ความคิดเห็นที่ 1 สิงห์ผู้ซื่อสัตย์ในหน้าที่   เฝ้าทางเดินเข้านครวัดมานับหลายร้อยปี    โดยไม่ขยับไปไหน   อย่างนี้ต้องให้โล่ลูกจ้างดีเด่น....อิอิอิ... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 09:43:12

ความคิดเห็นที่ 2 ทางเดินข้ามคูน้ำที่ล้อมรอบนครวัดเพื่อไปกำแพงชั้นนอกสุด จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 09:53:28

ความคิดเห็นที่ 3 ไปเที่ยวกลับมาแล้วถึงได้อ่านหนังสืออีกรอบ     ป้าดโธ่... ป้าไม่ได้เดินไปทางด้านขวาของซุ้มกำแพงชั้นนอก   แต่ดันไปทางซ้ายเพื่อเก็บรูปเหล่าอัปสรา     ในหนังสือบอกว่าเมื่อเข้าซุ้มประตูชั้นแรกเข้าไปแล้ว   เลี้ยวไปตามทางเดินด้านขวามือ    จะพบนางอัปสราเผยอยิ้มเห็นฟัน   และเชื่อว่าน่าจะเป็นตนเดียวในนครวัดที่ยิ้มแบบนี้     ไม่เป็นไร..คราวหน้ากลับไปเก็บใหม่เนอะ...     เทวรูปแปดกร  อยู่ทางประตูด้านขวาของปราสาทชั้นนอก จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:08:34

ความคิดเห็นที่ 4 ทางเดินหินขนาดใหญ่หรือเรียกว่าสะพานนาค   เชื่อมระหว่างกำแพงประตูชั้นนอกกับตัวปราสาท      เปรียบเสมือนสะพานสายรุ้งที่ให้เดินข้ามไปเขาพระสุเมรุ  ตามคติความเชื่อของฮินดู ถ้าใครมานครวัดหน้าร้อน   ก็เตรียมตัวไว้ได้เลยค่ะ..   น้ำสองขวดใหญ่ เกลือแร่เต็มพิกัด    ร่มและอุปกรณ์กันแดดทั้งหลาย       ทางเดินที่ปูด้วยศิลายาว 350 เมตร   จับมือกับพระอาทิตย์ยามกลางวัน...  อูยยยย... แค่คิดก็หยดหยอง..   ป้าไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน  โดนสองเด้งทั้งบนและล่าง    หินก็แผ่ความอบอุ่นซ่านเข้าไปถึงหัวใจ...  เกือบสุก... แถมไหม้อีกต่างหาก จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:20:39

ความคิดเห็นที่ 5 ปราสาทชั้นในของนครวัด จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:23:03

ความคิดเห็นที่ 6 รอบผนังปราสาทไม่ว่าชั้นในชั้นนอกของนครวัด   จะมีรูปสลักนางอัปสราอยู่มากมายนับพันตน    แต่ละตนจะมีบุคลิกลักษณะการแต่งกายไม่ซ้ำกันสักตนเดียว จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:27:25

ความคิดเห็นที่ 7 สิงห์โตผอมๆ หน้าประตูทางเข้าด้านซ้ายมือของปราสาทชั้นที่สอง จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:29:56

ความคิดเห็นที่ 8 ทางเดินในซุ้มกำแพงปราสาทชั้นที่สอง  จะมีรูปแกะสลักวิจิตรพิสดาร  เป็นภาพเกี่ยวกับเรื่องของรามยณะตอนพระวิษณุกวนเกษียรสมุทรเพื่อทำน้ำอมฤต    และภาพประวัติศาสตร์ในยุคนั้น  มีเรื่องราวของขุมนรกอเวจีและเมืองสวรรค์ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:38:44

ความคิดเห็นที่ 9 ขออนุญาตปาดครับ.... แอบเดินตามหลังดูอัปสราด้วยคน.... จากคุณ : LVP@HEART เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:40:25

ความคิดเห็นที่ 10 เทคนิคการทำภาพเคลื่อนไหวมีมานานเกือบพันปีแล้วนะเนี่ย... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:40:40

ความคิดเห็นที่ 11 ปาด ก่อนครับ เอาฤกษ์  อิอิ จากคุณ : dodoman เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:40:58

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะ   คุณ LVP@HEART    อดใจรออีกนิดค่ะ  นางฟ้ากำลังแต่งตัวอยู่  เดี๋ยวก็ออกมาอวดโฉมได้แล้ว... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:43:08

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ   คุณ dodoman   เดินชมภาพแกะสลักที่นครวัดด้วยกันนะคะ อัปสราชุมนุม จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:45:05

ความคิดเห็นที่ 14 คาดว่าจะเป็นสาวชาววังกับลูกเล็กเด็กแดง จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:46:21

ความคิดเห็นที่ 15 ทรงผมแปลกๆ ของนางอัปสรา   ไม่สงวนลิขสิทธิ์จ้า... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:47:43

ความคิดเห็นที่ 16 มานั่งหน้าจอ รอชมครับ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 10:48:33 จากคุณ : ส่วนหนึ่งของประเทศไทย เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:48:12

ความคิดเห็นที่ 17 รูปสลักของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2  ผู้สร้างนครวัด จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:50:59

ความคิดเห็นที่ 18 อยากไปชมของจริงสักครั้ง ตอนนี้ขอตามชมหน้าคอมพ์ก่อนนะคะ จากคุณ : bremstrahlung เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 10:55:55

