ความคิดเห็นที่ 1 ตามมาดูตอน 2 ด้วยคนนะคะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 15:41:28

ความคิดเห็นที่ 2 ตามไปเข้าอุโมงค์ด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 15:45:06

ความคิดเห็นที่ 3 ในตอนนี้ เรายังอยู่ที่ในเมือง พิษณุโลกนะครับ หลังจากเช็คเอาท์โรงแรมสมัยนิยมแล้ว ก็ขับรถตรงไปยัง "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร" หรือที่นิยมเรียกสั้นๆว่า วัดใหญ่ ที่มีองค์พระพุทธชินราช ที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน  หลายคนที่มาแถวนี้ ต้องไม่พลาดที่จะแวะมานมัสการ ท่าน ซึ่งไม่นานมานี้ ทางวัดได้มีการบูรณะครั้งใหญ่ ถึงกับลอกสีองค์ท่านจนเหลือสีดำเลย  จนแล้วเสร็จ งดงามกลับมาให้เราได้ชมกัน ผมจึงไม่พลาดที่จะเข้าไป เก็บภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันครับ จากแผนที่ข้างล่างนี้ ผมใช้ถนนจากหน้า โรงแรมสมัยนิยม ตรงไป ผ่านวงเวียนหน้า สถานีรถไฟ ตรงไปลอดใต้สะพานรถข้าม (ถนนใหญ่) ตรงนั้นให้ระวังนิดนึง เพราะพลาดมาแล้ว คือ เมื่อลอดใต้สะพานมาแล้ว จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวา เลย แล้วจะถึงด้านหลังวัดทันที  (ผมเผลอไปเลี้ยวซ้าย เพราะคิดว่าเป็นทางเดินรถทางเดียว เลยยาว ต้องไปหาทางกลับมาอีกไกล) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 15:53:05

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีครับ คุณกบจูเนียร์  และคุณเล็กทาโร่: เชิญติดตามมาได้เลยครับ แต่ถึงอย่างไรขอพาไปไหว้พระก่อนนะครับ สืบเนื่องจาก ตอนที่แล้วมีการพูดถึง เมืองสองแควเก่า ซึ่ง เคยตั้งอยู่แถวๆ วัดจุฬามณี ตามตำแหน่งในแผนที่แสดงข้างบนครับ และแม่น้ำแควน้อยในปัจจุบันได้หดลง ไหลไปรวมกับ แม่น้ำน่าน (แควใหญ่) ในตอนเหนือของเมืองพิษณุโลก ดังแสดงในแผนที่ข้างบนด้วยครับ   ขอลากไว้ให้เห็นเผื่อใครสนใจไปสืบค้นจากสถานที่จริงกันนะครับ มาเริ่มเดินทาง(โดยรูป) กันเลยครับ ภาพบน : เป็นบรรยากาศเมืองพิษณุโลกยามเช้า ในช่วงวันสิ้นปีเก่า 2553 ที่พอมีคนพอสมควร  เป็นถนนที่กำลังจะตรงไปลอดใต้สะพานรถข้าม ครับ ภาพล่าง : ตอนนี้ มาถึง สี่แยกด้านหลังวัดพระศรีฯ (วัดใหญ่) แล้วครับ  รถติดมากๆ ไม่แพ้กรุงเทพฯ เลย  ตอนนั้นเริ่มกังวลว่าจะหาที่จอดรถได้หรือเปล่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:05:04

ความคิดเห็นที่ 5 หูยยยยยยยยยยยยย  มารอชมเน้อ จากคุณ : หนอนน้อยเจ้าปัญหา (แพทจร้า) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:07:26

ความคิดเห็นที่ 6 คนพิดโลก ยินดีต้อนรับก๊าบบ... จากคุณ : ฮุยเฉง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:07:57

ความคิดเห็นที่ 7 ตามมาดู จากคุณ : akasia เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:09:16

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพบน : สถาพรถติดในซอยข้างวัดนี้ นับว่าสาหัสสกรรจ์ ราวกับมีงานฝังลูกนิมิตรประจำปี เลยทีเดียว โชคดีที่ ยังมีที่จอดรถใน โรงเรียนจ่าการบุญ ที่อยู่ด้านข้างวัดไว้ให้ด้วย เสียค่าบำรุงสถานที่แค่ 20 บาท ก็จอดได้นานเท่าที่ต้องการครับ ภาพล่าง : นี่เป็นป้ายชื่อหน้าโรงเรียน ทำได้สวยมาก สอดคล้องกับศิลปวัฒนธรรมโบราณ จริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:12:03

ความคิดเห็นที่ 9 แล้วทำไมรถถึงติดขนาดนั้นอ่ะ จากคุณ : กบจูเนียร์ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:16:33

ความคิดเห็นที่ 10 ไปด้วยคนครับ จากคุณ : คนข้างหนุน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:26:00

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับคุณ หนอนน้อยเจ้าปัญหา (แพทจร้า), คุณฮุยเฉง และคุณakasia : เชิญติดตามได้เลยครับ กระทู้กำลังเริ่ม ครับ  และยินดีที่รู้จักคนพิษณุโลก ครับ ถ้าหากผิดพลาดประการใด ช่วยแจ้งให้ด้วยนะครับ ภาพข้างล่างเป็นบรรยากาศภายใน โรงเรียนจ่าการบุญ นะครับ นับว่าสวยงามน่าอยู่ (เรียน) จริงๆ   เพื่อนๆ หลายคนอาจไม่รู้จัก จ่าการบุญ และ จ่านกร้อง ที่มีการสร้างอนุสาวรีย์ไว้ในโรงเรียนนะครับ คือตามตำนานโบราณที่เล่าต่อๆกันมา (แต่ไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดี) ได้บอกว่า จ่าทั้งสอง ได้เป็นผู้เลือกทำเลสร้างเมืองพิษณุโลกเป็นครั้งแรก  โดยจ่าการบุญได้สร้างเมืองฝั่งตะวันออก(แถววัดจุฬามณี) จ่านกร้องสร้างฝั่งตะวันตก (ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำน่าน)   แถมยังมีหอศิลปวัฒนธรรมอยู่ในรั้วโรงเรียนด้วย ถ้าหากเพื่อนๆ มีเวลา ก็น่าจะลองเข้าไปเที่ยวดูสักครั้ง นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:26:04

