทีเดียวเชียวครับ   พี่แกบอกว่าชั้นล่ะอ๊ายอาย ใครๆก็พากันยื่นหน้ามาส่องดูในเกี้ยว คงสงสัยว่ายัยคนนี้ทำไมไม่เดินเองอยากรู้อยากเห็นอะไรประมาณนั้น จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:02:46

ความคิดเห็นที่ 35 ประสบการณ์แปลกใหม่นั่งเกี้ยวเสียวสุดๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:04:06

ความคิดเห็นที่ 36 จะมีจุดให้ชมวิวถ่ายรูปเป็นระยะๆ ตรงนี้ลุงเห็นเจ้าเสือตัวนี้ครับแต่อยู่ทางฝั่งลี่เจียง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:05:50

ความคิดเห็นที่ 37 หุบเขาเสือกระโจนตั้งอยู่บริเวณจุดผ่านของแม่น้ำทั้งสามทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑล ยูนาน หุบเขาเสือกระโจนเป็นหุบเขาที่ลึกและมีความหวาดเสียวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เกิดจากการซัดเซาะของแม่น้ำ จินซาเจียง ทำให้เกิดเป็นช่องแคบที่มีความยาว 16 กิโลเมตร และมีความสูง 3,000 กว่าเมตร หุบเขาเสือกระโจนแบ่งเป็นสามช่วง ได้แก่ ช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง หน้าผาสองข้างแม่น้ำมีความชันเป็นแนวดิ่ง ช่วงที่กว้างที่สุดของแม่น้ำมีความกว้าง 60-80 เมตร ส่วนช่วงที่แคบที่สุดมีดวามกว้างเพียง 30 เมตร ซึ่งเล่ากันว่าเป็นความกว้างที่เสือสามารถกระโดดข้ามได้ จนเป็นที่มาของคำว่าหุบเขาเสือกระโจน  ชมหุบเขาเสือกระโจนตั้งอยู่ระหว่างทางจากเมืองลี่เจียงไปยังเมืองแชงการีล่า ถ้านั่งรถมาจากเมืองลี่เจียงจะใช้เวลาเดินทางราว ๓ ชั่วโมง เป็นจุดชมวิวที่ผู้มาเยือนแชงการีล่าไม่ควรพลาดชมครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:08:02

ความคิดเห็นที่ 38 หินก้อนนี้ที่อยู่กลางช่องแคบเป็นจุดที่เสือกระโดดมาเกาะ แล้วโดดต่อมาขึ้นฝั่ง  พลาดลงไปคือตายแหงแก๋ เก่งจริงๆเลยนะเสือตัวนี้ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:10:00

ความคิดเห็นที่ 39 กระแสน้ำเชี่ยวกรากน่ากลัวจริงๆครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:10:59

ความคิดเห็นที่ 40 ชัดๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:11:54

ความคิดเห็นที่ 41 ใครนะช่างออกแบบเอากระจกไปวางเป็นพื้นแม้จะหนามีความปลอดภัยสูงก็เถอะแต่มันก็ทำให้คนขวัญอ่อนอย่างลุงมีอาการหลอนมิใช่น้อยจนไม่กล้าที่จะเหยียบเลยเชียว จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:14:04

ความคิดเห็นที่ 42 กว่าลุงจะตะกายบันไดกลับขึ้นมาด้านบนก็หยุดพักหอบไปหลายยกเหนื่อยจริงๆครับ จากนั้นเราก็เริ่มออกเดินทางกันต่อวิวจากนี้ไป สวยมากหลายจุดงามแบบพาโนรามาจริงๆ แต่การถ่ายรูปจากบนรถเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างยากที่จะเก็บความงามนั้นได้หมด จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:17:46

ความคิดเห็นที่ 43 เริ่มเข้าใกล้ตัวเมือแชงกรีล่าเข้าไปทุกขณะ อากาศเริ่มเบาบางครับ ไกด์พยายามปลุกเราให้ตื่นเพราะอากาศเบาบางหลายคนจะมีอาการง่วงงุนวิงเวียน จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:19:25

ความคิดเห็นที่ 44 เริ่มลงสู่พื้นราบแล้วครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:20:33