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ   คุณส่วนหนึ่งของประเทศไทย   คุณ bremstrahlung     เดี๋ยวนี้ไปเขมรเมืองเสียมเรียบง่ายมากค่ะ   ป้านั่งรถตู้จากอนุเสาวรีย์ชัยไปลงที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ   ค่ารถก็ประมาณ 270 บาท  แล้วเดินข้ามไปด่านตรวจคนเข้าเมืองเขมร   ปัจจุบันไม่ต้องมีวีซ่าประหยัดไปเยอะ รูปแกะสลักทหารในกองทัพ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:08:26

ความคิดเห็นที่ 20 ตามป้าฟูไปเที่ยวด้วยคน จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:11:34

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อผ่าน ตม. ของเขมรแล้ว   บริเวณทางออกจะมีรถบัสเล็กคอยรับคนไปส่งที่ศูนย์ท่ารถที่อยู่ห่างจากแถวนั้นประมาณหนึ่งกิโลเมตร   ฟรีค่ะไม่ต้องเสียเงิน      ค่ารถบัสไปเสียมเรียบจากชายแดนปอยเปต  9 ยูเอสดอลลาร์  ก็ประมาณสามร้อยบาทค่ะ   นั่งไปสองชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว.... กองทัพเสียมกุก หรือชาวสยาม  ซึ่งเป็นพันธมิตรไปช่วยรบให้เขมรในขณะนั้น    ไม่รู้บรรพบุรุษของป้าอยู่ในนั้นด้วยหรือเปล่าน๊า.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:12:44

ความคิดเห็นที่ 22 สวัสดีค่ะ   คุณตระเวณเที่ยว   วันนี้พาไปตระเวณเขมรค่ะ   หลบรถถังให้ดีนะคะ...อิอิอิ.. จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:15:45

ความคิดเห็นที่ 23 ก่อนหน้าที่ป้าจะไปเขมรไม่กี่วัน  ก็มีข่าวเรื่องรถถังวิ่งกันให้ขวักไขว่แถวชายแดน    ญาติๆ ก็ว่าป้าเพี้ยนไปแล้วที่จะไปเขมรคนเดียวด้วยรถโดยสาร...   แต่ป้าเคยไปเสียมเรียบมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเกือบสามปีก่อน    เชื่อว่าคนเมืองนี้ไม่สนใจอะไรนอกจากการทำมาหากิน   ใครจะรบอะไรเขาไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย       ป้าก็ลุยโลด..... นางอัปสรา จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:22:33

ความคิดเห็นที่ 24 กองทัพสยามดูอ้วนมีเนื้อมีหนังไม่ผอมแบบกองทัพเขานะคะ จากคุณ : ataya เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:24:27

ความคิดเห็นที่ 25 ไปแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ     แต่เพื่อความปลอดภัยเวลาใครถามว่ามาจากไหน   ป้าจะหลีกเลี่ยงไม่ตอบ   แต่ถ้าจวนตัวจริงๆ ก็บอกว่ามาไกล  และพยายามพูดภาษาอังกฤษน้อยที่สุด   เดี๋ยวโดนจับได้... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:28:01

ความคิดเห็นที่ 26 อลังมาก ถ่ายรูปสวยขึ้นเรื่อยๆ เดิอนนี้คุณ ป้าฟูจัดหนัก หลายรีวิวสวยๆทั้งนั้น ขอบคุณที่สุด จากคุณ : จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:33:24

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีค่ะ   คุณ ataya     ของเราอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วค่ะ  จนกระทั่งลูกหลานในปัจจุบัน  เช่นป้าฟูเป็นต้น... อิอิอิ... ในแต่ละวันที่เสียมเรียบป้าเหมารถมอเตอร์ไซด์พ่วงที่เขมรเรียกละเมาะมอโต    แต่ปัจจุบันฝรั่งทั้งหลายที่ไปเที่ยวเรียกว่าตุ๊กตุ๊ก  คงติดปากมาตอนที่แวะเที่ยวประเทศไทยก่อน     ตอนนี้เขมรก็เรียกเหมือนเราไปแล้ว     ป้าเหมาวันละประมาณสิบดอลลาร์ขึ้นไป     คนขับของป้าก็ช่างคุยมาก     ถามโน่นถามนี่ตลอดทาง    ป้าไม่ยอมบอกเขาเลยว่าเป็นคนไทย   ยังไงก็ระวังตัวไว้ก่อนเป็นดี... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:36:39

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีค่ะ   คุณจะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง     จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมาด้วยหรือเปล่าคะ...     ขอบคุณค่ะที่ชม   อะไรๆ ของป้าที่มันพัฒนาก็ต้องยกความดีให้ห้องบลูอย่างเดียวแหละค่ะ     ทำให้ป้าตื่นตัวสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างกระตือรือล้น   เช่น เรื่องคอมพิวเตอร์เป็นต้น   ตำแหน่งเทพีทรงผมแปลกแต่จริง    ได้แก่.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:43:43

ความคิดเห็นที่ 29 แค่ได้เดินถ่ายรูปอัปสราป้าก็เดินได้เป็นวัน     แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งเลย   ต้องกลับไปอีก จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:46:04

ความคิดเห็นที่ 30 ไปเขมรด้วยครับป้าฟู มาเกือบไม่ทัน จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:50:08

ความคิดเห็นที่ 31 ป้าฟู สวัสดีค่ะ ตามป้าฟูไปเที่ยวด้วยจ๊ะ   ------ จากคุณ : ยายแก่สีม่วง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:53:37

ความคิดเห็นที่ 32 แอบเกาะหลังคุณพี่ปร้าฟูไปด้วยคนนะคะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 11:57:08