ความคิดเห็นที่ 12 คุณกบจูเนียร์ : ก็เพราะเป็นช่วงวันขึ้นปีใหม่ ที่หลายคนนิยมมาไหว้พระกันนะครับ และที่ พิษณุโลกนี้ก็มีวัดพระพุทธชินราช ที่มีชื่อเสียง ทั้งด้านความศักดิ์สิทธิ์ และความงดงาม เลยพลาดไม่ได้ ที่ต้องมาเป็นจุดเดียว หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปเที่ยว ที่อื่นๆ ต่อครับ สวัสดีครับ คุณคนข้างหนุน : ด้วยความยินดีครับ ในตอนนี้อาจไม่มีการผจญภัยอะไร แต่ก็ได้สาระดีๆ ครับ หลังจากจอดรถแล้ว ก็เดินออกมาทางประตูที่เห็น ซึ่งติดอยู่กับวัดนางพญา ที่ดูเหมือนจะอยู่ในรั้วเดียวกับ โรงเรียนจ่าการบุญเลย (แต่ในความเป็นจริง พื้นที่จะติดกัน หรือไม่ ผมไม่ได้ลองเดินเข้าไปสำรวจดูนะครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:33:48

ความคิดเห็นที่ 13 พอดีฝั่งตรงข้ามกับป้ายวัดนางพญา นั้นมีประตูเข้าวัดพระศรีฯ (วัดใหญ่) พอดี จึงนิยมเดินเข้าวัดกันที่ประตูนี้เป็นส่วนใหญ่ ภาพบน : เข้าไปแล้วก็เจอกับถนนในวัด สำหรับรถที่เข้ามาจากด้านหน้า(ประตูขวา) ติดกันยาวเหยียดเช่นกัน  มีร้านค้ามากมาย มองทะลุเข้าไปจะเห็นหน้าจั่ว เล็กๆ ซึ่งก็คือ วิหารพระศรีศาสดา ที่สามารถเดินทะลุเข้าไปยัง วิหารใหญ่ ขององค์พระพุทธชินราชได้ ภาพล่าง : มองไปทางขวา จะเห็นแถวรถติดยาวไปทางด้านหลังวัด (อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่า มีลานจอดรถด้านหลังวัดหรือเปล่า) แต่สักครู่ผมจะไปไหว้พระยืนด้านหลังวัดด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:39:51

ความคิดเห็นที่ 14 เพื่อความไม่งง ของสถานที่ในวัดนี้ ที่จัดว่าซับซ้อนไม่น้อย จึงขอนำภาพแผนที่ดาวเทียมจาก กูเกิ้ลมาปรับปรุงให้ดูครับ จากภาพข้างล่าง วัดจะหันหน้าไปทางแม่น้ำ ที่อยู่ทิศตะวันตก ถนนด้านหน้าวัดที่มีประตูเข้า 3 ประตู คือ ประตูกลาง ประตูซ้าย และประตูขวา (ยืนหันหน้าเข้าวัด)  ถนนด้านข้างวัดที่ผมเข้ามา คือ ถนนจ่าการบุญ ซึ่ง จะผ่านป้ายชื่อวัด ทั้งด้านหน้า และด้านหลังวัดเลย    ถนนเส้นนี้จะมีประตูเข้าวัด(ด้านข้าง) หลายจุด  ผมเข้ามาทางใกล้ห้องสุขา ซึ่งจะตรงกับวิหารพระศรีศาสดาพอดี วิหารใหญ่ ที่ประดิษฐานองคพระพุทธชินราช จะอยู่ตรงกลาง  อีกด้านหนึ่งก็คือ วิหารพระพุทธชินสีห์ (ที่ผมไม่เคยทราบมาก่อน) ด้านหลังก็คือ พระปรางค์สูงที่ต้องปีนป่ายขึ้นไปอย่างหวาดเสียวพอสมควร ถัดมาด้านหลังก็คือ พระยืน ที่มีลานซากโบราณสถานอยู่ด้วย  เดี๋ยวเราจะเข้าไปไหว้ พระศรีศาสดาก่อน แล้วค่อยเดินไปไหว้พระยืนด้านหลัง แล้ว มาขึ้นพระปรางค์ไปไหว้ พระธาตุกัน หลังจากนั้นก็ไป วิหารพุทธชินสีห์ และ วิหารใหญ่ พระพุทธชินราชกัน  แล้วค่อยไปชมวิวแม่น้ำน่านหน้าวัด ก่อนออกเดินทางไปลุยกันที่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:52:50

ความคิดเห็นที่ 15 จากรูปซ้ายของ คห.13  เดินข้ามถนนในวัดไปนิดนึงก็เห็นวิหารพระศรีศาสดาชัดเจน เข้าไปก็จะพบกับหลวงพ่อดำ องค์ใหญ่ตั้งตระหง่ายอยู่ตรงกลาง เลย  พระศรีศาสดาอยู่ข้างในอีกชั้นหนึ่ง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 16:58:43

ความคิดเห็นที่ 16 ภาพซ้าย :  เดินอ้อมไปด้านหลัง หลวงพ่อดำก็จะเห็นประตูเข้าวิหารอีกชั้นหนึ่ง (ที่จริงแล้วประตูแรกก็คือ ประตูเข้าเขตระเบียงคต ของกลุ่มวิหารทั้งหมด) ภาพขวา : เมื่อก้าวเข้าไปข้างในก็พบกับความร่มเย็นภายในวิหาร และผู้คนไม่มากมาย เหมือนวิหารใหญ่  คุณแม่ยายผมท่านก็มาไหว้แค่ตรงนี้ เพราะไม่อยากเบียดผู้คนเข้าไปไหว้ในวิหารใหญ่พระพุทธชินราช แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 17:09:46 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:05:20

ความคิดเห็นที่ 17 เสร็จแล้วก็ออกมาจากวิหาร ซึ่งจะเห็นด้านหลังองค์หลวงพ่อดำอยู่หน้าประตูครับ (ปกติคนทั่วไปมักไม่ค่อยเห็นด้านหลังองค์พระ เพราะมักจะตั้งอยู่เกือบชิดกำแพงโบสถ์ หรือวิหารด้านหลังเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:16:38

ความคิดเห็นที่ 18 เป้าหมายต่อไปก็คือองค์พระยืนด้านหลัง ที่ผมเคยมาไหว้เมื่อสมัยเรียน มช. โน้น (มาคราวหลังมักไม่ได้มาตรงนี้) ภาพซ้าย : ผมกลับออกมาเดินถนนในวัดในรูปขวา คห.13 เพื่อไปยังองค์พระยืน ซึ่งตอนนี้ก็เดินผ่านพระอุโบสถมาแล้ว จึงได้เห็นองค์พระยืนอยู่ไม่ไกลจากถนนนัก ภาพขวา : เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปยังด้านหน้า ทันที มองตรงนี้จะเห็นซากโบราณสถานอยู่ข้างหน้าองค์พระ มีคนมายืนถ่ายภาพกันมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:23:09