ความคิดเห็นที่ 45 มีทุ่งหญ้าสลับเนินเขาเตี้ยๆ บรรยากาศแปลกหูแปลกตามากครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:21:50

ความคิดเห็นที่ 46 วิวสวยๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:22:34

ความคิดเห็นที่ 48 กองเจดีย์หินความเชื่อแบบทิเบต จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:26:44

ความคิดเห็นที่ 50 อ้าวไม่ใช่ แจ้งลบไปแล้วนะครับ เครื่องรวน ระบบรวนหรือลุงรวนกันล่ะเนี่ยยย ลุงมาถึงแชงกรีล่าในเวลาที่ฝนกำลังปรอยๆอากาศอึมครึมชุ่มฉ่ำเย็นมากครับ เห็นฝูงจามรีแต่ไกลในทุ่งหญ้า นี่ล่ะบรรยากาศที่ลุงอยากมาเห็นของจริงนัก จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:30:57

ความคิดเห็นที่ 51 กองเจดีย์หินสัญลักษณ์ความเชื่อบูชาพระเจ้าของชาวทิเบต แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 17:33:38 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:32:26

ความคิดเห็นที่ 52 ในที่สุดลุงก็มาถึงจนได้ แชงกรีล่าหรือเมืองจงเตี้ยนที่ลุงไปพบในวันนั้นเงียบสงบที่สุดบรรยากาศแบบนี้ไม่เหมาะกะคนอกหักครับ แต่ถ้ามากันเป็นครอบครัวเป็นคู่โรแมนติคมิใช่น้อย  มาทำความรู้จัก แชงกรีล่าหรือเมืองจงเตี้ยนกันสักนิดครับ เมืองจงเตี้ยน หรือ “แชงกรีลา” เมืองจงเตี้ยน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลยูนนาน เขตปกครองพิเศษของชาวทิเบตตี๋ชิ้ง ตั้งอยู่บนที่ราบในวงล้อมของขุนเขา เมืองจงเตี้ยน เป็นถิ่นฐานของชาวทิเบต ซึ่งตามชานเมืองยังคงรักษาเอกลักษณ์ของบ้านที่ก่อดินขึ้นเป็นตึกสี่เหลี่ยม แต่งด้วยไม้ซุงขนาดใหญ่ ผู้คนยังแต่งกายพื้นเมือง คำว่า"จง" นั้นหมายถึงศูนย์กลาง หรือสิ่งที่กว้างใหญ่อันเป็นศูนย์กลาง ส่วน"เตี้ยน" นอกจากจะแปลว่าทุ่งหญ้าแล้ว ยังอาจแปลว่า อาณาจักร ได้ด้วย ลักษณะภูมิประเทศของเมืองจงเตี้ยน เป็นที่ราบทุ่งหญ้า มีภูเขาล้อมรอบ ในปีพ.ศ. 2545 รัฐบาลจีนได้เปลี่ยนชื่อเมืองจงเตี้ยน (อีกครั้ง จากเดิมที่มีชื่อในภาษาธิเบตว่า เจี้ยนถัง) เป็น"แชงกริ-ล่า" ภาษาจีนออกเสียงว่า "เซียงเกอ หลี ลา xiang Ge Le La แปลว่า ที่ซึ่งสุริยันจันทราประทับในดวงจิต แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 17:43:12 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:35:56

ความคิดเห็นที่ 53 เรานำข้าวของเข้าเก็บที่โรงแรมล้างหน้าล้างตาเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อม ใครที่ยังไม่ทานยาตอนนี้ก็เริ่มทานกันได้แล้วนะครับส่วนลุงน่ะทานตั้งแต่ลี่เจียงแล้วครับ กันไว้ดีกว่าแก้  ตอนผบทบลุง เธอนอนพักเธอบอกว่ารู้สึกวูบๆเหมือนตกจากที่สูง ทั้งๆี่กินยาแล้ว  ลุงเลยให้เธอนอนต่อสักพัก  ที่นี่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึงสามพันกว่าเมตร อากาศเบาบางมาก  การเคลื่อนไหวต่างๆควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปอย่าว่องไวมากนัก เพราะอาจทำให้หน้ามืดวิงเวียน ได้ครับ คืนนี้พี่ในก๊วนเรามีอาการเดียวกันคือท้องเสีย วิงเวียน ปวดศีรษะกันถึงสี่ท่าน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 17:47:17 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:38:27