ความคิดเห็นที่ 33 หลังจากคุยกับคนขับรถตุ๊กตุ๊กมาเป็นวันๆ   ความลับของป้าก็ยังอยู่      เมื่อเที่ยวเสร็จก็ขึ้นรถให้เขาพาไปชมแห่งอื่น     พอนั่งแค่นั้นแหละ...  ไตยแลนด์ๆๆๆๆๆ  แล้วก็ชี้โบ้ชี้เบ้มาที่ป้า...   ห๊า... รู้ได้ไงว่าฉันเป็นคนไทย...  อุตส่าห์ไม่บอกอะไรเลยนะ... โดนจับได้จนจนมุม.... จะโกหกก็ใช่ที    ป้าก็พยักหน้านิดๆ อ้อมๆ แอ้มๆ  เยส..  แล้วก็ไม่รู้ไม่ชี้ เอ..แต่สีหน้าเขาก็ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรนี่นา.. เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว..   รถวิ่งมาสักพัก  เขาก็จอดไปที่ซุ้มหลังหนึ่ง  แล้วก็ชี้มือไปมาระหว่างป้ากับที่นั่น... ปากบอกไตยแลนด์ๆๆๆๆ   อะไรกั๊นนน.. ฉันก็เยสไปแล้ว   จะมาตอกย้ำอะไรฟระ...   กว่าวุ้นแปลภาษาของโดเรมอนจะทำงาน    ป้าก็งงไปหลายนาที     อ๋อ...นี่มันห้องน้ำนี่หว่า...  อิอิอิ...  เขาถามว่าจะเข้าห้องน้ำไหม..  ป้าบอกโอเค  เขาก็พาแวะอยู่นี่ไง...   เพิ่งรู้ว่าสำเนียงคนเขมรเวลาพูดคำว่า toilet  ที่แปลว่าห้องน้ำ  มันจะเหมือนไทยแลนด์อะไรจะขนาดนั้น....5555   หลงตกใจ... คนมากมายรอคิวขึ้นปราสาทชั้นในสุด จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:00:59

ความคิดเห็นที่ 34 ยอดปราสาทชั้นในสุด   ครั้งที่ป้ามาครั้งแรกเมื่อเกือบสามปีก่อนมันปิดซ่อมเสียดายมากที่ไม่ได้ขึ้น    แต่พอเห็นรีวิวในห้องบลูเมื่อไม่นานมานี้ว่าขึ้นได้แล้ว    ป้าก็ไม่กลัวอะไรแล้ว .... รถถังก็ถังเถอะ.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:05:32

ความคิดเห็นที่ 35 สวัสดีค่ะ    คุณม่วงมหากาฬ     คุณยายแก่สีม่วง    คุณน้องกบจูเนียร์      เดินเหนื่อยหน่อยนะคะ    ป้าเดินเที่ยววันหนึ่งประมาณแปดชั่วโมง   เกือบผอมไปเลย... อิอิอิ... บันไดไม้ทำใหม่ อันตรายน้อยกว่าของดั้งเดิมเยอะเลย  แต่ก็ยังชันอยู่มาก   ใครเป็นโรคกลัวความสูงก็คิดหนักหน่อยเด้อ...   อีตอนป้ารอคิวขึ้นบันไดก็มีหนุ่มๆ สาวๆ กลุ่มหนึ่งอาจจะเป็นพวกจีนหรือเกาหลี      พยายามแซงป้าไปยืนข้างหน้า..ชิชิ...  โดนป้าสะกิดซะจ๋อยไปเลย...   ป้าก็เป็นโรคกลัวความสูงบ้างเหมือนกัน    ต้องค่อยๆ ไต่ขึ้นไปอย่างช้ามากกกก...   จับราวไว้แน่นกลัวตกอ่ะ...    ทำให้คนข้างหลังต้องช้าไปด้วย    ป้าจะอ้าปากบอกให้เขาแซงไปก่อนก็ไม่มีแรงพูด      พวกเด็กๆ ไม่มีใครกล้าแซงได้แต่แอบบ่นให้ได้ยินแว่วๆ ....  อิอิอิ...โสมมน้ำหน้าตัวเอง  โดนเด็กด่า... ในที่สุดก็ถึงจนได้...เย้...  โห..แล้วตูจะเดินลงยังไงฟระ... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:18:12

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นยี่ห้อป้าฟู รีบตามมาดูโดยพลัน 55555 เรื่องรถถัง ผมว่าชาวบ้านเขาไม่ใด้สนใจหรอกครับ ทหารก็คือทหาร ผู้นำประเทศผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่นครวัดยังอยู่ชั่วนิรันดร์ เกี่ยวอะไรกันไหมนี่ ? ตามป้าฟูไปชมนครวัดดีกว่า จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:20:20

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบ จากคุณ : TheFootball เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:29:25

ความคิดเห็นที่ 38 สวัสดีค่ะ   คุณ owl2        คุณ TheFootball     ไปเขมรคนเดียวไม่ค่อยมีเรื่องอะไรมาเล่าค่ะ  เพราะทุกอย่างเรียบร้อยไปหมด... แอบเซ็งนะเนี่ย   ไม่ได้ตื่นเต้นเลย....   ชั้นบนสุดของปราสาทชั้นใน จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:45:40

ความคิดเห็นที่ 39 ใครอย่ารอให้แก่แล้วค่อยไปเที่ยวนครวัดนะคะ   บันไดเยอะมากขอบอก..  เดินขึ้นลงปีนโน่นป่ายนี่ทั้งวัน จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:47:25