ความคิดเห็นที่ 19 เดินเข้าไปใกล้องค์พระอีกหน่อย ตรงนี้จะเห็นช่างภาพนั่งเล็งเก็บภาพกันเต็มไปหมด  มีคนพิษณุโลกเก่าแก่ คนหนึ่งบอกผมว่า ในอดีตก่อนที่จะมีองค์พระนี้ บนแท่นหินนี้มีภาพวาดผู้หญิงอยู่ ซึ่งนั่นก็นานมากว่า 50 ปีแล้ว เขาก็ไม่ได้ถ่ายภาพนั้นไว้ด้วย ใครพอทราบความเป็นมา ก็แชร์มาได้นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:28:40

ความคิดเห็นที่ 20 ลองเดินหามุมสวยๆ แบบโบราณสถานที่มีเสาอยู่ด้วย คล้ายๆ กับที่สุโขทัยนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:31:30

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพซ้าย : มองไปทางด้านหลังองค์พระยืน ผมเพิ่งสังเกตุเห็นว่ามีพระปรางค์สูงอยู่ด้วย และยังมีบันไดขึ้นไปไหว้ได้ด้วย  ไม่เคยทราบมาก่อนนะครับ  งานนี้ต้องแวะขึ้นไปไหว้บ้างละ ภาพขวา : หันกลับมามองที่องค์พระยืน ตรงด้านหลังซึ่งเป็นแท่งหินมีเสาค้ำ เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:35:22

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพซ้าย : นี่เป็นประตูเข้าเขตระเบียงคต(ด้านหลัง) ของกลุ่มวิหารทั้งหมด บันไดข้างหน้าก็คือ ทางขึ้นไปยังพระปรางค์ครับ ภาพขวา : โอ้โฮ.... สูงชันไม่เบา แต่ก็งดงามมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:38:39

ความคิดเห็นที่ 23 ตามไปด้วยคนนะครับ จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:39:18

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพขวา : ลองเบี่ยงมาดูด้านนี้บ้าง มีรูปปั้นเทวดา และพญานาค 7 เศียร ตรงเชิงบันไดด้วย  จะขึ้นดีไหมนะ เพราะเดี๋ยวต้องไปเดินสำรวจอุโมงค์อีกไกลด้วย ต้องออมแรงไว้บ้างก็ดี ภาพซ้าย : หันมาดูตรงปากประตู จะมีโต๊ะบริการเครื่องไหว้สักการะ พระธาตุบนโน้น บริจาคเงินตามกำลังศรัทธาครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:42:24

ความคิดเห็นที่ 25 สวัสดีครับ คุณ รอยยิ้มของคนดี: เชิญติดตามมาได้เลยครับ ตอนนี้เน้นเข้าวัดเข้าวาก่อนนะครับ แต่รับรองว่า มาที่นี่แล้วไม่เสียเที่ยวครับ ยิ่งชมกระทู้ผมแล้ว รับรองวันหลังมาเองไม่พลาดสิ่งที่น่าสนใจแน่นอนครับ ในที่สุด ขึ้นก็ขึ้นกัน ไหนๆ จะไปเสี่ยงที่อุโมงค์รถไฟแล้ว แค่พระปรางค์สูงเท่านี้ นักสำรวจอย่างผม ถือเป็นเรื่องเล็กๆ  เลยตัดสินใจขึ้น (ทำให้กล้ามเนื้อหาเกร็งไปเลย) ว่าแต่ระยะขั้นบันไดที่นี่ สูงมากจริงๆ ประมาณ 1 ฟุตโน่น ตอนขึ้นยังลำบาก แล้วตอนลงจะเป็นอย่างไรหวา... เห็นคนที่ลงมาด้านข้าง บางคนยังต้องหันหลังลงเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:48:39

ความคิดเห็นที่ 26 ในที่สุดก็มาถึง องค์พระธาตุในพระปรางค์แล้วครับ คนเยอะจริงๆ สูงขนาดนี้ยังดั้นด้นปีนกันขึ้นมา สาวๆ เด็กๆ คนแก่ก็มี..เก่งกันจริงๆ ครับ(คงต้องบอกว่า เพราะความศรัทธาด้วย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:51:57

ความคิดเห็นที่ 27 ภาพบน : มองขึ้นไปบนเพดาน มีลวดลายงดงามมาก ทราบมาว่า ปกติมักจะไม่อนุญาตให้ขึ้น ยกเว้นวันสำคัญๆ เท่านั้น นับเป็นโอกาสดีของผมเลย ถ้าไม่ได้ขึ้นมาก็เสียดายแย่เลย ภาพล่างซ้าย : เพดานทางเข้าก็สวยเหมือนกัน ตอนนี้หลายคนกำลังรอคิวลงแล้ว  คงต้องทำใจนิดนึงกับความเสียวตอนเดินลง ภาพล่างขวา : ผู้ดูแล กำลังเก็บเหรียญที่วางไว้รอบๆ องค์พระธาตุ เพื่อนำสมทบเข้าวัด พร้อมทั้งเก็บดอกไม้ธูปเทียนที่ ผู้คนถือขึ้นมาไหว้  (ไม่ต้องจุดธูปเทียน) กลับลงไปเตรียมให้คนใหม่ที่จะขึ้นมาครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 17:57:18

ความคิดเห็นที่ 28 ภาพซ้าย : มาถึงเชิงบันไดด้านบนแล้วละครับ จุดที่เสียวที่สุด  ข้างหน้าผมนี่เก่งจริงๆที่นำเด็กเล็กขึ้นมาด้วย เด็กคงไม่กล้าเดินลงแน่ๆ ภาพขวา : สุดท้ายก็ต้องอุ้มลงไป เก่งจริงๆครับ แค่เดินลงไปตรงก็เสียวแย่แล้ว นี่ยังอุ้มเด็กอีกมือหนึ่งด้วย นับถือๆ ครับ  ผมเองยังต้องค่อยๆนั่งถัดลงไปเป็นบางช่วงเลย (เพราะในมือข้างหนึ่งต้องถือกล้องอยู่ไงครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:00:33

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพนี้ ผมนำมาต่อกัน(สนิทเกือบดูเป็นภาพเดียวกันเลยครับ) ให้เห็นถึงความเสียว และความต่อเนื่องของสถานที่ด้านหลังพระปรางค์ครับ  ตรงนี้พอใช้ชมวิวได้เลย แต่อย่านาน เพราะข้างหลังมีคนกำลังรอลงไปข้างล่างด้วย...ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:04:28

ความคิดเห็นที่ 30 ตามไปชมด้วยคนนะคะ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:05:43

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพซ้าย : ลงจากพระปรางค์แล้วก็เดินไปตามระเบียงคต ที่มีพระพุทธรูปตั้งเรียงราย ภาพขวา : บางช่วงจะมี ช่องบรรจุพระพุทธรูปองค์ใหญ่กว่าเล็กน้อยอยู่ ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:07:55