ความคิดเห็นที่ 54 ตามมาเที่ยวด้วยครับ ลุง จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:41:48

ความคิดเห็นที่ 55 ชายเอ ทุ่งรังสิต:ไอดอลด้านการถ่ายรูปของ ผบทบลุงอีกคน เชิญมาเที่ยวด้วยกันเลยครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:48:35

ความคิดเห็นที่ 56 เมื่อพักเหนื่อยกันที่โรงแรมได้สักครึ่งชั่วโมง เราก็ออกมาขึ้นรถไปเที่ยวต่อครับเป้าหมายต่อไปของเราคือวัดซงจ้านหลินครับ วัด ซงจ้านหลินเป็นวัดลามะที่ใหญ่ที่สุดของมณฑล ยูนานทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1679 อยู่ห่างจากตัวเมืองแชการีล่า 5 กิโลเมตร องค์ดาไลลามะที่ห้าของทิเบตเป็นผู้เลือกสรรสถานที่สร้างวัดแห่งนี้หลังกราบทูลจักรพรรดิ คังซีแห่งราชวงศ์ ชิง และจักรพรรดิ คังซีได้พระราชทานนามว่า กุยฮว่าซื่อ และในยามเทศกาล ชาวทิเบตที่นี่ยังคงรักษาประเพณีที่จะจัดขึ้นตามวัดสำคัญๆ เหล่านี้ ด้วยการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอน แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 18:06:40 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:52:02

ความคิดเห็นที่ 57 เรานั่งรถนำเที่ยวทีเป็นของทางวัดโดยเฉพาะเข้ามา บริเวณทางเข้าเขตวัดครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:53:45

ความคิดเห็นที่ 58 มองย้อนกลับไป เห็นตัวเมืองแชงกรีล่าไกลอยู่ลิบๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:55:14

ความคิดเห็นที่ 59 ประตูด้านหน้าวัดครับเราเข้าไปทางนี้กันมีหลายคนพอเห็นบันไดที่ทอดยาวปรากฏเบื้องหน้าก็ขอบายนอนเฝ้าประตูวัดรอก๊วนเพราะไปต่อไม่ไหวเหตุจากขาลากจากการขึ้นลงหุบเขาเสืิอกระโจนซึ่งตัดกำลังไปแยะ  แต่ลุงว่าสู้เดินไปจะดีกว่า เดินไปช้าไม่รีบมาถึงแล้วไม่ไปต่อลุงเสียดายแทนจริงๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:58:05

ความคิดเห็นที่ 60 ผ่านประตูเข้าด้านในแล้วครับ เงียบสงบจริงๆวันที่ลุงไปมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก และวัดก็กำลังบูรณะปรับปรุง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 17:59:42

ความคิดเห็นที่ 61 เจดีย์ทางเข้าเมืองแชงกรีล่าครับลุงจะโพสรูปอื่นแต่รูปนี้ดันมาโผล่ได้ไงไม่รู้ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 18:02:22 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:01:09

ความคิดเห็นที่ 62 ดูๆไปคล้ายชาวบ้าน หรือผู้ดูแลวัดเสร็จสิ้นภารกิจประจำวันล้อมวงกันผิงไฟอากาศเริ่มเย็นแล้วนะครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 18:04:43 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:04:11

ความคิดเห็นที่ 63 มาชมภายในบริเวณวัดกันครับ สถาปัตยกรรมสีสันบ่งบอกกลิ่นอายความเป็นทิเบตได้ไมน้อย จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:08:55

ความคิดเห็นที่ 64 ในวิหารนี้มีพระพุทธรูปให้สักการะด้วยครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:10:05

ความคิดเห็นที่ 65 ส่วนที่ปรับปรุงก่อสร้างก็จะล้อมไว้แบบนี้อีกปีสองปีลุงว่าน่าจะเสร็จสิ้นคงสวยกว่านี้มากครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:11:22