ความคิดเห็นที่ 40 นางฟ้ากำลังส่องกระจก (มั๊ง) จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:48:24

ความคิดเห็นที่ 41 อัปสรา... ช่างแกะได้อย่างอ่อนช้อยจริงๆ อย่างไม่น่าเชื่อ   คนเกือบพันปีก่อนทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ... แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 19:28:04 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:50:33

ความคิดเห็นที่ 42 . จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:52:31

ความคิดเห็นที่ 43 อาชีพทำเงิน     ตามจุดต่างๆ ก็มักจะมีคนแก่หรือเด็ก  เอาถุงขยะใบใหญ่ๆ มารอรับขวดน้ำเปล่าๆ ของนักท่องเที่ยว     แป๊ปเดียวก็ล้นถุงแล้ว... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 12:55:15

ความคิดเห็นที่ 44 บ่ายโมงแล้วพักทานกลางวันยังคะ เป็นห่วงนะคะปร้า จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:06:28

ความคิดเห็นที่ 45 เบื่อนครวัดแล้ว  ไปเที่ยวนครธมกันดีกว่าค่ะ... นครวัดถือว่าเป็นเทวาลัยสำหรับทำพิธีบูชาเทพเจ้า  และเป็นสุสานของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2   เท่านั้น     แต่นครธมเป็นทุกอย่างตั้งแต่พระราชวังสำหรับพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ และพระสนมนางในทั้งหลายได้อาศัยอยู่   เป็นศูนย์กลางบัญชาการของอาณาจักรเขมร นครธมเป็นพระนครหลวง    มีประตูเมืองห้าประตู  กำแพงเมืองยาวด้านละ 12 กิโลเมตร    และศูนย์กลางของนครธมก็คือปราสาทบายนที่มีรูปสลักหินใบหน้าของพระอวโลกิเตศวรอันมหึมา จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:08:40

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณค่ะคุณกบ   แต่เวลาที่บ้านป้าตีสองแล้วค่ะ  หมดเวลาหม่ำมานานแล้ว   กำลังลดหุ่นอย่างขมักเขม้น... กลับเมืองไทยทีไรเสื้อผ้าคับหมดทุกที.. ขี้เกียจไปเดินซื้อใหม่น่ะค่ะ  เอาเวลามาทำรีวิวมันส์กว่าเยอะ...อิอิอิ... ประตูเมืองของนครธม จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:13:36

ความคิดเห็นที่ 47 ปราสาทบายนมีสามชั้น   สร้างด้วยหินทรายและศิลาแลง จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:18:59

ความคิดเห็นที่ 48 แรกเริ่ม..ปราสาทบายนสร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวสถานตามศาสนาพราหมณ์    แต่ได้เปลี่ยนเป็นพุทธปรางค์เสียก่อนที่จะสร้างสำเร็จ    ตามความเชื่อของกษัตริย์ที่เปลี่ยนไปในขณะนั้น    ร่องรอยการต่อสู้ระหว่างสองศาสนานี้มีให้เห็นอยู่ทั่วไป     เมื่อเปลี่ยนแผ่นดินถ้าคนใหม่นับถือพราหมณ์ก็จะให้ทำลายรูปสลักพระโพธิสัตว์ลงไป  และเอาศิวลึงค์เข้ามาแทนที่       ชุดไทยหรือชุดเขมรนะเนี่ย..  ไม่รู้ใครลอกใคร     จัดให้สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ     แต่คงไม่ค่อยได้เงินคนไทย...  ที่บ้านข้อยก็มีนี่นา.... แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 21:28:08 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:24:08

ความคิดเห็นที่ 49 บายนเป็นปราสาทขนาดเล็กถ้าเทียบกับนครวัด   พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นคนสร้าง   เชื่อกันว่าใบหน้าของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรที่ส่งยิ้มแข่งกับโมนาลิซ่ามาเนิ่นนาน   คือใบหน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั่นเอง   เมื่อเราได้ขึ้นไปถึงระเบียงชั้นสาม    สุดบรรยาย... มองไปทางไหนก็เจอแต่รอยยิ้มมหึมาส่งมาให้รายรอบตัวเราในระยะประชิด     มุมมหาชน   ใครไม่ถ่ายไม่ถึง... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:29:18

ความคิดเห็นที่ 50 พระเจ้าชัยวรมันที่ 7  นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน   ต่างจากกษัตริย์องค์อื่นๆ ก่อนหน้าที่นับถือพราหมณ์    ดังนั้นปราสาทบายนจึงเป็นพุทธสถาน จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:36:51

ความคิดเห็นที่ 51 คนเขมรโบราณที่ต้องลำบากอย่างแสนสาหัส  เพราะถูกเกณฑ์มาสร้างปราสาทหินมากมาย      ถ้าพวกเขารับรู้ได้คงจะดีใจ   ที่อย่างน้อยลูกหลานของเขาในปัจจุบันมีคลังมหาสมบัติ   ที่กินเท่าไรก็ไม่หมด   จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลกันเข้ามาเสียมเรียบ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:41:20

ความคิดเห็นที่ 52 ยอดปราสาทองค์กลางสุดของบายน   สถานที่อันโปรดปรานของป้า   นั่งได้เป็นชั่วโมง  แค่ดูนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เดินไปเดินมาก็เพลินจะแย่ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:55:15

ความคิดเห็นที่ 53 ยิ้มนี้...โมนาลิซ่าก็ไม่สู้นะเนี่ย จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:56:16

ความคิดเห็นที่ 54 ". แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 09:48:13 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 13:57:28