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ คุณsnas89Pink : ด้วยความยินดีครับ ผมเดินมาจนถึงด้านซ้ายของกลุ่มวิหาร ที่เป็นวิหารพระพุทธชินสีห์ ที่ผมเองก็ไม่เคยทราบเหมือนกัน งานนี้ ทีแรกกะจะใช้เวลาแป๊บเดียว ก่อนไปดูอุโมงค์ แต่ในที่สุดก็ยาวอีกแล้วครับท่าน เก็บภาพได้เป็นร้อยรูป ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งกันเลย ภาพซ้าย : เป็นบานประตูเข้าวิหารพระพุทธชินสีห์ ภาพขวา : คือลานหน้าประตู ที่มีประตูออกไปยังข้างนอก  คงจำกันได้ว่าอีกฝั่งตรงข้ามอันเป็น วิหารพระศาสดา นั้นมี องค์หลวงพ่อดำ ประดิษฐานอยู่  ส่วนตรงนี้เป็นที่โล่งครับ แต่ก็มีการจัดนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์อยู่แทน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:13:50

ความคิดเห็นที่ 33 ก่อนก้าวเข้าประตูวิหารเข้าไป สังเกตุเห็นมีคนมายืนมุงดูอะไรกัน ตรงผนังด้านหน้าวิหารแห่งนี้  (สังเกตุว่ามีป้ายประกาศเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระพุทธชินราช เวลาเปิด 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น เน้นว่า 4 โมงเย็น ถ้าหากมาเย็นๆ อาจเข้าไม่ได้ นะครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:17:43

ความคิดเห็นที่ 34 อ๋อ..นี่เอง หน้าต่างปริศนา ที่เข้าใจคิดออกแบบทำ ให้ดูน่าสนใจ ทีแรกผมยังคิดว่า เป็นหน้าต่างจริงๆ  ถึงกับต้องเดินเข้าไปดูข้างในวิหารเลย  แท้จริงก็คือกระจกเงาครับ...ฮา โดนหลอกเข้าให้แล้วเรา นี่ถ้าหากไม่มีแผ่นกระดาษข้อมูล การเปิดหน้าต่างพิศวงนี้ ก็คือเปิดดูหน้าตัวเอง เปรียบดังว่า ให้ดูที่ใจตัวเราเองก่อนอื่น แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 18:22:09 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:21:17

ความคิดเห็นที่ 35 ใกล้ๆ กันก็มีของอีกหลายอย่างที่น่าดู น่าศึกษา ภาพซ้าย : เป็นภาพเก่า สมัย รัชกาลที่ 5 ที่ทรงเสด็จมาหล่อพระพุทธราชจำลอง ที่นี่ ในปี พ.ศ.2444  ครับ ภาพขวา : เป็นบานประตูเก่า น่าจะเป็นของพระอุโบสถ (ผมไม่ได้อ่านป้ายข้อมูลเพิ่มเติมครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:27:35

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนนี้เข้ามาในวิหารพระพุทธชินสีห์กันครับ นับว่างดงามใกล้เคียงกับองค์พระพุทธชินราช หากแต่ไม่มีเรือนแก้ว รอบๆ พระองค์ (ลักษณะคล้ายๆ กับพญามังกร ทอดกายบริเวณด้านหลัง ของพระพุทธรูป) กับพระพักต์ที่ใหญ่กว่า   ซึ่งผนังวิหารด้านหลังก็มีลวดลายคล้ายๆ กันด้วย   ผมลองค้นหาข้อมูลในวิกิพีเดียแล้วพบว่า ทั้งพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสนดาที่นี่ นั้นเป็นองค์จำลอง เพราะองค์จริงได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหาร  ตั้งแต่ปี พ.ศ.2372 ในสมัยรัชกาลที่ 3 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:47:52

ความคิดเห็นที่ 37 ภาพบน : เข้าไปดูใกล้ๆ ครับ ภาพล่างซ้าย : ข้างล่างคือที่บูชา ภาพล่างขวา : มีของเก่าๆ จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์อยู่ในวิหารแห่งนี้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 18:52:31

ความคิดเห็นที่ 38 หลังจากไหว้เสร็จแล้ว ผมก็ใช้ประตูด้านข้างของกลุ่มวิหาร ที่อยู่ตรงหน้าวิหารพระพุทธชินสีห์ ในรูปภาพขวา คห.32 เดินออกไป ภาพซ้าย : ภาพที่เห็นเมื่อเดินผ่านประตูออกมาแล้ว ก็คือ ถนนฝั่งซ้าย และลานจอดรถ ซึ่งเลยไปกว่านั้นก็คือ ห้องน้ำครับ  เดินมาตั้งนานเพิ่งสังเกตุเห็นว่าอยู่ตรงนี้เอง (ตอนเดินกลับ สังเกตุเห็นมีห้องน้ำอีก 1 แห่งอยู่ด้านตรงข้ามวิหารคนละฝั่งกันพอดี ดังแสดงในแผนที่ คห.14 ใกล้ประตูข้างวัดที่ผมเดินเข้ามาตอนแรกนั่นเอง) ภาพขวา : หลังจากเข้าห้องน้ำแล้ว ออกมาจะเห็นประตูเข้าวิหารพระพุทธชินสีห์ เป็นดังในรูปครับ  จะเห็นว่า ฝั่งนี้ของวัด จะไม่มีร้านค้ามากมายเหมือนฝั่งโน้น หลายคนอาจไม่เคยเดินมาตรงนี้ด้วยซ้ำ(เหมือนผมที่มาเห็นครั้งแรก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:05:12

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพซ้าย : นับเป็นความตื่นเต้นของผมเหมือนกัน ที่เพิ่งทราบว่ามีประตูนี้ด้วย จึงได้เดินออกมาดูที่หน้าวัดเลย ภาพขวา : เมื่อเดินกลับเข้าไปทางประตูนี้อีก มองไปทางขวามือจะเห็นทางเดินไปยังด้านหน้าวิหารใหญ่  เดี๋ยวเราจะเข้าไปไหว้พระพุทธชินราชกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:08:29

ความคิดเห็นที่ 40 ภาพซ้าย : นี่เป็นบริเวณด้านหน้า วิหารใหญ่พระพุทธชินราชครับ ผู้คนมากมายจริงๆ (ดังที่คาดไว้เลย)  สังเกตุศาลาเล็กๆ ที่ประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลององค์เล็กไว้ให้เราปิดทองได้ ภาพขวา : เดินมาดูด้านหน้าวิหาร  แหมมีเส้นด้ายขึงเป็นระนาบเต็มพื้นที่ไปหมด คงมีงานสำคัญอะไรอยู่นะครับ เลยทำให้ถ่ายภาพได้ไม่เต็มที่นัก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:14:08

