|
ความคิดเห็นที่ 70 |
|
ณ.ที่แห่งนี้.. มีประวัติสืบต่อเนื่องกันมายาวนานนนนน... คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า..พากันมาอยู่ที่นี่.. ขัดแย้งกัน...เข่นฆ่ากัน
บุนมี เทบสีเมือง นัก ค้นคว้าประวัติศาสตร์ สปป.ลาว กล่าวถึงเรื่องไหหิน คือประเพณีการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับการฝังกระดูก (ฝังศพคนตายครั้งที่สอง) ในอดีตกาลเมื่อประมาณ 2,500 ปี หรือมากกว่านั้น (หนังสือ ความเป็นมาของชนชาติ ลาว การตั้งถิ่นฐานและสถาปนาอาณาจักร เล่ม 1 ไผท ภูธา แปล)
นักค้นคว้าประวัติศาสตร์ท่านนี้ ได้ขยายความต่อจากถิ่นกำเนิดของชนชาติลาว เชื่อว่า มนุษย์โบราณได้เคลื่อนย้าย จากสายภูเลย (ถ้ำภูเลย Phou Leuy แขวงหัวพัน) มาตั้งถิ่นฐานตามสายภูต่างๆ รอบๆ ทุ่งภูเพียงเชียงขวางนี้มานานนับหมื่นปี แล้วจึงเคลื่อนย้ายจากเขตภูดอยออกมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในเขตที่ราบ โดยเฉพาะในเขตทุ่งภูเพียงเชียงขวาง (Xiengkhuang Plateau) เป็นเวลาหลายพันปีมาแล้ว
คนลาวโบราณ ที่ย้ายจากเขตภูดอยลงมาตั้งถิ่นฐานถาวรอยู่ในเขตทุ่งเพียงหรือพื้นที่ราบ ได้เปลี่ยนแปลงแบบ, วิธีการทำพิธีกรรมเกี่ยวกับการฝังศพ (ฝังกระดูก) คนตาย
จากการสร้างเสาหินตั้งแบบใช้แท่งหิน ธรรมชาติ มาเป็นสร้างไหหินด้วยการขุดเจาะ ตัดเอาก้อนหินธรรมชาติขนาดใหญ่จากภูเขา มาประดิษฐ์สร้างเป็นไหหินขนาดใหญ่ เพื่อบรรจุเครื่องสังเวยหรือสิ่งของท่านอุทิศ ส่งไปให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ
ประเพณีการสร้างไหหินดังกล่าว เป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าของคนลาว โบราณในยุคโลหะ ที่รู้จักวิธีการประดิษฐ์เครื่องมือจากโลหะ โดยเฉพาะโลหะที่เป็นเหล็ก
เมื่อประมาณ 3,000 ปีมานี้ เพื่อใช้ขุดเจาะตัดหินธรรมชาติ ประดิษฐ์สร้างให้เป็นไหหินขนาดใหญ่และมีความงดงาม
ไหหินที่ทุ่งไหหิน แขวงเชียงขวาง บางลูกมีความสูงมากกว่า 3 เมตร บางลูกมีน้ำหนักมากกว่า 15 ตัน
สถานที่ขุดเจาะเอาหินมาประดิษฐ์สร้างเป็นไหหินนั้น อยู่ห่างไกลจากที่ตั้งไหหิน ซึ่งเป็นสถานที่ประ กอบพิธีฝังศพ ประมาณ 5 10 กิโลเมตร ระยะทางจะใกล้หรือไกลนั้น ขึ้นอยู่กับจุดที่ตั้งของสายภูหินทรายและสถานที่ประกอบพิธีกรรมฝังศพ
นักค้นคว้าท่านนี้ ชี้ให้เห็นไหหินจำนวนมากมาย จากการสำรวจข้อมูลเบื้องต้น ทำให้ทราบว่า ทั่วทุ่งภูเพียงเชียงขวางหรือตามที่รู้จักกันว่า ทุ่งไหหิน นั้น มีไหหินอยู่ประมาณ 60 จุด คาดคะเนจำนวนไหหินรวมทั้ง หมดคิดว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ลูก
ระยะที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจขุดค้นศึกษาเกี่ยวกับหลุมฝังศพบริเวณทุ่งไหหินมาแล้วหลายครั้ง เช่น มาเดอแลน โกลานี (Madeleine Colani) ในทศวรรษที่ 1930
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 และต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 นี้ ก็ได้มีการสำรวจเพิ่มเติมอีก โดยนักสำรวจหลายคณะ เช่น นิตตา เออิจิ (Nitta Eiji) ปี ค.ศ. 1996 ทองสา ไชยะวงศ์คำดี ปี ค.ศ. 1998
และล่าสุดคือ โครงการลาว ยูเนสโก เพื่อปกปักรักษามรดกทุ่งไหหิน โดย Assessment Ltd. เป็นผู้ดำเนินการสำรวจและเสนอรายงานในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2004
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=grizzlybear&month=07-2010&date=20&group=82&gblog=35
จากคุณ |
:
uncle@toms_pt
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ม.ค. 54 18:26:36
|
|
|
|
|