ความคิดเห็นที่ 55 ตากล้องหลายคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ป้า  ตะโกนขึ้นไปขออนุญาตหนุ่มสาวคู่นี้เพื่อจะถ่ายรูปเขา       ป้าก็เลยเอาด้วย..  คนเกือบสิบคนรุมถ่าย   นายแบบก็ปลาบปลื้มยกกล้องมาเก็บช่างภาพบ้าง แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าแต่งตัวสไตน์โบฮิเมียน นั่งพักเหนื่อย... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:01:49

ความคิดเห็นที่ 56 ต้นไม้สวยๆ ในนครธม   รูปนี้ถ่ายตอนไปครั้งแรกในฤดูฝน (แต่ร้อนอิ๋บ)     ที่บ้านป้าตีสามกว่าแล้ว    พรุ่งนี้จะมาต่อนะคะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 14:13:04

ความคิดเห็นที่ 57 ตามป้าฟูมารำลึกถึงความหลังที่เสียมเรียบ เคยไปมา 2-3 ปีแล้ว ดูจากในภาพไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเลยนะคะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:25:46

ความคิดเห็นที่ 58 เข้ามายามป้าหนีไปนอนอีกแล้ว นี่อะนะ ดวงรีวิวเราไม่แมตช์กันเนอะปร้าฟู วันก่อนผมรีวิวป้าก็แวบออกไปข้างนอก พอวันนี้ป้ารีวิวผมก็พาที่บ้านออกไปกินข้าวเที่ยง กลับมาอีกทีปร้าก็หนีไปนอนซะแล้ว สรุปเราจะได้เจอกันตอนถ่ายทอดสดบ้างไหม 555+ ครั้งก่อนพาไปดูส้วมพม่า ก็ไม่เคยไป แต่ครั้งนี้อยากบอกว่าผมเคยไปแล้วล่ะ ประเทศเขมรอะรัยเนี่ย ก็นั่งรถไปตลาดโรงเกลือแล้วข้ามแดนไปปอยเปต ก็เรียกว่าเขมรแล้วครับ อิอิ พอดีโดนเพื่อนหลอกให้ไปทัวร์คาสิโน ส่วน real cambodia จริงๆก็สารภาพว่ายังไม่เคยไปเหมือนเดิม อิอิ ให้ป้าพาเที่ยวเหมือนเคยละกัน ว่าแต่นางอัปสรา จะสวยสู้อาภัสราอย่างปร้าฟูได้มะ อิอิ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 15:57:33

ความคิดเห็นที่ 59 ป้าครับ แล้ว ไม่มีรูป โตนเลสาบ บ้างหรือครับ จากคุณ : เด็กอู่ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 17:39:20 A:223.204.222.131 X: TicketID:213619

ความคิดเห็นที่ 60 ไปด้วยคนครับ จากคุณ : runggame เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 18:18:44

ความคิดเห็นที่ 61 สวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 18:24:41

ความคิดเห็นที่ 62 อยากไปที่นี่มั่ง สักวัน ขอบคุณรีวิวป้าฟูที่มาจุดประกายความอยากเที่ยวให้นะคะ ^_^ จากคุณ : ใสบัว เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 19:55:22

ความคิดเห็นที่ 63 สนุกตื่นเต้น คุ้มค่ากับที่รอรีวิวนี้นานเลยครับป้าฟู   แต่ข้องใจว่าหน้าตาป้าฟูออกจะไทยแท้แต่โบราณขนาดนี้  จะให้เดาว่าเป็นเชื้อชาติใดได้อีกฤา จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 20:21:43

ความคิดเห็นที่ 64 แวะมาชมครับ ตามไปเที่ยวนครวัดด้วยคน ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 21:20:33

ความคิดเห็นที่ 65 สวัสดีค่ะ         คุณ Memories pink     คุณ Coffee Blended     คุณเด็กอู่        คุณ runggame       คุณเล็กทาโร่       คุณ tiger's nest      คุณใสบัว     คุณกัปตันลูกชุบ       ไปเที่ยวกันต่อค่ะ คุณเด็กอู่  ป้าไม่ได้ไปโตนเลสาป   แปะไว้คราวหน้านะคะจะไปให้ถึงสักที 5555... คุณเสือ  ป้าอยู่เมืองนอกเกือบยี่สิบปี    ไม่เคยมีคนแปลกหน้าทักว่าเป็นคนไทยเลยค่ะ    ส่วนมากพวกแม็กซิกันจะพ่นสแปนิชใส่  เพราะนึกว่าเป็นพวกเดียวกัน       คนไทยที่เจอยังไม่เชื่อว่าชาติเดียวกันถ้าป้าไม่พูด...  แค่ไปวัดพระแก้วก็ไม่มีใครพูดไทยกับป้าแล้ว...อิอิอิ...  เนียนค่ะเนียน.. วิวที่มองลงไปจาก Elephant Terrace     (รูปจากทริปครั้งแรกที่ไปเที่ยวเขมร) จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 21:57:25

ความคิดเห็นที่ 66 บันไดแสนชันที่นครธม จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 21:59:42

ความคิดเห็นที่ 67 . จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 22:01:38

ความคิดเห็นที่ 68 อยากไปเที่ยวเหมือนกันแหละป้า  แต่รอให้บักฮุน เซน  มันหมดอำนาจก่อน   เดี๋ยวมันจับคนไทยขังอีก จากคุณ : ไม้สลัดใบ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 22:03:43