ความคิดเห็นที่ 41 ผมต้องไหว้ให้เสร็จก่อน เพราะคนมากจริงๆ  แล้วค่อยมาเก็บภาพต่อไปได้ ภาพซ้าย : นี่คือ พระพุทธราชจำลองไว้สำหรับปิดทองครับ ข้างในห้ามปิดทอง หรือแม้กระทั่งนำธูปไปปัก (เท่าที่จำได้ว่า สมัยผมเด็กๆ สามารถนำธูปเข้าไปปักข้างในได้ รู้สึกแสบตาเพราะควันธูปมากเลยครับ) ภาพขวา : ผมอยู่ข้างนอก ขอมองเข้าไปข้างในวิหารใหญ่ หน่อย (ข้างนอกแดดจ้ามาก เลยมองไม่แทบไม่เห็นอะไร ขาวจ้าไปหมด) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:18:08

ความคิดเห็นที่ 42 ก่อนเข้าไป รู้สึกกังวลในข้อห้ามต่างๆ เลยต้องคอยดูป้ายประกาศห้ามต่างๆ ไว้ก่อน เช่นป้ายข้างล่างนี้ เป็นข้อควรทำ (DO) กับ ข้อห้าม (DON'T) ซึ่งก็คือ วัฒนธรรมของไทยเรานั่นเอง  มีภาษาอังกฤษกำกับไว้ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:21:26

ความคิดเห็นที่ 43 จะเข้าประตูวิหารแล้ว มาสะดุดตา กับป้ายห้ามอันนี้ "ห้ามยืนถ่ายรูปในพระวิหาร"  อ่านแล้วงงเหมือนกันว่า ห้ามคนถือกล้องยืนถ่ายรูป หรือห้ามคนยืนเป็นแบบถ่ายรูปกันแน่.... ถ้าหากใช้หลักความเป็นจริง น่าจะหมายถึง คนยืนเป็นแบบถ่ายรูป เพราะจะไปบังคนอื่น ที่สำคัญคือ ตรงหน้าพระปกติจะมีคนมานั่งกราบไหว้ ถ้าไปยืนก็จะเป็นการค้ำหัว ดูไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ถึงอย่างไร การไปยืนถือกล้องตรงกลางลานไว้พระ ก็ไม่เหมาะสมเช่นกัน ถ้าหากมีคนอื่นเขานั่งไหว้ นั่งกราบอยู่กับพื้น  (ผมเลยต้องเลี่ยงไปยืนหลบด้านข้างบริเวณเสาด้านข้างแทนเป็นบางครั้ง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:28:02

ความคิดเห็นที่ 44 ภาพซ้าย :  เริ่มจากหน้าประตูกันเลย ขอเก็บภาพในบรรยากาศวันนั้นหน่อย คนเยอะจริงๆ  ข้างในงดงาม เหลืองอร่ามไปหมดเลย รู้สึก ตื่นเต้น เหมือนกัน ภาพขวา : เข้ามาแล้ว ขอยกกล้องให้สูงพ้นจากแนวระนาบสายสิญจ์หน่อยครับ  ตรงนี้ยังไม่ถึงลานกราบไหว้หน้าองค์พระนะครับเลยยืนถ่ายภาพได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:31:13

ความคิดเห็นที่ 45 ใกล้เข้าไปอีกหน่อย มายืนฝั่งนี้บ้าง ตรงกลางมีคนนั่งมากมายเข้าไปไม่ได้ แน่นไปหมด โชคดีช่วงนี้อากาศเย็นสบาย เพราะเป็นหน้าหนาว ถ้าหากเป็นหน้าร้อน คงเอาเรื่องเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 19:47:51 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:32:57

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนนี้ผมเข้าไปนั่งไหว้ ตรงลานด้านหน้าองค์พระได้แล้วครับ หลังจากกราบไหว้แล้วขอ(คุกเข่า) เก็บภาพเต็มๆ หน่อยครับ ช่างงดงามจริงๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:35:19

ความคิดเห็นที่ 47 ซูมภาพหน้าพระพักต์ใกล้ๆ หน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:36:38

ความคิดเห็นที่ 48 ลองเก็บภาพบรรยากาศทั่วๆไปมาให้ชมกันหน่อย แสงน้อยคนเยอะ ภาพเลยออกมาเบลอๆ หน่อย จึงต้องย่อภาพมาให้ดูกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:38:56

ความคิดเห็นที่ 49 นี่ก็เป็นอีกหลายมุม ที่หลากหลายอลังการณ์ ภายในวิหารใหญ่ พระพุทธชินราช ครับ รูปที่ 2 : คือโคนเสาวิหาร ที่ต้องมีการทำแผ่นพลาสติคใสบัง กันมือคนจับแล้วความเค็มของเหงื่อ ความสกปรกของมือ จะไปทำให้ภาพที่เขียนหมอง ชำรุดเสียหายได้ (ปัจจุบันพบได้ หลายแห่ง ที่มีการป้องกันในระดับที่มือจับต้องได้) รูปที่ 4 : มองกลับไปทางประตูหน้าวิหารที่เดินเข้ามาครับ มุมนี้มักไม่ค่อยพบเห็นกัน เพราะส่วนใหญ่จะตั้งใจถ่ายภาพองค์พระกันทั้งนั้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:42:48

ความคิดเห็นที่ 50 มุมนี้มีปะพรมน้ำมนต์ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:46:39

ความคิดเห็นที่ 51 ลองเข้าไปใกล้ ฝั่งขวาขององค์พระ ซึ่งจะมีพระพุทธรูปเล็กๆ อีกหลายองค์ ตั้งเรียงรายอยู่ติดผนังด้านหลังของวิหาร สังเกตุให้ดีจะเห็นประตูเข้าด้านข้างวิหารด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:50:26

ความคิดเห็นที่ 52 อีกด้านหนึ่งขององค์พระ ก็มีพระพุทธรูปเช่นกัน หากแต่มีรูปปั้น พระนเรศวร พระสุพรรณกัลยา และน่าจะเป็น พระเอกาทศรถ ผู้น้องอีกหนึ่งองค์ นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:53:17

ความคิดเห็นที่ 53 ภาพซ้าย : ลองเข้ามาดูใกล้ๆ องค์พระพุทธชินราช บริเวณด้านข้างกันหน่อยครับ เชื่อว่าหลายท่านคงอาจไม่ค่อยได้สังเกตุเห็น ภาพในมุมนี้นัก ภาพขวา : รูปปั้นพระนเรศวรมหาราช ใกล้ๆ  มุมนี้จะเห็นผนังด้านหลังวิหารสีดำมันเลื่อม แทรกไปด้วยลวดลายสีทอง ชัดเจนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:57:34