ความคิดเห็นที่ 66 เดินซอกซอนไปตามกุฏิน้อยใหญ่ที่เป็นที่อยู่ของพระ แต่ลุงพยายามมองหาไม่เจอพระสักรูปเลยครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:12:46

ความคิดเห็นที่ 67 มองจากมุมสูง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:14:55

ความคิดเห็นที่ 68 อีกมุม จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:20:19

ความคิดเห็นที่ 69 มุมด้านข้างเห็นกุฏฺพระชัดเจน  กำลังเตรียมก่อสร้างกันอีกก็เยอะครับ แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 18:22:01 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:21:18

ความคิดเห็นที่ 70 ตามชมอยู่นะครับลุง  รีวิวได้ทรหดมากครับเป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:22:20

ความคิดเห็นที่ 71 สวยงามสไตล์ทิเบต วัดซงจ้านหลินนี้ตั้งโดดเด่นอยู่บนเขา แวดล้อมด้วยกุฏิเก่าแก่ลดหลั่นมาตามเชิงเขาหลายร้อยหลัง  ซึ่งในอดีตเคยมีพระสงฆ์นิกายลามะจำพรรษาอยู่ถึง 700 รูป   มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปี แต่ปัจจุบันมีสภาพหลายอย่างของวัดเหมือนสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด   แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 54 18:47:38 จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:23:48

ความคิดเห็นที่ 72 เล็กทาโร่:นักปาดมือทองขอบคุณครับที่อยู่เป็นเพื่อนลุงอยากลงให้เสร็จอีกกระทู้ครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:25:02

ความคิดเห็นที่ 73 เจดีย์กลางน้ำที่อยู่บริเวณด้านหน้าวัด จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:26:07

ความคิดเห็นที่ 74 ลัดเลาะไปเรื่อยๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:27:05

ความคิดเห็นที่ 75 มีตรอกซอกซอยแยะเลยครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:27:56

ความคิดเห็นที่ 76 พระที่มีตำแหน่งสูงๆเมื่อมรณะภาพไปแล้วจะทำการปลงศพโดยสับเป็นชิ้นๆโยนให้นก กา เหยี่ยวแร้งกิน ถือว่าจะได้อยู่ใกล้พระผู้เป็นเจ้าอยู่ใกล้สวรรค์ที่สุดครับบ้างเสียบไม้ เป็นเหยื่อ นกกาไปก็มี จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:30:04

ความคิดเห็นที่ 77 สัญลักษณ์ของการอยู่ใกล้สวรรค์ที่สุด จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:31:06

ความคิดเห็นที่ 78 ร้านขายของที่ระลึกหน้าวัด วันนี้ดูเงียบเหงา จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:32:22

ความคิดเห็นที่ 79 เราออกจากวัดเมื่อเวลาโพล้เพล้แล้ว ก่อนกลับแวะซื้อหินทิเบตกันเป็นที่ระลึกคนละเล็กคนละน้อย  ที่ใกล้ๆวัดมีร้านขายสร้อยลูกปัดสไตล์ทิเบต แต่ละคนอดไม่ได้ที่จะหอบซื้อกันเป็นกอบเป็นกันเพราะราคาเส้นละห้าสิบบาทเท่านั้นเองเหมาะเป็นของฝากได้อย่างดีทีเดียวครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:38:47

ความคิดเห็นที่ 80 เราออกเดินทางต่อเพื่อไปรับประทานอาหารเย็นที่โรงแรม รถขับผ่านบ้านชนเผ่าพื้นเมือง จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:40:47

ความคิดเห็นที่ 81 หลังคาบ้านชาวทิเบต จะไม่ใช้ตะปูตอกนะครับแต่จะใช้ไม้ใช้ก้อนหินวางทับแบบในรูป จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:42:11

ความคิดเห็นที่ 82 หลังทานอาหารเย็นเสร็จเรามีโปรแกรมไปดูโชว์ที่บ้านชาวทิเบตกันครับ เมื่อไปถึงมีแผนกต้อนรับออกมารอรับเอาผ้าพันคอสีขาวคล้องคอให้นักท่องเที่ยวทุกคน ผ้าพันคอนี้ใครจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกก็ได้หรือจะไว้คล้องคอนักแสดงที่เราพอใจชอบใจก็ได้ครับ ถือเป็นการให้รางวัลให้กำลังใจกัน จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:45:14