ความคิดเห็นที่ 69 สวัสดีค่ะ   คุณไม้สลัดใบ     ป้าว่าบักฮุนไม่กล้ามาแตะต้องนักท่องเที่ยวที่เสียมเรียบหรอกค่ะ     พวกฝรั่งขี้กลัวกันมาก  ถ้ามีข่าวอะไรนิดหน่อยเขาก็ไม่กล้ามากัน       เขมรมีขุมมหาสมบัติเพียงแห่งเดียวเท่านั้น   ทรัพยากรอื่นๆ ก็ไม่เห็นค่อยจะมี     ใกล้ๆ กับปราสาทบายนในเขตนครธม   จะมีปราสาท บา-ปวน   ขณะนี้กำลังซ่อมแซมอยู่ดูได้แต่ประตูชั้นนอก       ไม่ได้เอาคู่มือท่องเที่ยวไปเพราะมันหนัก    จริงๆ คิดว่ามันเป็นพระที่นั่งพิมานอากาศ  แต่ไม่มีหนังสือนำทางก็เจอแต่ บา-ปวน แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 54 23:42:10 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 22:48:06

ความคิดเห็นที่ 70 ถัดจากปราสาท บา-ปวนก็เป็นลานช้างหรือ Elephant Terrace   มีรูปแกะสลักที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมายไปหมด จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 22:50:57

ความคิดเห็นที่ 71 กลับมาอ่านหนังสือที่บ้าน  โธ่เอ๋ย...พระที่นั่งพิมานอากาศก็อยู่แถวนั้นแหละ  อดดูเลย...  อยากไปเห็นสถานที่ในตำนานที่เขาบอกว่ากษัตริย์ต้องไปกุ๊กกิ๊กับนางนาคทุกคืนที่นั่น...อิอิอิ... จากบันทึกของโจวต้ากวาน หนึ่งในคณะราชฑูตจากเมืองจีนที่ได้ไปอยู่นครธมสมัยพระเจ้าศรินทรวรมัน  (หลังสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ลงมาสองรัชกาล)    กว่าหนึ่งปีในเขมรเขาได้บันทึกชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้นไว้อย่างมากมาย จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 23:02:07

ความคิดเห็นที่ 72 โจวต้ากวานเล่าว่าตัวพระราชวังสร้างด้วยไม้มุงหลังคาด้วยกระเบื้อง   อยู่ติดกับพระที่นั่งพิมานอากาศ... ฮึ่ม..สงสัยจริงกว่าทำไม...   เขาได้บรรยายถึงประเพณีแปลกๆ หลายอย่าง   บางเรื่องก็เป็นที่น่ารังเกียจในสายตาของคนจีนแบบเขา  เช่น...   อิอิ...ไปหาอ่านเอาเองค่ะ  ไม่กล้าเล่า โจวต้ากวานเชื่อว่าคนเขมรเจ็บไข้บ่อยๆ เป็นเพราะชอบอาบน้ำและสระผมกันมากเกินไป  จึงทำให้เป็นโรคเรื้อน...   สมัยนั้นโรคนี้แพร่หลายกันมาก  ครั้งหนึ่งก็เคยมีพระเจ้าแผ่นดินเป็นโรคเรื้อน    (นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะเป็นพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ผู้สร้างนครธม) ส่วนหนึ่งในรูปแกะสลักช้างที่  Elephant Terrace จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 23:32:40

ความคิดเห็นที่ 73 ตามป้าฟูไปบุกเขมรด้วยนะครับ จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 23:36:02

ความคิดเห็นที่ 74 ฮึ่มมม... ใครเห็นเหมือนอย่างที่ป้าเห็นหรือเปล่าคะ..  ช้างมันกำลังทำไรอ่ะ..   มันอึไปด้วยทำงานไปด้วยหรือเปล่า    ตัวอื่นๆ ก็ไม่เห็นมีแบบนี้นะ...  แหม... ศิลปินสมัยก่อนก็ถ่ายทอดชีวิตจริงสุดฤทธิ์ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 54 23:36:35

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีค่ะ  คุณ Palm Jung Won    นอนดึกจังนะคะ     หนังสือบันทึกของโจวต้ากวานก็มีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว  โดย เฉลิม  ยงบุญเกิด   ในชื่อเรื่อง บันทึกว่าด้วยขนบธรรมเนียมประเพณีของเจินละ       เป็นหนังสือหายากเพราะพิมพ์มาหลายปีแล้ว    ป้าอยากอ่านใจจะขาดแต่หาไม่ได้   ใครมีเบาะแสแจ้งป้าด้วยนะคะ  จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง... อิอิอิ... หลังจากโจวต้ากวานกลับไปเมืองจีนประมาณแปดสิบปี   อาณาจักรขอมก็ล่มสลายไปชั่วนิรันดร์     สาเหตุแห่งความหายนะมีหลายอย่าง  เช่น ความขัดแย้งระหว่างพุทธกับพราหมณ์ที่กรุ่นมาเนิ่นนาน   ก็ได้ปะทุขึ้นมาในช่วงนั้น       ประชาชนอ่อนล้าจากการถูกเกณฑ์มาสร้างปราสาทหินต่อเนื่องกันมานับร้อยปีจนสุดจะทานทนต่อไปได้      เกิดภัยธรรมชาติน้ำท่วมใหญ่ทำให้เศรษฐกิจเสียหาย และฟางเส้นสุดท้ายคือ  การรุกรานของกองทัพกรุงศรีอยุธยา  ที่มาทำลายเมืองเขมรจนย่อยยับ   และขนสมบัติต่างๆ ไปไว้ที่อยุธยา   จนบุเรงนองมารบชนะไทยก็ขนต่อนำไปเก็บไว้ที่พม่าจนถึงปัจจุบันนี้ ลานช้างในนครธม จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 00:07:05