ความคิดเห็นที่ 54 ตามมาไหว้พระด้วยคนค่ะ จากคุณ : luckyfarm6662 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 19:58:05

ความคิดเห็นที่ 55 นี่เป็นภาพที่มองผ่านประตูด้านข้าง(ซ้าย)ของวิหารใหญ่เข้าไปยังองค์พระพุทธชินราช จะเห็นรูปปั้นพระนเรศวรมหาราชด้วย และยังสังเกตุเห็นโอ่งน้ำมนต์ ไว้ให้ดื่ม เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนกลับออกไปด้วยครับ ประตูนี้จะมีคนผ่านออกมาเยอะไม่น้อยไปกว่าประตูด้านหน้าที่บางคนเดินย้อนกลับออกไป(บางคนอาจไม่ทราบว่ามีประตูนี้ด้วยซ้ำ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:00:30

ความคิดเห็นที่ 56 สวัสดีครับ คุณluckyfarm6662 : หวังว่าคงจะไม่รู้สึกผิดหวังนะครับ ว่ากระทู้ผจญภัยแต่ดันพามาไหว้พระเฉยเลย....  ก็ไหว้เสร็จแล้วก็จะไปลุยทันทีเลยครับ ภาพซ้าย : ผมลองเดินมาอีกฝั่งหนึ่งของวิหารใหญ่ (จากด้านนอก) ก็ได้เห็นประตูเข้าด้านขวา เหมือนกัน ภาพขวา : ลองโผล่เข้าไปเก็บภาพด้านข้างองค์พระ อีกด้านหนึ่ง คล้ายกับภาพในคห.53 ครับ  เรียกว่าให้ครบทั้งสองด้านเลย เผื่อเพื่อนๆ จะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงทางรูปพรรณได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:13:37

ความคิดเห็นที่ 57 จากด้านขวาของวิหารอยู่ ที่ยังอยู่ในแนวระเบียงคตนี้ มีบริเวณกว้างพอสมควร มีเจดีย์ขาว 3 องค์เรียงรายกันอยู่  (สังเกตุว่า มีระเบียงคต 2 ชั้นด้วย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:17:37

ความคิดเห็นที่ 58 เดินๆ ไปก็สังเกตุเห็น วิหารเล็กๆ แบบเปิดโล่ง ที่มีพระสังกัจจายณ์อยู่ ด้านนี้ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:19:16

ความคิดเห็นที่ 59 ส่วนพื้นที่อีกด้านหนึ่ง ที่อยู่ในแนวระเบียงคต ก็คือ "วิหารปฏิบัติธรรม วิปัสสนา กัมมัฏฐาน"   เห็นมีคนเข้าไปไหว้ ผมเลยลองเข้าไปดู พบว่ามีพระพุทธรูปสีทอง คลุมด้วยพลาสติคอยู่ คาดว่าเพิ่งสร้าง หรือไม่ก็เพิ่งจะบูรณะใหม่ ดูแล้วงดงามมาก ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:23:32

ความคิดเห็นที่ 60 ต่อไปก็ออกไปเดินเล่นชมวิวแม่น้ำน่าน หน้าวัดกันดีกว่า เพราะเท่าที่โทรสอบถามแล้ว สมาชิกยังไหว้พระกันอยู่ แต่หากันไม่เจอ ไหนๆ มาแล้วก็ไปดูกันหน่อยครับ ภาพข้างล่างนี้เป็นการถ่าย 3 ภาพแยกกันนะครับ เลยอาจนำมาต่อกันไม่ค่อยสนิทนัก แต่เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ ว่าภาพใดอยู่ทิศทางใด ครับ ภาพกลาง ตรงหน้าจะเห็นศาลหลักเมืองพิษณุโลก อยู่โดดเด่นเลยครับ  บางคนจอดรถฝั่งนี้ไม่ได้ ก็ข้ามไปจอดฝั่งโน้นแล้วเดินข้ามสะพานมาครับ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 20:34:05 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:27:20

ความคิดเห็นที่ 61 ภาพซ้าย : จากจุดชมวิวริมน้ำนี้ หันกลับไปมองประตูกลาง ด้านหน้าวัดอีกที จะเห็นว่าตรงริมถนนมีร้านค้าเหมือนกัน ภาพขวา : ผมลองเดินไปเชิงสะพานนเรศวร เพื่อจะเก็บภาพป้ายชื่อวัด ด้านหน้า ที่หลายคนคุ้นเคย   พบกว่า มีการปรับปรุง เชิงสะพานนี้ ดูสวยมากเลยครับ แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 54 20:32:04 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:31:22

ความคิดเห็นที่ 62 ผมไปยืนตรงเชิงสะพานในรูปขวาคห.61 แล้วหันมาเก็บภาพ ป้ายชื่อวัดด้านหน้าครับ  ตรงนี้เป็นหัวมุมถนน ที่มีถนนจ่าการบุญออกมาโผล่ตรงนี้ เป็นถนนเดินรถทางเดียวด้วย และห้ามรถที่ออกมาจากถนนจ่าการบุญเลี้ยวขวามาทางหน้าวัดอีกด้วย (ต้องเลี้ยวซ้ายไปตัดกับถนนที่ลงมาจากสะพานนเรศวร เท่านั้น) ตอนที่ผมไปยืนใหม่ๆ  มีการกั้นรถที่ลงจากสะพานมิให้เลี้ยวซ้ายมายังวัดอีก เพราะรถในวัดเยอะมาก แต่ภายหลังก็เปิดให้เลี้ยวได้ตามปกติ ถัดไปก็คือวัดนางพญา ถ้าหากมีเวลา ก็ลองแวะเข้าไปเที่ยวชมดูนะครับ ผมเองยังไม่เคยไปเช่นกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:43:57

ความคิดเห็นที่ 63 เสร็จแล้วก็เดินกลับไปยังหน้าวัดอีกที  ซึ่งจะผ่านประตูด้านหน้าด้านขวาก่อน   ภาพซ้าย : สังเกตุให้ดี ด้านหลังกำแพงริมประตู จะเป็นจุดจอดรถรางชมเมือง (ซึ่งผมมาเห็นทีหลังตอนเดินข้างใน) ภาพขวา : มองเข้าไปตรงๆ  จะเห็นเต็นท์ขายของเต็มไปหมด  ตอนนี้ถนนโล่ง (สายเดียวกับที่เห็นในภาพคห.13  จะเห็นรถติดมากๆ ตอนที่เดินเข้ามาทีแรก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:56:46