ความคิดเห็นที่ 83 จากเมื่อก่อน ไม่เคยอยากจะไปเที่ยวเมืองจีนเลย พอเห็นรีวิวนี้ ก็เริ่มหลงรักซะแล้ว อยากจะไป ลีเจียง ลั่วหยาง บ้าง จากคุณ : Flaminio เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:49:16

ความคิดเห็นที่ 84 ไกด์บอกว่าที่นี่เป็นการแสดงโชว์แบบง่ายๆไม่ใช่โชว์อลังการ ออกเป็นแนว เหมือนว่าเราเป็นแขกไปเยี่ยมเยียนบ้านเค้าแล้วเจ้าของบ้านจัดอาหาร ออกมาต้อนรับมีการร้องรำทำเพลง และให้ผู้มาเยือนได้ร่วมสนุกออกมาเต้นรำร่วมกันด้วย ก้าวแรกที่ก้าวพ้นประตูบ้านลุงก็พบกับเจดีย์ประดับธงทิว กลางบ้านเลย ขนาดของ เจดีย์เป็นสัญลักษณ์บอกถึงความมั่งคั่งของเจ้าของบ้านครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:51:49

ความคิดเห็นที่ 85 Flaminio; ลองสักครั้งครับแล้วอาจหลงรักเมืองจีนเหมือน ผบทบลุงครับ .................................................. บรรยากาศในบ้านอบอุ่นมากครับ มีเสียงปรบมือเสียงโห่ร้องจากนักท่องเที่ยวที่ถูกปลุกเร้าจากพิธีกรคนเก่ง  ใครกระทืบบ้านเค้าพังมีรางวัลให้ครับ ประมาณว่าพิสูจน์ให้เห็นว่าบ้านของเค้าแข็งแรงแน่นหนาขนาดไหน ดูเสาบ้านซิครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:55:24

ความคิดเห็นที่ 86 บ้านไหนจะจัดการแสดงแบบนี้ต้องขออนุญาตจากทางรัฐบาลนะครับรายได้คงแบ่งกับทางรัฐ ผู้แสดงก็คือคนในตระกูลนั้นละแวกนั้นมาช่วยๆกัน จะต้องมีการฝึกเตรียมการอย่างดี  ชาวทิเบตจะมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวที่หาขนเผ่าอื่นเสมอเหมือนคือ ความสามารถในการร้องเพลงและเต้นรำและอะไรอีกอย่างนึงลุงจำไม่ได้แล้วครับ  ผู้หญิงร้องเพลงเสียงสูงมากแหลมปรี๊ดเลยล่ะ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 18:58:45

ความคิดเห็นที่ 87 พ่อหนุ่มคนนี้คงคัดจากคนที่หล่อทีสุดในตระกูล นักร้องนำครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 19:00:06

ความคิดเห็นที่ 88 นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับเครื่องดี่มเป็นนมจามรีต้มอุ่นๆกันให้เห็นจะๆไปเลย แผ่นชีสกลิ่นเหมือนนมบูด มีน้ำตาลกะพริกป่นไว้ให้จิ้ม ลุงไม่กล้าชิมแม้แต่น้อย นักท่องเที่ยวบางกรุ๊ปจะสั่งจามรีย่างมาเลี้ยงกันอันนี้ต้องสั่งล่วงหน้านะครับตัวนึงตกพันหยวนหรือห้าพันบาทประมาณนี้ครับ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 19:03:04

ความคิดเห็นที่ 89 น่ากินหรือน่า อะไรกันแน่ครับเนี่ยยย แต่กรุ๊ปนี้เค้ามีน้ำใจแบ่งปันมาให้กรุ๊ปอื่นชิมดูด้วยพี่คนนึงลองชิมบอกว่าก็เหมือนเนื้อวัวย่างวัวหันนั่นล่ะอร่อยดีว่างั้น จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 19:05:18

ความคิดเห็นที่ 90 สาวทิเบตกำลังรินนมจามรีอุ่นๆต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 19:06:55