ความคิดเห็นที่ 76 รู้ว่ายังรีวิวไม่จบหรอก มาป้วนๆเปี้ยนๆเป็นระยะๆ อิอิ ป้าฟูยังเรี่ยวแรงดีอยุ่เนอะ เพราะที่นี่ปีนป่ายเยอะเหมือนกันนะครับ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 01:04:07

ความคิดเห็นที่ 77 ป้าฟูสวัสดีตอนดึกๆค่ะ   หนุชอบรีวิวของคุณป้าจริงๆเลย  ทั้งรูป รายละเอียดของแต่ละทริปชัดเจน สนุก และจุใจมาก  ขอบคุณนะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 01:16:43

ความคิดเห็นที่ 78 รูปแกะสลักตามผนังกำแพงถ่ายทอดวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้นให้คนรุ่นหลังได้เห็นเป็นอย่างดี    ยิ่งถ้าได้อ่านหนังสือบันทึกของโจวต้ากวานประกอบ   ก็ดูเหมือนทั้งเมืองจะตื่นจากหลับไหล   ลุกขึ้นมาโลดแล่นให้เราได้ชม จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 01:35:45

ความคิดเห็นที่ 79 สวัสดียามดึกที่โน่นค่ะ   คุณกาแฟ  คุณสาวหน้าใส     รีวิวเขมรใช้เวลามากกกกกก... เพราะป้าต้องอ่านหนังสือประกอบไปด้วยกลัวเขียนผิด    ข้างๆ ตัวป้ามีหนังสือ  ถกเขมร ของ คึกฤทธิ์   ตำนานนครวัด ของ จิตร ภูมิศักดิ์     คู่มือนำเที่ยวนครวัดนครธม ของ ยอด เนตรสุวรรณ กับ ศรัณย์  บุญประเสริฐ     บวกด้วยคู่มือนำเที่ยวภาษาอังกฤษอีกสองเล่มใหญ่....  แถมค้นกูเกิ้ลอีก... เฮ้อ....   เมื่อกี้ก็แวบไปหม่ำผักมาค่ะ...อิอิอิ...  เติมพลัง   ตอนนี้ก็กลายเป็นซุปเปอร์เต่าไปแล้ว.... ป้าจะแรงดีเวลาไปเที่ยวค่ะ   ถึงไหนถึงกัน  เพื่อนที่ไปด้วยร้องจ๊ากกันไปซะทุกคน   ให้ฉายาป้าว่า... ควายถึก     ก็คนมันอยากรู้อยากเห็นนี่เนอะ   ไม่ออกแรงก็ไม่เห็นไรจิ... กำแพงในบริเวณลานพระเจ้าขี้เรื้อนซึ่งอยู่ติดกับลานช้าง   มีทางลัดเลาะซอกซอนให้เราเดินชมรูปแกะสลัก   ทางแคบสุดๆ คิดถึงเลนส์มุมกว้างจริงๆ   ถ่ายรูปลำบากมั่กก... . แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 09:57:54 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 03:16:52 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 01:47:12

ความคิดเห็นที่ 80 โจวต้ากวานบรรยายลักษณะรูปพรรณสัณฐานของคนขอมทั่วไปว่าหยาบและดำ   จะมีก็แต่ในพระราชวังและตามบ้านขุนนางเท่านั้น   ที่จะมีผู้หญิงสวยผิวขาวราวกับหยก ( เอ..แต่หยกมันสีเขียวมิใช่หรือ..)       ทุกคนตั้งแต่พระเจ้าแผ่นดินลงมา  จะมุ่นมวยผมและเปลือยไหล่  อย่างดีที่สุดก็เอาผ้าเคียนพุงไว้เท่านั้นเอง   ผู้หญิงก็เปลือยอกอยู่กับบ้าน  ต่อเมื่อจะออกนอกบ้านก็จะเอาผ้าแถบมาห่ม       จากหลักฐานรูปแกะสลักหลายแห่ง..ผู้ชายเขมรสมัยก่อน.. ลงพุงเหมือนกันแฮะ... อิอิอิ... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 01:57:57

ความคิดเห็นที่ 81 หวัดดีครับ บรรยายสนุกดีจังเลย รอดูต่อครับ ................... ปล.ส่งนางอัปสรเข้าประกวดด้วยคน..อิอิ จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:00:31

ความคิดเห็นที่ 82 วิถีชีวิตของชาวขอมที่โจวต้ากวานได้สัมผัส   เต็มไปด้วยความฟุ่มเฟือย   มีงานฉลองกันทุกเดือนไป   ยามมีงานก็จะเต็มไปด้วยเสียงกลองมโหระทึก  เสียงร้องรำทำเพลงเสียงหัวเราะของผู้หญิง   ความสมบูรณ์พูนสุขของอาณาจักรขอมมาจากสิ่งเล็กๆ ที่ไม่น่ามีราคา    ขอมติดต่อค้าขายกับชาวจีน   ได้สั่งซื้อสินค้าพวกผ้าแพรพรรณและภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ     โดยได้ส่งสินค้าแลกเปลี่ยนคืนไปให้จีนเป็น ขนปีกนกกินปลาชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง เพราะชาวจีนยุคนั้นนิยมใช้ขนนกชนิดนี้ซึ่งมีสีเขียวแกมฟ้าสดเป็นเงางาม   ทำเครื่องประดับในรูปกระบังหน้าสำหรับให้สตรีใส่      จึงอาจจะถือได้ว่าอารยธรรมเขมรสมัยนั้นมีขนปีกนกกินปลาเป็นเครื่องค้ำจุนอันสำคัญก็ว่าได้   ประติมากรรมรูปม้าห้าหัวอันโด่งดัง     ไม่พบการแกะสลักแบบนี้ในที่อื่น  และนักประวัติศาสตร์ยังไม่มีใครค้นพบความหมายของมันว่าคืออะไร แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 02:41:00 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:12:18