ความคิดเห็นที่ 64 เดินกลับมาถึงประตูกลางด้านหน้าวิหารใหญ่อีกครั้งแล้ว รูปนี้เน้นให้เห็นว่า ประตูนี้ห้ามรถทุกชนิดเข้า เพราะมีเครื่องกั้นตรงธรณีประตูด้วย ต้องก้าวข้ามอย่างเดียวครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 20:58:17

ความคิดเห็นที่ 65 ตรงถนนด้านหน้าวัดนี้ มองไปทางซ้าย (ภาพซ้าย) ก็จะเห็นประตูเข้าด้านซ้ายอยู่ไกลๆ  มองไปทางขวา (ภาพขวา) ก็จะเห็นประตูด้านขวาที่เพิ่งเดินผ่านมาอยู่ไม่ไกล  นี่เป็นบรรยากาศถนนด้านหน้าวัดครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:00:15

ความคิดเห็นที่ 66 ตอนนี้จะกลับแล้วละครับ (หลายท่านอาจรู้สึกเบื่อแล้วละ...) มองเห็นยอดพระปรางค์ด้านหลังวิหารใหญ่ จากระยะไกล ขอซูมภาพเก็บไว้หน่อย เพราะจะเป็นมุมมองตรงๆ ไม่บิดเบี้ยว เหมือนตอนที่อยู่ข้างในบริเวณระเบียงคต ใกล้ๆ นั้นครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:05:26

ความคิดเห็นที่ 67 มาเจอรถรางชมเมือง จอดอยู่ เลยถ่ายมาให้ชมกัน คาดว่าราคาตั๋วคงเป็น 40 บาท เด็ก 20 บาทดังที่ผมวงกลมไว้ให้สังเกตุนะครับ ดูๆ แล้วก็น่าสนนะครับ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ได้เที่ยวชมสถานที่สำคัญๆ พร้อมัคคุเทศน์บรรยายตลอดเส้นทางด้วย เช่น ศาลาหลักเมือง วัดวิหารทอง ป้อมปราการประตูเมือง โรงเรียนจ่านกร้อง (คนละโรงเรียนที่ผมไปจอดรถ เพราะนั่นคือ โรงเรียนจ่าการบุญ) สถานีรถไฟ และย่านเศรษฐกิจ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:10:23

ความคิดเห็นที่ 68 อูย..กระทู้ตอนสองนี้ ร่ายยาวมาเยอะ ชนิดที่เรียกว่า ไม่น่าเชื่อว่า เพียงวัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ (วัดใหญ่) เพียงวัดเดียวจะมีข้อมูล มากมายขนาดนี้ ขอจบตอนสองไว้ตรง สถานที่บูชาวัตถุมงคล นี้นะครับ ซึ่งเดินออกไปทางซ้ายมือ ก็จะผ่านสุขา และประตูทางออกด้านข้างวัดไปยัง จุดจอดรถผมที่โรงเรียนจ่าการบุญ ครับ ในตอนต่อไป ก็คือการเข้าไปชมอุโมงค์ปางตูบขอบ จ.อุตรดิตถ์ เวลาตอนนั้นก็ประมาณ 5 โมงเช้าแล้ว ระยะทางอีกไกล ร้อยกิโลเมตรกว่าๆ แถมยังมีถนนที่กำลังก่อสร้างขยายช่องทางอีกด้วย กลัวจะไปค่ำมืดก่อนเสร็จภาระกิจ เหมือนตอนไปอุโมงค์ขุนตาน ครั้งนั้นครับ ติดตามชมต่อในสัปดาห์หน้านะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:17:21

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณมากๆคะสำหรับรีวิวข้อมูลดีๆแบบนี้ นี่เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจดีนะคะ ^_^ จากคุณ : ใสบัว เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:33:17

ความคิดเห็นที่ 70 คนเยอะจริงๆ ค่ะ   ถ้าไปเองสงสัยได้เป็นลมแน่ๆ ... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 21:49:38

ความคิดเห็นที่ 71 ตามมาเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 22:15:17

ความคิดเห็นที่ 72 เข้ามาเที่ยวกับคุณมิราชชต่อค่ะ ^^ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 22:20:55

ความคิดเห็นที่ 73 ภาพสวย  ข้อมูลก็ละเอียดมากเลยค่ะ เราอยู่แถววัดใหญ่  ยังไหว้พระไม่ทั่วเท่าคุณมิราชชเลยค่ะ รอชมรีวิวต่อไปอยู่นะคะ จากคุณ : ตะวันวาด&สาวเหนือ เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 54 23:26:35

ความคิดเห็นที่ 74 มาเพิ่มเติมข้อมูลครับ เรื่องห้ามยืนถ่ายรูปอย่างที่เข้าใจครับในโบสถ์สามารถถ่ายภาพได้ แต่ห้ามยืนถ่าย นั่งถ่ายได้อย่างเดียว สาเหตุก็น่าจะเป็นตามที่อธิบายคือ มันไม่งามที่จะยืมค้ำหัวคนอื่น ในขณะที่เค้ากำลังก้มกราบ และบดบังความสวยงามกัน ส่วนเรื่องการสร้างองค์พระพุทธชินราชจำลอง นั้น เท่าที่ศึกษามีสาเหตุมาจาก พระประสงค์ขององค์รัชกาลที่ 5 ที่จะรวบรวมพระพุทธรูปดังๆ จากหัวเมืองต่างมาไว้ในวัดเบญจมของพระองค์ท่าน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือองค์พระพุทธชินราชองค์นี้ด้วย แต่พระองค์ก็ทรงเปลี่ยนพระทัยเนื่องด้วย ในขณะที่ขนย้ายองค์พระพุทธชินราช ในทางน้ำ องค์รัชกาลที่ 5 ทรงทอดพระเนตร เห็นประชาชนชาวพิษณุโลกที่ต่างพากันโศกเศร้า นั่งเรียงรายอยู่ริมตลิ่งเพื่อส่งองค์พระพุทธชินราช ไปกรุงเทพ พระองค์ท่านทอดพระเนตรแล้วก็เสียพระทัย จึงได้สั่งยกเลิกการขนย้ายและเปลี่ยน เป็นการสร้างองค์จำลองขึ้นมาแทน ปล. ใครไปไหว้พระพุทธชินราช แนะนำว่าควรจะไหว้ให้ครบ นะครับเห็นส่วนใหญ่จะไหว้แต่องค์พระพุทธชินราช แล้วก็กลับกัน จริงๆแล้วพระที่สร้างมาพร้อมกับ พระพุทธชินราช มีทั้งหมด 4 องค์ อยู่ในวิหารแยกกันองค์ละทิศได้แก่ พระพุทธชินราช พระพุทธชินศรี พระศาสดา และ หลวงพ่อเหลือ โดยหลวงพ่อเหลือองค์สุดท้าย สร้างจากเศษทอง ที่เหลือจากการสร้างพระทั้ง 3 องค์ มีความเชื่อกันว่าใครได้ไหว้หลวงพ่อเหลือแล้ว จะมีเงินเหลือกินเหลือใช้ตามชื่อก็ลองไปสักการะบูชากันดู จากคุณ : CK-ONliNE เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 00:02:38