ความคิดเห็นที่ 83 ป้าฟูจ๋า และคุณ ตุ้บตั้บ หนูลิลี่ยังอยู่ดูรีวิวเป็นเพื่อนเรื่อยๆนะคะ คุยโทรศัพท์ไปด้วย ตาก็มองรูป มือก็คอยรรีเฟชกระทู้ ถ้าเงียบเสียงไปก็คือหลับค่ะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:16:33

ความคิดเห็นที่ 84 สวัสดีค่ะ   คุณตุ้บตั้บ     ไปถ่ายรูปอัปสราจากตรงไหนคะ   ป้ายังไม่เคยเห็นเลยเพราะยังเดินไม่ทั่ว    ตั้งใจว่าจะเก็บให้ครบทุกตนในนครวัด   สงสัยต้องไปอยู่เป็นอาทิตย์... วัวเทียมเกวียน... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:18:22

ความคิดเห็นที่ 85 เรียน ป้าฟู ด้านหลังกำแพงนครเลยละจ้า สงสัยเป็นผนังเทสต์ฝีมือช่างใหม่ ๕๕๕ ป้าฟูดูละเอียดจังเลยอะ คารวะเหล้าโตนดประจำชาติเขมรหนึ่งจอกครับ :-) หวัดดี สาวหน้าใสด้วยคนครับ จากคุณ : ตุ้บตั้บ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:22:51

ความคิดเห็นที่ 86 ไต่ขึ้นไต่ลงบันไดเป็นว่าเล่น    เห็นในรูปไม่น่ากลัว   แต่ของจริงมีเสียว... ทางเดินลงไปด้านล่างมีลักษณะคล้ายเขาวงกต  จึงเรียกว่า hidden wall   ข้างล่างนั้นจะมีรูปสลักม้าห้าหัว แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 54 02:38:56 จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:34:14

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณคุณตุ้บตั้บกับคุณสาวหน้าใสนะคะ   ป้าช้าหน่อย... แก่แล้วก็เงี้ย..อิอิอิ.. ป้าชอบศึกษาของโบราณ..  น่าจะไปเป็นนักโบราณคดีไปซะเลยเนอะ...  เลยต้องดูละเอียดนิดหนึ่งค่ะ บริเวณนี้น่าจะเรียกว่า ลานพระเจ้าขี้เรื้อน  แต่ป้าไม่แน่ใจต้องได้รับการยืนยันจากผู้รู้อีกที    ชื่อลานแห่งนี้มาจากการที่เดิมเคยมีรูปสลักหินลอยตัวรูปคนชันเข่า  มีไลเคนและเชื้อราจับเนื้อหินทรายเป็นด่างดวงเต็มไปทั่ว   ชาวเขมรเห็นเหมือนกับคนเป็นโรคเรื้อน ซึ่งสอดคล้องกับตำนานเก่าแก่ที่กล่าวถึงกษัตริย์องค์หนึ่ง   ที่ได้หลับนอนกับนางนาคแล้วฆ่านางนาคตาย    แหม..เหมือนแมงมุมพ่อม่ายดำเชียว...     เลือดของนางนาคกระเซ็นต้องพระวรกายของกษัตริย์   ทำให้พระองค์เป็นโรคเรื้อน ปัจจุบันทางการได้เอาประติมากรรมของจริงเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในกรุงพนมเปญ   และทำรูปจำลองไว้ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 02:52:13

ความคิดเห็นที่ 88 ลานพระราชวัง  ลานช้าง  และลานพระเจ้าขี้เรื้อน   ทั้งสามแห่งเป็นลานที่อยู่ต่อเนื่องกัน  ที่สนามหน้าจักรวรรดิหรือพระราชลานนครธม    สันนิษฐานว่าเป็นสนามที่ใช้ในพระราชพิธีต่างๆ เช่นเดียวกับสนามหลวงบ้านเรา   ลานทั้งสามจึงน่าจะเป็นที่สำหรับให้กษัตริย์ ราชวงศ์ และขุนนาง เหล่าพราหมณ์ทั้งหลาย  นั่งชมพระราชพิธี   เนื่องจากพลับพลายกขึ้นสูงจากดินถึงสามเมตร แต่ปัจจุบันสนามหลวงเขมรดูเหมือนจะจัดไว้ให้เป็นที่จอดรถ   แทนงานพระราชพิธี จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 03:01:24

ความคิดเห็นที่ 89 ไปเดินที่นครธมทั้งวันยังดูไม่ทั่วเลยค่ะ    โอกาสหน้าต้องไปอีก   คราวหน้าต้องพกตำราไปด้วยจะได้มันส์กว่านี้...     พนักงานดูแลความสะอาดของนครธมต้องใส่เครื่องแบบสีฟ้าทุกคน     กำลังปั่นจักรยานกลับบ้านเป็นทิวแถว จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 03:09:22

ความคิดเห็นที่ 90 ป้าฟูจ๋า ไม่แก่สะหน่อยน๊า หนูยังทำรีวิวและถ่ายรูปสวยแจ่มแบบป้าไม่ได้เลยค่ะ จริงๆนะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 03:09:30