ความคิดเห็นที่ 75 สวัสดีครับ คุณใสบัว, คุณป้าฟู, คุณ Red Fox , คุณคืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ : ขอบคุณที่คอยติดตามชมให้กำลังใจกันเสมอมา ครับ สวัสดีครับ คุณตะวันวาด&สาวเหนือ : ยินดีที่ได้รู้จักคนพิษณุโลกอีกคนครับ  ผมเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า เดินเก็บภาพไปเรื่อยๆ จะได้ข้อมูลมากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเดินคนเดียว เลยมีอิสระ ต่างจากมาครั้งก่อนๆ มักเดินพร้อมกันหลายคน เลยไปได้ไม่กี่ที่ กลัวหลง หากันไม่เจอ ถ้าหากเขาจะกลับเร็วๆ(เหมือน กรณีมาทัวร์ ที่ให้เวลานิดเดียวสำหรับแต่ละสถานที่ครับ) สวัสดีครับ  คุณCK-ONliNE : ขอบคุณมาก ที่ได้เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลให้  เรื่องการทำองค์จำลองไปไว้ที่ วัดเบญจฯ เท่าที่ทราบมาก็ตรงกันกับของคุณ  แต่ ข้อมูลเรื่องพระที่สร้างมาพร้อมๆ  กันกับ พระพุทธชินราช องค์ที่ 4 นั้น ผมไม่เคยทราบมาก่อน และไม่ทันสังเกตุเห็นวิหาร หลวงพ่อเหลือ  ผมเลยลองค้นหาในกูเกิ้ลดู พบภาพเกี่ยวกับ วิหารพระเหลือ ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19715 พอจะนำมาค้นหาจากในภาพที่ผมถ่ายทั้งหมดได้ ดังแสดงในภาพซ้ายล่าง โดยสังเกตุหน้าจั่วหลังคา และสีบันได ตลอดจนตำแหน่งที่ระบุว่าอยู่ใต้ต้นโพธิ์หน้าวัด   วิหารหลวงพ่อเหลือน่าจะอยู่ติดกำแพงด้านหน้า ใกล้ประตูกลางดังในรูปในคห.ถัดไปนะครับ แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 54 00:45:07 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 00:42:49

ความคิดเห็นที่ 76 รูปแสดงตำแหน่งวิหารพระเหลือ จากภาพของผมแสดงในรูปซ้ายครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 00:46:04

ความคิดเห็นที่ 77 มารอไปเที่ยวด้วยคนนะครับ ไม่ได้ไปพิษณุโลกหลายปีมากก  จนนึกภาพว่าแถวๆ หน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก จะเปลี่ยนไปขนาดไหน ปล. เห็นภาพด้านหน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก  แล้วทำให้นึกถึงตลาดข้างสถานีรถไฟนะครับ เดินออกมาจากสถานีรถไฟ  มาทางวงเวียน  จำได้อยู่ว่าด้านขวาของทางออกจะเป็นตลาด  แต่เสียดายที่ถูกยุบไป  รู้สึกจะนานมากด้วยครับ จากคุณ : partompong007 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 00:53:41

ความคิดเห็นที่ 78 สวัสดีครับ คุณpartompong007 : ขอบคุณที่เข้ามาร่วมรำลึกถึงเมืองพิษณุโลกด้วยกัน  บังเอิญผมเก็บภาพตรงวงเวียน(ต้นคริสต์มาส) น้อยไปหน่อย ครับ อ้อ..และยังมีอีกวิหารหนึ่ง ชื่อว่า วิหารพระเจ้าเข้านิพพานที่ผมพลาดไป   ผมลองค้นหาภาพมาให้ดูกันในภาพข้างล่าง(ภาพซ้ายบน และภาพล่าง) จากเว็บลิ้งค์นี้ http://www.watyai.com/index.php?option=com_content&view=article&id=99:2010-10-11-04-29-05&catid=51:2010-09-27-17-35-11&Itemid=58 เผื่อไปคราวหน้า ก็จะได้ไปหาถูกครับ ส่วนภาพขวาบน นั้นเป็นตำแหน่งที่คาดว่า วิหารพระเจ้าเข้านิพพานตั้งอยู่ครับ(ถ้าไม่ใช่ ก็ช่วยแย้งมาด้วยนะครับ) ซึ่งตำแหน่งนี้ ผมยอมรับว่ามองไม่เห็นจริงๆ เพราะทั้งคนและร้านค้ามากลานตาไปหมดครับ  (น่าแปลกที่ คุณแม่ยายผม ท่านไปแค่วิหารพระศาสดาที่เดียว กลับมองเห็นวิหารพระเจ้าเข้านิพพานนี้ได้) อ้อ..พระยืนที่อยู่ด้านหลัง วิหารทั้งหมดมีชื่อว่า พระอัฎฐารส ซากโบราณสถานข้างหลังก็คือ วิหารของท่านนั่นเอง มีชื่อว่า วิหารพระอัฏฐารส ครับ ก่อนหน้าที่ กรมศิลปากรจะขุดพื้นวิหารที่ถูกฝังในปี พ.ศ.2550 นั้น พื้นดินตรงนั้นเขาเรียกว่า "เนินวิหารเก้าห้อง" ครับ (ที่มาจาก วิกิพีเดีย) แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 54 01:27:24 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 01:21:39

ความคิดเห็นที่ 79 มาแปะชื่อไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวกลับมาดู เพิ่งได้รับโทรศัพท์ชวนไปขับรถเล่นที่อียิปต์ เอ๊ะ รถไอยคุปต์นี่ รถอะไรหว่า จากคุณ : xebec เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 54 15:25:23

ความคิดเห็นที่ 80 วันนี้มาต่อ ในตอน 3 แล้วครับ เชิญติดตามชมได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10131304/E10131304.html จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 16:26:41

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีดีครับ..เป็นรีวิวที่มีลายเซ็นเฉพาะตัวจริงๆครับ อิอิ จากคุณ : FooSang เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 54 16:57:55

ความคิดเห็นที่ 82 สวัสดีครับ คุณ FooSang : ขอบคุณเช่นกันครับ ทำยากหน่อย แต่พอเวลาผ่านไป สามารถใช้อ้างอิง และรำลึกได้ชัดเจนดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 54 00:23:35

ความคิดเห็นที่ 83 ตามมาชมครับ.. ^^ จากคุณ : สุดท้ายตรงไหน เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 54 17:00:15